NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้เอ๋อ my stupid's boy

    ลำดับตอนที่ #27 : 26

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.42K
      82
      15 ต.ค. 62

    26


                        ในโรงพยาบาลที่คลาคล่ำไปด้วยเหล่าผู้ป่วย พยาบาลและหมอ ทุกอย่างดูวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ดุจะสงบมากกว่าที่อื่น นั่นคือห้องดับจิต สถานที่สุดท้ายของชีวิต สถานที่รวบรวมร่างของคนตายเอาไว้เพื่อรอให้ญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ทุกๆ คนต้องมาลงเอยที่ห้องห้องนี้ วัฏจักร เกิด แก่ เจ็บ ตาย ของมนุษย์ที่ไม่มีผู้ใดหลีกหนีได้พ้น

                        ร่างสูงสง่าเดินเคียงคู่กับร่างบางที่ใบหน้าหวานๆ เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ปริปากถามอะไรออกไป เพราะเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดูเครียดผิดปรกติเลยไม่กล้า ทุกๆ ย่างก้าวที่ก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลไอ้เอ๋อมันก็รู้สึกแปลกๆ ใจมันหวิวๆ ชอบกล

              “เรามาหาพี่หมอไม้หรอครับ” มันตัดสินใจถามในที่สุด

              “ปล่าวครับ เรามาหาหลวงตา” แค่คำว่าหลวงตาใจมันก็สั่นไหว ขามันเริ่มไม่ก้าวตาม จู่ๆ มันก็รู้สึกกลัวห้องตรงหน้าขึ้นมา

              “มะ มาทำไม หลวงตาเป็นอะไร อึก “

              “เข้าไปหาหลวงตาก่อนครับ” สิงห์เปิดประตูห้องพักคนไข้พิเศษให้มัน ในนั้นมีต้าร์หมอไม้ กับลูกศิษย์วัดอีกสองสามคน มันก้าวช้าๆ                          เข้าไปด้านในทุกอย่างมันบีบหัวใจของมันไปหมดทั้งสีหน้าและแววตาของทุกคนที่มองมาที่มัน บนที่นอนมีร่างร่างหนึ่งนอนหอบหายใจโรยริน รอแค่คนสำคัญมาเขาก็พร้อมที่จะไป

                        ตึก ตึก ตึก เสียงย่ำเท่าที่ฟังดูแล้วแสนจะบางเบาแต่ในหูของมันกลับดังก้องจนรู้สึกหวาดกลัว

              “ละ หลวงตา” มันครางเรียกคนที่นอนนิ่ง เพียงอึดใจหลวงตาของมันก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาฟ่าฟางกำลังมองมันด้วยความคิดถึง รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนริมฝีปากที่แตกและเหี่ยวย่น

              “นะโมเอ้ย” เสียงเรียกแผ่วของหลวงตาทำให้มันขยับขาเดินเข้าไปใกล้ๆ น้ำตามันรื้นขึ้นมาทันที

              “คะ ครับ หลวงตาเป็นอะไร ฮึก”

              “หลวงตาแก่แล้ว ก็ป่วยเป็นธรรมดา เอ็งเป็นยังไงบ้าง”

              “ฮึกหนู สบายดี ฮึก” มันสะอื้น หลวงตายิ้ม

              “เอ็งสบายดีข้าก็สบายใจแล้ว” หลวงตายิ้มบางออกมารู้แค่ว่ามันสบายเขาก็ตายตาหลับ

              “ตั้งใจเรียนนะ นะโมเอ้ย โตไปจะได้ไม่ลำบาก แล้วก็อย่าดื้อให้มาก แค๊กๆ เห้อ ข้าเหนื่อยแล้ว อยากพักแล้ว พวกเอ็งกลับไปกันได้แล้วไป” รู้ว่าร่างกายตัวเองรับไม่ไหวแล้วถึงได้ไล่ไอ้เอ๋อมันกลับ ไม่อยากให้มันมาเห็นวาระสุดท้ายของตัวเอง ไม่อยากเห็นน้ำตามันก่อนจะละสังขาล

              “นะโม อยู่เย็นเป็นสุขนะลูกนะ อะภิวาทะนะสีลิสสะ นิจจัง วุฒาปะจายิโน

              "จัตตาโร ธัมมาวัฑฒันติ อายุ วัณโณ สุขัง พลัง” หลวงตาวางมือลงบนหัวของมันแล้วสวดให้พร มันพนมมือไหว้เทียบตักหลวงตาแล้วสะอื้นออกมา มันรู้สึกเศร้า รู้สึกเหมือนตัวเองจะเสียอะไรไปสักอย่าง

              “พามันกลับได้แล้วละโยมสิงห์ อาตมาเหนื่อยแล้ว ฝากดูแลมันด้วยนะโยม”

              “ครับ ผมรับปากว่าจะดูแลน้องให้ดีที่สุด”

              “พรุ่งนี้หนูมาหาหลวงตาใหม่นะ หนูจะซื้อขนมบัวมาฝาก ขนมที่หลวงตาชอบ”

              “อืม พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ ตอนนี้กลับไปได้แล้ว ข้าง่วงแล้ว”

              “ครับ” สิงห์จูงมือมันออกมา มันหันกลับไปมองคนที่นอนอยู่บนเตียง มันสบตาก่อนที่เปลือกตาอ่อนล้าจะปิดลง

                             ติ๊ด ตี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

              “พี่จ๋า อึก ฮึก...” จู่ๆ มันก็ร้องไห้ออกมา

              “นะโม ไปกลับบ้านดีกว่านะครับร่าสูงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของมัน

              “น้อง เจ็บตรงนี้ครับ” มันชี้ไปที่ตรงตำแหน่งหัวใจ มือมันกำจดหมายของหลวงตาไว้แน่น

              “ไม่เป็นอะไรหรอกครับ ขากลับแวะกินเตี๋ยวเรือไหม? ตรงท่าน้ำ”

              “อะ อืม” แม้จะตอบตกลงแต่แววตามันก็ยังเศร้าอยู่ดี ขณะที่เดินตามทางเดิน ต้าร์วิ่งมาหาพวกเขาสองคน ร่างโปร่งสบตาสิงห์เพียงเล็กน้อยแล้วพยักหน้า เป็นสัญญาณให้รู้ว่าหลวงตาได้ละสังขาลแล้ว สิงห์สูดลมหายใจลึก แล้วดึงตัวมันมากอดไว้ เขายังบอกมันตอนนี้ไม่ได้

              “พี่ต้าร์ จะไปกินเตี๋ยวเรือกับหนูเหรอ” มันหันไปถามคนที่พึ่งมาถึง

              “ป่าว แค่จะเดินมาส่ง เดี๋ยวต้องกลับไปช่วยไอ้พี่หมอมันอีก” ต้าร์พยายามไม่หลบตามัน ทั้งๆ ที่ในใจมันไหวยวบ

              “อ่า อื้อๆ เมื่อไหร่จะมาหาหนูละ”

              “ว่างๆ ก่อน ช่วงนี้เรียนหนักใกล้สอบแล้วด้วย”

              “อื้อ หนูจะรอนะ”

              “กูส่งมึงแค่นี้นะ เอ่อส่วนมึงอะไอ้พี่หมอบอกว่าถึงบ้านแล้วให้โทรหาด้วย” ต้าร์หันไปพูดกับสิงห์ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทางเพราะต้องไปจัดการเรื่องศพของหลวงตาด้วย สิงห์พามันกลับบ้าน ต่างคนต่างนั่งเงียบๆ จนถึงท่าน้ำ ที่มีตลาดขนาดย่อมๆ ที่มีแต่ของกิน สิงห์มันไปนั่งที่โต๊ะริมน้ำ โต๊ะไม้เตี้ยๆ ที่เราต้องนั่งกินกับเสื่อ

              “เล็กน้ำตก พิเศษลูกชิ้น ใส่กระเทียมเจียวเยอะๆ กับ ใหญ่น้ำตกเนื้อครับ” สิงห์สั่งก๋วยเตี๋ยวให้มัน พร้อมกับตักน้ำไปให้ด้วย พอก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟ ก็นั่งกินกันเงียบๆ ต่างคนต่างใช้ความคิดของตัวเอง กินเสร็จก็จ่ายเงินเดินทางกลับบ้าน ไอ้เอ๋อมันเดินลงไปเปิดประตูรั้ว ด้วยใจที่เหม่อลอย จนสิงห์เอารถเข้มามาจอด ก็ยังเห็นมันยืนเกาะรั้วไม่ยอมปิดสักที

              “นะโม ปิดประตูได้แล้วครับ” สิงห์เดินมาสะกิดมัน

              “อะ ครับ” มันตั้งสติตัวเอง ก่อนจะช่วยสิงห์ขนของลงจากรถ ขนเสร็จก็พากันไปอาบน้ำ

              “วันนี้อาบน้ำด้วยกันนะครับ”

              “งืออ อาบด้วยกัน-///- อาบด้วยกันแล้วห้ามทำอะไรแปลกๆ นะ” มันหันไปหาคนตัวสูง

              “อ่า ครับ ไม่ทำอะไรแปลกๆ หรอก” สิงห์แอบไขว้นิ้วไว้ด้านหลัง

              “ก็ได้ครับ งั้นน้องไปเปิดน้ำใส่อ่างนะ” พูดจบก็วิ่งปรู๊ดเข้าห้องน้ำไป มันชอบแช่อ่าง ชอบน้ำอุ่นๆ มันชอบฟองนุ่มๆ กับเป็ดน้อยสีเหลือง แต่นานๆ จะแช่สักทีเพราะมันเปลืองน้ำ สิงห์เดินตามไปพร้อมกับถอดเสื้อผ้าไปด้วย พอมาถึงห้องน้ำก็เห็นมันกำลังตีฟองในอ่างอย่างขะมักเขม้น ตีจนฟองแทบจะล้นอ่าง ออกมา มันเอาฟองแปะใส่หัวตัวเองไว้ด้วย

              “ถอดเสื้อผ้าได้แล้วครับ” สิงห์บอกมันหันหน้ามาหา แล้วยกสองมือขึ้น

              “ถอดให้น้องหน่อยครับ” มันทำตาอ้อนใส่ แล้วแบบนี้จะให้เขาไม่ทำอะไรแปลกๆ กับมันได้ยังไง

              “หึหึ ทำไมชอบอ้อนพี่จัง หืม”

              “คึคึ ก็น้องอยากให้พี่จ๋าสนใจ”

              “ตรงไปไหม? แต่แบบนี้แหละพี่ชอบ มีอะไรก็พูดก็บอกพี่ตรงๆ เจ็บก็บอกว่าเจ็บ เสียใจก็บอกว่าเสียใจรู้ไหมครับ” สิงห์สบตามันเวลาพูด เขาอยากให้มันระบายออกมาบ้าง อย่างที่โดนแกล้ง โดนทำร้ายมันก็ไม่ยอมกบบอกว่าเจ็บ ว่ากลัวบ้าง เพราะแต่ละครั้งที่โดนมันก็เอาแต่ยิ้ม จะร้องก็ต่อเมื่อเขาจี้ หรือเจ็บแล้วก็ตกใจ แต่หลังจากนั้นมันคิดอะไรอยู่เขาแทบไม่รู้เลย อย่างเช่นวันพรุ่งนี้ก็จะเป็นอีกวันที่มันต้องลำบาก เขากังวลเรื่องนี้เป็นที่สุด

              “เสร็จแล้วครับ ถอดกางเกงด้วยนะ”

              “ครับ *0*” สิงห์ลงอ่างก่อนคนแรกพอไอ้เอ๋อมันถอดกางเกงเสร็จมันก็รีบก้าวลงไปในอ่างทันที สิงห์ดึงให้มันมานั่งตรงหว่างขาของตัวเอง ไอ้เอ๋อมันเอนหลังพิงอกสิงห์เอาไว้ ก่อนจะเล่นเป็ดเหลืองที่มันลอยน้ำเอาไว้ สิงห์หอมหัวมันพร้อมกับกอดมันเอาไว้ มันไม่ดิ้นหนี้แต่หันมายิ้มหวานๆ ให้

              “สระผมไหม?” สิงห์ถามมัน

              “หัวน้องเหม็นหรอ ( ‘’ ) ”

              “หึหึ เหม็นจนเวียนหัว” เหม็นที่ไหนกันละเขาแค่อยากหยอกมันเฉยๆ

              “หรอ Q^Q งั้นน้องสระก็ได้” พูดจบมันก็เอาหัวมุดน้ำไปเลย สิงห์ยังตกใจกระชากหัวมันขึ้นมาจากน้ำแทบไม่ทัน เล่นเอาตกอกตกใจ

              พรวด!!!

              “ทำอะไรครับ!! ”

              “สระผมงายยย” มันลูบน้ำออกจากหน้าตัวเองแล้วตอบสิงห์ ตอบมาแบบหน้าซื่อๆ ของมัน

              “แต่หนูเอาหัวจุ่มลงไปแบบนั้นไม่ได้ครับ” สิงห์อยากจะขำ เลยได้แต่ยิ้มกลั้นขำเอาไว้

              “ทำไมอะ เอาหัวจุ่มแบบนี้” มันเอาหัวมุดน้ำแกรอบแล้วเงยขึ้นมาทันที

              “เห็นไหมหัวหนูสะอาดแล้ว”

              “ได้ที่ไหนกัน หัดซกมกหรอ” สิงห์ยีมือลงบนหัวมันด้วยความมันเขี้ยว

              “งื้อออ ไม่ซกมกๆ พี่จ๋าก็สระให้น้องงายยย เนี้ยๆ สระให้น้อง” มันพูดแต่ก็ไม่ได้หันมามองหน้าเขา สองมือมันก็ทำท่าสระผม สิงห์ยิ้มพร้อมกับกอดรัดมันแน่นขึ้น

              “น่ารักเกินไปแล้วนะเรานะ”

              “คึคึ”

                        สิงห์สระผมให้มันอย่างอ่อนโยน แถมถูสบู่ให้มันด้วย ก่อนจะพากันไปล้างตัวที่ฝักบัว เสร็จแล้วก็พากันไปแต่งตัวเตรียมตัวนอน วันนี้เขาจะปล่อยให้มันได้นอนสบายๆ เพราะตื่นมามันคงต้องทำอะไรอีกเยอะ นี่เขายังคิดไม่ตกเลยว่าจะบอกมันเรื่องหลวงตายังไง สิงห์ให้มันนั่งบนที่นอนแล้วเช็ดผมให้ เห็นมันเงียบก็นึกว่ามันกำลังคิดมากเรื่องหลวงตาสิงห์เลยชะโงกหน้าไปดูมันที่ไหนได้มันหลับ หลับ คือ หลับจริงๆ สิงห์เลยต้องให้มันนอนพิงอกเอาไว้เพราะเขายังเช็ดผมมันอยู่ผมยังไม่แห้ง

                   หลังจากเช็ดผมจนแห้งเขาก็พามันเข้านอน โดยที่ตัวเองก็นอนกอดมันเอาไว้

              “พรุ่งนี้พี่ขอให้หนูเข้มแข็งนะครับ จุ๊บ” เขาจูบลงบนกระหม่อมของมัน ก่อนจะกดโทรศัพท์โทรหาเพื่อยรัก


    +++++

              “ห้าวววววววววววว ตื่นไวจางง” มันลุกขึ้นจากที่นอนก็เห็นสิงห์นั่งมองมันอยู่ก่อนแล้ว

              “ไปอาบน้ำแต่งตัวนะครับเดี๋ยวพี่เตรียมชุดไว้ให้” สิงห์อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ววันนี้ต้องแต่งชุดดำ เขาเลยเตรียมเสื้อผ้าให้มันด้วย

              “ทำไมใส่แต่สีดำ ละครับ”

              “อ่า วันนี้เราจะไปลาใครบางคนครับ”

              “ลา? ลาใคร?” มันทำหน้าสงสัยสิงห์ไม่ได้ตอบเขาได้แต่ส่งยิ้มจางๆ ไปให้ พอจัดการอะไรเรียบร้อยก็พากันออกจากบ้าน พอมันเห็นเส้นทางอันคุ้นตามันก็ตื่นเต้นทันที

              “จะไปหาหลวงตาหรอครับ หลวงตาหายไม่สบายแล้วเหรอ*0*” มันพูดออกมาด้วยความดีใจ สองมือเกาะกระจกรถพร้อมกับมองสิ่งรอบๆ ตัว

              “ครับเราจะไปหาหลวงตากัน” มันไม่ได้เอะใจเลยสักนิด ว่าที่มันมาหาหลวงตาในวันนี้มันจะต้องพบเจอกับความสูญเสียอะไรบ้าง พอเข้ามาในเขตตัววัด วันนี้คนพลุกพล่านจนมันผิดสังเกต สิงห์ขับรถเข้าไปจอดตรงศาลาการเปรียญ บนนั้นมีเหล่าลูกศิษย์วัดที่มันรู้จักอยู่หลายคนรวมถึงน้องๆ ของมันด้วย มันแปลกใจที่วันนี้ทุกคนใส่เสื้อดำกันหมด เหมือนมางานศพใคร

              “ปะ ขึ้นไปหาหลวงตากันนะครับ” เขาแตะหลังมันเบาๆ ไอ้เอ๋อเดินไปทางกุฏิแต่สิงห์บอกว่าไม่ใช่ทางนั้นมันก็งง พอทุกคนเห็นไอ้เอ๋อมันเดินขึ้นบันไดมา เสียงพูดคุยก็เงียบลง ทุกคนมองไปที่มันเป็นตาเดียว

              “มี อะไรกันหรอจ้ะ มาเยี่ยมหลวงตาหรอ หลวงตาอยู่ไหน” มันถามหาหลวงตา ทุกคนไม่ตอบมัน แต่ขยับตัวหลีกทางให้มันได้เห็น ตรงกลางศาลา มันเห็นหลวงตานอนนิ่ง มีผ้าคลุมถึงอก มันรู้ว่าภาพตรงหน้าหมายความถึงอะไร มันเห็นมาตั้งแต่เด็ก เค้ากำลังรดน้ำศพ และคนที่นอนอยู่ตรงนั้นคือน หลวงตาของมัน

              “อะ ..อะไร..อึก ทำไมหลวงตานอนตรงนั้น ฮึก ละ..หลวงตา” ขามันทรุดลงกับพื้น ใจมันแตกสลาย น้ำตาของมันไหลนองหน้า มันมองไปที่ทุกคนอย่างหาคำตอบ มันมองหน้าสิงห์ สิงห์ก็หลบตามัน ทุกคนไม่พูดอะไร ได้แต่เวทนา และสงสารมันจับใจ ดวงตากลมที่เต็มไปด้วยน้ำตาเงยขึ้นไปมองสิงห์หวังจะให้คนตรงหน้าตอบมันว่านั่นไม่ใช่หลวงตาของมัน หลวงตาของมันอยู่โรงพยาบาล กำลังพักผ่อน ไม่ใช่มานอนอยู่ตรงหน้ามันแบบนี้ นิ้วเรียวของมันที่กำลังสั่นชี้ไปที่คนที่นอนแน่นิ่ง

              “นั่นไม่ใช่หลวงตา ฮึก หลวงตาต้องอยู่โรงพยาบาลสิ ไม่ ไม่ใช่” มันไม่ยอมรับความจริงตรงหน้า

              “เข้าไปลาหลวงตานะครับคนดีของพี่” สิงห์พยุงร่างอันปวกเปียกของมันเอาไว้ ไอ้เอ๋อมันแทบจะไม่มีแรงเดินใจมันร้าว หัวสมองมันตันไปหมด คนสำคัญของชีวิตมันไม่เหลือเลยสักคน ทุกคนทิ้งมันไม่เหลือเลยสักคน เกิดมาอาภัพไม่พอยังพิกลพิการให้เขาดูถูกรังแกอีก เสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของมันดังก้องไปทั้งศาลา

              “มะ ไม่ ใช่หลวงตา ฮึก ไม่ใช่”

              “นะโมครับ ไม่ร้องนะครับ ไปกราบหลวงตากับพี่นะ” สิงห์พูดปลอบมัน ทั้งสองคลานเข่าเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของหลวงตาบัว ต้าร์ยื่นถ้วยเงินที่ใส่น้ำอบน้ำลอยดอกไม้ยื่นให้ มือมันสั่นจนถือถ้วยเงินใบนั้นไม่ไหว จนสิงห์ต้องมาช่วยจับ

              “อึก ฮึก ฮือออออออออ” ทันทีที่น้ำไหลผ่านมือซีดของหลวงตามันก็ปล่อยโฮออกมา มันก้มลงกอดร่างตรงหน้าแล้วร้องไห้ เสียงร้องของมันบาดลึกเข้าไปในจิตใจของทุกคนบนศาลา มันร้องจนสลบคาอกสิงห์ จนต้องรีบหามมันออกไป สิงห์เอามันนอนตักแล้วให้ตาร์หาผ้าชุบน้ำมาให้

              “ผมว่าพามันกลับดีกว่าไหมพี่ อยู่นี่มีหวังร้องไห้ทั้งวัน” อันนี้สิงห์เห็นด้วยแต่คงต้องรอมันฟื้นแล้วค่อยพากลับบ้าน

              “อืม ไปตามไอ้ไม้ให้ทีดิ กูมีเรื่องจะปรึกษามัน”

              “อืม อะพัดกะผ้าชุบน้ำ” ต้าร์ยื่นผ้าส่งให้ก่อนจะเดินออกไปตามหาคนรักให้ ผ่านไปสักพักไอ้เอ๋อมันก็ค่อยๆ ปรือตาขึ้นมามอง สิ่งแรกที่มันเห็นคือใบหน้าหล่อเหลาของสิงห์ที่กำลังเป็นห่วงมัน

              “ฮึก หลวงตา หลวงตาจ๋า” พอมันตั้งสติได้มันก็ร้องไห้ขึ้นมาอีก สิงห์กอดปลอบมันเอาไว้ ใบหน้าหวานสะอื้นแนบอก มันทำใจไม่ได้ มันยังรับการสูญเสียนี้ไม่ได้ หลวงตาเปรียบเสมือนพ่อและแม่ของมัน คนที่เลี้ยงดูมันจนเติบโต มันไม่เคยคิดว่าหลวงตาจะตายทิ้งมัน ในหัวมันมีแค่ว่าหลวงตาจะอยู่กับมันตลอดไป แต่เปล่าเลยมันลืมคิดไปว่าทุกคนเกิดมาแล้วต้องตายทุกคน

              “ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยวหลวงตาเป็นห่วง”

              “ฮึก ฮืออออ เมื่อวานหลวงตายัง ฮึก ไม่เป็นอะไรเลย” มันเงยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตามองร่างสูง จมูกกับตามันแดงไปหมด สิงห์เห็นแล้วก็ร้าวในใจทันที

              “นะโมฟังพี่นะครับ หลวงตาไม่สบาย มานานแล้วและก็แก่มากๆ แล้ว วันนี้หลวงตาได้พักผ่อน หลวงตาจะไม่เหนื่อยอีกแล้ว นะโมให้หลวงตาพักนะครับ”

              “หลวงตา ฮึก เหนื่อยหรอ ฮึก หลวงตาไม่เห็นบอกเลย” มันตัดพ้อ

              “อ่า แต่หนูรู้ใช่ไหมว่าคนเรามีเกิด แก่ เจ็บ ตาย เกิดมาต้องตายทุกคน” สิงห์อธิบายเพื่อมันได้ปลง

              “ฮึก ครับ ฮึก แต่ น้องไม่อยากให้ ฮึก หลวงตา ตาย ไม่อยากให้ตาย ฮรือออ”

              “ถ้านะโมยังเสียใจแบบนี้หลวงตาจะไม่ได้พักนะ หลวงจะนอนไม่สบายเพราะห่วงหนูนะ”

              “ฮึก นะ น้อง จะไม่ร้อง ฮึก หลวงตาจะได้สบายๆ” มันพยายามฮึบน้ำตามันไว้ไม่ให้มันไหลออกมา แต่ปากนี่เบะเป็นเป็ด

              “เก่งมากครับ ไม่ร้องนะเดี๋ยวพี่พากลับบ้าน”

              “ไม่กลับ ฮึกจะอยู่กับหลวงตา” ใช่มันไม่ยอมกลับ มันอยากอยู่กับหลวงตา มันรู้ว่างานศพต้องทำอะไรบ้างมันช่วยอะไรได้บ้างมันอยากทำให้หลวงตาเป็นครั้งสุดท้าย พอเริ่มทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันก็เริ่มจากการเสิร์ฟน้ำ และนั่งเฝ้าหน้าโรงคอยหยิบธูปให้คนที่มางาน ตามันแดง จมูกมันแดงเพราะร้องไห้หนัก ดวงตามันเศร้า ข้างกายมันมีสิงห์ที่อยู่ใกล้ไม่เคยห่าง สิงห์ห่วงมัน เพราะตั้งแต่เช้ามันไม่ยอมแตะอะไรเลยนอกจากน้ำ

              “พักหน่อยไหม? พี่เอาไข่พะโล้มาให้” ในมือสิงห์มีข้าวราดไข่พะโล้อยู่มันทำเพียงแค่เหลือบมอง ของโปรดของมัน

              “น้องไม่หิวครับ” มันตอบเสียงเหนื่อยๆ

              “หนูต้องกินข้าวบ้างนะครับ” สิงห์พยายามจะให้มันกินข้าว แต่มันกลับหันหน้าหนี

              “น้องไม่หิว น้องไม่กินได้ไหม”

              “ไม่ได้ครับ นะโมอยากให้หลวงตาเป็นห่วงเหรอครับ” พอสิงห์พูดบอกมันก็ส่ายหน้า

              “ไม่อยากครับ”

              “ถ้างั้นกินข้าวนะพี่ป้อน” สิงห์ดึงมันให้เดินตามไปที่โต๊ะสำหรับแขก แล้วป้อนข้าวมันทีละคำ จนได้ครึ่งจานมันก็หันหน้าหนี ไม่กินอีก

              “อยากนอนพักไหม”

              “ไม่ครับ” พูดจบมันก็ลุกเดินไปนั่งที่ข้างๆ โลงศพแล้วมองรูปหน้าศพอยู่ตลอดเวลา

                        ใครๆ ที่เห็นมันต่างก็รู้สึกสงสาร บางคนก็ให้กำลังใจมันบางคนก็ห่วงมัน มีเพื่อนๆ ที่โรงเรียนรู้ข่าวก็มาช่วยงาน จนถึงกระทั่งพระสวดศพเสร็จ ไอ้เอ๋อมันบอกจะนอนเป็นเพื่อนหลวงตา สิงห์อ้ำอึ้งไม่อยากนอน แต่ในเมื่อคนของตัวเองยืนยันจะนอนเขาก็จำใจต้องอยู่ด้วย

              “ไอ้ไม่คืนนี้มึงกับเมียมานอนเป็นเพื่อนกูด้วย”

              “เห้ย ไม่เอาด้วยหรอกพี่ กูกลัวครับ”

              “แต่ไอ้ต้าร์มันจะนอนเป็นเพื่อนนะโม มึงก้ต้องนอนด้วยสิวะ” คนกลัวผีno.1

              “เรื่องไร มันก็ส่วนมันดิ เมียไม่ใช่แม่ห่างๆ กันบ้างก็ดี” คนกลัวผีno.2

              “มึงกลัวก็บอกมาเหอะ! ”

              “เออ กูกลัวผีครับพี่ กลัวมากกว่าเมียไม่ให้เอาอีก ผมไปละ”

              “เห้ยย มึงจะมาทิ้งกูแบบนี้ไม่ได้!! ” สิงห์โอดครวญ พร้อมกับทำหน้าลำบากใจ เขาพาไอ้เอ๋อกลับบ้านไปอาบน้ำและพามันกลับมาที่วัด น้องๆ ของมันเตรียมที่นอนไว้ให้แล้ว ปูเสื่อกลางมุ้งหน้าโลงพอดิบพอดี สิงห์ลอบกลืนน้ำลายเมื่อเห็นที่นอนของตัวเอง แต่ก็อุ่นใจขึ้นมาบ้างเพราะวันนี้มีคนนอนเป็นเพื่อนเยอะอยู่

              “จะนอนเลยไหม?”

              “ครับ” มันเหนื่อยมาทั้งวันจนถึงตอนนี้ มันล้มตัวนอนสิงห์เองก็ด้วย พอสิงห์นอนลงข้างๆ มันก็หันหน้าเข้าซุกกับอกของเข้าและสะอื้นออกมาเบาๆ วันนี้ทั้งวันมันไม่ร้องเลย แต่พอล้มตัวลงนอนมันก็ร้องออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

              “ฮึกน้องคิดถึงหลวงตาครับ ฮึก คิดถึง “

              “หลวงตาไม่ได้ไปไหน หลวงตายังอยู่ในนี้นะครับ” สิงห์จับตรงอกข้างซ้ายของมัน

              “ฮึกก”


                        พิธีศพดำเนินมาถึงวันสุดท้าย วันนี้มันจะบวชหน้าไฟอุทิศบุญกุศลให้กับหลวงตาผู้ล่วงลับ สิงห์มองมันด้วยแววตาเศร้าๆ เพราะว่ามันกำลังเสียใจ ตลอดเวลาสามวันที่ผ่านมามันไม่พูดกับใคร ถึงจะพูดก็พูดน้อยมากแม้กระทั่งกับสิงห์มันก็ไม่พูด

                        ควันสีเทาลอยออกจากปล่องไฟด้านบนสุดของเมรุ เหมือนหัวใจของมันกำลังแหลกสลายมันแหงนหน้ามองจนควันสีเทาหมดระหว่างนั้นน้ำตามันก็ไหลออกมา มันอยากจะเข้มแข็งมันอยากจะยิ้ม มันอยากให้หลวงตาไปสบาย แต่มันก็คน มันเสียใจ หลวงตาคือญาติคนสุดท้ายของมัน จากนี้ไปมันต้องอยู่โดยที่ไม่มีหลวงตาแล้ว มันจะต้องเข้มแข็งให้ได้ สิงห์ยืนมองมันจนทุกคนกลับไปหมดแล้ว เหลือแค่มันกับเข้า

                             หลังจากลอยอังคารเรียบร้อยไอ้เอ๋อมันเก็บเถ้ากระดูกกลับมาไว้ที่บ้านด้วย ตอนนี้จิตใจของมันดีขึ้นมาบ้างเพราะสิงห์ดูแลมันเป็นอย่างดี เอาใจมันตลอด วันนี้มันไปเรียนเพราะขาดเรียนมาหลายวันแล้ว มันกลัวจะตามเพื่อนไม่ทันไหนจะต้องซ้อมแข่งหมากรุกหลังเลิกเรียนอีก เกิดเป็นมันนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ ช่วงแรกๆ มันไม่มีสมาธิเลยเพระมัวแต่คิดเรื่องหลวงตาของมัน แต่หลายวันเข้ามันก็เลิกเศร้าได้และกลับมาสดใสอีกครั้ง ทำให้คนอื่นๆ สดใสตามมันไปด้วย จากตารางการซ้อมของมันทำให้มันมีการบ้านเยอะขึ้น มีรายงานที่จะต้องทำกับกลุ่มเพื่อน วันเสาร์มันเลยขอสิงห์ไปทำรายงานที่บ้านซีตัส

              “น้องขอไปทำรายงานกับเพื่อนได้ไหมจ๊ะพี่สิงห์”

              “-*- “แค่บอกว่าจะออกไปข้างนอกหน้าก็บึ้นทันที

              “ไม่ทำหน้าแบบนั้นสิใจน้องรู้สึกไม่ดี”

              “= =”

              “นะจ้ะ รายงานกับตัสตัส ปิงๆ ด้วย”

              “ให้เพื่อนมาทำที่บ้านเราสิ บ้านเราออกจะกว้าง” สิงห์เสนอเพราะเขาไม่อยากห่างจากเด็กเอ๋อสักเท่าไหร่ และไม่ชอบให้ไปไหนไกลหูไกลตาด้วย

              “งั้นเดี๋ยวน้องลองถาม ตัสตัสก่อนนะ” มันหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาแล้วเข้าโปรแกรมแชท ที่ซัสเคยสอนขึ้นมา

    แชทกลุ่มเด็กเอ๋อ (5)

    นะโม

    “ตัสตัส มาทำรายงานที่บ้านเราไหม? พี่จ๋าบอก

    ซีตัสคนจริง

    ?

    คืออะไร

    น่านปิง

    พี่สิงห์แมร่งไม่ให้ออกบ้านแน่ๆ กูว่า

    ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

    อิลูกผัวไม่ให้ออกบ้านก็บอกเหอะ

    ว่าแต่ไปบ้านพี่สิงห์ก็ดีนะเผื่อพี่หมอเค้าจะมา

    น่านปิง

    แรดโผล่

    ส้มคนสวยแห้งห้องสาม

    เสือกค่ะ!!

    นะโม

    ตกลงม้ายยยยยย

    เราจะได้ซื้อขนมไว้

    ซีตัสคนจริง

    เออ ไป สิบโมงเจอกันที่บ้านไอ้เอ๋อ

    แยก

    ส้มคนสวยแห่งห้องสาม

    รับทราบ!!

    เดี๋ยวเจอกันค่ะ อิลูกสาว

    น่านปิง

    กูอยากกินแตงโมปั่น

    ...

    (อ่านแล้ว3)

    ซีตัสคนจริง

    เออ!!!

    นะโม

    โอเช

    เราอยากกินนมเย็นๆ

    ซีตัสคนจริง

    ไปบอกผัวมึงนู่นครับไอ้เอ๋อ

    นะโม

    ตัสตัส ไม่อ่อนโยนกับเรา

    เราไม่ใช่ปิงปิงนี่

    -3-



    ++++++++++++++++++++++++

    มีตัดพ้อเบาๆ กับซีตัสคนจริง

    ดราม่ารสต้มยำไปนะคะ ตอนนี้ อยากหวานเดี๋ยวจัดให้













































































    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×