NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้เอ๋อ my stupid's boy

    ลำดับตอนที่ #20 : 19

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.31K
      129
      9 ต.ค. 62

    19


                        หลายวันผ่านพ้น ไอ้เอ๋อหายจากการเป็นไข้และร่องรอยต่างๆ ก็ลบเลือนหายไปเกือบหมดเช้านี้มันรีบตื่นเพื่อที่จะได้ไปโรงเรียนแต่เช้า เพราะสิงห์ตั้งใจจะให้มันไปดูคลินิกก่อนไปส่งที่โรงเรียนเผื่อวันไหนเขาติดงานมันจะได้มาหาเขาถูก วันนี้เลยไม่ต้องทำมื้อเช้าเพราะเขาจะพามันไปกินโจ๊กเจ้าอร่อยใกล้ๆ กับคลินิก

              “100 บาท *0*” สิงห์ยื่นค่าขนมต่อวันของมัน ไอ้เอ๋อจะดีใจทุกครั้งที่ได้เงินไปโรงเรียน ทั้งๆ ที่มันใช่ไม่ถึงห้าสิบบาทด้วยซ้ำ กลับมามันก็จะเอาเงินที่เหลือไปหยอดกระปุกเอาไว้

              “ใช้ไม่หมดให้หยอดกระปุกนะครับ”

              “ค๊าบบ” เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็พากันออกจากบ้าน สิงห์ใช้เวลาขับรถไม่นานก็ถึงที่หมาย เขาขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถด้านหลัง ไอ้เอ๋อมันตื่นเต้นๆ เพราะยังไม่เคยมาที่คลินิกรักษาสัตว์ของสิงห์เลยสักครั้ง อีกอย่างมันก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอน้องหมาน้องแมวด้วย พอลงรถได้มันก็ทำท่าจะวิ่งเข้าไปด้านในแต่โดนสิงห์เบรกไว้เสียก่อน

              “กินข้าวก่อนครับ ไปเร็วครับเดี๋ยวคนเยอะไม่มีที่นั่งนะ” เพราะเป็นร้านอร่อยและตั้งอยู่ในย่านทำเลทองจุดรวมของเหล่าคนทำงานและนักเรียนที่ต้องออกบ้านตั้งแต่เช้า สิงห์จูงมือมันเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม ดีที่ตอนนี้ลูกค้ายังไม่เยอะเลยได้นั่งกินที่ร้านสะดวกไม่ต้องแบ่งปันโต๊ะกับคนอื่น

              “โจ๊กใส่ไข่สองครับป้า” สิงห์สั่งโจ๊กให้สำหรับเขากับไอ้เอ๋อ รอไม่นาน โจ๊กร้อนๆ ก็ถูกนำมาเสิร์ฟ

              “อื้ออ หืออ อร่อยจัง” มันบอกทันทีที่กินเข้าไป

              “ใช่ไหมล่ะ^^ อร่อยก็กินเยอะๆ นะ” มือหนายื่นไปลูบหัวมันอย่างเอ็นดู กินจนอิ่มก็พากันกลับไปที่คลินิก

              “สวัสดีค่ะคุณสิงห์ “พนักงานที่กำลังช่วยกันจัดเอกสารและก็เตรียมห้องผ่าตัดเห็นสิงห์เดินเข้ามาก็พากันยกมือไหว้ ก่อนจะทำหน้าตาสงสัยว่าสิงห์พาใครมาด้วยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไปเพราะมันเป็นเรื่องของเจ้านาย

              “อืม..มีผ่าตัดด่วนอะไรไหม?” สิงห์ถามพร้อมกับรับแฟ้มงานมาตรวจและดูตารางงานของตัวเองไปด้วยและปล่อยให้ไอ้เอ๋อมันเดินดูรอบๆ มันที่เป็นคนชอบสัตว์อยู่แล้วเลยเดินดูไม่เบื่อ จนใกล้ได้เวลาไปโรงเรียน

              “มีตอนบ่ายค่ะ”

              “ถ้าอย่างนั้นดูร้านกันไปก่อนนะ ผมจะพานะโมไปส่งที่โรงเรียนก่อน” สิงห์เดินไปกุมมือไอ้เอ๋อเอาไว้ เรียกสายตาแห่งความสงสัยให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดี เพราะที่ผ่านมาไม่มีใครรู้เรื่องนะโมเลยรู้แต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้นเท่านั้น

              “น้องชายเหรอครับหมอ” รามพ์ผู้ช่วยสัตวแพทย์หนุ่มเอ่ยถาม พร้อมกับส่งยิ้มให้นะโมอย่างเป็นมิตร ไอ้เอ๋อมันก็ส่งยิ้มกลับเช่นกัน

              “น่ารักจังเลยนะครับ” รามยื่นมือมาหมายจะจับแก้มไอ้เอ๋อมัน แต่สิงห์ก็ดึงให้ไอ้เอ๋อมาหลบด้านหลังเสียก่อนพร้อมกับจ้องเขม็ง

              “ถ้าว่างพอที่จะอยากรู้เรื่องของคนอื่นมากนักละก็ ไปอาบน้ำให้บ้าบอไป (ล็อตไวเลอร์ตัวโตที่อารมณ์คุ้มดีคุ้มร้าย) ” สิงห์พูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบไร้อารมณ์

              “อะ เอ่ออ ดุแท้” รามพ์หน้าจ๋อย และทุกคนก็พากันหางานให้ตัวเองทำทันทีเพราะกลัวจะโดนสายตาอาฆาตจากสิงห์ แบบนี้เค้าเรียกว่าหวงสินะ หวงมากด้วย ไอ้เอ๋อมันคงไม่รู้ว่าตัวมันเองมีอิทธิพลทางอารมณ์ต่อสิงห์มากแค่ไหน กะอีแค่ยิ้มให้คนอื่นสิงห์ยังออกอาการมากขนาดนี้

              “ไปโรงเรียนได้แล้วครับ”

              “อื้อ ว่าแต่ทำไมพี่จ๋าต้องทำหน้าดุใส่ทุกคนด้วยล่ะ ทำหน้าดุแล้วไม่หล่อเลย คึคึ หน้าเหมือนคนอึไม่ออก คึคึคึ” คำพูดพร้อมเสียงล้อๆ ทำเอาคนอื่นพากันแอบหัวเราะ สิงห์เลยทำหน้าดุกว่าเก่าแล้วส่งยิ้มเหี้ยมไปให้ทุกคน ยกเว้นไอ้เอ๋อที่เขาได้แต่ส่งยิ้มหวานๆ ไปให้ ไม่เรียกว่าสองมาตรฐานแล้วจะให้เรียกว่าอะไร

              “ไปได้แล้วครับ^^” สิงห์จูงมือไอ้เอ๋อเดินออกไป แล้วทุกคนก็รวมกลุ่มทันทีด้วยเรื่องของสิงห์กับไอ้แอ๋อ

    ตั้งแต่ขึ้นรถมา ไอ้เอ๋อมันก็รับรู้ได้ถึงบรรยากาศมาคุแปลกๆ เพราะสิงห์เงียบตลอดทาง พอมาถึงโรงเรียน ไอ้เอ๋อมันก็จะลงรถแต่สิงห์ห้ามไว้ พร้อมกับจ้องหน้าหวานๆ ของมัน

              “คราวหน้าห้ามยิ้มให้ใครมั่วซั่วนะครับ” มันไม่ใช้ประโยคขอร้องแต่เป็นประโยคคำสั่ง

              “ครับ” ไอ้เอ๋อมันรับคำเสียงอ่อยถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ก็ไม่กล้าถามออกไปเพราะกลัวสิงห์จะโกรธ มันก้มหน้าลง แต่ก็โดนสิงห์จับให้เงยขึ้นแล้วบดริมฝีปากลงที่กลีบปากอิ่มของมัน จูบที่ดุดันและเอาแต่ใจ เพราะแรงขบเม้มที่ริมฝีปากบอกได้ถึงอารมณ์คุกรุ่น จูบจนพอใจก็ผละออก ไอ้เอ๋อมันหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก มันชอบที่สิงห์จูบมันนั่นแปลว่าสิงห์แสดงความรักกับมัน สิงห์มองตามัน

              “พี่จ๋ารักหนูนะครับ” สิงห์ยิ้มอ่อน

              “หนูก็รักพี่จ๋า หนู หนูไป ได้รึยัง งือออ -///- “

              “หึหึหึ ไปได้แล้วครับ” พูดจบไอ้เอ๋อมันก็ลงจากรถเพื่อเข้าโรงเรียน พอดีเจอกับซีตัสเข้า ไอ้เอ๋อมันก็ร้องเรียกเสียงดังแล้ววิ่งไปหาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง สิงห์ที่นั่งมองอยู่ในรถถึงกับคิ้วกระตุก

              “-*- ก็พึ่งพูดอยู่เมื่อกี้ว่าอย่ายิ้มให้ใครมั่วซั่ว” มือหนายกขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างเครียดๆ นี่เขาหวงน้องมากเกินไปรึเปล่า สิงห์สลัดความคิดแบบนั้นออกแล้วขับรถกลับไปที่คลินิก


    +++++

              “มาเช้าเหมือนกันนี่มึง”

              “อื้อ วันนี้ไปที่ทำงานพี่จ๋ามา ได้กินโจ๊กด้วยละ”

              “เออกินข้าวเช้ามาก็ดีเพราะมึงต้องใช้สมองอีกเยอะวันนี้การบ้านมึงเพียบ! ” ซีตัสพูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ เพราะสีหน้าไอ้เอ๋อที่ช็อกตาตั้งไปแล้ว

              “ไม่นะ ไม่นะ การบ้านเหรอ”

              “เออ เยอะมาก” ซีตัสแกล้งพูดอีก ซีตัสเดินกอดคอไอ้เอ๋อเข้าไปในโรงเรียนอย่างสบายอารมณ์

              “งะ งั้นหนูขอลอกตัสตัสได้ไหม? น้า...ขอลอกได้ไหมตัสตัส” T^T

              “ไม่ได้เว้ย!! แหมนี่มึงเป็นออทิสติกจริงไหมเนี้ยะ เจ้าเล่ห์ฉิบหาย” ซีตัสว่าอย่างไม่จริงจังนัก

              “งะ ใจร้าย-3- “

                   ตอนเช้ามีเรียนแค่สามวิชาที่เหลือคือกิจกรรมเข้าชุมนุมและวิชาเลือก ไอ้เอ๋อมันลงชุมนุมหมากรุกเอาไว้ ส่วนซีตัสลง ฟุตบอล ชุมนุมนี้ไอ้เอ๋อมันต้องอยู่คนเดียว ซีตัสเลยเดินมาส่งที่ห้องของชุมนุม

              “หมดชั่วโมงจะมารับไปกินข้าว รอนี่ละ”

              “อื้อ”

              “ไอ้ยิม กูฝากมันด้วย” ยิมเป็นเพื่อนต่างห้องของซีตัสที่พอจะรู้เรื่องของไอ้เอ๋อมาบ้าง

              “เออๆ ไม่ต้องห่วง น่ารักขนาดนี้ใครก็แกล้งไม่ลงหรอก” ยิมบอกยิ้มๆ

              “อย่าไปยุ่งกะมันมาก เจ้าของมันดุ กูไปละ ต้องซ้อมอีก” หลังจากส่งมันเสร็จก็เดินไปที่สนามฟุตบอลต่อ

              “นะโมใช่ไหม ปะ ลงชื่อเข้าชุมนุมกัน” ยิมพาไอ้เอ๋อมันไปลงชื่อแล้วก็แนะนำตัวให้กับเพื่อนๆ มันประหม่านิดหน่อยแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี วันแรกก็ไม่มีอะไรมากแค่จับคู่แข่งหมากรุกกัน ไอ้เอ๋อมันได้จับได้คู่กับยิมพอดีและยิมก็เป็นหัวหน้าชุมนุมด้วย ทั้งคู่เล่นด้วยกันอย่างสูสี ไอ้เอ๋อมันมีท่าทางที่สงบและมีสมาธิมากกว่าปรกติ มันได้หมากดำเพราะฉะนั้น ยิมจะเป็นฝ่ายเดินก่อน

              “เคยเล่นมาก่อนไหม” ยิมถาม

              “อื้อเคยๆ หนูชอบเล่นๆ” มันตอบด้วยรอยยิ้มสดใส จนคนอื่นๆ ต้องยิ้มตามมัน

              “งั้นเรามาแข่งกันนะ”

              “อื้อ แข่งๆ ถ้าหนูชนะยิมจะต้องเลี้ยงไอติมนะ” มันบอก

              “หึหึหึได้สิ ถ้านะโมชนะเราอะนะ” ยิมมั่นใจว่ายังไงตนเองก็ชนะแน่ๆ เพราะนอกจากจะเป็นหัวหน้าชมรมแล้วเขายังเป็นนักกีฬาหมากรุกที่ได้แชมป์ระดับจังหวัดมาแล้วด้วย

              “หนูจะชนะ คึคึคึ”


              10 นาที ผ่านไป

              “รุกฆาต!! ”

              “เห้ย!! ”

              “เย้ๆ คิคิคิคิ ไอติม ไอติม” .

              “เป็นไปได้ยังไงเนี้ยะ” ยิมคิดว่าตัวเองหลอกล่อให้นะโมเสียหมากในกระดานเรื่อยๆ จนเหลือแค่เรือหนึ่งตัว เบี้ยหนึ่งตัว แล้วก็ขุนที่เป็นหมากตัวสำคัญ แต่ไม่ว่าจะไล่ต้อนไอ้เอ๋อยังไงเขาก็ไล่ต้อนมันไม่จนมุมสักที รู้ตัวอีกทีหมากในกระดานของเขาก็แทบไม่เหลือ แล้วก็โน          รุกฆาต!!

              “คึคึ หนูบอกแล้วว่าหนูจะชนะ” ยิมรู้สึกเสียหน้านิดหน่อยแต่เขาทึ่งมากกว่า ก็เข้าใจอยู่ว่าเด็กพิเศษมักจะมีอะไรที่พิเศษๆ เสมอแต่ไม่คิดว่าตัวเองจะมาเจอตอแบบนี้

              “อีกรอบ!! มาแข่งอีกรอบ!! ”

              “อื้อ”

              “อีก รอบ!! ”

              “ครับ^^”

              “อีกรอบ!!! ”

              “อื้ออ”

              “อ๊ากกอีกรอบ”

              “คร๊าบบบบบ”

              จากที่เล่นกันเป็นคู่ๆ ตอนนี้เหลือแค่ไอ้เอ๋อกับยิมเท่านั้นทุกคนมายืนมุงดูคู่เดือดแห่งปีกันหมด

              “นะโมเก่งมากๆ เลยอะ” เสียงชื่นชมมันดังไม่ขาด

              “อีกรอบ!! ”

              “โคร๊กกกก ครากกก”

              “อีกรอบนะๆ”

              “ไม่ไหวแล้วยิมยิม หนูหิวข้าวT^T”

              “เห้ยย ไม่ได้ เล่นก่อน” ยิมยังไม่ยอมแพ้

              “ฮรืออ ถ้ายิมยิมแพ้อีกละ”

              “ไม่แพ้ๆ รอบบนี้ชนะชัว”

              “ฮรืออก็ได้ๆ แต่ว่าต้องเพิ่มไอติมให้หนูเป็นห้าแท่งนะ”

              “เออ สิบแท่งก็ก็ซื้อได้”

    15 นาที ผ่านไป

              “ชนะ กู ชนะแล้ว กูชนะ นะโมแล้ว” ยิมร้องออกมาอย่างดีใจที่ชนะไอ้เอ๋อได้ในที่สุด

              “เห้ออ เมื่อไหร่ตัสตัสจะมารับหิวข้าว =v=”

                        บ่นได้ไม่ถึงห้านาทีซีตัสก็มารับมันไปกินข้าว ยิมก็ไปด้วยเพราะสัญญาไว้จะเลี้ยงไอติมมัน พอกินข้าวเสร็จก็เดินไปซื้อไอติม มันเดินไปที่ตู้ไอติมวอล แล้วกวาดเอาไอติมแม็กนั่มมาห้าแท่ง

              “เชี้ยะ เล่นของแพง” ยิมร้องเสียงหลงไม่คิดว่าคนอย่างไอ้เอ๋อจะกินของแพงแบบนั้น ก่อนจะหยิบกระเป๋าตัวตัวเองแล้วหยิบแบงก์ห้าร้อยที่เหลืออยู่ใบเดียวส่งให้

              “คึคึ ยิมยิมใจดี” มันยิ้มหวานแล้วแกะไอติมกินอย่างเอร็ดอร่อยแถมยังแบ่งให้ซีตัสด้วย

              “ตัสตัสทำไมมารับช้าละ เนี้ยะหนูเล่นหมากรุกคนปวดสมองเลย” มันเอานิ้วจิ้มๆ ที่หัว

              “อาจารย์ปล่อยช้ามีประชุมตอนท้ายด้วย แล้วผลเป็นยังไง” พอพูดถึงผลการแข่งไอ้เอ๋อมันก็ยิ้มแบบมีเลศนัยก่อนจะกวักมือให้ซีตัสก้มลงมาแล้วมันก็กระซิบ ยิมไม่เห็นว่าสองคนนั้นกระซิบอะไรกันเพราะเดินนำหน้าไป

              “ (หนูแกล้งแพ้ไม่อย่างนั้นยิมยิมไม่ยอมให้หนูไปกินข้าว) ”

    ++++++

              “ฮ่าๆ รู้จักมันน้อยไปแล้วไอ้ยิม” ซีตัสหัวเราะออกมาเมื่อยิมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง ซีตัสเองก็ทึ่งเรื่องของไอ้เอ๋อเหมือนกัน พอถึงคาบบ่ายก็แยกย้ายกันไปเรียน วันนี้ปิงก็ไม่มาเรียนอีก หยุดไปเป็นอาทิตย์แล้ว นะโมจากที่เคยโดนแกล้งทุกวัน พอไม่ได้โดนแกล้งก็รุ้สึกแปลกๆ

              “ตัสตัส ปิงไปไหนหรอ”

              “หึหึ ไม่รู้สิ อย่าไปสนใจเรื่องของมันเลย สนใจเรื่องของตัวเองดีกว่ามั้ง การบ้านนะเสร็จรึยังวันนี้เค้าจะส่งกันแล้ว” ซีตัสเอ่ยเตือน ไอ้เอ๋อมันตาโตขึ้นมาทันที

              “อ๊า แย่แน่เลย หนูลืมทำ!!! ”


    +++++++++++++++++++


              “พี่มึงจะมารับเมื่อไหร่วะ จะห้าโมงแล้วนะเว้ย” ซีตัสที่นั่งรอสิงห์มารับเป็นเพื่อนมันเอ่ยถามด้วยความหงุดหงิดวันนี้เขามีธุระด้วยสิ

              “หนูไม่รู้ “ไอ้เอ๋อมันตอบด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล มันกลัวว่าจะถูกทิ้งอีก

              “แล้วมึงมีเบอร์โทรศัพท์พี่มึงไหม?”

              “ไม่มี”

              “ชิบหาย เอาไงละทีนี้ แล้วที่ทำงานละรู้ไหม”

              “รู้ๆ พี่จ๋าเป็นคุณหมอรักษาน้องหมา” มันรีบบอก ถ้าคลินิกรักษาสัตว์ในตัวเมืองมีไม่กี่ที่ ซีตัสพอจะเดาได้

              “งั้นเอาอย่างนี้เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่ ที่ทำงานพี่มึงละกันกูมีธุระแถวนั้นพอดี”

              “ระ เหรอ ตัสตัสๆ จะไปส่งเราหรอ”

              “เออ รออยู่นี่กูไปเอารถก่อน อย่าเดินไปไหนละใครชวนไปไหนก็ห้ามไปเข้าใจไหม”

              “อื้อ ไม่ไป ไม่ไป” พอเห็นว่ามันเข้าใจที่พูดแล้วซีตัสก็เดินไปเอารถของตัวเองที่โรงจอดของโรงเรียน ไม่นานก็มารับมันที่หน้าโรงเรียน มอเตอร์ไซน์คันโตพามันขับเข้าไปในตัวเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเท่าไหร่ ไอ้เอ๋อมันพอจะจำทางได้บ้าง พอเห็นรถก็มั่นใจว่ามาถูกแล้วซีตัสเลยส่งมันที่หน้าคลินิกแล้วบอกให้มันเดินเข้าไป ส่วนตัวเองก็รีบกลับไป เพราะสายมากแล้ว

                   ด้านใน

              “พี่สิงห์เมื่อไหร่จะกลับบ้านสักทีละคะ แป้ง อยากกลับแล้ว” หญิงสาวในชุดสีหวานเข้ากับใบหน้าหวานๆ ของเธอ แขนเล็กๆ คล้องเข้ากับแขนแกร่ง

              “แป้งกลับไปเถอะพี่มีงานต่อ” สิงห์พยายามจะบอกปัดน้องสาวต่างสายเลือดของตัวเองอย่างประนีประนอมที่สุด

              “แป้งอยากไปบ้านพี่สิงห์บ้างนี่คะ”

              “พี่ไม่ชอบให้ใครไปวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัวของพี่ แป้งกลับไปก่อนนะครับ”

              “หึ ก็ได้ค่ะ พี่สิงห์เองก็กลับบ้านไปหาคุณพ่อบ้างนะคะ แป้งไม่อยากได้ยินคุณพ่อเค้าบ่นพี่อีกแล้วนะคะ อีกอย่าง อาทิตย์หน้าพี่สิงห์ต้องพาแป้งไปสวนคุณยายที่เชียงใหม่ตามคำสั่งของคุณแม่ด้วยอย่าลืมซะละ” แป้งพูดออกมาเป็นชุดแม้สีหน้าจะไม่แสดงท่าทีว่าไม่พอใจขนาดไหนแต่ภายในกลับเดือดพล่านไปหมด เพราะสิงห์ขัดใจเธอไปหมดซะทุกอย่าง ร่างงามระหงส์เดินออกจากคลินิก อย่างหงุดหงิดจนไม่ทันได้ดูว่ามีเด็กนักเรียนคนหนึ่งเดินสวนเข้ามา

              ปึก!

              “อ๊ะ/โอ้ยย อะไรเนี้ยะ” ร่างสองร่างต่างคนต่างหงายท้องเสียงดังโวยวายของแป้งทำให้สิงห์รีบเดินออกมาดูพอเห็นว่าแป้งล้มอยู่ก็พยุงเธอขึ้นมา

              “เจ็บไหมแป้ง”

              “เจ็บค่ะพี่สิงห์ สงสัยขาแป้งจะพลิกด้วย” สิงห์ไม่ได้มองว่าคนที่เขามานั้นคือไอ้เอ๋อ มันนั่งมองการกระทำของสิงห์อย่างอึ้งๆ มันเจ็บจี๊ดที่หัวใจหน่อยๆ ด้วย มันไม่ได้เอ่ยทักหรือเรียกให้สิงห์ช่วย

              “อ่าวนะโม ทำไมมานั่งตรงนี้ละ” รามพ์ที่เดินอุ้มแมวที่พึ่งอาบน้ำเสร็จมาไว้ในตู้ทักขึ้น และเสียงเรียกชื่อของไอ้เอ๋อทำให้สิงห์หันมา ไอ้เอ๋อมันรีบดีดตัวลุกขึ้นก่อนจะส่งยิ้มให้รามพ์แล้วเดินออกจากคลินิกไปในทันที ไม่รู้ทำไมมันถึงได้ไม่อยากมองหน้าสิงห์ในตอนนี้ มันรู้สึกหน่วงๆ ที่ใจ และผู้หญิงคนนั้นที่สิงห์ช่วยพยุงนั้นเหมือนจะสนิทกับสิงห์มาก

              “นะโม เดี๋ยว จะไปไหน” สิงห์จะวิ่งตามแต่ก็โดนแป้งฉุดเอาไว้ เพราะขาเธอเจ็บและเดินไม่ได้

              “พี่สิงห์แป้งเดินไม่ไหว!! ”

              “อะ เอ่ออ จิ๊ รามพ์ตามนะโมไปที” สิงห์ตัดสินใจหันมาหาแป้งก่อนแล้วพาเธอเข้าไปในห้องทำงาน เพื่อปฐมพยาบาลให้ รามพ์พอได้ยินก็รีบวิ่งตามไปทันที

              “พี่สิงห์เด็กคนนั้นใครกันน่ะคะ ทำไมพี่ต้องเป็นห่วงด้วย” แป้งถามขณะที่สิงห์ทายาให้ ร่างสูงนิ่งเงียบไม่ตอบ เขานวดข้อเท้าให้แป้งเบาๆ แล้วใช้ผ้ายืดรัดข้อเท้าไว้ให้

              “เด็กที่พี่จ้างไว้ทำความสะอาดบ้าน” สิงห์ตอบคำถามด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

              “อย่างนั้นหรอกเหรอคะ นึกว่าเด็กที่ไหนมาติดพี่สิงห์ของแป้งซะอีก” เธอยิ้มหวานๆ ให้

              “หึ กลับเองได้ใช่ไหม?”

              “กลับได้ที่ไหนกันละคะ พี่สิงห์ไปส่งแป้งนะ นะค้า” เธอพูดเสียงอ้อน พร้อมกับกอดแขนสิงห์ไว้แน่น ร่างสูงสูดลมหายใจลึกก่อนจะพ่นมันออกมา อย่างหงุดหงิดใจ

              “อืมก็ได้” จำใจต้องตอบรับคำขอทั้งๆ ที่หัวใจกำลังร้อนรุ่มเป็นห่วงคนที่พึ่งวิ่งหนีออกไป

              “ดีจัง ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยก็ได้ค่ะ ป่านี้แม่รอแย่แล้ว” สิงห์พยุงเธอไปที่รถและขับพาออกไประหว่างทาง สิงห์เห็นไอ้เอ๋อมันนั่งอยู่ที่ริมทางโดยมีรามพ์นั่งอยู่ข้างๆ พอมันเห็นรถของสิงห์ขับเข้ามาใกล้ก็รีบลุกขึ้น มันทำหน้าดีใจก่อนที่มันจะหุบยิ้มลงอย่างช้าๆ เมื่อรถของสิงห์ขับเลยผ่านมันไป

              “ฮึก...ไหนว่าจะมารับ.ฮึก”

              “อะ เอ่อ สงสัยไปส่งคุณแป้ง น้องสาวพี่หมอเค้านะ” คำว่าน้องสาวทำให้มันไม่คิดมาก ถึงยังไงมันก็คนนอก แค่คนใช้จะไปเทียบอะไรกับคนในครอบครัว พอคิดได้แบบนั้นมันก็ยกแขนขึ้นเช็ดน้ำตาจนแห้ง

              “พี่รามพ์จ๋าไปส่งหนูที่วัดได้ไหมจ้ะ” มันเงยหน้าขึ้นแล้วมองรามพ์อย่างขอร้อง

              “อะ เอ่ออ ได้สิ ถ้าอย่างนั้นเรานั่งสองแถวไปเนอะ คือพี่ไม่มีรถนะ”

              “จ้ะ ฮึก” รามพ์พามันไปขึ้นรถสองแถวเพื่อกลับไปที่วัด ตลอดทางมันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ตาก็เหม่อลอย พอรถมาถึงหน้าวัดมันก็ลง แล้วหันไปขอบคุณรามพ์ก่อนจะเดินหายเข้าไปในวัด แต่มันไม่ได้ไปหาหลวงตา มันเดินไปทางที่ฝังร่างของอีเปรี้ยว มันหยิบดอกไม้ติดมือไปด้วย

              “ฮึก..พี่เปรี้ยว” มันนั่งข้างๆ กองดินและร้องไห้ออกมา มันไม่รู้ว่าทำไมมันถึงได้เสียใจขนาดนี้ ทำไมมันถึงไปปวดใจมากมายขนาดนี้ มันนั่งโดยที่ไม่สนว่าเสื้อผ้ามันจะเลอะดินมันกอดเข่าตัวเองแล้วสะอื้นออกมา

    +++++++++++++++++++

                   “เออ พี่ ผมพานะโมไปส่งที่วัดแล้วนะ...ก็น้องบอกให้ไปส่งที่นั่น ครับๆ” รามพ์โทรบอกสิงห์ขณะที่นั่งรถกลับเข้าไปในตัวเมือง


                        สิงห์พอส่งแป้งเสร็จก็รีบตีรถกลับมา พอได้รับโทรศัพท์จากรุ่นน้อง ก็หัวเสียอีกรอบ เพราะนะโมไม่ได้รอเขาอยู่ที่คลินิกแถมยังไม่กลับบ้านอีก สิงห์ใจร้อนกลัวน้องเตลิดไปไกลและกลัวมันคิดมาก แต่ที่ทำเป็นไม่สนใจเพราะห่วงมันต่างหาก คนอย่างแป้งถ้ารู้ว่าเขายุ่งเกี่ยวกับใครก็จะตามราวีคนคนนั้น อีกเขาไม่อยากให้แป้งมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขา แค่ให้มาเจอที่คลินิกก็มากเกินพอแล้ว ความจริงเขาอยากจะตัดขากับครอบครัวด้วยซ้ำ เขาเกลียดการเสแสร้ง ความร้ายกาจของสองแม่ลูกนั่น แต่พ่อทำให้เขาจำต้องทน เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็ขึ้นชื่อว่าลูก

                        เพราะไม่ได้ผูกพันทางสายเลือดแป้งถึงได้เข้าหาเขาแบบชนิดที่ว่าพลาดมาคือหายนะถึงขั้นทำลายอนาคตเขาได้เลย แป้งชอบแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขา ชอบกีดกันและกำจัดคู่นอนของเขาหรือใครก็ตามที่เขากำลังจะคบด้วยอย่างเนียนๆ เธอใช้ใบหน้าหวานๆ ไร้เดียงสานั่นหลอกล่อให้ตายใจก่อนจะเชือดทิ้งอย่างเลือดเย็น เขาเคยทะเลาะกับพ่อเพราะสองแม่ลูกนี้มาหลายครั้งหลายหน พ่อไม่เคยเชื่อในสิ่งที่เขาพูด เอาแต่โทษเขาที่อคติกับริสาแม่เลี้ยงของเขาที่ต้องอดทนเพราะเขากลัว กลัวว่าสักวันหนึ่งผู้หญิงคนนี้จะทำอะไรที่มันมากกว่านี้ และผลร้ายจะส่งตรงไปที่พ่อของเขาที่ซึ่งสุขภาพร่างกายไม่ดี จะทรุดลง เขาจะต้องอดทนเมื่อเวลานั้นมาถึง เวลาที่จะกระชากหน้ากากงูพิษออกมา

                             พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว รอบๆ ตัวของไอ้เอ๋อมีแต่ความมืดมิด มันร้องไห้จนหลับไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีใครอีกคนที่ห่วงมันจนใจแทบขาด ออกเดินตามหาทั่ววัดแล้วก็ยังไม่เจอ ร่างสูงใหญ่เหงื่อเต็มตัว เดินตามหาไอ้เอ๋อจนเหนื่อยแต่ก็ยังไม่เจอ จนตัดสินใจว่าจะเดินไปดูทางหลังวัด


              “นะโม..” เขาครางเรียกชื่อร่างบางออกมาอย่างแผ่วเบา รู้สึกสะเทือนใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า ร่างสูงเดินตรงยังร่างบอบบางที่นอนหลับสนิทอยู่ตรงนั้น เขาค่อยๆ ช้อนร่างของนะโมขึ้นมาไว้แนบอก เขาได้ยินเสียงลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอดังมาจากตัวของนะโม

              “พี่ขอโทษนะครับ”

              “ฮึก”

                        พอถึงบ้านเขาก็อุ้มนะโมขึ้นบ้าน ก่อนจะค่อยๆ วางบนที่นอนนุ่มอย่างอ่อนโยน และเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ แต่นะโมก็ตื่นมาขณะที่เขากำลังใส่เสื้อให้

              “ฮึก..พี่จ๋า..ทิ้ง..ฮึก” เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นใบหน้าของร่างสูงนะโมก็เริ่มที่จะร้องไห้อีกครั้ง

              “ขอโทษนะครับ ที่พี่ไม่ได้ช่วยนะโมตอนนั้น”

              “ทำไม? ถึงไม่ไปรับหนู” นะโมถามด้วยความน้อยใจ

              “พี่ทำงานครับ” ความจริงเขาวานให้ไม้เมืองไปรับแล้ว แต่ดุท่าจะมีอะไรที่ผิดพลาดไป

              “ฮึก ..หนูเสียใจ”

              “พี่ก็เสียใจครับ”

              “หนูเจ็บตรงนี้” มันชี้ไปที่หัวใจ

              “พี่ก็เจ็บครับ” เจ็บที่ตอนนั้นปกป้องน้องไม่ได้ ต้องปล่อยให้น้องเข้าใจผิดไปแบบนั้น

              “เขาเป็นใครหรอครับ ฮึก พี่จ๋า ห่วงเขามากหรอครับ”

              “น้องสาว เป็นน้องสาว”

              “ไม่จริง?” นะโมเอ่ยออกไปตามความรู้สึกของตัวเอง

              “น้องสาวจริงๆ”

              “แล้วหนูละ หนูเป็นน้องของพี่จ๋าใช่ไหม?”

              “ไม่ใช่! ” คำว่าไม่ใช่ของร่างสูงเหมือนค้อนที่ทำลายกำแพงใจของตนเองจนแหลกสลาย

              “ไม่ใช่หรอ ฮึก หนูเข้าใจแล้ว” เข้าใจแล้วว่าเป็นแค่คนรับใช้ ร่างบางเบือนหน้าไปอีกทางเพื่อเก็บซ่อนความเจ็บปวดเอาไว้

              “ไม่ใช่น้อง แต่เป็นเมีย นะโมเป็นเมียพี่” สิงห์จับใบหน้าหวานๆ ของนะโมให้หันมาหาพร้อมกับยืนยันสถานะของร่างบาง

              “เมีย? ฮึกหนูเป็นเมียพี่จ๋าไม่ได้หรอกหนูเป็นผู้ชายนะ ฮึก อีก อย่างหนูไม่ได้สำคัญกับพี่จ๋า”

              “เป็นได้สิ และเป็นแล้วด้วย อย่าคิดว่าตัวเองไม่สำคัญ หนูสำคัญกับพี่มากที่สุดนะจำไว้” ร่างสูงบรรจงจูบลงบนริมฝีปากนุ่มอย่างอ่อนโยน และถ่ายทอดความรู้สึกที่มีไปให้

              “อึก อืมม -///- “

              “หายโกรธนะครับ คนดีของพี่"

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


    nc ตอนที่แล้วต้องกราบขออภัยที่มันดุอนุบาลมากๆ ฮ่าๆ ครั้งหน้าจะเขียนให้ดีกว่านี้นะคะ จะไปศึกษาเยอะๆ เพราะห่างจากการเขียนncมานานพอสมควร กร๊ากกกกกกกกกกกก ต้องขอขอบคุณทุกคอมเม้นท์ทุกคนที่เข้ามาอ่านกันมากๆนะคะ คือมีกำลังใจเขียนมากๆ เลยค่ะ


    ปล.นิยายเรื่องนี้แต่งจบแล้วนะคะแต่ไม่เคยลงในเด็กดี    ใครวาปไปธัญวลัยกับReadawriteแล้วมั่ง คะ ตั้งใจจะลงในเด็กดีให้จบ  ลงวันละสองตอนเช้ากับดึก หรือถ้าใครไม่อยากรอก็ตามอ่านได้ที่บ้านธัญกับรีดอะไรท์ได้เลยค่ะ ชื่อ  เด็กชาย สามภพ ในreadawriteใช้ชื่อ sampob  
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×