NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้เอ๋อ my stupid's boy

    ลำดับตอนที่ #17 : 16

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.23K
      147
      7 ต.ค. 62

    16

    ชั่วโมงพละ...


              “วิ่งเลยนะโม!! วิ่ง” สิ้นเสียงปล่อยตัวซีตัสก็ตะโกนลั่นเพราะไอ้เอ๋อมันยังไม่ขยับ

              “อ๊า...วิ่งงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง แฮกๆ” กว่ามันจะออกตัวคนอื่นก็นำไปหลายก้าวแล้ว แต่ตีนผีวิ่งตามรถไอติมอย่างมันวิ่งนำได้สบายอยู่แล้วถ้า....

              “มึงไม่มีทางวิ่งชนะกูหรอก” ปิงที่วิ่งตีคู่กับไอ้เอ๋อกำลังยิ้มเยาะแล้วก็กระแทกตัวใส่มันทันทีโดยที่มันไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ

    ปึก!!

              “อ๊ะ หน่อยปิงนิสัยไม่ดี!! ” ไอ้เอ่อมันร้อง ครั้งนี้มันโดนกระแทกจนตัวแทบปลิวแต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้มันกัดฟันวิ่งเพื่อที่จะเอาชนะปิงให้ได้

              “สู้ๆ นะโม” เสียงเชียร์ของเพื่อนเพียงคนเดียวของมันดังลั่นสนามนั่นยิ่งทำให้ปิงหัวร้อนยิ่งกว่าเดิม

              “ฝันไปเถอะว่าจะชนะ”

              “ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก” มันวิ่งจนสุดฝีเท้า จนจะแซงปิงได้แต่ทว่าคนสมประกอบที่ขี้อิจฉากำลังทำสิ่งที่ใครๆ ไม่คาดคิด แต่ไอ้เอ๋อมันคิดล่วงหน้าไว้แล้วว่าปิงต้องแกล้งมันอีกแน่มันเลยชิงทำก่อน

              “นี่แหนะ!! ” มันวิ่งชนปิงจนหน้าคว่ำ

              “โอ้ยยย!! ไอ้เอ๋อออ” ร่างสูงโปร่งล้มคลุกไปกับพื้นสนามเรียกเสียงฮาลั่นให้กับทุกคน ปิงชี้หน้าไอ้เอ๋ออย่างเคืองแค้น ไอ้เอ๋อมันวิ่งเข้าเส้นชัยก่อนปิงและนั่นทำให้ซีตัสที่มองอยู่ตลอดแสยะยิ้มร้ายให้กับปิง

              “แบร่ :p” ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ที่หนึ่งแต่ก็ชนะปิงมาละกัน มันร้องกรี๊ดดีใจโดยมีซีตัสยืนยิ้มกว้างอยู่ขอบสนามปิงเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันที

              “ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ละ” ซีตัสพาไอ้เอ๋อมันไปเปลี่ยนเสื้อหลังจากหมดคาบพละในช่วงคาบเรียนบ่ายเหลือเรียนอีกสองวิชาก็กลับบ้านได้ ไอ้เอ๋อมันเริ่มปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนๆ ได้ทีละนิดๆ โดยได้รับการช่วยเหลือจากซีตัส แม้ว่าจะโดนแกล้งแต่ก็ไม่แรงเท่าแรกๆ

              “อื้อ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า” หลังจากเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็เตรียมตัวเรียนคาบต่อไป นั่นคือวิชาคณิตศาสตร์

              “เอาหนังสือเลขขึ้นมาดิ อาจารย์จะสอนแล้ว” ตัสหยิบกระเป๋าไอ้เอาออกมาค้นหาหนังสือกับสมุดวิชาเลขให้

              “หา..วิชาเลขหรอ หนูไม่อยากเรียนT^T” มันเบะปาก

              “อย่ามาทำตัวขี้เกียจแบบนี้ อยากเป็นคนโง่เหรอไง?” ซีตัสว่าเสียงดุจนไอ้เอ๋อมันหน้าหด

              “ปวดหัวจัง เลย โอยยย” มันแกล้งทำท่าปวดหัวใส่อีก แถมทำตาอ้อนๆ ใส้ซีตัสด้วย

              “ตอแหล!! ” เสียงของปิงดังขัดขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าด่าใคร

              “มึงก็ไม่ต่างกันหรอกไอ้ปิง เงียบปากไปซะอย่าหาว่ากูไม่เตือน” ซีตัสกดเสียงลงต่ำจนดูน่ากลัว ทั้งห้องเงียบกลิบรู้ดีว่าถ้าหัวหน้าห้องโกรธแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

              “.....”

              “งืออ ไม่ปวดแล้วก็ได้-3- ปิงบ้า” มันเห็นท่าไม่ดีกลัวสองคนนั้นจะทะเลาะกันอีกเลยต้องทำหน้าตั้งใจเรียน

              “มึงสิบ้า ไอ้ปัญญาอ่อน-*- “ปิงด่าเสียงกระซิบเพราะอาจารย์เดินเข้ามาพอดี

              “:p ปิงบ้า ปิงบ้า ปิงนิสียไม่ดี” มันว่าตอบอย่างไม่กลัว

              “พอแล้วนะโมอาจารย์เข้าแล้ว” ซีตัสดุใส่

              “ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!! ” ปิง


    +++++++++++++++++++++++


                        เลิกเรียนสิงห์มารับนะโมที่หน้าโรงเรียนแต่ไม่ได้ลงจากรถ เพราะโดนสั่งห้ามลงตั้งแต่วันนั้น ไอ้เอ๋อมันเดินยิ้มหวานมาที่รถแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งที่ข้างๆ คนขับ

              “จุ๊บ -3- “พอนั่งเสร็จมันก็โน้มตัวเข้าไปหอมแก้มของสิงห์ทันที

              “ทำอะไรครับ”

              “แสดงความรักครับ”

              “-///- อะ ..อะไรนะครับ” เขาแทบจะไม่เชื่อหูตัวเองนี่น้องไปจำเอาความคิดแบบนี้มาจากไหนกัน แต่ก็ดีเขาชอบ

              “ฮื้ออ พี่จ๋าหูไม่ดีแน่เลย หนูบอกว่า แสดงความรักครับ แสดงความรัก” มันว่าพร้อมกับทำท่ารูปหัวใจตรงอกให้ดูด้วย

              “หึหึ พี่จ๋าก็อยากแสดงความรักกับหนูบ้างจังเลยครับ” สิงห์พูดเสียงอ้อน

              “คึคึคึ อะ อะ จุ๊บๆ” มันยื่นแก้มใสๆ ของมันไปทางสิงห์เพื่อที่สิงห์จะได้แสดงความรักตอบกลับมา

              “ของพี่จ๋ารักมากต้องตรงนี้ครับ” สิงห์จิ้มไปที่ปากอมชมพูน่ากินของมันด้วยดวงตามันวาว

              “งะ แบบนั้นมัน ไม่เอาหรอกแบบนั้นนะ -3-” มันทำปากยื่นใส่จนสิงห์อดใจไม่ไหวบีบปากมันอย่างมันเขี้ยว

              “เดี๋ยวหัดปฏิเสธพี่เหรอ”

              “ก็พี่จ๋าชอบทำแรง หนูหายใจไม่ออก”

              “ถ้าอย่างนั้นทำเบาๆ ก็ได้”

              “ = =’ พี่จ๋าทำไมทำหน้าตาแบบนั้นอะ หื่น หื่นๆ อะ “

              “รู้จักคำว่าหื่นด้วยเหรอ? เรานะ”

              “รู้สิเพื่อนๆ ชอบพูดใส่กันเวลามองหนู”

              “หึหึ”

              “แต่พี่จ๋าทำหน้าหื่นกว่า น่ากลัว*0*”

              “ว่าพี่เหรอ! ” สิงห์แกล้งขึ้นเสียงใส่

              “คึคึ หื่น คึคึ หื่น” ไปโรงเรียนได้แค่อาทิตย์กว่าๆ นี่มันเรียนรู้อะไรมาบ้างเนี้ยะ

              “เห้ออ แค่หอมแก้มก็ได้” เขายื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมันเสียฟอดใหญ่กลิ่นตัวมันยังหอมเหมือนเมื่อเช้าเลย

              “อื้อออ หอมแรง!! ” มันทำหน้ายู่เอามือถูแก้มไปด้วย

              “ก็รักมากเลยหอมแรงๆ”

              “-3-เจ็บ”

              “หิวยัง? เย็นนี้อยากกินอะไรครับ”

              “พะโล้ *0*”

              “กินมาสี่วันติดแล้วครับเปลี่ยนเมนูบ้าง”

              “งะ ก็หนูชอบกินอะ อืมมงั้นเอา เอา.. ไรดีน้า” มันทำท่าคิดโดยเอียงคอไปข้างแล้วเอานิ้วจิ้มที่ปากตัวเอง ท่าทางน่ารักแบบนี้ยิ่งทำให้สิงห์อยากจะฟัดมันซะตรงนี้

              “หมูทอดไหม? พี่ชอบหมูทอดนะ” เขาลองเสนอสิ่งที่ตนเองชอบบ้าง

              “หมูทอด*0*เอาๆ กินๆ”

              “หึหึได้ครับเดี๋ยวแวะซื้อที่ตลาดเนอะ แล้วก็ซื้อขนมไปฝากน้องๆ ด้วยเลย”

              “ครับ ^0^”

                        วันนี้มันสัญญาไว้กับน้องๆ ว่าจะซื้อขนมไปฝากพร้อมกับสมุดและดินสอ น้องเริ่มเข้าเรียนกันแล้วถึงเด็กวัดพวกนั้นจะมีพ่อแม่อยู่แต่ครอบครัวก็ยากจนกันทุกคน สิงห์พามันลงที่ตลาด เขาปล่อยให้มันเดินเองไม่จับมือเดิน เพราะว่าที่นี่มันคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก มันวิ่งไปที่ร้านขนมเจ้าประจำที่มีคุณยายใจดีชอบให้ขนมมันกินเมื่อตอนทำงานเข็นผักในตลาด

              “ยายจ๋า หนูเอาขนม ขนมไปฝากน้อง” ยังไม่ทันที่มันจะหยิบขนมมันก็จ่ายตังก่อนแล้ว แถมจ่ายแบงก์ร้อยด้วย

              “อ้าวนะโมหายหน้าไปนานไปไหนมาลูก” ยายแกทักด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู

              “ไปทำงานบ้านพี่จ๋าจ้ะยาย หนูมีตังแล้วน้า หนูจะซื้อขนมยายทุกวันเลย^^” มันยิ้มแป้นอย่างน่ารัก รอยยิ้มที่ใครเห็นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้

              “เออดีแล้ว ไปทำงานกะหมอเค้าเอ็งจะได้ไม่ลำบากโดนเค้าโกงค่าแรง โดนเค้าแกล้งเอา แล้วนี่ใส่ชุดนักเรียนเอ็งเรียนด้วยเรอะ!! ”

              “ช่าย หนูเรียนหนังสือ หนูเรียนจะได้ไม่โง่ไงยาย”

              “บุญของเอ็งแท้” บทสนทนาของยายกับไอ้เอ๋อเรียกให้คนในตลาดหันมาสนใจบ้างก็ดีใจไปกับมันบ้างก็ติเตียนดูถูกว่าไปสร้างความลำบากให้กับหมอเค้า

              “ขอบคุณจ้ะยาย หนูไปแล้วนะวันหลังหนูจะมาใหม่” มันบอกลายายพร้อมกับขนมในมืออีกเพียบ ร้อยหนึ่งได้มาอย่างกะสองร้อย น้องๆ ของมันคงกินอิ่มไปหลายมื้อ หลังจากซื้อขนมมันก็เดินไปร้องเพลงไปทักคนนั้นคนนี้ไปทั่ว โบกมือให้ทุกคนอย่างกระมันเป็นนางสาวไทย สิงห์เดินตามแล้วอมยิ้มตลอด เขามีความสุขที่ได้อยู่กับมัน

                        พอซื้อกับข้าวกับของที่จะให้น้องครบก็พากันไปที่วัดมันรีบลงรถแล้วพุ่งไปหาหลวงตาที่ยืนรอมันอยู่ที่หน้ากุฏิ หลวงตาดุชราภาพลงไปเยอะดูไม่แข็งแรงเหมือนแต่ก่อน

              “ใจเย็นเว้ยย นะโมข้าไม่ได้แข็งเหมือนแต่ก่อนแล้ว” แม้ปากจะเอ็ดใส่แต่ตากลับยิ้ม แค่เห้นหน้ามันหลวงตาก็ชื่นใจแล้วยิ่งเห็นว่ามันอ้วนขึ้นดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้นเขาก็เบาใจ

              “คิดถึงๆ ๆ ๆ ๆ”

              “เออๆ ข้ารู้แล้ว นั่งดีๆ”

              “ครับ” มันนั่งลงข้างๆ หลวงตาแล้วลงมือบีบนวดขาของหลวงตาทันที

              “นมัสการครับหลวงตา”

              “เออๆ เจริญพรโยมสิงห์ วันนี้เอาของมาให้พวกเด็กๆ มันละสิอีกประเดี๋ยวก็คงกลับจากโรงเรียนแล้วละ”

                             คุยกับหลวงตาได้สักพักก็ต้องขอตัวกลับเพราะมืดค่ำแล้ว ขนมก็แจกเด็กๆ ไปเรียบ ไอ้เอ็อมันกราบลาหลวงตาบัวพร้อมกับสิงห์และก็พากันกลับบ้านระหว่างทางท้องไอ้เอ๋อมันก็ร้องโครกคร๊ากเสียงดังจนสิงห์หัวเราะขำออกมา

              “มากินข้าวได้แล้วครับนะโม” สิงห์ตะโกนเรียกมันหลังจากที่สั่งให้มันไปอาบน้ำรอก่อนเพราะเขาจะจัดการจัดการกับข้าวเองพอได้ยินว่ากินข้าวเสียงวิ่งตึงๆ ก็ดังมาจากห้องของมัน

              “ข้าววววววววววววววววววววววววววววว*0*”

              “อย่าวิ่งสิครับเดี๋ยวล้มนะ”

              “ข้าว ๆ ๆ หิวหิว *0*” มันเดินไปหยิบช้อนส้อมของตัวเองกับของสิงห์มาถือไว้แล้วนั่งลงที่เก้าอี้ทันทีมันเอาช้อนวางให้สิงห์ที่กำลังตักข้าวสวยใส่จาน ทุกอย่างพร้อมลงมือทาน ทั้งไอ้เอ๋อกับสิงห์ก็กินกันเงียบไปจนอิ่มแม้จะมีศึกแย่งหมูทอดชิ้นสุดท้ายก็ตาม (ผลคือพี่โดนสายตาอ้อนๆ ของน้องจนสติหายพอสติมาหมูก็อยู่ในปากน้องแล้ว กร๊ากกกกกก)

              “นะโมเก็บจานล้างนะครับ พี่จะไปอาบน้ำ”

              “อื้อ เดี๋ยวหนูล้างจานเอง” มันรับคำพร้อมกับลุกเก็บจานบนโต๊ะไปล้างที่อ่างล้างจาน สิงห์เดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนให้มันใส่

              “มาหันหลังมาพี่ใส่ให้” แต่การใส่ผ้ากันเปื้อนของสิงห์เหมือนกับการกอดไอ้เอ๋อมันมากกว่า เรื่องตอดเล็กตอดน้อยขอให้บอกสิงห์ไม่เคยพลาด แถมตอนท้ายยังแอบพ่นลมหายใจร้อนๆ ใส่ข้างแก้มไอ้เอ๋อมันอีก

              “-///- “

              “อะเสร็จแล้วครับ” สิงห์ผูกปมให้ไว้ด้านหลัง

              “ง่า..ไปอาบน้ำได้แล้ว อาบน้ำๆ” มันรีบไล่เพราะใจมันเต้นแรงมากๆ เวลาสิงห์ทำแบบนี้กับมัน ใจมันจะไม่สงบสมาธิมันก็จะไม่มีแล้วก็จะทำอะไรเงอะงะน่าอายออกไป

              “ครับๆ รู้แล้ว อย่าล้างจานจนเสื้อผ้าเปียกนะครับ” สิงห์กำชับก่อนจะเดินออกไป

              “ฟูวววว เห้อใจอย่าเต้นแรงสิเดี๋ยวพี่จ๋ารู้หมด” มันใช้มือเปื้อนฟองทุบที่อกตัวเองเบาๆ ใช่หัวใจมันกำลังบอกว่ามันรู้สึกยังไง พอล้างจานที่มันพยายามอย่างที่จะไม่ทำให้เสื้อเปียกก็ผ่านพ้นไป แต่ก็ยังเปียกอยู่ดีมันเลยเดินกลับไปที่ห้องเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อ พอดีกับสิงห์เดินออกมาจากห้องน้ำ สิงห์พันผ้าแค่ช่วงล่างด้านบนยังมีหยดน้ำเกาะอยู่หัวก็เปียกมองดูแล้วโคตรเซ็กซี่ ไอ้เอ๋อมันเห็นรูปร่างของสิงห์ชัดเจนเต็มสองตา มันกลืนน้ำลายลงคอ หน้ามันแดง ขามันแข็ง แล้วมันก็

              “อึก!! ” สะอึกออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

              “?”

              “อึก...อึก.”

              “สะอึก?”

              “>///< งืออ อึก” สิงห์ขยับเข้ามาใกล้มัน มันก็เดินถอยหลัง

              “เป็นอะไรครับ”

              “หนู อึก หนู อึก ไม่เป็นอะไร อึก” มันสะอึกไม่หยุดและมันก็ไม่ยอมเข้าไปใกล้สิงห์ด้วยมันทำให้สิงห์รู้สึกแปลกใจ

              “แล้วจะไปไหนครับ”

              “เปลี่ยนเสื้อผ้า อึก..ปะ อึก..เปลี่ยนเสื้อผ้า ..ไปนะ.อึก อื้ออ” มันก้มหน้าวิ่งผ่านสิงห์ไปอย่างรีบร้อน

              ปัง!!! เสียงปิดประตูห้องของไอ้เอ๋อดังสนั่น

              “เป็นอะไรของเขา?” สิงห์เดินเกาหัวอย่างงงๆ เข้าไปในห้องของตัวเองเช่นกัน

                        ในห้องนอนของไอ้เอ๋อมันนั่งอ่อนแรงบนพื้นห้องมือก็จับหน้าอกตัวเองไว้

              “ใจเต้นแรงมากเลย อันตรายๆ” มันรู้ว่าการที่หัวใจเต้นเร็วผิดปรกตินั้นส่งสัญญาณได้ว่ามันอาจกำลังป่วยแต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริง

              “หื้อออ ทำไงดี” มันค่อยๆ ลุกขึ้นจากพื้นเย็นไปแล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อตัวใหม่ก่อนจะเดินออกไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อหาหนังสือมาอ่านเล่นก่อนนอน

              “อะ อ่าว” มันเดินออกมาเจอสิงห์กำลังกินน้ำอยู่

              “ว่าไงครับหายสะอึกแล้วเหรอ?” สิงห์ยิ้มให้มัน

              “อะ อื้อ หายแล้ว”

              “วันนี้นะโมจะมานอนห้องพี่ไหมครับ?” สิงห์เอ่ยถามเป็นปรกติเหมือนดั่งเช่นทุกวันและเกือบทุกครั้งที่ถามมันจะตอบตกลงตลอดแต่ว่าวันนี้

              “มะ มะไม่ไปครับ ไม่ไป” มันหลบตาดูแปลกๆ สิงห์ขมวดคิ้วนิดๆ ทำไมวันนี้ไอ้เอ๋อมันดูแปลกๆ

              “หิม นะโมเป็นอะไรรึเปล่าครับวันนี้หนูดูแปลกๆ นะ” สิงห์เดินมาจับหัวมันแล้วดึงมันเข้าไปกอดก่อนจะเอามือวัดไข้ที่หน้าผากมัน

              “ไม่สบายรึเปล่า?”

              “อึก..อึก..มะไม่ อึก” มันสะอึกขึ้นมาอีก

              “พี่ว่าหนูไม่สบายแน่ๆ”

              “ไม่ ไม่สบายหนู แค่ อึก..” แล้วมันก็วิ่งกลับห้องตัวเองทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หนังสืออ่านสักเล่ม


    ++++

                             เช้าวันนี้มีข้าวต้มกุ้งที่มันทำเองกับมือถึงจะไม่ค่อยมั่นใจนักแต่ก็พอกินได้ สิงห์เดินแต่งตัวด้วยชุดทำงานออกมาจากห้องก็ได้กลิ่นหอมๆ ของข้าวต้มร่างสูงขมวดคิ้วนิดๆ เพราะกลิ่นมื้อเช้ามันผิดแปลกไปจากมื้อที่แล้วมา

              “หอมจัง วันนี้ทำอะไรให้กินครับ”

              “-///-ข้าวต้มกุ้ง” มันยืนเขินๆ

              “ทำเป็นด้วยเหรอ”

              “ก็ ครั้งแรก แฮะๆ” สิงห์รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย แม้จะตกใจกับสภาพห้องครัวอยู่แต่ก็นะ ดูจากสิ่งที่คนตรงหน้าทำดุจะตั้งใจสุดๆ สิงห์ส่งยิ้มอ่อนหวานให้กับมัน

              “ว้าว น่ากินจังเลยครับ” คำพูดของสิงห์ทำให้หัวใจมันพองโต มันก้มหน้าเกาแก้มตัวเองเบาๆ อย่างคนเก้อเขิน

              “ระ เหรอครับ เหรอครับ คึคึ” มันอมยิ้มดีใจสุดๆ ก่อนจะตักข้าวต้มใส่จานให้สิงห์จนแทบล้น สิงห์ยังไม่ลืมรสอาหารมื้อแรกจากฝีมือมัน แต่พอเห็นแววตาของมันแล้วเขาตัดสินใจตักข้าวต้มเข้าปาก

              “อืมม อร่อยครับ” ใช่มันอร่อยอย่างที่สิงห์พูด ครั้งนี้มันทำสำเร็จไม่เสียแรงที่ตั้งใจ มันมีเหตุผลที่ไอ้เอ๋ออยากทำกับข้าวให้สิงห์กิน

    สองวันก่อน

              “นี่แกเห็นนี่รึยัง” เสียงเพื่อนสาวที่จับกลุ่มคุยกันดังขึ้นพร้อมกับหนังสือคู่มือเล่มหนึ่ง

              “อะไร? ของแกวะส้ม”

              “ก็วิธีมัดใจสามีแบบอยู่หมัดไง เล่มที่ผิงๆ สาวผู้โชคดีที่ได้แต่งงานกับคุณกวีคุณชายสุดหล่อสุดดังยังไงละ” ส้มพูดจีบปากจีบคอ ไอ้เอ๋อมันนั่งอยู่ข้างๆ แม้ตามันจะจ้องไปที่กระดานแต่หูมันนี่กระดิกฟังเลยทีเดียว

              “อ๋อออ...สรุปคือใช้ได้ผลจริงเหรอวะ”

              “จริงสิไม่อย่างนั้นคุณกวีจะหลงผิงๆ จนโงหัวไม่ขึ้นไม่เห็นรึไง”

              “ไหนดูซิว่าเค้าบอกอะไรไว้บ้างง” เสียงลากยาวมาพร้อมกับการเปิดหน้าหนังสือ

              “ต้องดูดีและเป็นธรรมชาติ? ยังไงวะ” ส้มยังไม่เกท

              “ก็สวยแบบธรรมชาติหน้าไม่หนาไงยะ” แก้วเป็นคนตอบ

              “อ๋อ..ดูแลปรนนิบัติเหมือนกับเขาไม่ให้ขาดตกบกพร่องทั้งบนเตียงและนอกเตียง กรี๊ดดด” อันนี้ไอ้เอ๋อมันไม่เข้าใจเพราะสองสาวไม่ยอมอธิบายต่อ


              “เสน่ห์ปลายจวักต้องมี ทำกับข้าวต้องเป็น เพราะสามีจะได้ไม่ไปกินที่ไหนเพราะจะติดรสมือเรา”

              “อ๋อออออ” อันนี้เสียงไอ้เอ๋อ ทำให้สองสาวหัวควับมาที่มันทันที

              “แอบฟังหรอนะโม?”

              “ปะ เปล่านะ ก็ส้มกับแก้วพูดเสียงดัง เราก็ได้ยินสิ -3-”

              “แอบฟังแบบนี้แสดงว่ากำลังมีแฟนละสิ อันแน่ ชอบหัวหน้าห้องเหรอนะโม” ส้มแซวเล่นขำๆ

              “ไม่ ไม่ใช่นะ ไม่ใช่” มันรีบหันไปหาซีตัสที่นั่งอ่านหนังสือเงียบๆ มันส่ายหน้าไปมา ซีตัสแสยะยิ้มนิดๆ

              “แล้วถ้าใช่ละ” แขนแกร่งโอบกอดไหล่ไอ้เอ่อทันที

              “มะ ไม่ งือ ซีตัส อย่าแกล้งเรา” มันทำหน้างอใส่ ซีตัสหัวเราะรวมถึงสองสาวนั่นด้วย

                   ตึง!! โต๊ะล้มลงกับพื้น

                   เฮือกกก!! ไอ้เอ๋อมันสะดุ้งทันที พอเห็นว่าเป็นปิงถีบโต๊ะตัวเองล้มก็ทำหน้าเหม็นๆ ใส่ทันที

              “น่ารำคาญ!! อยากจะสวีทกันก็ไปสวีทที่อื่นเห็นแล้วเกะกะลูกตา” จู่ๆ ปิงก็อารมณ์เสียตวาดใส่ไอ้เอ๋อดังลั่นห้อง

              “งื้ออ เสียงดัง เราไม่ได้สวีท ไม่ได้หวานสักหน่อย ปิงเอาอะไรมาพูด!! ”

              “โง่แล้วยังเสือกโง่อีกนะมึง!! ” ปิงว่าใส่อีก

              “เลิกบ้าได้ยัง กูรำคาญ” น้ำเสียงเย็นๆ ดังมาจากหัวหน้าห้องอย่างซีตัสเขาจ้องเขม็งไปยังร่างผอมบางตรงหน้าอย่างไม่ชอบใจ

              “คนบ้านะไม่ใช่กูแต่เป็นมึง ไอ้ตัส มึงนั่นแหละบ้า” ปิงตะโกนใส่หน้าร่างสูงเหมือนโกรธกันมาเป็นชาติ

              “เหรอถ้ากูบ้ามึงก็อย่ามาบ้าตามกูสิ อยู่ในที่ที่ ของมึงไป ความจริงคนอย่างมึงไม่สมควรจะอยู่ต่อหน้ากูด้วยซ้ำ ไอ้คนหลอกลวงสับปลับคนใจบาปอย่างมึงนะ” ซีตัสเองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาเช่นกัน แววตาของซีตัสมีแต่ความเจ็บปวดและความแค้นเคืองอยู่เต็มอก

              “เพราะมึงทำให้ซีเรียลต้อง...อึก” ซีตัสหยุดแค่นั้นสองมือกำหมัดจนแน่นก่อนจะค่อยๆ คลายออก

              “......”

              “ไปให้พ้นหน้ากู” ซีตัสกัดฟันพูด ปิงเม้มปากตัวเองแน่น สายตากำลังตัดพ้ออะไรบางสิ่งก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกไป ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสองคนนี้ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเป็นเพื่อนสนิทกันแท้ๆ ซีตัสหันมาหาไอ้เอ๋อที่ยืนสั่นอยู่

              “กลัวเหรอ”

              “อือ เราไม่ชอบเห็นคนทะเลาะกัน เรากลัว อย่าทะเลาะกับปิงเลยนะ”

              “หึ ยากวะ เอาเป็นว่าวันนี้มึงทำดีมากที่กล้าต่อปากต่อคำกับมัน จำได้ไหมที่กูสอย อย่าอ่อนแอ อย่าอ่อนข้อให้มัน อย่าร้องไห้ให้มัน”

              “อื้อ เราจำได้” พ้นเรื่องของปิงในห้องก็กลับมาสงบอีกครั้งทุกคนคุยกันต่อเพื่อรอเปลี่ยนคาบเรียนและวันนั้นไอ้เอ๋อมันก็ไม่เห็นปิงเข้าเรียนอีกเลยตลอดทั้งวัน....

              มาปัจจุบัน

                        หลังจากกินมื้อเช้าเรียบร้อยไอ้เอ๋อมันก็กวาดบ้านถูบ้านก่อนจะอาบไปโรงเรียนโดยที่มีสิงห์ไปส่งเหมือนเคย

              “ตอนเย็นพี่จะมารับนะครับ”

              “ครับ”

                             พอลงรถมันก็วิ่งเข้าประตูไปสิงห์มองตามจนลับตาถึงได้ขับรถไปที่คลินิกของตนเองวันนี้เขาต้องทำการผ่าตัดน้องหมา เปิดประตูเสร็จพนักงานผู้ช่วยก็เดินตามเข้ามา

              “สวัดดีค่ะพี่หมอ” สุนักศึกษาสัตวแพทย์ฝึกหัดเอ่ยทักรุ่นพี่ของตน

              “อืม วันนี้มีเคสไหนสำคัญบ้างนอกจากตุ้งติ้ง” สิงห์พูดถึงหมาพันธุ์ปั๊กที่เขาต้องผ่าคลอดให้วันนี้

              “ไม่แล้วค่ะ”

              “อืม” สิงห์ตอบพร้อมกับเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตนเอง ในการทำงานสิงห์จะเว้นระยะห่างกับสุพอสมควรเพื่อที่เขาจะได้คุมลูกน้องอยู่ มันจะมีความเกรงใจกันบ้าง และที่สำคัญเขารู้ว่าสุสนใจในตัวเขาไม่น้อยถ้าเป็นสิงห์คนก่อนป่านนี้คงได้กันไปแล้วแต่นี่ แค่มองหน้าสุหน้าไอ้เอ๋องอนแก้มป่องก็ลอยขึ้นมาทันที สิงห์ถอนหายใจนิดๆ งงตัวเองว่าทำไมถึงให้เด็กคนหนึ่งมีอิทธิพลกับตัวเองได้ขนาดนี้สิงห์คนโฉด โหดและร้ายหายไปไหน

                        หลังผ่าตัดตุ้งติ้งเสร็จก็ได้ลูกหมาตัวน้อยมาสี่ตัวน่ารักน่าชัง หลังจากนั้นก็มีผู้ป่วย (สัตว์) เข้ามาเรื่อยๆ บ้างก็เอามาฉีดวัคซีน อาบน้ำตัดขน ทั่วๆ ไปจนกระทั่งถึงเวลาปิดคลินิกสิงห์ก็ออกไปรับไอ้เอ๋อที่โรงเรียนแต่วันนี้กลับไม่เห็นว่ามันจะยืนรออยู่ที่เดิม สิงห์ขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเดินลงจากรถเพื่อตามหามัน


              “ตัสตัส ตัสตัสจะพาเราไปไหนหรอ” ซีตัสเดินจูงไอ้เอ๋อเดินไปตามทางของตึกเรียน

              “-*- กระเป๋ามึงหายไม่ใช่รึไง?”

              “อื้อกระเป๋าเราหาย แล้วทำไมเราต้องเดินไปมาด้วยละ”

              “เห้ออ ของหายก็ต้องหาสิวะ! รีบเข้าเดี๋ยวพี่มึงมาหามึงไม่เจอมันได้แดกหัวกูแน่ๆ” ซีตัสทำหน้าเครียด เครียดเรื่องของตัวเองไม่พอยังจะมาเครียดเรื่องของไอ้เอ๋ออีก

              “พี่จ๋าไม่กินหัวคน พี่จ๋าไม่กินหรอก พี่จ๋าชอบกินปากเรา อุ๊บ!! 0x0” มันเผลอพูดสิ่งที่สิงห์ห้ามไว้พอรู้ว่าพูดไปแล้วก็เอามือปิดปากตัวเองแล้วทำหน้าตาตกใจ ซีตัสหลี่ตามองมันอย่างจับผิด

              “เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ กูได้ยินไม่ถนัด” ซีตัสถามเสียงเข้มๆ

              “ป่าวนี่เราไม่ได้พูด ไม่ได้พูด..”

              “-*-โกหกไม่เนียน ตกลงมึงกับพี่มึงเป็นอะไรกัน เป็นพี่น้อง หรือเป็นผัว!! ”

              “ผัว.คือไร?”

              “ก็คนที่รักกันเอากันอะ แบบว่าได้เสียกัน วู้วว อธิบายมึงให้มึงเข้าใจนี่ยากกว่าแก้โจทย์คณิตอีก” ซีตัสบ่นอย่างไม่จริงจังนักเพราะกำลังเพ่งสมาธิหากระเป๋าให้ไอ้เอ๋อมันมากกว่า

              “งืออ นี่ตัสตัส ตัสตัสเรามีอะไรจะถาม” ไอ้เอ๋อมันพูดพร้อมกับหยุดเดิน

              “อะไรอีกกกกก”

              “สมมุติว่าเวลาเราอยู่ใกล้ใครมากๆ แล้วใจเราเต้นแรงเหมือนมีคนตีกลองอยู่ข้างใน มันหมายความว่ายังไงหรอ เราป่วยหรอ” มันถามพร้อมกับเกาแก้มตัวเองไปด้วย

              “นี่มึงอย่าบอกนะว่า..” ซีตัสชี้ไปที่ตัวมันเอง

              “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ตัสตัส ไม่ใช่ตัสตัส” มันรีบปฏิเสธทันที

              “เห้อแล้วไป” ซีตัสรู้สึกโล่งใจนิดๆ

              “มึงไม่ได้ป่วยอะไรหรอก นี่กูถามอะไรอย่างสิ พี่สิงห์ของมึงอะ คือคนที่ทำให้มึงใจเต้นแรงใช่ไหม?”

              “งือออ>///<”

              “แสดงว่าใช่”

              “เราไม่รู้อะ ใจเรามันเต้นแรงกับพี่จ๋าตลอดเลย ตะ แต่ ว่าเมื่อวานเราสะอึกด้วยนะ”

              “มึงสะอึก? สะอึกเพราะ?”

              “เราเห็นพี่จ๋าแก้ผ้า-///- “คำตอบของมันทำเอาซีตัสแทบหงายหลัง

              “เชี้ยะ...มึงนี่ก็หื่นกามเหมือนกันนี่หว่า” ซีตัสแซวมันขำๆ

              “หะ หื่น หื้อออ ไม่หื่นนะ” มันบอก

              “ตกลงเราเป็นอะไรหรอ”

              “มึงชอบเขานะโม”

              “ชอบ!! เราชอบพี่จ๋าเรารู้”

              “ไม่ใช่กูหมายถึงแบบว่าชอบกัน รักกันอยากเป็นแฟนอะ เห้ออกูเหนื่อยจริงๆ” ซีตัสไม่รู้จะอธิบายให้มันเข้าใจยังไง เอาไว้ค่อยๆ สอนมันละกัน

              “ระ เหรออ อ่า -///- งื้ออ” จู่ๆ มันก็ยืนเขินบิดไปบิดมา

              “อะ นั่นไงกระเป๋ามึง” ซีตัสชี้ไปที่ต้นไม้ต้นหนึ่งกระเป๋านักเรียนไอ้เอ๋อมันห้อยอยู่

              “สูงฉิบหายใครวะแม่งสันหาวิธีแกล้งมึง” ซีตัสบ่นอย่างนึกโมโหกับคนที่ทำแบบนี้

              “เราปีนเองเราปีนได้”

              “ได้เหรอ เออๆ มึงปีนเลยเดี๋ยวกูช่วย กูกลัวความสูง”

              “อื้อ” ไอ้เอ๋อมันถอดรองเท้านักเรียนออกถลกแขนเสื้อขึ้นแล้วก็ปีนต้นไม้ต้นนั้นเพื่อเก็บกระเป๋าตัวเอง มันปีนได้อย่างคล่องแคล่วเพราะเคยปีนเก็บมะม่วงที่วัดอยู่บ่อยๆ ปีนจนถึงกิ่งที่กระเป๋าห้อยอยู่

              “นะโมระวังนะมึงกิ่งนั้นมันแห้งมันจะหักเอา” ซีตัสพูดเตือนด้วยความเป็นห่วง

              “อื้อๆ จะถึงแล้วอึ๊บ อึ๊บ”

              เปาะ แกรกกกก!!

              “เชี๊ยะ!! ”

              “อะ *0* กรี๊ดดดดด” จู่ๆ กิ่งที่มันเหยียบอยู่ก็หักลงมาไอ้เอ๋อมันลอยคว้างอยู่ในอากาศมันหลับตาปี๋ด้วยความกลัว

    หมับ!!!

              “อื้ออ ๆ ๆ กลัวๆ ฮรือออ หนูตายแน่เลยT^T”

              “ไม่ตายหรอกครับ ใครจะยอมให้หนูตายกันละ” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยกระซิบกับคนในอ้อมกอด ไอ้เอ๋อมันนอนทับตัวสิงห์ที่พุ่งเข้ามารับมันไว้ได้ทันก่อนที่ร่างของมันจะถึงพื้นด้วยซ้ำ

              “เสียงพี่จ๋า ฮึกพี่จ๋า” มันปล่อยโฮออกมาทันที

              “ไม่ต้องกลัวนะครับพี่อยู่นี่แล้ว” สิงห์ลูบหลังปลอบมัน พร้อมกับดันตัวเองให้ลุกนั่ง ทำให้ไอ้เอ๋อมันนั่งค่อมตักเขาสองมือก็กอดคอสิงห์เอาไว้แน่น

              “ลืมตาก่อนนะ ไหนบอกพี่จ๋าสิครับว่าทำไมถึงไปปีนต้นไม้” คำพูดที่ดูห่วงใยตัดกับน้ำเสียงที่ดูจะโมโหนิดๆ สิงห์ตวัดสายตาคมไปหาคนที่ยืนมองเขาอยู่เงียบๆ อย่างหาคำตอบ

              “ฮึก หนูจะเก็บกระเป๋า ฮึกมันอยู่บนต้นไม้”

              “โดนแกล้งอีกแล้วเหรอ” สิงห์ต้องทำใจให้แข็งเพราะถ้าเขาเข้ามาจัดการเรื่องนี้ปัญหาก็จะไม่จบเขาก็ต้องแก้ให้น้องเรื่อยๆ น้องก็จะไม่ได้เรียนรู้วิธีเอาตัวรอดหรือวิธีเข้าสังคม ภูมิต้านทานน้องด้านนี้จะต่ำ เขาทำได้แค่แนะนำและปลอบโยนเท่านั้น

              “ฮึก กระเป๋าอันนั้นพี่จ๋าซื้อให้” มันกอดกระเป๋านักเรียนมันไว้แน่น

              “เห้ออออ” สิงห์ถอนหายใจยาว เขาอยากจะโกรธอยากจะดุแต่ก็ทำไม่ลง ทำไม่เคยลงเลยจริงๆ

              “กอดกันพอรึยังผมต้องกลับบ้านนะครับคุณพี่ชาย” ซีตัสพูดขึ้นมาพร้อกับกรอกตานิดๆ เขาไม่ชอบสายตาที่สิงห์มองเขามองเหมือนเขาทำอะไรผิดเหมือนเขาไปแย่งยางลบในปากมาอย่างนั้น

              “ก็กลับไปสิ ทางนี้พี่จะจัดการเอง” สิงห์บอกเสียงเรียบโดยที่ไม่หันไปมองหน้าซีตัสด้วยซ้ำ

              “-*- เออ กลับแล้ว ไปนะ นะโม หวัดดีพี่ชาย! ” ซีตัสพูดกระแทกเสียงใส่ก่อนจะเดินจากไปรู้สึกหมั่นไส้สิงห์มากขึ้นมาทุกวัน


    +++++++++++++++++++++++++++++++


                        กลับมาที่บ้านสิงห์ต้องมานั่งทำแผลให้ไอ้เอ๋ออีกดีที่มีแค่รอยขีดข่วนทั้งคู่นั่งอยู่บนโซฟาที่ห้องนั่งเล่น

              “ซี๊ดดด อูยยย” ไอ้เอ๋อมันซี๊ดปากทุกครั้งที่สิงห์แตะยาใส่แผลมัน ร่างสูงมองมันแล้วอมยิ้มอยากจะตีให้หายซนแต่ก็ทำไม่ลง

              “ไม่ต้องร้องครับซนเอง” สิงห์แกล้งว่าเสียงดุ

              “งื้อออ ใจร้าย ดุ” มันทำปากยื่นใส่สิงห์

              “ถ้าเจ็บตัวมากกว่านี้พี่จะทำโทษเรานะ”

              “ก็..”

              “อย่าเถียง”

              “งะ”

              “หึหึหึ”

              จุ๊บ

              “ทำโทษทีทำให้พี่เป็นห่วง” สิงห์ยิ้ม

              ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก....

              “>///< ..หัวใจหนูไม่ไหวแล้วววววว” ไอ้เอ๋อมันนอนหงายลงกับโซฟาทันทีที่โดนจู๊บปาก ตายอย่างสงบทันที


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    หายใจทันไหม?....

    ตอนนี้จะเริ่มด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์กับความรู้สึกของน้องนะคะ ส่วนของอิพี่มันชัดเจนอยู่แล้ว

    ปมซีตัสกับปิงเดี๋ยวค่อยมาเฉลยเนอะ

    ต้องขอขอบคุณที่ติดตามและคอมเม้นให้กับคนเขียนนะคะ อ่านแล้วชื่นใจดีใจที่ทุกคนเข้าใจในตัวละคร มีคนแอบเดาถูกอยู่ด้วยนะนิดนึงอิอิ

    ปล.รักทุกคนมากๆนะ เจอกันตอนหน้าค่ะ

    ปล.2 ---หนูนะโมเองนะหนูคิดถึงทุกคนนะ รักนะจุ๊บๆ

    ปล.3---จุ๊บได้แต่พี่คนเดียวสิครับ-*-(สิงห์)

    ปล.4---งืออออ-////-





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×