คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : 08
08
เจ้าของร่างสูงร้อยแปดสิบเซ็น กำลังมีสีหน้าที่บูดบึ้งเมื่อรับรู้ว่าเบ้ประจำตัวของตนถูกแย่งไปอย่างหน้าด้านๆ มันใช้เวลาตั้งนานกว่ามันจะทำให้ไอ้เอ๋อเลิกกลัวและไว้ใจมันได้ แต่นี่อะไร กับไอ้คนที่พึ่งจะเจอดันชุบมือเปิบไปเฉย แต่ที่ตลกร้ายกว่านั้นคือกับไอ้คนที่ชื่อ ไม้เมืองดันมาเป็นรุ่นน้องของสิงห์ไปเสียได้ นี่ไม่เท่ากับว่า ไอ้ต้าร์มันมีศัตรูถึงสองคนเลยทีเดียวมันถึงได้ทำหน้าบึ้งเป็นหมีกินผึ้งอยู่แบบนี้
บรรยากาศในร้านอาหารตามสั่งยังไม่ลดความตึงเครียดลงสักเท่าไหร่ พวกเขายังฟาดฟันกันทางสายตาไม่หยุด แต่ดูเหมือนทั้งร้านจะมีแต่ไอ้เอ๋อละมั้งที่กำลังมีความสุขสบายใจอยู่คนเดียว ไอ้เอ๋อมันนั่งกินข้าวกะเพราหมูกรอบไปซี๊ดปากไปเพราะผัดกะเพรามันเผ็ดไปนิด มันกินโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้างด้วยซ้ำมันสนใจแต่หมูกรอบแสนอร่อยตรงหน้าเท่านั้น
สิงห์ เองก็อยากจะรีบกินรีบไป แต่สายตาของเขาก็ดันไปปะทะกับกลุ่มของต้าร์อยู่ตลอดเวลา แต่ไม่มีใครมองแบบหาเรื่องเขาสักคนยกเว้น ไอ้หัวโจกอย่าง ต้าร์ วิศวะกลโยธา ปี3คนนั้น ไม่รู้ว่าไปโกรธแค้นกันตั้งแต่ชาติปางไหนหรืออาจเป็นเพราะสิงห์ไปแย่งของรักมันมา แต่ว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ใครดีใครได้ ของใครมันจะแรงกว่ากัน หันมาทางไอ้เอ๋อ ปากมันขยับเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ไม่สนหน้าอินหน้าพรหม มันมีแอบเขี่ยใบกะเพราออกไว้ข้างๆ จาน กินจนเกือยจะหมด เหลือบไปเห็นไข่ดาวของพี่สิงห์คนหล่อ มันจดๆ จ้องๆ เม้มปากนิดๆ ไข่ดาวไม่สุก ไข่แดงเยิ้มๆ แค่คิดมันก็เลยริมฝีปากตัวเองแล้ว ไอ้เอ๋อมันแอบมองหน้าพี่จ๋าของมันนิดๆ ก่อนจะค่อยๆ ใช้ช้อนไปตักไข่ใบนั้นมาใส่จานของตัวเองโดยที่สิงห์ไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่หันไปจ้องมองไอ้เด็กช่างฝั่งตรงข้ามอยู่
“คึคึ ไข่เป็นของนะโมแล้วว นะโมจะกินไข่พี่สิงห์แล้ววว” มันร้องเพลงออกมาเบาๆ กว่าที่สิงห์จะรู้ตัวไข่ดาวใบสวยก็ลงสู่ท้องของไอ้เอ๋อเรียบร้อย
“อ้าวไข่ดาวกูไปไหนวะ!! ” หันมาไม่เจอไข่ดาวก็ร้องหา พี่สิงห์คนหล่อนั่งทำหน้าตกใจ จนไอ้เอ๋อมันหัวเราะคิกๆ นั่นแหละ
“นะโมมมมมม” เขาหรี่ตามองขโมยวัยใส
“หนูป่าวว น้า>-<”
“แสบนักนะเรา” สิงห์รู้ว่าไอ้เอ๋อมนัแอบกินไข่ดาวเขาไป จะไม่ให้จับได้อย่างไงละก็ในเมื่อขอบปากมันมีแต่คราบไข่แดง มือหนายกขึ้นยีหัวอีกคนด้วยความเอ็นดู
"คึคึ ไข่พี่สิงห์ อยู่นี้แล้ว แบร่ๆ” มันจิ้มลงที่ท้องป่องๆ ของมันแล้วหัวเราะร่วน รวมถึงหมอหนุ่มก็ต้องยอมกับความน่ารักของไอ้เอ๋อมัน
“ร้ายนักนะเรานะ” หมอไม้ว่าให้
“^-^”
ทุกการสนทนาของไอ้เอ๋อกับสิงห์และหมอไม้มันได้สร้างความหงุดหงิดและความอิจฉาตาร้อนให้กับใครบางคนถึงขั้นทนดูไม่ได้ ลุกพรวดแล้วจ้ำอ้าวออกจากร้านไป โดยที่มีเพื่อนตะโกนไล่หลังด้วยความงง งวย
“แล้วค่าข้าวมันใครจะจ่ายวะ?” หนึ่งในนั้นพูดออกมาอย่างหัวเสีย
“เดี๋ยวผมจ่ายให้เองครับ อ่า ของน้องๆ ทุกคนด้วย” หมอหนุ่มเอ่ยอย่างใจดี เพราะรู้จักกันตอนออกค่ายอาสาอยู่แล้ว ถ้าไม่ติดว่าเขาดันไปผิดใจกับตัวหัวโจกของกลุ่มเข้าพวกเขาคงได้สนิทกันมากกว่านี้
“จะดีหรอหมอ” ปากก็บอกจะดีเหรอแต่น้ำเสียงนี่คืออะไร พวกมันชอบของฟรีอยู่แล้วแต่ที่พูดไปนั่นเพราะแค่มารยาทเท่านั้น
“เออ ดี รีบกินก็รีบกลับไปเรียนได้แล้ว”
“ขอบคุณคร๊าบบคุณหมอ” พวกนั้นเอ่ยขอบคุณหมอไม้ก่อนจะรีบหันไปกินข้าวของตัวเองต่อ ส่วนทางด้านสิงห์กับไอ้เอ๋อกินอิ่มแล้ว
“พี่สิงห์จะไปไหนต่อพี่ พอดีผมออกเวรแล้ว”
“ไปขนเสื้อผ้ากับของใช้ให้นะโมนะ” สิงห์ตอบเสียงเหนื่อยๆ
“เหรองั้นผมไปด้วยดิ จะได้ช่วยขน”
“อืมตามใจละกัน”
หลังจากจ่ายเงินค่าข้าวเสร็จก็พากันไปที่วัด โดยมีหมอไม้เมืองขับรถกระบะตามมาทีหลัง ไอ้เอ๋อมันนั่งซ้อนท้ายสองมือมันกอดเอวสิงห์ไว้แน่น มันเงยหน้ารับลมที่ปะทะเข้ามาพร้อมกับอ้าปากรับลมส่งเสียงร้องอย่างสนุกสนาน
“กินข้าวไม่อิ่มหรอครับนะโม” สิงห์แซวพร้อมกับยิ้มขำ พอไอ้เอ๋อมันได้ยินมันก็หุบปากฉับ แล้วก้มหน้าลงนิดๆ
“อิ่มแล้วครับ”
“เหรอนึกว่าไม่อิ่มพี่เห็นเรากินลมเข้าไปเยอะ^^”
“งะ พี่จ๋า” มันอายเลยเอาหน้าซุกลงกับหลังสิงห์เพื่อหลบสายตาที่มองมันผ่านกระข้าง
“หึหึหึ”
พอถึงวัดพวกเขาก็ไม่คิดว่าจะเจอใครบางคนที่นี่ ไอ้ต้าร์มันยืนกอดอกรอไอ้เอ๋อที่ระเบียงกุฏิ
“จะเอาตัวไอ้เอ๋อไปมันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก หึ”
“พี่ต้าร์....มาหาหนูเหรอ ^^?” ทั้งๆ ที่พึ่งจะเจอกันที่ร้านข้าวไอ้เอ๋อมันก็ดันลืมไปเสียได้ หมอปากเสียแอบหัวเราะเยาะเบาๆ ไอ้ต้าร์มันเห็นมันเลยเบะปากคว่ำใส่ สิงห์เดินนำทุกคนขึ้นไปบนกุฏิ
“นะโมไปนิมนต์หลวงตาออกจากห้องทีสิ” สิงห์บอกไอ้เอ๋อ มันก็รีบวิ่งไปเคาะห้องของหลวงตา แล้วเปิดประตูเข้าไปเห็นหลวงตากำลังนั่งทำสมาธิอยู่ มันเลยคลานเข่าเข้าไป เรียกหลวงตาให้ออกจากสมาธิ
“หลวงตาจ้ะ หลวงตา พี่สิงห์มาหาจ้ะ”
“.....” หลวงตาออกจากสมาธิแล้วพยักหน้า ก่อนจะก้มกราบองค์พระพุทธรูป
“ไปเรียกพวกนั้นเข้ามาสิ”
“จ้ะ” ไอ้เอ๋อมันคลานเข่อออกไปตามพวกที่อยู่ด้านนอกให้เข้าไปพบหลวงตาด้านใน
“มีอะไรอีกละโยมสิงห์...อ่อ เรื่องสัญญา อาตมาเซ็นต์ให้เรียบร้อยแล้วละไม่อะไรที่อาตมาจะต้องกังวลอีก โยมสิงห์เห็นเป็นเช่นไรก็แล้วแต่โยมสิงห์เถอะ โยมเองก็โตๆ กันแล้ว จะคิดจะทำอะไรก็คิดให้มันลึกๆ คิดให้มันดีๆ” สิ้นเสียงไอ้ต้าร์มันก็ร้องเสียงหลง
“ไม่ได้นะครับหลวงตา หลวงจะยอมให้ไอ้เอ๋อไปอยู่กับมันได้ยังไง รู้จักกันก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไว้ใจได้เปล่าก็ไม่รู้ มันอาจจะมาหลอกนะโมก็ได้นะครับหลวงตา” ไอ้ต้าร์มันใส่เต็มที่ มันไม่ไว้หน้าใครทั้งนั้น ดวงตาคู่คมมองไปยังไอ้เด็กเอ๋อที่ยืนคุยกับจิ้งจก ด้วยความรู้สึกหวงแหน มันไม่อยากให้ใครพรากนะโมไปจากมัน มันเลี้ยงไอ้เอ๋อมา จู่ๆ จะมาชุบมือเปิบไปได้ยังไง
“ใจเย็นสิเว้ยไอ้เด็กคนนี้” หลวงตาเอ็ดใส่มันอย่างระอา ไอ้ต้ามันจะดื้อด้านก็ต่อเมื่อเป็นเรื่องของไอ้เอ๋อเท่านั้น
“เย็นไม่ได้แล้วครับหลวงตา นี่มันเรื่องใหญ่นะครับ เรารู้จักพวกเขาดีพอแล้วหรอ ถ้าเกิดว่าเขาทำอะไรไอ้เอ๋อมันละ ดูหน้าตาไว้ใจได้ซะที่ไหน” มันจงใจพูดใส่ไม้
“เอาเถอะน่า อาตมารู้ว่าอะไรเป็นอะไร เงียบๆ ไว้เถอะไอ้ต้าร์ เอ็งนะยังเด็กงานก็ยังไม่มีเรียนก็ยังไม่จบ เอ็งจะดูแลอะไรไอ้เอ๋อมันได้ โยมสิงห์เค้าหางาน หาที่เรียนให้ไอ้เอ๋อมัน เอ็งก็น่าจะดีใจที่ไอ้เอ๋อมันจะมีอนาคตที่ดีกับเขาบ้างไม่ใช่เรอะ!! ”
ดีใจกับผีอะไรละ คนเค้าอุตส่าห์เฝ้าถนุถนอมมาตังแต่เด็กๆ จู่ๆ ก็มาโดนแย่งใครมันจะไปยอม!!
“แต่ว่าหลวงตา ผมไม่ไว้ใจพวกมัน มันต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่ๆ จู่ๆ จะมานึกเอ็นดูไอ้เอ๋อ ปัญญาอ่อนแบบนี้ ไม่มีทาง!! ” ไอ้ต้ามันว่าใส่เสียงแข็ง หมอไม่ที่อดทนอยู่นานอดไม่ไหวจริงๆ
“ก็เพราะว่ามีแต่ความคิดร้ายๆ แบบนี้ไง ถึงไม่มีใครเขาเอา เหอะ!! แล้วทำมาพูดดี ที่แท้ก็จะเก็บนะโมไว้คนเดียวละสิ นายนะแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่หมดแล้ว คิดอะไรอยู่อย่านึกว่าคนอื่นเค้าจะไม่รู้ อีกอย่างนะถ้านายเอาสิ่งที่พวกเราทำไปคิดดูดีๆ ว่าที่ทำไปนะเพราะอนาคตของน้องทั้งนั้น มีแต่นายนั่นแหละที่เห็นแก่ตัว!!! ” คำพูดของหมอไม้ทำเอาไอ้ต้ามันสะอึก เพื่ออนาคตของไอ้เอ๋อ คำคำนี้ทำไมเขาถึงไม่เคยคิด ไอ้ต้าร์มันกัดฟันกำมือตัวเองแน่นด้วยความเจ็บใจ
ก็บอกแล้วว่าแข่งเรือแข่งพายมันแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันยาก มันนะคนละระดับกับสิงห์ชนิดที่เรียกว่าเทียบไม่ติด มองไม่เห็นฝุ่นเลยละ
“ไอ้เอ๋อ” เมื่อสิ้นหวังในทุกๆ อย่างมันก็หันไปหาต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ไอ้เอ๋อมันละสายตาจากเพื่อนจิ้งจกของมันแล้วส่งยิ้มหวานให้กับไอ้ต้าร์
“จ๋าพี่ต้าร์”
“มึงอยากกอยู่กับไอ้..เอ่ออ คุณสิงห์เหรอ? มึงไม่อยากอยู่กับหลวงตากับกูแล้วเหรอ?”
“หืมม เอ๋...พี่ต้าพูดอะไร หนูน่ะจะไปทำงานเอาเงินมาเลี้ยงน้องเลี้ยงหลวงตาจ้ะ ไม่ได้หนีไปไหนนี่ หนูก็ต้องอยากอยู่กับพี่กับหลวงตาสิ”
“งั้นมึงก็ไม่ต้องย้ายไปไหนสิ!! ”
“อ่า..แต่ถ้าไม่ไปหนูก็จะไม่ได้เงิน>-< หนูอยากได้เงิน ๆ ๆ ๆ T^T” แม้จะสื่อสารกันผิดนิดหน่อยแต่กับสิ่งที่ไอ้เอ๋อมันแสดงออกมาไอ้ต้าร์มันแพ้ราบคาบ เพราะไอ้เด็กเอ๋อของมันเดินไปอยู่ข้างๆ คนที่เหนือกว่ามันทุกอย่างนั้นมันคือคำตอบของทุกอย่างแล้ว แววตาไอ้ต้าร์มันดูผิดหวังจนคนที่ยืนขำอยู่เงียบถึงกับหยุดชะงัก
“ไอ้เอ๋อ..ต่อจากนี้ไปกูจะไม่มาหามึงอีก” เสียงมันแผ่วในตอนท้าย ไอ้ต้ามันมองหน้าทุกคน (ยกเว้นหลวงตาที่มันกราบลา) ด้วยแววตาชิงชังก่อนจะมาหยุดที่ไอ้เอ๋อแววตาของมันเปลี่ยนไปในทันที แววตาของไอ้ต้าร์มันเศร้าแล้วก็สิ้นหวัง ไอ้เอ๋อมันเอียงคอมองกลับด้วยความที่ไม่เข้าใจ
“พี่ต้า...เป็นอะไรจ้ะ” ต้ามันไม่ตอบมันเดินลงบันไดไปแล้วหายไปเลย
“ปล่อยมันไปสักพักเถอะโยม นี่คงจะไปขัดใจมัน มันเลยโมโหแบบนั้น จะมาขนของให้นะโมมันใช่ไหม”
“ครับหลวงตา”
“อืมถ้าอย่างนั้นก็ตามสบายนะอาตมาจะเข้าไปทำสมาธิ”
“ขอบพระคุณครับหลวงตา” สิงห์ยกมือขึ้นไหว้หลวงตาก่อนจะแยกย้าย พอเข้ามาในห้องของนะโมสิงห์เห็นกองข้าวของของ ใครบางคนที่ไม่ใช่ของนะโมเข้า คิ้วสีเข้มเริ่มกระตุกอีกครั้ง สิงห์ปั้นยิ้มหันไปถามคนตัวเล็กที่ง่วนกับการเก็บของใส่ถุง
“นะโมครับ มีใครมานอนที่นี่ด้วยหรอครับ” แม้น้ำเสียงของสิงห์จะนุ่มนวลแต่ไม่เมืองรุ้ดีว่ารุ่นพี่คนนี้กำลังเดือดแค่ไหน
“อ๋อ พี่ต้าจ่ะ พี่ต้ามานอนเป็นเพื่อนหนู” สิ้นคำสติสิงห์แทบจะขาดผึงใบหน้าหล่อตึงถูกซ่อนเอาไว้ใต้รอยยิ้ม
“หรอ แล้วนะโจะเอาอะไรไปบ้างครับพี่จะได้ช่วยหยิบ”
“เอากล่องๆ สีแดง” มันชี้ไปที่กล่องคุกกี้สีแดงบนหิ้งพระ ไม้เมืองเดินไปหยิบให้ก่อนจะเขย่ามันเบาๆ ด้วยความสงสัย
“นี่อะไรครับ”
“กระดูกแม่ด่างครับ ฮี่ๆ” ของรักของมันอีกชิ้น ไอ้เอ๋อมันฉีกยิ้มจนกว้างก่อนจะรับกล่องคุกกี้เอามาแนบอก
“แม่ด่างเราไปอยู่บ้านสวยๆ กันนะ” มันคุยกับกล่องสีแดงในมือ
“ใครวะพี่ชื่อเหมือนหมาเลย” สิงห์รีบสะกิดให้ไม้เมืองหุบปาก
“//ก็หมานะสิ จู๊ๆ หมาที่คาบนะโมมาให้หลวงตาเลี้ยงไง” สิงห์บอกเสียงกระซิบไม่เมืองรีบเอามือปิดปาก
“จริงดิ งั้นที่เคยได้ยินว่านะโมกินนมหมาก็ *0*!! ”
“เออออ จะตกใจอะไร เราสิต้องขอบคุณแม่ด่างที่เลี้ยงน้องมาจนโต”
“นี่มุข?”
“บ้าไม่ใช่ ไปๆ ขนของขึ้นรถจะได้รับไปจัดห้องให้น้อง” สิงห์ไล่พร้อมกับลอบมองไอ้เอ๋อไปด้วย
“ของมีแค่นี้ใช่ไหมครับ” ไอ้เอ๋อมันพยักหน้ารับ
“เสร็จแล้วก็ไปลาหลวงตากันนะครับ”
สิงห์พาไอ้เอ๋อมันไปลาหลวงตาที่ห้องข้างๆ หลวงตาฝากฝังให้สิงห์ดูแลนะโมให้ดี ถ้านะโมก่อปัญหาอะไรก็ให้เอานะโมมาส่งคืน สิงห์รับคำ ก่อนที่ทั้งหมดจะก้มลงกราบหลวงตาและเดินทางกลับมาที่บ้านของสิงห์อันที่จริงก็ไม่ได้อยู่ไกลจากวัดเท่าไหร่หรอกแค่อยากทำให้ถูกต้องก็เท่านั้น ทั้งสามช่วยกันจัดข้าวของจนเรียบร้อยกว่าจะรู้ตัวก็ค่ำมืด หมอไม้ขอตัวกลับก่อนเพราะต้องเข้าเวรต่อ เหลือไว้แต่เจ้าของบ้านกับคนอาศัยที่ดูจะตื่นเต้นกับทุกอย่างโดยเฉพาะชักโครกอัตโนมัติ
“อ๊า มันยิงน้ำใสหนูพี่จ๋าอ๊ากกก อย่านะ อื้ออออมันเปียก” ไม่ต้องคิดถึงสภาพของไอ้เอ๋อ มันแดกน้ำในโถชักโครกไปหลายอึกแล้ว สิงห์ก็ดันลืมไปว่าของพวกนี้นะโมไม่เคยใช้ พอได้ยินเสียงน้องร้องลั่นเจ้าตัวที่กำลังจะหุงข้าวก็รีบวิ่งมาดู
นะโมในสภาพเปียกแต่ไม่เปียกธรรมดามันเปลือยท่อนบนด้วย สิงห์ชะงักก่อนจะรีบเอาตัวไปบังน้ำที่พุ่งใส่หน้าไอ้เอ๋อไม่หยุด เขากอดมันไว้ในอ้อมอก แล้วเอื้อมมือไปกดปิดสวิสทุกอย่างถึงได้สงบลง ไอ้เอ๋อมันยืนหอบ ผมเรียบลู่น้ำหยดติ้งๆ สิงห์อมยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นปัดน้ำออกจากใบหน้าหวานๆ นั่น
“มะ..มันพุ่งใส่หน้าหนู แฮกๆ มะ มีผีสิงอยู่แน่ๆ เลย*0*” ดูความเพ้อเจ้อของมัน-*-เพราะความคิดแบบนี้ เพราะมันเป็นแบบนี้สิงห์ถึงได้มีรอยยิ้มทั้งๆ ที่เป็นคนยิ้มยาก
“ผี? หึหึ ไม่มีหรอกครับที่นี่ มีแต่ผีทะเล” น้ำเสียงติดหื่นของสิงห์ทำเอาไอ้เอ๋อมันเอียงคอมอง
“ผีทะเลอะไรหรอจ้ะ” -////-ร่างสูงรับดามเมจไปแบบเต็มๆ จนแทบจะตั้งตัวไม่อยู่ สองมือที่กอดเอวน้องอยู่กระชับแน่นขึ้น
“อะ เอ่อ ไม่มีอะไรหรอกครับ ฟู่” เขาถอนหายใจออกมา
“พี่จ๋าหนูอึดอัด อย่ารัดแน่นสิ อื้ออ” ไอ้เอ๋อมันไม่ได้มองว่าสิงห์มองมันด้วยสายตาแบบไหน ดวงหน้าหวานฉ่ำสะบัดไปมาพร้อมกับพยายามแกะมือตุ๊กแกของสิงห์ไปด้วยมันอึดอัดจนแทบจะหายใจไม่ออก
“อะ..อ้อโทษที” เมื่อรู้ตัวว่ากำลังทำน้องหายใจไม่ออกก็คลายวงแขนออกแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อย
“อาบน้ำดีกว่าไหม? ดูสิเปียกไปหมดเลย”
“หนูอยากลงอ่าง!!! ” พอบอกว่าจะให้อาบน้ำมันก็รีบชี้ไปที่อ่างอาบที่ทำจากถังไม้ขนาดใหญ่ทันที
“เอาสิครับ” สิงห์เดินไปเปิดน้ำใส่อ่างไว้ให้นะโม พอหันหลังมาไอ้เอ๋อมันก็แก้ผ้ารอเตรียมโดดลงอ่างแล้ว!! ดีที่มันยังเอามือกุมไข่มันเอาไว้!!
“เห้ยนะโม....-///- ทำอะไรเนี้ยะ”
สิงห์ตบหน้าตัวเองฉาดใหญ่เพื่อเรียกสติตัวเอง เขาต้องใช้ความอดทนกับสมาธิมากขนาดไหนถึงจะเดินออกมาจากห้องน้ำได้นั่นได้โดยไม่จับไอ้เอ๋อมันกดในห้องน้ำ
“....^0^...”
“เอ่อ ยะ อย่าอาบนานนะ พี่จะไปทำข้าวเย็นให้” เขาหันหลังให้ไอ้เอ๋อแล้วพูดบอก เป็นอีกครั้งที่หมอหนุ่มต้องบอกกับตัวเองให้ตั้งสติ อย่าทำน้อง น้องยังเด็ก
หมอหมาใจบางโคตรๆ เลยตอนนี้...
“จ้ะ หนูอาบไม่นาน เย้ๆ” มันเอาตัวลงไปในอ่างที่มีน้ำอุ่นกับฟองสบู่ลอยฟ่องนั่งตีฟองพับๆ เป็นเด็กเจอน้ำ
หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำได้สิงห์ก็ยืนทำใจอยู่สักพักก็เริ่มทำอาหารง่ายๆ ที่เขาพอจะได้อย่างข้าวไข่เจียวหมูสับแต่กว่าจะทำได้ไข่ก็หมดไปเกือบแผงเพราะเป็นแบบนี้ยังไงละสิงห์ถึงต้องแม่บ้าน แต่เขาอาจจะลืมอะไรบางอย่างไปก็ได้ ว่าไอ้เอ๋อมันจะทำกับข้าวเป็นไหม?
“ไปตามน้องมากินข้าวดีกว่า” พูดแค่นั้นก็เดินไปยังห้องน้ำที่ไอ้เอ๋อมันอยู่ มือหนาค้างอยู่ที่ลูกบิดเขาสูดลมหายใจลึกก่อนจะบิดลูกบิดเข้าไป เห็นไอ้เอ๋อมันเอาคอพาดขอบอ่างแล้วหลับไป นี่คงจะสบายตัวจนเคลิ้มหลับ
“หึหึ ขนาดหลับยังน่ารักน่ากินขนาดนี้ อย่าทำให้พี่อดใจไม่ไหวไปมากกว่านี้เลยนะครับ” สิงห์เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาไว้ในมือก่อนจะช้อนตัวนะโมขึ้นจากอ่างน้ำแล้วใช้ผ้าคลุมร่างกายขาวเนียนของไอ้เอ๋อเอาไว้ มันปรือตาขึ้นมามองนิดๆ มุมปากของมันยกยิ้มให้สิงห์ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกกว้างๆ ของสิงห์แล้วหลับต่อ
“เห้อออ นะโม” สิงห์อุ้มไอ้เอ๋อมาไว้ในห้องนอนของเขาวันนี้เขาจะให้มันนอนกับเข้าก่อนพอวางร่างอ่อนนุ่มลงบนที่ของของตัวเองแล้วก็ต้องมายืนเกาหัวอีกรอบ
“นี่กูจะทำยังไงดีวะเนี้ยะ” จะอะไรซะอีกละ เขาต้องแต่งตัวให้น้องแต่ในสภาพจิตใจเขงเขาตอนนี้มันยากมาก ยากมากที่จะไม่เผลอทำอะไรกับร่างกายที่มีผลต่อจิตใจเขามากมายขนาดนี้....
“สติเว้ย ไอ้สิงห์ สติ!!! ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ถ้าตกหล่นเขียนผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะ ออเจ้า >///<
อย่าลืมให้กำลังใจเค้าด้วยนะออเจ้า
ความคิดเห็น