คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : 12
12
=นะโม=
บอกตรงๆ หนูโกรธพี่จ๋ามาก น้อยใจด้วยที่พี่จ๋าทิ้งหนูไว้ที่นั่นทั้งๆ ที่เราก็สัญญากันไว้แล้วแท้ๆ นั่งมองพี่จ๋าได้นิดเดียวก็ต้องหายงอลเพราะพี่จ่าขู่ว่าจะตาย หนูไม่ชอบคำนี้ ไม่ชอบๆ เพราะหนูรักพี่จ๋า ไม่อยากให้พี่จ๋าตาย แค่คิดน้ำตาก็ไหล ไม่อยากเสียใจ ไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว
พี่จ๋าบอกว่าเรากลับบ้านไม่ทันแล้วตอนนี้ถนนมืดไปหมด แถมหนูก็หิวด้วย พี่จ๋ามองหน้าหนูพร้อมกับยิ้มหวานให้มองอยู่นาน นานจนท้องมันร้องเสียงดัง
“พี่จ๋า หิว หนูหิว” แค่หนูบอกว่าหิวพี่จ๋าก็พาไปหาข้าวกินทันทีเลย หนูได้ของอร่อยๆ มาหลายอย่างพี่จ๋าตามใจหนูหมดเลยไม่ว่าหนูอยากจะกินอะไรพี่จ๋าก็ซื้อให้หนูไม่บนเลยสักคำ หรือว่าพี่จ๋าจะกลัวหนูโกรธอีกก็ไม่รู้ คึคึคึ ระหว่างทางมีแต่คนมองหนูกับพี่จ๋าเต็มไปหมดมีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาหาพี่จ๋าด้วย หน้าตาพี่เขาเหมือนจะกินพี่จ๋าของหนูให้ได้ ดูหิวมากๆ หนูเลยยื่นลูกชิ้นให้พี่เขาไปไม้หนึ่ง ความจริงหนูหวงนะของกินนะ แต่ว่าหนูกลัวพี่เขาจะกินพี่จ๋าหนูมากกว่า บอกเลยว่าจำใจสุดไม่อยากยื่นมือออกไปเลยด้วยซ้ำ
“อะหนูให้ พี่สาวดูท่าจะหิว” พอพี่คนนั้นได้ยินหนูพูดแบบนั้นออกไป เขาก็ทำหน้ายักษ์ใส่หนู พี่จ๋าก็หัวเราะออกมาเบาๆ นี่หนูทำอะไรผิดหรอ
“ห๊ะ? พี่ไม่ได้หิวค่ะน้อง-*-”
“หึหึหึ” พี่จ๋าหัวเราะทำไม
“คือ ว่า หนูขอเบอร์พี่หน่อยได้ไหมคะ ไลน์ก็ได้” เบอร์หนูรู้จักแต่ไลน์คืออะไรหนูไม่เข้าใจ
“ขออะไรเหรอ พี่สาว?” หนูถามดีๆ ทำไมต้องจิกตาใส่หนูด้วยละ
“เป็นเด็กอย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่สิจ๊ะ” *0*หนูก็ผู้ใหญ่แล้วนะ
“งะ ใครบอกหนูเด็ก หนูอายุ 19แล้วนะ-3- “
“พี่ไม่ได้หมายถึงอายุน้องค่ะ/ว่าแต่พี่ชื่ออะไรคะ” หูยยยไม่สนใจคำพูดหนูเลยอะสนใจแต่พี่จ๋า.....อ๋อออออหนูรู้แล้ว
“ไม่ได้หมายถึงอายุแล้วหมายถึงอะไร อ่า พี่จ๋า” หนูรู้แล้วว่าพี่คนนี้ว่าหนูปัญญาอ่อน หนูรู้แล้วว่าเขามาพี่จ๋าทำไม หนูไม่ยอมหรอกนะ หนูรีบเกาะแขนพี่จ๋าเอาก่อนที่พี่จ๋าจะบอกเบอร์กับพี่สาวคนนั้น หนูลองทำหน้าอ้อนๆ ใส่พี่จ๋า ทำตาปรือๆ เหมือนคนง่วง
“หนูง่วงแล้ว หนูง่วงแล้ว พี่จ๋าพาหนูไปนอนน้า”
“เอ๊ะ น้องคะพี่ยังคุยธุระไม่เสร็จเลย”
“ง่วงแล้วเหรอ ขอตัวนะครับ ^^” พี่จ๋ากอดไหล่หนูเอาไว้แล้วพาเดินกลับห้องโดยที่ไม่หันไปมองพี่สาวอีกเลย คึคึคึ ดีจัง พี่สาวดูท่าจะไม่ชอบใจสุดๆ ด้วย แถมทำหน้าน่ากลัวใส่หนูอีก แต่หนูไม่กลัวหรอกหนูมีพี่จ๋าอยู่ทั้งคน
พอถึงห้องพี่จ๋าก็บอกให้หนูไปอาบน้ำ แต่ว่า พอหนูเดินเข้าห้องน้ำไปก็มีคนอยู่ในนั้น แต่ว่าทำไมเขาต้องทำหน้าดุใส่หนูด้วยละ
“พี่ พี่จะอาบน้ำเหรอ?” พี่เขาไม่ตอบตาหันมาแสยะยิ้มให้แต่ยิ้มพี่เขาดูน่ากลัวT^Tมีเลือดไหลออกมาด้วย น่ากลัววว
“พี่จ๋าอาบน้ำด้วยกัน” ผมเดินออกไปแล้วบอกพี่เขาเสียงเบาๆ หนูอาย แต่หนูกลัวพี่ที่อยู่ข้างในมากว่า
“อาบด้วยกัน”
“หืม? ว่ายังไงนะครับ” พี่จ๋าทำเหมือนไม่ได้ยินที่หนูพูดนี่หนูพูดเสียงดังแล้วนะ
“อาบด้วยกัน”
-///- ทำไมพี่จ๋าต้องหน้าแดงด้วยล่ะ ถ้าพี่จ๋าเห็นพี่ที่อยู่ในห้องน้ำพี่จ๋าจะยิ้มไม่ออก เพราะฉะนั้นตอนนี้รีบเขามาอาบน้ำเป็นเพื่อนหนูไวๆ เลย
บทบรรยาย
ทันทีได้ยินคำชวนของเด็กเอ๋อ เลือดในกายก็แล่นพล่านไปทั่วเหมือนเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เดินแทรกตัวผ่านเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่ชั้นใน เผยให้เห็นมัดกล้ามที่ขึ้นเรียงตัวชัดเจน หากไม่ได้ถอดเสื้อนะโมคงไม่เห็นรอยสักรูปสิงห์ตรงสะบักหลังด้านซ้าย เด็กน้อยมองลวดลายบนตัวร่างสูงด้วยความชื่นชอบ ไหนจะกล้ามท้องแข็งอีก เด็กเอ๋อวัย19ก้มลงมองหน้าท้องตัวเองที่ป่องเป็นก้อนกลมเล็กๆ ถึงกับขมวดคิ้วนิดๆ
“ทำไมของหนูไม่เห็นเหมือนของพี่จ๋าเลย?”
“อยากมีเหมือนพี่เหรอ?”
“อื้อ ว่าแต่ พี่คนนั้นหายไปแล้ว ฟู่วววว” ร่างบางเป่าลมออกมาอย่างโล่งใจพร้อมกับมองสำรวจไปรอบๆ ไม่เห็นแล้วความน่ากลัวเมื่อครู่
“คนไหนครับ นะโมหมายถึงใคร” ร่างแกร่งถามด้วยความสงสัยปนหวั่นๆ เพราะการที่มีใครอื่นนอกจากเขาและนะโมแล้ว ที่เหลือก็ไม่น่าจะใช่คน
“อ่า...หนูไม่รู้แต่พอพี่จ๋าเข้ามาเขาก็หายไป พี่จ๋าเยี่ยมที่สุดเลย”
“อะ เอ่ออ” จากคำบอกเล่าของนะโมทำเอาความหื่นของร่างสูงดับวูบลง นะโมถอดเสื้อผ้าออกใส่แต่กางเกงชั้นในสีชมพู ร่างผอมบางผิวกายขาวเนียนปรากฏต่อสายตา ร่างกำยำลอบกลืนน้ำลายลงคออีกครั้งด้วยความยากลำบาก และพยายามควบคุมจังหวะหัวใจให้คงที่ สิงห์จูงนะโมไปยืนใต้ฝักบัวให้สายน้ำอุ่นๆ ทำหน้าที่ชำระร่างกายมือหนาหันไปหยิบสบู่ก้อนเล็กๆ ของโรงแรมมาถูกับมือเพื่อให้เกิดฟอง เขาชั่งใจนิดๆ ว่าจะถูให้น้องก่อนหรือถูให้ตัวเองก่อนดี แต่พอเห็นสายตาหวานแหววของร่างบางมือมันก็ทำหน้าที่มันอย่างอัตโนมัติ เขาลูบไล้สบู่ไปทั่วเนื้อกายขาวอย่างเบามือ เด็กน้อยยืนยุกยิกๆ ปล่อยให้ร่างสูงฟอกสบู่ให้
“หนูอาบให้พี่จ๋าด้วย” มือเล็กแย่งสบู่ไปจากมือแล้วเริ่มฟอกสบู่ให้อีกฝ่าย แม้จะดูเก้ๆกังๆแต่ก็สร้างความพึงพอใจให้กับร่างสูงไม่น้อย เพราะมือของเด็กน้อยนั้นทั้งนุ่มทั้งเบา นะโมลูบมือไปตามไหล่กว้าง ซอกแขนลามไปถึงใบหน้าหล่อคม
“เสร็จแล้ว” พูดจบก็เปิดน้ำล้างตัว สิงห์จ้องมองเรือนร่างตรงหน้า นะโมหันหลังให้เขาพร้อมกับล้างคราบสบู่ไปด้วยไม่รู้ในหัวเขาคิดอะไรอยู่ ร่างสูงเอื้อมมือไปคว้าเอวเล็กนั่นแล้วรั้งให้มาชิดกับแผงอกแกร่งของตน เขากอดเอวเล็กนั้นไว้หลวมๆ ก่อนจะใช้จมูกคลอเคลียที่ตนขอสวย นะโมหดคอตัวเองแล้วหัวเราะ
“ จั๊กจี้ คึคึคึ” เขาฉวยโอกาสกับร่างบางที่ไม่รู้เรื่องอะไรใบหน้าหวานๆ แหงนมองคนด้านหลังเพียงแค่ชั่ววินาทีที่สบตา ร่างสุงควบคุมสติตัวเองไม่อยู่อีกแล้ว เขาก้มลงประทับจูบลงบนปากอิ่มนั่นทันที มือหนาล็อกใบหน้าสวยไว้ไม่ให้หันหนี เขาสอดแทรกลิ้นเข้าไปเกี่ยวกระหวัดอย่างเอาแต่ใจ เด็กหนุ่มไร้เดียงสาเรื่องแบบนี้ได้แต่ดีดดิ้นและพยายามจะผลักอีกคนให้ออกห่าง ทั้งตกใจแล้วก็ตื่นเต้นปนหวาดกลัว ความรู้สึกของนะโมสับสนปนเปกันไปหมด ถ้าเปรียบได้สิงห์คือหมาป่าผู้หิวกระหาย ส่วนนะโมเป็นกระต่ายตัวอ้วนที่กำลังจะโดนกิน
“อื้อ”
“ระ ...รีบล้างตัวดีกว่าครับ” ดูเหมือนฟางเส้นสุดท้ายจะยังไม่ขาดสะบั้น สิงห์หักห้ามตัวเองไว้ได้ทัน เขาไม่อาจจะทำร้ายน้องได้แค่นี้ก็ฉวยโอกาสมากเกินไปแล้ว ความรู้สึกผิดบาปก่อนเกิดขึ้นในใจ เขาถอนจูบอันแสนเร้าร้อนนั้นก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ ตอนนี้ทำได้เพียงจูบกระหม่อมหอมของอีกฝ่ายเอาไว้
“กูเป็นคนบ้ากามตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้สิงห์ ไอ้เลว” เขาสบถด่าตัวเองเบาๆ พร้อมกับยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองแล้วมองเด็กเอ๋อที่ยืนปากเจ่อตรงหน้า นะโมขมวดคิ้วเป็นปม
“งือ พี่จ๋า กัดปากหนูอีกแล้ว -3- พี่จ๋าหิวข้าวเหรอ” คำพูดที่ดูไร้เดียงสาทำเอาร่างสูงถึงกับอ่อนใจ อยากจะบอกให้รู้ว่าที่เขาทำนั้นไม่ได้รู้สึกหิวแต่อย่างใด แต่มันเป็นความรู้สึกที่ผู้ใหญ่เขามีกัน คืออยากร่วมรัก อาการกำหนัดก่อเกิดขึ้นมาแล้วยากที่จะดับ เหมือนลมแรงที่พัดกระพือกองไฟ แต่ในเมื่อเนื้อตรงหน้ายังไม่นุ่มพอที่จะกิน หมาป่าจึงได้แต่ล่าถอยออกมา
“ครับหิวมาก มากจนจะกินะโมเป็นอาหารแล้วครับ” ร่างสูงแกล้งงับลงบนท้ายทอย พร้อมกับสร้างรอยสีกุหลาบเอาไว้
“งื้อออ ไม่เอานะ หนูกินไม่อร่อยหรอก” เด็กน้อยรีบดีดตัวออกจากอ้อมกอดของสิงห์ทันที
หลังจากนั้นก็รีบพากันออกมาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดเดิมเพราะไม่ได้เตรียมอะไรมา ยังดีที่แอร์เย็นเหงื่อเลยไม่ออก นอนหลับได้สบายๆ นะโมนอนติดกำแพงด้านในส่วนสิงห์นอนด้านนอก แต่จู่ๆ ร่างเล็กก็รีบพลิกตัวม้วนมากอดสิงห์ไว้แน่น
“เป็นอะไรครับ”
“ปะ ป่าว นอนเถอะๆ หนูง่วง><” จะไม่ให้ง่วงได้ยังในเมื่อมีใครอีกคนนอนอยู่ตรงนั้นนอนซ้อนทับที่ที่เขานอนเมื่อครู่ วงแขนเล็กกระชับแน่นอยู่บนเอวหนา แถมตัวยังสั่น จนร่างสูงที่นอนให้กอดนิ่งๆ ต้องกอดตอบ ถามก็ไม่ยอมพูดเอาแต่ส่ายหน้าไปมา พอถามหนักๆ เข้าก็แกล้งโกรนใส่หน้าเขาอีก จำใจต้องข่มตานอนด้วยความหวาดระแวง ดีแล้วที่เขาไม่เห็นไม่อย่างนั้นสติคงได้กระเจิงกับภาพที่นะโมเห็นเป็นแน่
เช้าวันต่อมา
“ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง” เสียงกระซิบแหบพร่าดังอยู่ใกล้ๆ กับใบหูนิ่ม
(จบบรรยาย)
ไอ้เอ๋อผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับมองพี่จ๋าของมันด้วยความตกใจ มันกำลังจะเอ่ยปากเล่าสิ่งที่มันเห็นเมื่อคืนให้อีกคนฟัง
“ไม่ต้องเล่าครับ พี่จ๋าเข้าใจ” สิงห์ไม่อยากเสี่ยงหัวใจวายตาย เขาเบรกไม่ให้ไอ้เอ๋อมันพูด แล้วดึงเอ๋อให้ขยับเข้ามาใกล้ก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากอุ่นเป็นการรับอรุณ
“ทำไรอะ?” ไอ้เอ๋อมันจับปากตัวเองเบาๆ แล้วมองหน้าสิงห์ มันรู้ว่านี่คือการจูบแต่จูบมันทำไม
“จูบรับตอนเช้าไงครับ”
“อ่อ..>x< จุ๊บ” นี่มันรู้ตัวบ้างไหมว่าทำอะไรลงไป มันจูบกลับสิงห์
“!!! ”
“จุ๊บตอนเช้า”
“หึหึ ครับ นะโมทำแบบนี้ได้เฉพาะกับพี่จ๋าคนเดียวนะครับ ห้ามทำกับคนอื่น” สิงห์บอก แล้วใช้นิ้วไล้ที่ริมฝีปากของไอ้เอ๋อเบาๆ เริ่มรู้สึกว่าหวงแหนปากคู่นี้มาซะอย่างนั้น
“อื้อ หนูจะทำกับพี่จ๋าคนเดียว” มันผูกมัดตัวเองกับสิงห์อย่างไม่รู้ตัว และมันก็สร้างเชือกเส้นหนาผูกสิงห์ไว้กับมันเช่นเดียวกัน
“พี่ก็จะทำกับนะโมแค่คนเดียวครับ”
++++++
กว่าจะถึงบ้านก็เกือบบ่ายดีที่แวะซื้อกับข้าวเข้ามาก่อนไม่อย่างนั้นได้นั่งหิวกันยันเย็นแน่ ไอ้เอ๋อมันรู้ว่าสิงห์ล้ามันรีบจัดเตรียมเทกับข้าวใส่จาน เพื่อที่จะได้รีบกินรีบพัก ต่างคนต่างกินโดยที่ไม่พูดไม่จา เพราะเหนื่อยเกิดกว่าจะพูดอะไรกัน พอกินเสร็จไอ้เอ๋อมันก็เอาจานไปล้างส่วนสิงห์เดินไปอาบน้ำออกมาก็ไม่เจอคนของตัวเอง เลยเดินหากันรอบบ้าน เจอมันอีกทีก็นอนกรนอยู่บนเปลญวนใต้ถุนบ้านน้ำท่าก็ไม่อาบ สิงห์เองก็ไม่อยากจะปลุก แต่อยากให้มันสบายกว่านี้เลยเดินไปอุ้มมันจากเปลแล้วพาขึ้นบ้าน ไอ้เอ๋อมันหลับลึกไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น สิงห์วางมันลงบนที่นอนนุ่มอย่างเบามือ ที่นอนที่กว้างกว่าของมันถึงสองเท่า แถมยังเปิดแอร์เย็นฉ่ำ
“ขนาดหลับยังน่ารักขนาดนี้ รู้ตัวบ้างไหมครับ”
“.....”
“พี่ชักจะหวงเรามากขึ้นทุกวันแล้วนะ” สองนิ้วไล้ไปทั่วโครงหน้าหวานๆ ของไอ้เอ๋อ ก่อนจะหยุดลงที่ริมฝีปากนิ่มคู่นั้นปากที่เป็นเหมือนน้ำหวานที่หลอกล่อแมลงอย่างเขาให้ลุ่มหลงอย่างไม่รู้ตัว สิงห์ฉวยโอกาสกับปากอิ่มอีกครั้ง เขาลิ้มลองน้ำหวานบ่อน้อยอย่างย่ามใจ
“อืออ หายใจไม่ออก” ไอ้เอ๋อมันขยับหน้าหนีเมื่อถูกรบกวนหนักเข้า
“หึหึ พอแล้วก็ได้ไว้หนูโตอีกหน่อยพี่จ๋าไม่ปล่อยหนูไว้แน่ๆ” เขาก้มลงจูบหน้าผากมนอีกครั้งยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยว่านะโมทำให้เขาต้องออกกำลังกายขายเกือบทุกวันตั้งแต่อยู่ร่วมชายคากันมา วันนี้ก็ด้วยสิงห์ผละจากไอ้เอ๋อแล้วพุ่งตรงไปยังห้องน้ำก่อนจะทำลายเผ่าพันธุ์ของตัวเองนับล้านตัวในเวลาไม่นาน พอจัดการตัวเองเรียบร้อยก็กลับมานอนเคียงข้างไอ้เอ๋อ เขาดึงมันเข้าสู่อ้อมกอดและเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝัน
+++++++++++++
“ไอ้เอ๋ออยู่ป่าว ไอ้เอ๋อ” เสียงร้องเรียกดังอยู่ที่ประตูบ้านเรียกให้เจ้าของบ้านตัวจริงเดินออกมาดูไอ้เอ๋อมันยังคงทำงานบ้านตามหน้าที่ของมัน พอได้ยินเสียงเรียกก็จะเดินไปหาแต่สิงห์เรียกเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวพี่ออกไปดูเองเราทำงานต่อไปเถอะ”
“อื้อ” มันหันไปตั้งหน้าตั้งตากวาดบ้านต่อ รอจนสิงห์พาต้าร์เข้ามาในบ้าน
“ไอ้เอ๋อทำงานเสร็จรึยังวะกูจะชวนไปเตะบอล” ต้ามันไม่ได้สนใจเจ้าของบ้านอย่างสิงห์สักนิดมันเดินไปหาไอ้เอ๋อพร้อมกับจับมือเอาไว้
“เตะบอลลลลลลลหรอ*0*” นานเท่าไหร่แล้วที่มันไม่ได้ออกไปเล่นเหมือนแต่ก่อนพอได้ยินว่าต้าจะพาไปเตะบอลมันแทบจะทิ้งไม้กวาดในมือ
“เออทำงานเสร็จรึยัง”
“ยังเลย-3-”
“งั้นเดี๊ยวกูช่วย” สิงห์มองค้อนคนมาใหม่นิดๆ แต่ก็ไม่อยากจะแสดงท่าที่อะไรมากมาย เพราะเห็นว่าต้ายังเป็นคนสำคัญของไอ้เอ๋ออยู่อีกอย่างถ้าโวยวายไปไอ้เอ๋อคงจะมองเขาไม่ดีแน่ๆ สิงห์เลยได้แต่ปั้นหน้ายิ้มให้ไอ้เอ๋อ
“พี่จ๋าหนูไปได้ไหม?”
“ไปได้ครับ ว่าแต่พี่จ๋าไปด้วยได้ไหมครับ^^”
“พี่จ๋าจะไปเตะบอลกับหนูหรอ ไปๆ ไดๆ ไปๆ ๆ ๆ ๆ” ไอ้เอ๋อมันแทบจะกระโดดตัวลอยพอได้ยินว่าสิงห์จะตามมันไปด้วย ช่วงนี้มันติดพี่จ๋าของมันมาก ผิดกับอีกคนที่เริ่มก้าวข้ามเขตมาไม่ถึงนับวันยิ่งห่างไกล
“ใครอนุญาต ไม่ได้มาชวนอย่าสะเออะ! ” ต้าพูดตอกใส่หน้าอย่างไม่เกรงกลัว
“หึหึ อยากโดนไอ้หมอไม้มันอีกรอบเหรอที่โดนมาไม่เข็ดใช่ไหม” สิงห์กระซิบเสียงเข้มพร้อมกับบีบไหล่ของต้าร์ไปด้วย เด็กหนุ่มวัยใจร้อนร้องออกมาเบาๆ แต่ก็ยังคงเก๊กหน้าเอาไว้กลัวเสียงฟร์อม
“ไอ้พี่หมอมันเกี่ยวอะไรด้วย เรื่องของกูกับมันจบไปแล้ว”
“มึงคิดว่าเพื่อนกูจะจบด้วยไหมล่ะ ได้ข่าวว่ามันกำลังตามหาตัวมึงอยู่ไม่ใช่เหรอ” ต้าร์สะบัดตัวออก
“ตามทำไม เหอะไอ้ที่ได้ไปมันไม่พอสินะ เพื่อนมึงมันชั่ว ตัวมึงเองก็คงไม่ต่างกัน”คำพูดที่แสนแค้นเคืองสาดใส่สิงห์ไม่หยุด
“กูชั่วกับเฉพาะบางคน โดยเฉพาะคนอย่างมึง”
“คุยอะไรกันหนูคุยด้วย” ไอ้เอ๋อที่แอบมองสองคนนั้นมาสักพักแล้วอดที่จะพูดแทรกเพื่อเรียกร้องความสนใจขึ้นทัน
“คุยไรละเสร็จรึยังงานนะชักช้ากูไปก่อนนะมึง” ต้าไม่ได้หมายความอย่างที่พูดหรอกมันแค่ขู่แกล้งไอ้เอ๋อเล่นเท่านั้น เพราะยังไงวันนี้ไอ้เอ่อก็ต้องอยู่กับมันทั้งวัน ใช้เวลาไม่นานงานของไอ้เอ๋อก็เสร็จ เพราะมีทั้งสิงห์และต้าร์ช่วยกันแย่งทำ ต้าร์ไล่มันไปอาบแต่งตัวใหม่ก่อนจะพากันออกจากบ้านไอ้เอ๋อมันรีบไปซ้อนมอเตอร์ไซน์ฟีโน่คันเดิม ไอ้ต้ารหันไปยิ้มเยาะใส่สิงห์อย่างผู้ชนะ แต่รู้อะไรไหมต้าร์มันรู้จักหมอหมาของเราน้อยไป สิงห์เดินนิ่งๆ ไปที่รถของต้าก่อนจะนั่งซ้อนปิดท้ายพร้อมกับกอดเวไอ้เอ๋อไว้แน่น
“คิคิคิไปด้วยกันๆ”
สนามฟุตบอลหลังวัด
“อ่าวไอ้เอ๋อ” เสียงของหมีเพื่อนสนิทของต้าเอ่ยทักด้วยรอยยิ้มล้อๆ
“พี่หมี พี่อิน พี่กัส กรี๊ดดดด” มันกระโดดลงจากเบาะหลังทันทีที่มันเห็นว่าเพื่อนๆ ของต้าร์นั่งอยู่ขอบสนาม
มันวิ่งๆ เข้าไปโถมตัวใส่กัสที่อ้าแขนรับมันอยู่แล้ว พวกเพื่อนของต้าไม่ได้เจอไอ้เอ๋อมันนานเลยคิดถึงกันเป็นธรรมดา รอยยิ้มสดใสของมันโปรยไปทั่วสนามหลายคนเดินมาทักมันบ้างก็แกล้งมัน สิงห์มองดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองกักขังน้องไว้เกินไปรึเปล่า
“เตะบอล พี่กัสหนูจะเตะบอล”
“มึงจะเตะบอลหรือบอลจะเตะมึงกันแน่ไอ้เอ๋อ ดูพวกพี่ๆ เขาเล่นก็พอมานั่งนี่มา” กัสพูดหยอกไอ้เอ๋อพร้อมกับตบมือลงบนพื้นให้มันข้างๆ
“งะ ไหนพี่ต้าบอกจะพามาเตะบอล-3- “
“โอ๊ยไอ้ซื่อ!! มันพามาให้กำลังใจเว้ยมึงอะมีหน้าที่นั่งปรบมือให้ไอ้ต้าร์มันก็พอ” อินหรืออินทรีพูดเสียงกรั้วหัวเราะพร้อมกับโห่แซวไอ้ต้าร์เพื่อนรักไปด้วย
“กำลังใจมึงมาละอย่าแพ้นะมึง ไม่งั้นกูกระทืบมึงซ้ำแน่” หมีหนึ่งในนักเตะที่ลงสนามชี้หน้าต้าร์ขำๆ
“อะไรอะ ขำทำไม ขำพี่ต้าทำไม?”
“เอ้าจะสงสัยอะไรปรบมือสิวะ” กัสจับมือไอ้เอ๋อปรบ มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายพร้อมหัวเราะเอิ๊กอ๊าก อะไรมันก็ไม่รู้หรอกมันรู้แค่ว่าต้องนั่งปรบมือเข้าไว้
“พี่ขอลงแข่งด้วยสิ” จู่ๆ สิงห์ก็เดินเข้ามาในสนามพร้อมกับบอกจุดประสงค์คือของตัวเองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มหว่านเสน่ห์ให้กับแรงเชียร์ทั่วสนาม ทำเอาสาวๆ ที่นั่งดูอยู่กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่
“พี่มีทีมเหรอ 6คนนะพี่” กัสเดินเข้ามาสมทบพร้อมกับกันไม่ให้สองคนนี้เข้าใกล้กันจนเกินไป กัสรู้นิสัยเพื่อนตัวเองดีว่าใจร้อนแค่ไหน
“ครบสิเรารอได้รึเปล่าละ”
“พวกผมไม่ได้ว่างขนาดนั้นพี่ เวลาเป็นเงินเป็นทอง”
“หมื่นหนึ่งสำหรับเดิมพัน ห้าพันสำหรับค่ารอ” นี่เท่ากับว่าฝั่งต้าร์ถ้าแพ้ก็เสียแค่ห้าพัน กัสทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะตอบตกลง
“ก็ได้พี่ ครึ่งชั่วโมงต้องพร้อมถ้าไม่พร้อมถือว่าแพ้ฟาวล์นะครับ เงินทุกบาททุกสตางค์พวกผมริบหมด”
“ได้เสมอ..หึหึหึ”
ถึงเวลาของแก๊งหมอโหดและโฉดชั่วแล้วค่ะ
ความคิดเห็น