คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ข่าวคราวโจรโรคจิต & การกลับมาของใครบางคน 35%
“เข้าบ้านดีๆนะ”
“ขอบใจนะที่มาส่ง ขับรถดีๆล่ะ ^_^”
หลังจากที่ฟาซายน์มาส่งฉันที่บ้านตามเดิม เราล่ำลากันที่หน้าบ้านอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ฟาซายน์จะขับรถออกไป ฉันมองตามหลังรถของหมอนั่นที่ค่อยๆเลือนหายไปลับซอย ก่อนที่จะหมุนตัวเดินเข้าบ้านของตัวเอง
ฉันอาศัยอยู่ที่บ้านกับพ่อและแม่ค่ะ เรามีกันแค่สามคนพ่อแม่ลูก ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวไม่มีพี่หรือน้องที่ไหนอีกแล้ว บางครั้งฉันก็ต้องอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง เพราะว่าพ่อกับแม่ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยๆ บางครั้งก็ไปเยอรมัน อาทิตย์ต่อมาฉันก็ได้ข่าวว่าบินไปญี่ปุ่นอีกแล้ว งานของพ่อกับแม่ไม่ค่อยประจำหรือถาวรเท่าไหร่ เพราะต้องเดินทางไปพบลูกค้าให้กับบริษัทอยู่เป็นประจำ คือพ่อจะไปคนเดียวก็ได้นะ แต่แม่ฉันสิกลัวว่าพ่อจะไปแอบมีกิ๊กเป็นฝรั่งหัวแดงตาน้ำข้าว ก็เลยต้องกระเตงกันไปสองคน ทิ้งลูกสาวคนเดียวไว้เฝ้าบ้านเพียงลำพัง T_T พูดแล้วมันน่าน้อยใจนัก ฉันเป็นลูกผู้หญิงที่อายุเพิ่งจะย่างเข้าสู่เลขสิบเก้า แต่พ่อกับแม่กล้าปล่อยให้ลูกสาวคนเดียวต้องอยู่เพียงลำพังอย่างหง็อยเหงา กระซิกๆ T^T ชีวิตฉันมันน่าเศร้านะคะ บางวันที่ไม่มีอะไรกิน (เพราะขี้เกียจทำ) ฉันก็ต้องทำอาหารญี่ปุ่นกิน เด็กหอน่าจะได้กินบ่อยๆค่ะ นั่นก็คือมาม่านั่นเอง
และวันนี้บ้านดูเงียบๆ ท่าทางว่าฉันจะถูกสองสามีภรรยานั่นปล่อยเกาะเพียงลำพังอีกแล้ว ไม่รู้ว่าวันนี้จะเดินทางไปประเทศไหนอีก นี่ถ้ามีรางวัลบินรอบโลกอวอร์ด เชื่อเถอะพ่อกับแม่ฉันต้องได้รับรางวัลนี้อย่างแน่นอน!
ฉันไขประตูบ้านตามเดิม แต่วันนี้รู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่อย่างไงอย่างนั้นแหละ ไม่น่าจะใช่ว่าฉันคิดไปเองนะ แต่ขนหลังฉันลุกวูบวาบเสียววาบมาทีทำเอาต้องหันกลับไปมอง
ขวับ!
ฉันหันกลับโดยรวดเร็วเพื่อดูว่ามีคนแอบตามหรือมีไอ้โรคจิตที่ไหนแอบอยู่ที่หน้าประตูบ้านหรือเปล่า แต่แล้วก็มีแต่ความว่างเปล่า เพราะทันทีที่ฉันหันกลับไปก็ไม่เจออะไรที่น่าแปลกใจหรือน่าสงสัยอะไร ฉันส่ายหน้าเบาๆ สงสัยจะคิดมากไป เป็นเพราะว่าช่วงนี้มีข่าวว่ามีโจรโรคจิตเข้าย่องเบาบ้านคน ทำให้ฉันต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ อันตรายรอบด้านแบบนี้พ่อกับแม่ยังแอบบินไปจู๋จี๋กันที่ต่างประเทศอีก TT_TT
ฉันรีบไขกุญแจเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไม่ลืมล็อคประตูไว้เป็นอย่างดี บ้านเงียบแบบนี้แสดงว่าข้อสันนิฐานของฉันเป็นจริง รีบเดินไปที่ตู้เย็นทันทีเพราะรู้ว่าจะมีข้อความของพ่อกับแม่แปะไว้ที่นั่น แล้วมันก็มีจริงๆ ก่อนที่ฉันดึงมันออกมาอ่าน อยากรู้ว่ารอบนี้พวกท่านทั้งสองบินไปประเทศไหน
ถึง ยีนส์ลูกรักของพ่อจ๋าแม่จ๋า จุ๊บๆ...
ยีนส์ เที่ยวนี้พ่อกับแม่มีภารกิจต้องบินไปที่ประเทศฝรั่งเศสนะลูก ไปทำงานครั้งนี้น่าจะประมาณสองเดือน ลูกคงไม่โกรธพ่อกับแม่นา แน่ะๆ แม่รู้นะว่าลูกแอบบ่นในใจอยู่ แต่ครั้งนี้พ่อกับแม่ไม่ได้ให้หนูอยู่คนเดียวนะลูก ช่วงนี้แถวบ้านเรามีข่าวว่าโจรโรคจิตขึ้นบ้านคนบ่อยๆ ครั้งนี้แม่จะให้ลูกไปอาศัยอยู่บ้านของลุงอานนท์เพื่อนของพ่อนะ ไปอยู่กับพี่ราชันท์ลูกชายของลุงอานนท์นะลูก ยีนส์คงรู้จักพี่เขาอยู่หรอกนะ แม่บอกให้พี่เขามารับลูกแล้วล่ะ รีบเก็บเสื้อผ้าแล้วรอให้พี่เขามารับนะจ๊ะยีนส์ แล้วก็อย่าลืมปิดบ้านดีๆนะจ๊ะลูกรัก เดี๋ยวกลับมาแม่จะซื้อของมาฝาก
รักลูกจ๋าของพ่อจ๋าแม่จ๋ามากๆนะจ๊ะ ม๊วฟๆ¤
นั่นเป็นข้อความที่แม่ฉันจ่าหน้าซองถึงฉัน อะไรมันก็คงไม่ทำให้ฉันตกใจได้เท่ากับชื่อของใครบางคนที่มาโผล่อยู่บนกระดาษโน้ตแผ่นนี้ ‘ราชันท์’ ทำไมแม่ถึงได้ฝากฝังชีวิตของฉันไว้กับคนบ้านนั้น แล้วนี่หมอนั่นกลับมาจากต่างประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วพ่อกับแม่ติดต่อกับราชันท์ ผู้ชายใจร้ายพรรค์นั้นตั้งแต่เมื่อไหร่!
ทุกคนคงจะสงสัยว่าราชันท์เป็นใคร แต่บางคนอาจจะเดาถูกแล้วว่าหมอนั่นกับฉันเกี่ยวข้องกันยังไง ใช่ค่ะ...ผู้ชายคนนั้นคือคนที่เคยทำร้ายจิตใจฉันไว้คนบอบช้ำไม่มีชิ้นดี ราชันท์คือคนที่ฉัน ‘เคยรัก’ ใช่! มันก็ต้องเป็นแค่คนเคยรักเคยรู้จักเท่านั้น เพราะเรื่องของฉันและของเขามันจบลงไปแล้ว จบลงไปพร้อมกับความรักที่ฉันมีต่อเขาได้ถูกปิดตายลงแต่ทำไทในเมื่อต่างคนต่างอยู่กันมาตั้งสองปีแล้ว วันนี้เขายังถึงต้องวนเวียนเข้ามาในชีวิตฉันอีกรอบด้วย ฉันไม่เข้าใจว่าฉันทำกรรมอะไรไว้นักหนาถึงต้องโดนเจ้ากรรมนายเวรอย่างผู้ชายคนนั้นตามจองล้างจองผลาญอยู่แบบนี้อยู่ร่ำไป!
¯ปับ ปับ ปา ดั๊บ ดา ดี้ ดา ดา¯
ขณะนั้นเองเสียงมือถือของฉันก็ดังขึ้น ฉันละสายตากระดาษโน้ต ก่อนที่จะล้วงหามือถือที่กำลังกรีดร้องอยู่ในกระเป๋าขึ้นมารับ ก่อนที่จะสะดุดตาเมื่อหน้าจอขึ้นเบอร์ของคนที่ฉันไม่รู้จัก ใครกันนะที่โทรมาหาฉันตอนนี้ ฉันมองมือถือที่มันสั่นอยู่ในมือพร้อมกับกรีดร้องนั้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจรับสายแล้วกรอกเสียงทัก
“ฮัลโหล”
(ออกมาเปิดประตูบ้านให้หน่อย)
“...!!!”
เสียงที่ดังมาตามสายทำเอาตัวฉันแข็งทื่อขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เสียงทุ้มที่ฉันเคยได้ยินจนติดหูล่าสุดเมื่อสองปีที่แล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าวันนี้ฉันจะได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง ไม่ใช่ดีใจ...แต่ฉันกำลังเสียใจและช็อกกับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่
ฉันไม่คิดว่าเสียงของผู้ชายคนนั้นจะมีอิทธิพลกับร่างกายฉันมากขนาดนี้ มากถึงขนาดที่ว่าขาสองข้างของฉันมันแทบไม่ก้าวเดินเลยแม้แต่นิดเดียว
ความคิดเห็น