ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #32 : คำตอบที่โหดร้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 255
      5
      15 พ.ค. 56

    ลูเซียสตื่นตะลึงกับภาพสาวสวยที่เหมือนกับมานาเกียอย่างน่าประหลาด และพริบตา หล่อนผงะลุกขึ้นแล้วกันให้หญิงสาวที่นั่งติดกับเธอหลับไปข้างหลัง ทำให้ลูเซียสเห็นท้องที่ป่องออกมาอย่างชัดเจน เธอกำลังท้อง... นั่นคือสาเหตุที่ทุกคนเหมือนจะปกป้องเธอเป็นพิเศษ

    "นั่นมันผู้บุกรุกนี่" เสียงที่ตะโกนต่อๆ กันทำให้ลูเซียสรีบคว้าน้องสาวแล้วพยายามหนีออกจากสถานการณ์ ก่อนที่ลูเครเซียจะตะโกนเตือน

    "พี่.. จะพาชั้นไปไหนเหรอ"

    "ไม่เห็นรึไง พวกเค้าจะเล่นงานเรา"

    "แต่นี่มันความทรงจำนะ!! ใครจะเห็นหรือเล่นงานเราได้!?"

    ลูเซียสหยุด "เออ.. จริงสิ"

    "ให้ตายสิ... พี่ทำให้ชั้นเสียโอกาสนะเนี่ย" ลูเครเซียแหวว "เมื่อกี้ชั้นคิดว่าจะได้เห็นกับตาแล้วว่าสองคนนั้นตกหลุมรักกันแบบไหน"

    "อะไรนะ" ลูเซียสขมวดคิ้ว "ใครกับใคร?"

    "พี่... ไม่มีใครเคยบอกพี่เหรอว่าเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟก็คือมานาเกีย"

    "อะไรนะ?" ลูเซียสตะลึงมองน้องสาว "นั่นเป็นไปไม่ได้"

    "มันจริง" ลูเครเซียยืนกราน "พี่คิดว่าที่เซเวอรัสเหมือนเฮก้าเป็นเรื่องบังเอิญเหรอ?"

    ลูเซียส มัลฟอยมองน้องสาวด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอันตราย เค้ารู้ว่าเซเวอรัสเหมือนเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟที่เป็นผู้ก่อตั้งบ้านฮัฟเฟิลพัฟทั้งเรื่องคิดค้นมนตร์ดำ เก่งเรื่องต้มยา เลยเป็นสาวกแห่งความมืด แต่มันไม่น่าที่จะ เซเวอรัสควรไปบ้านฮัฟเฟิลพัฟสิหากเค้ามีความสัมพันธ์กับเธอขนาดนั้น ยายกับหลานเเลยนะ

    "เธอเดาเอาหรือใครบอกเธอ?" เค้ายังไม่ปักใจทันที

    "อย่าดูถูกความรู้สึกของผู้หญิง" ลูเครเซียท่าทางภาคภูมิใจ "เรื่องแบบนี้ชั้นคิดเองได้ย่ะ"

    "นั่นป่ะไร" พี่ชายพ่นออกมา "เดาส่งเดชโดยไม่มีเหตุผลรองรับเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้หญิงเป็น"

    "ว่าไงนะ!!!"

    "หากเฮก้าคือมานาเกียจริง  ทำไมเธออยู่ยงคงกระพันมาจนถึงยุคของเราได้ มันห่างกันตั้งพันปีเลยนะ"

    "นั่นแหละคือสิ่งที่ป้าอาเทน่าต้องการรู้ล่ะ" ลูเครเซียมั่นใจมาก

    "นี่เธออย่าเอาทุกอย่างมาปั่นรวมกันสิ!!!" ลูเซียสตะโกนอย่างเหลือทน "หากเป็นแบบนั้นจริงเซเวอรัสกับไอลีนก็ควรไปบ้านฮัฟเฟิลพัฟสิ แล้วไหงสองคนนั้นไปอยู่สลิธีรีนได้ล่ะ  หากสองคนนั้นเป็นเลือดฮัฟเฟิลพัฟที่ห่างจากเจ้าบ้านมาแค่ไม่เกินสองรุ่นเท่านั้นเอง ไม่มีทางแพ้สายเลือดคนบ้านสลิธีรีนที่สืบทอดกันมาเป็นพันปีหรอก"

    "เอ่อ... มันอาจจะมีคำอธิบาย"

    "คำอธิบายที่แม้แต่หมอกคัดสรรก็คงตอบไม่ได้"

    จากนั้นก็เงียบกันไปทั้งสอง  ซักพัก  ลูเครเซียหันไปอย่างกังวลใจ "พี่คิดว่าพี่มีคำตอบรึยังว่าเรามาตามหาอะไร"

    ลูเซียสไม่ตอบน้องสาว แต่เค้าก็มีคำตอบในใจว่าอาเทน่าต้องการอะไร

    อาเทน่ากำลังสงสัยว่า มานาเกียเหมือนเฮก้าได้อย่างไร  และที่มานาเกียมาพบโลกิเป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่?

    หากมันโดนกำหนดไว้แล้ว เฮก้าเลือกโลกิให้เป็นสามีมานาเกียได้อย่างไร?

    หากเธอไม่ตายแต่กลายเป็นมานาเกีย เธอทำได้ยังไง?

    เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟินพัฟหายไปไหนจนเธอต้องตั้งเฟรย์ขึ้นตำแหน่งจตุราชา?

    จากนั้นลูเซียสใจหายวูบ  หรือบางที.. อาเทน่าอาจจะทราบทั้งหมดออยู่แล้ว แต่เธอใช้เค้าและลูเครเซียให้ทำบางสิ่งเพื่อที่จะเปิดประตู

    "พี่... รู้อะไรบอกมั่งสิ" ลูเครเซียเรียกลูเซียสจากภวังค์ แต่เค้าคว้าแขนน้องสาว "เฮ้? อะไรน่ะ" ลูเครเซียร้องขึ้นเมื่อมือที่แกร่งความกระชากเธอให้ลอยตามไป

     

     








     


    สองพี่น้องกำลังแอบมองทุกอย่างที่ข้างผนัง(เฮ้ย.. เว่อร์เกินไป  ไม่มีใครเห็นพวกแกหรอกเฟ้ย)  ลูเซียสกอดคอน้องสาวพลางมองโลกิที่กำลังนั่งกุมหัว มีอัสลันเทีย โอดินและเจมส์เดินไปเดินมารอบๆ "นายก็รู้ตั้งนานแล้ว ว่ามานาเกียของนายหน้าเหมือนเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ  แล้วจะมากังวลห่าอะไรอีก" เจมส์ตั้งคำถามหลังจากมองท่าทางสบสนของเพื่อนอยู่นาน

    "รู้... แต่ว่า  มันไม่เหมือนกัน  โดยเฉพาะเวลาที่ได้เห็นกับตัวเอง..."

    "อะไร"

    "ไม่ได้เหมือนแค่หน้า"

    ตอนนั้นอัสลันเทียหันไปมองโลกิทันที "หมายความว่าไง"

    "เมื่อกี้ ที่ได้เห็นเฮก้า.. มันต่างจากคำว่าบังเอิญหน้าเหมือน  แต่เธอมีอะไรบางอย่างที่เหมือนมานาเกียมาก  บอกไม่ถูกว่ะ  แต่มันลึกซึ้งเกินไป"

    ท่าทางสับสนที่โลกิแสดงออกทำให้โอดินและอัสลันเทียมองหน้ากัน  เจมส์ยังคงเป็นไอ้เซ่อที่สุดตามเคย เมื่ออัสลันเทียพึมพำบางอย่างออกมา

    "เธอเป็นโฮโมนครูซ"

    "อ๊ะ?" โลกิและโอดินอุทานพร้อมๆ กัน

    ลูเซียสและลูเครเซียก็พิศวงไม่ต่างกันเลย เพราะโฮโมนครูซคือตำนานการสร้างมนุษย์ที่โด่งดังของโลกเวทมนตร์ ด้วยการนำชิ้นส่วนมนุษย์มาผ่านวิธีการเล่นแร่แปรธาตุจนกลายเป็นมนุษย์คนใหม่ พวกมักเกิ้ลเรียกวิธีการนี้ว่า "โคลน" แต่ก็..

    "เธอเป็นโฮโมนครูซ" อัสลันเทียบอกซ้ำ "เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟไม่ใชสายเลือดคนกระกูลฮัฟเฟิลพัฟจริง  แต่เป็นโฮโมนครูซที่ถูกสร้างเพื่อเป็นมเหสีแห่งองค์กษัตริย์"

    "รู้ได้ยังไง" โลกิกับโอดินมองเพื่อนอย่างพิศวง

    "มันอยู่ในบันทึกของตระกูล"

    "ตำนานสินะ"

    "ใช่.. แต่ก็อาจะไม่ใช่... พ่อมดศาสตร์มืดทุกคนต้องเคยได้ยินตำนานการสร้างโลกเวทมนตร์ ตำนานบอกว่าเมื่อสองพันปีก่อน กษัตริย์แห่งโลกเวทมนตร์องค์สุดท้ายสิ้นพระชนม์  พระโลหิตที่หลั่งออกมาคืนชีพอะโพคาลิฟ-ฟาและในอีกหลายสิบปีต่อมา อะโพคาลิฟ-ฟาก็สร้างความหายนะให้กับโลกเวทมนตร์โดยการแยกโลกเวทตร์ออกจากโลกมักเกิ้ลซึ่งนั่นหมายถึงความหายนะของจักรวาล"

    "โลกเวทมนตร์พึ่งแยกตัวจากโลกมักเกิ้ลในยุคล่าแม่มดไม่ใช่เหรอ?" เจมส์ค้าน

    "นั่นมันเรื่องโกหกทั้งเพ โลกเวทมนตร์แยกจากโลกมักเกิ้ลเมื่อสองพันปีก่อน  แล้วพึ่งกลับมารวมกันในยุคล่าแม่มดต่างหาก" อัสลันบอก

    "นายผิดแล้ว!!!" เจมส์ไม่ลดละ "ตั้งแต่ยุคล่าแม่มดเป็นต้นมาเรากับมักเกิ้ลก็ต่างคนต่างอยู่ต่างหากล่ะ"

    "แค่ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้แปลว่าคนละโลกซักหน่อย  โลกที่เราและพวกมักเกิ้ลอยู่น่ะมันเหลื่อมซ้อนกันเลยด้วยซ้ำ แค่เราต้องซ่อนตัวจากมักเกิ้ลเท่านั้นเอง  เพราะนี่มันโลกของเค้า และที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้อะโพคาลิฟ-ฟากลับมาอีก!!!"

    "พอที!!!" โอดินตะโกน

    "อัสลันกำลังพูดเรื่องต้องห้ามที่พ่อมดทั่วๆ ไปไม่มีวันรู้  เพราะเค้าเป็นผู้นำตระกูลมัลฟอยที่ทำหน้าที่รักษากฎเหล็กเพื่อที่จะให้อะโพคาลิฟ-ฟาหลับไหลอย่างสงบตลอดกาล" โลกิบอก

    "กฎอะไร?" เจมส์กับโอดินเสียงแทบไม่ได้ยิน แต่ลูเซียสรู้คำตอบอยู่แล้ว

    "ห้ามจอมเวทย์แต่งงานกับมักเกิ้ล"

    ลูเครเซียก็หันไปมองพี่ของเธออย่างตกใจเช่นที่โอดินและเจมส์ตะลึงมองอัสลันเทีย นี่ความคิดเรื่องเลือดบริสุทธิ์ไม่ใช่ลัทธิคลั่งเลือด แต่เป็นกฎเหล็กเพื่อปกป้องสันติสุขของโลกงั้นเหรอ?

    "ทำไม...?" น้องสาวถามพี่ชายฝาแฝดอย่างไม่อยากเชื่อ

    "เบริฟรอทบอกชั้นแค่ว่า ตระกูลเราต้องรักษากฎนี้ด้วยชีวิต เพราะเราไม่รู้เลยว่าใครบ้างที่สืบสายเลือดจากกษัตริย์องค์สุดท้าย หากเค้าแต่งกับมักเกิ้ลแล้วบังเอิญเลือดศักดิ์สิทธิ์เกิดสืบทอดมาในเด็ก หากเลือดของเค้าทาลงบนแท่นบูชา หายนะจะมาสู่โลก" ลูเซียสตอบแทบไม่ได้ยินเสียง "ทีแรกชั้นก็ไม่เชื่อ แต่จำเป็นต้องทำตาม เพราะชั้นเป็นผู้นำตระกูลมัลฟอยที่ต้องเป็นผู้รักษากฎในอนาคต"

    "ดัมเบิลดอร์รู้เรื่องมั้ย?"

    "เค้าไม่เชื่อหรอก เหมือนกับที่หลังๆ นี่ไม่มีใครเชื่อ" ลูเซียสเสียงสั่น "ทำไมชั้นไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่มัลฟอยทำมาตลอดเป็นเรื่องสำคัญมากแค่ไหน  เป็นภาระกิจที่มีโลกเป็นเดิมพันเลยเหรอ"

    จากนั้นทั้งสองหันไปยังกลุ่มคนที่พวกเค้าติดตามแต่แรก อัสลันเทียให้คำลูเซียสมีน้ำหนักมากกว่าเดิม "คนที่จะรับอำนาจมาจากไนจัสได้ก็ต้องเป็นพระบุตรของพระองค์ ซึ่งนั่นก็คือกษัตริย์ ที่จะปกครองทั้งลมฟ้าอากาศ ทั้งแผ่นดินและแผ่นน้ำ เพราะฉะนั้นกษัตริย์จะต้องรักษาความบริสุทธิ์ของสายเลือด ฉะนั้นพระองค์จึงต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่พิเศษซึ่งก็คือ ผู้หญิงจากกระดูกซี่โครง ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่สร้างเจ้าสาวให้กษัตริย์ก็คือฮัฟเฟิลพัฟ"

    "งั้น... เฮก้าก็ไม่ได้เป็นคนตระกูลฮัฟเฟิลพัฟ  แต่เป็นกระดูกซี่โครงของกษัตริย์... นายจะบอกชั้นแบบนั้นใช่มั้ย" โลกิถาม

    "ใช่"

    "แล้วเธอก็มีชีวิตต่อมาจนยุคนี้ซึ่งรวมไปตั้งพันปี"

    "ใช่... นายก็รู้ว่าโฮโมนครูซเป็นอมตะ  จนกว่าเธอจะให้กำเนิดลูกสาว"

    "เฮก้าไม่มีลูกสาว... เธอมีลูกชายคนเดียวคือเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟ" โลกิเหมือนจะกระอักเลือด "ซึ่งแปลว่าเธอจะยังเป็นอมตะต่อมาเรื่อยจนมาเจอชั้นงั้นสิ?"

    "โลกิ... ชั้นเสียใจ" อัสลันเทียเบือนหน้าหนี

    "แล้วเธอก็มีไอลีนกับชั้น เสียความเป็นอมตะไปแล้ว และสืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ไปให้ไอลีน ซึ่งหากเธอมีลูกกับมักเกิ้ล! ความตายบนแท่นบูชาของเด็กคนนั้นจะคืนชีพอะโพคาลิฟ-ฟา!! นายจะบอกยังงั้นใช่มั้ย!!!"

    "เสียใจจริงๆ โลกิ"

    ตอนนี้ทั้งหมดเหมือนตกอยู่ในคำสาป โลกิหอบ เจมส์พยายามกู้สถานการณ์ "เฮ้.. มันอาจจะไม่ใช่ที่พวกนายคิดก็ได้" แล้วก็หันไปต่อว่าอัสลันเทีย "นายก็เหมือนกัน อย่าจบแพะชนแกะจะได้มั้ย"

    "แท่นบูชาอยู่ไหน" โลกิพ่นออกมาเบาๆ

    "ที่นี่แหละ" อัสลันเทียก็ตอบเบาๆ เหมือนกัน

    วินาทีนั้นลูเซียสมองไปรอบๆ อย่างตกใจเพื่อหาคำตอบว่าที่นี่เป็นที่ไหนในยุคที่เค้าอยู่ ผ่านการสังเกตสิ่งรอบตัวและภายนอกอาคารเพียงเพื่อจะตกใจสุดๆ ว่ามันคือเพิงโหยหวน!!!

    เค้าจำได้ว่าครั้งหนึ่งเซเวอรัสเกือบตายที่เพิงโหยหวนโดยการเล่นสนุกไม่รู้กาละของซีเรียส แบล็ก พวกเค้าไม่รู้เลยว่าทำอะไรลงไป เพราะหากเซเวอรัสตายที่นี่ เค้าจะกลายเป็นเครื่องบูชายันต์ ที่ชุบอะโพคาลิฟ-ฟาให้คืนชีพ และโลกก็จะพินาศ

    ลูเครเซียเขย่าพี่ชาย "พี่โอเคมั้ย"

    "เกือบไม่โอเคแล้ว" พี่ชายหน้าซีด

    "โลกิ" เจมส์พยายามเตือน "นายจะปักใจเชื่อทันทีไม่ได้น่ะ... ยังไงซะ มานาเกียก็ยัง..."

    "ชั้นรู้ เจมส์" โอดินตบไหล่เพื่อนผมทอง "และชั้นรู้ด้วยว่าเซเวอรัสพาเรามาเพื่ออะไร..."

    "โลกิ?" เจมส์พยายามเรียกเพื่อนที่ยืนขึ้นแล้วก้าวออกไป เสื้อคลุมสีดำที่สะบัดอยู่เบื้องหลังทำให้เค้าคล้ายหลานชายอย่างน่าประหลาด "เฮ้... โลกิ"

    "ปล่อยเค้าไป เจมส์" โอดินบอก "ให้เค้าพบคำตอบด้วยตัวเค้าเอง"









     

     


    ตอนนี้ในหัวลูเซียสมีแต่คำถามเต็มไปหมด ขณะที่เค้ากับน้องสาวฝาแฝดวิ่งตามโลกิไปหาคำตอบ  ตอนนี้มีคนมากมายที่มาจากยุคเดียวกับโลกิเดินเพ่นพ่านอยู่ในอยู่ที่ผู้ก่อตั้งฮอกวอร์ตยังรุ่งเรือง ทั้งเอรีส เฟรยา ไอลีน ฯลฯ แต่มันไม่สำคัญอีกแล้ว  เพราะเค้ารู้แล้วว่าเค้ามาเพื่ออะไร  เค้ามาเพื่อติดตามโลกิ มาเพื่อให้แน่ใจว่าโลกิจะไม่สามารถสืบทอดสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ร่วมกับเฮก้าผ่านไปหาไอลีนได้ ซึ่งมันรวมถึงสถานะของเซเวอรัสที่เป็นเลือดผสม

    อาเทน่าอาจต้องการทราบว่ามานาเกียคือเฮก้าจริงหรือไม่? ซึ่งโอกาสเป็นจริงมีสูงมาก เพราะเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟปกป้องมานาเกียมากเหลือเกิน รวมทั้งดีกับไอลีนมาก มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา เว้นแต่พวกเค้าจะมีความเกี่ยวพันธ์กัน เพียงแต่เธออาจจะต้องการการยืนยัน  ทำไมเค้าโง่นักนะ

    หรือบางที เธออาจจะต้องการทราบว่าโลกิเป็นคนที่ควรระแวงระวังหรือไม่ เพราะการที่สายเลือดศักดิ์สิทธิ์ที่จะชุบอะโพคาลิฟ-ฟาให้ฟื้นคืนมาอีกครั้ง มันต้องเป็นเลือดกษัตริย์ที่เกิดมาเป็นลูกสาว  และลูกสาวที่ว่าจะให้กำเนิดทายาทเลือดผสมที่จะเป็นกุญแจการคืนชีพของอะโพคาลิฟ-ฟา บางทีนามสกุล "พริ้นซ์(เจ้า)" ของโลกิอาจจะเป็นบอกใบ้ก็ได้ว่านี่คือตระกูลที่ห้ามแต่งงานกับมักเกิ้ลเด็ดขาด แต่สายเลือดศักดิ์สิทธิ์กลับไกลเกินไปจนไม่แน่ใจว่าเด็กเลือดผสมจะมีคุณสมบัติที่อะโพคาลิฟ-ฟาต้องการ เว้นแต่จะเป็นคราวซวยของมวลมนุษย์จริงๆ ที่เด็กนั่นดันมียีนส์เด่นงอกเงยออกมา

    ทว่า... หากมานาเกียคือเฮก้า... ไอลีนก็คือมารดาแห่งหายนะ เพราะเซเวอรัสจะเป็นเด็กคนนั้น

    ตอนนี้คำตอบออกมาแล้ว  เมื่อเค้าได้เห็นทั้งหมดพร้อมๆ กับโลกิ  เฮก้าตัดสินใจจะตาย  แต่เธอไม่สามารถตายได้ จึงมอบหมายให้ลูกชาย-เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟผนึกเธอไว้ตลอดกาล

    ท่ามกลางสายฝน มานาเกียเดินโซเซมาหาโลกิที่โอบกอดเธอไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เดาได้ว่ามานาเกียคงรู้แล้วในช่วงเวลาที่แยกกันไป เธอจำอดีตได้ตอนไหนไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกแล้ว

    "โลกิ.. ชั้น.. ไม่ใช่ ไม่ใช่..มานาเกีย อีกแล้ว..." เธอร่ำไห้ในอ้อมกอดเค้า

    "มานาเกียนั่นแหละ" ชายที่แสนอ่อนโยนบอก "ทั้งวันนี้ วันหน้า และตลอดไป"

    ทุกอย่างมลายหาย ลูเซียสและลูเครเซียกลับสู่โลกแห่งความจริง ทั้งสองอยู่ในความเงียบ นานมาก กว่าลูเครเซียจะทำลายความเงียบนั้นลง "ไอลีนถูกตามล่าสินะ เมื่อเธอท้องกับโทไบอัส"

    "หือ?" นี่คือปฏิกิริยาแรกที่ลูเซียสแสดงหลังจากหลายชั่วโมงผ่านไป

    "ก็จริงไม่ใช่เหรอ?" ลูเครเซียพึมพำ "ก็คิดอยู่ว่าคนอย่างไอลีนไม่มีทางยอมให้โทไบอัสรังแกหรอก แต่ทำไมต้องยอมหลบซ่อน ยอมไม่ใช้เวทมนตร์ เธอทำทั้งหมดไม่ใช่เพราะความรักที่มีต่อสามีแต่เพื่อลูกชายของเธอ เพราะเมื่อเค้าคือกุญแจ ต้องมีคนที่อยากฆ่าเค้าเพื่อที่เค้าจะไม่ถูกนำไปใช้ปลุกอะโพคาลิฟ-ฟา"

    "เธอเลยซ่อน" ลูเซียสจับทิศทางได้ "ซ่อนลูกของเธอไว้ในที่ลับ"

    "ใช่แน่นอน"

    "และคนที่ทราบเรื่องนี้คงมีแต่พี่ชายเธอ... เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟ  เพราะงั้นเซเวอรัสคนนั้นอาจจะไม่ได้แค่หายไป แต่อาจจะตายแล้วเพื่อปกป้องหลานชายที่ยังไม่เกิด"

    "ถูกเผง" ลูเครเซียดีดนิ้ว

    "เมื่อพวกเค้ารู้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเซเวอรัส" ลูเซียสเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก "เค้าเกิดมาเพื่อตายเท่านั้นเองเหรอ หากฝ่ายอะโพคาลิฟ-ฟาได้เค้าไป เค้าก็ต้องถูกฆ่า  แต่ระหว่างนั้นก็คงจะมีคนอยากฆ่าเค้าเพื่อขัดขวางแผนเฮงซวยนั่นด้วยเหมือนกัน"

    "คงไม่เลวรายขนาดนั้นหรอกพี่ชาย ชั้นเคยได้ยินว่ากุญแจน่ะ หากไขเปิดได้ก็ไขปิดได้" ลูเครเซียบอก "หากเซเวอรัสตายบนแท่นบูชา(เพิงโหยหวน)แล้วคืนชีพอะโพคาลิฟ-ฟา ความตายของเค้าก็ต้องผนึกอะโพคาลิฟ-ฟาได้เหมือนกัน"

    "ก็มีแต่ต้องตายไม่ใช่เหรอ!!!"

    "ชั้นจะไปหาพ่อ ระหว่างนี้พี่ดูแลเซเวอรัสจนกว่าชั้นจะติดต่อกลับนะ"

    น้องสาวไปแล้ว  พี่ชายพ่นอย่างเหลืออด "ดูแลได้เหรอ หมอนั่นอยู่ฮอกวอร์ตนะ"

     

     










     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×