ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #31 : ใกล้พบพาน2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 264
      5
      29 เม.ย. 56

    ลูเซียสตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย นาซิสซาไม่บ่นซักคำเรื่องที่เค้าตื่นสาย แล้วประมาณบ่ายสาม  หลังจากนั่งมองลูเซียสเขี่ยอาหารไปมาบนจานพักใหญ่ นาซิสซาก็เอื่อยขึ้นในที่สุด "พรุ่งนี้เราไปเดินเล่นที่โลกมักเกิ้ลมั้ย"

    "ตรามารชัดขึ้นทุกวัน ใครกล้าออกไปก็บ้าแล้ว" ลูเซียสตอบอย่างเหนื่อยใจ

    "เค้าคงยังไม่อาละวาดตอนนี้หรอก เพราะนี่ เซเวอรัสเป็นคนชวน" นาซิสซาว่า

    คำว่า "เซเวอรัส" ทำให้ลูเซียสเงยหน้ามองเป็นครั้งแรกในวันนี้

    "ทำไมเซเวอรัสยังจะกลับไปที่โลกมักเกิ้ล นี่ระหว่างการประลองเวทย์ไตรภาคีไม่ใช่เหรอ" แต่คำถามนี้ไม่ต้องการคำตอบเลย มันมีคำตอบในตัวมันอยู่แล้ว  วันเสาร์นี้มีสอนครึ่งวัน และวันอาทิตย์ก็ไม่มีเรียน รวมทั้งการประลองก็อีกเดือนหน้า เซเวอรัสไม่ได้กลับบ้านหลายวันคงต้องกลับไปหาพ่ออีกแน่ๆ "ไปพรุ่งนี้สินะ" นี่ก็ไม่ต้องการคำตอบอีก ลูเซียสกินอาหารอย่างรวดเร็วหลังจากไม่มีอะไรลงท้องมาหลายชั่วโมง  นาซิสซายังอดไม่ได้ที่จะแซว

    "ระหว่างพวกเธอ ใครเป็นฝ่ายรับกันเหรอ?"

    ลูเซียสทำซ่อมตกดังเคร้ง "หมายความว่าไง"

    "เธอก็เริ่มจะโปรดๆ วายแล้วนี่นา" นาซิสซายิ้มอย่างพอใจ "ลูเครเซียก็เหมือนกัน"

    "อย่างมองแบบนั้น ซิสซี่" สามีกล่าวอย่างตะลึงพรึงเพริด "ความวายของชั้นจำกัดแน่สาวสวยเท่านั้น จำไว้" ภรรยาหัวเราะแบบได้ใจ

    "แหงสิ  ชั้นไม่เคยต้องการให้เธอเป็นเกย์หรอกนะที่รัก แม้ว่าจะเริ่มพิศวาสวายบ้าง  เพราะหากเธอเกิดค้นพบว่าตัวเองรักเซเวอรัสจริง  ชั้นคงทำใจไม่ได้หรอก  เพราะที่ผ่านมาระหว่างเรานี่มันอะไรกันล่ะ?"

    "จริงดิ... ชั้นสิ ใจหล่นไปใต้โต๊ะแล้วเมื่อกี้"

    "ลูเครเซียพาเธอไปเจออะไรมาล่ะ" คราวนี้ภรรยาเริ่มต้นอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก และทำให้สามีอึ้งสนิท เค้าตระหนักได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่เธอต้องการรับทราบจริงๆ และเมื่อกี้ก็แค่เปิดประเด็นสนทนาเท่านั้น

    "เรื่องที่น่าเจ็บปวด"

    หลังจากที่เรื่องราวที่ประสบในค่ำคืนได้รับการบอกเล่าผ่านปากสามี  นาซิสซาได้แต่ถอนใจ มันเป็นเรื่องน่าเจ็บปวดอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเค้าสนิทสนมกับครอบครัวโลกิมานานจริงๆ ซึ่งเธอก็รู้ดี เมื่อลูเซียสเล่าจบ ทั้งสองจึงเงียบไปเป็นเวลานานกว่าจะมีหนึ่งคนที่ทำลายความเงียบ

    "ชั้นไม่คิดเลยว่าจอมมารจะกล้าฆ่าคนสำคัญได้  แม้ชั้นจะเคยรู้มาก่อนแล้วว่าจอมมารฆ่าโลกิ" ลูเซียสกล่าวอย่างเลื่อนลอยเหมือนกำลังยืนที่หน้าผา "สำหรับคนที่ไม่เคยรักใครและไม่เคยเชื่อใจใคร  คนที่ทำให้เค้ารู้สึกผูกพันธ์ขนาดนั้น มันต้องไม่ใช่ธรรมดาเลย  มันต้องสำคัญมาก  แล้วเค้าฆ่าโลกิได้ยังไง"

    ไม่มีคำตอบจากร่างบอบบางที่นั่งตรงข้าม แต่คิดว่าเธอรู้แล้วว่าทำไมลูเซียสอยากพบเซเวอรัส "เดี๋ยวให้เอลฝ์จะไปแลกเงินมักเกิ้ลให้นะ"

    "แลกมาให้เยอะล่ะ"

    "หือ?"

    "ไม่อยากไปโดยไม่มีเธอ"

    รอยยิ้มปรากฏบนหน้าของนาซิสซา เธอดีใจที่แต่งงานกับเค้า  เพราะสำหรับลูเซียส นาซิสซาเป็นมากกว่าแค่ภรรยา--เป็นมากกว่าที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะเป็นได้ในสายตาสามี
    --------------------------------------

    "โทรมไปเยอะเลยนะพ่อนาย"

    "เพราะงี้ถึงต้องกลับมาดูบ้างไง"

    หากไม่เพราะโทไบอัสกำลังเมาหลับอยู่ ลูเซียสไม่มีทางได้เห็นเซเวอรัสยกไม้กายสิทธิเพื่อทำความสะอาด แต่จะลงมือเก็บกวาดอ้วกพ่อด้วยตัวเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว คงต้องเก็บอ้วกลูเซียสและนาซิสซาด้วย

    "เดียวชั้นดูแลเค้าให้... พวกเธอไปซื้ออะไรมาทำกินก่อนเหอะ" นาซิสซาบอก

    "อย่ามาล้อเล่นนะ  ใครจะไปกล้าทิ้งเมียไว้กับไอ้คนบ้าๆ พรรค์นี้" พ่อมดศาตร์มืดนามมัลฟอยฉุนกึก

    "ลองไม่ใช่ชั้น แต่เป็นเธอหรือเซเวอรัสดูสิ แล้วจะรู้ว่านรกมีจริง" นาซิสซาตอบ และทำให้ลูเซียสยอมเดินออกไปพร้อมเซเวอรัสอย่างจำนน

    สองสหายเดินไปด้วยกันไม่นาน เซเวอรัสก็โพล่งออกมา "ทำไมไม่มาวันอาทิตย์ พวกนายกลัวว่าพ่อจะตื่นมาซัดชั้นรึไง"

    "แม่นแล้ว"

    ดวงตาดำสนิทกวาดมาอย่างต่อว่า "ไม่จำเป็นต้องบอกความจริงตลอดหรอกนะ  โกหกบ้างก็ได้"

    "นายเหมือนคนที่ชอบให้คนอื่นโหกตรงไหน"

    "นั่นสินะ..."

    "อย่างน้อยนายก็ดีกว่าตอนที่ลิลี่ยังไม่ตาย  เพราะอย่างน้อยเค้าก็ค่อยสมเป็นพ่อบ้าง แม้ว่าจะทำร้ายนาย  แต่นั่นก็เพราะเมา  และเค้าไม่ทำให้นายกลายเป็นโสเภณีอีกแล้ว"

    "ไม่ต้องย้ำมันมากก็ได้ มันผ่านไปแล้ว"

    "ไม่เคยได้ย้ำหรอก  ผ่านมาสิบสี่ปีก็พึ่งได้พูดวันนี้แหละ" ลูเซียสบอกอย่างเจ็บปวด ไม่ได้มองเซเวอรัส เหมือนกับที่เซเวอรัสไม่ยอมสบตาเค้า "เพราะนายมันทำตัวมืดมนไง"

    เซเวอรัสหันไปที่ตู้ขายน้ำอัตโนมัติ เดินตรงไปหา หยอดเหรียญ แล้วกดออกมาสองอย่าง  โคล่าสำหรับลูเซียส และน้ำแร่สำหรับตัวเอง ลูเซียสเปิดกระป๋อง แต่ยังไม่ยอมดื่ม เค้ามองไปที่เพื่อนรัก ที่กำลังดื่มน้ำจากขวดพลาสติกใสๆ มองดูมันไหลรินลงคอเซเวอรัสไปจนกระทั่งหมด

    เค้าไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร อีแค่ภาพคนดื่มน้ำธรรมดาถึงได้ให้ความรู้สึกที่สลดหดหู่ใจได้มากขนาดนี้

    เซเวอรัสเช็ดปาก แล้วหย่อนขวดลงถังขยะ ก่อนจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    "ไปกันเร็ว เพราะมันเริ่มเย็นมากแล้ว"

    เซเวอรัสหันมาและยิ้มอย่างอ่อนโยนหาดูยาก  เค้ารู้ว่าลูเซียสและนาซิสซาคือคนที่รักและเป็นห่วงเค้าด้วยใจจริง ไม่ว่ามันจะเป็นสิ่งที่เค้ารับมาจาก "อัสลันเทียต่อโลกิ" หรือไม่ แต่การที่เรารู้ว่าคนๆ นี้คือคนที่รักเรา ห่วงใยเรา และไม่มีวันทิ้งเรา มันก็เป็นสิ่งล้ำค่าที่ไม่มีอะไรมาแทนที่ได้แล้วสำหรับคนเล็กน้อยอย่างเค้า

     

     

     


    "ลูเซียส พี่โอเคมั้ย"

    เสียงลูเครเซียทำให้ลูเซียสตื่นจากภวังค์ อีกครั้งที่เธอเอ่ยเบาๆ

    "แน่ใจจริงๆ เหรอว่าจะไปต่อ"

    "แน่สิ"

    น้องสาวฝาแฝดไม่ค่อยแน่ใจ เพราะจากเมื่อเร็วๆ นี้ คนเป็นพี่ดูเหมือนจะไม่อาจอดทนต่ออะไรได้อีก แต่ตอนนี้กลับมาหาเธอเพื่อที่จะได้ไปต่องั้นเหรอ?

    "มันจะแสดงให้เราดูก็ต่อเมื่อเราพร้อมเท่านั้นนะ" ลูเครเซียบอกเค้า

    "ตอนนั้นเธอก็ว่าอย่างงี้แหละ" ลูเซียสย้อนกลับ

    "ถามจริง... เกิดอะไรรึเปล่า"

    ลูเซียสไม่ตอบกลับ แต่ภาพที่เซเวอรัสดื่มน้ำราวจะเร่งเร้าให้เค้าไปต่อ

    "เอาเหอะ... ตอนนั้นชั้นคิดว่าต่อให้พี่ไม่บอกชั้นก็คงรู้เองได้"

    มือเรียวสวยยื่นออกไปสัมผัสกับมิติที่ได้รับการจัดเตรียม  ก่อนนำพี่ชายเข้าไปยังโลกแห่งความทรงจำที่บัดนี้ทั้งสองแน่ใจชัดเจนแล้ว่ามันเป็นความทรงจำใครกันแน่  เพียงแต่สงสัยว่าทำไมเท่านั้น

    บางสิ่งที่จะยับยั้งการกลับมาของอะโพคาลิฟ-ฟา อาจจะเกี่ยวกับเซเวอรัส สเนปก็ได้เนื่องจากเค้าเป็นหลานของโลกิและมานาเกีย  ปัญหามีแค่ว่า ทำไม?

    และคราวนี้มันไม่น่าจะเกี่ยวกับโลกิซะทีเดียว

    ตอนนี้โลกิกับเพื่อน(อัสลันเทีย เจมส์ และ โอดิน) อยู่ในเหตุการณ์นั้น แถม ยังมีมานาเกียและแคสก้า รวมทั้งพ่อเค้า!? (แม่นแล้ว พ่อเค้ากับลูเครเซีย) เอรีสกำลังยืนอยู่กับเลาเรส(ปู่แฮร์รี่ พอตเตอร์) และไอลีนก็อยู่ที่นั่นกับเฟรยาด้วย และทั้งหมดยืนรวมกลุ่มกันโดยมี เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟยืนกลางวง

    "สุดยอด" สิ่งเดียวที่ลูเซียสพอใจคือการได้เห็นปรมาจารย์แห่งคณิตศาสตร์อีกครั้ง "คราวนี้จะโชว์ทฤษฎีคณิตศาสตร์แบบไหนออกมาอีกนะ"

    "นี่พี่คาดหวังอะไรเนี่ย" น้องสาวขมวดคิ้ว

    และแล้ว สองพี่น้องก็โดนเหวี่ยงไปอย่างมิติอื่นพร้อมๆ กับคนอื่่นๆ ที่รายล้อมเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟ(แน่นอนว่ารวมทั้งตัวเซเวอรัสเองก็โดนเหวี่ยงพอๆ กัน)  ต่างแต่เพียงว่า  ขณะที่โดนเหวี่ยงไปด้วยกันนั้น ไม่มีใครหันมามองลูเซียสและลูเครเซียเลย เพราะไม่มีใครเห็นพวกเค้า

    กับการฟาดลงกับพื้น ลูเซียสยันตัวอย่างยากลำบากและต้องกระอักกระไอออกมาจนหมดท้อง  เพราะน้องสาวตัวแสบดันตกลงมาบนหลังเค้าพอดี

    "ตับแตกแล้ว..." คนพี่ว่า

    "ขอโทษค่า" คนน้องบอกแหย ยันตัวออกแล้วดึงพี่ชายให้ยืน

    "เมื่อกี้เกิดอะไร---" ยังไม่ทันจบประโยค ลูเครเซียก็จับลูเซียสหันไปมองด้านหลังและทำให้พี่ชายอ้าปากค้าง "ว้าว  อะไรกันเนี่ย"

    "ยังก่ะชั้นจะตอบพี่ได้นะเนี่ย" น้องสาวว่า

    "อันที่จริงชั้นก็ไม่ได้คิดจะถามเธอหรอก" พูดแบบตรงไปตรงมาโดยไม่หันกลับไปมอง

    "เดี๋ยวก็โดนตบหรอก" ลูเครเซียว่า

    "นี่เธอเป็นคนแบบนี้เองเหรอ" แฝดพี่หันมามองแฝดน้อง

    "เป็นคนแบบนี้แหละ" แฝดน้องบอก

    "อันที่จริงชั้นไม่ได้คิดจะให้เธอโกรธหรอกนะ ก็เห็นว่าเราเป็นฝาแฝดกัน เราเชื่อมกันอย่างล้ำลึกทั้งร่างและวิญญาน คิดว่าเธอจะเข้าใจซะอีก" ลูเซียสบอกเธออย่างลำบากใจ "แต่ถ้าทำให้เธอโกรธ..."

    เสียงหัวเราะดังก้องจนทำให้ลูเซียสสะดุ้ง ลูเครเซียกำลังหัวเราะจริงๆ เธอตบไหล่พี่ชายเบาๆ ก่อนจะบอก "ชั้นล้อเล่นน่ะ.. อะไรกัน พี่กลัวจะทะเลาะกันชั้นขนาดนั้นเลยเหรอ?"

    ลูเซียสลำบากใจ มันยากที่จะบอกตรงๆ ว่า ---ใช่... ชั้นกลัวจะทะเลาะกับเธอ--- ลูเครเซียคงไม่เข้าใจหรอกว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ เธออาจจะไม่เคยคิดว่าเค้าไม่มีทางเป็นคู่มือกับเธอได้ เพราะเราเป็นพี่น้องฝาแฝด แต่... ในความจริง เค้าไม่มีวันชนะเธอได้หรอก มิติพลังมันต่างกันมากเกินไป หากจะมีใครซักคนที่จะชนกับลูเครเซีย คนๆ นั้นคงต้องเป็นจอมเวทย์ที่มีความสามารถมากจริง เพราะเธอมีพลังมากพอๆ กับเค้าสิบคนรวมกัน เธอแกร่งยิ่งกว่าเอรีส--พ่อแท้ๆ ด้วยซ้ำ เพราะงี้แหละ เอรีสจึงได้ตัดสินใจมอบลูเซียสให้แก่ตระกูลมัลฟอย และซ่อนลูเครเซียไว้

    หนึ่งต่อสิบ... จะว่าไป หากป้าอาเทน่าไปจนจึงระดับที่กริฟฟินดอร์รุ่งเรือง เธอก็จะเหนือกว่าเอรีสสิบเท่าเหมือนกัน

    "เรื่องนั้นปล่อยมันไปก่อนเหอะ" ลูเครเซียว่า เธอมองตรงไปที่สิ่งที่ปรากฏต่อพวกเธอ "เรากลับมาที่เรื่องนี้เหอะ พี่สังเกตมั้ยว่า มันเป็นสมัยโบราณ หากเราอยู่ที่โลกมักเกิ้ลแล้วเดินทางย้อนเวลามาเราสามารถทราบได้ไม่ยากเพราะบ้านเมืองมักเกิ้ลพัฒนารูปแบบจนต่างจากสมัยโบราณอย่างมาก แต่เมื่อทั้งหมดเริ่มในโลกเวทมนตร์ มันยากที่จะเดาว่าเราย้อนเวลามาแล้ว"

    ลูเซียสพิจารณาสิ่งที่เธอบอกแล้วเข้าใจทันที มันคือสมัยโบราณจริงๆ เพราะที่นี่คือฮอกมีดส์-แต่มันมีอาคารบ้านเรือนที่ใหม่มากๆ ผิดกับจากสมัยที่พวกเค้าจำได้ เพราะอาคารบ้านช่องที่นั้นมันเก่าประมาณร้อยปีเป็นอย่างน้อย และที่สำคัญคือป่า... ป่าต้องห้ามที่รายล้อมฮอกวอร์ตนั้นเป็นป่าทึบเพียงไรเค้าก็ทราบดี  แต่ที่นี่ เค้าไม่เห็นป่าทึบที่เคยเห็นสมัยเป็นนักเรียน แต่เห็นต้นไม้ที่กำลังอยู่ระหว่างการเติบโต และพื้นที่ที่ครั้งหนึ่งอาจจะเคยเป็นสนามรบและป้อมปราการ

    ลูเซียสเคยได้ยินว่ามีบันทึกลับเล่าต่อๆ กันมาในหมู่พ่อมดศาสตร์มืดว่าฮอกวอร์ตเคยเป็นฐานทัพสำหรับการต่อสู้กับเจ้าแห่งศาสตร์มืดมาอย่างยาวนาน แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องจริง

    นั่นกลายเป็นคำอธิบายว่า ทำไมฮอกวอร์ตจึงเต็มไปด้วยเวทมนตร์และป้อมปราการโบราณมากมายนัก มากมายยิ่งกว่าโรงเรียนเวทมนตร์แห่งใดในโลก และหากค้นให้ลึกลงไป กริฟฟินดอร์ก็เหมือนทหาร เรเวนครอก็คือกุนซือเอก ฮัฟเฟิลพัฟคือไพร่อเนกประสงค์ และสลิธีรีนก็คือจอมเวทย์

    "ตระกูลมัลฟอยนับว่าได้รับเกียรตินะ" นักบวชหญิงเอ่ยอย่างเรียบง่าย "นับจากอัสลัลเทียลงมา ก็เอรีส แล้วก็เรา ไม่มีใครได้รับเกียรติให้มารับรู้แบบนี้เท่ากับพวกเราเลย  ยังไม่นับความจริงที่ว่า เมื่อกริฟฟินดอร์เลือก เค้าเลือกมัลฟอยที่จะเป็นภาชนะที่จะรองรับวิญญานเค้า ไม่ใช่พวกอื่น"

    พี่ชายไม่ออกความเห็นใดๆ เค้าเอามือโอบไหล่เธอ แล้วพาเดินออกไป...

    แต่ก็ไม่เคยคิดจะตามอัสลันเทียหรือว่าใคร คนที่ลูเซียสสนใจมีแต่โลกิคนเดียว... นั่นทำให้สาววายที่ตามมาด้วยอดไม่ได้ที่จะจิ้นกระเจิง ว้าย...  พี่ชายชั้นต้องแอบรักโลกิแน่ๆ

    แต่ลูเซียสไม่สนใจน้องสาว เค้าตั้งข้อสังเกตมานานแล้วว่าเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟนั้นให้ความสนใจกับครอบครัวพริ้นซ์มากเกินไปจนดูแปลกๆ และตอนนี้คำตอบก็เหมือนจะปรากฏตรงหน้าเค้าแล้ว

    "ว้าว... เนี่ยเหรอ เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ  แม่เซวี่(เซเวอรัส เรวิน) หน้าเหมือนมานาเกียเปี๊ยบเลย" คำวิจารณ์ที่ออกจากปากโลกิทำให้ฝาแฝดต้องขยี่ตาพร้อมๆ กัน

    เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ ใบหน้าเหมือนมานาเกียราวกับเป็นคนๆ เดียวกัน เธอกำลังหัวเราะอยู่กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่เป็นอาจารย์ของฮอกวอร์ต และอย่างที่มานาเกียเป็น เฮก้าเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดเท่าที่ลูเซียสและลูเครเซียเคยพบ สวยยิ่งกว่าวีล่า แตกต่างจากภาพในการ์ดกบช๊อคโกแล็ตอย่างฟ้ากับเหว ซึ่งทำให้พวกเค้าแปลกใจว่าทำไมการ์ดและภาพวาดตามที่ต่างๆ จึงวาดภาพฮัฟเฟิลพัฟต่างจากตัวจริงอย่างสิ้นเชิง  ใครก็ตามที่ไม่เคยเห็นตัวจริงจะไม่มีทางรู้ว่ามีหญิงงามขนาดนี้ในโลก

    ต่างแต่ว่า วีล่ามักทำให้พวกสตรีเพศอิจฉาโดยธรรมชาติเพราะ ไม่มีเพียงมีสเน่ห์กับคนต่างเพศเท่านั้นแต่ยังมีอำนาจที่จะสะท้อนภาพจิตใจของคนเพศเดียวกันออกมา  ซึ่งทำให้ลูเซียสทราบว่าผู้หญิงส่วนใหญ่นั้นใจคับแคบและขี้อิจฉา เพราะที่งานควิชดิชเวิร์นด์คัฟ เค้ามีโอกาสได้เห็นธาตุแท้ผู้หญิงหลายคนที่แสดงความไม่พอใจต่อพวกเธอ  แต่แน่นอนว่า ไม่เหมือนอย่างนาซิสซาที่ทำราวกับสาวๆ พวกนั้นไม่ได้มีตัวตน เธอยังพูดหัวเราะกับเค้าตามปกติแถมยังเชียร์เดรโกให้กระโดดลงไปหาวีล่าด้วย ซึ่งหลังจากงานนั้น ลูเซียสรู้สึกว่าภรรยาของเค้าเซ็กซี่ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า

    ฮัฟเฟิลพัฟไม่เหมือนวีล่าตรงที่เธอนั้น นอกจากจะสวยน่าอัศจรรย์แล้ว เธอยังมีสเน่ห์ต่อทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามด้วย มันเหมือนกับมานาเกียและ....

    เหมือนไอลีน...

    หญิงสาวมีผมสีดำยาวลากพื้น สวมชุดสีดำสนิทมิดชิดเหมือนกับเซเวอรัส สเนป  ดวงตาสีทองเหมือนกับมานาเกีย ไม่นานนักลูเซียสก็สามารถแยกแยะได้ว่าใครคือเรเวนครอ ใครกริฟฟินดอร์ และใครคือสลิธีรีน

    แต่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งติดกับฮัฟเฟิลพัฟนี่ออกจะ...

    "ใครอยู่ตรงนั้นน่ะ!?"

    เสียงที่ดังก้อง ทำให้ทั้งหมดหันมา ลูเซียสเกือบจะหลบด้วยก่อนที่น้องสาวจะเตือนว่าไม่มีใครเห็นพวกตน พริบตานั้นที่โลกิและเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟจับจ้อง ลูเซียสแทบจะสาบานได้เลยว่า เค้าพบบางสิ่งที่สำคัญมากแล้ว

    ในที่สุด ฝาแฝดก็พบแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเค้าต้องหาให้พบ อะไรคือสิ่งที่อาเทน่าต้องการ อะไรคือสิ่งที่จะนำพวกเค้าไปสู่ปลายทางของการเดินทางที่ไม่เห็นตอนจบ

    นี่คือการพบกันของคนสองคน ที่ต่อไปจะกำหนดชะตาชีวิตคนทั้งโลกงั้นเหรอ?

     

     

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×