ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #28 : ฝันยาว--บทจบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 248
      5
      12 ก.พ. 56

    สองพี่น้องตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน ทีแรกทั้งสองคิดว่าตนได้ตื่นจากโลกแห่งความทรงจำแล้ว จนเมื่อลูเครเซียเดินไปรอบๆ แล้วเธอจึงพบว่าทั้งหมดมันน่ากลัวกว่าเมื่อกี้นี้อีก

    "ลูเครเซีย...?" ลูเซียสแทบไม่อยากคาดเดาสถานการณ์

    "ไม่ใช่มิติปิดนี่นา" ลูเครเซียพึมพำ สมองมึนงงไปหมด "เกิดอะไรกันอีกล่ะคราวนี้"

    หลังจากนั้นแสงเจิดจ้าได้ทำให้ทั้งสองหันไปทันที  ชายผมยาวสีดำปรากฏตัวต่อหน้าลูเซียสอีกครั้ง เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟินพัฟ ดวงตาสีทองมองตรงมาและทำให้เค้างวยงงเหมือนโดนสะกดจิต

    "พี่?" ลูเครเซียกระซิบ เธอไม่แน่ใจว่าควรทำอะไรกันแน่ "นั่นมัน--"

    "เธอรู้จักเค้าเหรอ?"

    "อืม"

    "เมื่อไหร่"

    "ตอนที่้ยังเด็กมากๆ" น้องสาวบอกเบาๆ และทำให้คนพี่ต้องหันมามองอย่างตกใจ "ตอนที่ไอลีนมาที่โลกมักเกิ้ล เค้าคนนี้ก็มาด้วย ไอลีนกำลังท้อง--มีเซเวอรัสในท้อง และ..."

    "และ?"

    "เธอบอกกับบาทหลวงที่ให้ที่พักกับพวกเธอว่า เค้าเป็นพี่เธอ"

    ลูเซียสตะลึง "มันจะเป็นไปได้ยังไง โลกิกับมานาเกียมีไอลีนคนเดียวนี่"

    "พี่... คนละพ่อ..."

    คำตอบที่ดังมาทำให้ทั้งสองมองอย่างพิศวง นั่นมันตลกสิ้นดี ลูเซียสส่ายหน้า "เป็นไปไม่ได้หรอก ท่านเป็นลูกชายคนเดียวที่เกิดจากเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ... ท่านจะเป็นพี่ชายคนละพ่อกับไอลีนที่เกิดจากมานาเกียได้ยังไง นอกซะจาก--"

    นอกซะจาก...

    "กริฟฟินดอร์หาทางให้เจ้ามาที่นี่อีกจนได้ ด้วยว่าเค้า ไม่สิ หล่อน... เจ้ามาที่นี่อีกเพราะหล่อนต้องการหาคำตอบเกี่ยวกับการที่แม่หายตัวไปก่อนจะปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะมานาเกีย... แต่ว่ากว่าเจ้าจะพบมัน เจ้าคงต้องวนเวียนในความฝันนี้ตลอดไป"

    "ฮัฟเฟิลพัฟหายไป แล้วปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะมานาเกีย" ลูเครเซียอ้าปากค้าง "นี่ท่านกำลังจะบอกว่าเซเวอรัสเป็นหลานชายฮัฟเฟิลพัฟ! เลือดสายตรงที่น่าจะหมดไปจากโลกแล้วนี่นะ?!"

    ลูเซียสยกมือลูบหน้าอย่างอ่อนเพลีย "นั่นมันบ้าชัดๆ"

    เซเวอรัสเป็นสลิธีรีนนะ ที่สำคัญ หมอนั้นมีอะไรที่จะทำให้คนสืบเสาะไปหาฮัฟเฟิลพัฟได้บ้างวะ นอกจากเก่งเรื่องต้มยา บ้ามนตร์ดำ ประดิษฐ์ศาสตร์มืด เคยเป็นสาวกแห่งความมืด...

    อันที่จริงที่ว่ามาทั้งหมดนี่มันเป็นประวัติเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟทั้งนั้นเลยนี่หว่า...?

    "รึจะจริง..." แฝดคนพี่รู้สึกเหมือนโดนสปอร์ตไล้ท์สิบแปดตัวส่องทางพร้อมกัน

    "พี่... ชั้นว่าพี่เริ่มจินตนาการเก่งแล้วนะ" น้องสาวท้วง

    "เงียบไปก่อน..." พี่ชายตัดบทห้วนๆ จากนั้นก็โพล่งออกไปยังชายที่ยืนตรงหน้า "ท่านมาเพื่อช่วยผมรึเปล่าล่ะ"

    พลัน-- ทายาทสายตรงของเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟหัวเราะลั่น

    "เจ้านี่... นั่นคือคำขอร้องเหรอ? ให้ตายสิ ชั่งเหมือนกริฟฟินดอร์เสียนี่กระไร... ขอความช่วยเหลือโดยไม่ต้องพูดว่า 'ได้โปรด' นี่  มันมีแต่กริฟฟินดอร์เท่านั้นที่ทำ"

    ลูเซียสเกาหัว ส่วนลูเครเซียพ่นออกมา "นั่นเป็นคำชมหรือว่าด่ากันน่ะ" ลูเซียสมองน้องสาว มันก็จริงอย่างที่เธอตั้งข้อสังเกต  เพราะเหมือนจะต่างกันแค่เส้นกั้นบางๆ จริงๆ

    *ชม--เจ้าสมเป็นทายาทกริฟฟินดอร์ เพราะเจ้าเหมือนกริฟฟินดอร์มากเหลือเกิน
    *ด่า--เจ้านี่มันไร้มารยาทจริงๆ เหมือนกริฟฟินดอร์ไม่มีผิด

    "แต่ตอนนี้ยังไม่... พวกเจ้าเหนื่อยเกินกว่าจะไปต่อ  ฉะนั้นข้าจะส่งพวกเจ้ากลับ  โดยมีเงื่อนไขว่าหลังจากจอมมารได้คืนชีพแล้ว  พวกเจ้าจะต้องไปที่คฤหาสร้างที่เคยเป็นโรงเรียนเพลมิล๊อค  ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม  นัดกันซะ  และไปให้ได้ภายในเจ็ดวันนับวันที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดคืนชีพและเรียกหาเหล่าสาวกเป็นครั้งแรก มิเช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกดึงกลับสู่โลกแห่งนี้โดยไม่อาจจะได้กลับไปอีก"

    ภายในเจ็ดวัน--นับจากวันที่จอมมารคืนชีพ!?! ตายโหงล่ะ!?!? ลูเซียสร้อนรนทันทีที่ได้ยิน จอมมารกำลังจะกลับมา  แล้วเค้าที่ไม่อาจรักษาสมุดจอมมารไว้ได้จะไม่โดนฆ่ารึไง!!!

    จากนั้นทั้งสองคนก็มองตามมือที่ลากไป  และเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟินพัฟก็เอ่ยขึ้นเบาๆ "ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นศิษย์เพลมิล๊อก-- ลูเครเซีย มัลฟอย  และจากที่เจ้าพูดกับพี่เจ้า  เจ้าไม่เคยได้เรียนกับข้า  แต่ไม่เป็นไรหรอกเด็กเอ๋ย  เพราะข้าจะสอนเจ้าให้แตกฉานในเวทย์สายฮัฟเฟิลพัฟเอง  เพื่ออนาคตเจ้าจะได้เป็นประโยชน์ให้กับคนจำนวนมาก  เด็กเอ๋ย  มีความจริงที่จะกล่าวกับเจ้า" ตอนนั้นเองที่เสียงได้ทะลวงสู่จิตใจของลูเครเซียเพื่อเธอจะไดยินเพียงคนเดียว

    --ในอนาคตกันไกล  เจ้าจะได้ได้ไปอยู่ในสงคราม  เจ้ากับพี่เจ้า  พวกเจ้าทั่งสองจะร่วมมือกันเพื่อปกป้องโลกเอาไว้ แต่  เจ้าจะต้องตายเพราะพี่เจ้า--

    ลูเครเซียอ้าปากค้างระหว่างที่แสงจ้าพาทั้งสองกลับสู่โลกอีกครั้ง...

    ....ลูเซียส....

    "............."

    ...ลูเครเซีย...

    "............"

    เสียงลมหายใจที่เหมือนจะแรงกว่าเสียงทั้งหมด  ลูเซียสหันไปมองภาพต่างๆ ท่ามกลางแสงสว่าง แต่แทบแยกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร

     

     


    "....โอย"

    นี่คือเสียงแรกที่ดังออกจากปาก  ร่างกายที่เป็นไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวราวกับจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ไม่เคยเจ็บปานนี้มาก่อนเลยในชีวิต  ลูเซียสพยายามยกยันตัวออกจากเตียง ก่อนจะคำรามออกมาและเหยียดมือไปโดนบางสิ่งที่ร้องกลับมา

    "โอ้ย เจ็บนะ"

    เสียงที่ประทับลึกติดตรึงในความทรงจำนั้นไม่มีทางที่ลูเซียสจะจำไม่ได้  เพราะมันคือเสียงของน้องสาวฝาแฝดของเค้านั้นเอง ลูเครเซียกำลังมองมาทางเค้าด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง  ไม่แน่ใจว่ามาจากความเจ็บหรือว่าความโกรธกันแน่ บางทีอาจจะทั้งสองอย่างก็ได้

    "ชี่ชช--" เสียงเบาของนาซิสซาดังขึ้น เธอกำลังดูแผลให้กับลูเครเซีย เวลานั้นลูเซียสเหมือนมีก้อนขมๆ มาจุกที่คอหอย แบบนี้นาซิสซาก็ต้อง...

    "ไม่ต้องห่วงหรอก  เดรโกยังไม่เห็นน้องสาวเธอ  ตอนที่เอรีสกับอเล็กซ์พาพวกเธอมา  เค้าให้เราพาเดรโกกลับบ้านก่อน" ภรรยารายงาน

    "งั้นเหรอ" สามีโล่งอก

    "ร้ายกาจนะอีตาบ้า  นอกจากจะมาโซแล้วยังซาดิสต์" นาซิสซาจูบน้องสาวสามีแต่ดวงตาที่มองมาเหมือนจะมอบมันให้สามีไปพร้อมๆ กัน "ชอบความเจ็บปวดแล้วไม่พอ  ยังต้องลากน้องสาวไปเจ็บตัวด้วย"

    "ชั้นไม่ได้ซาดิสต์หรือว่ามาโซทั้งนั้น ยัยบ๊อง"

    "รู้แล้วย่ะ  หยอกหน่อยก็ไม่ได้"

    "เดรโก..."

    "เค้าเห็นเธอบาดเจ็บ... ร้องไห้เสียใจมาก  เลยบอกให้เค้าว่า ให้กลับบ้านไปซะ  ห้ามบอกใคร  เดี๋ยวแม่จะสืบหาคนที่ทำร้ายพ่อเอง"

    ลูเซียสถอนใจ "จอมมารกำลังจะกลับมา"

    "ใครบอกเธอ" นาซิสซาเริ่มเครียด ก่อนจะเห็นบางสิ่งที่ท่อนแขนสามี "มันชัดขึ้นมาได้ยังไง"

    "ชั้นไม่รู้" ลูเซียสสั่นเมื่อคิดได้  ไม่คิดเลยว่าจะกลัวจอมมารได้ปานนี้

    "นาซิสซา... ช่วยเช็คที่แขนเซเวอรัสได้มั้ย" ลูเครเซียบอกพี่สะใภ้  เธอพยักหน้าแล้วรีบหายตัวไปทันที ซักพักหมอ นางพยาบาล และพ่อ-เอรีส จึงเข้ามาดูทั้งสอง

    "แทงทะลุทั้งสองข้างเลยนะเนี่ย ประเพณีของนิกายเหรอ" หมอหญิงถามเบาๆ ลูเครเซียหน้าบูดทันที

    "นี่... หมอคิดว่าชั้นทำตัวเองเหรอ"

    หมอหันไปมองคนที่เป็นพี่ชาย "อาจจะไม่ได้ทำก็ได้นี่"

    "พี่ชั้นก็ไม่ได้ทำ  บอกแล้วไงว่าจำไม่ได้ว่าเกิดได้ยังไง"

    เอรีสหัวเราะหึๆ ระหว่างตรวจสายน้ำกลือ "พวกเธอเลือดออกมา ต้องมีการให้เลือด  ดีนะที่พ่อกับลูเครเซียบริจาคเลือดเข้าธนาคารเลือดทุกปี ไม่งั้นตอนนี้พวกเธอคงต้องรับเลือดมักเกิ้ลแล้วล่ะ"

    ลูเซียสหายใจทั่วท้องเมื่อทราบว่าเลือดไหลกำลังไหลเข้ามาในตัวเค้า

    "เซเวอรัสเป็นไงบ้าง"

    "หายแล้ว"

    "ทำไมเร็วนัก"

    "พวกเธอสลบไปสี่วันแล้ว"

    "อะไรนะ!!" ลูเซียสตะกายจะลุกจากเตียง แต่พ่อกดลูกกลับลงไปเหมือนเดิม "ป่านนี้ที่บ้านผมคงจะ"

    "ไม่ต้องห่วง..."

    คำที่หนักแน่นทำให้เค้าคลายใจลง ดวงตาสีเทาเหลือบไปมองน้องสาวและคิดได้ว่า พวกหมอจะว่ายังไง พวกเค้ามีรอยแผลที่เหมือนกันไม่มีผิดแบบนี้
    ------------------------------------

    สอง-สามวันต่อมาพวกหมอประหลาดกับการฟื้นตัวอันรวดเร็วของฝาแฝด และเห็นพ้องต้องกันว่าพวกเค้าไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะนอนโรงพยาบาลต่อ ลูเซียสลาน้องสาวและพื่อเพื่อกลับมาพักรักษาตัวต่อที่บ้าน  แต่ร่องรอยแห่งความบาดเจ็บยังคงปรากฏชัด มากพอที่จะทำให้ชายผมสีเงินลางานอย่างไม่มีกำหนด

    "แกไปโดนอะไรมา เลียนแบบพระเยซูรึไง"

    นั่นคือคำถามหมาๆ จากบุรุษที่เค้าเรียกว่าพ่อ(พ่อเลี้ยง-ความจริงคือน้องของปู่) แต่ลูเซียสจะปฏิเสธอะไรได้ เพราะแผลเค้ามันก็เหมือนจริงๆ ทั้งมือทั้งเท้า หากมีแผลที่หัวและสีข้างด้วยคงจะครบตามพระคัมภีร์

    "ท่านเห็นพระเจ้าในชีวิตนาย ลูเซียส" เซเวอรัสพยายามปลอบ แต่ไม่ทำให้ลูเซียสดีขึ้น เพราะหากเบริฟรอทเห็นพระเจ้าในชีวิตเค้าได้ ท่านคงกลายเป็นคริสเตียนเต็มที่เมื่อเห็นอาเทอร์ วิสลี่ย์

    แม้พวกมัลฟอยจะไม่ค่อยยอมรับเรื่องราวมักเกิ้ล แต่พวกเค้าก็ไม่ว่าอะไรที่เซเวอรัสจะเผลอประกาศเรื่องราวพระเจ้าไปตามสัญชาตญาณเดิมบ้าง(แม้ทุกวันนี้จะมองไม่เห็นสันติสุขในชีวิตเซเวอรัสเท่าใดนักก็ตาม) ลูเซียสยังจดจำได้เกี่ยวกับตอนที่เซเวอรัสมาที่บ้านหลังนี้แรกๆ แล้วกล้าหาญชาญชัยขนาดเล่าเรื่องในพระคัมภีร์ให้พวกเค้าฟังได้ และเมื่อมองเซเวอรัสนั่งปอกแอปเปิ้ล ภาพเก่าๆ ก็ลอยมาในหัว

    "หลังจากที่พระเจ้าสร้างอาดัมกับอีฟพระเจ้าก็อวยพระพร --จงมีลูกดกทวีขึ้นจนเต็มแผ่นดินโลก--" จากนั้นก็เล่าไปเรื่อยๆ จนตอนที่โนอาห์สร้างเรืออาร์คจึงร้องสุดเสียงว่าลูเซียสตบหัวเค้าทำไม

    "มั่ว" เพื่อนที่แก่กว่าหกปีตำหนิ

    "มั่วตรงไหน" เด็กปีหกโวยวาย

    "ก็มีอาดัมกับอีฟแค่สองคน แล้วจะมีทายาทได้ยังไงจนเต็มแผ่นดินโลก" ชายหนุ่มผมสีเงินไม่ลดละ

    "พี่น้องท้องเดียวกัน"

    "อะไรนะ!!!"

    "ก็ตอนนั้นมีกันแค่นั้น ถ้าไม่เอาพี่น้องท้องเดียวกันมนุษย์ก็สูญพันธุ์ดิ"

    แม้จะรับไม่ได้แต่ก็ฟังต่อไปก่อนจะร้องสุดเสียงเมื่อถึงคราวโลทหนีจากโซโดมและโกโมรา เมื่อธิดาสองคนหาวิธีที่จะให้เผ่าพันธุ์พวกตนมีสืบต่อไป

    "แค่พี่น้องท้องเดียวกันก็แย่พอแล้ว นี่พ่อลูกแท้ๆ ก็ยังไม่เว้นเรอะ!?!?"

    "เชื่อสายพวกเค้าก็คือคนโมฮับ" เซเวอรัสเล่าต่อไปแบบไม่สนใจ

    บางทีลูเซียสก็อดไม่ได้ที่สงสัยว่าที่เซเวอรัสทนเรื่องที่เกิดทั้งหมดได้เพราะอ่านไบเบิ้ลมากไปหรือไม่ แต่เมื่อคุยเรื่องนี้กับพ่อและน้องสาวก็กลายเป็นว่าตกไปเพราะทั้งสองตอบตรงกัน

    "พระเจ้าห้ามการสมสู่กับเพศเดียวกับและสายเลือดเดียวกันไว้แล้วในเลวีนิติ"

    ลูเซียสยอมรับความจริงว่าเค้าคงไม่มีวันเข้าใจวิถีคริสเตียนที่มักเกิ้ลเป็น(อังกฤษนับถือนิกายเชิสร์ทอ๊อฟอิงแลนด์) เพราะเค้าไม่ใช่ลูกพระเจ้า ไม่ว่าพระเจ้าที่ว่านั้นจะเป็นองค์เดียวกับกับไนจัส อะโพคาลิฟหรือไม่

    "เซเวอรัส"

    "ว่าไง"

    "นายรายงานดัมเบิลดอร์เรื่องแผลเป็นรึยัง"

    เซเวอรัสมองหน้าเพื่อนรัก ตระหนักชัดว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องตรามาร "รายงานแล้ว"

    "มันเริ่มกระจ่างขึ้น"

    "อืม"

    "ดัมเบิลดอร์เชื่อใจได้เหรอ"

    "ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์จะปกป้องเรา แต่นายไม่ได้อยู่ในฮอกวอร์ต  คงไม่ได้รับการปกป้องตลอดเวลา  ชั้นขอท่านที่จะเข้าใจหากนายต้องเอาตัวรอดเพื่อตัวเองและครอบครัว มันไม่ใช่การทรยศแต่มันเป็นการปกป้องคนสำคัญ"

    คำตอบจากเซเวอรัสเหมือนจะรับรองอะไรบางอย่างในชีวิต ลูเซียสพยักหน้า "นายอยากไปดูควิชดิชมั้ย"

    "ชั้นไม่ชอบควิชดิช" เซเวอรัสตอบจากใจจริง แต่เค้าต้องดูต้องสนใจเพราะฐานะอาจารย์ประจำบ้าน หากถามความจริงใจ เค้าอยากเอาเวลาไปนั่งอ่านหนังสือมากกว่า

    และลิลี่ก็ชอบควิชดิช เซเวอรัสจะไม่สนใจสิ่งที่ลิลี่สนใจก็คงไม่ได้

    พอนึงถึงลิลี่ เค้าอดสงสารเพื่อนไม่ได้ การกลับมาของจอมมารคือการกลับมาของคนที่ฆ่าลิลี่ และเซเวอรัส  ในฐานะสายลับ ต้องทำตัวสวามิภักกับคนที่ฆ่าลิลี่นี่นะ?

    ความจริงเค้ากับนาซิสซาก็ไม่สามารถทำใจได้เหมือนกัน เซเวอรัสไม่ได้มีตัวคนเดียวในกองทัพผู้เสพความตายเหมือนแต่ก่อน แต่มีเค้าด้วย ซึ่งสภาพการณ์นี้อันตรายไม่น้อย เค้าจึงไม่ยอมให้นาซิสซามาอยู่ในทางสายนี้ เพราะแม้เป็นสลิธีรีนและเป็นเลือดบริสุทธิ์แต่มือภรรยาเค้าจะเปื้อนเลือดไม่ได้!!!

     

     

     

    วันนั้นเป็นวันที่มีควิชดิช--เวิร์น--คัฟ ลูเซียสตัดสินใจแต่งตัวเป็นผู้เสพความตายและชักชวนคนอื่นแกล้งมักเกิ้ลอย่างสนุกสนาน

    ใจจริงเค้าไม่อยากทำ แต่ทั้งหมดเพื่อเอาตัวรอด

    จอมมารกำลังจะกลับมา และเค้าต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าเค้าเกลียดมักเกิ้ล เค้าไม่ได้โอเคกับมักเกิ้ลเหมือนกับที่หลายๆ คนตั้งข้อสังเกต ซึ่งเดรโกที่กำลังจะรับสภาพแอบโอของพ่อแม่ก็ต้องงงเป็นไก่ตาแตก แต่ก็กลับตัวได้อย่างรวดเร็วที่จะกลับไปเป็นคุณชายสูงศักดิ์คลั่งเลือดอีกครั้ง

    ตรามารที่ปรากฏบนฟ้าเหมือนจะตอกย้ำความจริง... จอมมารกำลังจะกลับมา

    ตอนนี้ ทุกอย่างเป็นงานเซเวอรัส ส่วนเค้าก็เก็บตัวเงียบๆ รอจอมมารกลับมา

    รอให้จอมมารเล่นงานเรื่องสมุดบันทึกที่รักษาให้ไม่ได้  เพราะมันย่อมดีกว่าหนีไปแน่ๆ เค้ารู้จักจอมมารมากพอที่จะยอมรับผิดดีกว่าเลือกหนีไป  สิ่งหนึ่งที่เอรีสได้บอกกับเค้าก่อนที่เค้าจะตัดสินใจมีผลต่อการตัดสินใจจริงๆ อย่างมาก

    "เค้าพึ่งกลับมา ยังไม่มีอำนาจพอ เค้าไม่ต้องการเสียแนวร่วมโดยไม่จำเป็น  เพราะฉะนั้น หากเธอยอมลดราวาศอกให้เธอจะปลอดภัย  แต่พ่อจะเตือนเธอไว้  หากสงครามใหญ่มาเยือน ให้ทิ้งทั้งหมดไว้ซะแล้วพาลูกเมียรวมทั้งเซเวอรัสหนีมาหาพ่อที่โบสถ์ ตอนนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรเราจะปกป้องพวกเธอทั้งครอบครัว  พ่อสัญญา"

    ลูเซียสกำคำสัญญานี้ไว้ในมือแน่น และเค้าเลือกที่จะสู้เพื่อรักษาพื้นที่ในโลกเวทมนตร์  เพื่อที่คนจะไม่ประนามเค้าว่าใจเสาะ แต่อย่างไรก็ตาม หากไม่ไหว เค้าก็ยังมีพ่อและน้องเสมอ...

     

     

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×