หงส์ร่วง
เอาล่ะ, เรากลับมาพบกันอีกครั้งผมหายหัวไปเป็นเวลานาน ก่อนหน้านี้เราพูดถึงการที่บังทองได้เดินเข้าสู้ร่มเงาของเล่าปี่ ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเหมือนกับในนิยาย เพราะเล่าปี่ตัวจริงไม่ได้เป็นพวกกากที่เอาแต่ใช้มือพนมซ่อนดาบกับน้ำตาอาบยาพิษเหมือนในหนังสือ แต่ความจริงนั้นโคตรเท่และแมนสุดยอด ที่สำคัญคือมีศิลปะในการเล่นเกมทางการเมืองและรู้จักใช้คน ฉะนั้น, ข่งเบ้งและเดอะแก๊งไม่สามารถโด่งดังขึ้นมาได้ง่ายๆ เหมือนในหนังสือนิยายเช่นกัน เล่าปี่มีประวัติการสงครามทั้งการเมืองและการทหารอย่างโชกชน ถ้าไม่ดีจริงคงไม่สามารถที่จะอยู่ในความสนใจของเล่าปี่ได้ เพราะในความเป็นจริงท่านต้องเข้าใจ ข่งเบ้ง บังทอง ซีซีที่เขาว่าเก่งนักเก่งหนานั้น ในประวัติศาสตร์ไม่ได้มีบทบาทห่าเหวอะไรในสมัยเตียวหุยยังอยู่ เพราะเล่าปี่ปรึกษากับเตียวหุยเป็นหลัก และวงราชการก็มันส์มากขึ้นเมื่อหวดเจ้งเข้ามาสมทบ
บังทองพยายามที่จะเรียกร้องความสนใจอยู่หรือไม่... คำตอบคือไม่มีหลักฐานเช่นนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ผมก็ต้องยอมรับคือ เขาเป็นคนปากกล้า และอาจจะมีคุณธรรมมากกว่าข่งเบ้งและซีซี เห็นได้เมื่อเล่าทำสิ่งที่ไม่เหมาะสม หรือพูดในสิ่งที่ไม่สมควร บังทองลุกขึ้นตักเตือน ความจริง เราอาจถือว่าบังบังทองพยายามเรียกร้องความสนใจก็เป็นได้ แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น, ทำไมเขาไม่พยายามพูดกับเล่าปี่ในที่ระโหฐาน ทำไมต้องพูดต่อหน้าคนจำนวนมากเสมอ ผมอาจจคิดง่ายๆ ว่า เพราะเขาต้องการตัวช่วย เพราะถ้ามีคนเห็นด้วยกับเขา ทุกคนจะยืนข้างเขาและทำให้เล่าปี่ไม่กล้าต่อปากต่อคำ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเขาลุกขึ้นตำหนิการกระทำของเล่าปี่ในที่สาธารณะ เขาก็ถูกตอกหน้ากลับโดยเล่าปี่จนไม่มีที่ยืนในห้องซึ่งกำลังสนุกกับการเลี้ยงฉลอง
แต่ขณะที่บังทองกำลังหวั่นไหวกับอนาคตของเขาเอง เล่าปี่ก็เรียกเขากลับมาในวันหลังเพื่อปรับความเข้าใจ นั่นทำให้บังทองใจชื้นขึ้นและกลับไปทำงานอีกครั้ง
ตอนนี้บางท่านอาจจะมองว่าเล่าปีก็มีความเป็นผู้ใหญ่ไม่น้อยที่มองข้ามเรื่องเล็กๆ เพื่อเห็นแก่สิ่งที่สำคัญมากกว่า แต่กระนั้น ผมก็สังเกตว่า ทุกครั้งที่เล่าปี่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันจะมีอะไรรออยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่มักแลกด้วยชีวิต ขณะที่ซุนกวน ถ้าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แปลว่าให้ระวังตัว เพราะท่านกำลังจะหมดความสำคัญในใจของเขา ส่วนโจโฉนั้นคงไม่ต้องพูดถึง เพราะถ้าทำเหมือนมีอะไรเกิดขึ้น แปลได้อย่างเดียวคือ "สงสัยจะลืม"
อย่างที่บอก ทุกครั้งที่เล่าปี่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนเหล่านั้นจะเริ่มชะล่าใจ.. แน่นอน, ใครจะไปคาดคิดว่าเล่าปี่ซึ่งมีอัธยาสัยดีจะเป็นคนอาฆาตมาดร้าย และหลังจากนั้น, คนเหล่านั้นจะทยอยมีอันเป็นไปด้วยประการต่างๆ เช่นโดนข้อหาทุจริต ต้องจับตัดหัว หรือ ตายโดยประการต่างๆ
หลังจากแผนจับตัวโจโฉกลางสงครามผาแดงล้มเหลวโดยการตัดสินใจที่ผิดพลาดของข่งเบ้ง เล่าปี่กับเริ่มทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข่งเบ้งฉลาดที่หลบไป(ถ้าท่านจะสังเกต หลังศึกผาแดง พวกเขาต่างคนต่างอยู่) ไม่มาป้วนเปี้ยนใกล้หูใกล้ตาเล่าปี่อีกต่อไป ผมจึงสงสัยว่าข่งเบ้งอาจจะรู้เกี่ยวกับความนิ่งเงียบเหมือนขอนลอยเช่นนี้ มีใครบอกเขาหรือไม่ว่า เมื่อไหร่ที่เห็นขอนลอยห้ามเข้าใกล้ เพราะนั่นอาจเป็นจระเข้ที่รอจะงับเหยื่อ ไม่ว่าเขาจะรู้โดยความสามารถของเขาเอง หรือรู้โดยมีใครเป็นผีพรายกระซิบ ผมก็อดไม่ได้ที่จะคิด "ทำไมไม่เตือนบังทอง?"

^อุส่ามาให้จับขนาดนี้ยังจับไม่ได้เลย
ข่งเบ้งอิจฉาบังทองที่รับมือเล่าปี่ได้ดีกว่าตน จึงต้องการกำจัด หรือ เตือนแล้วแต่บังทองไม่เชื่อ?
หลังจากทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เล่าปี่มอบหมายงานทุกอย่างให้บังทองเหมือนปกติเพื่อแสดงความไว้วางใจ นั่นก็แปลก เพราะถ้าได้แลกหมัดกันหลายครั้งเช่นนั้น หากเล่าปี่คิดเขาไว้จริงๆ เขาควรกล้าตักเตือนบังทองอย่างตรงไปตรงมาเหมือนที่กล้าพูดกับเตียวหุย-กวนอูแบบลูกผู้ชาย แต่นี่เขากลับแสดงความอารีอารอบบังทองมากขึ้น ทำให้ผมสงสัยเจตนาเล่าปี่อย่างช่วยไม่ได้
และเรื่องมาถึงตรงนี้ครับ... จำได้มั้ยว่า บังทองตายเพราะอะไร
แน่นอนว่า แฟนหนังสือตอบ มันเป็นเคราะห์กรรม และแฟนประวัติศาสตร์ตอบ มันเป็นอุบัติเหตุ แต่ลองมาพิเคราะห์นิดหน่อย
ตั้งแต่อ่านสามก๊กมา มีซักกี่ครั้งที่กุนซือตายในที่รบ!?!?
ไม่ว่าจะเตียวหุยหรือจิวยี่ที่นับได้ว่าเป็นกุนซือที่ใกล้ชิดสมรภูมิสุดๆ หรือโจโฉ(สมัยยังเป็นแค่กุนซือ)ที่วางแผนการรบอยู่ดีๆ ก็เกิดเปรี้ยวดาบ วิ่งไปรบเอง พวกเขาก็ไม่ได้ตายคาสนามรบซักหน่อย หรือถ้าท่านจะแย้งว่า นั่นเพราะพวกเขาป้องกันตัวเองได้ งั้น, ไอ้ขี้โรคอย่างกุยแกล่ะ? นี่ก็เป็นกุนซือที่ใกล้ชิดสนามรบสุดๆ คนหนึ่ง และยังข่งเบ้งที่ถึงกับบัญชาการรบด้วยตัวเอง

^สภาพการทำงานของกุนโดยปรกติยากจะได้รับอันตราย ยกเว้นจะแพ้สงครามและโดยฆ่าทิ้งทั้งกองทัพ
ท่ามกลางสงครามเช่นนั้น บังทองในฐานะแม่ทัพคือคนที่ทหารต้องถวายชีวิตเพื่อปกป้อง ทำไมจึงยังดับอนาจ? ทหารของเล่าปี่มันห่วยหมดทุกคนรึไง ถ้าคิดมันเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดได้ แต่แค่หนึ่งในร้อย และบังเอิญว่าบังทองเป็นคนนั้น นั่นแสดงว่าถ้าบังทองไม่โคตรซวยจริงๆ บังทองก็ต้องอยู่ในสภาพที่เป็นจุดสนใจหรือเป็นเป้าอย่างมากจนทำให้มีใครฉวยโอกาสจัดการทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้
อีกอย่าง ความตายที่แท้จริงของบังทองนั้น เราไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราอ่านในประวัติศาสตร์และพบว่าบังทองตายในสงครามซึ่งแผนการรบถูกจัดวางเป็นอย่างดีไม่มีผิดพลาด ความจริงแล้วผมอยากจะตั้งคำถามกลับไปเช่นกันว่า ถ้าแผนการรบถูกจัดวางอย่างดี ทำไมบังทองจึงถึงฆาตได้อีก เพราะบังเอิญซวย? แม้จะป้องกันดีเพียงใดก็ยังหลบไม่พ้น
ตรงนี้เป็นปัญหา เพราะท่ามกลางความสับสน เราจับมือใครดมไม่ได้ ถ้าทหารที่เสียบบังทองตายมาจากฝ่ายศัตรูเราก็ไม่สามารถการันตี แต่ถ้ามันเกิดขึ้นท่ามกลางความสับสน มือสังหารฉวยโอกาสด้วยธนูดอกเดียว ก็ไม่มีใครคิดจะสืบสาวเช่นนั้นว่า ธนูดอกเดียวที่เอาชีวิตบังทองซึ่งบังเอิญมันเป็นธนูของผ่ายเราเองนี่ มันเป็นของใคร? เพราะท่ามกลางสงคราม อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ตามธรรมชาติ กุนซือไม่ออกไปยืนในที่อันตรายหรอกครับ แม้ว่าจะบ้าบิ่นเพียงใด ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ จะไม่ออกจากที่กำบัง ยกเว้นจะมีความสามารถเชิงรบอยู่บ้าง แต่ไม่บุกก่อนแน่นอนโดยเฉพาะเมื่อสงครามพึ่งเริ่ม
ความจริงที่น้อยคนจะรู้คือ บังทองตายตั้งแต่การรบพึ่งเริ่ม!!
จริงอยู่ที่ว่าท่ามกลางสงครามอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ท่ามกลางสงคราม มีซักกี่ครั้งที่กุนซือตายตั้งแต่สงครามดำเนินไปไม่ถึงครึ่งทาง แถม... ตายโดยอาวุธที่ไม่มีใครคิดจะสืบเสาะว่ามันมาได้อย่างไรทั้งที่เตรียมการอย่างรัดกุม นี่ท้าทายความคิดนะครับ ความจริงบังทองอาจตายเพราะอะไรก็ได้ แต่มันเป็นไปได้แค่ไหนที่อาวุธศัตรูจะเฉียดเข้าใกล้ขณะที่กุนซือยังไม่อยู่กลางสนามรบ แต่อยู่ท่ามกลางผ่ายของตนเพราะสงครามพึ่งเริ่ม
เพื่อนจะเชื่ออย่างไรก็ได้ครับ เพียงแต่ผมเชื่อว่า ธนูนี้มาจากทหารเล่าปี่...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ออกตัวเลยว่าเราเริ่มชอบสามก๊กอย่างจริงจังก็เพราะหงสาฯ ดังนั้นเม้นเลยอิงจากหงสาฯซะมาก
แต่คาแร็คเตอร์ของบังทองทั้งในหงสาฯและนิยายเราก็รู้สึกได้ว่าเจ้าตัวไม่ใช่คนนิสัยแย่อะไร
เหมือนจะมั่นใจในตัวเองมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังความเห็นคนอื่น ติดแต่ปากกล้า และตรงเกินไปมากกว่า
อันที่จริงมันก็น่าคิดจริงๆแหละ กุนซือตายกลางสนามรบนี่มันเป็นไปได้ยากนะ ยิ่งเปรียบเทียบกับกุยแก
ที่อ่อนแอตามที่ว่ามายิ่งเห็นภาพชัดเจน ว่าแต่บทความตอนพี่บังนี่สนุกมากเลยค่ะ
รู้สึกว่าสาระเยอะดี (ฮา)
....
หงสาฯเล่มล่าสุดเรารื้อมาอ่านอีกรอบ แล้วเริ่มสนใจในตัวท่านจิวมากเลยค่ะ
ในนิยายตายเพราะความใจแคบ อิจฉาพี่เบ้ง แต่ในหงสาฯแม้แต่เฮียบังยังเอ่ยปากว่ากงจินเป็นคนใจกว้าง
นี่ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจมาก (ไม่ได้มีเจตนาจะแอบรีเควสเรื่องท่านจิวแต่อย่างใดนะคะ+555)
ป.ล.ตั้งแต่ตามอ่านบทความนี้มา ตอนเล่าเสี้ยนกับขงเบ้งเป็นตอนที่เราชอบมากเลยค่ะ
แต่ชอบประเด็นจูล่งกับอาเต๊านะคะ(ฮา) จนแอบอยากให้บขยายความให้เป็นตอนพิเศษสักตอน
เพราะบางทีก็รู้สึกว่าอาเต๊าน่าจะนับจูล่งเป็นพ่อคนที่สองมากกว่า เพราะเกือบตายเพราะช่วยอาเต๊าไม่รู้เท่าไหร่
ปล.พี่ช่วยหาสามก๊ก ฉบับเฉินโซ่วที่เป็นตัวเล่มภาษาไทยให้ผมทีได้มั้ยครับ (ช่วยแนะนำเฉยๆก็ได้ เดี๋ยวผมไปหาต่อเอง) คือ ผมสังเกตว่า สามก๊กฉบับเฉินโซ่วไม่มีแปลมาเป็นภาษาไทยให้เห็นจริงๆ แม้แต่เล่มเดียว ขนาดเล่มที่ชื่อบอกว่า สามก๊กฉบับเฉินโซ่ว ก็ไม่มีการเล่าถึงสามก๊กจริงๆตามบันทึกเป็นอย่างไร เพียงแค่เอาตัวนี้มาอิงในการวิเคราะห์เฉยๆเท่านั้น ขอบคุณล่วงหน้าครับพี่