คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ชายที่ใครๆ ก็ว่าโง่
เตียวหุย--ชายที่ใครๆ ก็ว่าโง่
สิ่งแรกที่อยากจะพูดคือเตียวหุยไม่โง่นะ! ทามมายครายๆ ก็ว่าเตียวหุยโง่...(แงๆๆ) ครับนิยายของหลอกว้านจงทำพิษจริงๆ ขนาดมีคงเขียนในพันทิปว่า "เตียวหุยในหงสาฉลาดเกินไป ทำไมต้องเขียนให้ฉลาด เว้นไว้ให้โง่คนเดียวก็ได้!" แล้วก็เล่าชวนหัวก็ไม่ค่อยแสดงความเห็นว่าเตียวหุยฉลาดแม้คำพูดนั้นจะเป็นลักษณะประชดก็ตาม ผมไม่เห็นด้วยที่เล่าชวนหัวพูดเหมือนเตียวหุยไม่ค่อยฉลาด ทั้งที่ความจริงในจ๊กก๊กนั้น เตียวหุยเป็นอีกหนึ่งคนที่มีความรู้ความสามารถพอตัว เพียงแต่อาจจะอารมณ์แปรปรวนนิดหน่อยตามประสาพวกอาร์ตตัวพ่อ เตียวหุยเป็นเป็นจิตรกรหนุ่มที่มีความชำนาญสูงมาก ที่ถนัดที่สุดคือวาดรูปผู้หญิงครับ(เหมือนซินยุยบก) ซึ่งภาพผู้หญิงของเตียวหุยนั้นสื่ออารมณ์และจิตวิญญานของผู้หญิงได้อย่างล้ำลึก(ตามที่หลักฐานประวัติศาสตร์ว่า...) แล้วเตียวหุยยังมีความสามารถในการปลอมลายมือ แถมลายมือสวยด้วย
แต่กระนั้น เล่าชวนหัวเป็นหนึ่งท่านที่ผมเชียร์ให้อ่านงานวิจารณ์เกี่ยวกับสามก๊กของเค้าครับ เพราะนี่เป็นนักอ่านสามก๊กที่ศึกษาสามก๊กอย่างจริงๆ จังๆ โดยเฉพาะในแง่ประวัติศาสตร์ แต่ใครเป็นแฟนคลับจ๊กอาจจะไม่สบอารมณ์มากเพราะถือว่าย่ำยีจ๊ก อาจจะมองว่าอคติเกินไปด้วยซ้ำ(จริงๆ จะว่าอคติมันก็ใช่นะ) แต่... ถ้าใครศึกษาเชิงประวัติศาสตร์มากกว่าจะตีความทั้งหมดจากนิยายของหลอกว้านจง ผมกล้าที่จะพูดว่าท่านผู้นั้นจะชูฮกคนๆ นี้มากเพราะข้อมูลประวัติศาสตร์ของเล่าชวนหัวนั้นแน่นจริง ไม่เชื่อลองไปลงศึกษาเองเลยก็ได้ แล้วเอาข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบดู ท่านจะพบว่าหลายสิ่งที่ท่านพบนั้นเป็นสิ่งที่เล่าชวนหัวเขียนบอกท่านแล้วในสามก๊กฉบับคนเดินดิน แต่ท่านไม่เชื่อเอง! เพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้จักประวัติศาสตร์ งานของเล่าชวนหัวคืองานชิ้นแรกที่แนะนำให้หาอ่านดู แต่ถ้าท่านไม่ชอบความจริงชอบความฝันมากกว่าก็อย่าอ่านครับ(เพราะท่านอาจจะรับไม่ได้ในความจริงหลายเรื่อง) แต่เราต้องตกลงกันก่อนนะว่าจะถกกันในแง่นิยายเท่านั้นไม่โวยวายเมื่อผมพูดในเชิงประวัติตาสตร์
เตียวหุยในสำเนียงจีนกลางเรียกว่า "จางเฟย" มีชื่ออย่างเป็นทางการยิเต๊อะ แปลว่าคุณธรรมติดปีก(อย่าไปแปลว่าคุณธรรมบินหนีนะ) เป็นลูกชาย(ไม่ทราบว่าลำดับที่เท่าไหร่)ของพ่อค้าแซ่จางที่ขายสุราฆ่าสุกร ด้วยความมีวุฒิภาวะทางเพศเร็วกว่าเด็กอื่นทำให้เตียวหุยรูปร่างสูงใหญ่ สูงถึงแปดเชียะขณะที่มีอายุเพียงสิบเจ็ดปี(นับแบบจีนเป็นสิบแปด) แถมหนวดเครารุงรัง ในนิยายของหลอกว้านจงเล่าถึงวิธีการที่พวกเค้าพบกันอย่างไรท่านคงจำได้ เพียงแต่ในประวัติศาสตร์จริงพวกเค้าพบกันในสังกัดของกงซุนจ้านเมื่อมาสมัครเป็นทหารและได้รู้จักจูล่งในคราวนั้นด้วย ไม่ใช่พึ่งรู้จักกันในภายหลัง และเมื่อกงซุนจ้านร่วมงานกับคณะปฏิวัติ พวกเล่าปี่-จูล่งจึงพลอยได้รู้จักกับโจโฉซึ่งอยู่เบื้องหลังคณะปฏิวัติและมีชื่อเสียงเกรียวกราวพอสมควรจากการใช้ไม้พลองห้าสีปราบผู้มีอิทธิพล แล้วยิ่งดังระเบิดเถิดเทิงจากการปราบม๊อบเสื้อเหลืองซึ่งต่อมาก็เปลี่ยนมาใส่เสื้อแดงกันหมด จากนั้นก็ยังมีคดีติดตัวในฐานะผู้ที่พยายามฆ่าตั๋งโต๊ะ ก่อนจะกลายเป็นหัวโจ๊กที่ก่อตั้งกองทัพคณะปฏิวัติแม้จะไม่เป็นหัวหน้าเอง
เอ่อ... ที่ว่าเสื้อแดงเสื้อเหลืองนี่ไม่เกี่ยวกับการเมืองบ้านเรานะครับ แล้วที่ว่าเสื้อเหลืองกลายเป็นเสื้อแดงนี่หมายถึงการที่กลุ่มผ้าเหลืองย้ายมาอยู่กับโจโฉ เพราะสีประจำทัพของวุ้ยก๊กคือสีแดง ฉะนั้นทุกคนก็ต้องมีสีแดงติดตัวเพื่อให้รู้ว่าพวกเดียวกัน แม้แต่โจโฉที่เป็นแม่ทัพก็ยังสวมเสื้อคลุมแดงด้วย... ต้องเรียนให้เข้าใจก่อนเดี๋ยวจะหาว่าผมเชียร์สีไหนเป็นพิเศษ
ตามบันทึกว่าเล่าปี่(หลิวเป้ย) กวนอู(กวานหวี่ย์) และเตียวหุยนี่รักกันเหมือนพี่น้อง จึงเกิดเป็นบทงิ้วเรื่องที่สามคนสาบานเป็นพี่เป็นน้องกันทั้งที่ความจริงสมัยนั้นยังไม่มีพิธีกรรมที่ว่านี้ แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าพวกเค้าทั้งสามนับถือกันเป็นลูกพี่กับลูกน้อง--เอ้ย! พูดผิด! เป็นพี่เป็นน้อง! เตียวหุยเป็นใจร้อนวู่วามจริง แต่ก็ไม่ถึงขนาดไม่มีเหตุผล เวลาโกรธจะโวยวายมากแต่ถ้าอธิบายได้ก็หายโกรธทันที ทว่า นิสัยแบบนี้กลับถูกเขียนในบทงิ้วว่าเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง ขนาดพี่ชายกลับมาพร้อมกับพี่สะใภ้สองคนเป็นพยานยังไม่เชื่อ หาเรื่องจะรบกันจนได้! แล้วนิสัยที่ว่าของเตียวหุยนี่ก็กลายเป็นหนึ่งในจุดอ่อนหลายจุดที่ทำให้นิยายของหลอกว้านจงมีความล่ะหลวมอย่างไม่น่าให้อภัยถ้าจะอ่านดีๆ
เตียวหุยที่ปรากฏในหงสาจอมราชัญนั้น ผมประทับใจครับเพราะอุส่าห์บรรจงเก็บพรสวรรค์และความอาร์ตของเตียวหุยมาใส่ไว้ ในขณะที่สามก๊กเวอร์ชั่นอื่นละเลยมาตลอด แม้ว่าจะดูบ้าๆ บอจากการที่แกทำลายอะไรก็ไม่รู้เต็มหน้าเต็มตาแถมไม่ยอมล้างออกซะที แต่ที่ผมชอบที่สุดคือเตียวหุยในสามก๊กโมเอ๊ะ ที่น่ารัก ไร้เดียงสาแถมเหมือนจะกิ๊กกับข่งเบ้ง(ดีนะที่เป็นเวอร์ชั่นเด็กผู้หญิง ถ้าเป็นเวอร์ชั้นตาลุงหนวดเฟิ้มนี่ตัวใครตัวมันครับ) เริ่มด้วยการชื่นชมข่งเบ้ง ก่อนจะอิจฉาที่กวนอูชื่นชมข่งเบ้งมาก แต่แล้วยอมรับในความพยายามของข่งเบ้งน้อย ในที่สุดก็เป็นเพื่อนกัน ที่ว่ากิ๊กกันนี่เพราะท่านมังกรหลับทำท่าเหมือนมีใจให้เตียวหุยอะดิ! ฉากที่ประทับใจที่สุดอยู่ในภาคสามที่ตะโกนในที่ประชุมของคณะปฏิวัติว่า "พวกเจ้าเป็นเจ้าเมืองประสาอะไร ทำไมถึงดูไม่ออกว่าน้ำตานี้เป็นของจริงหรือแกล้งทำ" ในตอนที่ตันก๋งมาขอความช่วยเหลือ อีกเวอร์ชั่นที่ลืมไม่ได้คือเตียวหุยในจอมราชัญย์อหังการตอนที่สื่อสารกับโจโฉด้วยภาษาใบ้ก่อนจะทำลายสะพาน สุดยอดจริงๆ!
<เตียวหุยมาดสารถี(โจโฉมาเกี่ยวอะไรด้วย)
< เตียวหุยเวอร์ชั่นสามก๊กโมเอ๊ะ ผมชอบเวอร์ชั่นนี้ที่สุดครับ ^///^
แล้วก็ลืมไม่ได้เกี่ยวกับจอมราชัญย์อหังการที่ตีความว่าเตียวหุยกับกวนอูไม่ได้รักกันมากขนาดนั้น นี่น่าสนใจมากครับ เพราะดูจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดกับกวนอู ตอนกวนอูทำสงครามกับขุนพลของโจโฉนั้นไม่มีใครส่งกองกำลังไปช่วยเลย จนกระทั่งถูกพวกซุนกวนต้มเอาจนต้องเสียเมือง หมดลายเจ้าพ่อเกงจิ๋วก็ไม่มีใครส่งกำลังไปช่วยกวนอูทั้งๆ ที่เรื่องใหญ่ขนาดนั้น! ดังขนาดนั้น! จะไม่รู้ได้ยังไง จนกระทั้งเมื่อกวนอูหัวขาดแล้วตั้งสิบแปดเดือนจึงบังเกิดความโกรธแค้นแทนกวนอู(นึกถึงตอนที่เฮอร์ไมโอนี่โยนหินใส่หัวแฮร์รี่ในภาคสาม แฮร์รี่ไม่ว่าอะไรจนกระทั่งเมื่อรู้ว่าคนขว้างคือใครจึงลูบหัวแล้วบอกว่า "โอ๊ย เจ็บนะ")ทำไมถึงได้ความรู้สึกช้าขนาดนั้น แถมไม่ทันได้ล้างแค้นก็ถูกตัดหัวซะก่อน
ความสัมพันธ์ของสามศรีพี่น้องนี่ก็ชั่งสุดจะทนจริงๆ (-"-)
ความคิดเห็น