ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฮาประสาสามก๊ก

    ลำดับตอนที่ #21 : โศกนาฏกรรมของซุนฮก(เกือบวายเหมือนกัน)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.36K
      9
      6 ธ.ค. 54

    โศกนาฏกรรมของซุนฮก
     

    ทีแรกผมตั้งใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับการตายของโจโฉและการขึ้นครองราชย์ของโจผี แต่ขนมเจ้ากรรมที่ไม่อร่อยสมกับที่จ่ายเงินซื้อทำให้ผมตัดสินใจเก็บไว้คราวหน้า  เพราะผมนึกถึงเรื่องที่ผมค้นพบและอยากจะเขียน แต่ก็มัวผลัดวันประกันพรุ่งจนล่วงเลยไปกว่ายี่สิบตอนแล้ว นั่นคือเรื่องของซุนฮกกับกล่องขนมปริศนาที่นำมาซึ่งความตายของเค้า  นิยายและประวัติศาสตร์ระบุตรงกันว่าโจโฉโกรธที่ซุนฮกคัดค้านไม่ให้โจโฉรับตำแหน่งวุ่ยอ๋องทำให้ถูกละเลยในเวลาต่อมา แต่ต่างกันในรายละเอียด  นิยายบอกว่าโจโฉส่งกล่องขนมเปล่าไปให้และซุนฮกรู้ว่าเป็นใบสั่งตายจึงกินยาตาย ขณะที่ประวัติศาสตร์บอกว่าซุนฮกเสียใจที่โจโฉทำตัวห่างเหินจนตรอมใจและป่วยตาย ผมยอมรับว่านั่นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่าโจโฉ "ใจร้าย" จริงทั้งๆ ที่ผ่านมาโจโฉก็โชว์ความโหดมาหลายครั้งแต่ก็ไม่รู้สึกว่าร้ายเพราะเมื่อพิจารณารอบด้านแล้วจะเห็นเหตุผลที่น่าให้อภัยอยู่เสมอ หากสำหรับกรณีซุนฮกนี้ผมอดไม่ได้ที่จะตำหนิโจโฉ ผมมัวตีความเรื่องกล่องขนมเปล่าแต่กลับมองข้าม "การตายที่รวดเร็วและสิ่งที่เกิดก่อนที่กล่องขนมเปล่าจะถูกส่ง" เรามักเชื่อว่าโจโฉรักกุยแกที่สุด แต่จอมราชันย์ฯ ตอนที่ซุนฮกตายกลับสะกิดใจผมจนต้องกลับไปค้นคว้าใหม่ ซึ่งผลการค้นคว้าใหม่คือ "สุดในความรู้สึกของโจโฉคือซุนฮกผู้เป็นเสนาธิการคนแรกและเป็นคนที่โจโฉวางใจที่จะคุยทุกเรื่องด้วย"
     
    ^ซุนฮก(ชุดเขียว)เป็นคนที่โจโฉ(เตี้ยที่สุด)จะเป็นตัวของตัวเองที่สุดเมื่ออยู่ด้วย

    ในศึกที่พวกลิโป้จุดไฟเผาเมืองโจโฉยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อลูกน้องขาเจ็บอย่างซุนฮก ไม่ทิ้งซุนฮกแม้นาทีวิกฤตแต่กลับพยายามพยุงซุนฮกออกจากเมืองที่ไฟไหม้ทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บเลือดท่วมจนแทบหมดแรง(หลังเหตุการณ์นั้นโจโฉไม่ให้ซุนฮกอยู่ในสนามรบด้วยอีก) และตลอดเวลาที่ผ่านมาโจโฉปรึกษาและระบายความคับค้องใจกับซุนฮกตลอด ระหว่างศึกกวนตู้โจโฉไม่คิดปรึกษาปัญหาใจกับกาเซี่ยง เทียหยก ซุนฮิว หรือแม้แต่กุยแกที่ทุกคนคิดว่ารักที่สุด แต่เขียนจดหมายไปหาซุนฮก!? ซึ่งซุนฮกก็ได้ตอบจดหมายนี้ว่า "ถ้าอ้วนเสี้ยวชนะท่านที่ฮูโต๋ ท่านจะเผชิญหน้ากับความแข็งแกร่งด้วยความอ่อนแอ ถ้าไม่สามารถจัดการกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังความพ่ายแพ้ได้ท่านจะถูกกำจัดและกลายเป็นหายนะของแผ่นดิน  ยิ่งกว่านั้น อ้วนเสี้ยวเป็นแค่ผู้นำธรรมดาที่รวบรวมผู้คนได้ แต่ท่านเปรี่ยมด้วยพรสวรรค์และเป็นคนที่สวรรค์ลิขิตท่านจะแพ้ได้อย่างไร  แม้เสบียงของท่านจะน้อยและไพร่พลก็น้อยกว่าของอ้วนเสี้ยวถึงสิบเท่า แต่ท่านก็สามารถยึดที่มั่นและสามารถรักษามันไว้ได้ เมื่อท่านทำให้เขาไม่ไปไหนไม่ได้ อีกไม่เกินครึ่งปีไพร่พลของเค้าจะเริ่มถอดใจ นี่เป็นเวลาตัดสินแพ้ชนะ และถ้าใครถอยก่อนก็จะเสียทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วท่านจะทิ้งโอกาสนี้ไปรึไง" ซึ่งทำให้โจโฉมีกำลังใจจนพูดกับคนที่มาส่งเสบียงว่า "ภายในสองอาทิตย์ ข้าจะปราบอ้วนเสี้ยวเพื่อพวกท่าน แล้วข้าก็จะไม่ทำให้พวกท่านลำบากอีก"
     
    ^ซุนฮกอ่านจดหมายของโจโฉ

    อาจจะเพราะรูปร่างหน้าตาที่ดูบอบบางเกินเหตุ, ประวัติการสงครามที่เป็นแค่นายพลเสนาธิการ แถมนำทัพด้วยตนเองครั้งแรกก็เกือบเอาชีวิตไปทิ้งแทบเท้าลิโป้ ทำให้โจโฉถูกมองโดยสายตาของคนส่วนใหญ่ในยุคนั้นว่าเป็นผู้นำที่อ่อนแอ คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าโจโฉจะสามารถเป็นผู้นำของก๊กที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดจริงๆ ด้วยซ้ำจนมันเกิดขึ้นจริงๆ ซึ่งหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญก็คือซุนฮก เรารู้จักเค้าในฐานะคนที่ภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น แต่เมื่อผมพิจารณาแล้วอยากจะออกความเห็นว่าซุนฮกภักดีต่อฮ่องเต้น้อยกว่าที่รักโจโฉ  เค้าไม่ได้สนับสนุนให้รับฮ่องเต้มาอยู่ด้วยแต่แรกเพราะเห็นว่า "เท่ากับขัดขาตัวเองในการเป็นใหญ่" จากบทสนทนาของในประวัติศาสตร์ท่าทีของซุนฮกเหมือนต้องการสนับสนุนโจโฉเป็นฮ่องเต้มากกว่าจะสนับสนุนให้ปกป้องราชวงศ์ฮั่นด้วยซ้ำ  แต่เมื่อโจโฉแสดงความต้องการชัดเจนซุนฮกจึงยอมหันมาสนับสนุนและคอยให้กำลังใจเวลาที่โจโฉลังเลหรือท้อแท้เนื่องจากภาระอันหนักหน่วงในการเลี้ยงดูพระเจ้าเหี้ยนเต้และพระญาติซึ่งมีค่าใช้จ่ายมหาศาลและต่อสู้กับสิ่งที่เป็นอุปสรรคในการพาประเทศชาติให้ไปรอด  ผมจึงเชื่อว่าที่ซุนฮกคัดค้านการขึ้นสู่ตำแหน่งวุ่ยอ๋องเพราะกลัวโจโฉจะมีชื่อเสียในประวัติศาสตร์มากกว่าจะเป็นเพราะความภักดีต่อราชวงศ์ฮั่น
     
    ^สายสัมพันธ์ของซุนฮกกับโจโฉในประวัติศาสตร์นั้นใกล้ชิดกันยิ่งกว่าสายสัมพันธ์ของโจโฉกับกุยแกในนิยาย

    พระเจ้าเหี้ยนเต้ฉลาดพอที่รู้ว่าไม่มีทางหยุดการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์ได้จึงทรงทำทุกอย่างเพื่อที่พระองค์จะทรง "ปลอดภัย" หลังโจโฉทิ้งโลกอันวุ่นวายไป โดยการแสดงออกถึงความโปรดปราน-ประเคนตำแหน่งและยศฐาบรรดาศักดิ์มากมาย รวมทั้งขอลูกสาวเป็นเมีย เพื่อปูทางให้โจโฉขึ้นแทนพระองค์ได้โดยไม่ต้องทำอะไรมาก ซึ่งถ้าวันที่พระองค์ต้องลงจากตำแหน่งมาถึงก็จะทรงอยู่อย่างสุขสบายและมีหัวอยู่ติดอยู่กับบ่า(เพราะยังไงเสียก็ทรงเป็นราชบุตรเขยพระเจ้าโจโฉ) ก็นั่นสิ! ทำไมจะไม่ทรงรู้ล่ะว่าประชาชนยอมรับนายกโจมากกว่าพระองค์แม้เจ้าตัวจะไม่อยากเป็นฮ่องเต้ แน่นอนว่าไม่อยากจริงๆ เพราะมันยุ่งยากในทัศนะของคนสบายๆ ที่พูดทุกอย่างตามที่คิด อยากจะร้องเพลงตอนไหนก็ร้องอยากจะวิ่งก็วิ่ง ขนาดตอนเป็นวุ่ยอ๋องแล้วยังชอบหนีออกจากวัง-แต่งชุดผ้าฝ้ายธรรมดาไปยืนต่อของที่ตลาดนัดสินค้ามือสอง(มีบันทึกจริงๆ ในประวัติศาสตร์) คนที่มีอำนาจที่ล้นหลามอยู่ในมือจริงๆ ย่อมไม่สนใจตำแหน่งที่ไม่แตกต่างจากนกในกรง แต่ซุนฮกก็ร้อนใจอยู่ดี แม้โจโฉจะชอบมีอำนาจแบบไม่ต้องแบกเครื่องราชอิสริยยศ(จะแบกทำไม หนักก็หนัก ยุ่งยากจะตาย กูยิ่งเตี้ยอยู่ แก่แล้วด้วย อย่าเอาชุดให้รุ่มร่ามมาให้ใส่ได้มั้ย เกิดกูเหยียบชายผ้าหกล้มขึ้นมามึงช่วยกูได้เรอะ ฯลฯ) แต่ไม่มีอะไรยืนยันว่าโจผีจะคิดเหมือนพ่อ  ถ้าโจผีอหังการล้มฮ่องเต้คนที่จะถูกมองว่าทำให้ราชวงศ์ฮั่นต้องล่มสลายก็คือโจโฉไม่ใช่โจผีที่งอกงามบนทางที่บิดาแผ้วถางไว้
     <นิสัยของโจโฉเป็นคนชอบทำอะไรตามสบาย ถ้าให้เป็นฮ่องเต้(หรือชั่วสุดแค่อ๋อง)ก็มากพอจะทำให้รู้สึกอึดอัดกับระเบียบปฏิบัติที่วุ่นวายและการแต่งกายที่รุ่มร่าม ผมจึงไม่คิดว่าโจโฉจะอยากเป็นฮ่องเต้

    อีกเหตุผลอาจเพราะซุนฮกเป็นหยู(ศรัทธาข่งจื้อ)แม้จะหยืดหยุ่นบ้างจากการอยู่กับโจโฉแต่ก็ยังเป็นหยู ขณะที่โจโฉไม่ชอบหยู(นายกโจชอบคนกล้าแสดงออก, มีความคิดแปลกๆ และเป็นตัวของตัวเอง ถ้าโผล่มาก็อ้างแต่ "ข่งจื้อบอกว่า--" เชิญไปอยู่ก๊กอื่นเถอะ) นายกโจคิดว่าคนที่ศรัทธาหยูมีแนวโน้มจะขัดขวางพัฒนาการของประเทศชาติเพราะไม่ยอมรับคนที่ความสามารถจริงๆ คือโจโฉมีความคิดแบบเมิ่งจื้อคือ "ทุกคนเป็นคนดี" แต่บางครั้งต้องเลวเพราะสถานการณ์บังคับ การให้โอกาสคนมีความสามารถคือการให้โอกาสคนเลือกทำความดี โจโฉจึงมีนโยบายรับคนมีความสามารถโดยไม่เลือกวรรณะ เชื้อชาติ เพศ และการศึกษา ซึ่งเป็นนโยบายที่หยูรับไม่ได้ ฎีกามากมายที่บรรดาขุนนางนำมาร้องเรียนฮ่องเต้เรื่องโจโฉ 90%คือการที่โจโฉทำตัวเป็นศัตรูกับหยู ถ้าจะมีอะไรที่ซุนฮกและโจโฉงัดกันก็คือการรับคนเข้าทำงานที่ซุนฮกเลือกคนมีคุณธรรมแบบดีมาแต่บรรพบุรุษ ถ้ามีประวัติลักเล็กขโมยน้อยจะไม่เอาเด็ดขาด ขณะที่โจโฉต้องการคนมีความสามารถ ไม่เกี่ยงแม้แต่คนที่ฉลาดแบบขี้โกงพร้อมประกาศอย่างอหังการว่า "มึงอย่าคิดโกงกูนะ เพราะกูโกงยิ่งกว่ามึง(อย่าให้จับได้ว่าโกงนะไม่งั้นหัวขาดแน่)" แค่นี้แนวทางของทั้งคู่ก็ทำท่าจะไม่ไปด้วยกันซะแล้ว
     
    ^ความพยายามของเหล่าขุนนางที่พยายามผลัดดันโจโฉสู่ตำแหน่งวุ่ยอ๋องทำให้สายสัมพันธ์ของทั้งคู่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

    อีกประการ แม้ในประวัติศาสตร์โจโฉจะไม่เคยเออออห่อหมกกับการแต่งตั้งตำแหน่งวุ่ยอ๋องของตน แต่ก็ไม่ปฏิเสธต่อแรงศรัทธาของผู้คนที่พยายามผลักดันเค้าขึ้นสู่ตำแหน่งวุ่ยอ๋อง ซุนฮกจึงต้องต่อสู้อย่างหนักกับเพื่อนที่เคยร่วมอุดมการณ์จนกลายเป็นปรปักฏ์กับทุกคนที่ต้องการหนุนโจโฉสู่อำนาจสูงสุดเพื่อเป็นเกียรติต่อตนและวงศ์ตระกูลว่าได้ช่วยสร้างฐานอำนาจให้ฮ่องเต้(โจโฉ) และคำพูดของโจโฉที่ว่า "หากตายไปก็หวังแค่ให้จารึกป้ายหลุมศพว่า 'แม่ทัพปราบขบถ' ก็พอสำหรับข้าพเจ้าแล้ว" ก็ไม่ได้เป็นการปฏิเสธตำแหน่งนี้แต่เหมือนจะแค่บอกว่า "ไม่หวังจะได้ แต่ถ้าได้ก็เป็นกำไรชีวิต" มากกว่า อย่างไรก็ดีเรื่องตำแหน่งวุ่ยอ๋องก็ทำให้อำนาจที่เคยรวมเข้าสู่ศูนย์ในมือของโจโฉแตกเป็นสองขั้ว  เช่นนี้โจโฉย่อมวางตัวลำบากเป็นธรรมดา ไม่ใช่แค่กับกลุ่มซุนฮกที่ขัดขวางเท่านั้นแต่กับกลุ่มที่สนับสนุนก็ตกที่นั่งลำบากเช่นกัน  และถ้าผมบอกว่ากลุ่มที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการสนับสนุนให้เป็นวุ่ยอ๋องได้ถูกประหารเพราะร่วมมือกับฟูฮองเฮาในแผนเด็ดชีพนายกโจในเวลาต่อมา ท่านจะมองภาพการเมืองชัดเจนขึ้นว่าเป็นแผนยุยงให้แตกสามัคคี ลองคิดถึงตอนที่ซุนฮกพบว่าตัวเองตกเหยื่อในแผนทำลายนายกโจสิครับ นั่นอาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ล้มป่วย
     
    ^เตียวเลี้ยว(สวมเกราะ)หนึ่งในผู้สนับสนุนตำแหน่งวุ่ยอ๋องของโจโฉ(ชุดน้ำเงิน) แม้ประวัติศาสตร์จะไม่เขียนรายละเอียด แต่เราสันนิฐานได้ว่า เตียวเลี้ยวเองก็คงไม่ชอบใจซุนฮกเหมือนเดิม เมื่อลูกน้องงัดกันเองจากที่เคยอยู่อย่างสามัคคีกัน โจโฉจึงเริ่มวางตัวลำบากกับทั้งสองฝ่าย แต่ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่เกิดกับกลุ่มคัดค้านมากกว่าเพราะการตายของซุนฮกและเนื่อเรื่องในนิยาย ทั้งที่ในความจริงสถานการณ์ตึงเครียดทั้งสองฝ่าย

    ในตอนซุนฮกป่วย โจโฉก็ไม่ได้ทิ้งซุนฮกและยังแวะมาเยี่ยมเยียนเสมอ ยกเว้นช่วงน้ำท่วมที่บริเวณลุ่มแม่น้ำฮวงโห ซึ่งเราอาจจะเคยได้ยินเกี่ยวกับความหฤโหดของแม่น้ำสายนี้ที่แม้สมัยปัจจุบันแม้น้ำสายนี้ก็ยังคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากในฤดูน้ำหลาก โจโฉถึงกับลงพื้นที่ด้วยตนเองท่ามกลางเสียงคัดค้านหัวชนฝาของบรรดาที่ปรึกษา  ตามที่บันทึกในประวัติศาสตร์น้ำท่วมสูงถึงเมตรยี่สิบเซนต์ และนายกโจนั้นมีความสูงในวัยหนุ่มแค่เมตรห้าสิบหกเซนต์เท่านั้น  และท่านอย่าลืมนะครับว่าเมื่อแก่ตัวมาน้ำในข้อต่อจะลดลงทำให้ส่วนสูงลดลงจนอายุประมาณหกสิบห้ากล้ามเนื้อจะหย่อนยานมากจนไม่สามารถหยืดตัวตรงได้ทำให้หลังค้อมลงอีก โจโฉที่อายุหกสิบจึงไม่ได้สูงเมตรห้าสิบหกอีกแล้วแต่สูงเมตรสี่สิบกว่าๆ พื้นก็ใช่ว่าจะราบเสมอกัน(ก็ต้องเป็นหลุมเป็นบ่อบ้าง) ระหว่างลุยน้ำถ้าโจโฉเหยียบลงไปในหลุมนี่-แกจมหายไปเลยนะครับ! ต่อให้เคาทูตามมาติดๆ ก็อาจคว้าไม่ทัน เพราะงั้นที่ทุกคนคัดค้านนี่ถูกต้องที่สุดแล้ว แต่สุดท้ายนายกโจก็ลงพื้นที่โดยไม่มีใครห้ามได้ซึ่งอาจจะเพราะต้องการหลบหน้าซุนฮกด้วย กระนั้นก็ยังอุส่า.. มีคำสั่งให้ส่งกล่องอาหารให้ซุนฮกทุกวันเพราะเกรงว่าซุนฮกจะไม่ยอมกินข้าว  ระหว่างนั้นเองมีราชโองการแต่งตั้งวุ่ยอ๋องส่งมาให้ถึงสามครั้งสามหนซึ่งโจโฉก็ปฏิเสธทั้งสามครั้ง(บางทีผมก็แอบคิดขำๆ ว่าสนมโจคงห่วงพ่อ  พระเจ้าเหี้ยนเต้จึงพยายามเรียกตัวกลับแต่แกไม่กลับเลยทำหนังสือราชโองการแต่งตั้งซะ เผื่อจะรีบกลับเพราะความดีใจ) ซึ่งการปฏิเสธของโจโฉนั้น เราจะตีความอย่างไรดี  โจโฉไม่อยากรับตำแหน่งจริงๆ? หรือ เป็นชั้นเชิงที่ทำให้คนมองว่าตนไม่ได้เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง?
     
    ^ในฐานะผู้นำประเทศ โจโฉไม่อาจแสดงความอ่อนแอได้บ่อยๆ แต่ซุนฮกเห็นทุกสิ่งในชีวิตโจโฉ แม้แต่ด้านที่เล้นลับที่สุด เช่น ความรู้สึก

    ผมอยากจะเชื่อโจโฉกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของซุนฮกมากกว่า เพราะหลังกลับจากน้ำท่วมโจโฉก็เดินทางไปพบซุนฮกและพูดคุยอะไรกันที่ผมไม่อาจรู้ได้ แต่ที่รู้คือบันทึกเกี่ยวกับการสนทนากันตอนนี้ก็อาจเชื่อไม่ได้เลยเพราะทั้งคู่อยู่ตามลำพัง ไม่ว่าใครก็ไม่มีทางรู้ว่าสองคนนี้พูดอะไร  แต่สิ่งที่ชัดเจนคือโจโฉไต่ถามเกี่ยวกับอาการของซุนฮกมาตั้งแต่ก่อนที่จะไปพบด้วยตัวเองซึ่งคำตอบก็คือ "มีแต่ทรงกับทรุด" เราควรจะตีความว่าอย่างไร  ซุนฮกไม่สามารถเลือกได้ว่าตนควรเลือก "โจโฉ" หรือ "ราชวงศ์ฮั่น" ควรทำตาม "ประสงศ์ของหัวใจ" หรือว่า "บรรทัดฐานของสังคม" ใช่หรือไม่? และต่อมาโจโฉก็ล่งกล่องขนมหรือกล่องอาหารเปล่าและจดหมายที่ไม่เขียนอะไรเลยมาให้ โจโฉอยากบอกอะไรซุนฮก "ข้าพเจ้าจะไม่เลี้ยงดูท่านอีก จะอยู่หรือตายก็เรื่องของท่าน" หรืออยากบอกว่า "ไม่มีอะไรให้ท่านทำเพื่อข้าพเจ้าอีกแล้ว" หรืออยากบอกว่า "ข้าพเจ้าจะปล่อยท่านไป จงลืมข้าพเจ้าแล้วทำหน้าที่ในฐานะขุนนางฮั่นที่ดีเถอะ" รึบางที.. โจโฉอาจจะอยากบอกให้รู้ว่า "ข้าพเจ้าถอดใจแล้ว เพราะข้าพเจ้าไม่สามารถทำอะไรเพื่อท่านได้เลย มีแต่ปล่อยให้เลือกทางของตัวเอง" หลังจากนั้นไม่นานซุนฮกก็จากโลกนี้ไป....!?
      
    ^ฤดูหนาวของซุนฮกกับโจโฉในจอมราชันย์อหังการ ถ่ายทอดความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ซึ้งมาก น่าจะไปหาอ่านนะครับ

    แล้วเพื่อนๆ ล่ะครับ แปลความหมายของกล่องอาหารเปล่าที่ซุนฮกกับโจโฉรู้กันแค่สองคนว่าอย่างไร?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×