ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last of your expectation

    ลำดับตอนที่ #12 : เบื้องหลังการตัดสินใจของเซเวอรัสและลิลี่

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 729
      7
      24 ส.ค. 54

    เสียงกรีดร้องราวกับคนเสียสติดังอยู่ด้านหลังประตู  เค้าร้องไห้อย่างที่ไม่เคยร้องไห้มาก่อน  เค้าเกาะประตูไว้แล้วทุบมันอย่างแรง  ไม่สามารถเปิดประตูออกได้เพราะมันถูกล๊อกด้วยเวทมนตร์  เค้าทุบประตูซ้ำๆ ซากๆ จนมือขาวบอบบางนั่นโชกเลือด  เพียงเพื่อขอให้เธอฟังเค้าซักครั้ง!  เค้าไม่ได้อยากเป็นผู้เสพความตายอย่างที่เธอคิด!  ตอนนั้นเค้าก็แค่เสียใจจึงพูดออกไป!  เค้าอาจจะชอบศาสตร์มืด แต่เค้าตั้งใจว่าจะไม่เป็นผู้เสพความตายเพื่อเห็นแก่เธอ! แต่สิ่งที่เธอทำคือตัดเค้า! ปฏิเสธเค้า! แล้วผลักเค้าลงสู่ทะเลแห่งความสิ้นหวัง!

    "ได้โปรดเถอะลิลี่..." เสียงของเซเวอรัส สเนปแห้งแหบขณะที่พยายามกล้ำลืนน้ำตา "ถ้ามันเป็นความสุขของเธอชั้นยินดีจะเสียสละ  ชั้นยินดีถ้าเธอจะแต่งงานกับพอตเตอร์!  แต่ได้โปรด!  ได้โปรด..." เสียงนั้นอ่อนลงอีกครั้ง  ไม่เคยมีครั้นไหนที่เซเวอรัส สเนปจะหมดท่าขนาดนั้น  ไม่มีครั้งไหนที่เค้าจะร้องไห้อย่างสิ้นหวังขนาดนั้น  และไม่มีครั้งไหนที่เสียงของเค้าจะหดหู้ชวนสังเวชขนาดนั้น "เปิดประตูให้ชั้น... ให้ชั้นได้อวยพรเธอ  ให้ชั้นได้เห็นเธอยิ้ม..."

    เซเวอรัสรูดลงไปกับบานประตู  หัวเข่ากระแทกกับพื้น  ร้องไห้เงียบๆ... รีมัสใจหายวูบ  อยากจะเข้าไปโอบกอดและประคองร่างขึ้นมา  แต่เค้าไม่กล้า  เหมือนตลอดเวลาที่เฝ้ามองเจมส์กับซีเรียสและปีเตอร์กลั่นแกล้งเค้า  รีมัสไม่เคยทำอะไรให้เซเวอรัส  ไม่เคยช่วยเหลือ  ไม่เคยทำอะไรนอกจากทำเป็นไม่เห็น  และปล่อยให้มันเกิด

    ทั้งๆ ที่รู้เต็มอก  เซเวอรัสไม่เหลือใครแล้วนับแต่แม่ตายไป!

    "ไสหัวไปได้แล้ว  ไอ้ขี้แย!" เจมส์คำราม "เธอไม่อยากเห็นแก  ไม่ได้ยินที่เธอบอกเหรอ! ไสหัวไป  ไปหาพวกเพื่อนสลิธีรีนของแกและไปหาโวลเดอร์มอร์ซะ!"

    เซเวอรัสขดคู้อยู่บนพื้น  ร้อนไห้  ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  ไม่สนแม้แต่ว่าเจมส์จะทำอะไรกับเค้า

    เหมือนเด็ก, เกือบจะ...!

    "สเนป  ชั้นเตือนแกแล้วนะ!" เซเวอรัสไม่ตอบ  ล้มลงกับพื้นและนำตานองหน้า  ก่อนจะหลับตาลง  และทำให้รีมัสตกใจสุดขีดเมื่อเห็นซิเรียสเดินเข้ามาเหยียดหัวและขยี้กับพื้นอย่างไม่ปราณี  ก่อนจะชะงักเมื่อพบว่ามีบางสิ่งแปลก

    เซเวอรัส  สเนปหมดสติอยู่ใต้ฝ่าเท้าของซิเรียส!?

    โดยไม่รู้ตัวซิเรียสผงะออกและเจมส์ถลาเข้าไปดูใกล้ๆ  สเนปหมดสติจริงๆ! และรีมัส  วิ่งผ่านหน้าปีเตอร์ที่ทำอะไรไม่ถูกเข้าไปประคองเข้ามาในอ้อมแขน "เซเวอรัส! ทำใจดีๆ ไว้! เซเวอรัส!"

    ไม่มีคำตอบจากร่างบาง  รีมัสอุ้มเซเวอรัสขึ้นแล้วรีบไปที่ประตู  ก่อนจะหันไปบอกเพื่อนตัวกวน "ชั้นจะพาเค้าไปโรงพยาบาล! แล้วจะรีบกลับมา!" พูดจบก็จากไป  ทิ้งเด็กหนุ่มทั้งสามคนไว้ที่นั่น  ไม่มีใครพูดอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว

    ...ชั้นเคยกล้าที่จะบอกพวกนายมั้ยว่าให้ปล่อยสเนปไป... รีมัสพูดในวันหนึ่งเมื่อแฮร์รี่ซักไชร้ ...ชั้นเคยมีความกล้าพอซักครั้งมั้ยที่จะบอกว่า ชั้นคิดว่าพวกนายทำเกินไปแล้ว...

    ซิเรียสหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่สเนปหมดสติแทบเท้าของเค้า  และรีมัสเข้ามาแทรก  ก่อนจะตอบอย่างนุ่มนวล

    ...แต่นายก็ทำให้เรารู้สึกละอายในบางครั้ง  นั่นก็เป็นสิ่งที่--...

    อีกด้านหนึ่งของประตู  ลิลี่ทรุดลงกับพื้นและร้องไห้, ตามลำพังโดยไม่มีใครรู้ "ขอโทษนะเซเวอรัส... ชั้นขอโทษ..." เหตุการณ์ในวันนั้นกับคำพูดของอาเทน่ายังก้องอยู่ในหัว

    --เซเวอรัสกำลังจะตาย--

    --ไม่จริง!--

    --จริง, เค้ากำลังจะตาย  พร้อมกับภรรยา  พร้อมกับลูก  ถ้าเธอแต่งงานกับเค้า--

    --ถ้างั้น  ถ้าชั้นไม่เลือกเค้า เค้าจะรอดใช่มั้ย!?-- อาเทน่าส่ายหัว  ลิลี่อ้าปากค้าง  น้ำตาพราว --หมายความว่า  ต่อให้ชั้นไม่แต่งงานกับเค้า  เค้าก็ต้องตายเหรอ!-- คราวนี้ไม่มีคำตอบ  เธอถามอย่างสิ้นหวัง --ไม่มีวิธีจะช่วยเค้าเหรอ--

    --ถ้าต้องเลือกระหว่างเค้ากับลูกของเธอเธอจะเลือกใคร!?-- ลิลี่อ้าปากค้าง  นี่มันหนักเกินไป  เธอไม่สามารถ... แต่ว่าอาเทน่าก็ให้ทางเลือกใหม่แก่เธอ --เธอรักเจมส์มั้ย--

    --รักสิ  ชั้นชอบเจมส์  เค้าเป็นผู้ชายที่ชั้นใฝ่ฝันที่สุด--

    --แล้วระหว่างมิตรภาพกับความรักล่ะ  เธอจะเสียสละอะไร?--

    --ทำไม?--

    --ระหว่างเพื่อนที่รักที่สุด  กับผู้ชายที่เธอใฝ่ฝันที่สุด  เลือกระหว่างสองคนนี้!  แล้วคนที่เธอทอดทิ้งจะรอดชีวิต! แต่ชั้นจะบอกให้  ถ้าเธอเลือกให้คนรักตาย  ไม่เพียงแต่เพื่อนรักเท่านั้น แม้แต่ลูกของเธอก็จะรอดชีวิตด้วย--

    อาเทน่าเป็นภรรยาของซิเรียส  เธอไม่จำเป็นต้องลังเลเลย  แต่สงสัยแค่ว่า... --คุณรู้ได้ยังไง--

    --ทีลอนี่ย์  ผู้หญิงคนนี้ได้ให้คำพยากรณ์แก่ชั้นก่อนตาย  และเธอยังบอกด้วยว่า  อีกหนึ่งปีนับจากวันนี้ไป  หลานสาวของเธอ  คือซิบิลล์  ทีลอนี่ย์  จะให้คำพยากรณ์แก่อัลบัส ดัมเบิ้ลดอร์ด้วย  จะไว้ไป  พิสูจน์ความแม่นยำนั้นด้วยตัวเองมาแล้วไม่ใช่เหรอ--

    ในวันนั้น  อาเทน่าได้ให้ความทรงจำเกี่ยวกับภาพอนาคตที่นักทำนายชื่อก้องโลกเห็น  และมันทำให้ลิลี่ตัดสินใจในเวลาต่อมา  แม้ว่าเธอจะรักเจมส์หมดใจ  แต่สำหรับเธอไม่มีอะไรทำลายมิตรภาพของเธอกับเซเวอรัสได้  แม้จะเป็นการเห็นแก่ตัวที่สุดในโลกที่เธอจะแต่งงานกับเจมส์เพื่อเห็นแก่ความสุขของเธอแม้ว่าเจมส์จะต้องตายเพราะการที่เธอเลือกเค้า  แต่อย่างน้อย  เซเวอรัสที่แสนสำคัญก็จะรอดชีวิต

    ลิลี่เช็ดน้ำตาออกจากหน้า  เธอดีใจที่เค้าจะมีชีวิตอยู่  และซักวันคงพบรักแท้  เค้าเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและโรแมนติก  ต้องมีผู้หญิงซักคนหลงรักแน่ๆ และเธอ... เธอจะตายพร้อมกับเจมส์--ผู้ชายที่เธอเลือก!  เธอคิดแล้วว่าจะต้องตั้งชื่อลูกว่าอะไร  คำพยากรณ์บอกว่าเค้าจะเป็นเด็กผู้ชาย  ถ้าเป็นผู้ชายจะต้องชื่อแฮร์รี่  ตามชื่อของแมวดำที่เราเลี้ยงด้วยกัน

    หวังว่าเซเวอรัสจะรักแฮร์รี่  เหมือนกับที่รักเธอ...







    อัลสะดุ้งสุดตัวและพบว่ามันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น  แต่มันเหมือนจริงมาก! ราวกับเมื่อกี้เค้าเป็นลิลี่  เอฟเวนส์จริงๆ! หันไปมองเซเวอรัสที่นอนอยู่ข้างๆ น้ำตานองหน้า!  เมื่อกี้เค้าเข้าไปในความฝันของเซเวอรัสเหรอ!?  แล้วทำไมเค้าเป็นลิลี่แทนที่จะเป็นแค่ผู้เฝ้ามอง!?  แล้วยังความรู้สึกของเธอที่เข้ามาในเค้า  รุนแรงจนร่ำไห้  อัลยกมือขึ้นปาดน้ำตาตัวเอง

    ตาสีเขียวสอดส่องออกไป  นาฬิกาบอกเวลาตีสาม!  เป็นเวลาที่นัดไว้  เค้ารีบเขย่าปลุกเซเวอรัส  และอีกฝ่ายค่อยๆ ลืมตาขึ้น  อัลไม่มีเวลาอธิบาย  เค้าพาเซเวอรัสออกไปจากห้องแม้จะยังอยู่ในชุดนอน  พาอาบน้ำ  พาเปลี่ยนเสื้อผ้า  ไม่มีเวลาแม้แต่จะเขิน  เค้าจับเซเวอรัสแปรงฟังอย่างยากลำบากก่อนจะโล่งใจเมื่อเห็นหนุ่มใหญ่(ที่ดูไม่ใหญ่เท่าไหร่)เริ่มแปลงฟันเอง  เค้ารีบจัดกระเป๋าเสื้อผ้าและหันไปมองเป็นระยะ  คาถาได้ผลกว่าที่คิด  พ่อไม่มีท่าทีว่าจะตื่นขึ้นมา

    ทอม สกอร์ และ โรซี่กำลังรอพวกเค้าอยู่  และพากันออกไปจากที่นั่นด้วยกัน  การเดินทางนี้เป็นการเดินทางที่เด็ๆ ตัดสินใจแล้ว  เพราะพวกเค้าไม่สามารถเชื่อใจใครได้แม้แต่คนเดียว  เมื่อคนที่เคยเลือกไว้วางใจกลับมีแผนการร้าย  ชีวิตของเซเวอรัสแขวนบนเส้นด้ายและเซเวอรัสอีกคนหนึ่ง!

    ไม่รู้ว่ามาไกลแค่ไหน แต่อีกไม่นานก็เป็นสุสาน

    "เราคงต้องเข้าไปในสุสาน  แล้วพักก่อน" ทอมบอกเรียบๆ "อย่าใช้เวทมนตร์โดยไม่จำเป็น  เพราะพวกเค้า(กระทรวง)สามารถตรวจจับได้"

    ประตูสุสานถูกคล้องโซ่  แต่เด็กสามคนถูกส่งข้ามกำแพงอย่างง่ายดาย  ตามมาด้วยศาสตราจารย์สเนปและทอม  ตอนนี้ยังเป็นเดือนมกราคม  ยังเต็มไปด้วยหิมะ  เด็กทั้งสี่กับหนึ่งศพก็เดินเข้าไปด้วยกัน  และทอม  มองไปรอบๆ ด้วยดวงตาทอดอาลัย  ก่อนจะร้องเพลงด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ

    "...ท่านเคยเป็นสหายหนึ่งเดียวของฉัน  มีแต่ท่านที่ใส่ใจฉัน  ท่านเคยเป็นเพื่อนและพ่อของฉัน  จากนั้นโลกของฉันพังทลายลง...
    เพียงอยากให้ท่านมาอยู่ตรงนี้อีกครั้ง  เพียงอยากให้ท่านได้อยู่ชิดใกล้  บางคราวดูเหมือน, หากเพียงแค่ฝัน, ท่านก็จะอยู่ที่ตรงนี้!
    เพียงได้ยินเสียงท่านอีกครั้ง  แม้รู้ว่าไม่สามารถ  การฝันถึงท่านไม่อาจช่วยฉันได้ทำให้ฝันของท่านเป็นจริง!
    ...ระฆังเหล็กและรูปสลักเทวา  ช่างเย็นชาและว่างเปล่า  เทียบกับท่านแล้วดูจะเป็นสหายที่แตกต่างนัก
    ท่านนั้นอบอุ่นและแสนสุภาพ...
    กว่าหลายปีที่ต้องหันไปต่อสู้กับหยาดน้ำตา  ไฉนอดีตจึงจึงไม่ยอมมลาย!
    เพียงอยากให้ท่านมาอยู่ตรงนี้อีกครั้ง  แม้รู้ว่าวันหนึ่งต้องกล่าวต้องอำลา!  พยายามให้อภัย  สอนฉันให้ครองชีพได้  ให้ความแข็งแกร่งแก่ฉันที่ก้าวต่อไป!  ไม่มีความทรงจำใดหลงเหลือ, ไม่มีอีกแล้วกับน้ำตาในความเงียบงัน  ไม่มีการเฝ้ามองอย่างห่วงใยตลอดไป
    ...ขอให้ฉันได้พูดว่า ลาก่อน...
    "

    โทนเสียงเทนเนอร์แหลมสูงไพเราะ  ราวกับเสียงของนักแสดงนำชายในละครโอเปร่า  เหมือนที่โรซี่และอัลเคยได้ฟังตอนที่นั่งดูทีวีมักเกิ้ล  แม้จะไม่ได้มีพลังมากเหมือนแบบนี้  แต่ก็กังวาลใสหายไปกับสายลม  และเหมือนเพลงนี้จงใจร้องเพราะคิดถึงบราเทอร์สเนปยังไงยังงั้น  จากเนื้อความทั้งหมด  อัลกระซิบเบาๆ

    "ทอมครับ  เพลงนี้คือ?"

    "เพียงท่านมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง--จากละครเพลงเรื่อง 'ปีศาจแห่งโรงอุปรากร' ชั้นได้ตั๋วฟรีๆ มาเพราะเซเวอรัส  เราเลยไปดูด้วยกัน  ตอนนั้นชั้นอายุสิบปี  เสียงยังไม่แตก  ยังเป็นโซปราโน่  ชั้นเลยร้องเพลงของผู้หญิงซะมากกว่า... พอดีเพลงนี้มันเข้ากับอารมณ์ของชั้นตอนนี้นะ"

    "เสียงคุณเพราะราวกับเทพขับลำนำจากสรรค์" โรซี่บอก  ก่อนจะมองไปรอบๆ "ที่นี่ไม่ใช่ความบังเอิยหรอก  คุณจงใจมาใช่มั้ย"

    "ใช่" เค้าเดินนำทุกคน "มานี่สิ"

    ในที่สุดทุกคนก็เดินไปจนกระทั่งถึงหลุมฝังศพที่มีป้ายบอก 'ด้วยความอาลัยรัก โลกิ และ มานาเกีย พริ้นซ์' ซึ่งอัลก็รู้ทันที "คุณตาคุณยายของเซเวอรัส! คุณรู้ได้ไงว่าเป็นที่นี่!"

    "เพราะชั้นสั่งให้ฝังที่นี่  ครั้งแรกที่เซเวอรัสมาที่หลุมฝังศพของตายายเลยนะ  เค้าไม่รู้ว่ามันฝังอยู่ที่ไหน  แต่ชั้นรู้"

    "ฝัง!?" สกอร์ปิอัสตกใจ

    "ใช่  ตอนนี้มีบางสิ่งที่ชั้นต้องการ" เค้าขยับเข้าไปกวาดหิมะออกจากข้างๆ ป้ายหลุมศพ  และเอามีดเล็กออกมาขุดดิน  ช้าๆ อย่างใจเย็นจนกลายเป็นหลุมใหญ่  และมีหีบเล็กๆ อยู่ที่นั่น  มันมีสัญลักษณ์คุ้นๆ เหมือนรูปดอกลิลี่ "จำได้มั้ย"

    "เหมือนหนังสือที่มีวิธีการทำให้ศาสตราจารย์สเนปกลับเป็นปกติ  ที่คุณไดอาน่าส่งให้เราอ่าน" โรซี่บอก

    "ใช่  ทำให้ชั้นต้องทบทวนข้อความในนี้ใหม่ไง" เค้าเปิดหีบออกและมีกระดาษแผ่นเล็กๆ อยู่ข้างใน  มีข้อความซึ่งเด็กทั้งสามได้อ่านกันทุกกคน

    ...the last of your expectation...
    (ความหวังสุดท้ายของเธอ--แปล)

    เด็กสามคนมองหน้ากัน  ความหวังสุดท้ายของเธอเหรอ... ของเธอที่ว่ามันของใคร!?

    เซเวอรัสมองอย่างว่างเปล่า  ก่อนจะกระซิบอย่างแผ่วเบาที่ทำให้ทุกคนหันมาอย่างคาดไม่ถึง "ความหวังสุดท้ายของโลก" เซเวอรัสพูดอย่างเหม่อลอย "เมื่อตอนที่ชั้นยังเด็ก  แม่ได้รับข้อความนี้" คราวนี้ดวงตาของเค้าเริ่มเป็นประกายที่รื้อน้ำตา  ราวกับเป็นความเจ็บปวดที่ไม่อาจจะรักษาได้ "แม่กระซิบ 'จดหมายจากพระเจ้าถึงพระแม่ธรณี' พอชั้นถามใครคือพระแม่ธรณี  แม่ก็บอกว่า 'พระแม่ธรณีก็คือทุกหนทุกแห่งที่เรายืนหยัดได้  หล่อนคือดาวดวงนี้  หล่อนคือโลก  หล่อนกำลังจะพังลง  และ  มีเพียงไม่กี่อย่างที่จะช่วยหล่อนได้... หนึ่งในนั้น  อยู่ที่ฮอกวอร์ต' แล้วแม่ก็จากไป... แม่... ตาย  ตายจากชั้น..."

    "โอ... เซเวอรัส" อัลคราง  รู้สึกสงสารอย่างบอกไม่ถูก  ขณะที่สกอร์ปิอัสเหงื่อตก  แต่โรซี่  ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ

    "ถ้าแม่เซเวอรัสบอกว่ามีอยู่ไม่กี่อย่างก็แปลว่าอาจจะมีมากกว่าหนึ่งใช่มั้ย"

    "อะไรของเธอ" ทอมขมวดคิ้ว

    "ก็ทางรอดไง!  มันอาจจะไม่ใช่แค่สังเวยวิญญาน หรือว่าร่างอมตะ!"

    "อาจจะไม่ใช่" สกอร์กระซิบ "มีกี่อย่างไม่ได้แปลว่ามีมากกว่าสอง"

    "ไม่นะสกอร์  เราต้องมีความหวังสิ  เราจะไม่แลกอะไรทั้งนั้น  ถ้าเป็นจดหมายจากพระเจ้าจริง มันต้องมีทางออกมากกว่าสองแน่นอน!" เธอจริงจังมาก "เราเชื่อว่าพระเจ้าทรงมีพระเมตตาไม่ใช่รึไง!"

    "เธอ... อาจจะพูดถูก  อาจจะมีมากกว่าแค่หนึ่งอย่าง" อัลเริ่มตื่นเต้น "ขอบใจนะเซเวอรัส  คุณทำให้เราเข้าใจจนได้"

    "เข้าใจ?" แต่ไม่ทันที่จะอะไรมาก  เซเวอรัสก็มีท่าทีเหมือนประหลาดใจทั้งๆ ที่สติไม่ปกติเมื่ออัลโผเข้ากอด  เด็กคนนี้คือแฮร์รี่ พอตเตอร์  เค้าบอกตัวเองอย่างงั้นมาตลอด  เพราะเค้าจำดวงตาที่เหมือนเธอและใบหน้าของศัตรูตัวฉกาจได้  แต่อ้อมกอดนี้...? เหมือนกับลิลี่  ตอนที่กอดเค้าครั้งแรก "ลิลี่...?" เค้ากระซิบ  ทรุดลงกับพื้น  ประคองใบหน้าของอัล  และมองดูอย่างไม่แน่ใจ "ลิลี่...?"

    แต่ไม่มีคำตอบอะไรเป็นพิเศษ  เหมือนทุกคนก็งงเหมือนกัน...







    "เธอได้ยินเสียงจอมมาร"

    อาเทน่าพูดในความเงียบ  บราเทอร์เซเวอรัสหันไปมอง "คุณรู้ได้ยัง"

    "เป็นธรรมดา  ที่นี่ทำให้ประสาทสัมผัสของเธอเปิดกว้าง  และการพินิจใจก็ทำได้ง่ายกว่าเดิม  เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ  เค้าพูดอะไร?"

    "เค้าร้องเพลง..." เซเวอรัสไม่จำเป็นต้องโกหก "เพลงของคริสตินในสุสาน... เธอร้องให้กับความรู้สึกทั้งหมดที่มีสำหรับเอริก" เค้าคลอเพลงโต้ตอบเบาๆ แม้จะรู้ว่าเค้าได้ยินทุกอย่าง  แต่อีกฝ่ายจะไม่ได้ยินเค้า  เพราะสเนปคนนั้นเป็นตัวของตัวเองเกินกว่าจะฟังคำสั่งของวิญญานที่แยกจากกันนานเกือบยี่สิบปีอย่างเค้า "...เด็กน้อยที่กำลังหลงทาง, สูญสิ้น, ไร้มือคอยช่วยเหลือ  พร่ำรำพันหาการนำทางจากข้า..."

    บางทีเค้าต้องยอมสูญเสียทุกสิ่งใช่หรือไม่  เหมือนปีศาจแห่งโรงละครตัวนั้น  แม้ว่าจะมีอดีตที่เจ็บปวดทรมานเพียงใด  แต่เพื่อคนที่ตนรักก็ต้องพร้อมยอมเสียสละทุกสิ่ง... ถ้าเค้าไม่ยอมสังเวยดวงวิญญานทอมกับตัวเค้าอีกคนหนึ่งก็ต้องเจ็บปวดทรมานไปตลอดกาล  เค้าหันไปหาหญิงที่มองดูเค้าในความมืด  บนเก้าอี้  ก่อนจะบอกกับเธอ

    "ถ้าผมยอมสังเวยวิญญาน  ทอมจะปลอดภัยใช่มั้ย"

    "ยอมช่วยคนที่เคยฆ่าตัวเองจนตาย  ชั้นเชื่อเธอเลยจริงๆ"

    "ทอมคนนั้นไม่ใช่โวลเดอร์มอร์  แต่เป็นพี่น้องคริสเตียนที่ผมสัญญาว่าจะปกป้องเค้า"

    ...ตั้งแต่คืนนั้น...

    "ยังไงซะ  เค้าก็ต้องกลับเป็นศาสตราจารย์สเนปคนเดิมก่อน  และเธอก็ต้องมีความทรงจำในฐานะศาสตราจารย์สเนปครบถ้วน  ชั้นถึงจะเชื่อว่าวิญญานของเธอมีค่าเท่ากับโลกิ  แล้วจากนั้นชั้นจะยอมตามที่เธอขอหรือไม่มันอีกเรื่อง" ว่าแล้วหันไปใครบางคนที่เข้ามาเงียบๆ "ไลชา  พวกยมทูตจะเคลื่อนไหวอีกครั้งในวันพระจันทร์เต็มดวง  และประตูโลกวิญญานจะเปิดออก  จงไปพาจอมมารและร่างของศาสตราจารย์สเนปมาที่เพลิงโหยหวนอย่างปลอดภัยให้ได้"

    "ครับ... ศาสตราจารย์" แล้วก็จากไปเงียบๆ

    ศาสตราจารย์เหรอ, เซเวอรัสใช้ความคิดก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าพวกผู้วิเศษ  ถ้าเป็นอาจารย์จะถูกเรียกว่าศาสตราจารย์ทันที  แล้วนี่ อาเทน่าคือ กริฟฟินดอร์ในร่างผู้หญิง  และกริฟฟินดอร์ก็คืออาจารย์ใหญ่คนแรกของฮอกวอร์ต  ก็ต้องเรียกว่าศาสตราจารย์เป็นธรรมดา... แต่เดี๋ยวก่อน?  เค้ารู้ได้ยังไง

    "แปลว่าความทรงจำเธอเริ่มกลับมาแล้วน่ะสิ"

    เซเวอรัสเงียบ... ไม่มีอะไรที่รอดพ้นการพินิจใจของผู้หญิงคนนี้ไปได้เลย  ก่อนจะตัดสินใจถาม "เรื่องที่ผมฝันถึงเมื่อคืน"

    "ไม่ผิดหรอก  มันคือความทรงจำของเธอเอง... สมัยเป็นศาสตราจารย์สเนป  ชั้นทำให้เธอฝันและคนที่อยู่ที่นั่นในวันนั้นทุกคนก็จะฝันด้วย  แม้ว่าจะตายไปแล้ว  วิญญานของเจมส์  ซิเรียส รีมัส และ เพตติกรู แน่นอน... แต่ที่น่าตกใจกว่านั้น"

    ...ไม่เห็นเอ่ยชื่อ ลิลี่...?

    "ถามจริงๆ เซเวอรัส  แม้จะไม่มีความทรงจำของร่างหลักทั้งหมด  แต่เธอยังรักผู้หญิงคนนั้นใช่มั้ย"

    เซเวอรัสอึ้ง... เพราะนั่นคือความจริง!!!




    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×