ตอนที่ 10 : คฤหาสมัลฟอย
บานประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของบาทหลวงห้าคนกับภิกษุณี, โยเซฟ เจคอบ อลัน แอนดรู เอรีส และ ลูเครเซีย ส่วนด้านหลังคือพ่อมดสองคน แม่มดหนึ่ง และจอมเวทย์รุ่นเล็กสามคนที่มีศพเดินดินอย่างเซเวอรัส สเนปตามมาด้วย และเอรีสเริ่มต้น
"ว่าแล้วว่าต้องอยู่ที่นี่... เอาล่ะ เราต้องไปกันแล้ว เราต้องทำให้เซเวอรัสคนนี้กลับเป็นปกติก่อน เพราะคนที่ไม่สามารถจะตายได้นี่แหละคือกำลังสำคัญของเรา"
"ผมไม่ไปหรอก"
"ทอม..."
"ผมคือโวลเดอร์มอร์ ไม่มีใครต้อนรับผมด้วยใจจริง ผมจะอยู่ที่นี่ รอให้พวกยมทูตมาเอาตัวผมกลับนรก" ทอมหอบ "พวกคุณไปเถอะ วิญญานที่พิกลพิการเพราะการฆ่าคนเพื่อสร้างฮอลรักซ์ไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้หรอก"
"เธอจำได้ทุกอย่างสินะ..." ลูเครเซียถอนใจ "งั้น ตามตรงเลยนะ ลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ความทรงจำคุณกลับมาเมื่อไหร่"
"สองปีก่อน"
"แล้วมัวรออะไรอยู่" ทอมอึ้ง ลูเครเซียหัวเราะก่อนจะถามอีกครั้ง "ทำไมไม่ยอมเชื่อว่าตัวเองคือเจ้าแห่งศาสตร์มืดแต่พยายามปฏิเสธตัวเองไปทำไม"
แฮร์รี่รู้สึกเย็นแต่หัวจรดเท้า... เด็กคนนี้รู้แต่แรกแล้ว เฮอร์ไมโอนี่รีบจับมือเค้าไว้และหันไปหารอนเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำอะไรโง่ๆ ต่อให้ทอมเป็นโวลเดอร์มอร์จริง! แต่กระนั้นก็อดขนลุกไม่ได้ตามประสาคนเป็นแม่!
เธอปล่อยให้ลูกหลานของเธออยู่กับโวลเดอร์มาตั้งห้าเดือน!?!?
สกอร์ปิอัสเดินเข้าไปหา แต่ทอมคำราม "อย่านะ!" สกอร์ปิอัสชะงัก แต่ก็ไม่ยอมถอยออกไป "ถ้าเธอไม่อยากตาย เหมือนกับคนอื่นๆ"
"ทอมครับ... ถ้าคุณคือจอมมารที่น่ากลัวจริงๆ ทำไมคุณไม่ฆ่าพ่อกับปู่และย่าของผม รวมทั้งผมที่เป็นลูกของคนทรยศด้วย... ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่จอมมารคนเดิม เพราะคุณได้รับอิทธิพลจากนิสัยของตัวคนที่กลับมาเริ่มต้นใหม่ ในฐานะลูกของพระเจ้า ในฐานะคริสเตียน ผมยังจำวันที่เรานั่งในคุกใต้ดิน--ในห้องนอนของเราแล้วร้องเพลงสรรเสริญด้วยกัน คุณพาผมอธิฐานรับเชื่อและสัญญาว่าจะให้เซเวอรัสของคุณบัพติสมาให้ผม" สกอร์ร้องไห้ "ผมไม่เห็นแคร์เลยว่าผมเป็นสกอร์ปิอัส ไฮเปอเรี่ยล มัลฟอย ผมสนแต่ว่าผมเป็นพี่น้องฝ่ายวิญญานของคุณ เป็นคริสเตียนและเป็นลูกพระเจ้า" น้ำตาของเด็กชายไหลไม่ขาดสายแล้วตอนนี้ "แล้วจะให้ผมปล่อยให้คนที่ทำให้ผมได้รับความรอดอยู่ในมุมมืดได้เหรอ!!"
ทอมร้องไห้ และหลังจากนั้นก็กอดสกอร์ปิอัส พวกเค้าร้องไห้ด้วยกัน มันน่าประทับใจมาก และมันทำให้เฮอร์ไมโอนี่อดไม่ได้ที่จะคิดถึงสมัยที่เธอยังไม่ได้เป็นแม่มด... และ
ชีวิตคริสเตียนของเธอ....
คราวนี้เป็นโรซี่และอัลที่วิ่งเข้ามากอดทอมกับสกอร์ปิอัส พวกเค้าจับมือกัน อธิฐานให้กัน และร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยกัน เหมือนที่ทำในคุกใต้ดินมาตลอดห้าเดือน และในที่สุด อัลก็หันมาบอกกับพ่อของเค้า "พ่อฮะ! ผมขออนุญาตรับลอร์ดโวลเดอร์มอร์เป็นเพื่อนสนิทได้มั้ยฮะ!?!"
"แม่คะ! พ่อค่ะ! อนุญาตด้วยนะคะ!" โรซี่เอาบ้าง
"ถ้าชั้นบอกว่ายกโทษให้สำหรับการที่ชั้นต้องเสียซิเรียส เสียพ่อแม่ เสียศาสตราจารย์ลูปิน เสียดัมเบิ้ลดอร์ และอีกมากมาย มันก็เป็นการโกหกที่น่าสมเพชรที่สุด เพราะชั้นจะไม่มีวันยกโทษให้กับโวลเดอร์มอร์ได้" รอนและเฮอร์ไมโอนี่มองเพื่อนรักและพบว่าแฮร์รี่หันไปมองดูสเนปที่ยังว่างเปล่าและอยู่ในโลกของตัวเอง ก่อนจะพูดช้า "แต่ชั้นจำได้ว่าชั้นเกลียดเซเวอรัส สเนปเท่าๆ กับที่เกลียดโวลเดอร์มอร์ ก่อนที่ชั้นจะยกโทษให้เค้าสำหรับทุกอย่างเมื่อพบว่าทั้งหมดที่เค้าทำมาตลอดเพื่อแม่ของชั้น แต่แน่นอน แม้ว่าเค้าจะเป็นอย่างนั้น แต่เค้านิสัยแย่กว่านายในตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าชั้นซะอีก" แฮร์รี่หันหน้ามามองทอม "ชั้นไม่สามารถยกโทษให้นายได้... แต่เห็นแก่เด็กๆ ชั้นก็จะยอมที่จะไม่เป็นศัตรูกับนายและไว้ใจที่จะให้นายดูแลเด็กๆ พวกนี้"
แม้จะไม่ได้รับการยกโทษ แต่มันก็ได้ยกภาระทั้งหมดออกจากใจ ทอมมองแฮร์รี่ด้วยน้ำตาที่คลอเบ้าก่อนจะกระซิบเบา "ขอบคุณ"
"เอาล่ะ" เอรีสพูดช้าๆ "ตอนนี้หมดเรื่องแล้ว เราไปกันเถอะ"
"ไปไหนฮะ" อัลถามอย่างมีความสุขแม้จะรู้คำตอบอยู่แล้ว
"ไปหาทางทำให้เซเวอรัสกลับเป็นเหมือนเดิม! เราต้องการกำลังจากเค้า!"
ทอมมองดูเซเวอรัส สเนป คนที่เค้าเคยฆ่า คนที่เคยเป็นคนเดียวกันกับเซเวอรัสที่เป็นพี่น้องฝ่ายวิญญานที่เค้ารักที่สุด หลานของคนในความทรงจำที่ทำให้เค้าหวั่นไหว.... ถ้าสเนปคนนี้กลับเป็นเหมือนเดิม แล้วจำลอร์ดโวลเดอร์มอร์คนนี้ได้ เค้าจะทำยังไง เค้าจะได้รับการยกโทษให้หรือไม่ จะอดทนต่อการเกลียดชังและอาฆาตมาตร้ายได้หรือไม่ แค่คิดว่าจะถูกสเนปคนนี้เกลียดก็เจ็บเจียนตายแล้วด้วยซ้ำ
ถ้าต้องถูกบราเทอร์เซเวอรัสเกลียดด้วย เค้าคงล้มลงกับพื้นแล้วขาดใจตายไปทั้งอย่างนั้นเลยก็ได้!!
----------------------------------
เดรโกไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่ แต่สุสานถูกทำให้พังทลาย ร่างของผู้คนมากมายหายไป รวมทั้งร่างของศาสตราจารย์สเนปด้วย เท่าที่สังเกตได้ มันล้วนเป็นร่างของผู้เสพความตายทั้งนั้น
ความฟุ้งซ้านทำให้อดไม่ได้ที่จะสังเกตรอยแผลเป็นของเค้า ตรามาร! มันเริ่มเหมือนกับจะมีชีวิตกลับมา!? มันจะกลายเป็นบาดแผลที่ไม่เจ็บไม่ปวดอีกต่อไป!? เค้าจำได้ว่ามันกลายเป็นสีแดงอันสมบูรณ์ครั้งแรกก็เมื่อตอนที่เค้าไปที่ฮอกวอร์ต ก่อนจะโล่งใจเมื่อพบว่ามันกลับเป็นรอยแผลเหมือนแผลไฟลวกเหมือนเดิมเมื่อเค้ากลับมาบ้าน เพราะอะไร!? อาจจะเพราะผีของจอมมารยังคงวนเวียนอยู่แถวนั้นรึเปล่า!? ที่สำคัญ!
ทำไมตอนนี้มันกลับเริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง!?!?
เสียงโวยวายทำให้เดรโกปิดก๊อกน้ำแล้วคว้าผ้าขนหนูออกมาห่อรอบตัว เค้าตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าคนที่เดินตรงแด๋วมาเปิดประตูห้องน้ำคือศาสตราจารย์สเนป... ศาสตราจารย์สเนป!? เดี๋ยว! มันจะเป็นไปได้ยังไง!? สเนปตายไปเป็นชาติแล้ว! แล้วไอ้พ่อมดที่หน้าตาดูเหม่อลอยแถมคอเป็นแผลเหวอะหวะนี่มันใครกันวะ!?
"ลูเซียส?..." สเนปพูดเบาๆ หันไปหาชายอีกสองคนที่เดินตามเค้ามา "นั่นก็ลูเซียส... และนั่นก็ลูเซียส..." ท่าทางเค้าดูสับสนมาก และทำให้ลูเซียสนึกได้(มันเป็นความผิดของเจ.เค โรลิ่งที่ดันบรรยายว่าเดรโกเหมือนพ่อไม่มีผิด และสกอร์ก็เหมือนเดรโกไม่มีผิด พอซามมาเอลบอกว่าเอรีสก็เหมือนลูกแฝดของเค้านั่นแหละก็เลยกลายเป็นครอบครัวโคลนนิ่งอย่างที่เห็น) ว่ามันคงเป็นอะไรที่พิลึกพอควรเมื่อมีคนสามคนที่หน้าเหมือนกันยังกับถ่ายสำเนาออกมามารวมกันแม้อายุของพวกเค้าจะห่างกันแต่ก็ดูแก่กว่ากันไม่มาก สิ่งที่ต่างกันจริงๆ ก็แค่เสื้อผ้า และเอรีสหันไปถามลูเซียส
"เซเวอรัสเคยมาที่นี่เหรอ"
"ครับ... ตอนที่จอมมารมาที่นี่"
"พ่อ!" เดรโกตกใจ "นี่อะไรกันฮะ!? แล้วทำไมหลวงพ่อ--"
"คุณปู่" ลูเซียสแก้ไขให้ "เรียกเค้าว่าคุณปู่... คราวนี้รีบไปใส่เสื้อผ้าได้แล้ว" แล้วก็หันไปทางสเนป "มากับชั้น เซเวอรัส ดีนะที่คนที่อาบน้ำเป็นเดรโก เพราะถ้าเป็นแอสโทเรียหรือนาซิสซา ชั้นนึกไม่ออกจริงๆ ว่าอะไรจะเกิดขึ้น" สเนปที่ยังดูเหม่อถูกดึงออกไป ทิ้งให้เดรโกยืนงงเป็นไก่ตาแตกอยู่ตรงนั้น
หลังจากนั้นไม่นาน เดรโกลงมาพร้อมกับเสื้อผ้าชุดใหม่เพื่อจะต้อนรับแขกกลุ่มใหญ่ที่รวมตัวกันในห้องรับแขก และสังเกตเห็นแขกที่คาดไม่ถึงอีกคนหนึ่ง ไดอาน่า มัลฟอยยืนพูดคุยกับเอรีสอย่างสนิทสนม และไม่นานทุกคนก็ทราบถึงการมาของเดรโก "มาสิหลานรัก" ไดอาน่าพูด "ได้เวลาที่ผู้นำตระกูลมัลฟอยต้องทำหน้าที่แล้ว" โดยไม่รู้เรื่อง เค้าเดินผ่านแฮร์รี่ พอตเตอร์และรอน วิสลี่ย์ รวมทั้งเฮอร์ไมโอนี่--ภรรยาของรอน ไปหา 'ปู่ที่แท้จริง' ของเค้าที่ส่งแหวนวงหนึ่งให้
"สวมมัน และหันหัวไปที่ผนังด้านโน่น"
แหวนมีรูปร่างเหมือนงูที่สีเงินขดตัว ล้อมมรกตที่สวยงาม เดรโกสวมมันแล้วหันหัวแหวนไปที่ผนัง สิ่งที่เค้าคาดไม่ถึงว่าจะซ่อนอยู่ในบ้านเค้าได้เกิดขึ้น ของทุกชิ้นถูกผลักออกจากผนัง และผนังว่างเปล่าก็ปรากฏ.... บางสิ้งที่เหมือนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ที่หัวทิ้มลง สาแหรกตระกูลมัลฟอยถูกเริ่มที่เจ้าหญิงริวาลน่า เพลารีส กับ อองรี มัลฟอย เดรโกไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ ตามเส้นสีเขียวที่โดดเด่นจนกระทั่งมาถึง อิสมาล มัลฟอย ที่มีลูกขายสองคนคือ 'อัสลันเทีย' ซึ่งเป็นทวดของเค้าจริงๆ และ 'เบริฟรอด' ที่เค้าเคยคิดว่าเป็นปู่ของเค้า... เบริฟรอดไม่ใช่ปู่ แต่เป็นน้องชายของทวด--และเค้าไม่มีทายาท เดรโกมองรอยเปื้อนสีแดงปรากฏเหมือนเลือดที่สาดกระจายบนพื้นที่ใต้ชื่ออัสลันเทียกับพี่สาวของเค้าซึ่งตีพื้นที่มาเป็นทางยาว
"คุณไม่ได้โกหก" เฮอร์ไมโอนี่อุทานเมื่อเห็นชื่อ 'อัสลันเทีย' แต่งกับ 'จามีส พอตเตอร์' สาแหรกถูกลากจากทั้งคู่มาเป็น 'อาเทน่า' ซึ่งแต่งกับ 'ซิเรียส แบล็ก' มีลูกสองคนที่ถูกทำเครื่องหมายว่า "ไม่นับ" เช่นเดียวกับหลายชื่อของลูกหลานตระกูลนี้ที่ต้องเปลี่ยนไปใช้นามสกุลพ่อ ขณะที่ชื่อของเอรีสยังอยู่และถูกโยงไปหาอะโฟรดิตี้ เรเวนครอ ซึ่งสาแหรกแตกจากพวกเค้าคือลูเซียสและลูเครเซีย และยิ่งไปกว่านั้นเธอยังเห็นชัดๆ เช่นเดียวกับทุุกคนที่ว่าเอรีสเป็นรุ่นที่สองเพราะอัสลันเทียมีพี่สาว 'ไดอาน่า' แต่งกับ 'เจมส์ พอตเตอร์' เธอหันไปหาเอรีสอย่างตกใจ "จามีสกับเจมส์เป็นฝาแฝด! และเลาเรสตั้งชื่อลูกชายว่าเจมส์ตามชื่อพ่อของเค้า!"
แต่คนที่ตกใจกว่าน่าจะเป็นเดรโก เค้าหันขวับไปหาผู้หญิงที่อายุมากที่สุดในห้องนี้ "คุณไม่ใช่ย่าของผมแต่ทวด! ยิ่งไปกว่านั้น! ทำไมคุณไม่เคยบอกผมว่าคุณแต่งงานกับพวกพอตเตอร์! คุณเป็นย่าของเจมส์! แล้วก็เป็นทวดของแฮร์รี่ พอตเตอร์!" เค้าชี่ไปที่แฮร์รีที่ตกใจไม่แพ้กัน(แม้ว่าจะได้ยินทุกอย่างจากเอรีสแล้ว) ขณะเดียวกัน สกอร์ปิอัสวิ่งเข้าไปช่วยโรซี่พยุงพ่อของเธอที่สลบแล้วสลบอีกด้วยความช๊อก "แล้วที่แย่ไปกว่านั้น! คุณเปลี่ยนนามสกุลกลับมาเป็นมัลฟอยทำไม!"
"ผมคงไม่มีสิทธิจะถามป้า เอ่อ ไม่มีสิทธิจะถามแม่ใช่มั้ยครับ" เอรีสหัวเราะอย่างสบอารมณ์ ไดอาน่าถอนใจอย่างระอา
"เจมส์ไม่ชอบศาสตร์มืด.... ชั้นก็เลยหย่ากับเค้าแล้วก็ดูแลลูกด้วยกัน... วันดีคืนดีเค้าก็อุ้มลูกหนีไปเพราะกลัววิธีที่ชั้นฆ่าสมุนของกิลเดวัลเพราะเค้ากลัวว่าลูกจะเอาอย่างแม่... แล้วไงล่ะ" เธอหัวเราะอย่างร้ายกาจ "เจมส์น้อยนิสัยเหมือนชั้นเปี๊ยบเลย... เห็นได้ชัดว่าเลือดข้นกว่าน้ำ แม้ชั้นจะไม่ได้อยู่กับหลานแต่เลาเรสก็อุส่าห์เลี้ยงลูกได้นิสัยน่ารักเหมือนแม่ของเค้าไม่มีผิด"
แล้วเสียงหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ก็ทำให้ทุกคนเริ่มหันมามองแฮร์รี่อย่างระแวงด้วยความสงสัยว่า "เจมส์ พอตเตอร์" ผู้พ่อของเด็กชายผู้รอดชีวิตนั้นเป็นคนแบบไหน และเช่นเดียวกับที่พอจะนึกออกว่าแท้จริงแล้ว "เจมส์ ซิเรียส พอตเตอร์" ได้นิสัยเลวๆ จากใคร!?
ตระกูลมัลฟอย!?!?
"ปู่ครับ... จากตรงนี้" สกอร์ถามเบาๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เหมือนรอยเลือด
"ชั้นกับน้องชายมีพันธสัญญากับก๊อดริก กริฟฟินดอร์น่ะ" ไดอาน่าเป็นคนตอบแทนลูเซียส "ตอนที่เราไปค้นหาตัวตนของมานาเกีย... กริฟฟินดอร์บอกเราว่าเค้าจำเป็นต้องมีร่างกายเพื่อทำงานสำคัญให้สำเร็จ เพราะฉะนั้น เค้าจึงขอเราสำหรับการแบ่งวิญญานเป็นสองส่วน... แต่เอาจริงๆ วิญญานของกริฟฟินดอร์ที่ปฏิสนธิในท้องชั้นมีแค่หนึ่งในสี่" เธอหันไปมองเอรีส น้ำตาคลอเบ้า ในวันที่เลาเรสตาย วิญญานด้านสว่างได้กลับไปรวมกับวิญญานด้านสว่างด้วยกันที่ยังมีชีวิตอยู่ในร่างเอรีส... เอรีส มัลฟอย! เพราะฉะนั้น... เธอจึงเปลี่ยนกลับไปใช้นามสกุลมัลฟอยอีกครั้ง! และเอรีสก็เข้าใจ
"ตอนนี้มันมีสองแล้วครับ.. แม่... แม้ความทรงจำส่วนตัวของเลาเรสจะหายไป แต่เราเป็นคนเดียวกัน" เค้ายิ้มออกมาอย่างเข้าใจ ก่อนจะหันไปที่ผนังอีกครั้ง "แต่เราไม่ได้มาเพื่อทดทวนสิ่งนี้.. อาโลโฮโมล่า!" คราวนี้ผนังแยกออกจากกัน และเป็นบันไดให้เดินลงไป "เรามาที่นี่เพื่อทำให้สติของเซเวอรัสกลับมาสมบูรณ์!"
"ให้ตายสิ..." นาซิสซา มัลฟอยถอนใจ "ชั้นคิดว่าชั้นรู้จักบ้านหลังนี้ดีแล้วแท้ๆ ที่ไหนได้... ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย!"
แอสโทเรียยิ้มเซ็งๆ ไม่ใช่แต่แม่สามีของเธอที่อยู่มาจนอายุหกสิบแล้วยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบ้านหลังนี้ เพราะดูจากปฏิกิริยาของเดรโก ลูเซียส และสกอร์ปิอัสแล้ว พวกเค้าก็ไม่มีใครรู้จนกระทั้งเอรีสโผล่มานั่นแหละ พวกเค้าทั้งหมดลงไปตามความมืดของบันไดพร้อมๆ กันและมันถูกทำให้สว่างขึ้นเพราะตะเกียง แต่ก็อดไม่ได้กับอะไรบางอย่างในตัวเด็กชื่อทอมที่มันบาดใจแปลก จนไม่นานนัก คำตอบก็ปรากฏเมื่อ ลูเครเซียถามขึ้นมา
"เธอจำอะไรได้บ้าง?"
ทอมเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะตอบ "ไม่ฮะ"
"ความทรงจำยังกลับมาไม่ครบสินะ"
"ถึงกลับมาครบก็จำไม่ได้อยู่ดี เพราะ... ผมว่าผมไม่เคยมาที่นี่"
ลูเครเซียหยุดกึกและทำให้บาทหลวงแอนดรูที่เดินตามมาแบบไม่ดูตามม้าตาเรือชนเข้าไปจังๆ และนั้นทำให้คนถูกชนล้มคะมำไปข้างหน้า โชคดีที่มีสเนปเดินอยู่ตรงหน้าพอดีเลยแถมข้างหน้ายังมีอีกเป็นพรวนจึงแถไปด้วยกันทั้งหมด กลิ้งตกบันไดสะบักสะบอมไปตามๆ กัน ดีว่าตอนนั้นเหลือไม่ถึงเจ็ดขั้นก็จะถึงพื้น ไม่งั้นคงพากันคอหักกันหมด ทอมและพวกสะใภ้มัลฟอย รวมทั้งเด็กๆ จึงต้องช่วยกันพยุงแต่ละคนให้ลุกขึ้น โชคดีเป็นของไดอาน่าเดินหลังสุดและเอรีสกับบาทหลวงอลันที่เดินนำไปไกลแล้วเลยรอดตัวไป
"เจ็บ..." สเนปจอมเหม่อพูดสั้นๆ เค้านอนคว่ำอยู่บนร่างของเฮอร์ไมโอนี่และเดรโก ส่วนรอน แฮร์รี่ ลูเซียส และบาทหลวงอีกสองคนที่เดินนำพวกเค้านั้นกลิ้นไปคนละทิศละทาง สนุกล่ะที่นี่ เพราะทุกคนที่หกคะมำคว่ำคะเมนในจากนี้ นอกจากลูเซียสกับเดรโก ทุกคนล้วนบาทเจ็บมาแล้วจากการโจมตีของเฟรย์
"เธอไม่เคยมาที่นี่!" ลูเครเซียที่ยืนขึ้นได้ว๊ากเพ่ยออกมา "ทั้งๆ ที่สนิทกับโลกิมาตั้งแต่สมัยยังเป็นทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ลเนี่ยนะ!"
คราวนี้พวกมัลฟอยหันมาพร้อมๆ กัน เพราะหลังจากศึกตัดสินเมื่อสิบเก้าปีก่อน ทุกคนก็ได้มีโอกาสรู้กันทั้งโลกว่าโวลเดอร์มอร์มีชื่อจริงๆ ว่า ทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล!
"ถ้าผมเคยรู้จักที่นี่ผมคงไม่เสียเวลากับพวกผู้เสพความตายหรอก เอาเวลามาศึกษาที่นี่ไม่เป็นประโยคกว่าเรอะ!" พูดพลางที่ไปที่สิ่งที่อยู่ในห้องใต้ดินขนาดใหญ่ มันเต็มไปด้วยหนังสือบันทึก เวทมนตร์ที่ยังคงอยู่ในรูปของอาเขต หนังสือมากมาย และของที่เกี่ยวกับศาสตร์มืดและการทรมาน
และที่ห้องมีรูปของผู้หญิงชุดสีดำที่หน้าตาสวยที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเห็นมาในโลกนี้ สวยกว่าเหล่าวีล่า สวยกว่าภาพนางในภาพวาดทุกนาง เธอมีลักษณะเป็นแม่มดศาสตร์มืดเต็มตัว เฮอร์ไมโอนี่หันขวับไปมองสเนปและเห็นว่าทั้งสองมีเค้าหน้าเหมือนกันมากแม้สเนปจะไม่อาจเทียบชั้นความงามกับผู้หญิงตรงหน้าได้ มีดวงตาสีทองเจิดจ้า ผมยาวลากพื้นและมีแบดเจอร์สีดำหมอบแทบเท้า ช่วงเวลานั้นทุกคนตะลึงมองสตรีที่งดงามนั้นราวกับถูกสะกดจิต ภาพของเธอเป็นภาพเต็มตัวที่ใหญ่โตและเด่นเป็นสง่าในความมืด นิ่งสนิทเหมือนภาพวาดของพวกมักเกิ้ล
"คุณนายมานาเกีย พริ้นซ์.... ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ได้" ลูเซียสกระซิบเป็นคนแรก
"เพราะมีคนตระกูลมัลฟอยถึงสี่คนเคยได้เรียนที่เพลมีล๊อกมาแล้ว เพราะฉะนั้นจึงได้มีรูปนี้ในห้องแห่งนี้" เอรีสชี้ไปที่รูป "นี่คือบุคคลอันเป็นที่เคารพยิ่งของศิษย์เพลมิล๊อกทุกคน ในฐานะผู้ก่อตั้งสถาบันลับแห่งเวทมนตร์นั้น... ศาสตราจารย์เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ"
"สวย... เป็นผู้หญิงที่สวยอะไรแบบนี้" อัลกระซิบ และมองดูเซเวอรัสที่นิ่งมองภาพนั้น อดีตอาจารย์สอนปรุงยาแห่งฮอกวอร์ตน้ำตาไหลพรากราวกับได้เห็นญาติสนิทที่จากกันไปนานแสนนาน
TBC.
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 21 สิงหาคม 2554 / 14:50
เนื้อเรื่องตอนนี้ ชวนให้ต้องใช้สมาธิจริงๆ เพราะอ้างถึงคนหลายคนขึ้นมา
แต่ความสนุกยังคงไม่เปลี่ยนไป ถ้าเป็นไปได้ อยากให้ แต่งแฮรี่กับเสนปอีกเรื่องนึง
จบแบบแฮปปี้ด้วยนะไรท์เตอร์ เพราะอ่านเรื่องกรงของไรท์เตอร์เนี่ยแหละ
ทำเอาบ้ามาจนป่านนี้
ตอนนี้ ฉันทำ แผนผัง สาแหรกตระกูลมัลฟอยไว้
ถ้าหากได้รับกัน ยืนยันว่าถูกต้องไม่ผิดเพี้ยนแล้วจะเอามาลงนะคะ
เผื่่อจะช่วยให้เพื่อนๆ ที่อ่านฟิค หายงง หรือเข้าใจง่ายขึ้นในเรื่อง เครือญาติบ้าง ฮ่าๆ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉันบ้าไปแล้ววววววววววววววววววววว
ประทับใจมากค่ะ ตอน โวลเดอมอร์ กับ เด็กๆ
ว้ายๆๆ ศ.เซเวอรัส สเนป นึกอะไรออกเหรอ แล้วมาต่อน้าาาา สู้ๆ