ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic Harry Potter]กรง(ฉบับดั้งเดิม/วาย)

    ลำดับตอนที่ #16 : สายธาราแห่งความเศร้า(-_-)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.52K
      37
      21 ต.ค. 64

    "ศาสตราจารย์สเนปครับ"

    รู้ได้โดยทันทีว่าเป็นเดรโก แม้เวลานี้จะมองไม่เห็นแล้วก็ตาม เซเวอรัสค่อยหันไปตามที่มาของเสียงช้าๆ แม้เลือดจะไม่ไหลพรั่งพรูออกมาเหมือนคืนนั้น แต่สภาพที่ยับเยินและบอกช้ำก็ทำให้เดรโกกัดปากเพราะความเจ็บแค้นได้เหมือนกัน ใบหน้าของเซเวอรัสมีสีสดของบาดแผลที่พาดโดดเด่นอยู่บนผิวซีดดูเจ็บปวดและอ้างว้างจนเดรโกแทบจำไม่ได้ เดรโกสูดลมหายใจลึกๆ แล้วนั่งลงที่เตียง

    ....เดรโกเหรอ…

    "ครับอาจารย์"

    ...ชั้นได้กลิ่นดอกลิลี่....

    "ครับ.. น้ำหอมกลิ่นดอกลิลี่.... ผมคิดว่ามันจะทำให้อาจารย์สดชื่นขึ้น" เด็กหนุ่มเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะขยับเข้าไปทางด้านหลัง "ผมได้ไอ้นี่มาด้วย"

    ท่อนแขนทั้งของโอบไหล่บางอย่างเบามือเพราะรู้ว่าบาดแผลที่หายช้ากว่าปกติด้วยฤทธิ์ของยาพิษมันเจ็บปวดสะท้านมากมายเพียงใด เดรโกค่อยเอาของสิ่งนั้นใส่ลงไปในอุ้งมือที่บาดเจ็บอย่างระมัดระวังและทะนุถนอม เสียงกระซิบที่เหมือนกับเสียงลมผ่านปาก แต่ก็พอจับใจความได้ว่าเป็นอะไรดังลอดออกจากริมฝีปากบาง

    ….นี่คืออะไร…..

    "ลูกนกพิราบครับ.... มันตกลงมาจากรัง"

    ….มันยังมีชีวิตอยู่…..

    "ครับ" เดรโกตอบ น้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ "มันก็ตามองไม่เห็นและบินไม่ได้เหมือนกัน แต่มันก็ยังต่อสู้… สู้เพื่อให้มีชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะงั้นอาจารย์เองก็ต้องสู้นะครับ… แล้วหลังจากนั้นเราจะไปขึ้นศาลด้วยกัน อาจารย์ฆ่าดัมเบิลดอร์เพราะหากไม่ทำเราก็ต้องตายทั้งคู่ อาจารย์ทำไปเพื่อรักษาชีวิตของอาจารย์และลูกศิษย์อย่างผม ซ้ำยังช่วยชีวิตแฮร์รี่ พอตเตอร์ระหว่างหนีออกมาจากฮอกวอร์ตด้วย ศาลต้องปราณีอาจารย์บ้างแน่ๆ… แล้วจากนั้น"

    แฮร์รี่ที่เดินเข้ามาพอดีหยุดนิ่งแค่ที่น่าประตู ซึมซับทุกถ้อยความด้วยดวงตาที่มีความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งขึ้น หากในหัวใจกลับห่อเหี่ยวลงด้วยความเจ็บปวดว่าทำไมไม่เข้าใจเหมือนที่เดรโกเข้าใจให้เร็วกว่านี้ เดรโกพูดต่อไป

    "หลังจากนั้น… เราไปเยี่ยมหลุมศพของลิลี่ เอฟเวนส์ แล้วก็พ่อกับแม่ของอาจารย์ด้วยกันนะครับ"

    ………………………………………………………..

    ……………………………….

    ……………..

     

     

    "แฮร์รี่"

    เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นช้าๆ จากเข่าที่ตนนั่งซบหน้าอยู่ เผยให้เห็นดวงตาคู่สวยที่ชุ่มน้ำตา รอนและลูปินนั่งลงข้างๆ แล้วแล้วเอามือลูบหลังให้เบาๆ พักหนึ่งลูปินก็เป็นคนเอ่ยขึ้น

    "คงมีเรื่องกลุ้มใจมากสินะ… ถ้าไม่รังเกียจระบายให้ชั้นฟังได้นะ"

    "ผมว่าคุณไม่เข้าใจหรอก"

    "ให้ชั้นเดานะ…" ลูปินถอนใจ "เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกทลายลง รู้สึกผิด… ที่ทำให้เซเวอรัสต้องเจ็บปวด รู้สึกกลัว… กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่กับเค้าน่ะ"

    "คุณรู้เรื่องเหรอ"

    "เฮอร์ไมโอนี่เล่าให้เราฟังแล้ว แล้วก็ให้เราเก็บเป็นความลับ" รอนเอ่ย "เรายังไม่ได้พบสเนปหรอก คือ... พูดตรงๆ ชั้นยังลำบากใจที่จะไปพบเค้านะ หลังจากที่เค้าทำอะไรต่อมิอะไรมากมาย… คือ นายจะตำหนิชั้นก็ได้ แต่ชั้นรู้สึกว่าสเนปไม่ใช่คนที่เราจะสามารถเห็นใจได้…. ถึงแม้ว่า"

    รอนหันมามองแฮร์รี่อย่างไม่แน่ใจ "เค้าอาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างน่าสงสาร"

    "เฮอร์ไมโอนี่พูดอะไรกับพวกนาย"

    "หล่อนบอกว่า นายจับสเนปไปขังไว้ เพราะว่าอยากจะแก้แค้นเอง แล้วก็เกิดสงสารขึ้นมา คือ หล่อนสงสัยว่า… สเนปอาจจะรักแม่นายมาก่อน"

    ลูปินสะอึกเหมือนมีก้อนเหนียวๆ มาจุกที่คอ แต่แฮร์รี่ยังคงเงียบ รอนมองอย่างหนักใจแล้วถามอีกครั้ง "นาย... คงไม่ได้คิดว่าปีศาจเลือดเย็นอย่างสเนปจะรักแม่นายนะ ดูวิธีที่เค้าทำกับนายสิ"

    "อย่า... เรียกเค้าแบบนั้น" แฮร์รี่กระซิบด้วยเสียงต่ำอย่างน่ากลัว

    "เธอ... เชื่อเฮอร์ไมโอนี่รึเปล่า" ลูปินกระซิบ รู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก

    แต่เด็กหนุ่มกลับยืนขึ้นแล้วเดินตัดสนามที่เต็มไปด้วยหิมะไปด้วยท่าทางราวกับคนตาย

    หิมะสีขาวสะอาด ตกลงมาอย่างช้าๆ ทั้งเยือกเย็นและแช่มช้อย ทับถมทุกอย่างจนดวงตาพร่ามัวไปหมด แฮร์รี่เดินไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ในหัวคิดถึงค่ำคืนที่ราวกับได้กลับไปเป็นเด็กน้อยนอนหนุนตักของพ่อแม่อย่างสุขสงบ ยิ่งคิดถึงความรู้สึกคราวที่อุ้งมือผอมซีดที่เยือกเย็นและบาดเจ็บลูบหัวให้อย่างอ่อนโยนก็ยิ่งทำให้ดวงตาพร่ามัวด้วยละอองน้ำที่เอ่อล้นจนทำให้มองไม่เห็นอะไรได้อีก

    โลกที่ไม่มีใครเข้าถึงของคนที่อ่อนโยนถึงเพียงนั้นเป็นโลกแบบไหน…..

    สวนลับที่ไม่มีใครเคยค้นพบจะงดงามจับตาเพียงใด…..

     

     

     

    เฮอร์ไมโอนี่และจินนี่หยุดที่หน้าประตู  ก่อนจะสูดลมหายใจแรงๆ เพื่อทำใจและตั้งสติ..หากว่าเข้าไปพบอีกฝ่ายในสภาพที่เป็นศพ   แล้วจึงเปิดประตูเดินเข้าในห้องผู้ป่วยด้วยความรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคิดว่าคนในห้องกำลังเดินไปหาความตายช้าๆ โดยไม่มีใครสามารถจะหยุดยั้งได้ ความรู้สึกหนาวสะท้านเข้าครอบงำทันทีที่เผชิญหน้ากับภาพที่รออยู่ ร่างที่ผอมบางและซีดเซียวอย่างไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เห็นเพราะมันถูกซ่อนไว้ใต้เสื้อคลุมสีดำอันมิดชิดมาตลอด 7 ปีกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนทอดตาไปอย่างไร้จุดหมาย

    ช่างบอบช้ำและยับเยินมากซะจนน่ากลัวว่า ถ้าเพียงยื่นมือไปแตะ ร่างทั้งร่างก็คงแตกสลายลงทันที

    "ศาสตราจารย์สเนปคะ" จินนี่กระซิบข้างหูทันทีที่เดินเข้ามาจนถึงตัว เซเวอรัยกมือขึ้นคลำหาแล้วเด็กสาวก็กุมมือเรียวผอมที่มีแต่กระดูกให้มาสัมผัสหน้าของเธอด้วยความรู้สึกใจหวำแปลกๆ  ว่ามือของศาสตราจารย์จอมโหดที่นักเรียนทั้งฮอกวอร์ตกลัวกันทั่วหน้าอย่างสเนปนี้ เรียวบางมากขนาดนี้เลยเหรอ  เธอกระซิบข้างหูเค้าเบาๆ "ศาสตราจารย์คะ นี่วิสลี่ย์นะคะ  จินนี่  วิสลี่ย์"

    ….เหรอ…. ริมฝีปากบางซีดที่ปริแตกเป็นแผลบอกอย่างงั้น

    เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาถี่เพื่อขับละอองฝ้าที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาแล้วฝืนยิ้ม "หนูกับจินนี่อยากช่วยเปลี่ยนเปลี่ยนผ้าพันแผลให้อาจารย์ โปรดอนุญาติด้วยนะคะ"

    นานมาก กว่าร่างบางจะพยักหน้ารับช้าๆ เด็กสาวทั้งสองช่วยกันแกะผ้าพันแผลที่เต็มไปด้วยเลือดออกอย่างเบามือ แต่กระนั่นอีกฝ่ายก็ยังเจ็บอยู่ดี ทว่า.... กลับไม่มีการอุทธรณ์ใดๆ เพียงแต่นิ่วหน้าและกัดปากเท่านั้น หลังจากที่เด็กสาวทั้งสองทำแผลเสร็จ ร่างผอมก็กินยาและล้มตัวลงนอนเงียบๆ โดยไม่ขออะไรที่จะรบกวนทั้งคู่ จนกระทั่งหลับไปเพราะฤทธิ์ยาในที่สุด เฮอร์ไมโอนี่จึงไปจากห้อง เหลือเพียงจินนี่ที่ไม่อาจจะทำใจให้ออกไปจากห้องได้เท่านั้นที่ยังคงนั่งเฝ้าไข้อยู่ข้างเตียง

    เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาพร้อมกับกล่องพยาบาลแล้วไปที่ห้องอันว่างเปล่าของเดรโก(เพราะเจ้าตัวเริ่มหมกมุ่นกับการค้นหาสูตรยาช่วยชีวิต) ในใจหวนกลับไปคิดถึงสมัยที่ยังเรียนหนังสือ คิดถึงสมัยที่เรียนปรุงยากับสเนป ท่าทีเย็นชา หยิ่งยโส อาจารย์จอมโหดที่ชอบพูดจาถากถาง

    โดยฉับพลัน น้ำตาใสๆ ก็ไหลทะลัก เฮอร์ไมโอนี่ไม่อาจจะอดกลั้นได้อีกแล้ว เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างหนักจนกระทั่งเนวิลล์โผล่เข้ามา

    "เดรโกหายไปไหนกันนะ… อ้าว…. เฮอร์ไมโอนี่.... เป็นอะไรไปนะ" แต่เธอไม่ตอบเค้า เนวิลล์ก้มลงมองดูกล่องพยาบาลในมือ "เธอไปหาสเนปมาเหรอ(ว่าแล้วก็ชักจะรนราน) เกิดอะไรขึ้น สเนปพูดจารุนแรงกับเธอรึเปล่า"

    เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้า

    "งั้นมันเกิดอะไรขึ้น บอกชั้นมา ถึงเค้าจะเป็นคนป่วยและเคยเป็นอาจารย์แต่เค้าก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาทำให้เธอเสียใจ" เข้าไปเขย่าตัวเฮอร์ไมโอนี่ "บอกชั้นมาเถอะให้ชั้น.."

    "เค้าไม่ได้ทำอะไรหรอกเนวิลล์ ไม่มีอะไรจริงๆ!!!!!"  เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะอดกลั้น   พลางกล้ำกลืนน้ำตาที่ไหลทะลักราวกับทำนบกั้นน้ำพังทะลาย "ชั้นเพียงแต่เจ็บปวดแล้วก็สับสน  เนวิลล์  ถึงเค้าจะฆ่าดัมเบิลดอร์  ถึงเค้าจะทรยศพวกเราจริงๆ  แต่ชั้นไม่เคยเห็นศาสตราจารย์สเนปในสภาพนั้น....  และไม่อยากจะเห็นด้วย  ชั้นเกลียดเค้าไม่ลงหรอก  คนที่น่าจะเกลียดที่สุดเพราะทำให้ชั้นเจ็บช้ำน้ำใจมากที่สุด......กลายเป็นคนที่ชั้นทิ้งไม่ได้ที่สุดซะแล้ว............. ชั้นสงสารเค้า  สงสารจนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงอยู่แล้ว"  

    สิ้นเสียง เด็กสาวก็โถมร่างทั้งร่างเข้าสู่อ้อมแขนของเนวิลล์ที่อึกอักจนไม่รู้จะทำยังไง

    แล้วเสียงร้องโวยวายก็ดังขึ้น ทั้งคู่ผละออกจากกันแล้วออกไปดูข้างนอก พวกหมอและพยาบาลกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งไปที่ห้องของเซเวอรัส สเนป ทั้งคู่มองหน้าอย่างตกใจแล้ววิ่งตามไป

    และทั้งคู่ก็ได้เห็นแฮร์รี่ที่ยืนหน้าห้องล้มทั้งยืน มีรอนมารับไว้ก่อนที่หัวจะฟาดพื้น จินนี่ที่ดินวนไปวนมาแล้วร้องร้องไห้ เดรโกที่นั่งร้องไห้ และลูปินที่กำลังคุยบางอย่างกับหมอที่พึ่งออกมา

    ...เราจะไปดูฤดูใบไม้ผลิด้วยกันมั้ย เซเวอรัส…..

    เสียงของลิลี่ดังก้องอยู่ในห้วงคะนึง เซเวอรัส สเนปร้องไห้ เมื่อความทุกทรมานราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จางหายไป เพราะเค้ารู้ดีว่าเมื่อตื่นขึ้นในตอนเช้าตนจะพบกับอะไร…

    โลกที่เงียบงันกำลังรอเค้าอยู่….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×