ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฮฮาประสาประวัติศาสตร์--ภาคVlad_Tepes

    ลำดับตอนที่ #20 : เรื่องสยองขวัญของวลาด--จริงหรือเท็จ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 277
      3
      10 ม.ค. 59

    สงครามระเบิด

    ครับ เราไม่ได้เจอกันนานโขเลยทีเดียว ช่วงนี้ผมก็กำลังมีโปรเจคใหญ่เลยทุ่มเทให้กับมันมากไปคนละเลยหลายๆ สิ่ง หนึ่งในนั้นคือเฮฮาประสาเทพนิยาย ซึ่งผมตัดสินใจกดปิดเรื่องเพราะไม่มีใจมาเขียนต่อแล้ว แต่สำหรับเรื่องผมก็จะพยายามถูไถไปจนจบแน่นอน

    การที่วลาดแสดงออกถึงความดื้อรั้นเช่นนี้ย่อมสร้างความหนักใจให้เมห์เหม็ต เพราะนั่นหมายความว่าด้วยเกียรติของพระเจ้าแผ่นดินที่ถูกบัญญัติโดยผู้ชาย นี่คือความกระด้างกระเดื่องที่ต้องถูกกำจัดในที่สุด ฉะนั้นเพื่อรักษาพระเกียรติ(เนื่องจากอดทนต่อการกดดันไม่ไหวของสภาขุนนางไม่ไหว) สุลต่านเมห์เหม็ตจึงยกไพล่พลเรือนแสนแล้วก็แบ่งออกเป็นทัพย่อยๆ แบ่งกันคุมไป ตามข้อมูลที่ผมได้มามีดังนี้ 10000 คนจากฮัมซา + 
    40000 (ในการรณรงค์แม่น้ำดานูบ) + 
    18000 (จากมะห์มุดมหาอำมาตย์) + 
    80000 (จากสุลต่านตัวเอง)  จำนวนทั้งสิ้น = 
    148000 

    และสิ่งที่เกิดขึ้น... นี่คือบางส่วนที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ นั่นคือมีจดหมายที่อ้างว่าวลาดทรงเขียนส่งให้กับพระเจ้าแมททีอัส โครไวนัสแห่งฮังการี่ โดยระบุว่า วลาดได้ทรงทหารเติร์กในการบุกครั้งหนึ่งไปถึง 23,884 ซึ่งเป็นการประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมในสงคราม คำถามคือ ทำไมชั่งสามารถระบุได้แบบไม่ตกไม่หล่นว่า เป็น 23,884 คน(เอาเวลาที่ไหนไปนับ?) เพราะตามหลักฐานของโรมาเนีย การรบของวลาดเป็นการลอบโจมตีที่ต้องทำอย่างรวดเร็ว ต้องย้ายจากเป้าหมาย / ป้อมปราการไปยังอีกที่ จึงไม่มีเวลาโอ้เอ้ และที่ประหลาดกว่านั้นคือมีหนังสือ-เอกสาร-เวปหลายเวประบุว่าพระองค์จัดการเสียบคนพวกนั้นทั้งหมดด้วยสิเออ.. แน่ล่ะ คนที่ฟังเรื่องสยองขวัญของพระราชาองค์นี้มามากล้วนเชื่อทันทีโดยไม่ไตรตรอง(ถ้าไตร่ตรองจะเอามาเขียนลงเวปเหรอ?)  แน่ล่ะว่า ถ้ามองไปในอดีตนี่คือความสำเร็จของฝ่ายคริสเตียน แต่ในสายตาทุกวันนี้คือการกระทำที่โหดร้ายน่ากลัวและทำให้วลาดถูกจดจำในฐานะทรราชย์ ทว่า...

    ผมอยากให้พิจารณาตัวเลขอีกครั้ง และพิจารณาความเป็นจริงว่า วลาดทรงมีทหารที่รบได้จริงเพียง 3,000 คน และรวมชาวบ้านที่มีพรั่ว-จอบ-เสียมฯลฯ เป็นอาวุธ ซึ่งอาสาสมัครออกรบเพื่อปกป้องประเทศทั้งที่ไม่ได้เป็นทหารเหล่านี้มีทั้งผู้หญิงผู้ชาย รวมกับคนที่รบได้จริงๆ(ทหารรับจ้าง3,000คน)เป็น 60,000 คน และตามที่บอกครับ "รบได้จริงๆ 3,001 คน(รวมวลาดแล้ว)" นอกนั้นเป็นกองสนับสนุนประเภทหาอาหาร คุมนักโทษ ดูแล เยียวยา เวรยาม พยาบาล.. แล้วทำอีท่าไหนถึงฆ่าไปร่วม20,000 คนได้? แถมต่อมายังมีเรื่องเล่าด้วยว่าพระองค์เสียบคน 20,000 ไว้กลางแดดเปรี้ยงๆ เพื่อต้อนรับสุลต่านด้วย

    คำถามคือ... เป็นไปได้เหรอ?

    มาดูอีกครั้งนะครับ... 
    1 ทหารของสุลต่านมีทั้งหมด 148,000 และทุกคนสามารถรบ เกือบทุกคนเป็นนักรบที่ถูกฝึกมาอย่างดีและผ่านสงครามใหญ่มานับไม่ถ้วน
    2 ทหารของวลาดมี 60,000 ในจำนวนนี้เป็นทหารที่ออกรบได้จริงๆและชำนาญเพียง 3,000 นอกนั้นเป็นชาวบ้านธรรมดา
    3 กองทัพของสุลต่านถูกโจมตีตลอดช่วงเวลาที่เดินทาง และในการปะทะครั้งสำคัญครั้งหนึ่ง มีคนตาย 23,884(ไม่ตกเลขแม้แต่เศษ4คน) ลงบันทึกในเอกสาร แต่น่าสงสัยเอาเวลาที่ไหนไปนับ เพราะตามบันทึก วลาดอาศัยความมืดและความชุลมุนสั่งถอยทัพอย่างรวดเร็ว
    4 และเมื่อทัพสุลต่านเดินทางต่อมาเกือบถึงเมืองหลวง พบว่ามีร่างทหารเดิร์ก 20,000 ถูกเสียบประจานเพื่อต้อนรับสุลต่าน(แล้วใครมันไปยืนนับวะ ชั่งนับจนครบสองหมื่น)

    ที่บันทึกวีรกรรมสยองขวัญของพระราชาวลาดระบุว่า คนสามพันคนฆ่าคนสองหมื่นสามของสุลต่านได้นี่ก็มหัศจรรย์พันลึกมากแล้ว นี่คิดในด้านบวกสุดๆ แล้วนะ นี่ยังไม่คิดถึงความจริงที่ว่า ก่อนจะถึงเหตุการฆ่าคน23,884ที่ว่านั่น มีการรบประปรายรายทางมาก่อนตั้งหลายครั้ง ในบรรดาคนแค่3,000คนของคิงวลาดนี่มันไม่มีคนตายหรือคนบาดเจ็บซักคนเลยเหรอ? แล้วเหลืออีกกี่คนที่สามารถออกรบต่อได้? แล้วคิดว่าคนจำนวนแค่นั้นสามารถฆ่าคนสองหมื่นคนได้ ที่สำคัญรูปแบบการรบก็ไม่ได้มีการควบธรรมชาติลมฟ้าอาการหรือแม่น้ำลำธารเหมือนงิ้วสามก๊กเลย เทียบกันหมัดต่อหมัดแล้ว ไอ้น้ำข่งเบ้งท่วมทหารโจโฉตายรวมแสนคนนี่ยังโม้น้อยกว่าคนสามพัน(ซึ่งความจริงน่าจะเหลือแค่สองพัน)ฆ่าสองหมื่นสามในบันทึกนี้ด้วยซ้ำ เพราะการรบของวลาดไม่ได้อะไรที่พิศดารขนาดนั้น แต่ใช้ความรู้ภูมิประเทศ และเล่นทีเผลอ บวกเล่ห์กลเป็นหลัก

    ต่อมา ดูวรีกรรมเสียบสองหมื่นคนบ้าง คุณเชื่อจริงๆ เหรือว่าคนสามพัน(หรือความจริงคือ เหลือไม่ถึงด้วยซ้ำ)สามารถเสียบคนสองหมื่นคนได้ แล้วคนสองหมื่นก็พร้อมใจการโดนเสียบโดยไม่มีใครต่อต้านขัดขืนบ้างเลย ตามหลัก ถ้าเราอยู่ในคนสองหมื่นแล้วเห็นเพื่อนร่วมรบถูกเสียบทั้งเป็นเราจะไม่คลั่ง/เสียสติ/แล้วพยายามหนีเหรอครับ แล้วคนตั้งสองหมื่น ต่อให้ไม่มีอาวุธ ถ้าลุกฮือขึ้นมาทหารของวลาดจะเอาอยู่หรือไม่ ในเมื่อสมัยนั้นไม่ได้มีอาวุธอย่างปืนหรือสไนเปอร์ แต่เป็นอาวุธอย่างดาบหรือธนูเป็นหลัก แถมทหารสองหมื่นคนก็เป็นทหารที่ผ่านการรบครั้งสำคัญและได้รับชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะบอกว่าวลาดเสียบศพของคนสองหมื่นก็จะผิดจากเอกสารแผ่นพับเยอรมันพวกนั้นอีก เพราะเอกสารระบุพวกนั้นถูกเสียบทั้งเป็น...  น่าตลกนะครับ คนพวกนี้ช่างไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการรบเลย พวกเขาทั้งขี้ขลาดและเผลอๆ อาจจะเสียบตัวเอง

    ถ้าถามผม ผมคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไร้เหตุผลและเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นวลาดจะเป็นแวมไพร์หรือมนุษย์หมาป่าจริงๆ แต่เราไม่ได้พูดเรื่องแวมไพร์นี่.. งั้นดูนี่ 
    เมื่อวลาดต้องควบคุมนักโทษออตโตมันสองหมื่นคนเดินทางระยุทางประมาณ 175 กม / 110 ไมล์ยาวในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา วลาดสามารถควบคุมคนตั้ง 20,000 (จากทั้งหมดของเมห์เหม็ตซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทางทหารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด)  พร้อมกันนี้ วลาดมีทหารที่ยังรบได้ไม่ถึงสองพันห้า หรืออาจจะมีมากกว่านั้นซึ่งพวกที่เกินจากสองพันห้านั้นเป็นชาวบ้าน? พวกเขาควบคุม--กักขัง--ให้อาหารคนตั้งสองหมื่นคนแล้วเอามาเสียบทั้งเป็น ทำอีท่าไหน? เพราะดูจากรูปการ ชาวเติร์กสองหมื่นคนมีโอกาสจะฆ่าพวกเขามากกว่า นอกจากระยะทางกับเวลาแล้วยังมีเส้นทาง ซึ่งใช่... โอกาสหลบหนียิ่งมีมาก ช่วงนั้นอยู่ในเดือนมีนาคมที่อากาศร้อนจัดสำหรับพวกเขา หรือถ้าคุณคิดว่าวลาดใช้พลเรือนทำงานด้วย รองคิดถึง ผู้หญิงเด็กอายุต่ำกว่า 14 และคนป่วย
    และอื่น ๆ เพิ่มเติมให้ตรงกับที่ต้องใช้จริงในสมัยนั้น  ว้าว... ใช้ทรัพยากรมากเกินไปและไม่คุ้มค่าเหนื่อย(ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงด้วย) สรุปว่าวลาดแทงคนสองหมื่นจริงมั้ย!?

    ไม่เลย มันไร้สาระ...

    งั้นเกิดอะไรขึ้นในสงครามครั้งนั้น... ทุกคนลองคิดเล่นๆ นะครับ ไม่มีใครถูกหรือผิด แค่ลองคิดดู สำหรับผม นี่เป็นข้อเสนอเล็กๆ

    วลาดทำสงครามครั้งนี้ด้วยเน้นการลดช่องว่างทางจิตใจ  เป็นการปฏิบัติการทางจิตวิทยาล้วนๆ เพราะพระองค์รู้ว่าพระองค์ไม่สามารถยันทัพออตโตมันด้วยลำพังพระองค์เอง และหากปล่อยไว้ ในที่สุดเมห์เหม็ตจะพิชิตยุโรป ซึ่งในเวลานั้นวัลลาเคียสามารถรอดพ้นจากการรุกรานได้โดยอาศัยความสัมพันธ์อันดีในวัยเยาว์กับองค์สุลต่าน แต่นั่นหมายความว่า ในระยะยาว ศาสนาอิสลามจะแพร่กระจายไปทั่วและในที่สุด โลกของคริสเตียนจะเหลือเพียงหยิบมือหรือหมดสิ้น เพราะฉะนั้น วลาดจึงตัดสินใจจะเสี่ยงกับเกมส์นี้ ซึ่งพระองค์ก็รู้เต็มอกว่าไม่มีวันชนะ แต่อย่างน้อยที่สุด หากพระองค์ต้านออตโตมันและทำให้เกิดการล่าถอยได้ แม้จะช่วงเวลาสั้นแต่มันจะลดช่องว่างในจิตใจของชาวยุโรปซึ่งตอนนั้นกำลังหวาดกลัวพลังของสุลต่าน(จนถึงกับพูดกันว่าสุลต่านเป็นจักรพรรดิแวมไพร์และเป็นผู้ต่อต้านพระคริสต์ในวิวรณ์) และนำไปสู่การรวมตัวกันเพื่อลุกขึ้นสู้

    และสิ่งที่เกิดขึ้นจริง(มีหลักฐานทารประวัติศาสตร์ด้วย)ก็คือพระองค์เริ่มต้นทำสงครามพร้อมกับร่อนจดหมายไปทั่วทั้งยุโรปโดยมีเนื้อหาปลุกระดมและให้กำลังใจ เมื่อออตโตวันเดินทัพมา วลาดอพยพประชาชนออกจากถิ่นที่อยู่ที่มีความเสื่ยงต่อการถูกลูกหลงและเริ่มต้นการโจมตีแบบไม่รู้ทิศทางและคาดเดาไม่ได้ ทั้งโดยกับดัก ปล้นสะดม วางยาพิษในแหล่งน้ำ และเน้นไปที่การทำลายเสบียร ฉะนั้นพวกออตโตมันจึงเดินทางด้วยความหวาดวิตกเพราะไม่รู้ศัตรูจะมาทางไหน(เป็นความเครียดสะสม) ทั้งน้ำและอาหารที่ขาดแคลนด้วย และเกี่ยวกับป่าเสียบประจาน พระองค์ปล่อยให้มันเป็นงานของผู้หญิงและเด็ก จากเสื้อผ้าที่มากมาย? ผ้าขนาดใหญ่ทุกชนิด(ผ้าปูที่นอน, ผ้าคลุม, ผ้าห่มหรือผ้าปูโต๊ะ)สามารถใช้ และการปลิว-โป่งเนื่งจากลมจะทำให้ดูเหมือนเสื้อผ้าตุรกี คราวนี้ออตโตมันที่มาจะได้สังเกตเห็นความแตกต่างได้ซักแค่ไหนจากระยะทาง(และจิตใจที่ถูกทำให้เสียหายตลอดเส้นทางที่ผ่านมา)  บางที ภาพที่เต็มไปด้วยผ้าที่ปลิวสะบัดในสายลมก็อาจสร้างสับสนว่าเป็นร่างกายคนจริงๆ ที่ดิ้นรนเพื่อลมหายใจสุดท้ายของพวกเขา และแน่นอนว่ามันไม่จำเป็นต้องทำถึงสองหมื่น แค่สองร้อยก็สร้างจินตนารที่น่าหวาดหวั่นได้แล้ว  แน่ล่ะ สิ่งนี้อาจจะไม่ถูกบันทึกในพระราชประวัติของแดรกคิวล่าหรือแม้แต่ในพระราชประวัติของสุลต่าน(ใครอยากถูกพิจารณาว่าเป็นสุลต่านใจเสาะที่หวาดกลัวในสิ่งที่ไม่มีจริง?) แต่มันเป็นกลยุทธ์โรมาเนียใช้มาตลอดในประวัติศาสตร์เพื่อลดความแตกต่างระหว่างกองทัพ

    ผมไม่ได้บอกว่าวลาดเก่ง หรือสิ่งที่พระองค์ทำสมควรทำให้พระองค์ได้รับการให้อภัยเกี่ยวกับความโหดร้ายที่เคยกระทำนะ แต่ผมก็แค่ให้ความเป็นธรรมกับพระองค์หน่อย พระองค์ไม่ใช่คนดีที่สุดหรือเลวที่สุด แต่เป็นพระราชาที่พยายามจะปกป้องประชาชนของพระองค์และตัดสินพระทัยไปตามสภาพของสังคมในยุคนั้น พูดให้ชัดคือพระองค์เป็นเพียงชายคนหนึ่งในช่วงเวลาของพระองค์ 

    เรื่องสยองขวัญของแดร๊กคิวล่าที่เราเคยอ่านๆ กันก็เป็นเพียงด้านหนึ่งของเหรียญ

    แล้วตอนนี้อะไรที่เพื่อนๆ คิดว่าพระองค์เป็นจริงๆ..?
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×