ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #8 : hurt

    • อัปเดตล่าสุด 21 ก.พ. 55


    "ลูเซียส?"

    โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง ชายหนุ่มโพล่งขึ้นทันที "ชั้นรู้เรื่องของนาย"

    เซเวอรัส สเนปมีปฏิกิริยาทันที ก่อนจะวางตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น "เรื่องอะไรล่ะ"

    "เรื่องที่นายพยายามต่อต้านจอมมาร"

    "อย่ามาไร้สาระนะ ลูเซียส ชั้นไม่ใช่คนเดิม"

    "หุบปากน่า! เจ้าเด็กโง่! ถ้าชั้นไม่ไว้ใจนายจะไม่มีวันยอมให้นายได้เป็นพ่อทูลหัวลูกชายชั้นเด็ดขาด!" ลูเซียสคำราม ก่อนจะเอามือกดลงในบาดแผลที่อยู่ใต้ผ้าพันแผล "นายไปพบกับดัมเบิ้ลดอร์เมื่อสามวันก่อน แล้วเมื่อวานนี้เค้าก็รับนายเข้าทำงานแทนศาสตราจารย์สลักซ์ฮอนที่พึ่งเกษียรตัวเองไป มันพร้อมๆ กับที่นายเอาเรื่องที่จอมมารหมายชีวิตลูกชายของลิลี่นั่นแหละ!"

    "แล้วตอนนี้จะบอกว่าไม่ไว้ใจชั้นทั้งๆ ที่พึ่งให้ชั้นเป็นพ่อทูลหัวลูกที่พึ่งเกิดเมื่อเดือนที่แล้วนี่นะ!" เซเวอรัสโต้กลับ

    "เซเวอรัส.. ที่ชั้นบาดเจ็บเพราะชั้นเป็นหนึ่งทีมสังหารที่จอมมารส่งไปฆ่าเด็ก" ลูเซียสเสียงอ่อนลง

    "เหรอ... แต่ชั้นเจอนายที่กองขยะที่ตรอกทิมฟรอสตอนตีสาม" เซเวอรัสเหมือนจะไม่ใส่ใจ แต่ลูเซียสรู้ว่าเค้าผ่อนคลายลง

    "เจมส์ช่วยชั้นไว้ ไม่งั้นชั้นคงตายแล้ว"

    "อ้อ... เสื้อคลุมนั่นเป็นของเค้าจริงๆ ด้วย" เซเวอรัส สเนปดูไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที

    "รู้เหรอว่าชั้นหมายถึงใคร"

    "เจมส์ พอตเตอร์... อาเทน่าเคยบอกผมเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างนายกับเค้า... ดูเหมือนนายก็ไม่อยากฆ่าเค้ากับลูกพอๆ กับที่เค้าไม่สามารถฆ่านายได้นั่นและ... ว่าแล้ว" เด็กหนุ่มพูดอย่างเย็นชา "พี่น้องทางพลังเวทย์เหรอ, ชั้นไม่รู้หรอกว่าในความจริงมันเป็นยังไง แต่ชั้นน่ะไม่มีวันยอมรับในตัวหมอนั่นหรอกนะ แม้ว่าจะยอมรับนายก็เถอะ" เค้าถอนใจเบาๆ "เหมือนที่ยอมรับเรกูรัส แต่จะไม่ยอมรับซิเรียส แบล็กเด็ดขาด"

    "นั่นมันก็ เรื่องของนาย" ลูเซียสเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ความจริงเค้าแคร์มันมาก "แต่จากสิ่งที่เกิดขึ้นชั้นแน่ใจว่าชั้นควรมีทางเลือกมากกว่าหนึ่งทาง... ถ้าฝ่ายจอมมารแพ้... ชั้นก็ต้องการทางรอดเหมือนกัน ถ้ามันเป็นไปได้ ชั้นหวังจะให้นายช่วยชั้นกับครอบครัวหากจอมมารแพ้ แต่ถ้าดัมเบิลดอร์แพ้... ชั้นสาบานว่านายจะปลอดภัย รวมทั้งพ่อของนายและลิลี่กับครอบครัวด้วย"

    "เหมือนจะบอกว่าอยากเหยียบเรือสองแคมเลยนะ สหายจอมกะล่อน" เซเวอรัสยิ้มเศร้า

    "แต่ก็ยุติธรรมดีไม่ใช่เหรอ" ลูเซียสเดินไปที่หน้าต่างแล้วถอนใจขณะมองไปข้างนอก "เพราะแม้เราจะเลือกอะไรที่ต่างกัน แต่ถ้าทำได้ชั้นก็ต้องการที่จะให้แน่ใจว่าคนสำคัญของชั้นจะไม่เป็นไร"

    เซเวอรัสสั่นนิดๆ เมื่อได้ยินคำว่า 'คนสำคัญ' ไม่เคยมีใครให้ความสำคัญกับเค้าขนาดนี้มาก่อนนอกจากลิลี่กับพ่อแม่ แน่นอนว่าดัมเบิลดอร์ก็เห็นเค้าเป็นเพียงหมากสีเทา "ชั้นมีข่าวร้ายเกี่ยวกับอาเทน่า"

    "ข่าวร้ายเหรอ  ข่าวร้ายอะไร?"

    "จอมมารสั่งคนยี่สิบคนไปตามเก็บเธอกับเพื่อนทั้งสาม หนึ่งในนั้นมีเวอร์รันดี้กับทอร์ด้วย, ถ้าเค้าไม่กล้าฆ่าเฟรย์ที่เป็นน้องชายก็ดีหรอก"

    "อะไรนะ!?" ลูเซียสแทบไม่เชื่อ "สั่งฆ่าจตุราชา! ไร้สาระสิ้นดี! จอมมารจำเป็นต้องพึ่งพวกเค้านะ!"

    "แต่จอมมารอาจจะไม่คิดเหมือนเรา อาเทน่ามีพลังมหาศาล มหาศาลจนน่ากลัว ยังไม่นับความจริงที่เธอแต่งงานกับซิเรียส แบล็ก-สมาชิกของภาคีนกฟินิกซ์" เซเวอรัสเอามือถูที่ต้นแขน-ตำแหน่งที่มีตรามารปรากฏอยู่ เหมือนไม่รู้ตัวเอาซะเลย "และถ้าอาเทน่าเกิดแสดงออกมาว่าไม่ต้องการรับใช้จอมมารอีก อะไรจะเกิดขึ้น... อีกสามคนที่เหลือก็คงมีคำตอบเหมือนเธอ"

    "ปัญหาไม่ได้อยู่ตรงนั่น... ปัญหาคือพวกนั้นทำอะไรป้าอาเทน่าไม่ได้หรอก!"

    "ลูเซียส!?" เซเวอรัสลุกขึ้นเมื่อเห็นลูเซียสลุกไปที่ประตู "นายจะไปไหนน่ะ!?"

    "เซเวอรัส ชั้นไม่ได้คิดจะไปห้ามพวกนั้นหรอกนะ อย่ากังวลเลย.. ชั้นไม่โง่พอจะทำตัวให้เป็นจุดสนใจมากกว่านี้หรอก แค่การที่ชั้นถูกเจมส์ไว้ชีวิตก็เป็นปัญหาพอแล้ว ถ้าชั้นพยายามช่วยป้าของชั้น จอมมารจะต้องคิดว่าชั้นกำลังเอาใจออกห่างแน่ๆ  ที่ชั้นไปนี่ก็เพื่อจะไปบอกพ่อ... ไม่สิ ไปบอกปู่น้อย(เบริฟรอท มัลฟอย-น้องชายของอัสลันเทีย)ว่าชั้นไม่ต้องการให้บรูตัสมาพักที่คฤหาสเล็กคืนนี้"

    เซเวอรัสรู้ว่าลูเซียสหมายถึงใคร บรูตัส มัลฟอยเป็นลูกชายแท้ๆ ของเบริฟรอท-อาของเอรีสกับอาเทน่า ตามหลักถือว่ามีศักดิ์เป็นอาของลูเซียสแม้จะมีน้อยกว่าสองปี แต่เนื่องจากเบริฟรอทเป็นพ่อเลี้ยงของลูเซียสตามการจัดสรรค์ตามพินัยกรรมก่อนตายของอัสลันเทีย ทำให้บรูตัสกลายเป็นน้องชายของลูเซียสแทน นี่เป็นความลับของตระกูลมัลฟอยที่มีไม่กี่คนที่รู้เรื่อง เท่าที่เค้าทราบจากนาซิสซา บรูตัสจะมาพักเยี่ยมพ่อและจะพักที่คฤหาสเล็กคืนนี้ แต่ลูเซียสไม่ยอมให้เค้ามา--เค้ารู้ว่าทำไม

    "ลูเซียส.. ไม่จำเป็นหรอกนะ คืนนี้ชั้นจะกลับบ้าน"

    "เซเวอรัส!?" ลูเซียสช๊อกกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะตอบกลับอย่างหวาดหวั่น "นายกลับไม่ได้นะ!!"

    "ทำไม.. มันเป็นธรรมดาไม่ใช่เหรอ ชั้นก็แค่กลับไปเตรียมตัว อีกสองสัปดาห์ข้างหน้าชั้นจะต้องกลับไปที่ฮอกวอร์ในฐานะอาจารย์แล้ว อย่างน้องก็ต้องกลับไปจัดของ"

    "เจ้าโง่เอ้ย! ชั้นจะไม่ห้ามถ้านายจะยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นแล้วสาปพ่อบ้าๆ ของนาย!" ลูเซียสแล่นเข้ามาหาเซเวอรัสแม้จะเจ็บแผลมาก สูงกว่าเซเวอรัส จับไหล่ผอมๆ แล้วเขย่าเบาๆ "ถ้านายไม่สามารถที่จะตอบโต้เค้าได้นายก็อยู่ที่นี่ดีกว่า! อีแค่ข้าวปลาอาหารชั้นหาให้กินได้น่า!"

    "นายปกป้องชั้นไม่ได้ตลอดเวลาหรอก ลูเซียส" เซเวอรัสยิ้มอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างที่นานๆ ทีนะเห็น "แล้วนายก็ยังมีคนที่ต้องดูแลอีกหลายคน... เพราะงั้นเรื่องของชั้นให้ชั้นจัดการเองเถอะ"

    โดยไม่รู้ตัว ราวกับถูกสะกดจิต มือของลูเซียสลดลงจากไหล่เล็กๆ นั่น แล้วเซเวอรัสก็ออกไปจากห้องทิ้งเค้าไว้อย่างนั้น ลูเซียสเดินไปแล้วทรุดลงที่เตียง ยกมือลูบหน้าอย่างอ่อนเพลีย เค้าเองก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเค้าต้องใส่ใจเด็กคนนี้มากขนาดนี้  เพราะเด็กคนนี้เป็นหลานชายของโลกิเหรอ!? เพราะเค้าเป็นหลานชายของอัสลันเทียเหรอ!? เค้ายอมรับว่าเค้าห่วงเซเวอรัสมาก แน่นอนว่าไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่าความรู้สึกอย่างที่พี่สามารถมีความปรารถนาดีต่อน้องได้

    แต่สิ่งที่เปียก-แฉะ-ที่ไหลอาบหน้านี่มันอะไรกันนะ!?
    ------------------------------------------------

    "กลับมาแล้วครับ"

    "ไอลีน"

    เซเวอรัสหายใจสะดุด เค้าปิดประตูแล้วเดินตรงไปหาพ่อที่นอนที่โซฟา น้ำตาไหลเป็นสาย เซเวอรัสทรุดลงข้างๆ แล้วตรวจสอบให้แน่ใจว่าเค้าไม่ได้เมา ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ กลับมาพร้อมกับกะลามังกับผ้าขนหนู เซเวอรัสพับแขนเสื้อ แล้วค่อยๆ เช็ดตัวให้เค้า บางทีเซเวอรัสก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองคาดหวังอะไร แต่เค้ากลับมาพร้อมความหวังตลอด หวังว่าอีกฝ่ายจะเมตตาเค้าบ้าง

    ดวงตาสีเขียวกำลังมองมาที่เค้า... เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมาก หน้าตาดีจนไม่เหมาะกับแม่ของเค้าด้วยซ้ำ แต่เมื่อมองอีกด้านแม่ก็ไม่เหมาะกับพ่อเหมือนกัน ผู้หญิงสูงศักดิ์แต่หน้าตาไม่สวยกับผู้ชายธรรมดาที่หน้าตาดี ช่างงี่เง่าราวกับนิยายก็ไม่ปาน

    "ไอลีน... กลับมาแล้วเหรอ?"

    เซเวอรัสไม่ตอบๆ เค้าค่อยๆ ยืนมือไปลูบหน้าพ่ออย่างอ่อนโยน...

    แต่โดยไม่คาดคิด มือทั้งสองข้างกับล๊อคเค้าไว้ราวกับคีมที่บีบแน่น แม้จะอายุถึงสี่สิบปีแล้ว แต่พ่อแข็งแรงกว่าเค้ามาก ท่านตัวโตกว่า หนากว่า ขณะที่เค้าผอมแห้งจนเหมือนหนังหุ้มกระดูก

    "พ่อ?" เซเวอรัสคราวเบาๆ ก่อนจะตะโกนออกมาอย่างเสียขวัญเมื่อถูกฉุดกระชาก "พ่อครับ อย่านะ" แต่เหมือนโทไบอัสไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เค้าดึงเซเวอรัสเข้าไปกอดจูบเหมือนจะหื่นกระหาย แม้จะในนาทีวิกฤต เซเวอรัสยังคงควบคุมตัวเองไว้ไม่ให้โต้ตอบด้วยเวทมนตร์ เค้าพยายามขัดขืน แต่สติของเค้าขาดวิ่นเมื่อสาบเสื้อของเค้าถูกฉีกออกจากกันเผยอกผอมๆ ที่มีรอยช้ำและรอยสัมผัสเป็นจ้ำ และแสงสีขาวก็แวบออกมาพร้อมกับเสียงกระดุมเสื้อที่หล่นกระจายบนพื้น เซเวอรัสล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วหอบ ขณะที่พ่อของเค้ากระเด็นไปที่ผนัง

    "ใช้ออกมาจนได้สินะ"

    "พ่อ?" เซเวอรัสตัวขึ้นแล้วพยายามคลานเข้าไปหา

    "ไอ้เด็กปีศาจ" เค้าคำรามเมื่อเห็นเลือดของตัวเอง

    "พ่อ..." เซเวอรัสพยายามที่จะวิงวอน

    "ไสหัวไป..."

    "ผมขอโทษ"

    "ไสหัวไปจากบ้านชั้น! ไอ้เด็กปีศาจ! ไสหัวไป!"

    กับความรู้สึกเต็มกลืนกับทั้งหมด เซเวอรัสวิ่งออกจากบ้านไป ไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไร พ่อระบายแค้นมาที่เค้าตลอด ทำให้เจ็บ ทำให้เค้าอับอาย ที่ฮอกวอร์ตเค้าคือตัวน่าสมเพซที่ถูกเจมส์ พอตเตอร์แกล้งไม่หยุดไม่หย่อน แต่ที่บ้านเค้าน่าสมเพชยิ่กว่าหลายเท่า

    กับน้ำตาที่ไหลเป็นทาง เซเวอรัสเดินกอดไหล่ของตัวเองแล้วตรงไปที่โบสถ์

    เจอกับเอรีส "เซเวอรัส เกิดอะไรขึ้น"

    "ผมถูกพ่อไล่ออกมา"

    "ไล่ออกมาเหรอ?"

    "เค้าไม่ต้องการผมแล้ว" เซเวอรัสตอบ ปิดตาลง  น้ำตาไหลอาบแก้ม

    แทนที่จะเชิญเค้าไปในโบสถ์ แต่เอรีสกลับทำสิ่งที่โหดร้ายที่สุดลงไป แต่นั่นก็เพราะมันเป็นสิ่งที่เซเวอรัสต้องการ "เซเวอรัส โทบี้มันไม่ได้พูดจริงๆ หรอก... ตอนที่เซเวอรัสเกิดน่ะ มันดีใจจะตาย"

    เป็นแสงสว่างอย่างแท้จริง แม้ว่าที่ตอบกลับจะเป็นการตัดพ้อ "แต่มันเข้าใจอยากเหลือเกิน"

    "ความจริง คนที่รู้ดีที่สุดก็คือเธอนั่นแหละ"

    เซเวอรัสจึงย้อนกลับไปที่บ้านอีกครั้ง ใช้ไม้กายสิทธิ์ไขกุญแจเข้าไป โทไบอัสนั่งอยู่ที่โซฟาเหมือนจะรอเค้า "แกกลับมาทำไมอีก"

    "พ่อ.. ผมขอโทษ ให้ผมอยู่กับพ่อเถอะ ผมสัญญาว่าทุกอย่างจะดีขึ้น พ่อครับ ดัมเบิลดอร์รับผมเป็นอาจารย์ที่ฮอกวอร์ต ผมสามารถหาเงินมากมายได้จากที่นั่น แล้วผมจะดูแลพ่ออย่างดี" เซเวอรัสคุกเข่าลงตรงหน้าพ่อ "แล้วผมจะทำทุกสิ่ง ขออย่างเดียว อย่าขายผมให้ใครอีกก็พอ"

    "ที่พูดมานี่แน่ใจเหรอ" เซเวอรัสพยักหน้า "แล้วถ้าชั้นบอกว่าชั้นต้องการสิ่งนี้... แกจะว่ายังไง" เค้าพูดพร้อมกับกดลูกชายลงกับโซฟาแล้วฉีกเสื้อเค้าออก ราวกับจะถามความแน่ สำหรับเซเวอรัสการขายตัวให้ผู้ชายร้อยคนยังแย่น้อยกว่าถูกพ่อข่มขืนครั้งเดียว แต่ด้วยความอดทนอันไม่น่าเชื่อ ร่างที่สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวของว่าที่อาจารย์สอนปรุงยาแห่งฮอกวอร์ตไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย ตาสีดำปิดลงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่ขอรับรู้อีกแล้ว

    ความรักน่ะ สำหรับเค้ามันก็คือการสิ้นหวังดีๆ นี่เอง...










    เป็นอีกครั้งที่มันไม่ใช่เรื่องของโลกิ... ลูเซียสพึ่งตระหนักในตอนนี้ว่าสมุดบันทึกเล่มนี้ไม่ใช่สมุดของโลกิและไม่มีเหตุผลที่จะบันทึกเรื่องของโลกิก็ตอนนี้เอง เค้าพอจะเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาเค้าได้รับอนุญาตให้ตามโลกิเพราะอีกฝ่ายเห็นว่าเรื่องของโลกิเป็นเรื่องสำคัญเท่านั้นเอง  ตอนนี้เค้าอยู่ในห้องตามลำพังกับศาสตราจารย์เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟในห้องสมุด, ในคฤหาสที่ถูกซ่อนไว้จากสายตาของคนทั่วไปไม่ว่าจะมักเกิ้ลหรือผู้วิเศษ  แต่จากตำรามากมายที่กองอยู่ ห้องที่เหมือนจะเป็นห้องปฏิบัติการและห้องนอนรวมที่ถูกปิดตายไว้ เค้าแน่ใจว่าตนอยู่ที่ไหน  นี่คือสถาบันที่สอนศาสตร์มืดอย่างจริงจัง เข้มในวิชาปรุงยาและคณิตศาสตร์ สอนศาสตร์แห่งพิธีกรรมที่ถูกลืมเลือนและอนุรักษ์เวทย์แบบโบราณที่สามารถปฏิบัติได้จริงโดยไม่ต้องมีไม้กายสิทธิ์ โรงเรียนที่กระทรวงเวทย์มนตร์พยายามแทบเป็นแทบตายในการตามหาเพื่อจะปิดมัน โรงเรียนที่หนึ่งในสี่ผู้ก่อตั้งของฮอกวอร์ตได้ตั้งมันไว้ตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็นแม่มดศาสตร์มืดที่ร้ายกาจและปิดมันลงเมื่อเธอกลายเป็นอาจารย์ที่ฮอกวอร์ต แต่ลูกชายของเธอได้เปิดมันอีกครั้ง

    โรงเรียนเพลมิล๊อค-โรงเรียนที่ไม่เคยสอนนักเรียนเกินสิบคน!!

    บานประตูเปิดออก ร่างของเอมิเรียก้าวเข้ามาพร้อมกับน้ำชา "เซเวอรัส... รบกวนรึเปล่า"

    "ไม่.. มีอะไรรึเปล่า!?" ชายหนุ่มปิดหนังสือแล้วมองดูเอมิเรีย  ให้ตายสิ เอมิเรียคนนี้ดูไม่ต่างจากในปัจจุบันนี้เลยทั้งๆ ที่จากปฏิทินข้างผนัง มันเป็นช่วงที่พวกโลกิยังหนุ่ม

    "ข้าว่าร่างกายนี้คงมาถึงขีดสุดแล้ว  เค้าไม่เหมือนข้าที่ไม่มีวันตายอย่างมนุษย์ได้ ไม่เหมือนไลชาที่ถูกสาปให้เป็นอมตะ ไม่เหมือนเจ้าที่เป็นโฮโมนครูส... เค้าเป็นพ่อมดธรรมดาที่มีอำนาจมากเท่านั้น เซเวอรัส, ก๊อดริกไม่สามารถควบคุมร่างตามใจชอบได้อีกแล้ว เราต้องหาร่างใหม่ให้เค้า"

    เซเวอรัส เรวัน ฮัฟเฟิลพัฟถอนใจ "นั่นสินะ เพราะถ้าไม่มีเค้าก็ไม่ต้องพูดเรื่องการรักษาสถานภาพของจตุราชา เราอาจจะเปลี่ยนเอาคนอื่นมาแทนได้ถ้าเกิดอะไรที่ไม่คาดฝันขึ้น แต่ศาสตราจารย์กริฟฟินดอร์ เค้าเป็นแกนหลักของจตุราชา คนที่จะต่อสู้กับอะโพคาลิฟ-ฟามีแต่เค้าเท่านั้น"

    ลูเซียสขมวดคิ้ว ก๊อดริก... หมายถึง ก๊อดริก กริฟฟินดอร์น่ะเหรอ!? อย่าล้อเล่นน่า! กริฟฟินดอร์เป็นอาจารย์ใหญ่ผู้ก่อตั้งฮอกวอร์ตเมื่อพันปีก่อน! ไม่มีใครอยู่ได้นานขนาดนั้นหรอก! เว้นซะจาก...

    "คำถามคือ... ในฐานะที่เจ้าเชี่ยวชาญเรื่องเวทมนตร์ มีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้วิญญานที่ถูกฝ่าออกเป็นสามส่วนกลับมารวมกันอีกครั้งได้" เอมิเรียรินชาส่งให้

    "มีสิ... ตามหลักแล้วการทำฮอรักซ์นั้นเกิดจากการทำบาปด้วยการสังหารและฉีกวิญญาน แต่ถ้ามีหัวใจที่มุ่งหมายในเส้นเดียวกันก็สามารถประสานวิญญานที่ปรักหักพังเข้าหากันได้อีกครั้ง" เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟจิบชา "ในวันที่ต้องเผชิยหน้ากับเจ้าแห่งศาสตร์มืดที่แท้จริง ข้าเชื่อว่าหัวใจของกริฟฟินดอร์ไม่มีลืมหรอกว่าเค้ายอมฆ่าคนเพื่อทำฮอรักซ์ทั้งที่เป็นสิ่งผิดก็เพื่อหยุดวันพิพากษาโลก"

    ลูเซียสแทบไม่เชื่อรูหู... กริฟฟินดอร์เนี่ยนะทำฮอรักซ์!? นี่มันเชื่อยากยิ่งกว่าบังคับให้กระเทยออกลูกซะอีก!!

    แต่บางสิ่งที่น่าขนลุกทำให้เค้าหายใจหอบ แบ่งวิญญานเป็นสามส่วนเหรอ!? ตอนนี้จตุราชายังอยู่ ศาสตราจารย์เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟหายไปแล้ว เค้าแน่ใจว่าเฟรย์ เมอร์กันคือคนที่มาแทนที่  แต่กริฟฟินดอร์ล่ะ!? เมื่อกี้บอกว่าเค้าจะต้องอยู่จนวันที่อะโพคาลิฟ-ฟากลับมาใช่มั้ย! แล้วก็ความเกี่ยวพันธ์ทางวิญญานที่ว่าก็คือ!?

    อาเทน่าคือวิญญานหลัก.. ส่วนฮอรักซ์อีกสองชิ้นก็คือเอรีสกับเลาเรสไม่ใช่เหรอ!?

    นั่นเป็นสาเหตุที่เลาเรสไม่สามารถมีพี่น้องฝาแฝดได้ เพราะแท้จริงเสี้ยววิญญานของกริฟฟินดอร์มีเพียงสองเท่านั้น เจมส์กับเค้าเป็นลูกของกริฟฟินดอร์ด้วยเหตุผลนี้









    ....ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน....!

    พ่อแม่ของเค้าตายแล้ว เจมส์ยกมือขึ้นลูบหน้า! เฟรย์ยืนอยู่ที่นั่นในวันที่พ่อแม่ตาย!

    ทำไม ทำไม...? ทำไมเค้าไม่ทำอะไรเลย!? เค้าปล่อยให้น้องสาวกับสามีของหล่อนตายได้ยังไง!?

    แล้วจู่ๆ ข่าวที่เข้ามา คือเฟรย์ตายแล้ว เวอร์ลันดี้กับทอร์ก็ตายแล้ว ตอนนี้ครอบครัวเมอร์กันทั้งตากับยายของเค้า-โอดินกับแคสก้า, แล้วก็ลูกสี่คนที่เกิดจากพวกเค้าก็ตายตามกันไปหมด คฤหาสเมอร์กันได้ตกเป็นของลูกหลานน้องชายของทวดที่เป็นลูกครึ่ง

    เจมส์ไม่รู้จะพูดอะไรกับซิเรียส, ภรรยาเค้าพึ่งคลอดลูก แล้วจู่ๆ ก็มีข่าวว่าเธอตาย... แม้เค้าจะไม่รู้ปัญหาของอาเทน่ากับซิเรียส แต่เจมส์รู้ว่าซิเรียสรักเธอมาก

    ลูกแฝดของพวกเค้าเป็นไงบ้างนะ ตอนนี้นะ!?

    เจมส์เดินเข้าไปในห้อง ซิเรียสนั่งอยู่ที่ประตู เหมือนไม่ได้สติด้วยซ้ำ... เจมส์ทรุดลงแล้วกอดเพื่อนรักของเค้า "นายคิดถึงเธอ! ชั้นรู้ว่านายคิดถึงเธอ!" ไม่มีคำตอบ มีเพียงเสียงร้องไห้เงียบๆ









    มันเป็นอะไรที่ทุกคนเห็นจนชิน เมื่อชายที่มีอายุมากกว่าสะบัดจนคนที่ตัวเล็กกว่าหงายลงกับพื้น "ไม่ต้องมาเรียกชั้นว่าพ่อ!" เค้าตะโกนด้วยความโกรธหลังจากถูกเพื่อนผู้เสพความตายของลูกดูหมิ่นว่าเป็นแค่พวกเลือดขี้ดินโสโครก แม้ว่าพวกมันจะไปแล้ว แต่เหมือนความหยามเหยียดยังคงอยู่ เค้าไม่สนใจด้วยซ้ำว่าลูกชายแคร์มากเพียง "ชั้นจะกลับ ส่วนแก ไสหัวไปให้พ้น"

    โทไบอัสทิ้งลูกชายที่อยู่ในสภาพอับอายไว้ตรงนั้น เซเวอรัสยืนขึ้นช้าๆ และเดินไปที่ริมฟุตบาทก่อนจะค่อยๆ นั่งลง... ไม่ต้องเรียกว่าพ่องั้นเหรอ... นั่นสิ ไอ้ที่ทำด้วยกันเมื่อคืนนี้มันไม่เรียกว่าพ่อกับลูกแล้วด้วยซ้ำไป... และไม่นานก็ต้องตกใจสุดขีดที่เห็นแก้วกระดาษ และคนที่ส่งมาให้คือดัมเบิ้ลดอร์

    กับความพยายามมากมายที่จะสะกัดใจระหว่างการพูดคุย... เค้าไม่อยากให้ใครเห็นเค้าในสภาพนี้เลย แต่ว่า...

    "วันนี้ชั้นจะแวะบ้านเธอ"

    "อย่าดีกว่าครับ พ่อไม่ชอบพวกพ่อมด ผมไม่อยากให้เค้าเสียมารยาทกับท่าน"

    "ไม่ต้องกลัวหรอกเซเวอรัส ถ้ามีเรื่องแบบนั้นชั้นจะจัดให้เค้าสงบก่อนที่เค้าจะทำโง่ๆ และชั้นสาบานว่าจะไม่ทำร้ายเค้า ชั้นมาที่นี่เพื่อช่วยปกป้องครอบครัวของสมาชิกภาคี"

    ชายหนุ่มอึกอัก  เค้าไม่อยากให้ใครมาเห็นเค้าในสภาพนี้เลย ไม่ว่าใครก็ตาม...







    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×