คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ความลับของเอรีส
อัลพาโรซี่ สกอร์ปิอัส และ ทอมไปที่กระท่อมของแฮกริด ระหว่างเส้นทางนั้นพวกเค้าคุยกันอย่างสนุกไปสุดทาง แฮกริดยอมที่จะต้อนรับพวกเค้าแม้จะดูไม่สนิดใจกับทอมนักมาตลอดหลายปีที่รู้จักกัน เพราะเค้าไม่มีโอกาสได้พบรู้จักกันเป็นทางการ และอีกประการ เพราะเค้าช่างเหมือนโวลเดอร์มอร์ในวัยเด็กทั้งรูปร่างหน้าตาและน้ำเสียง แต่เมื่อเห็นความสุภาพและอ่อนโยนนั่นเค้าก็คลายใจลงและนึกได้ว่าทอมไม่ใช่โวลเดอร์มอร์คนนั้น แต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเค้กหินกับชามันรสชาดดีกว่านี้หน่อย
ทอมไม่เคยกล้าที่จะพูดคุยหรือถามไถ่อาจารย์คนไหนเกี่ยวกับทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ามีโอกาสได้ฟังเรื่องของทอมอีกคนจากคนอื่น และพวกเค้าก็ไปที่ห้องเก็บรางวัล พวกเค้าพบชื่อของทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล มากมายบนเหรียญรางวัล ถ้วย และ โล่เกียรติยศมากมายที่แสดงถึงความสามารถเกี่ยวกับเวทมนตร์
แต่สิ่งที่ดึงความสนใจของทอม โลกิ ริดเดิ้ล กลับเป็นชื่อที่อยู่บนรางวัลเกี่ยวกับการปรุงยา เซเวอรัส สเนป--ชื่อเดียวกับบาทหลวงที่แสนสำคัญของเค้า คนที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ชาย
หลังจากนั้น พวกเค้าทั้งสี่ก็ออกไปเดินชมฮอกวอร์ตด้วยกัน ทอมและอัลดีใจที่เห็นสกอร์ปิอัสและโรซี่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว และคงดีกว่านี้ ถ้าไม่ใช่เพราะ กลุ่มคนที่เดินเข้ามาห้อมล้อมพวกเค้าทั้งหมด ทอมหยุดและมองไปรอบๆ เพื่อนๆ สลิธีรีนของเค้านั่น เลโอเนลล์ การ์เรียเลฟก้าวออกมา
"ดูซิ เราเห็นอะไรกัน คนนามสกุลริดเดิ้ลกับลูกชายของแฮร์รี่ พอตเตอร์ผู้โด่งดังกำลังคุยกันอย่างถูกปากถูกคอ แล้วยังลูกหลานตระกูลวิสลี่ย์กับกระกูลมัลฟอยที่เป็นศัตรูกันมานานก็ทำท่าสนิทสนม สงสัยคงได้แต่งงานกันเร็วๆ นี้แหละ"
สิ้นคำเสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น ทอมพยายามแหวกกลุ่มคนออกไป แต่กัลลิโตส แครบก้าวเข้ามาขวาง "คิดจะไปไหนริดเดิ้ล"
"หยุดนะ!!!" อัลบัส พอตเตอร์ตะโกน "นายคิดจะทำอะไร"
"สั่งสอนมันไง" ไมน่อน เบส ตะโกนออกมา "เราไม่มีทางปล่อยให้คนที่เราคุยด้วยเดินจากไปโดยไม่เห็นเราในสายหรอกนะ"
"เค้าก็เป็นสลิธีรีนเหมือนพวกเธอ" โรซี่ วิสลี่ย์ตะโกน "ทอมมีนามสกุลริดเดิ้ลของคนพวกพ่อและปู่ย่าตายายของพวกเธอเคย--"
"ไม่มีใครบอกเธองั้นสิว่านามสกุลริดเดิ้ลของจอมมารเป็นนามสกุลที่ได้มาจากพ่อมักเกิ้ลโสครกของเค้า แล้วจอมมารก็หน้าตาเหมือนพ่อมักเกิ้ลของเค้าด้วย จะแปลกอะไรถ้าหมอนี่เป็นยาทของตระกูลริดเดิ้ลที่เป็นมักเกิ้ลโดยได้นามสกุลมาเพราะสืบสายตระกูลมาจากปู่ของจอมมาร แต่บังเอิญหน้าเหมือนญาติฝ่ายพ่อก็เลยพลอยหน้าตาเหมือนจอมมารสมัยหนุ่มๆ ไปด้วย" กิลลิโตสว่า
แต่จู่ๆ กลุ่มสลิธีรีนก็ก้าวออกไปจากพวกทอม และอัลบัสก็ได้เห็นว่าคนที่เข้ามาคือเจมส์ พอตเตอร์และเฟร็ด วิสลี่ย์ ทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานจนไม่ทันเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่ท่าทีของแก๊งค์บ้านสลิธีรีนก็ทำให้ทั้งคู่สังเกตเห็นจนได้ เจมส์และเฟร็ดเดินตรงเข้ามาหาทอมอย่างสนใจทันที่ แม้ว่าพวกเค้าจะอยู่แค่ปีสาม แต่ความร้ายกาจไม่ธรรมดาเลย เหนือกว่านั้น พวกเค้านิสัยเหมือนเขาแหลมกับเท้าปุ่ยมากกว่าฝาแฝดวิสลี่ย์
"ดูซิ เราเห็นใคร ที่แท้ก็ ทอม ริดเดิ้ลคนดัง ผู้มีใบหน้าเหมือนลอร์ดโวลเดอร์มอร์สมัยหนุ่มๆ ยังกับโขกออกจากแม่พิมพ์เดียวกัน" เจมส์อุทาน "นายทำอะไรอยู่เหรอ?" ทอมไม่สนใจ
"บางทีนายอาจจะกำลังรวบรวมผู้เสพความตายอยู่ก็ได้นะ" เฟร็ดออกความเห็น
ทอมเดินผ่านเด็กชายทั้งสองโดยไม่สนใจแม้แต่น้อยก่อนจะถูกคาถาปลดอาวุธของเจมส์ทำให้ไม้กายสิทธิที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของทอมกระเด็นออกไปไกล ทอมหันควับทันทีก่อนจะโดนคาถาของเจมส์จนกระเด็นไปข้างหลังหลายเมตร เฟร็ดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาสุดเสียง ก่อนจะหยุดและเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าสกอร์วิ่งออกมาแล้วขวางไม่ให้เจมส์ทำมากไปกว่านี้ เจมส์หัวเราะอย่างเสียมิได้ ก่อนจะถาม
"นายคิดจะทำอะไร มัลฟอย จะสู้กับเราเหรอ"
สกอร์ปิอัสชักไม่กายสิทธิ์ออกมาทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเค้าไม่รู้คาถาซักตัวด้วยซ้ำ แต่ก็เป็นโรซี่ที่ชิงปลดอาวุธของเจมส์ซะก่อนที่เจมส์จะรู้ตัว เธอไม่ได้เก่งอะไรหรอก แค่ใช้วิธี 'อาจารย์หลับก็ลักจำ' มาจากตอนที่พ่อกับแม่ซ้อมกัน รวมทั้งอัลที่ก้าวออกมาพร้อมกับชักไม้กายสิทธิ์ออกมาบ้าง
"อย่ายุ่งกับพวกเค้านะ"
"นายว่าอะไรนะ" เจมส์เลิกคิ้ว
"ปล่อยพวกเค้าไป ไม่งั้นชั้นไม่ยอมแน่"
"อะไรนะ นายจะทำอะไรชั้น ไอ้น้องชาย"
"อัลบัส... อย่าให้ชั้นต้องสาปนายนะ" เฟร็ดระอา
"สาปเลยยังจะดีกว่า" อัลบอก "ตอนนี้ชั้นเสียใจที่เชื่อคำพูดของเจมส์จนไม่ยอมที่จะอยู่สลิธีรีน แท้จริงแล้วพี่ชายของชั้นคือคนสารเลวที่ชอบรังแกคนอื่น นายไม่รู้เหรอว่าทอมกับสกอร์ปิอัสน่าสงสารขนาดไหน"
"พอแล้ว"
เสียงของผู้หญิงดังขึ้น และทุกคนก็หันไปยังที่มาของมัน ศาสตราจารย์มินอว่า มักกอนนากัล อาจารย์ใหญ่ของฮอกวอร์ตยืนอยู่ตรงนั้น และอะไรบางอย่างบอกให้ทุกคนรู้ว่าเธอคงยืนอยู่นานแล้ว ขณะที่ทุกคนกังวลใจว่าจะถูกหักคนละกี่คะแนน ศาสตราจารย์มักกอนนากัลกลับเรียกให้ทอม สกอร์ปิอัส อัลบัส และ โรซี่ ตามไปยังห้องทำงาน ทำให้คนที่เหลือยืนอยู่งุงงก่อนจะแยกย้ายกันออกไป
บานประตูเปิดออกพร้อมกับศาสตราจารย์มักกอนนากัลที่นำเด็กทั้งสี่ไปที่ห้องทำงานของเธอ เวลานั้นทอมถูกทักทายทันทีโดยศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ "เธอสินะ ทอมริดเดิ้ลที่เค้าลือกัน... เธอเหมือนกับโวลเดอร์มอร์อย่างไม่ผิดเพี้ยนเลยจริงๆ นั่นแหละ" ทอมโค้งให้กับอดีดอาจารย์ใหญ่ที่โด่งดังและยิ่งใหญ่ของฮอกวอร์ต "แต่เท่าที่ชั้นสืบทราบมา โวลเดอร์มอร์ไม่มีลูกที่ไหนไม่ใช่เหรอ แล้วจะว่าไป เธอเองก็ไม่เคยมาถึงที่นี่ด้วยซ้ำ"
"ชั้นเองก็พึ่งได้ยินอะไรดีๆ มาเหมือนกันอัลบัส ตลอดเวลาที่เด็กคนนี้เรียนอยู่ที่นี่ทำไมไม่มีใครบอกชั้นเลยว่า โวลเดอร์มอร์ได้รูปร่างหน้าตาและนามสกุลริดเดิ้้ลมาจากพ่อของเค้า เพราะฉะนั้น การที่เด็กคนนี้จะมีชื่อและหน้าตาที่เหมือนโวลเดอร์มอร์ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย เพราะทอม ริดเดิ้ลผู้หล่อเหล่าคงไม่ได้มีแต่ภรรยาขี้ริ้วขี้เหร่อย่างเมโรเพคนเดียวหรอก ซึ่งนั่นแปลว่าลูกชายของเค้าก็คงไม่ได้มีแต่โวลเดอร์มอร์คนเดียวเหมือนกัน แต่กว่าเราจะมาถึงตรงนี้เราก็ปล่อยให้เรื่องมันแย่ซะขนาดนี้แล้ว" เธอหันไปหาอัล "ถ้าพอตเตอร์คนนี้ไม่ได้บอกศาสตราจารย์ลองบัตท่อม--อาจารย์ประจำบ้านของเค้า เราคงไม่มีโอกาสได้รู้อะไรเลยเหมือนกัน ชั้นปล่อยให้เธอต้องนอนอยู่ที่คุกใต้ดินมานานขนาดนี้คงจะโกรธชั้นมากสินะ"
"ไม่เลยครับผม--" ทอมยังไม่ทันพูดจบ แต่มักกอนนากัลก็ชิงตัดบทก่อน
"ถึงเธอจะโกรธชั้นก็ไม่ว่าอะไรหรอก การที่ศาสตราจารย์สลักฮอร์นไม่บอกชั้นนับเป็นเรื่องที่แย่มากแต่การที่ชั้นไม่สนใจเรื่องของเธอมันก็แย่พอกันเหมือนกัน ชั้นเองก็ไม่ใส่ใจจริงๆ ทั้งๆ ที่เธอมีผลการเรียนโดดเด่น แค่ว่าเธอไม่เคยมีเรื่องมาร้องเรียนและไม่เคยเดินกับใครชั้นก็เหมาเอาว่าเธอไม่มีปัญหา ขอโทษจริงๆ" ว่าแล้วหันไปหาสกอร์ปิอัส "และถ้าชั้นไม่ทำอะไร คุณมัลฟอยก็คงต้องมาอยู่ในสภาพเดียวกับเธออีกถึงเจ็ดปี"
"แต่การจะย้ายพวกเราขึ้นไปน่ะเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะอาจารย์ไม่สามารถควบคุมความประพฤติของนักเรียนทุกคนได้ตลอดเวลาหรอก... แต่ ถ้าพวกเค้าสามารถที่จะชอบสกอร์ได้จากใจจริง มันจะดีกว่า เพราะฉะนั้นอย่าได้ใช้อำนาจสั่งเลยครับ แต่ให้สกอร์พยายามพิสูจน์ตัวเองน่าจะดีกว่า..."
บรรดาอาจารย์ใหญ่ในภาพพากันยิ้มอย่างประทับใจสำหรับคำตอบที่เรียบง่ายแต่ก็เป็นเรื่องเป็นราวของเด็กหนุ่มอัลกับโรซี่หันมายิ้มให้กันอย่างยินดี ก่อนจะนึกบางอย่างได้ อัลเงยหน้าและมองไปรอบๆ "อาจารย์ใหญ่คนไหนคืออาจารย์เซเวอรัสเหรอฮะ"
ความเงียบเคลื่อนเข้ามาทันที รอยยิ้มของบรรดาอาจารย์ใหญ่หายไปรวมทั้งมักกอนนากัลด้วย เธอถอนใจและถามเบาๆ "พ่อของเธอให้มาถามเหรอ"
"เปล่าฮะ" อัลรู้ซึ้งถึงความผิดปกติ "เพียงแต่ พ่อเคยบอกว่า ชื่อของผมตั้งตามอาจารย์ใหญ่สองคนของฮอกวอร์ต คือ 'อัลบัส เซเวอรัส พอตเตอร์' ผมก็เลยอยากรู้จักบ้าง"
"เค้าไม่อยู่ที่นี่หรอก... แต่อย่าบอกพ่อของเธอเชียวนะ"
"ทำไม...?"
"พ่อของเธอพยายามมาตลอดสิบปีเพื่อให้เค้าได้มีรูปติดไว้ที่ฮอกวอร์ต แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก เราเลยได้แต่ทำให้เค้าสบายใจว่ารูปของสเนปจะมาแน่นอน และแน่ล่ะ เค้าไม่เคยรู้ว่าสเนปไม่มีวันที่จะมีรูปที่นี่ เพราะลึกๆ แล้วเค้าก็ไม่อยากเจอสเนปนักหรอก ต่อให้มีรูปอยู่ที่นี่ชั้นก็บอกได้ว่าพวกเค้าจะไม่มีโอกาสพบกัน"
"อาจารย์หลอกอาของหนูเหรอคะ!!" โรซี่ตกใจสุดขีด "หลอกมาตลอด!?"
มินอร์วาถอนใจ ได้แต่พยักหน้ารับช้า....
พวกเด็กๆ ออกไปแล้ว มินอร์ว่า มักกอนนากัลนั่งทำงานอยู่ตามลำพังในห้อง จนกระทั่งจวนได้เวลาอาหารค่ำแล้ว เธอจึงเก็บทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วออกจากห้องทำงานไปเพียงเพื่อจะพบว่ามีมือลึกลับโผล่มาจากความมืด กระชากเธอหายวับไปด้วยกัน
ในความมืด ใครบางคนกำลังจูบเธออย่างดูดดื่ม นานมากกว่าแยกจากกัน
"ซิบิลล์ ทำแบบนี้ชั้นตกใจหมด"
"โอ... มิเนอร์ว่า มันเป็นความผิดของเธอเองที่ทำให้ชั้นต้องทำแบบนี้ เพราะความสัมพันธ์ของเราไม่สามารถเปิดเผยต่อคนอื่นได้ อยู่ต่อหน้าคนอื่นต้องทำเป็นเฉย ชั้นแทบจะขาดใจได้อยู่แล้ว!" ศาสจารย์ทีลอนี่ย์น้ำตาคลอเบ้า มินอร์ว่ารีบถอดแว่นขนาดใหญ่ออกจากหน้าของเธอเพราะมันทำให้เธอดูติงต๊องจนเกือบจะหมดอารมณ์ ใบหน้าที่ปราศจากแว่นของอาจารย์วิชาพยากรณ์ดูน่ารักกว่าที่คาดเช่นเดียวกับอาจารย์ใหญ่ที่ยังสวยเฉียบแม้อายุของทั้งคู่รวมกันแล้วจะเกือบสองร้อยปีก็ตาม
แล้วทั้งคู่ก็เริ่มต้นกัดปากกันอีกครั้งอย่างดูดดื่ม แหงบ แหงบๆ! แหงบ!!
"โธ่ มิเนอร์ว่า... ไม่มีคนอื่นแล้วรึไง..." ศาสตราจารย์บิน(ผีสอนประวัติศาสตร์เวทมนตร์)ที่ลอยมาเห็นได้แต่พึมพำกับตัวเองเศร้าๆ
----------------------------------------------------
แฮร์รี่วางข้าวของทั้งหมดขณะที่รอนและเดรโกช่วยกันประคองบาทหลวงเซเวอรัสลงจากรถ ใจจริงเค้าอยากจะร่ายเวทย์ให้อีกฝ่ายหายเร็วๆ แต่ไม่สามารถทำได้เพราะอาจจะทำให้อีกฝ่ายรับไม่ได้ เค้าได้เรียนรู้มาพอสมควรเกี่ยวกับการใช้เวทมนตร์ต่อหน้ามักเกิ้ลโดยเฉพาะในวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์(แม้จะหลับเป็นส่วนใหญ่) แต่มักเกิ้ลมักตื่นกลัวกับสิ่งที่ไม่รู้จักคุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบาทหลวง พวกเค้าไม่ยอมรับอำนาจที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าแน่นอน
เดรโกนำจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งอยู่หน้าประตูโบสถ์ไปไว้ในห้องของหลวงพ่อเอรีส และมองดูเค้าได้พบบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น มันคือภาพถ่าย เดรโก มัลฟอยมองมันทีละใบอย่างตื่นตกใจ ก่อนจะหยิบทั้งหมดมาใส่กระเป๋าและรีบออกจากห้อง
"คุณเข้าไปทำอะไรในนั้น" บาทหลวงอเล็กซ์ถาม
"ผม เอาของไปเก็บให้" เดรโกพยายามวางราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "เป็นจดหมายมาที่จ่าหน้าซองถึงท่าน ผมถามบราเทอร์ที่กวาดพื้นอยู่ตรงนั้น แล้วเค้าบอกผม"
"ถึงกระนั้นคุณก็ไม่ควรเข้าไประหว่างที่เจ้าอาวาทไม่อยู่... ปกติท่านไม่ยอมให้ใครเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต"
"ผมขอโทษ" แล้วรีบไปให้พ้นจากที่พักรวมของพวกพระ
แฮร์รี่ยกมือเท้าสะเอวระหว่างที่เดินดูรอบๆ โบสถ์ที่ตั้งอยู่ที่ย่านสลัม ห่างไปไม่มากคือตรอกช่างปั่นฝ้าย แฮร์รี่พยายามนึกว่าเคยรู้จักที่แห่งนี้รึไม่ แต่เค้านึกไม่ออก ไม่นานนักเดรโกที่หายไปก็โผล่ออกมาด้วยท่าทางแปลกๆ แล้วถามว่าจะกลับเมื่อไหร่ เตือนให้แฮร์รี่นึกได้ว่าไม่ควรอยู่นานเพราะพวกเค้าต่างยังมีธุระที่อื่นอยู่ พวกเค้าจึงต้องขอลากลับ แม้ว่าพวกพระจะชวนให้อยู่กินข้าวด้วยกัน
"ไม่น่าเชื่อนะว่านายจะอยากมาเที่ยวโบสถ์มักเกิ้ล" รอนเหน็บเข้าให้ "แบบนี้ตระกูลมัลฟอยคงต้องอาบอายแน่"
"เฮ้... รอน" แฮร์รี่ปราม ก่อนจะถามเดรโกที่ดูหน้าซีด "นายไหวรึเปล่ามัลฟอย ให้ชั้นไปส่งที่บ้านมั้ย" เดรโกส่ายหน้า แต่บางอย่างในตัวมันทำให้แฮร์รี่หวนนึกไปถึงช่วงเวลาที่อดีตเพื่อนร่วมรุ่นได้รับคำสั่งให้ฆ่าดัมเบิ้ลดอร์ เค้าจอดรถกระทันหันแล้วถาม โดยไม่สนใจรอนที่โวยวาย "บอกชั้นเดี๋ยวนี้ว่ามีอะไร" เดรโกไม่ตอบ แฮร์รี่ชักไม้กายสิทธิ์ออกมา เค้าเป็นมือปราบมารที่มีประสบการณ์ แค่การขู่นิดๆ หน่อยๆ ไม่ใช่ปัญหาเพราะเค้าต้องทำประจำในการสอบสวนผู้ต้องหา
"แฮร์รี่ เกิดอะไรขึ้นนะ" รอนตกใจ แต่แฮร์รี่ทำท่าจริงจังกว่าเดิม
"อย่าให้ชั้นสาปนาย" เดรโกรู้เต็มออกว่าเค้าไม่มีทางสู้ชนะคนที่สามารถพิชิตจอมมารได้ ยิ่งอีกฝ่ายชักไม่กายสิทธิ์ออกมาก่อน เค้าค่อยๆ ดึงของที่ขโมยมาออกมาให้แฮร์รี่และรอน พวกเค้านำรถมักเกิ้ลไปจอดที่สวนสาธารณะ แล้วนำสิ่งที่ได้รับมาพิจารณาดูทีละใบ มันเป็นภาพของพวกพ่อมดแน่นอนเพราะสิ่งที่อยู่ในภาพทั้งหมดสามารถเคลื่อนไหวได้ พวกเค้าในรูปไม่ใช่คนที่พวกเค้าที่อยู่ที่นี่รู้จักก็จริง แต่ใบหน้าของหลายๆ คนล้วนเหมือนเคยเห็นมาก่อนทั้งนั้น ใบหน้าของแฮร์รี่และรอนดูงุงงไม่แพ้กัน "นายเอามาจากไหน"
"ห้องของหลวงพ่อเอรีส" เดรโกตอบ สีหน้าไม่สู้ดี
"แต่พวกเค้าเป็นมักเกิ้ล จะมีของแบบนี้ได้ยังไง" รอนว่า "เว้นแต่พวกเค้าจะติดต่อกับพวกผู้วิเศษ"
แฮร์รี่ไม่ตอบ เค้ามองดูด้วยความพิศวง พวกพ่อมดแม่มดพวกนี้เป็นใคร? บางคนดูคล้ายเค้า คล้ายเดรโก และแน่นอน ดูคล้ายสเนปด้วย และในบางภาพเค้าเห็นดัมเบิลดอร์ในวัยหนุ่ม รวมถึงภาพของ ทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล วัยพอๆ กับ เจมส์ลูกชายคนโตของแฮร์รี่กับพ่อมดศาสตร์มืดวัยราวๆ ห้าสิบปี(แต่แน่นอนว่าเค้าอายุมากกว่าห้าสิบ)ชุดสีดำสนิทที่หน้าคล้ายสเนป และเดรโกจับพลิกด้านหลังให้เค้าดูชัดๆ
โลกิ พริ้นซ์ และ ทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล!
พริ้นซ์?! เค้าเคยได้ยินนามสกุลนี้ที่ไหนมาก่อนรึเปล่า?!
"แล้วดูนี่" เดรโกจับอีกรูปมาให้ดู "ดูเสร็จแล้วค่อยอ่านหลังภาพ"
แฮร์รี่และรอนมองหน้ากันหลังจากเห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อในภาพ ก่อนจะมองภาพนี้อย่างพิจารณาอีกครั้ง มันเป็นภาพเด็กผู้ชายที่ดูเหมือนเดรโกในสมัยที่เค้าเรียนปีหกของฮอกวอร์ต(แต่ไม่มีท่าทางหยิ่งยโสเหมือนเดรโกในสมัยนั้น ออกจะนิ่มนวลและเป็นผู้ใหญ่เกินตัวด้วย) และเด็กผู้หญิงที่ดูคล้ายนาซิสซา มัลฟอยมาก แต่สวยสดใสกว่า ผมและดวงตาสีเดียวกับนาซิสซาแต่ผมของเธอไม่ได้เหยียดตรงเช่นนั้น มันหยิกสลวยเป็นเกลียวคลื่นเหมือนกับหลวงแม่ลูเครเซีย ทั้งคู่หัวเราะด้วยกันอย่างอบอุ่นโดยมีเด็กทารกในอ้อมแขนสองคน ทั้งคู่หน้าตาเหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน อายุราวๆ เจ็ดเดือน เด็กทั้งสองต่างเพศโดยดูจากเสื้อผ้าเด็กอ่อนที่สวม เด็กผู้ชายมีผมตรง ส่วนเด็กผู้หญิงผมหยิก อะไรบางสะกิดในความคิดของเค้า
"พี่น้องกลุ่มนี้เหมือนนายเลยนะ" รอนพูดกับเดรโกแบบหยอกนิดๆ "รึพวกเค้าจะเป็นญาตินาย"
"ไม่ใช่! ไม่ใช่พี่น้องชายและพี่น้องผู้หญิง!" แฮร์รี่บอก "แต่เป็นพ่อแม่และลูกแฝดต่างหาก!!" แฮร์รี่มองเดรโกและเดรโกพยักหน้าให้พลิกข้างหลังอ่าน
--เอรีสที่รัก
คำสาปของตระกูลมัลฟอยได้ให้สิทธิที่ตระกูลนี้จะมีลูกชายได้เพียงคนเดียว คุณอาของเธอจึงไม่สามารถมีลูกชายได้ ชั้นจึงอุ้มลูเซียสไปมอบให้กับเบริฟรอท มัลฟอย--อาของเธอ ชั้นอยากเห็นลูกทั้งสองเติบโตและอยู่กับเธอ ทว่า มีแต่ชีวิตทั้งชีวิตของชั้นเท่านั้นที่จะค่ำยันปราสาทกาลเวลาไว้ แต่แม้ชั้นจะเหมือนตายจากโลกนี้ไป แต่ชั้นสัญญาว่าจะดูแลลูเซียส ลูกชายของเรา
สำหรับลูเครเซีย ขอให้พาเธอหนีจากโลกเวทมนตร์ไปซะ อย่าให้มันได้ทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะไม่มีความหวังใดในการรักษาโลกเวทมนตร์ไว้อีก ชั้นขอให้คุณและลูเครเซียปลอดภัยจนกระทั่งวันที่อะโพคาลิฟ-ฟามาเยือน
รักเธอสุดหัวใจ... จาก อะโฟดิตี้ เรเวลคลอ...
แฮร์รี่และรอนมองเดรโกอย่างตกใจ ลูเซียส มัลฟอยเป็นลูกชายของหลวงพ่อเอริสเหรอ! แล้วเป็นพี่น้องฝาแฝดกับหลวงแม่ลูเครเซียด้วย! ที่สำคัญ ที่แม่ของลูเซียสนามสกุลเรเวลคลอนี่มันหมายความว่ายังไงกัน!
TBC.
ความคิดเห็น