คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องแปลกที่สุดในโลกสำหรับแฮร์รี่
ท่ามกลางความงุงงของทุกคนที่มองมา ใบหน้าของชายตรงหน้าดูงวยงงเช่นกันแม้จะไม่มากเท่า ใบหน้านั้นเป็นใบหน้าของเซเวอรัส สเนปไม่ผิดแน่ ดวงตาสีดำสนิทเหมือนกัน ผมดำเป็นมัน ผิวขาวซีดและจมูกงุ้มเป็นรูปตะขอ สเนปอยู่ในชุดสีดำที่คุ้นเคย และแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก แต่ท่าทีของเค้ายังสะดุดตาและดูจับใจไม่เปลี่ยนแปลง
สะดุดตาและจับใจ? เมื่อไหร่กันที่แฮร์รี่รู้สึกเช่นนี้? เมื่อก่อนแฮร์รี่มองดูสเนปประหนึ่งค้างคาวตัวใหญ่ที่ดูไม่ประสงค์ดี แต่เวลานี้สเนปตรงหน้าชั่งจับใจนัก ทำไมนะ เพราะสเนปคนนี้ตายเพื่อเค้างั้นเหรอ
ตายเพื่อเค้า! เดี๋ยว ถ้าสเนปตายเพื่อเค้าแล้วสเนปคนนี้เป็นใครกัน!?
พริบตาเดียวนั้นเอง! แฮร์รี่พุ่งไปหาชายหนุ่มคนนั้นทันที แต่ในช่วงเวลานั้น ชายหนุ่มก็ถูกใครบางคนดึงตัวออกไปเช่นกัน และอีกหลายๆ คน รอน เฮอร์ไมโอนี่ เดรโก และคนอื่นๆ รีบวิ่งตามไป
พวกเค้าวิ่งตามไปจนกระทั่งถึงกำแพงมิติที่นำพวกเค้าไปสู่โลกมักเกิ้ล พวกเค้าไม่ได้สติเลยจนเฮอร์ไมโอนี่บอกพวกเค้า
"รอน! แฮร์รี่! นี่เราต้องตามเด็กคนนั้นเพื่ออะไรกัน?"
คำว่า "เด็กคนนั้น" เตือนให้ทุกคนชะงัก เพราะแม้พวกพ่อมดแม่มดจะแก่ยากตายช้า แต่พวกเค้าก็มีบางอย่างที่ทำให้สามารถคาดเดาอายุของพวกเค้าได้ อาจจะเป็นความรู้สึกที่มีแต่พ่อมดแม่มดเท่านั้นที่สามารถรู้ และคนเมื่อกี้ บางอย่างในตัวเค้าก็บอก 'อายุไม่เกินยี่สิบห้าปี' คนๆ นั้นไม่ใช่สเนปแน่ ยังไม่รวมถึงความจริงที่ว่าหากอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ อายุย่อมไม่น้อยกว่าห้าสิบหกแล้ว
และพ่อมดอายุห้าสิบกว่าจะยังดูเหมือนคนยี่สิบที่ไหนกัน?!
ในความเงียบอันไม่คาดคิด เฮอร์ไมโอนี่ถามอีกครั้ง "เราจะตามเด็กคนนั้นเพื่ออะไร!"
เพื่ออะไร... ก็เค้าไม่ใช่สเนปไม่ใช่เหรอ... แล้วไม่ปรากฏว่าสเนปมีญาติที่ไหนซักหน่อย...
แล้วยิ่งไปกว่านั้น เค้ามีเหตุผลอะไรที่จะตามคนเหมือนสเนป?
แต่สิ่งนั้นหายไปจากหัวที่ยังไม่ได้คำตอบของแฮร์รี่ แต่เมื่อเค้ามองไปอีกทางและเห็นกลุ่มชายชุดดำ สเนป...? ไม่สิ คนเหมือนสเนปคนนั้นก็อยู่ที่นั่น ในหมู่พวกเค้า ระหว่างนั้น รอน และคนอื่นๆ ก็มองตามด้วย
มักเกิ้ลเหรอ...? หรือว่าพ่อมดศาสตร์มืด...?
ตอนนี้ การตามหาเหตุผลที่จะวิ่งตามถูกยกออกไป เพราะถ้าเกิดกลุ่มชายชุดดำคือพ่อมดศาสตร์มืด มันก็เป็นหน้าที่ของมือปราบมารที่จะตามตัวไม่ใช่เหรอ? "จินนี่... ดูแลเด็กๆ ด้วย"
แฮร์รี่พุ่งตามกลุ่มชายชุดดำที่เริ่มเคลื่อนตัวออกไป ตามไปด้วยรอนและเฮอร์ไมโอนี่ ทีแรก เดรโกไม่อยากตามไปเพราะไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับศาสตร์มืดอีก แค่นี้ชื่อเสียงตระกูลมัลฟอยก็เหม็นพอแล้ว! แต่เค้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ อย่างน้อยๆ เค้าก็อยากให้แน่ใจว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะปลอดภัยจากการไล่ล่าของมือปรามาร
เดรโก มัลฟอยยังคงอาลัยอาวรณ์ศาสตราจารย์สเนปของเค้า แม้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจะเป็นเพียงภาพเหมือนก็ตาม!
แฮร์รี่พุ่งเข้าใกล้ทุกขณะ และติดตามใกล้ชิดเมื่ออีกฝ่ายเดินข้ามถนนไปพร้อมกับเพื่อนๆ และวินาทีที่ชายหนุ่มล้วงกระเป๋าแล้วมีกระเป๋าเลื่อนหลุดออกมา เจ้าตัวเหมือนจะรู้ตัว ชะงักและก้มลงเก็บ ทำให้แฮร์รี่ได้ทีทำเป็นชิงเก็บกระเป๋าสตางส์ให้ และต้องอ้าปากค้างกับบางสิ่งที่คนอายุนายเป็นรวมทั้งเพื่อนๆ ที่หันมามองของเค้า ปลอกสีขาวที่ปรากฏเบื้องหน้าของคอเสื้อที่ยกสูงเป็นทรงคอเต่า แฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่ตระหนักชัดว่าพวกตนห่างเหินจากโลกมักเกิ้ลไปนานเพียงใด รอนไม่ได้รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมักเกิ้ล เช่นเดียวกับเดรโก ไม่แปลกที่พวกเค้าจะเข้าใจผิดในตอนแรก แต่สำหรับแฮร์รี่และเฮอร์ไมโอนี่นั้นไม่น่าเลย...
ชุดสีดำกับเสื้อคลุมยาวไม่จำเป็นต้องพ่อมดศาสตร์มืดเสมอไป บางสิ่งในโลกมักเกิ้ลก็ดูคล้ายแบบนั้น และสิ่งนั้นกำลังปรากฏตรงหน้าพวกเค้า
...บาทหลวง...!
"อ่า.. คุณครับ" บาทหลวงหนุ่มเริ่มต้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายถือกระเป๋าสตางส์ของเค้าไว้โดยไม่คืน แต่นั่นทำให้ทั้งรอน แฮร์รี่ เฮอร์ไมโอนี่ และเดรโกเหมือนโดนหมัดที่สองเสยปลายคางเข้าอีก "ผมขอกระเป๋าคืนได้มั้ยครับ"
แม้แต่เสียงก็เป็นเสียงของสเนป! แม้มันจะจริงใจไม่มีการดูหมิ่นเย้ยหยันเหมือนที่แฮร์รี่คุ้นเคย แต่มันเป็นเสียงของสเนป!
แฮร์รี่ส่งกระเป๋าให้บาทหลวงหนุ่มช้าๆ "ขอโทษครับ!" แล้วหันหลังกลับ เดินข้ามถนนกลับไปที่เดิมของพวกตน บางสิ่งสะกิดใจให้เฮอร์ไมโอนี่หยุดที่กลางถนนและหันกลับไปมองกลุ่มพระที่ริมฟุตบาท วินาทีนั้นเองที่อันตรายอย่างที่สุด อันตรายที่แม้แต่ผู้วิเศษที่เก่งที่สุดก็ไม่มีทางรอดพ้นหากเตรียมตัวร่ายเวทย์ไม่ทัน
"ระวัง!!"
พระที่น่าเหมือนสเนปตะโกนก้องและทำให้เพื่อนที่เดินไปก่อนต้องหันมามอง วินาทีนั้นที่พวกเค้าเห็นพระกระโจนมาหาเฮอร์ไมโอนี่และรถบรรทุกที่วิ่งผ่านหน้าพวกเค้าไป
กระเป๋าที่พึงรับจากแฮร์รี่และยังไม่เก็บคืนกระเด็นออกไปไกลจากร่างของบาทหลวงหนุ่ม...
รอน เดรโกนั่งตะลึงอยู่ที่ม้านั่งที่โรงพยาบาล ไม่นานจินนี่กับแอสโทเรียก็ตามมาพร้อมกับลิลี่และฮิวโก้ โดยมีกลุ่มบาทหลวงพึมพำด้วยความกังวลใจ แฮร์รี่ที่เดินไปเดินมาอยู่เป็นระยะในที่สุดก็ตัดสินใจนั่งลงและยกมือขึ้นกุมหัว
"มันเป็นความผิดของชั้น ชั้นไม่น่า..."
...ไม่น่าตามพวกเค้าไป...
จินนี่ยกมือขึ้นปลอบสามี ระหว่างนั้นเสียงๆ หนึ่งก็ดังขึ้น "ไม่ใช่ความผิดของคุณหรอก ทั้งหมดเป็นอุบัติเหตุ แค่เพื่อนของคุณกับลูกเลี้ยงของผมปลอดภัยเราก็ต้องของคุณพระเจ้าแล้ว"
ทุกคนหันไปมองที่มาของเสียงที่อ่อนโยน นักบวชหญิงชายสองคนที่ดูคล้ายกันมากปรากฏตัวที่นั่น แฮร์รี่มองดูทั้งคู่ ก่อนจะขมวดคิ้วอย่างพิศวง แล้วหันขวับไปมองเดรโกที่ดูตะลึงไม่แพ้กันสลับกับสองคนนั่น
"ว้าววว เหมือนกันยังก่ะแกะแนะ!" ลิลี่พูดอย่างไร้เดียงสา
"หลวงพ่อเอรีส!!"
"เซเวอรัสเป็นไงบ้าง" หลวงพ่อเอรีสถามอย่างเป็นห่วง
"ยังไม่ทราบครับ หมอกำลังดูอาการอยู่" หนึ่งในบาทหลวงตอบ
พวกแฮร์รี่หันไปมองกันและกันอย่างพิจารณา บาทหลวงที่ช่วยเฮอร์ไมโอนี่ชื่ออะไรนะ?!
"ทอมรู้เรื่องรึยัง"
"ไม่ครับ ยังไม่มีใครติดต่อเค้า เพราะตอนนี่เค้าไม่อยู่ในสภาพที่จะติดต่อได้"
"อืม... ถ้างั้นอย่าพึ่งบอกอะไรเค้าก็แล้วกัน"
ไม่นานหมอก็ออกมาพร้อมกับบอกเกี่ยวกับอาการของเฮอร์ไมโอนี่และบาทหลวง ใจของรอนอยากเอาเฮอร์ไมโอนี่ไปรักษาที่โรงพยาบาลเซนต์มังโกด่วน แต่หมอไม่อนุญาต และแฮร์รี่ก็ห้ามไม่ให้เค้าใช้คาถาทำให้ทุกคนสับสนเพื่อจะเอาตัวเธอไป ไม่นานนักทั้งเฮอร์ไมโอนี่และบาทหลวงก็ถูกเข็นเตียงออกจากห้องผ่าตัดไปที่ห้องพัก รอนวิ่งตามไป ตามด้วยคนอื่นๆ ยกเว้นแฮร์รี่กับเดรโกที่ยังยืนอยู่ด้วยกัน และต่างฝ่ายต่างก็รู้เหตุผลของอีกฝ่าย
กระเป๋าของบาทหลวงมาอยู่ในมือของแฮร์รี่อีกครั้งและไม่มีใครในนี้คิดออกว่าควรทวงคืน เค้ามองดูเดรโกซึ่งพยักหน้าให้อย่างรู้กัน แฮร์รี่เปิดกระเป๋า ล้วงของบางอย่างออกมาช้าๆ
บัตรประจำตัวประชาชนระบุตัวเจ้าของ ชื่อ 'เซเวอรัส สเนป' เรื่องบ้าๆ แบบนี้มีในโลกด้วยเหรอ!?
หน้าตาเหมือนกัน สูงเท่าๆ กัน เสียงเหมือนกัน ชื่อเดียวกัน มันจะบังเอิญอะไรขนาดนั้น แต่ที่เดรโกกังวลนอกเหนือจากนั้นคือชายที่มากับผู้หญิงอีกคนต่างหาก ไม่ใช่แค่เหมือนเค้ากับพ่อ แต่เหมือนเค้าเคยเจอทั้งคู่ที่ไหนมาก่อนต่างหาก
------------------------------------------
หลังจากการล่มสลายของเจ้าแห่งศาสตร์มืด ลอร์ด โวลเดอร์มอร์ ชื่อเสียงของแฮร์รี่ พอตเตอร์และเพื่อนๆ ก็ดังแหลก จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่อัลบัส พอตเตอร์จะได้รับการต้อนรับราวกับคนพิเศษ ทุกคนมารุมล้อมเค้า ถามเกี่ยวกับครอบครัวของเค้า และเช่นกันกับญาติของเค้า โรซี่ เธอก็ถูกซักไซร้เกี่ยวกับลุงรอนและป้าเฮอร์ตลอดเหมือนกัน
แต่อัลมีจิตใจอ่อนโยนพอที่จะมองดูคนที่ถูกทิ้งอย่างสิ้นเชิง สกอร์ปิอัส ไฮเปอร์เรียล มัลฟอย... เพราะสิ่งที่ครอบครัวของเค้าทำไว้ ทำให้เค้าต้องมารับการดูถูกเหยียดหยามและการทอดทิ้งจากเพื่อนสลิธีรีน เค้าไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้และเลือกที่จะลุกออกไปจากหอคอยกริฟฟินเดอร์ เพราะได้ยินผีประจำบ้าน นิคหัวเกือบขาดพูดเปรยเกี่ยวกับเด็กชายน่าสงสารที่ไม่มีใครต้อนรับจนต้องเดินออกจากบ้านมาตามลำพัง
ครอบครัวมัลฟอยได้รับการนับถือเชิดชูเพราะมีเงินมากมาย แต่เมื่อพ้นจากสิ่งเหล่านั้นแล้ว เด็กๆ ที่เปิดเผยกว่าก็ไล่ตะเพิดพวกเค้าไปไกลลิบผิดกับผู้ใหญ่ที่คอยคำนับ
เห็นได้ชัด เงินไม่ใช่ทุกอย่าง...
อัลอ้างว่าไปห้องนำและเดินไปตามทางสู่ห้องโถงเพื่อมองหา เพราะได้ยินว่าสกอร์อยู่ที่นั่น...
"ไม่เป็นไรหรอก อย่าร้องไห้อีกเลย..."
โทนเสียงสูงน่าฟังดังมาจากห้องโถง อัลเห็นสกอร์ปิอัสนั่งร้องไห้คุดคู้เหมือนเด็ก มีนักเรียนอีกคนโอบกอดเอาไว้ เค้าผอมสูงและหล่อเหล่า เค้าเป็นใครกัน? อัลจำไม่ได้ว่าเคยเห็นเค้า
ดวงตาสีเทาในความมืดเงยหน้าขึ้นมอง "เธอมาทำอะไรที่นี่"
"ผมแค่..."
เด็กหนุ่มลุกขึ้น "ถึงเธอจะดังมาจากไหนชั้นก็ไม่ยอมให้เธอมารังแกคนไม่มีทางสู้ต่อหน้าชั้นหรอกนะ"
"เปล่าครับ ผมแค่--" อัลอึกอัก
"เธอต้องการอะไร"
"ผมแค่... ห่วงว่า"
"ห่วงว่าอะไร..."
"เอ่อ... เค้าไม่เป็นไรนะ"
เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว เดินตรงเข้ามาแล้วก้มลงมองหน้า ซักพักก็พูดช้าๆ "เธอ... ดูเหมือนจะเป็นคนดี"
"ครับ... ใช่!" อัลรีบบอก เด็กหนุ่มยิ้ม
"ค่อยสบายใจหน่อยที่เธอไม่เหมือนพอตเตอร์อีกคนกับเฟรด วิสลี่ย์ สองคนนั่นนิสัยเสียและชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ดูท่าพวกเค้าจะชอบรังแกเธอด้วยใช่มั้ย"
"เจมส์... รังแกมัลฟอยเหรอ" อัลพึมพำ
"เปล่าหรอก" เด็กหนุ่มส่ายหน้า "ชั้นหมายถึงนิสัยหลักของพวกเค้า สกอร์น่ะเป็นคนตระกูลมัลฟอยก็เลยถูกต่อต้าน พอๆ กับที่ชั้นถูกต่อต้านนั่นแหละ ต่างแต่ชั้นถูกต่อต้านจากคนทั่วๆ ไป ไม่ใช่เด็กสลิธีรีน แต่สกอร์ถูกต่อตต้านจากทุกคน รวมทั้งสลิธีรีนด้วย เพราะครอบครัวของเค้าหักหลังผู้เสพความตายทั้งหมด และไม่ต้องบอกก็รู้นะ ผู้เสพความตายน่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นพ่อแม่พี่น้องของเด็กๆ บ้านสลิธีรีน"
"มันแย่ขนาดนั้นเหรอครับ" อัลเริ่มรู้สึกได้ว่าถ้าเค้าต้องไม่อยากอยู่สลิธีรีนไม่ใช่เพราะเรื่องสารพัดที่เจมส์พูด แต่เป็นเพราะแผ่นดินนี้แทบไม่มีที่ยืนสำหรับคนบ้านสลิธีรีนต่างหาก
"ใช่...." เด็กหนุ่มตอบเศร้าๆ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา พวกเค้าสามคนนั่งคุยกันอย่างมีความสุขที่พื้นของห้องโถง... รุ่นพี่ที่กลายเป็นเพื่อนใหม่ของอัลมีชื่อว่า ทอม โลกิ ริดเดิ้ล นามสกุลเดียวกันกับโวลเดอร์มอร์ เค้ามาจากโลกมักเกิ้ลและไม่มีพ่อและแม่ คนที่เลี้ยงเค้ามาคือกลุ่มพระในโบสถ์ที่อยู่ในย่านของคนยากจน คือตรอกช่างปั่นฝ้าย ทีแรกทอมไม่อยากเป็นพ่อมดเพราะผู้คนที่มองดูเค้าเป็นตัวประหลาดเมื่อรู้ว่าเค้านามสกุลริดเดิ้ล แล้วยังท่าทีของอาจารย์เมื่อแรกเห็นเค้า แต่เค้าก็อยู่มาได้เพราะกำลังใจจากเซเวอรัส ทอมให้อัลดูรูปเค้าตอนอายุสิบหกที่ถ่ายคู่กับเซเวอรัส เค้าคือพี่ชายที่ทอมไม่เคยมี และทุกสิ่งที่แสดงออกทำให้อัลรู้ว่าเซเวอรัสคือคนที่สำคัญที่สุดในโลก
"คุณพ่อเซเวอรัสนี่เป็นคนดีจริงๆ นะครับ" สกอร์ว่า
"ทำไมรู้ล่ะ" ทอมเลิกคิ้ว
"ก็ดูวิธีที่คุณพูดเกี่ยวกับเค้า" แล้วจากนั้นก็ถอนใจ "แล้วทำไมตัดสินใจเป็นพ่อมดล่ะครับ"
"เพราะว่าคุณพ่อเอรีสบอกว่ามันจำเป็นน่ะ"
"คุณพ่อเอรีส? ที่เป็นพ่อทูลหัวของเซเวอรัสน่ะเหรอครับ" อัลถาม
"ใช่..." ทอมถอนใจ "จริงสิ ชั้นว่าเราไปนอนดีกว่านะ ยังมีเรียนนี่ พรุ่งนี้น่ะ"
แล้วทั้งสองก็ลาอัล ทอมพาสกอร์กลับไปที่หอ แต่เด็กชายยังกลัวสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในคืนนี้ และทอมก็รู้ "เราไปนอนที่คุกใต้ดินดีกว่านะ"
"คุก? เอ๊ะ?"
"ชั้นนอนที่นั่นตลอด..."
นาทีนั่นเองที่สกอร์รู้ว่าที่พูดว่าตนเองได้รับการยอมรับจากสลีธีรีนนั้นโกหกทั้งเพ ทอมเองก็ถูกต่อต้านเหมือนกัน แต่เค้าก็อยู่มาได้ตั้งเจ็ดปี! และเมื่อของทุกอย่างของพวกเค้าถูกขนมาที่ห้องเล็กที่อยู่ใต้ปราสาท ห้องที่หนาวเยือกจนน่าขนลุกก็ถูกทำให้อบอุ่นขึ้นเพราะไฟ... มันพอใช้ได้เลยทีเดียว สกอร์ไม่คิดจะอุทรณ์เกี่ยวกับที่นอนที่ไม่นุ่มเหมือนที่บ้าน แต่รู้สึกมีความสุข ทว่า...
ปีหน้าก็จะมีแต่เค้าแล้ว... เพราะทอมอยู่ปีนี่เป็นปีสุดท้าย...
----------------------------------------------
เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นและรู้ว่าทั้งหมดเพราะจินนี่ที่ร่ายคาถาทำให้อาการบาดเจ็บของเธอดีขึ้นกว่าความเป็นจริง เพราะถ้าเป็นการรักษาของมัลเกิ้ลเธออาจจะโคม่าอยู่ก็ได้
"เฮอร์ไมโอนี่ ทำให้ชั้นเป็นห่วงขนาดนี้!" รอนพูดทั้งน้ำตา
"ขอโทษนะ" เธอยกมือลูบหน้าอย่างอ่อนเพลีย "เด็กที่ช่วยชั้นไว้ล่ะ"
"ปลอดภัยแล้ว แฮร์รี่เข้าไปจัดการ"
"ค่อยยังชั่ว ชั้นทำให้เค้าบาดเจ็บแท้ๆ"
"ทำไมเธอถึงไม่ระวังตัวเลยนะ... ยืนให้รถชนได้ยังไงกัน" จินนี่ถาม "เป็นห่วงมากเลยรู้มั้ย"
เฮอร์ไมโอนี่อยู่ในความคิด ก่อนจะตอบ "เพราะชั้นรู้สึกเหมือนกับว่า ยกเว้นบาทหลวงหน้าเหมือนสเนปแล้ว ทุกคนรู้จักเรา"
"หา?!" รอนอ้าปากค้าง
"แววตาที่พวกเค้ามองดูนะ" เธอตอบเหนื่อยๆ "ว่าแต่... ฮิวโก? แล้ว ลิลี่ไปไหนน่ะ?"
บานประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของลิลี่ พอตเตอร์ที่เดินเข้ามา บาทหลวงเซเวอรัสมองดูอย่างงุงง ก่อนจะพยายามลุกขึ้นแต่แฮร์รี่ผลักเค้ากลับลงไป "ลิลี่ มีอะไรเหรอ"
"หนูมาขอบคุณหลวงพ่อที่ช่วยป้าเฮอร์ค่ะ"
"น่ารักจัง" เซเวอรัสยิ้ม ขณะที่มองดูเด็กหญิง "ชื่อเหมือนเด็กคนนั้นเลย"
"อะไรนะครับ" เดรโกถาม
"สมัยที่ผมเป็นเด็ก ผมเคยเห็นเด็กคนหนึ่งมาที่โบสถ์ เธอมากับพ่อแม่และพี่สาว ผมสีแดงเพลิง ดวงตาของเธอเหมือนพ่อของผม และ... หลังจากนั้นผมก็แอบมองเธอมาตลอด"
"เซเวอรัส" อเล็กซ์เตือน แต่เดรโกไม่สนใจเค้า
"คุณรักเธอเหรอ?"
"รัก? ไม่รู้สิ แค่ลืมไม่ได้เท่านั้น"
"แล้วตอนนี้... เธอไม่ได้อยู่กับคุณใช่มั้ย" เดรโกเดาได้จากประโยคเมื่อกี้ "ทำไมไม่บอกว่าชอบกับเธอล่ะ"
"...ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเคยสารภาพรักกับเธอมั้ย เพราะอยู่ๆ เธอก็หายไปจากชีวิตของผมเฉยๆ"
"แล้ว ทำไมไม่ตามหาล่ะ เพราะพระเจ้าสำคัญกว่ารึไง" เดรโกยังถามต่อไป
"มีคนบอกผมว่าเธอตายแล้ว"
น่าเศร้าจริงๆ แต่ เอ๊ะ! แฮร์รี่นึกออก เมื่อกี้เด็กคนนี้บอกว่า!?!
"คุณบอกว่าเธอชื่อลิลี่เหรอ!!"
"ครับ" เซเวอรัสหัวเราะ "ลิลี่ เอฟเวนส์"
แฮร์รี่ตะลึงเกินกว่าจะสังเกตเห็นอาการของอเล็กซ์ที่อึกอัก มันหมายความว่ายังไง! ผู้หญิงที่ชื่อเหมือนแม่เค้า! มีผมสีแดงกับตาสีเขียว! แถมยังมีพี่สาว! แล้วตาเด็กเซเวอรัสก็ดันมีทั้งหน้าและชื่อเหมือนคนที่รักแม่เค้ามาเกือบตลอดชีวิต! แต่ที่แตกต่างคือ เด็กสองคนนี้อายุอ่อนกว่าเค้ามากถึงสิบสามปี! แน่นอนว่าเป็นแบบนั้น! เพราะจากที่บอก เซเวอรัสคนนี้เจอเธอตอนเป็นเด็ก! แล้วเธอก็เป็นเด็กพอๆ กับเค้า!
สมองของเค้าเต็มไปด้วยคำถามเกี่ยวกับเรื่องสุดพิศดารที่อยู่ตรงหน้า!
TBC.
ความคิดเห็น