ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry Potter fanfic:- พลิกตำนานปราสาทกาลเวลา

    ลำดับตอนที่ #15 : สมุดบันทึกเจ้าปัญหากับเรื่องยุ่งๆ ในวันอันงี่เง่าของลูเซียส

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ค. 55


    "มาดาม ชั้นฝากลูกก่อนนะคะ เดี๋ยวจะไปซื้อกระเป๋าให้แกก่อน"

    "ได้ค่ะมาดาม ชั้นจะดูแลลูกคุณให้"

    "เดรโก... รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวแม่มา"

    "อะไรเนี่ย... ไปกันหมดเลย ทั้งพ่อทั้งแม่ ไหนว่าจะอยู่กับผมก่อนไง"

    นาซิสซามองดูลูกชายที่นามุ่ยก่อนจะหอมแก้มเค้าเบาๆ พอไปที่ฮอกวอร์ตก็ไม่เจอแม่กับพ่อแล้ว ฝึกไว้หน่อยไม่เสียหายหรอก อ้อ... อย่าลืมเชิญเซเวอรัสมากินน้ำชาที่บ้านเราด้วยล่ะ"

    "ฮะ ผมจะบอกให้"

    "เด็กดี" นาซิสซาออกไปจากร้าน
     
    สวนทางกับเด็กชายคนหนึ่ง วูบเดียว! เธอหันควับราวกับได้พบพี่น้องที่พลัดพรากจากกันไปนาน!? ก่อนจะคิดได้...

    เธอไม่ควรแสดงออกว่านิยมชมชอบแฮร์รี่ พอตเตอร์, ในฐานะที่คนตระกูลมัลฟอย เพราะใกล้ๆ นี่ เธอเห็นอดีตผู้เสพความตายบางคนเดินอยู่ด้วย

    แต่เธอก็เห็น... เค้ามีใบหน้าของเจมส์ มีดวงตาของลิลี่ และท่าทาง...? นาซิสซาไม่คิดว่าเขาเหมือนเจมส์หรือลิลี่ ท่าทางของเขาเหมือนเซเวอรัสตอนก้าวมาสู่โลกเวทมนตร์ใหม่ๆ มากกว่า

    ว่าแต่... คนมุงอะไรกันน่ะ!?

    ..............................

    .......................................................

    ..........................................

    .........................

    "โลกิ"

    "ศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์..." ชายผมดำยิ้มอย่างใสสะอาด "สบายดีนะ ไม่ได้เจอกันนานแล้วสิเนี่ย"

    "ใช่... ขอบคุณมากเลยที่มาหาผมวันนี้" ดัมเบิลดอร์ในวัยหนุ่มเดินอ้อมเก้าอี้มาแล้ววางของชิ้นหนึ่ง "ความจริงผมเรียกคุณมาเพราะสิ่งนี้" มันคือสร้อยคอที่มานาเกียมักจะห้อยเสมอ

    "อัลบัส! นี่นายหามันเจอได้ยังไงเนี่ย!?"

    "ทำตกไว้เหรอ"

    "ใช่ ตกที่ตรอกไดแอก้อนท์ สร้อยของมานาเกีย!" เค้าพูดอย่างยินดี

    "มันเป็นกุญแจ"

    วินาทีนั้น โลกิหยุดและมองเค้า "กุญแจ...?"

    "ใช่... กุญแจ" ดัมเบิลดอร์พูดอย่างเยือกเย็น "สำหรับห้องๆ หนึ่งในฮอกวอร์ต"

    "ห้องเหรอ.. ที่ไหน!?"

    "คุกใต้ดิน"

    ลูเซียสมองท้องสองอย่างใช้ความคิด แม้จะจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ ปกติเค้าจะมาที่นี่เมื่อได้เปิดสมุดบันทึกนั่นเท่านั้น แต่นี้! เค้ากำลังอยู่ในโลกแห่งอดีตโดยไม่รู้ว่าเข้ามาได้ยังไง ไม่นานนักเค้าก็เคลื่อนไปตามการเดินของทั้งคู่สู่คุกใต้ดิน

    ก่อนจะอ้าปากค้าง... เมื่อเห็นดัมเบิลดอร์ใช้มันคำหาห้องๆ หนึ่ง ลูเซียสจำมันได้เพราะเคยเข้าไปหลายต่อหลายครั้ง ห้องทำงานของเซเวอรัส สเนป!? เมื่อก่อนมันเป็นห้องที่ไม่มีใครหาพบเหรอ!? ทำไมกัน! ชายหนุ่มเดินตามโลกิเพราะเค้าอาจจะพบอะไรก็ได้ และ นั่น! มีมวนกระดาษวางอยู่บนโต๊ะ โลกิหยิบขึ้้น

    "ไม่มีใครในเวลานี้สามารถต่อกรกับอะโพคาลิฟ-ฟาได้ เราจำต้องหวังพึ่งกริฟฟินดอร์ เขาอาจจะเป็นความหวังสุดท้ายของเราทุกคน" โลกิอ่านถ้อยคำในนั้นด้วยเสียงเรียบๆ "ถ้าเจ้าเข้าใจความหมายทั้งหมดนั่นจงบอกเรา... อากาท่า พริ้นซ์"

    "นามสกุลเดียวกับนายนี่" ดัมเบิลดอร์กระซิบ

    "...ใช่"

    "รู้จักมั้ย"

    "รู้... หล่อนเป็นบรรพบุรุษของชั้นเลยล่ะ"

    "แล้วทำไมจดหมายของหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้"

    "ความจริงนายน่าจะเป็นเห็นมันก่อนแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถามชั้นล่ะ อย่าบอกนะว่านายไม่ได้แตะอะไรเมื่อเปิดเข้ามา" โลกิหัวเราะเบา ดัมเบิลดอร์ถอนใจ

    "ใช่... ชั้นเห็นมันทั้งหมด เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าทำไม ถ้าห้องนี้เป็นห้องทำงานของอากาท่า พริ้นซ์ แล้วทำไมสร้อยนี้ถึงมีสัญลักษณ์รูปแบดเจอร์ ในเมื่อแบดเจอร์ก็คือ---!"

    "ห้องนี้เป็นห้องทำงานของอาจารย์สอนปรุงยาคนแรกของฮอกวอร์ต ศาสตราจารย์เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ" โลกิตอบทันที ลูเซียสขมวดคิ้ว เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟสอนปรุงยาเหรอ!? เค้าคิดว่าหล่อนสอนสมุนไพรศาสตร์เหมือนศาสตราจารย์สเปร้าต์ซะอีก

    "แล้ว... ทำไมกุญแจเปิดประตูห้องทำงานของเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟถึงมาอยู่กับมานาเกียล่ะ"

    "ก็อยากจะรู้เหมือนกัน! อัลบัส.... นายเห็นทั้งหมดในห้องนี้แล้วใช่มั้ย!?"

    "ถามแบบนี้ชั้นตอบได้เพียงว่าชั้นเห็นเท่าที่นายเห็น ทำไมเหรอ"

    "ชั้นทำกำลังคิดเรื่องที่งี่เง่าที่สุดและเป็นไปได้น้อยที่สุดเรื่องหนึ่งน่ะ!" โลกิลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ผนัง ดัมเบิลดอร์บอก

    "ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่นหรอกนะ ชั้นลองตรวจสอบผนังแล้ว"

    "ถ้าเป็นวิธีของเมียชั้น ชั้นคิดว่าชั้นรู้คนเดียว!" โลกิบอก "นั่นไง!"

    ผนังหายไป เผยตู้ที่ซ่อนไว้ โลกิโบกไม้กายสิทธิและทำให้ไฟในเตาลุกโชนขึ้น มากพอที่จะเป็นแสงสว่างสำหรับห้องนี้ โลกิค้นเอกสารทั้งหลายออกจากตู้

    "อัลบัส! ถ้าไม่รังเกียจ ชั้นขอทั้งหมดนี่ได้มั้ย!"

    "ได้...! ได้สิ!" ดัมเบิลดอร์พูดเหมือนรู้ทิศทางลม แต่ลูเซียสมั่นใจว่าเค้าไม่สามารถเก็บซ่อนความประหลาดใจไว้ได้เลย ผิดกับตอนที่อยู่กับคนอื่น ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลก เหมือนจะเคยได้ยินว่า เรื่องการพินิจใจไม่มีใครเก่งเกินโลกิ และเค้าก็สุภาพพอที่จะไม่ใช้พลังนั้นถ้าไม่ได้อยู่ในงานสอบสวนผู้ต้องสงสัย ผิดกับดัมเบิลดอร์ที่เสียมารยาท ชอบโชว์ความสามารถเหนือใครของตัวเอง เที่ยวพินิจใจคนไปทั่ว

    "ถ้ามีอะไร... ชั้นสัญญาจะบอกนายเป็นคนแรก"

    ลูเซียสคิดว่าเค้าเข้าใจ จากสิ่งที่โลกิพูด วิธีการของมานาเกียที่โลกิรู้คนเดียว... แปลว่าไม่มีใครใช้วิธีเก็บของแบบนั้นนอกจากมานาเกีย แต่ตอนนี้!? มีคนที่ทำเหมือนกัน! เฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ!?

    สิ่งที่รบกวนใจโลกิตอนนี้ต้องเป็นความเกี่ยวพันธ์ระหว่างเฮก้ากับมานาเกียอย่างไม่ต้องสงสัย

    และเสียงเรียกชื่อเค้าดังมาจากฟากฟ้า...

    ...ลูเซียส...

    ...ใครนะ...

    ...ลูเซียส...

    .............................

    .............................................

    .......................................................

    ลูเซียส มัลฟอยลืมตาขึ้นเพื่อจะพบว่านาซิสซากำลังเขย่าเรียกเค้าอย่างเป็นห่วง เค้ายันตัวลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ "อะไรกันเนี่ย ทำไมคนมุงเยอะขนาดนี้!"

    "ชั้นสิต้องถาม!?" นาซิสซาน้ำตาคลอเบ้า "ทำไมมานอนแผ่อยู่ตรงนี้!?"

    "ชั้นเหรอ... ก็..."

    "ก็ใช่น่ะสิ!" นาซิสซาตวาดแว๊ด เช็ดน้ำตาอย่างสุดจะทน "ทุกคนเค้าบอกว่าเธออยู่ๆ ก็ล้มหัวฟาดพื้น นึกว่าจะแย่แล้ว!"

    "ขอโทษ... ชั้น หลับไปนานสินะ"

    "สิบนาทีเห็นจะได้"

    สิบนาทีเหรอ...!? แต่ในฝันเหมือนจะมากกว่านั้น...! ลูเซียสลุกขึ้นแล้วพยายามปลอบภรรยา แต่ว่าในหัวเค้ามีแต่เรื่องที่เค้าฝันเห็น...

    ตอนนี้มันชักจะแปลกๆ แล้ว เค้าเข้าในความทรงจำของปราสาทกาลเวลาทั้งๆ ที่ยังไม่เป็ดสมุดบันทึกเหรอ!?
    -------------------------------------------------

    "แล้วนายทำไงต่อไป"

    "ก็มาหานายไง"

    เซเวอรัสซดน้ำชาพลางมองดูลูเซียสอย่างไม่อยากเชื่อ "แล้วนายไม่คิดวิธีอื่นบ้างเหรอ เช่นเผาทิ้ง หรืออะไรทำนองนี้"

    "ชั้นทำทุกอย่างแล้ว! ทั้งเผา เอาไปทิ้ง แต่มันไม่เป็นอะไร ที่สำคัญไม่ว่าจะทิ้งไกลแค่ไหนมันก็กลับมาที่ห้องเหมือนเดิม ไม่ว่าจะทำยังไงก็ตาม! ในนามแห่งเมอร์ลิน! ชั้นสุดจะทนแล้ว!"

    "อย่าตะโกนมาก เดี๋ยวเดรโกจะรู้ว่านายมา"

    "ก็ให้รู้สิ!"

    "ไม่ดีนะ เดรโกควรแยกจากครอบครัวซักพักจะทำให้เค้าดีขึ้น เพราะตอนนี้เค้ายังติดแม่หนึบอยู่ ยังเขียนจดหมายหานาซิสซาทุกวัน แล้วนาซิสซาตอบเปล่าๆ ซะเมื่อไหร่ ส่งขนมมากับนกฮูกด้วย ชั้นไม่ว่าอะไรหรอก แต่มันทำให้เด็กคนอื่นรู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำ ดัมเบิลดอร์ก็ไม่พอใจ"

    "นั่นสินะ..."

    "เอาเป็นว่า ชั้นจะไปดูให้พรุ่งนี้แล้วกันนะ"

    "ขอบใจ"

    ลูเซียสมองดูทุกสิ่งในห้องทำงานของเซเวอรัส ห้องทำงานของเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟ!? ทำไมเซเวอรัสอยู่ๆ มาใช้ห้องนี้ได้นะ!?

    "มีอะไรรึเปล่า"

    "เปล่า... ว่าแต่... ควีนเรลล์! ตกลงมันเป็นยังไงกันแน่!"

    "ไม่รู้... ดัมเบิลดอร์บอกแค่ให้จับตาดูเค้า คิดว่าเค้าต้องการศิลาอาถรรผ์น่ะ"

    "เพื่ออะไร..."

    "คืนชีพจอมมาร"

    ลูเซียสเย็นไปทั้งตัว... ตกลงควีนเรลล์เป็นผู้เสพความตายที่เค้าไม่เคยรู้จักเหรอ!?

    "แล้ว... แฮร์รี่ พอตเตอร์" ลูเซียสระมัดระวัง

    "เซอะ... เหมือนพ่อไม่มีผิด ทั้งหยิ่งจองหอง ชอบทำตัวเด่น อวดดี!"

    "ชั้นเห็นเค้าแวบหนึ่ง ตาเค้าเหมือนลิลี่"

    "ก็แค่ตา นอกนั้นเหมือนพ่อหมด!"

    ...แปลว่าต้องนิสัยเหมือนเดรโกสิ มิน่า เด็กสองคนนี้ไม่ถูกกัน เพราะเสือสองตัวมันอยู่ถ่ำเดียวกันไม่ได้...











    "กลับมาแล้วเหรอ ลูเซียส"

    "อืม... กลับมาแล้ว" ตอบแบบเฉยๆ

    "เย็นชาจังนะ เหลือกันแค่สองคนแล้วแท้ๆ"

    ลูเซียสมองนาซิสซาแล้วก็เดินเข้าไปจูบเธอ "วันนี้อาบน้ำด้วยกันนะ!"

    "ทะลึ่ง"

    "เดรโกไม่อยู่ก็ดีอย่าง เหมือนได้กลับไปในสมัยแต่งงานกันใหม่ๆ"

    "บ้า..."

    ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ท้ายที่สุดก็ลงอาบน้ำอ่างเดียวกันจนได้ น่าสงสารเซเวอรัส-คนไม่มีภรรยา-นั่งหงอยเหงาอยู่คนเดียว! ลูเซียสไม่เคยคิดว่าเซเวอรัสจะรู้จักปลดปล่อยตัวเองนานๆ ทีหรือไม่ โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับนาซิสซา ทั้งจูบกันอย่างดูดดื่มในอ่างอาบน้ำ ลูเซียสขยับตัวให้เข้าที่เพื่อดื่มด่ำกับร่างกายของภรรยา ไม่ต้องบรรยายว่านาซิสซาเซ็กซี่เพียงใดเวลามีความสัมพันธ์กัน

    พวกเค้าสนุกและสะอาดพอ แต่เมื่อออกจากห้องน้ำและกลับไปที่ห้องนอน ลูเซียสอดไม่ได้ที่จะมองดูภรรยาตัวเองเปลี่ยนเสื้อผ้า! อื้ม!? นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้ดูเต็มๆ ตาแบบนี้เพราะอายลูก? สมแล้วที่เธอชื่อนาซิสซา... เธองามพอที่จะให้อภัยถ้าเธอจะลุ่มหลงตัวเองเหมือนนาซิสซัสในตำนาน! รูปร่างบอบบางเหมือนนักเต้นบัลเล่ย์ สูง-โปร่ง-บอบบาง เหมือนกับดอกกุหลาบเลื้อย! ขาวสว่างจนเกือบจะส่องแสงในความมืด!

    เพราะฉะนั้น ลูเซียสมีข้ออ้างมากพอที่จะเดินไปข้างหลังแล้วปลดกระดุมเสื้อเธอ ทั้งที่เธอติดกระดุมจนเสร็จ!? และเมื่อเธอดึงเสื้อมาปิดอกลูเซียสก็จัดการรูดกางเกงในภรรยาลงข้างล่าง

    "อีตาบ้า! หยุดนะ!"

    ลูเซียสไม่ฟัง ปล้ำเธอลงบนเตียง การข่มขืนภรรยาตัวเองคงไม่ผิดกฎหมายใช่มั้ย!? เพราะเค้ารู้สึกเหมือนจะยังกินเธอไม่อิ่ม...!

    ........................................................................

    .............................................

    .......................

    ................................................................

    ...........................................................................................

    "นี่... ไม่คิดจะหลับนอนบ้างเหรอ" นาซิสซาพูดพลางหอบหลังจากโรมรันกันมาทั้งคืน

    "พรุ่งนี้วันอาทิตย์! ชั้นตื่นสายได้!" ลูเซียสพูดพลางหอบ หลังจากถึงจุดสุดยอดไปหลายครั้ง "นานแล้วที่เราไม่ได้มีอะไรกัน ชั้นลืมไปได้ไงว่าที่บ้านมีของที่เร่าร้อนและเอร็ดอร่อยอยู่!"

    "ฟังแล้วรู้สึกดีนะ ชั้นหลงคิดว่าเธออันเดอร์เซ็กส์อยู่ตั้งนาน"










    กี่โมงแล้วไม่รู้... ลูเซียสลืมตาขึ้นเพราะแสงแยงตา เค้านอนตะแคง โดยมีผมปิดหน้า และโอบร่างของใครบางคนไว้ อืม... ใครบางคน!? นั่นทำให้ลูเซียสสะดุ้งสุดตัวเมื่อแน่ใจว่าผมที่ปิดหน้าไม่ใช่ผมเค้า! ที่สำคัญเค้าแย่แน่ๆ เพราะถ้าจำไม่ผิด เซเวอรัสบอกว่าวันนี้จะมา!?

    "นาซิสซาตื่นเร็ว!"

    "อืมมมม"

    สายไปแล้ว! บานประตูเปิดผ่างและทำให้ทั้งคู่สะดุ้งสุดตัว ร่างผอมบางในชุดสีดำตัวโคร่งชะงักหน้าประตู! นี่เป็นครั้งแรกที่ลูเซียสรู้สึกเสียใจอย่างแท้จริงต่อการอนุญาตให้เซเวอรัสเข้าออกบ้านตามใจชอบ ใบหน้าขาวซีดนั่นตื่นตะลึง เป็นภาพที่หาดูยากจนอยากเอากล้องมาถ่ายเก็บไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนี้สภาพเค้าเป็นแบบนี้นะ!

    "อ่า หวาๆๆๆ! ขอโทษ! ชั้นจะไปรอที่ห้องรับแขก!" เซเวอรัสหน้าแดงกล่ำ ไม่รู้จะจัดการยังไงกับมือไม้ของตัวเอง แล้วก็ลนลานปิดประตู เป็นภาพที่น่ารักมาก... และเค้าคงอดยิ้มไม่ได้ถ้าเป็นสถานการณ์ไม่แย่ขนาดนี้... สถานการณ์ที่เซเวอรัสเปิดประตูมาเจอพวกเค้ากับภรรยาในสภาพเปลือยเปล่า และที่สำคัญ... ยังไม่ได้แยกจากกัน!

    สามสิบนาทีต่อมาลูเซียสนั่งนิ่งที่โซฟาขณะด๊อบบี้เอาชาและขนมมาเสริฟ... มันยากมากที่จะมองเซเวอรัสให้เต็มตา และเซเวอรัส หน้าแดงกล่ำ ก้มหน้านิ่ง และดูจะทำอะไรไม่ถูกนอกจากแกว่งช้อนในถ้วยชาอย่างไม่มีจุดหมาย

    นาซิสซาเดินเข้ามานั่งข้างๆ ลูเซียสก่อนจะพูดอย่างจริงจัง "มันไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่เรื่องหน้าอาย เราเป็นสามีภรรยากัน!"

    "ใช่... เธอพูดถูก" ลูเซียสเห็นด้วย

    "เพราะงั้นพวกเธอช่วยทำตัวให้เหมือนปกติได้มั้ย! ชั้นอึดอัดจะแย่แล้วนะ!"

    ชายทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองเธอพร้อมๆ กัน

    "วันนี้เธอหน้าทนกว่าปกตินะ" ลูเซียสตั้งข้อสังเกต

    "นั่นสิ" เซเวอรัสเอาบ้าง "เป็นอะไรไป เจ็บช่องคลอดเหรอ?"

    คราวนี้สองผัวเมียหันมามองเซเวอรัสเป็นตาเดียว "ชั้นว่านายสงสัยผิดประเด็นแล้วนะ" ลูเซียสพูดอย่างจริงจัง

    นาซีสซาหยิกสามีจนร้องจ๊าก เซเวอรัสที่กำลังเขินค่อยๆ คลายความกังวลลง "แต่ก็ดีใจที่เห็นทั้งคู่ยังรักกันดี"

    "ก็... ดีอยู่แล้วนี่" นาซิสซาพูดเบาๆ เขินน้อยลงบ้างแล้ว

    "โดยวัฒนธรรมคนอังกฤษ เวลาที่บ้านคือเวลาส่วนตัว ยังไงชั้นก็ควรบอกก่อนไม่ควรเข้าไปโดยพละการ ขอโทษด้วยนะ"

    "ไม่เป็นไรนี่!" ลูเซียสรีบบอก "ชั้นผิดเองที่อนุญาตนายให้เข้าออกตามใจชอบ!"

    "อืม... แต่คราวหน้าก็ระวังหน่อยแล้วกัน" นาซิสซาว่า

    "อื้ม ขอบใจทั้งคู่มากนะ"

    หลังจากนั้นทั้งสามก็เข้าสู่โหมดปกติ ตอนนี้เซเวอรัสกำลังตรวจสอบสมุดเจ้าปัญหาของลูเซียส "...ขอถวายพระเกียรติแด่ ไนจัส อะโพคาลิฟ เทวีผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก... เห, ไม่ยักรู้ว่าพวกผู้วิเศษนับถือพระเจ้า แถมเป็นพระเจ้าผู้หญิงด้วย" เซเวอรัสเริ่มต้นอย่างระมัดระวัง เค้าเปิดไปหน้าแรก "สำหรับผู้อื่น มันคือสมุดที่เขียนด้วยถ้อยคำที่ไม่สามารถอ่านได้  แต่สำหรับบุตรแห่งก๊อดริก กริฟฟินดอร์ที่ถูกระบุนามไว้ที่หน้าถัดไป นี่คือประตูสู่ความทรงจำของปราสาทแห่งกาลเวลา...! เฮ้สำหรับบุตรแห่งก๊อดริก กริฟฟินดอร์เหรอ!? แต่ลูเซียส นายไม่น่าที่จะบุตรแห่ง--!"

    "อย่าพึ่งท้วง อ่านหน้าต่อไปก่อน!" ลูเซียสเสียงเฉียบขาด

    "ถึง ลูเซียส ลูกชาย ของพ่อ... พ่อไม่สามารถปกป้องชีวิตของลูกได้ พ่อเสียใจ แต่พ่อไม่สามารถทำอันไดได้อีกนอกจากเก็บสมุดนี้ไว้โดยหวังว่าซักวันหนึ่งลูกจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง แล้วพ่อจะได้มอบสมุดเล่มนี้อันเป็นตัวแทนของความรู้สึกทั้งหมดแก่ลูก รักลูกเสมอ... ก๊อดริก กริฟฟินดอร์"

    ลูเซียสขมวดคิ้ว ทำไมตอนเค้าอ่านไม่เจอประโยคพวกนี้วะ!?

    "มีแค่นี้เหรอ...?" นาซิสซาถาม เซเวอรัสเปิดหน้าต่อไป ก่อนจะขมวดคิ้ว แล้วเปิดหน้าต่อไปเรื่อยๆ

    "อะไรกันเนี่ย!?"

    "มีอะไรเหรอ!?"

    "ไม่เห็นเขียนอะไรไว้เลย!"

    ปัดโธ่! แล้วทำหน้ายังก่ะอ่านเจออะไร!?

    "คงเพราะเวทมนตร์บางอย่าง" นาซิสซาพูดอย่างใช้ความคิด "เมื่อกี้มันก็บอกชัดเจนว่า คนอื่นอ่านไม่ได้"

    "แล้วทำไมชั้นอ่านได้ล่ะ"

    "ที่แน่ๆ" เซเวอรัสตัดบท "กริฟฟินดอร์มีลูกชายชื่อลูเซียส! ทำไมชั้นไม่เคยรู้มาก่อน!?"

    "เพราะนายนั่งหลับในคาบศาสตราจารย์บินส์รึเปล่า"

    "พูดยังก่ะเธอไม่เคยหลับงั้นแหละ" นาซิสซาพึมพำ

    "ที่แน่ๆ ชั้นว่า... ชั้นคงต้องสอบถามศาสตราจารย์บินส์ให้ก่อน บางทีมันอาจจะเกี่ยวอะไรกับการที่นายชื่อลูเซียสก็ได้"

    "จริงสิ" นาซิสซาเปลี่ยนเรื่อง "เด็กที่ชื่อแฮร์รี่ พอตเตอร์ดูเป็นยังไงบ้าง"

    "เหมือนพ่อทุกอย่าง ทั้งหยิ่งยโส ชอบทำตัวเด่น ชอบแหกกฏ ไม่เคยเห็นใครในสายตา"

    ลูเซียสเกาหัว เพราะเซเวอรัสตอบเหมือนที่เค้าเดาไว้ไม่ผิดเพี้ยน นาซิสนาพยักหน้า "เค้าชอบแกล้งเพื่อนเหรอ"

    "ก็... ไม่หรอก... อาจจะเป็นข้อเดียวที่ต่างกัน" ท่าทีของเซเวอรัสดูอ่อนลง

    'เอ่อ มันยังซื่อสัตย์อยู่แฮะ' ลูเซียสสังเกตท่าทีของเพื่อน

    "ค่อยยังชั่วหน่อย! แปลว่าเดรโกไม่ถูกแกล้ง!" นาซิสซาโล่งอก(ลูเซียสพึมพำ "นี่เธอคิดว่าลูกเราจะถูกแกล้งเหรอ ชั้นว่ามันกลับกันมากกว่า" เบาๆ) จากนั้นถามอีก "แล้วเพื่อนๆ ของเค้าล่ะ! คงเหมือนเจมส์เลยล่ะสิ!"

    "ไม่แน่ใจนะ แต่เท่าที่ดู สนิทกับเพื่อนแค่สองคน เป็นเลือดบริสุทธิหนึ่ง แล้วก็ลูกมักเกิ้ลอีกหนึ่ง"

    "เห! แบบนั้นก็เหมือนเซเวอรัสน่ะสิ!"

    ตอนนั้นแหละ! ที่ลูเซียสได้เห็นเซเวอรัสมองหน้าเธอแบบตกใจ! และลูเซียส ได้แต่คิดในใจ ชอบความตรงไปตรงมาของเธอเป็นบ้าเลยนาซิสซา!











    ...คราวนี้อะไรอีกล่ะ...

    ลูเซียสเหนื่อยใจ ตอนนี้แม้ว่าเค้าจะไม่อ่านบันทึกอีกแล้ว แต่มันก็ไม่วายมาเข้าฝันเค้า... มันธุระอะไรของเค้าที่ต้องไปรู้เรื่องชาวบ้านด้วยเนี่ย!? ลูเซียสมองดูรอบๆ ที่เต็มไปด้วยฝน

    และเด็กชาย... ทอม มาโวโล่ ริดเดิ้ล!?

    แต่... ท่าทางเศร้าๆ

    "นี่เธอ!"

    "เอ๊ะ!?"

    "นักเรียนฮอกวอร์ตใช่มั้ย!? ทำไมมานั่งตรงนี้ล่ะ!?"

    "...มันไม่ใช่ธุระของคุณ"

    "ทำไมจะไม่ใช่! ชั้นเป็นเพื่อนกับศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์! แล้วเท่าที่ดู! เธอมันไม่มีทางเป็นเด็กปีสามได้หรอก! แต่ทำไมมานั่งนอกโรงเรียนได้! ปกติเธอควรจะกลับบ้านคริสมาสต์หรือไม่ก็อยู่ตรงเรียนไม่ใช่เหรอ!?" แม้เสียงจะดุ แต่ลูเซียสมั่นใจว่ามันจะอ่อนลงเมื่อได้ยินคำพูดถัดมา... เค้ารู้จักโลกิดี

    "ผมไม่มีบ้านให้กลับ! ไม่มีพ่อแม่! ไม่มีใคร!"

    "งั้น.. เธอคิดจะนั่งตรงนี้อีกนานแค่ไหน" เสียงอ่อนโยนลงจริงๆ

    "จนกว่าจะเช้า!"








    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×