ลำดับตอนที่ #82
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #82 : มังกรเล้นกาย--2
มังกรเล้นกาย--2
*ขอโทษครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีภาพมากอวดมาก.. การเมืองทำให้คนมากมายสติแตก รวมทั้งผมด้วย
*ขอโทษครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีภาพมากอวดมาก.. การเมืองทำให้คนมากมายสติแตก รวมทั้งผมด้วย
สุมาเต็กโซเป็นตัวละครที่มีความเล้นลับที่สุดในสามก๊ก เนื่องเป็นถึงอาจารย์ของข่งเบ้ง ซีซี และบังทอง, แต่แล้วเขากลับไม่เคยคิดแม้แต่จะร่วมมือกับใครแม้ว่าเขาจะเป็นคนที่ผู้นำสามก๊กจับตามากที่สุด มันน่าสนใจที่จะคิดว่า, อะไรทำให้เขาสามารถปฏิเสธคนเหล่านั้นได้ คนอย่างซุนเซ็กไม่ใช่คนที่จะถูกปฏิเสธได้ หรือคนเช่นเล่าเปียวซึ่งตัวจริงในประวัติศาสตร์ค่อนข้างลุแก่อำนาจ ทำให้เกิดความสงสัยว่าสุมาเซ็กโซมีดีจริงหรือไม่
คำตอบแรกคือ ถ้าเขาเป็นอัจฉริยะ เขายิ่งมีอัจฉริยะภาพเหนือเข่งเบ้งอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะเขาสามารถที่จะควบคุมตัวเองไม่ให้แสดงความเป็นอัจฉริยะออกมา อีกประการ ฉายาของเขาคือกระจกวารีอันหมายถึงน้ำที่นิ่งจนเหมือนเป็นกระจก นั้นคือเขามองคนอย่างทะลุปรุโปร่งแต่ไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ภายในตัวเขา
แต่ความหมายที่สอง เขาอาจจะไม่ใช่อัจฉริยะอย่างแท้จริง เพราะคนอย่างเล่าปี่ที่อ่านคนได้ทะลุปรุโปร่งเช่นกันย่อมไม่ปล่อยมือจากเขาแน่ เพราะถ้าสุมาเต็กโซได้พบกับโจโฉ เขาอาจจะเลือกรับใช้โจโฉก็เป็นได้ เพราะโจโฉเป็นคนที่มีเสน่ห์อย่างประหลาด มีคนไม่น้อยที่หลงรักเขา ฉะนั้น เพื่อไม่ให้เขากลายเป็นกำลังของโจโฉ เล่าปี่อาจกำจัดเขาก่อน ถ้าเราสามารถจำได้ เล่าปี่ไม่เหมือนในนิยาย เขาเป็นนักการเมืองที่ฉลาดหลักแหลมมาก และแม้แต่โจโฉก็ยังแพ้ทางอยู่เสมอ
อย่างไรก็ดี เรื่องราวของสติปัญญาและความกตัญญูของคนจีนมักสร้างความรู้สึกกังขาให้กับคนสมัยนี้เสมอ อาจจะเพราะโจโฉและซุนกวนจะมีลักษณะนิสัยของเผ่าพันธุ์อื่นค่อนข้างมาก คือเติร์ก(โจโฉ)และรัสเซีย(ซุนกวน) ทำให้พวกเขาไม่ยึดติดกับแนวนางของชาวฮั่น ถ้าเราอ่านเรื่องราวของสติปัญญาหรือความกตัญญูของชาวฮั่น เราจะพบว่าเรื่องหลายเรื่องฟังดูงี่เง่า เช่น "เรื่องความกตัญญูของลูกที่รักพ่อมาก กลัวพ่อจะถูกยุงกัด เลยเข้าไปนอนที่นอนพ่อ ให้ยุงกินเลือดตัวเองจนอิ่มก่อนจะได้ไม่กินเลือดพ่อ" อันนี้น่าจะเรียกโง่มากกว่ากตัญญู(ไปหาซื้อหรือขอยืมมุ่งมากางให้พ่อน่าจะเข้าท่ามากกว่า หรือไม่ก็จุดยากันยุง) กับอีกเรื่อง "ชายที่ฉลาดมากแต่ไม่ยอมไปสอบเป็นขุนนางในเมืองเพราะไม่มีใครดูแลพ่อแม่ ทำงานแทนพ่อแม่ทุกอย่างจนกระทั่งพ่อแม่ตาย ตนจึงไปสอบเป็นขุนนาง แต่พอสอบได้เมียแย้งว่า ไม่สามารถทนให้สามีไปรับใช้ใครได้ เขาก็บอกว่าเขาอยู่กับเธอสบายกว่า และไม่ยอมไปรับราชการ" ผมสงสัยทันทีว่าทำไมเขายอมให้พ่อแม่อยู่อย่างคนจน จนกระทั่งตาย ทั้งที่ถ้าเขาสอบเป็นขุนนาง เขาสามารถพาพ่อแม่ไปอยู่ด้วยและเลี้ยงดูพวกท่านอย่างดี ชีวิตของพ่อแม่ของเขาจะเปลี่ยนไป ท่านจะได้กินอาหารดีๆ นอนบนที่นอนอุ่นนุ่ม และลูกหลานของเขาจะถูกยกระดับชีวิตขึ้นและอยู่อย่างมีความสุข--มีการศึกษาที่ดี
บางที สุมาเต็กโซอาจจะเป็นคนเช่นชายผู้นี้ซึ่งยอมอยู่อย่างคนจนดีกว่า เพราะเขาอาจจะไม่แน่ใจเกี่ยวกับสังคมภายนอกที่รอเขาอยู่ หรือเพราะเขาไม่อาจแน่ใจได้ว่าใครคือฝ่ายถูกอย่างแท้จริง เพราะสามก๊กก็ไม่แตกต่างจากสมัยนี้ ซึ่งแบบเป็กกลุ่มๆ และต่างฝ่ายต่างก็ว่าตัวเองดีกว่าอีกฝ่าย เพียงแต่โจโฉมีความน่ารักตรงนี้กล้ายอมรับอย่างตรงไปตรงมา "ผมเลว" ฮา... ตรงนี้ต้องยอมรับว่าเขาใจนักเลงมากจริงๆ และแน่นอนว่าหลายคนคงไม่อยากยอมรับเท่าไหร่ เพราะระหว่างที่เขาพูดกับทุกคนว่าเขาเลวอย่างไร ใบหน้าของเขาคงดูน่ารักมาก
...เหมียว...
แต่เป็นสุมาเต็กโซที่ตั้งฉายาให้กับ "ข่งเบ้ง" และ "บังทอง" ว่า "มังกรหลับ" และ "หงส์อ่อน"
คำถามคือ... มังกรหลับคือมังกรที่มีสติปัญญา, คือมังกรที่เก่งกล้าสามารถ หรือมังกรที่มีอิทธิ์หรือไม่? และหงส์อ่อนล่ะ มันหมายถึงหงส์ที่มากด้วยประสบการณ์ชีวิต หรือมีสายตาที่กว้างไกลอยู่หรือ?
แน่นอน ร้อยทั้งร้อย เมื่อได้ยินชื่อ หงส์ และ มังกร พวกเขาย่อมคิดว่านี่คือสิ่งวิเศษที่ถ้าได้มาเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งก็อาจทำให้เขาสามารถรวมแผ่นดินได้ เนื่องจากหงส์และมังกรคือสัตว์ที่วิเศษและลึกลับที่สุดสำหรับชาวจีน แต่ถ้าท่านพิจารณาคำคุณศัพท์ที่ต่อท้ายคำทั้งสอง ท่านก็จะต้องตั้งคำถามเช่นกันว่า "สุมาเต็กโซเห็นอะไรในตัวของข่งเบ้งและบังทอง" และเรื่องที่ประหลาดกว่านั้นคือ เป็นเล่าปี่ที่ได้ทั้งสองไปครอบครอง
สุมาเต็กโซอาจจะจงใจให้เล่าปี่ได้ทั้งสองไปเพื่อที่เขาจะมั่นใจว่าเล่าปี่จะไม่มีวันรวมแผ่นดินได้? ใช่หรือไม่? เพราะเมื่อพวกเขาได้พบกัน สุมาเต็กโซปฏิเสธการร้องขอของเล่าปี่เพื่อการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น และกลับแนะนำหงส์และมังกรที่ไร้ประสบการณ์ชีวิตไปรับใช้เล่าปี่ เขาเห็นอะไรในตัวเล่าปี่ ใช่ความทะเยอทะยานหรือไม่ ตามเอกสารประวัติศาสตร์ ทั้งหมดระบุตรงกันว่า เล่าปี่มีความทะเยอทะยานมากกว่าโจโฉ และสำรวมถ้อยคำมาก ถ้าไม่รู้จักเขานานพอจะไม่มีวันสังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้
อย่างไรก็ดี ความทะเยอทะยานอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะถ้าเขามีแค่ความทะเยอทะยานแต่ไร้ความสามารถ เล่าปี่คงไม่สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวจนกลายเป็นฮ่องเต้ได้ เล่าปี่ต้องมีสติปัญญามาก อย่างไรก็ดี คนมีสติปัญญาเช่นเขายังต้องการสิ่งใดจากสุมาเต็กโซ เขามีคนเช่นนั้นอยู่รอบตัวเต็มไปหมด ขาดสุมาเต็กโซซักคนคงไม่ตาย เว้นแต่สุมาเต็กโซจะมีสิ่งที่เขาไม่มีจริงๆ
ฉะนั้น เราอาจพูดได้ว่า, สติปัญญาของสุมาเต็กโซไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นของเล่าปี่ หรือเป็นสิ่งที่เล่าปี่คิดว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะเขามีมันอยู่เต็มเปรี่ยมเช่นกัน
นั่นคือการอ่านใจคนและปกปิดตัวตนของตนเอง...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น