คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : การตัดสินใจของลูเซียส
คำพูดเดิมๆ การกระทำเดิมๆ...
บางคนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังย่ำอยู่กับที่
พยายามหาหนทางที่จะขอการคืนดี
แต่ไม่เคยที่จะย้อนมองตัวเอง
พยายามที่จะวิ่งเข้าไปขอโทษนับพันครั้ง
พยายามที่จะพูดนับพันหน
มีประโยชน์อันใดถ้าไม่รู้ว่าตนผิดเรื่องอะไร
แทนที่จะพยายามโง่ๆ น่าจะย้อนมองตัวเอง
เรื่องเดิมจะผ่านเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าสำหรับคนที่ไม่เคยเรียนรู้
ความทุกข์เดิมๆ จะเวียรมาหาคนที่ไม่เอาผิดเป็นครู
คนที่ไม่เคยเรียนรู้จากความผิดพลาดใดๆ
ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้นอกจากเปลี่ยนตนเอง
ทิฐิแรงกล้าก็ไม่ต่างอะไรกับโคลนที่ถมดอกบัวไว้
หากความนอบน้อมสามารถแหวกทิฐิขึ้นมาได้
ก็ไม่ต่างอะไรกับดอกบัวที่เบ่งบานในใจเรา
+บทประพันธ์ของลูเซียส กริฟฟินดอร์
ลูเซียสปิดหนังสือแล้วลุกไปที่หน้าต่าง รอเซเวอรัสที่กำลังจะมา รู้ว่าจอมมารกำลังเคลื่อนไหว ดัมเบิลดอร์น่าจะรู้ทั้งหมดของเซเวอรัสแล้วเมื่อเร็วๆ นี้เหมือนที่เค้ากับลิลี่รู้ แต่ไม่ห้าม ไม่ยุ่งเกี่ยว เช่นกันกับบทประพันธ์ของลูเซียส กริฟฟินดอร์, ไม่มีใครเปลี่ยนใครได้นอกจากคนๆ นั้นจะเปลี่ยนตนเอง
บางที เค้าก็ควรทำอะไรบ้าง...
"ลูเซียส"
ลูเซียสหันขวับเพื่อจะพบกับเพื่อนรุ่นน้องที่อายุน้อยกว่า "มาแล้วเหรอ" หน้าของเค้าไม่มีรอยช้ำดำเขียวอะไร แต่ลูเซียสแน่ใจว่ามีบางอย่างที่... เค้าเห็นแผลที่หัว "ดัมเบิลดอร์เห็นแล้วรึยัง"
"เห็นสิ ต่อหน้าต่อตาเค้าเลย" เซเวอรัสถอนใจพลางเล่าเรื่องที่เกิดให้ฟังตั้งแต่พ่อโยนถ้วยกาแฟใสหัวจนถึงขั้นจิกผมลากเข้าบ้าน ลูเซียสรับฟังโดยไม่แสดงอาการอะไรเลย ก่อนจะ "ว่าแต่ เรียกชั้นมามีอะไรเหรอ"
"เรกูรัสตายแล้วนะ"
"ฮ่า...! ถามจริง!?"
"จริงที่สุด เค้าทรยศต่อจอมมาร เค้าอาจจะตายไปเพราะจอมมารฆ่าเค้า ชั้นไม่ไหวแล้วนะ แม้จะไม่รู้เหตุผลของการตายและวิธีที่เค้าถูกเค้า แต่ชั้นไม่อยากอยู่อย่างลำบากใจแบบนี้"
"จะย้ายข้างเหรอ"
"ย้ายได้เหรอ เวลานี้ถ้าเรื่องเข้าหูจอมมารเราจะตายกันหมด!"
"ลูเซียส... ขอบใจนะที่เหยียบเรื่องที่ชั้นเป็นคนทรยศได้ตลอดเวลา" เซเวอรัสแขวะ
"อะไรนะ"
"ก็ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ชั้นก็ตายห่าไปแล้วเหมือนกัน"
ลูเซียสนึกได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาตัวเองก็ไม่ต่างอะไรกับคนทรยศเหมือนกัน... เค้าถอนใจก่อนจะถาม "คิดว่าจะย้ายลิลี่กับเจมส์ไปซ่อนที่ไหนอีกล่ะ"
"ดัมเบิลดอร์บอกว่าตันเหมือนกัน เพราะจอมมารรู้จักทั้งหมด"
"หรือถึงแม้จอมมารจะไม่รู้และไม่สามารถจับผู้เก็บความลับได้ แต่ถ้าเรื่องพรรค์นั้นใช่ว่าจะหาไม่เจอ เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกว่าจะสืบค้น ขอเพียงถ้าพวกนั้นโผล่ออกมาแม้แต่น้อย... เช่น แม้จะไม่สามารถพบว่าพวกนั้นอยู่ที่บ้านของดัมเบิลดอร์ แต่ถ้าผ่านเข้าไปได้ต้องเจอพวกนั้นอยู่ดี" ลูเซียสพูดอย่างใช้ความคิดก่อนจะนึกบางสิ่งออก "เซเวอรัส ถ้าเป็นบ้านที่นายเสนอให้ล่ะก็ ดัมเบิลดอร์จะรับมั้ย!"
"น่าจะ แต่ว่าชั้นจะไปหาที่แบบนั้นได้ที่ไหนกัน ที่สำคัญ... จอมมารรู้จักทุกที่ๆ ชั้นอยู่ แต่ถ้าหาบ้านจากในหมู่สมาชิกภาคี ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องเป็นบ้านกลุ่มแรกที่ถูกรื้อค้น"
"แล้วถ้าเป็นบ้านของผู้เสพความตายบางคนล่ะ ที่ไม่ใช่บ้านของนายที่น่าสงสัยที่สุดด้วย"
"ถ้ามีใครยอมให้บ้านแก่เรา เราก็ต้องลากเค้ามาทำพิธีทางเวท--"
"บ้านชั้นไง"
"เห!?!"
"ใช่... เราจะทำปฏิญาณว่าจะไม่เอ่ยเกี่ยวกับสถานที่นั้นกันก่อนเลย บางทีดัมเบิลดอร์อาจจะยอมพันธนาการเราด้วย"
"แล้วมันที่ไหนกันล่ะ"
"พ่อชั้น(เอรีส)มีบ้านพักตากอากาศหลังหนึ่งที่ก๊อดริกโฮลโล่ ชั้นกับน้องสาวเองก็อยู่ที่นั่นมาหกเดือนตอนที่เป็นทารกก่อนจะย้ายเข้าคฤหาสมัลฟอย เจมส์กับลิลี่จะพาลูกไปซ่อนที่นั่นก็ได้"
"....!?...." เซเวอรัสอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าลูเซียสจะกล้าทำถึงขนาดนี้
"เดี๋ยวชั้นจะเขียนสัญญาเช่าไว้ให้เลย..." เค้าต่ออย่างจริงจัง "เพราะถ้าอยู่ๆ เปิดบ้านให้คนอยู่ต้องเป็นประเด็นแน่ เพราะงั้นต้องมีสัญญาเช่า เอางี้... นายต้องเป็นนายหน้าหาคนเช่า ซึ่งก็คือดัมเบิลดอร์ แต่ถูกคาถา ไม่สามารถเปิดเผยตัวคนเช่าตัวจริงได้ และนั่นก็คือเจมส์กับลิลี่ และต้องมีคนที่จะรับหน้าเป็นผู้ให้เจมส์กับลิลี่เช่าบ้านทั้งๆ ที่ไม่ให้เช่าจริงก็คือใครก็ได้ แผนนี้เจ๋งมาก"
"ถ้าจอมมารรู้เรื่อง..."
"ชั้นอ้างได้ว่าชั้นให้นายหาคนเช่า นายอ้างได้ว่าถูกคาถา สมบูรณ์แบบจะตาย"
"นายทำขนาดนี้"
"ชั้นทำเพื่อครอบครัวของชั้น เซเวอรัส, เพราะหากเกิดอะไรไม่ดีกับจอมมาร ชั้นต้องไม่เข้าไปอยู่ในอัซคาบัน"
"เอาสัญญาและโฉนดที่ดินให้ชั้น! ลูเซียส!" เซเวอรัสก็เอาจริงเหมือนกัน
"ดี... ชั้นจะไปที่บ้านที่ว่า แล้วเราจะทำสัญญากัน"
ดัมเบิลดอร์เดินดูทั่วบ้านก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอย่างไม่คาดคิด เค้ารับเงื่อนไขพิสดารนี้จากผู้เสพความตายคนหนึ่งที่พยายามจะเหยียบเรือสองแคม โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่า หากเกิดอะไรขึ้นกับโวลเดอร์มอร์เค้าจะต้องช่วยชายหนุ่มให้หลุดจากคดี และแน่นอนมันเป็นความลับสุดยอด เพราะถ้าพวกมัลฟอยคนอื่นๆ รู้... ถ้าพวกผู้เสพความตายที่หลุดคดีคนอื่นๆ รู้...
"เธอทำให้ชั้นงงมากเลยนะลูเซียส" ดัมเบิลดอร์พูดในที่สุด "แม้ว่าคุณธรรมจะเกิดจากความขี้ขลาดก็ตาม"
"ถึงไม่มีความขี้ขลาด ผมก็ไม่คิดว่าผมจะปล่อยให้เจมส์กับลิลี่เป็นอะไรไปได้อยู่ดี"
"ถึงจะรู้ว่าเธอมีความสัมพันธ์อันดีกับพวกเมอร์กันที่เป็นญาติฝ่ายแม่ของเจมส์และครอบครัวพอตเตอร์ก็เป็นญาติของเธอผ่านการแต่งงานกับอัสลันเทีย มัลฟอย แต่ชั้นก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่ามันจะนำมาซึ่งการพยายามช่วยชีวิตเจมส์"
ลูเซียสถอนใจ "ผมว่าคุณไม่มีวันเข้าใจหรอก ดัมเบิลดอร์"
กับเสียงหัวเราะเบาๆ "ทีแรก ชั้นคิดว่าเธอตาบอดที่ยัดยึดมั่นถือมั่นที่จะเป็นเพื่อนกับเค้า, เซเวอรัส แต่ตอนนี้ ชั้นพอจะเข้าใจอะไรบ้างแล้วถึงจะไม่หมดก็ตาม ชั้นว่าชั้นคงผิดเสียแล้วที่คิดว่าลูเซียส มัลฟอยจะเลวร้ายเหมือนอย่างพ่อ(เบริฟรอท)กับน้องชายของเค้า(บรูตัส) รู้มั้ย การกระทำของลูเซียสวันนี้ทำให้ชั้นคิดถึงอัสลันเทีย-เพื่อนเก่าและลูกชายที่หายตัวไปพร้อมกับครอบครัวของเค้า" อีกครั้งที่ชายชราถอนใจ "ชั้นได้เจอเอรีสอีกครั้งเหมือนได้เจอลูกชายที่ยังมีชีวิตอยู่ แปลว่าครอบครัวของเค้าอาจจะอยู่ครบทั้งสามคนก็ได้ ภรรยาของเค้าเด็กแฝดชายหญิงคู่นั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ"
"ท่านอาจารย์ใหญ่...?" เซเวอรัสตระหนักชัดทันทีว่าดัมเบิลดอร์ไม่รู้ว่าแท้จริงลูเซียสเป็นลูกของเอรีส
"รู้ตัวก็ดี!" ลูเซียสแขวะ เซเวอรัสถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย
"ชั้นหวังว่า..." ดัมเบิลดอร์พูด ขณะที่เริ่มการร่ายเวทย์ผูกพันธะ "จะได้เห็นด้านดีๆ ของคนตระกูลมัลฟอยมากกว่านี้นะ ลูเซียส"
--------------------------------------------------------
"งั้นเหรอ... ลูเซียสกับสเนปนี่นะ" กับคำพึมพำเบาๆ ของเจมส์และรอยยิ้มของลิลี่ ดัมเบิลดอร์มองมันอย่างมีความหมาย ระหว่างพวกเค้าคงมีอะไรอีกมากที่ดัมเบิลดอร์ไม่รู้เมื่อเจมส์ยิ้มออกมาแล้วบอกว่า "เข้าใจแล้วครับ ผมจะย้ายไปอยู่ที่นั่น"
"เธอดูจะไม่ระแวงอะไรเลยนะ ทั้งๆ ที่เป็นบ้านของลูเซียส เซเวอรัสน่ะใช่เพราะเค้าต้องการปกป้องลิลี่ แต่ลูเซียสเป็นผู้เสพความตายที่ภักดีกับโวลเดอร์มอร์"
"ผมว่า... พูดไปคุณก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก อัลบัส"
"ลูเซียสก็พูดเหมือนกันนี่แหละ" เค้าถอนใจก่อนจะหันไปหาลิลี่ "ไม่ว่ายังไงเธอก็ต้องไปพบพวกเค้าซักครั้งนะ ชั้นรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับเพื่อนที่เป็นพ่อมดศาสตร์มืด แต่พวกเค้าเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์มาก เมื่อลูเซียสเป็นเพื่อนสนิทกับเซเวอรัส เค้าก็มีความคิดว่าเป็นน่าที่เค้าที่จะดูแลเพื่อนสนิทของเพื่อนด้วยเหมือนกัน แม้จะมีข้อเสียหลายอย่าง แต่ชั้นยอมรับว่าคนแบบนี้น่าคบมากเหมือนกัน เมื่อเทียบกับเพื่อนสนิทของชั้นน่ะ"
ลิลี่หัวเราะ เห็นได้ชัดว่าดัมเบิลดอร์ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วนาซิสซากับลูเซียสเป็นเพื่อนสนิทของเธอเช่นกัน "ค่ะ ดัมเบิลดอร์"
"เพื่อนสนิทของท่านเหรอครับ" เจมส์เลิกคิ้ว ดัมเบิลดอร์หัวเราะ
"รู้มั้ยกรินเดวัลน์น่ะเป็นเพื่อนซี้ของชั้นเลยล่ะ แม้ว่าหลังๆ จะเริ่มซี้ซั้วก็เถอะ"
"ถามจริง!?" ลิลี่ตื่นเต้น
"คุณล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย!?" เจมส์ถึงกับช๊อค
"จริง... เป็นเพื่อนที่รักกันมากด้วย แต่ถ้าเทียบกับที่เค้าทำทั้งหมด ชั้นว่า เค้าดีไม่ถึงครึ่งของลูเซียสด้วยซ้ำ"
พวกเค้าหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน เจมส์พูดในที่สุด "ผมจะให้ซิเรียสเป็นผู้รักษาความลับ ไม่ต้องกังวลหรอกครับ"
"แล้วใครจะเป็นผู้ที่เราจะเขียนชื่อเช่าบ้านเค้าล่ะคะ เพราะการทำแบบนั้นต้องทำให้พวกเค้าอยู่ในอันตรายแน่ ถ้าพวกมันสืบค้นเจอ"
"ครอบครัวลองบัตท่อมอาสาจะเป็นผู้เช่าต่อจากชั้นแล้วให้พวกเธอเช่าบ้านพวกเค้า" อัลบัสตอบ
"แต่แน่ล่ะ ความจริงเราต้องอยู่บ้านลูเซียส" เจมส์ว่า "ผมชักห่วงแฟรงค์กับอลิซแล้วสิ"
"มีลูกชายอายุเท่าแฮร์รี่ด้วย ฝากด้วยนะคะดัมเบิลดอร์"
.................................................................................................
.......................................................................................................................
...............................................................................................
.........................................................
"ชั้นคงต้องขอโทษสเนปจริงๆ จังๆ ซักครั้งแล้วล่ะ"
คำพูดของเจมส์ทำให้ซิเรียสถึงกับทิ้งถ้วยชาตกลงกับพื้นแตก ลิลี่ดูไม่ประหลาดใจกับพฤติกรรมนั้น อันที่จริงเธอเข้าใจเค้าเลยล่ะ เพราะนี่คือสิ่งเดียวที่ซิเรียสไม่มีวันรับได้ เพราะงั้นการที่เธอเขียนจดหมายให้เค้าน่ะมันถูกต้องแล้ว
"เจมส์! ชั้นว่านะ! สิ่งที่ชั้นควรทำตอนนี้คือพานายไปที่เซนต์มังโกด่วนเลย! นายอาจจะต้องการฉีดยาซักสามเข็ม!"
"ชั้นไม่ได้ป่วย ไอ้หมาขี้เรื้อน!" เจมส์ว๊ากออกมา "ตกลงนายจะไม่เป็นผู้รักษาความลับใช่มั้ย!"
"แน่นอนเพราะพวกมันต้องตามล่าชั้น! พวกมันต้องคิดว่าเป็นชั้นเหมือนที่นายคิดไง" ซิเรียสลากเก้าอี้เข้ามาใกล้ "ฟังนะเขาแหลม นี่คือแผน ถ้าชั้นสลับตัวกับหางหนอน--"
"นั่นไม่มีทางเป็นแผนที่ดีหรอกนะ!" ลิลี่ขัด ถ้าให้เซเวอรัส นาซิสซา หรือลูเซียส เธอจะไม่ว่าซักคำแม้ว่าสามคนนั้นเป็นผู้เสพความตายก็ตาม เพราะพวกนั้นจะไม่มีวันขายเธอแน่ แต่หางหนอน... ในนามแห่งสวรรค์ นี่คือคนที่ไม่เอาไหนที่สุดคนหนึ่งของภาคีนกฟินิกซ์ "ถ้าเป็นรีมัสกับเซวีชั้นพอทำเนา"
"นี่เธออย่าพูดถึงมันต่อน่าเจมส์ได้มั้ย! แต่งงานมีลูกกับเค้าแล้วนะ! เธอยังจะคิดถึงชายอื่นอีกเหรอ!?"
"แล้วมันธุระอะไรของนายถึงต้องมาหึงชั้นแทนสามียะ!?!" ลิลี่สุดจะทน
"แล้วนายบอกจันทร์เจ้าแล้วยังเรื่องจะเปลี่ยนตัว" เจมส์วกเข้าเรื่อง
"ฟังนะ ต้องไม่มีใครรู้ เพราะพวกมันต้องตามล่าชั้น แต่พวกมันไม่เชื่อว่านายจะเลือกคนไม่เอาไหนอย่างหางหนอน!"
"แล้วนายบอกจันทร์เจ้ารึยัง...เท้าปุย"
"..................."
"เท้าปุย"
"......"
"ซิเรียส แบล็ก!"
"เจมส ชั้น... ไม่ไว้ใจรีมัส"
"หา!?!?" เจมส์กับลิลี่ร้องพร้อมกัน
"ดัมเบิลดอร์บอกว่าเรามีสายที่นำข้อมูลของศัตรูมาบอกเรา ชั้นไม่รู้ใคร(แต่เจมส์กับลิลี่รู้แล้วว่าใคร) แต่ขณะเดียวกันก็มีคนของเราทำหน้าที่เป็นสายที่ขโมยข้อมูลของภาคีไปบอกโวลเดอร์มอร์เหมือนกัน ชั้นสงสัยว่าเป็นรีมัส"
"นายสงสัยรีมัสเนี่ยนะ!" เจมส์ไม่อยากเชื่อเลย
"เค้าเป็นมนุษย์หมาป่า ถ้านายจะจำได้!"
"นี่แหละหนา... เค้าว่าเพื่อนซี้เริ่มซี้ซั้ว" ลิลี่เหนื่อยหน่าย
"เธอว่าอะไรนะ!?"
"เปล่า... ไม่ได้ว่าอะไร" ลิลี่ตอบอย่างซังก่ะตายแล้วก็ไปเล่นกับแฮร์รี่
"นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นเมียนาย ชั้นว่าชั้นโชกยัยนี้ปากแตกไปแล้ว" ซิเรียสหันไปคุยกับเจมส์
"ไม่เอาน่าเพื่อน" เจมสตอบเบาๆ แต่คิดว่าลิลี่พูดตรงประเด็นดี
ซิเรียสควรสงสัยรีมัสด้วยเหรอ แค่ว่าเค้าเป็นมนุษย์หมาป่า ถ้างั้นควรสงสัยแฮกริดด้วย เพราะเค้าเป็นลูกครึ่งยักษ์ เจมส์พบว่าหัวใจของซิเรียสเต็มไปด้วยอคติ แต่นั่นก็คือเค้าด้วยเหมือนกัน ตลอดเวลาที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ เค้าได้รู้อะไรหลายอย่างจากลิลี่เกี่ยวกับสเนป กับสิ่งที่ลูเซียสทำเพื่อปกป้องเค้า เค้าก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่า มีหลายอย่างในซิเรียสที่ไม่ต่างจากผู้เสพความตายคนอื่น!
มันคืออคติของพวกเลือดบริสุทธิ์ที่กันสิ่งที่แตกต่างออกจากตน ซิเรียสไม่รู้เลยว่าตัวเองไม่ได้ต่างจากคนตระกูลแบล็กคนอื่นๆ บางอย่างของเค้าแย่ยิ่งกว่านาซิสซา-ญาติผู้น้องและเรกูรัสที่ตายไปหลายเท่านัก!
แต่ในความเป็นเพื่อน เจมส์มองข้ามข้อเสียของซิเรียส!
และเพราะเป็นคู่แข่งด้านความรัก เจมส์มองข้ามด้านดีๆ ของสเนปจนหมด!
พึ่งตระหนักว่าตนเองโง่เขลาเพียงใดก็ในช่วงเวลานี้
หลังจากพูดคุยกันพอ เพื่อให้เจมส์ยอมรับการตัดสินใจของซิเรียส เค้ากลับออกไปและลิลี่เดินไปส่ง เธอยื่นจดหมายให้กับเค้าที่รับไป "อะไรเนี่ย" เค้าถามเหมือนไม่อยากรู้ "รหัสรับเหรอ"
"บางอย่างที่เธอต้องรู้"
"แล้วทำไมไม่บอกเอง"
"เพราะถ้าบอกเองเธอจะไม่คิด เพราะงั้นต้องบอกโดยที่เธอได้ใช้เวลาทบทวน"
ซิเรียสขี่เมอร์เตอร์ไซด์ไปหยุดกลางอากาศ ก่อนจะเปิดจดหมายออกอ่าน มีข้อความที่ได้ใจความประมาณว่า ดัมเบิลดอร์เป็นเพื่อนรักกับกรินเดวัลน์ อะไรประมาณนั้น ซิเรียสถอนใจ
"ไร้สาระอะไรเนี่ย! ถ้าจะบอกว่าเธอก็เป็นเพื่อนกับสเนปได้ล่ะก็ไม่ต้องเขียนเป็นจดหมายก็ได้มั้ง!" แต่ยังดีที่เห็นแก่รูปของเจมส์ ลิลี่ และ แฮร์รี่ที่แนบมาด้วยเค้าจึงเก็บเข้ากระเป๋าไป จดหมายนี้ซิเรียสไม่เคยใช้รอยหยักในสมองเพื่อตีความและไม่เคยอ่านอีกครั้ง
มันคงจะมีค่าต่อสเนปเพียงผู้เดียวที่จะไปพบและเปิดอ่านที่บ้านกริมโมเพลสในอีกสิบหกปีข้างหน้า!
ลูเซียสย่ำเท้าตามร่างแห่งอดีตกาลของเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟ ที่ตรงไปที่ห้องๆ หนึ่ง ก่อนจะหยุดและพิจารณาร่างที่เหี่ยวย่นทรุดโทรมยิ่งกว่าร่างของชายชราคนใดในโลก ก่อนจะทำการคารวะต่อบุคคลที่มีทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิที่เหนือกว่า
"ศาสตราจารย์กริฟฟินดอร์"
"เซเวอรัส... มาแล้วเหรอ" เสียงแห้งราวกับเสียงฝนตะไบ "ตอนนี้ เจ้าพบคนที่จะให้กำเนิดข้ารึยัง"
"พบแล้วครับ เป็นคนตระกูลมัลฟอยสายผู้นำตระกูลทั้งคู่ คือไดอาน่ากับอัสลันเทีย"
"มัลฟอย... ปกติ สายผู้นำตระกูลมัลฟอยจะมีทายาทแค่คนเดียวไม่ใช่รึไง"
"กรณีนี้พิเศษ แม่เด็กใช้คำสาปต้องห้ามระหว่างทั้งครรภ์ ฉีกวิญญานเด็กเป็นสอง เด็กที่เกิดมาเป็นแฝดแท้ที่เกิดจากวิญญานดวงเดียวกันและร่างกายกลับเพศเป็นหญิงหนึ่งคน"
"ใครคือผู้โชคร้ายที่ทำให้แม่เด็กกล้าใช้คำสาปโทษผิดสถานเดียวแบบนั้นกัน"
"เมียน้อยมักเกิ้ลของสามีหล่อน"
ลูเซียสขมวดคิ้ว! ผู้นำตระกูลมัลฟอยมีเมียน้อยเป็นมักเกิ้ลเนี่ยนะ!
"แล้วตายสินะ"
"ไม่ครับ มีคนเข้ามาขวาง ผู้หญิงคนนั้นรอด เธอเป็นแม่ของเบริฟรอท มัลฟอย ตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่โดยการส่งเสียเลี้ยงดูลับๆ ส่วนเมียเอกคลอดลูกตายไปแล้ว"
ลูเซียสหัวเราะอย่างขมขื่นขึ้นมาทันที นี่เองเหตุผลของท่าทางเหยียดหยามของดัมเบิลดอร์เมื่อเค้าและบรูตัสพยายามเน้นความสำคัญของเลือดบริสุทธิ์! หมอนั่นต้องรู้เรื่องที่เบริฟรอทแท้จริงแล้วเป็นลูกครึ่งมักเกิ้ลแน่ๆ! และหมอนั่นก็เชื่อว่าเค้าเป็นลูกแท้ๆ ของเบริฟรอท นั่นแปลว่าเค้ามีเชื่อมัลเกิ้ลแฝงในตัว! ลงตัวพอดี เพราะคุณอา(เบริฟรอท) เป็นมัลฟอยที่ไม่เคยอวดอ้างความเป็นเลือดบริสุทธิ์ของตนเอง เพราะแท้จริงแล้วเป็นลูกครึ่งนั่นเอง
แต่อนิจจา แท้จริงแล้วลูเซียสสืบสายเลือดโดยตรงจากอัสลันเทียที่เป็นเลือดบริสุทธิ์ที่ถูกต้อง!
"แล้ว... มีใครอีกมั้ย... ข้ารวมฮอรักซ์ที่มีแค่สองก็คือสามไม่ใช่รึไง"
"อีกคนเป็นผู้หญิงตระกูลพอตเตอร์, เธอมีความคับแค้นที่ถูกชายคนรักถอนหมั้น ย่อมง่ายแก่การเกิดพลังมืดสำหรับตัวท่านที่ตอนนี้ดูจะต้องการพลังมืดหล่อเลี้ยงยิ่งกว่าพลังแห่งแสงสว่างอีก... เธอคนนี้สืบเชื้อสายมาจากบุตรแห่งพรีวีเร็ตคนเล็กสุดด้วย"
กับเสียงหัวเราะอย่างโรยแรง... เยือกเย็นอย่างน่ากลัว แต่อะไรบางอย่างเหมือนกับอาเทน่า!
"ดี... ดีมาก! ถึงไม่ชอบ! แต่พลังของผู้หญิงที่อาฆาตแค้นจะนำมาซึ่งอำนาจที่จักต่อกรกับอะโพคาลิฟ-ฟาได้แน่!"
มันคือความถูกต้อง... ที่แปดเปื้อนด้วยความชั่วร้าย!
แม้จะเป็นชั่วร้าย แต่ทั้งหมดก็เพื่อความถูกต้อง!
กริฟฟินดอร์เป็นคนเช่นนั้นเองสินะ!?
แต่แทนที่เค้าจะได้อ่านหน้าต่อไป เค้ากลับถูกดึงออกมาสู่ปัจจุบัน
เจมส์ พอตเตอร์, น้อยชายทางวิญญานของเค้ายืนยิ้มที่หน้าต่าง!?
TBC.
ความคิดเห็น