คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บันทึกลับของเจมส์
ไม่ว่าจะนั่งนานเพียงไรก็ไม่คุนเคยกับห้องนอนโคตรหรูทรงหลุย-ฟิลลิปของคฤหาสมัลฟอย เซเวอรัสขนลุกทุกครั้งที่มองไปทั่วห้อง ของทุกอย่าง งานฝีมือจากผ้าอันงดงามที่ถูกทำเป็นม่าน, ผ้าห่ม, ผ้าคลุม ทุกชิ้น ล้วนมีราคาสูงกว่าค่าตัวของเค้าทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเงินที่จ่ายให้พ่อของเค้าเป็นการซื้อตัวนั้น แม้จะเป็นจำนวนมหาศาลแต่เซเวอรัสมั่นใจว่าลูเซียสขนหน้าแข้งไม่ร่วงแม้แต่สิ้นเดียว!
ตระกูลมหาปราชญ์ที่มีเทือกเถ้าเหล่ากอมาจากฝรั่งเศส แม้ชื่อจะความหมายไม่ดีนัก(มัลฟอย-ผู้กระทำชั่ว)เพราะเป็นตระกูลเวอร์ล๊อค(พ่อมดศาสตร์มืดขั้นสูง) แต่ทำอีท่าไหนถึงมีทรัพย์สินเงินทองตกมาหาลูกหลานอื้อซ่าขนาดนี้!?
คำว่ามหาเศรษฐีคงน้อยไป น่าจะให้คำว่า "อภิมหึมา มหาเศรษฐี"
"ตื่นแล้วเหรอ" เสียงเย็นๆ ยานคางดังขึ้น พร้อมกับร่างของชายหนุ่มผอมสูงดูสูงส่ง-ลูเซียส มัลฟอย กำลังยกถาดอาหารสีเงินระยับส่องแสงล้อกับแสงของยามเช้า และตัวของลูเซียสเองก็เช่นกัน ทั้งผิวที่ขาวเนียนเรียบกับผมและดวงตาสีเงินไปกันได้ดีกับแสงสว่างยามเช้า เค้าแทบจะส่องแสงเหมือนเพชร แม้ลูเซียสจะไม่ใช่ผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกแต่เมื่ออยู่ท่ามกลางแสงสว่างที่หอมหวานและห้องที่หรูหรา เค้าดูราวกับเทวดาที่ตกลงมา ลูเซียสวางถาดอาหารเช้าข้างๆ เตียงและทำให้เซเวอรัสสะดุ้งโหยง "ยังไม่ชินอีกเหรอ เธออยู่ห้องนี้มาทั้งคืนแล้วนะ"
"ตอนนั้นผมเหนื่อย แล้วมันก็มืด แต่ตอนนี้ ผมกำลังจะสติแตกเพราะรู้สึกเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในห้องของเชื้อพระวงศ์และอาจจะที่ใครมาพบ ซึ่งพวกเค้าคงไม่ชอบใจ"
"ให้ตายสิ เธอน่าจะชินมาตั้งแต่อยู่ที่ฮอกวอร์ตแล้วนะ!" ลูเซียสหัวเราะออกมา
เซเวอรัสก้มมองดูอาหารเช้าสำหรับสองคน สวยจนไม่กล้ากิน!
"ฮอกวอร์ตดูขรึมและสง่างามครับ ไม่ได้หรูหราเหมือนที่นี่"
"ก็จริง... นั่นมันมหาวิหาร แต่ที่นี่เคยเป็นพระราชนิเวศ" เซเวอรัสอ้าปากค้าง ลูเซียสเล่าต่อ "ห้องนี้เป็นห้องของป้าอาเทน่า"
ป้าอาเทน่า... เหมือนเคยได้ยินหลวงแม่ลูเครเซียพูดถึง "ป้าอาเทน่านี่คือพี่สาวฝาแฝดของหลวงพ่อเอรีสใช่มั้ยฮะ?" เค้ารู้แล้วว่าลูเซียสเป็นพี่ชายฝาแฝดของลูเครเซียในงานศพ
"ใช่... ว่าแต่เธอหลบตาชั้นทำไม"
หน้าซีดๆ ของเซเวอรัสเหมือนจะมีรอยแดงๆ ขึ้นมา "ผม... คือ... ลูเซียสดูสว่างจ้าจนผมรู้สึกแสบตา"
ลูเซียสมองเด็กหนุ่มอย่างงวยงง แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยิน เพราะทุกคนมักพูดอยู่แล้วว่า 'พวกมัลฟอยมักดูน่าประทับใจเมื่อถูกอาบด้วยแสงสว่างอ่อนของยามเช้าหรือยามเย็น' แต่เค้าไม่เคยใส่ใจคำสอพลอพวกนั้น แต่เซเวอรัส สเนป, เค้าเป็นคนนอก เค้าพูดออกมาจากความรู้สึกจริงๆ ตอนนี้ลูเซียสนั่งลงที่เตียงและมองเค้า ผอมกะหร่องจนชวนให้นึกถึงคนที่ป่วยด้วยโรคอนอเร็กเซีย(เคยเห็นในหนังสือวิทยาศาสตร์ของมักเกิ้ล ตอนหาบทความเกี่ยวกับคณิตศาสตร์อ่าน) ซีดจนเหมือนคนป่วย ผมและดวงตาดำจัด ร่างกายที่ดูเปราะบางและมีร่องรอยของการทุบตี เค้าเริ่มเข้าใจว่าทำไมเด็กหนุ่มจึงไม่เคยชินกับห้องนี้สักที
ท่ามกลางความหรูหรา เซเวอรัสดูเล็กอย่างน่าตกใจ ทั้งหมดล้วนมีสีสันกว่าตัวเค้า ลูเซียสไม่เข้าใจว่าพี่น้องทางพลังเวทย์ของเค้า(เจมส์ พอตเตอร์)ทำไมกล้าที่จะรังแกเด็กคนนี้ คนที่แทบจะกองเป็นเศษขยะบนพื้นอันปรักหักพัง
หรือคิดว่าไหนๆ ก็อยู่กับดินกับหญ้าแล้ว จะเหยียบให้จมลงมากกว่านี้ก็ไม่เสียหาย!?
"กินอาหารเถอะ"
"หง่า... มันสวยจนผมไม่กล้าแตะ"
ลูเซียสจัดการใช้ซ่อมเขี่ยสลัดผลไม้ที่จัดอย่างปราณีตจนเละ แล้วหั่นไส้กรอกและขนมปังปิ้งที่บรรจงตัดแต่งเป็นรูปต่างๆ อย่างงดงามให้เป็นเศษซาก "ตอนนี้มันไม่สวยแล้ว กินเข้าไปซะ" เซเวอรัสกะพริบตาสองครั้งติดกัน ก่อนจะจัดการกินอย่างกล้าๆ กลัวๆ ขณะที่ลูเซียสจัดการชงโกโก้ที่ตกแต่งด้วยวิปครีมให้เป็นเนื้อเดียวกันเพราะมันสวยจนเซเวอรัสอาจจะไม่กล้าแตะ
"ลิลี่! หวานใจของเธอกลับมาแล้ว!"
"จริงเหรอ" เธอวิ่งไปส่องหน้าต่างและเห็นเซเวอรัส สเนปเดินเข้ามาในเขตฮอกวอร์ต โรซารี่ แอนเดอร์สันส่ายหัว "ให้ตายสิ... ผู้ชายเห่ยๆ แบบนั้นดีตรงไหนนะ เธอถึงได้เมินเจมส์ พอตเตอร์ได้ขนาดนั้น"
"หน้าไง!"
"หน้า?"
"หน้าตาน่ารัก!"
"ชั้นชอบนิสัยตรงไปตรงมาของเธอเป็นบ้า" อิซาเบลล่าหัวเราะร่า ระหว่างนั้นมองเห็นนาซิสซา แบล็กเดินมาแต่ไกลและทุกคนก็หลบไปตามความเคยชินเพราะลิลี่มักอยู่กับสเนปหรือกับนาซิสซาตามลำพังเสมอ เธอเป็นกริฟฟินดอร์คนเดียวตอนนี้ที่มีเพื่อนสนิทเป็นสลิธีรีน แถมมีจำนวนถึงสามคน!
"เป็นไงบ้างซิสซี่! หายเจ็บรึยัง!"
"หายเจ็บแล้ว เปลี่ยนเป็นคันแทน" นาซิสซาพูดเบาๆ "แมลงโลกมักเกิ้ลนี่ร้ายกาจกว่าที่คิดอีก"
"ผิวคุณหนูก็บางอย่างงี้แหละ! เราลงไปหาเซวีกันเถอะ!" แล้วก็จูงมือกันไปสองคน ไม่รู้ว่าเธอถูกใครบางคนแอบดูอยู่
ที่มุมอับ ปีเตอร์ เพ็ตติกรูกับรีมัส ลูปินมองหน้ากันแบบตกใจ
---------------------------------------------
"อะไรนะ! เอฟเวนส์ชอบถั่วงอก!?" เจมส์ดูตกใจมากที่รู้เรื่อง ก่อนที่ทุกคนจะเตรียมตัวรับระเบิดลูกใหญ่ เจมส์ก็พูดอย่างอายๆ "ฉะ.. ชั้นก็ชอบเหมือนกัน"
ปัดโธ่! ไม่ใช่ถั่วงอกแบบนั้น! แต่รีมัสแอบหลิ่วตาให้ซิเรียสกับปีเตอร์หุบปากไว้
"ดีจังนะเจมส์ รู้ใจเธอแล้วนายต้องชนะใจเธอแน่!"
"ใช่! เดี๋ยวชั้นสั่งถั่วงอกมาจากร้านอาหารจีน! ส่งไปให้เธอแพ็คใหญ่เลย!" แล้วก็วิ่งหายไป ซิเรียสหันมาถามรีมัส
"เฮ้ย... จันทร์เจ้า ทำไมนายไปบอกเขาแหลมตรงๆ เลยว่า ถั่วงอกคือคำศัพท์ที่หางหนอนบัญญัติขึ้นมาให้เรียกเจ้าขี้มูกโป่งนั่น!"
"ถ้าเราบอกเค้าเราอาจจะส่งเค้าเข้าคุกอัซคาบันเลยนะพวก เขาแหลมทระนงในเสน่ห์ของตัวเองเป็นที่สุด แต่เพราะเอฟเวนส์ไม่ใส่ใจมันถึงได้บ้าไปขนาดนี้ ถ้าเราบอกมันเข้า มีหวังมันขาดสติฆ่าสเนปทิ้งเลยนะเนี่ย!" รีมัสตอบ
"เออ... จริง" ซิเรียสกับปีเตอร์พูดพร้อมกันอย่างเห็นด้วย แล้วซิเรียสก็พูดขึ้น "ว่าแต่หล่อนชอบเจ้าขี้มูกโป่งตรงไหนวะเนี่ย!?"
"ไม่รู้สิ... เพราะน่ารักมั้ง"
"น่ารัก!?" ซิเรียสร้องสุดเสียง ก่อนจะลดเสียงลงเมื่อคนพากันหันมามอง "จันทร์เจ้า... ถามจริง นายคงไม่ได้ถูกเรกูรัสหรือนาซิสซาวางยามาใช่มั้ย!?"
"ไม่หรอกเท้าปุย... พอดีเราได้ยิน--" รีมัสยกมือปรามปีเตอร์ไม่ให้พูดต่อ
"ชั้นมีเรื่องจะถามนาย แต่ไม่มีโอกาสพูดเมื่อเจ็ดวันก่อนเปิดเทอมตอนชั้นไปซื้อของที่โลกมักเกิ้ล ชั้นเห็นสเนปอยู่ที่บึง ไม่ใส่เสื้อ เจ้านั่นเหมือนกำลังอาบน้ำในบึงอยู่ แล้วมีรอยช้ำเต็มตัวไปหมด พอชั้นเล่าให้นายฟังดูนายจะไม่พอใจมากกว่าเดิมแล้วก็แกล้งสเนปมากขึ้น เจมส์ก็พลอยเป็นไปด้วย! ทำไมทำแบบนั้น"
"ก็ไม่ชอบ"
"ไม่ชอบ?"
"ใช่..."
"เรื่องอะไร"
"อย่าถามอีกได้มั้ย!"
"...ก็ได้...."
บานประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของชายหนุ่มผมสีเงินที่ผ่านเข้ามา "ยินดีต้อนรับ! ลูกชายของชั้น!" เสียงของเลาเรส พอตเตอร์ดังขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปโอบกอด เค้าพูดไม่ผิด... เลาเรสเป็นพ่อทูนหัวของเค้า และระหว่างเค้ากับเลาเรสเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งด้วยจิตวิญญาน เฟรยา พอตเตอร์-ภรรยาของเลาเรสบอกเค้าเมื่อสองปีก่อนนี้เองว่า "เลาเรส เอรีส และ อาเทน่า เป็นฝาแฝดแท้ในทางจิตวิญญาน พวกเค้ามีวิญญานดวงเดียวกันแต่ถูกแบ่งเป็นสามส่วนและแยกมากเกิดในท้องของแม่สองคน ทำให้เลาเรสรู้ความเป็นไปของเอรีสทุกอย่าง เหมือนที่เอรีสรู้ความเป็นไปของเลาเรส... พวกเค้าพบกันในความฝันทุกคืน แต่สำหรับอาเทน่าแตกต่าง เพราะอาเทน่ามีความเต็มสภาพในวิญญานของเธอ ในด้านมืด... ขณะที่เลาเรสกับเอรีสเป็นครึ่งหนึ่งของกันและกันด้านสว่าง" ลูเซียสผละจากอ้อมกอดแล้วมานั่งที่โต๊ะ ถ้าที่พูดมาเป็นความจริง เลาเรสและอาเทน่าก็คือพ่อของเค้าเหมือนกัน และเจมส์ก็คือน้องชาย ส่วนเฟรยาก็เป็นแม่เลี้ยงเพราะเป็นภรรยาของพ่อ เธอต้อนรับเค้าอย่างอบอุ่นทุกครั้งที่มา
แต่วันปิดเทอมหน้าร้อนต้องพักไว้ เพราะซิเรียส แบล็กจะมากางเต้นที่นี่ และเค้าไม่ต้องการสร้างปัญหาให้พ่อและแม่โดยไม่จำเป็นโดยการมาแยกเขี้ยวใส่กับทั้งคู่ ยังไม่นับคำพูดของเจมส์ "ถ้านายอยู่ข้างเจ้าขี้มูกโป่ง(สนิฟเวลลัส) นายไม่ใช่พี่ชั้น!"
น้องชายเฮงซวย!!
"ไหน ที่ว่าจะเอามาให้พ่อกับแม่ดูน่ะ"
"นี่ครับ" ลูเซียสเอาออกมาให้ทั้งคู่ทัศนา "ป้าอาเทน่าเป็นคนเอามาให้ผม" เออ... เรียกป้าน่าจะดีกว่าเรียกพ่อแฮะ
"เลาเรส นี่คงจะเป็น...!"
"ไม่ผิดแน่ สมุดเล่มนี้คือจดหมายจากเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟ เขียนถึง ลูเซียส เกล็นเดล กริฟฟินดอร์" เค้าเปิดดูหน้าหลังสุดที่ลูเซียสไม่เคยได้เปิดสำเร็จออกอ่าน มีข้อความ 'Severus to Lucius' ที่ท้ายเล่มเขียนด้วยอักษรโบราณ "คงจะจงใจทำขึ้นเพื่อเขียนให้ลูเซียส แต่ลูเซียสตายซะก่อนเลยไม่ได้อ่าน"
"แต่ทำไมถึงมีแต่เรื่องของโลกิล่ะครับ เซเวอรัส ฮัฟเฟิลพัฟมีชีวิตอยู่ตั้งเกือบพันปีก่อน!?" ลูเซียสไม่เข้าใจ
"จนถึงประมาณเจ็ดเดือนก่อนไอลีนจะคลอดเซเวอรัส"
ลูเซียสตะลึง...
"มัน... เป็นไปไม่ได้.. พ่อมดไม่น่าจะมีชิวิตอยู่ได้นานขนาดนั้นนี่!" ก่อนจะ "ศิลานักปราญ์ช! ใช่มั้ยครับ!?"
"เซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟเป็นโฮโมนครูชน่ะ" เลาเรสตอบ
"โฮโมน...!?" ลูเซียสไม่อยากเชื่อเลย
"ใช่... มันคือมนุษย์เทียมที่ถูกสร้างขึ้นด้วยหลักแห่งวิชาปรุงยาขั้นสูง ราชวงศ์โชเต็กซ์ได้รับการแต่งตั้งจากไนจัส อะโพคาลิฟให้เป็นราชาและราชินีแห่งเวทย์ และพระองค์ก็ครองอำนาจในโลกโดยปกปักรักษาเส้นทางสู่แดนมรณะที่ถูกปิดไว้ เรียกกันว่าปราสาทกาลเวลา พระองค์กลายเป็นเทพฮาเดสราชินีเฮลล์ในความเชื่อของพวกมักเกิ้ลในเวลาต่อมา"
"เฮลล์และฮาเดส(Hell and Hades) ผมจำได้ว่าเฮลล์คือเทพธิดาแห่งนรกของชาวไวกิ้ง ส่วนฮาเดสก็คือเทพแห่งนรกของชาวกริซ"
"ใช่... เมื่อในพ่อมดในราชวงศ์ได้กับการสถาปนาเป็นกษัตริย์ พวกเค้าจะอายุยืนกว่าพวกเราหลายเท่า ปัญหามีอยู่ถ้าสมรสนอกราชวงศ์ก็จะทำให้ความบริสุทธิ์ของสายเลือดจางลง แต่ถ้าสมรสกันเองระหว่างคนในสายเลือดเหมือนในเทพนิยายก็มีปัญหาเรื่องยีนส์ด้อยด้วย เพราะงั้นเพื่อรักษาเลือดอันบริสุทธิ์และรักษาค่าความศักดิ์สิทธิ์ทางวิญญานของผู้ที่จะเป็นกษัตริย์รุ่นต่อไป เมื่อพระองค์ได้เป็นกษัตริย์แล้วจะต้องชักกระดูกซี่โครงของพระองค์ออกมาสร้างผู้หญิง ผู้หญิงที่ตราบใดไม่มีการแต่งงานกับกษัตริย์ก็จะคงความเป็นอมตะตลอดไป พวกราชวงศ์เรียกนางว่าฮัฟเฟิลพัฟ"
"แล้วเฮก้า ฮัฟเฟิลพัฟมีลูกกับผู้ชายนามสกุลสมิธใช่มั้ยครับ!?"
"เปล่า เป็นเรนีเวียล, ฮัฟเฟิลพัฟอีกคนถูกสร้างขึ้นมาอย่างผิดพลาด ไม่มีคุณสมบัติใดๆ ตกทอดมาเลย เลยแต่งกับพ่อมดนอกราชวงศ์ได้... ส่วนแต่อย่างที่บอก กระดูกของกษัตริย์ได้ฮัฟเฟิลพัฟที่ขาดคุณสมบัติเพราะพระองค์ไม่ใช่ผู้สืบราชสมบัติที่ถูกต้อง ราชสมบัติเป็นของพระพี่นางต่างมารดาที่เกิดจากราชินีต่างหาก แต่การที่คนสมัยนั้นพยายามฝืนราชประเพณีทำให้ราชวงศ์ถึงคราวล่มสลายรวมทั้งโลกผู้วิเศษทั้งหมดก็เช่นกัน การกระทำของพวกเค้าได้เชิญอะโพคาลิฟ-ฟามาสู่โลก และพระองค์ก็ใช้พระศพของกษัตริย์ หลอมตัวเป็นโฮโมนครูซและเป็นร่างกายให้พระองค์ อะโพคาลิฟ-ฟาที่มีร่างเป็นโฮโมนครูซนี่เองที่ให้กำเนิดเซเวอรัส เรวิน ฮัฟเฟิลพัฟร่วมกับเฮก้า ฮัพเฟินพัฟ เซเวอรัสจึงเป็นโฮโมนครูซที่สมบูรณ์เหมือนแม่"
"ผมไม่เข้าใจ! กระดูกของกษัตริย์สร้างโฮโมนครูซที่ขาดคุณสมบัติเพราะพระองค์ไม่ใช่ผู้สืบราชสมบัติที่แท้จริง! แล้วเฮก้าเป็นโฮโมนครูซที่สมควรแก่การเป็นราชินีแห่งเวทย์ได้ยังไง!?"
"ลูเซียส" เฟรยาแทรกขึ้นระหว่างสองพ่อลูก "ลูกลืมไปแล้วเหรอว่าพ่อไม่ได้พูดซักนิดว่าผู้สืบราชสมบัติตัวจริงตาย!" ลูเซียสตะลึง
"ชักกระดูกซี่โครงของผู้หญิงมาสร้างเป็นผู้หญิง!?" รึว่า...?
"ใช่... ยังไงคู่สมรสของเฮก้าก็ต้องเป็นเจ้าหญิงองค์นั้น หรือพูดง่ายๆ ตามหลักต้องสร้างเฮก้าให้เป็นผู้ชาย หรืออีกวิธี... ให้เจ้าหญิงมีทายาทที่เป็นชายกับใครก็ได้ แล้วให้เฮก้าแต่งกับทายาทที่ว่า เมื่อพวกเค้ามีลูกคนแรกด้วยกัน เฮก้าก็จะเสียความเป็นอมตะไป" เฟรยาลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่าง "เวลานี้สำคัญมาก... ทายาทที่เกิดจากทายาทของกษัตริย์กับฮัฟเฟิลพัฟต้องไม่แต่งกับมักเกิ้ลเด็ดขาด เพราะถ้าทำ... เด็กที่เกิดมาจะถูกหมายให้กลายเป็นเครื่องสังเวยชั้นเอกทีเดียว!"
"ทำไมล่ะครับ!?" ลูเซียสรู้สึกกลัวอย่างประหลาด
"เพราะกษัตริย์องค์หนึ่งได้ทรงทำปฏิญาน..." เลาเรสถอนใจ "พระองค์เกิดจากพระมารดาที่มีสิทธิ์ในบัลลังก์ แต่บัลลังก์ตกเป็นของพระอนุชาเพราะพระมารดาของพระองค์มีพระองค์กับกับคนนอก แต่นั่นเป็นการผิดพันธสัญญากับไนจัส ขณะที่เหล่านักบวชกำลังวิงวอนไนจัส-อย่าให้ราชวงศ์ต้องล่มสลาย พระองค์เองก็ต้องการสิทธิ์ในบัลลังก์ก็เลยขอพรจากอะโพคาลิฟ-ฟา ทูตแห่งอะโพคาลิฟ-ฟาจึงทูลพระองค์ว่าขอเพียงพระองค์อภิเสกกับผู้หญิงจากกระดูกซี่โครงของแม่ก็จะกู้สถานการณ์ แต่มีเงื่อนไขข้อเดียว!"
"คงไม่ใช่--!?"
"ธิดาองค์แรกที่เกิดจากแม่มักเกิ้ลของพระองค์น่ะ ตอนนี้อายุห้าขวบแล้ว.... อีกสิบปีอะโพคาลิฟ-ฟาจะเสด็จมารับวิญญานของเธอ ให้พระองค์เลี้ยงดูเธอให้เป็นสาวบริสุทธิ์ซะ!"
ลูเซียสไหลตกเก้าอี้ "ไม่เป็นความจริงใช่มั้ย!?"
"จริง, ลูเซียส! มันถูกบันทึกไว้ในบันทึกราชวงศ์ แต่อยู่ๆ กษัตริย์กลับไม่ต้องสังเวยวิญญาของพระธิดา และต่อมาก็ตั้งให้เป็นเจ้าหญิงอย่างถูกต้อง เจ้าอภิเสกและอยู่อย่างมีความสุข คิดออกมั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น!?"
"พ่อ... ข่มขืนลูกสาว!?"
"นั่นคือสิ่งที่มีสิทธิ์เป็นไปได้ที่สุด ปัญหามีอยู่ว่า อะโพคาลิฟ-ฟาไม่เคยลืมคำสัญญานั้นเลย! และทรงรอที่รับวิญญานของเจ้าชายหรือเจ้าหญิงครึ่งเลือดคนแรกที่เกิดมาในฐานะเครื่องสังเวย!"
"แล้ว... เหตุผลที่อะโพคาลิฟ-ฟาปรากฏในยุคที่สร้างฮอกวอร์ต!?"
"เจ้าหญิงที่เป็นเจ้าของเฮก้าได้ทรงมีโอรสกับคนนอก ทรงตั้งชื่อโอรสว่าเอลไลซาร์ พริ้นซ์ อะโพคาลิฟ-ฟามาเมื่อจะจัดหาคู่สมรสมักเกิ้ลให้กับเจ้าชายน้อย... คราวนี้! คงนึกออกใช่มั้ยว่าทำไมสลิธีรีนถึงต้องต่อต้านการสมรสกับมักเกิ้ลในตอนนั้น เพราะเค้ารู้แค่ว่าเด็กที่ต้องถูกบูชาวิญญานเป็นลูกครึ่ง! แต่ไม่รู้ว่ามีเงื่อนไขยังไง!"
-------------------------------------------
ลูเซียสไม่ได้กลับไปที่บ้าน คืนนี้เค้านอนที่บ้านพอตเตอร์ ในห้องของเจมส์เพราะเจมส์ไม่อยู่ ความจริงก่อนหน้านี้เค้าแชร์ห้องกับเจมส์ออกบ่อยๆ ลูเซียสถอนใจเมื่อคิดถึงตรงนี้ เมื่อก่อนเค้ากับเจมส์สนิทกันมาก แต่หลังๆ เริ่มห่างเหินเพราะปัญหาอคติ 'กริฟฟินดอร์-สลิธีรีน' ยังไม่นับซิเรียสกับเซเวอรัสที่ถูกนำมาเป็นประเด็นที่ทำให้พวกเค้าเข้าหน้ากันแทบไม่ติด
"น้องเฮงซวย!" ลูเซียสสรุปพลางพลิกตัว สมุดเล่มหนึ่งตกลงมาจากใต้หมอน
อะไรเนี่ย!? ลูเซียสหยิบขึ้น 'บันทึกลับของเจมส์สุดหล่อ' มันเขียนไว้หน้าปก
"ไอ้คนหลงตัวเอง" ลูเซียสพึมพำพลางเปิดไปทีละหน้า และอ่านเป็นบางหน้า
'ฉันสังเกตเธอมานาน.. บางครั้งเธออ่อนหวานน่ารัก... บางครั้งดูห้าวเกินหญิง... ชั้นต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ชั้นมองเห็นยัยเด็กหัวแดงหน้าตกกระนั่นน่ารักได้ยังไงกันฟะ!?'
เฮ้ย!? ใครกันวะเนี่ย!? สาวน้อยที่ทำให้เจมส์บ้าไปขนาดนั้น!?
'ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอชอบอยู่กับพวกบ้านสลิธีรีน โดยเฉพาะหมอนั่น แต่ตาสีเขียวของเธอมีเสน่ห์มากเลย'
ลูเซียสมั่นใจว่ารู้แล้วว่าใครทำให้น้องชายทางพลังเวทย์ของเค้าต้องหวั่นไหว ลิลี่ เอฟเวนส์! ไม่ผิดแน่! เค้าเริ่มอ่านอย่างตั้งใจและพบว่าข้อความล้วนแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นเต้นราวกับเจอเนื้อคู่ และยิ่งอ่านมากเข้าเค้ารู้สึกถึงความหึง!?
'ทำไมเธอต้องขลุกอยู่แต่กับมันด้วย!? มันมีดีอะไร!? ไอ้หัวเมือกจมูกตะขอนั่นน่ะ!?'
เหมือนจะรู้แล้วว่าทำไมเจมส์ถึงไม่ชอบเซเวอรัส...
'ลิลี่ที่รัก! คอยดูเถอะชั้นจะกระชากเธอออกจากความมืดบอดของจิตวิญญาน! มาสู่แสงสว่างของชั้น! เพราะฉะนั้น! รอชั้นก่อน! ชั้นจะทำให้เธอหลุดจากมนตร์ยาเสน่ห์ของไอ้เจ้าเซเวอรัส สเนปให้ได้! ย๊ากกก!'
ลูเซียสอ่านเสร็จก็พิจารณาภาพที่เค้าวาดสุดฝีมือ มันคือเจมส์ที่มีลิลี่ในอ้อมกอด ทั้งสองถูกวาดอย่างบรรจงและงดงาม ขณะที่ใต้เท้าเจมส์ มีรูปเซเวอรัส!? เจมส์ในรูปกำลังเหยียบหัวเซเวอรัสอย่างผู้พิชิต และภาพของเซเวอรัสนั้นวาดอย่างลวกๆ ทั้งหน้าผอมๆ จมูกโดดเด่น และแขนขาที่ผอมราวกับเส้นด้าย
"หลังแต่งงานอย่าให้ลิลี่เห็นภาพนี้เชียวนะไอ้น้องบ้า... ไม่งั้นได้หย่ากันแน่" ลูเซียสบิดสมุดและดับไฟนอน
TBC.
ความคิดเห็น