คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : เทพเจ้าแห่งขุนเขา โอลิมปุส
ในอดีตกาลอันไกลโพ้น ก่อนที่มนุษย์ เราจะมีความคิดอ่านลึกซึ้ง ในด้านปรัชญาและ ความดีความชั่วต่างๆ จนก่อตั้งเป็นลัทธิ และศาสนานั้น มนุษย์แทบทุกเชื้อชาติ จะมีสมมติเทพของตนไว้กราบไหว้บูชาเพื่อ ขอให้เทพเจ้าคุ้มครอง ให้พ้นจาก ภัยพิบัติ รวมทั้งอำนวยพรให้ตนมีความสุขและ อำนาจวาสนานานาประการ
อย่างเช่น ในดินแดนชมพูทวีปก็จะมีเทพผู้ยิ่งใหญ่ 3 องค์ หรือที่เรียกว่า ตรีมูรติ ได้แก่ พระพรหม พระอิศวร และ พระนารายณ์ หรืออาณาจักรจีนก็จะมี เง็กเซียนฮ่องเต้ เป็นจอมเทพผู้ยิ่งใหญ่เหนือเทวดาและเซียนทั้งปวง
แต่ในวันนี้ ขอนำเอาเรื่องของสมมติเทพผู้ทรงอำนาจ ที่โลกตะวันตกยุคก่อนให้ความคารวะบูชา ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ ทั้งนี้ เพราะทุกวันนี้ก็ยังมีการนำเรื่องราว ที่เทพเหล่านี้เกี่ยวข้องมาเล่าสู่กันฟังเสมอ เช่น สงครามกรุงทรอย อเล็กซานเดอร์ เพื่อว่า ผู้อ่านได้พบชื่อเทพเหล่านี้ ก็จะได้มีความเข้าใจขึ้น
หลายพันปีมาแล้ว ชนชาวกรีกและโรมัน เชื่อกันว่า เทพเจ้าทั้งหลายนั้นทรงประทับอยู่บน ยอดขุนเขา โอลิมปุส (OLYMPUS) ในประเทศกรีซ โดยมีเทพผู้เป็นประมุขนามว่า ซูส (ZEUS) หรือโรมันเรียกว่า จูปิเตอร์ (JUPITER) รูปเคารพของซูส มักมีสายฟ้าหรือ อสุนีบาตเป็นศาสตราวุธ เพราะพระองค์ทรงเป็นเทพแห่งสายฝนและฟ้าผ่า เฮสิออด กวีเอกคนหนึ่งของกรีกเขียนไว้ว่า ซูสเป็นบุตรองค์ที่สามของเทพ โครนุส (CRONUS) แต่ตามตำนานของมหากวี โฮเมอร์ ระบุว่าซูสเป็นบุตรองค์โต ส่วนบุตรองค์รองลงมาได้แก่ โปไซดอน (POSEIDON) เทพแห่งมหาสมุทร และ เฮเดส (HADES) เทพแห่งยมโลก โดยซูสนั้นปกครองสวรรค์ทั้งปวงด้วย
ที่ประทับสำคัญ ซึ่งชาวกรีกสร้างถวายซูสนั้นยังมีซากเหลืออยู่ให้เห็นคือวิหารโอลิมเปีย ใกล้ๆ เขาโอลิมปุสที่เมืองอิลิส เป็นที่ซึ่งใช้แข่งกีฬาโอลิมปิกโบราณทุกๆ 4 ปี
เมื่อกล่าวถึงซูสแล้ว ก็จำเป็นที่จะต้องกล่าวถึงคู่ของพระองค์ คือเทพีเฮรา (HERA) หรือ จูโน (JUNO) ของโรมัน นับเป็นเทพีหมายเลขหนึ่งของสรวงสวรรค์ พระนางเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ และ “ดุ” จนเป็นที่ยำเกรงแก่เทพและมนุษย์ทั้งปวง ที่น่าแปลก คือเทพีมเหสีของพระอิศวร จอมเทพ คือ “พระแม่อุมา” ก็เป็นเทพีที่ “ดุร้าย” ยามอยู่ในปาง “เจ้าแม่ทุรคา” เช่นกัน(คล้ายกับซูส) ว่ากันว่าที่ซูสทรงอภิเษกกับเฮรานั้นก็เพื่อสวัสดิภาพของพระองค์เอง และเพื่อให้มีบารมี เพิ่มขึ้นด้วย
เฮราจัดเป็น “แม่พระธรณี” ของโลก อีกทั้งยังพิทักษ์สตรีที่ตั้งครรภ์ให้คลอดบุตร ได้อย่างปลอดภัย
น้องรองลงมาจากซูส คือ โปไซดอน หรือ เนปจูน (NEPTUNE) ผู้โด่งดัง นอกจากเป็นเทพ แห่งมหาสมุทรแล้ว พระองค์ยังเป็นเทพแห่งอาชา แสดงว่าโปไซดอนนั้นเป็นที่สักการะ ของปวงผู้อพยพย้ายถิ่น เพราะม้านั้นสำคัญแก่การเดินทางสมัยนั้นเป็นอย่างยิ่ง
เมื่อเอ่ยถึงโปไซดอน ก็ต้องมีเทพีดีมิเตอร์ (DEMETER) หรือ ซีเรส (CERES) ควบคู่ไปด้วย ดีมิเตอร์ นั้นแท้จริงเป็น น้องสาวของโปไซดอนนั่นเอง แต่ความสัมพันธ์ ของทั้งสองดูออก จะแปลกๆ กล่าวคือ โปไซดอนรัก ดีมิเตอร์ฉันชู้สาว แต่เธอไม่เล่นด้วย และหลีกเร้นโดยแปลงเป็นม้าตัวเมีย แล้วแฝงเร้นอยู่ในฝูงม้าที่อาร์คาเดีย แต่ไม่ รอดสายตาคมกริบของ โปไซดอนไปได้ พระองค์จึงแปลงองค์เป็นอาชาลง ไปสมสู่กับนางม้า กระทั่ง ดีมิเตอร์ให้กำเนิดลูกม้าวิเศษ อาเรียน (ARION) ซึ่งต่อมาเป็นพาหนะ ของกษัตริย์แห่งอาร์กอส
วิหารสำคัญของโปไซดอนอยู่ที่ซูนิออน ซึ่งเป็นแหลมอยู่ใต้สุดของ เมืองอัตติกา ในครั้งกระโน้นชาวเรือแห่งนครเอเธนส์จะใช้จุดนี้เป็นที่สังเกตในยามเดินเรือ ซึ่งยังมีซากวิหารเหลือ อยู่เป็นเสา ซึ่งชาวเอเธนส์สร้างไว้ตั้งแต่ครั้ง 500 ปีก่อน ค.ศ.และในตำนานสงครามกรุงทรอยกล่าวว่า ณ ที่นี้ เทพอปอลโล ได้เล่นงานกองเรือของกษัตริย์เมเนลอส พระสวามี (องค์จริง) ของเฮเลนในตอนที่พระองค์ชนะศึก และเดินทางกลับกรุงสปาร์ตา
ส่วนดีมิเตอร์นั้น เป็นเทพีที่ชาวเกษตรเคารพนับถือ โดยเฉพาะผู้ที่ปลูกข้าวโพด นัยว่าเธอ จะดลบันดาลให้เจริญงอกงาม มีอยู่หนหนึ่ง ซึ่ง เปอร์ซีโฟน ธิดาของเธอถูกเฮเดสลักตัวไป ทำให้ ดีมิเตอร์เศร้าใจและ ออกค้นหาลูกสาวจนละเลยพื้นพสุธาที่เธอดูแล ทำให้ในช่วงเวลานั้นเกษตรกร ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น จนเทพซูสต้องยื่นหัตถ์มาช่วยเหลือ
ซากวิหารของดีมิเตอร์ยังพอมีเหลืออยู่ ให้เห็นที่ปาสตุม ทางตอนใต้ของฝั่งทะเลเมืองเนเปิลส์, อิตาลี ค้นพบในปีที่ 600 ก่อน ค.ศ. แสดงให้เห็นถึง ความรุ่งเรืองแห่ง อารยธรรมสมัยนั้น
ถัดมาคือ เทพเฮเดส หรือ พลูโต (PLUTO) ซึ่งอันที่จริงไม่ได้ประทับ อยู่บนเขาโอลิมปุส แต่โลกของพระองค์อยู่ใต้บาดาล โดยมีแม่นํ้าสตีกซ์ (STYX) ขวางกั้นระหว่างโลกมนุษย์กับยมโลกของพระองค์ ศพของผู้ตายจะข้ามฟากไปยังยมโลกโดยเรือ ซึ่งมีผู้แจวนามว่า ชารอน (CHARON) ค่าโดยสารนั้นก็คือเงินที่ศพคาบอยู่ที่ปาก นอกจากนั้นปากทวารสู่ยมโลก ก็ยังมี เซอร์บีรุส (CERBERUS) สุนัขนรกยืนเฝ้าอยู่ คือเฝ้าไม่ให้ใครบุกรุกเข้าไป และเฝ้าไม่ให้ใครหนีออกมา
เทพอีกองค์หนึ่งซึ่งจะไม่เอ่ยถึงไม่ได้ก็คือ อพอลโล (APOLLO โรมันก็ใช้ชื่อนี้) ทรงเป็นบุตรของซูสกับ นางเลโต (LETO) ซึ่งเป็นธิดาของเทพกลุ่มไตตัน (TITAN) โดยเหตุที่นางเลโตมีความสวยงาม จึงทำให้ เฮราอิจฉา จนเลโตต้องระหกระเหินเร่ร่อน หนีภัยไร้แผ่นดิน ต้องอาศัยอยู่บนเกาะออร์ตีเกียใกล้กับดีลอส ซึ่งเกาะทั้งสองนี้จะลอยล่อง ไปบนท้องทะเล และจะสามารถหยุดตรึงกับที่ได้ก็ต่อเมื่อนางเลโตให้กำเนิดทารก (ที่ซูสทรงเป็นพระบิดา)
ลูกสาวคนแรกของนางก็คือ อาร์ทีมิส (ARTEMIS) หรือ ไดอาน่า (DIANA) เทพีแห่งการล่าสัตว์ อาร์ทีมิสพามารดาข้ามไปอยู่เกาะดีลอส ซึ่งอพอลโลได้ถือกำเนิดที่นี้ และนับเป็นเทพแห่งวีรบุรุษนับแต่แรกเกิด โดยได้จับอาวุธตั้งแต่พระองค์มีวัยแค่สี่วัน แม้จะเป็นเทพในระยะหลังๆ ของกรีก แต่พระองค์ก็เป็นที่นิยมรักใคร่บูชายิ่งกว่าเทพอื่นๆ อีกหลายองค์ ทั้งยังมีรูปโฉมงดงาม จนมีคำเปรียบเปรยอยู่เสมอเมื่อพบบุรุษสุดหล่อว่า “สง่างามราวเทพบุตรอปอลโล”
เปรียบเทียบชื่อเทพเจ้าองค์เดียวกัน
กรีก
โรมัน
Zeus
Jupiter
Poseidon
Neptune
Hades
Pluto
Hera
Juno
Demeter
Ceres
Peresephone
Proserpina
Hestia
Vesta
Apollo
Apollo
Artemis
Diana
Aphrodite
Venus
Eros
Cupid
Ares
Mars
Hephaestos
Vulcan
Hermes
Mercury
Dionysus
Bacchus
Askepios
Aesculapius
Heracles
Hercules
ความคิดเห็น