ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Why I Like You ?!? [JoonDoong]

    ลำดับตอนที่ #2 : [ Why I Love You : I ]

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.พ. 56







    [ Why I Love You : I ]








    ย้อนกลับไปเมื่อวาน ...

     

                    “นูน่าคร๊าบบ ดุงงี่มาถึงโซลแล้วนะ” หนุ่มน้อยพูดกับพี่สาวผ่านโทรศํพท์มือถือเครื่องสวย ในขณะที่เข็นรถขนกระเป๋าของทางสนามบิน

                    //จ้าๆ แล้วนี่ดุงงี่หาที่พักรึยังน่ะ เพราะนูน่ายังติดต่อน้องจุนไม่ได้เลย คืนนี้ดุงงี่ต้องค้างที่อื่นก่อนนะ//

    เสียงน่ารักๆของพี่สาวตอบกลับมา

                    “ครับๆ เดี๋ยวดุงงี่จะหาที่พักแถวนี้ล่ะ ยังไงฝากบอกพี่กลางกับแม่ด้วยนะว่าดุงงี่คิดถึงมากๆ :)” เขาตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง นี่เป็นวันแรกที่เขามาถึงโซลในรอบสิบปี นับตั้งแต่ย้ายไปอเมริกากับครอบครัว

    ปาร์ค ซังฮยอน  ตื่นเต้นกับการกลับมาบ้านเกิดครั้งนี้ เขาตั้งใจมาทำหลายๆเรื่องนอกจากการกลับมาเรียนมหาลัยที่นี่ แม้ว่าแม่จะอยากให้เขาเรียนต่อที่อเมริกาให้จบ แต่เขาเลือกที่จะกลับมาเรียนที่โซลและตั้งใจจะทำงานที่นี่ซะเลยคนที่เห็นด้วยก็มีเพียงพี่สาวคนโตเท่านั้นที่ช่วยจัดการและหาซื้อตั๋วให้เขา

                    “แล้วเอาไงดีเนี่ย แล้วทีนี้จะพักที่ไหนดีล่ะ” หน้าสวยๆนั้นเริ่มฉายแววคิดหนัก พี่สาวก็ยังติดต่อพี่สนิทในวัยเด็กของเขาไม่ได้ แล้วนี่เขาจะทำยังไงดี ??   แต่ก็ไม่ยืนให้เสียเวลา เขาเดินเข็นสัมภาระออกไปที่หน้าสนามบินเพื่อโบกแท็กซี่ ไม่นานก็มีคันหนึ่งมาจอด

                    “ไปไหนรึพ่อหนุ่ม ของเยอะเชียว ??”คนขับวัยกลางคนถามขณะลงมาช่วยขนกระเป๋าใบใหญ่

                    “อ่อ คือผมมาจากอเมริกาฮะ ย้ายกลับมาเรียนต่อที่นี่น่ะ”เขาตอบอย่างเป็นมิตร

                    “หาที่พักอยู่ล่ะสิ เดี๋ยวลุงไปส่งที่โรงแรมดีๆให้แล้วกันนะ”

                    “ขอบคุณมากครับ กำลังหาที่พักพอดีเลย ^^”ใบหน้าหวานเริ่มมีรอยยิ้ม

     

    ชอนดุงมองออกไปรอบๆโซลผ่านกระจกรถ ที่นี่เปลี่ยนไปมาก ไม่เหมือนเมื่อสิบปีที่แล้วที่เขาเคยอยู่  หัวเริ่มสับผงก เพราะความเหนื่อยล้า

                    “เหนื่อยก็นอนเถอะน่าพ่อหนุ่ม เดี๋ยวถึงแล้วฉันจะปลุกเอง”

                    “ขอบคุณมากครับ งั้นผมของีบซักหน่อยนะครับเหนื่อยมากๆเลย ” เปลือกตาค่อยๆหลับลงและจมสู่ห้วงนิทราในที่สุด

    คนขับแท็กซี่มองกระจกหลังไปที่ผู้โดยสารที่บัดนี้หลับคอพับไปแล้ว

    “หลับซะนะพ่อหนุ่ม ฉันคงส่งแกได้แค่นี้ หึหึ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าของชายผู้ใจดี

     

                    บรื้นน ......

    รถแท็กซี่ขับออกไปโดยทิ้งร่างของเด็กหนุ่มไว้ข้างถนนพร้อมกับกระเป๋าสัมภาระของเขา

                    “อืมม .. เห้ย ! นี่มันอะไรกันวะเนี่ย” ชอนดุงตกใจมากเพราะตัวเองโดนทิ้งอยู่ที่ไหนซักแห่งในความมืดมีเพียงไฟจากเสาไฟฟ้าข้างถนนเท่านั้น

                    “ฟัคค นี่โดนทิ้งเหรอเนี่ย !?!” ชอนดุงหัวเสียและโวยวาย และพบว่ากระเป๋าตังค์โดนขโมยไปแล้ว นั่นยิ่งทำให้เขาหัวเสียไปใหญ่

                    “หึก .. มาวันแรกก็โดนซะแล้ว เจ้าปลาหมึกโง่เอ้ยย ฮึก แล้วนี่จะทำยังไงดี ... ทำไมถึงได้ใจร้ายกันขนาดนี้ ผมไปทำอะไรให้ใครเจ็บใจเนี่ยย ... นูน่าช่วยผมด้วยย T[]T” เขาปล่อยให้น้ำตาไหลไม่แคร์อะไรอีกแล้ว มันทั้งมืดทั้งหนาว ชอนดุงนั่งร้องไห้กอดเข่าตัวเองอยู่อย่างนั่น ถนนที่ว่างเปล่าไม่มีรถคันไหนผ่านมาเลย

                   

     

     

    “เฮ้ๆๆ นายน่ะ ตื่นเซ่ ... จะนอนให้แข็งตายอยู่นี่รึไงห๊ะ”  เสียงของใครบางคนปลุกเขาขึ้นมาจากการรอคอยที่เหนื่อยล้า ร่างบางงัวเงียเงยหน้ามองผู้มาเยือน

                    “มานอนอะไรตรงนี้เนี่ย รู้มั้ยถนนสายนี้มันอันตรายนะ”เสียงที่ปลุกเขาเอ่ยถาม

                    “เอ่อ...” ชอนดุงยังไม่ไว้ใจนายคนนี้ซักเท่าไหร่ กลิ่นโซจูฉุนๆเตะจมูกกับมอไซค์คันสวยอยู่ข้างหลัง มันทำให้นึกถึงเด็กแว๊นพิกล = =’

                    “ลุกขึ้นมาสิ เป็นใบ้รึไง ไม่ตอบอีก ??” ชายแปลกหน้าที่คาดว่าน่าจะอายุน้อยกว่าเขายื่นมือมาช่วย

    สุดท้ายร่างบางก็ยอมรับความช่วยเหลือจากคนแปลกหน้า เขาลุกขึ้นอย่างหวั่นๆ .. จะโดนหลอกอีกมั้ยเนี่ยย ..

                    “ผมโดนแท็กซี่มาทิ้งไว้ที่นี่อ่ะ แล้วเขาก็เอากระเป๋าตังค์ผมไปด้วย TT” พูดแล้วก็อยากจะร้องไห้ มาโซลวันแรกก็เจอเรื่องแย่ๆซะแล้ว

                    “เอ่า ซวยเลย งั้นมาๆไปพักบ้านผมก่อน” คนแปลกหน้าเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเขาขึ้น

                    “เห้ย คุณ จะทำอะไรน่ะ”ชอนดุงแย่งกระเป๋าคืนมา

                    “อะไรเล่าก็กระเป๋าตังค์หายไม่ใช่เหรอ ? แล้วจะไปนอนไหนบ้านอยู่ไหนเดี๋ยวไปส่ง”

                    “... ผมเพิ่งมาโซลน่ะผมไม่มีที่พัก”

                    “เออดี งั้นนอนบ้านผมแหละ”

    ชอนดุงพยักหน้าหงึกๆ ยังไงก็น่าไว้ใจอยู่ คงจะไม่เกิดอะไรขึ้น ร่างบางก้าวขาขึ้นซ้อนท้ายอย่างว่าง่ายพร้อมกับแบกกระเป๋าอีกใบวางไว้ระหว่างตัวเขาและคนขับมอไซค์

                    “เออลืมไป ผม บัง ชอลยง นะ เรียก มีร์ ก็ได้”

                    “อ่า ผม ปาร์ค ซังฮยอน ครับ เรียก ชอนดุง ก็ได้ ขอบคุณที่ช่วยนะฮะ ” ชอนดุงแนะนำตัวกลับและไม่ลืมที่จะเอ่ยขอบคุณ

                    “ไม่เป็นไรๆ ยังไงก็คนเกาหลีเหมือนกัน ว่าแต่นายมาจากไหนน่ะ” มีร์ชวนคุยระหว่างที่ขับรถ

                    “ผมมาจากอเมริกาครับ เพิ่งเรียนจบไฮสคูลน่ะ เลยขอแม่กลับมาเรียนมหาลัยที่บ้านเกิด”

                    “อ่าวงั้น ก็เป็นพี่ผมสินะ แต่ขอเรียก ชอนดุง เฉยๆได้มะ ?? ”

                    “เอ่อ แล้วแต่จะเรียกเหอะ = =’

    ทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อยจนถึงปลายทางเป็นบ้านหลังเล็กๆ มีร์พาเพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันแป๊บเดียวเข้าบ้านพร้อมกับหาอาหารเย็นให้กิน  ชอนดุงกินด้วยความหิว

                    “แล้วนี่นายจะยัดข้าวเข้าปากคำใหญ่ๆทำไมเนี่ย ค่อยๆกินก็ได้ 555” มีร์อดขำไม่ได้กับภาพตรงหน้า ทำเอาชอนดุงอายนิดๆ

                    “ไม่รู้สิผมชอบกินแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้วอ่ะ” ชอนดุงตอบเบาๆ แล้วกินต่อ

                    “ว่าแต่มาโซลคนเดียวแบบนี้ ไม่มีญาติเหรอ ???”

                    “มีครับ แต่ยังติดต่อไม่ได้เลยพี่สาวผมบอกจะหาทางติดต่อให้ เพราะต้องไปอยู่บ้านเขาก่อนจนกว่าแม่จะยอมซื้อบ้ายให้ผมที่โซล”

                    “แล้วญาตินายที่ว่าเขาชื่ออะไรล่ะ ???”

                    “อี ชางซอน ครับ แต่คนชอบเรียกพี่เขาว่า อีจุน อะไรเนี่ยแหละ”

                    “O.o … นี่นายเป็นน้องของจุนฮยองเหรอเนี่ย !!” มีร์ประหลาดใจเล็กน้อย

                    “ทำไมเหรอ ? หรือว่านายรู้จักพี่อีจุน ??”ชอนดุงสงสัยขึ้นมาในอาการตกใจของเพื่อนใหม่

                    “เขาเป็นเจ้าของร้านกาแฟที่ผมทำงานน่ะ โลกกลมจริงๆเลย 5555 งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะพานายไปหาจุนฮยองแล้วกันจะได้เจอกันซักที” มีร์ขำที่รู้ว่าโลกมันกลมซะจริงๆ อะไรนะที่พาให้เขามาเจอน้องของพี่ชายคนสนิท

                    “จริงเหรอครับ ?? ขอบคุณมากๆเลยนะครับ ผมรบกวนคุณซะเยอะเลยยังไงต้องขอบคุณมากๆนะครับ : )” ชอนดุงแทบจะก้มหัวขอบคุณจนมีร์ต้องมาห้ามไว้

                    “นี่ๆยังไงนายก็เป็นพี่ผมตั้งปีนึงนะ เรียกผมแบบเป็นกันเองหน่อยสิ อย่าเรียกคุณเลย แล้วอีกอย่างนะอย่าคำนับกันอย่างนั้นดิ เดี๋ยวผมก็อายุสั้นหรอก  - -

                    “ฮ่าๆๆ ขอโทษๆ งั้นผมเรียกนายว่ามีร์นะ: )

                    “อืม งั้นผมเรียก ชอนดุงฮยอง นะ : )

    สองคนแปลกหน้าเริ่มสนิทกันมากขึ้น ได้กินข้าวและเข้านอนกันอย่างสบายใจ

     

     

     

                    “ถึงแล้วล่ะ ร้านนี้แหละร้านของจุนนี่ฮยองล่ะ” มีร์ถอดหมวกกันน๊อกแล้วบอกคนซ้อนที่กำลังก้าวลงจากมอไซค์คันสวย  ชอนดุงมองอย่างหวั่นๆ นี่ต้องเข้าไปเจอหน้า ไอ้พี่บ้าพลังจอมกวนประสาทแล้วหรือเนี่ย ???

                    “เอ้า เข้าไปดิ ยืนเหม่อทำไมอ่ะดุงดุงฮยอง อากาศยิ่งหนาวๆอยู่ เข้าไปดี้...”มีร์ผลักร่างบางให้เดินเข้าร้าน

                    “ไม่เอาอ่ะ ไม่กล้าคนไม่ได้เจอหน้ากันเป็นสิบปี จะจำกันได้เรอะ”ชอนดุงกลัวนิดๆ

                    “โด่วว อย่าป๊อดดิ งั้นเดี๋ยวผมเข้าไปก่อนละกันเดี๋ยวมาตามนะ รออยู่นี่ล่ะ”มีร์เดินเข้าร้านไปทักทายพี่ๆในร้านปล่อยให้ชอนดุงหงอยอยู่ข้างนอก   

                    “จุนฮยอง มินโฮฮยอง สวัสดีครับ ^^” มีร์ทักทายพี่ๆทั้งสองที่มาเปิดร้านแต่เช้า

    “อ้าว มาซะเช้าเลยเจ้ามีร์ รู้งี้ชั้นเอาโซจูกรอกปากนายทุกวันก็ดีหรอกจะได้มาเช้าๆ ” จุนแซวน้องเล็กและขำไปพร้อมๆกับมินโฮ

                    “โด่วว ฮยองอ่ะ ผมก็อยากจะมาเช้ากับเขาบ้าง ไม่ดีเหรอ ?? งั้นเดี๋ยววันหลังผมจะมาร้านเที่ยงเลย”

                    “ทำอย่างนั้นหักเงินเดือนนะ” จุนพูดคาดโทษ ทำเอาน้องเล็กขำนิดๆ

                    “นี่ฮยอง ผมมีอะไรจะให้ดูล่ะ ” มีร์เดินไปหน้าร้านและทำท่าเหมือนกำลังพูดกับใครอยู่ และเหมือนกำลังพยายามดึงแขนคนคนนั้นให้เดินออกมาจากหลังพุ่มไม้ทรงเหลี่ยมหน้าร้าน  มินโฮชะเง้อคอยาวๆออกไปดูเล็กน้อยแต่ก็ยังมองไม่ค่อยจะเห็น ผิดกับอีจุนที่ไม่ค่อยจะสนใจอะไรมาก ตามองไปที่หนังสือพิมพ์อย่างเดียว

                    “มาเถอะน่า นายนี่มันดื้อจริงๆเลย ฮยองผมหาคนมาเสิร์ฟได้แล้วนะ นี่ไง เขาชื่อ ชอนดุงล่ะ ” มีร์ชี้ไปที่คนข้างๆที่เขาดึงแขนไว้อยู่ อีจุนที่แม้จะจ้องหนังสือพิมพ์อยู่ก็หันมามองคนที่มีร์กำลังพูดถึง

     

                    “ผู้หญิงเนี่ยนะ ?? มึงจะบ้ารึไง ร้านเรามีแต่ผู้ชายนะ”มินโฮพูดขึ้น

                    “เห้ย ไอ้ปลาหมึกขี้แย แกมาทำอะไรที่นี่”อีจุนยืนขึ้นด้วยความตกใจ

                    “อ่าว ใครขี้แย พูดงี้มีเคลียร์นะ ไอ่พี่บ้าพลังจอมกวนประสาท”ชอนดุงตอกกลับทำเอาทั้งมินโฮและมีร์งงไปตามๆกัน

                    “อ่าว พูดงี้อยากตายรึไง ไอ่ปลาหมึก เดี๋ยวจับย่างแดกซะนี่”จุนยังไม่ยอกสงบสงคราม

                    “พี่นั่นแหละ ป่านนี้เลิกเป็นประธานสมาคมขี้มูกแห้งรึยัง ?”เด็กน้อยก็ยังไม่ยอมเช่นเดียวกัน

    [อันนี้ถ้าใครเคยดูรายการ Sesame player แล้วจะรู้จักฉายานี้ของจุนฮยองนะฮะ // ไรเตอร์]

                    “พอๆๆ ทั้งคู่แหละโตเป็นฟายแล้วยังมาด่ากันอะไรแบบนี้อีก โว๊ะ ! ” เดือดร้อนกรรมการหน้ากบมาตัดสินมวยรอบเช้า มินโฮเดินมาขวางเวทีมวยระหว่างจุนและชอนดุง

    “แกย้ายไปอเมริกาแล้วไม่ใช่เรอะ กลับมาทำอะไรที่นี่เนี่ย ” จุนยอมสงบศึกแล้วถามน้องชายข้างบ้านเมื่อสิบปีที่แล้ว

    “คุณป้ายังไม่ได้บอกพี่เหรอ ว่าผมต้องมาอยู่บ้านพี่จนกว่าแม่จะซื้อบ้านที่โซลให้”ชอนดุงตอบแล้วทำสีหน้าเซ็งๆใส่พี่ชายจอมกวนประสาท

    “แม่ไม่เห็นบอกอะไรชั้นเลย อีกอย่างนะใครจะให้แกอยู่ด้วยมิทราบ ?? ”จุนทำหน้าตากวนประสาทใส่

     

    ...อร๊ากกกกก  !!! อร๊ากกกกก !!! อร๊ากกกกก !!! ... (ให้นึกถึงเสียงริงโทนที่เป็นเสียงกรี๊ดๆในหนังโรคจิตอ่ะ)

                    “ชางซอนพูดครับ” จุนตอบกลับไปที่ปลายสาย

    //จุนนี่อ่า นี่ดาร่านูน่านะ โฮ่ยย ติดต่อได้ซักที //

                    “อ่า สวัสดีครับ นูน่ามีอะไรรึเปล่าถึงโทรมา”จุนพูดพร้อมกับมองไปที่ชอนดุง คงต้องเกี่ยวกับเด็กนี่สินะ - _ -

    //คือว่านูน่าอยากจะฝากดุงงี่ไว้กับจุนนี่อ่ะ น้องมันกลับไปเรียนต่อที่โซล แต่แม่งอนไม่ย่มซื้อบ้านไว้ให้เพราะแม่อยากให้อยู่เมกาต่ออ่ะ เมื่อคืนน้องถึงโซลแล้ว แต่อยู่ๆก็ติดต่อไม่ได้ //

                    “อ่อ ครับนูน่า คือว่าน้องอยู่กับผมแล้วครับจะตุยกับน้องมั้ย ??”

    //ย๊า คุยๆๆๆ ><//

                    “นี่ไอ่เปี๊ยก พี่สาวนายโทรมา”จุนยื่นมือถือให้ชอนดุงที่ดีใจสุดขีดรีบแย่งมือถือมาทันที

                    “นูน่า >< ดุงงี่คิดถึงจังเบยยย นึกว่าจะไม่ได้คุยแล้วง่า ”ชอนดุงยิ้มจนแก้มปริ

    //ดุงงี่ ทำไมโทรหาไม่รับเลยล่ะ นึกว่าเป็นอะไรไปซะอีก // ซานดาร่า ถามน้องชายด้วยความเป็นห่วง

                    “นูน่า ดุงงี่โดนขโมยเป๋าตังค์กับโทรศํพท์ง่ะ T^T ดีนะที่มีร์มาช่วยไว้ไม่งั้นดุงงี่แย่แน่ๆเลย”

    // What ?? ใครมาแบบนี้กับดุงงี่เนี่ย โถ่ๆๆปลาหมึกน้อยของนูน่า //

                    “กูล่ะหมั่นไส้พี่น้องคู่นี้จริงๆ - _ - ” จุนพูดแบบหน่ายๆ

                    “พี่น้องเขารักกันดีจะตาย มึงนี่มันขวางโลกจริงๆเลย”มินโฮตอกกลับขำๆ

                    “สำหรับกูพี่น้องคู่ที่น่ารัที่สุดคืออี จินกิ กับน้องแทมินเท่านั้นล่ะเว้ยย”จุนพูดยิ้มๆ

                    “เออ มึงมันรักทุกอย่างที่เป็นอี จินกิ ไอ้จินกิมาเนียร์”เจ้าชายกบประชอดใส่เล็กน้อยก่อนจะผลักให้มีร์ไปทำเค้ก

    “ฮะๆ แค่นี้นะฮะนูน่า .. เอ้าจุนฮยอง นูน่าจะคุยด้วย” ชอนดุงยื่นมือถือให้กับพี่ชายจอมกวนประสาทที่เพิ่งนินทาเขาไปหยกๆ

                    “ครับนูน่า...”

    //ย๊า จุนนี่ยังไงนูน่าฝากน้องด้วยนะ ยังไงเราก็เคยเป็นเพื่อนบ้านที่สนิทกัน นูน่าต้องขอร้องจริงๆนะ เดี๋ยวนูน่าจะรีบอ้อนแม่ให้ซื้อบ้านให้น้องเร็วๆนะ นะๆจุนนี่นะ // พี่สาวที่ดีต้องอ้อนสุดขีดเพื่อนน้อง และมันก็ ... ได้ผล

    “ครับๆนูน่า ยังไงเราก็คนกันเองเดี๋ยวผมดูแลให้นะฮะ” จุนตอบกลับไปแบบยิ้มๆ

    //อ่า ขอบใจมากๆนะ งั้นแค่นี้แหละเดี๋ยวนูน่าโทรหาบ่อยๆ เพราะน้องโดนขโมยมือถือ บายจ้าจุนนี่ //

    “บายครับ”จุนกล่าวลาก่อนจะตัดสาย

    ถึงแม้จะรับปากอย่างเต็มใจ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจุนนี่ผู้แสนดีในสายตานูน่าจะทำตัวดีกับน้องซะหน่อย !! นั่นเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของ อีจุน ตอนนี้

                    “เอ้า ตกลงยังไงวะไอ้จุน แล้วนี่น้องมึงเป็นผู้ชายเหรอ ??” มินโฮยังงงไม่เลิก แต่พอจะรู้จากมีร์นิดหน่อยว่าเป็นน้องรู้จักในวัยเด็กของอีจุน

                    “เออดิ ตามึงทำด้วยฝาเป็บซี่รึไงถึงเห็นมันเป็นผู้หญิง ตาโตซะเปล่า โด่วว” ปากไม่ยอมอยู่สุขกัดเพื่อนได้ตลอดเวลา เป็นความสามารถพิเศษของเขาคนนี้ล่ะ - _ -

                    “เออนี่ แล้วเสื้อผ้านายอยู่ไหน ยังไงนายก็ต้องไปนอนบ้านชั้น เดี๋ยวเลิกงานจะพาไปเอาเสื้อผ้า”จุนเดินไปถามเด็กน้อยน่าสงสาร(?)

                    “อยู่บ้านมีร์ฮะ ว่าแต่นูน่าบอกฮยองแล้วเหรอ ?”

                    “เออดิ บอกแล้วล่ะ นายนี่มันจริงๆเลยทำไมไม่ทำตามคุณน้าบอกล่ะกลับมาเรียนที่นี่เพื่อ ? ”จุนถามแล้วเดินไปขยี้ผมนุ่มๆนั่นเล็กน้อย

                    “โอ้ยย อย่าเล่นหัวสิ ก็แค่อยากกลับมาเรียนนี่อ่ะ ผมเบื่อฝรั่งก็แค่นั้นเอง แต่ยังหางานพาร์ทไทม์ไม่ได้เลย”ชอนดุงปัดมือที่เล่นผมของเขาออกไป

                    “ไม่เห็นจะยากเลย ดุงดุงก็ทำงานที่นี่สิ เนอะมินโฮฮยอง”มีร์เสนอหน้าออกมาจากครัว อยากมีส่วนร่วมด้วย

                    “แกยุ่งไรด้วยไปทำเค้กไป๊”มินโฮดันน้องเล็กเข้าครัวไป

                    “กูพูดตอนไหนว่าจะรับมันเข้า ... เออ แต่ก็ดีนะ ชั้นขาดคนเสิร์ฟพอดี นายก็ทำงานกับชั้นสิ ไอ้ปลาหมึก” จุนทำหน้าคิดๆในตอนแรกแต่ก็เปลี่ยนใจอย่างฉับพลัน ทำไงได้ก็คนเก่าเพิ่งลาออกไปแต่งงานเมื่อสองวันที่แล้ว แถมร้านเขาคนเยอะซะด้วย จะให้คนทำเค้กมาเสิร์ฟด้วยก็เหนื่อยกันแน่

                    “...ฮยองพูดจริงเหรอ ?? นี่ไม่ได้หยอกผมเล่นใช่มั้ยเนี่ย ?”ชอนดุงทำหน้างง

                    “เออ...ไปเปลี่ยนชุดได้แล้วอีกครึ่ง ชม. ร้านเปิด”จุนทิ้งคำพูดไว้แค่นั้น แล้วเดินเข้าเคาน์เตอร์ไป

                    “ตาบ้านี่ใจดีกับเขาเป็นด้วยแฮะ”ชอนดุงพูดยิ้มๆ

                    “ฮ่าๆๆ นายนี่โชคดีจังนะ ปกติจุนมันไม่รับใครง่ายๆนะเนี่ย ป่ะ ไปเปลี่ยนเสื้อ ฮยองชื่อมินโฮนะ ^^”มินโฮแนะนำตัวน้องใหม่

                    “อ่าผมปาร์ค ซํงฮยอนฮะ เรียก ชอนดุงก็ได้ ^^ ชอนดุงตอบกลับ

                    “เย้ๆๆๆๆ ดุงดุงได้ทำงานด้วยกันแล้ววว ^o^” มีร์วิ่งออกมาจากครัวด้วยสภาพผ้ากันเปื้อนเขรอะไปด้วยแป้งมากอดเพื่อนใหม่อย่างดีใจเกินหน้าเกินตา

                    “เห้ยเจ้ามีร์ ชอนดุงเป็นพี่นายไม่ใชเหรอ”มินโฮเขกหัวน้องเบาๆในความไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่

                    “โอ้ยย ทำไมล๊า ก็ผมอยากมีเพื่อนนี่ ไม่อยากเป็นน้องเล็กคนเดียวง่ะ”

                    “ฮ่าๆๆๆ เอาเถอะครับ ให้เขาเรียกผมอย่างนี้แหละ เนอะมีร์ ^^”ชอนดุงยิ้มให้คนที่กอดเอวเขาอยู่ ทำให้มินโฮอดยิ้มกับภาพตรงหน้าไม่ได้ ก่อนจะพาน้องใหม่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หลังร้าน

    “ชิ ไอ้แกะน้อยขี้อ้อน”จุนหมั่นไส้น้องเบาๆ ก่อนจะมีมือขาวๆคู่หนึ่งมาปิดตาเขา

    “ขอโทษครับเจ้านาย ผมมาสาย”เสียงสดใสนั้นพูดขึ้น  คนโดนปิดท้ายยิ้มหน้าบานก่อนจะจับมือคู่นั้นออกและหันหลังกลับไปดู พลางกุมมือคู่นั้นไว้ไม่ปล่อย

    “ไม่เป็นครับ แต่ต้องโดนลงโทษนะ 5555 ”จุนกอดร่างนั้นแน่น และทั้งสองก็หัวเราะไปพร้อมๆกัน      





    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



    Talk With me !!! by SoL :)


     ไปแล้วหนึ่งตอนคร๊าบบ ยังไงฝากกันด้วยน๊าาา ติชมกันเยอะๆจ้า ช่วงนี้ไรเตอร์ใกล้สอบละแต่จะรีบอัพอีกแน่นอนเพื่อรีดเดอร์ทุกท่าน ^^

    @sazumi ขอบคุณมากสำหรับคอมเม้นท์แรกอยากบอกว่าดีใจมากที่นานๆทีจะเจอกันที่เมนคู่เดียวกับผมม ><  แถมยังเป็นแฟนคลับซะด้วย    ว้าวๆๆ ดีใจมากๆเลย ยังไงติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะ  แล้วอย่าลืมบอกต่อกันด้วยนะจ๊ะ ^^








           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×