ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คารีเฟียร์ กับตำราแห่งมนตรา และทายาทจอมอสูร

    ลำดับตอนที่ #5 : ความฝันกับสัตว์อสูร (1)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 50


    ดอกไม้นานาพรรณพากันแบ่งบานรับแสงอาทิตย์ยามบ่าย ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสและเมฆก้อนน้อยใหญ่เป็นรูปร่างต่างๆ ลอยอยู่เบื้องบน  คารอสมองภาพธรรมชาติตรงหน้าด้วยความสบายใจสุดๆ ความทุกข์ที่มีอยู่ลืมมันไว้เบื้องหลัง  ในขณะที่เอนหลังนอนกลางทุ่งดอกไม้เปลือกตาค่อยๆ เลื่อนมาปิดบังดวงตาสีเขียวมรกต  เสียงน้ำตกดังแว่วมาตามสายลม  คารอสค่อยๆ เดินไปตามเสียงของน้ำตกยิ่งเดินเสียงน้ำตกก็ยิ่งดังขึ้นจนเห็นสายน้ำสีฟ้าสดใสของมหาสมุทรตกกระทบกับก้อนหินน้อยใหญ่เบื้องล่าง  คารอสยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ  จนกระทั่งนกยักษ์รูปร่างคล้ายกับนกอินทรีย์บินลงมาทางตน  ส่วนหัวของมันเหมือนนกอินทรีย์แต่ตั้งแต่คอลงมาเรื่อยๆ จนถึงเท้ากลับมีรูปร่างเหมือนมนุษย์  ปีกแต่ละข้างกว้างและใหญ่ขนาดสนามฟุตบอลมีไฟสีน้ำเงินเข้มรอบปีกแต่ละข้างของมัน  กรงเล็บแหลมคมเหมือนใบมีดมีไข่ใบใหญ่สีแดงเหมือนสีเลือดหนึ่งฟอง 

                    กริซ  เสียงคำรามของมันดังกึกก้องจนคารอสต้องยกมือขึ้นปิดหู  พร้อมทั้งเรียกดาบวิญญาณแห่งเปลวเพลิง  และคทาไฟร์ฟินิกส์ให้ปรากฏอยู่ในมือทั้งสองข้างของคารอส 

                    กริซ กริซ กริซ  สัตว์อสูรตนนั้นยังส่งเสียงร้องออกมาไม่หยุดเมื่อมันเห็นผู้บุกรุกล่วงล้ำเข้ามาในเขตของมัน  ดวงตากลมโตสีเพลิงจ้องมองมาทางคารอสพร้อมกับบินอยู่รอบๆ คารอสทันที

                    เจ้าเข้ามาในสวนวิหกโลกันตร์ได้อย่างไร  เสียงพูดของสัตว์อสูรนั้นแผ่วเบาแต่กับดังกึกก้องและกังวารยึ่งนัก

                    ข้าชื่อคารอส ซาฟิก้า ไฟร์ ราชเวียร์เป็นองค์ชายรัชทายาทของเมืองลาพาเท็นโต้  และข้าก็ไม่รู้ว่าข้าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไร  คารอสพูดบอกชื่อเสียงเรียงนามของตน  และตอบคำถามของสัตว์อสูรตรงหน้า

     

                    เมื่อสัตว์อสูรได้ยินดังนั้นจึงบินลงมายืนตรงหน้าคารอสทันที  แค่เพียงช่วงเวลากระพริบตาสัตว์อสูรก็พาร่างอันใหญ่โตของมันมายืนอยู่ตรงหน้าคารอสอย่างรวดเร็ว

                    หรือว่าเจ้านี่จะเป็นผู้ครอบครองสัตว์อสูรในไข่ฟองนี้  คงต้องทดสอบซะหน่อยแล้ว  ถ้าไม่ใช่มันต้องตายสถานเดียว  สัตว์อสูรลำดับความคิดภายในใจ

                    ถ้าเจ้าไม่รู้  ข้าคือพญาอินทรีย์พาทูคาเมน  และข้าเป็นผู้ปกครองสวนแห่งนี้  สัตว์อสูรแนะนำตนเองเช่นกัน

                    ถ้าเจ้าพิสูจน์ว่าเจ้าสามารถผ่านด่านทดสอบของข้าได้  ข้าจะให้ไข่ฟองนี้กับเจ้า  แต่ถ้าไม่เจ้าจะต้องตายอยู่ที่นี่  สัตว์อสูรพูดพลางชูไข่ในอุ้งมือให้คารอสดู

                    ตกลง  คารอสพูด  แต่ภายในใจชักเริ่มกังวล

                    สัตว์อสูรตรงหน้าร่ายเวทโบราณด้วยภาษาที่คารอสไม่รู้จัก  เสียงร่ายเวทดังกึกก้องและกังวาร  ตัวอักขระสีทองอร่ามปรากฏขึ้นมาล้อมรอบตัวคารอส  จำนวนตัวอักขระเพิ่มจำนวนมากขึ้นตามคำพูดของสัตว์อสูร  เมื่อสัตว์อสูรร่ายเวทจนครบอักขระสีทองทุกตัวต่างหมุนวนรอบตัวของคารอส  และเริ่มหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งคารอสเริ่มมองเห็นไม่ชัดสติเริ่มจะดับ  ตรงบริเวณที่เท้าของคารอสเคยยืนอยู่นั้นก็ปรากฏเป็นหลุมสีดำขนาดใหญ่  และแรงดึงดูดมหาศาลก็พาคารอสลงไปในหลุม

     

     

                    ทางด้านเอคัสปรากฏเป็นภาพของมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตา  ไม่ปรากฏเกาะให้เห็น  ทั่วทั้งบริเวณมีแต่น้ำในมหาสมุทรมีสีเขียวปนคราม  ช่างเป็นภาพที่สวยงามยิ่งนักดูแล้วจรรโลงจิตใจได้เป็นอย่างดี  แต่มีหรือที่เอคัสจะนิ่งนอนใจกับความผิดปกติตรงหน้า  ชายหนุ่มกำลังยืนอยู่บนผิวน้ำเพื่อสังเกตการณ์ 

                    ทำไมเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้  แล้วที่นี่มันที่ไหนกัน  คิ้วทั้งสองข้างของเอคัสขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

                    ตรงกลางมหาสมุทรเริ่มเกิดกระแสน้ำวนขึ้น  และน้ำวนเริ่มขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นพื้นดินในมหาสมุทร  น้ำในมหาสมุทรกำลังแยกออกเปิดทางให้กับเหล่าคาราวานพวกทหารใต้สมุทร  ปูก้ามโตถือหอก  กุ้งมีดาบนับสิบอยู่ตามขาของมัน  เหล่าทหารอสูรต่างพร้อมใจกันเปิดทางตรงกลางออกปรากฏให้เห็นเป็นชายชรารูปร่างใหญ่โตในมือถือหอกเล่มใหญ่ขนาดมหึมา  ช่วงเอวลงไปมีลักษณะเหมือนหางปลามีสีเขียวดั่งสีน้ำมหาสมุทรของที่นี่  ชายชราเริ่มขยับกายเข้ามาหาเอคัสเรื่อยๆ  ท่าทางและขนาดใหญ่โตของมันเริ่มทำให้เอคัสไม่ไว้วางใจ

     

                    มหาสมุทรเลือนลั่น  เอคัสเรียกคทาประจำตัวออกมาเพื่อเตรียมพร้อม  หัวลูกแก้วสีฟ้าใส  มีสายน้ำไหลวนอยู่ข้างใน  ด้ามคทาเป็นไม้เนื้ออ่อนสีขาว  ลวดลายสวยงาม

                    เจ้าหาญกล้าคิดมาขโมยสมบัติที่มหาสมุทรโอเชี่ยนตาติกของข้า  เสียงพูดที่เปล่งออกมานั้นแหลมสูงจนเหลือเชื่อ  ถ้ามีกระจกสักบานมาวัดระดับความแหลมสูงแล้วล่ะก็  คงจะแตกไปตั้งแต่คำพูดแรกของสัตว์อสูรแล้ว

                    ท่านเป็นใคร  คำพูดแสนสุภาพอย่างเกรงใจสัตว์อสูรตรงหน้ามาจากปากของเอคัสที่ยืนสง่าอย่างไม่สะทกสะท้านกับสัตว์อสูรตรงหน้า

                    ฮ่าๆๆๆๆๆ  เสียงหัวเราะของสัตว์อสูรตรงหน้านั้น  ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ที่มหาสมุทร  คลื่นลูกใหญ่ที่พัดมาทางเอคัสหวังให้ตายไปทันที

                    วอเตอร์วอลล์  กำแพงน้ำสีฟ้าสดใสปรากฏขึ้นตรงหน้าเด็กหนุ่มทันที  ความสูงของมันสามารถกั้นการมองเห็นของสัตว์อสูรไว้ได้

                    เจ้าบังอาจรุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของข้า  เจ้าจงตายซะเถอะ  ชายชรารูปร่างคล้ายเงือกพูดกับเอคัสพร้อมทั้งร่ายเวทจนผืนน้ำสั่นสะเทือน  ท้องฟ้าคำรามเลือนลั่นจากท้องฟ้าสีฟ้ามีก้อนเมฆน้อยใหญ่กลายเป็นมืดครึ้นขึ้นถนัดตา  บรรยากาศเย็นเยือกและวังเวงยิ่งนัก

     

                    เปร้ง  เสียงฟ้าร้องดังสนั่น ปรากฏสายฟ้าผ่าลงทุกทิศทุกทางด้วยอัตราความเร็วเหนือแสง

                    ตายไปซะ  ฟังจากเสียงก็ดูรู้อยู่แล้วว่ามันเกรี้ยวกราวขนาดไหน

                    สัตว์อสูรตรงหน้าไม่เสียเวลาแนะนำตัวแม้แต่น้อย  ความกลัวที่จะมีใครมาขโมยไข่ที่อยู่กับมันมาเป็นเวลานานนับหลายพันปี  ทั้งที่ไข่มันน่าจะฟักได้แล้วก็ตาม  แต่ไข่สีฟ้าอมเขียวใบนั้นกลับไม่เคยแม้แต่จะฟักแม้แต่น้อย  สัตว์อสูรจึงนำไข่ใบนั้นไปซ่อนไว้ในตัวของมันเอง

                    ข้าแต่เทพีแห่งสายน้ำและมหาสมุทร  ขอท่านจงโปรดมอบพลังให้แก่ข้า  เจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทรทั้งปวง  ขอพลังให้ข้าได้ปกป้องไข่ของข้าด้วยเถิด  สิ้นเสียงของสัตว์อสูรตรงหน้า  คลื่นทะเลปั่นป่วนขึ้นมาทันใด  แม้แต่กำแพงเวทของเอคัสก็มิอาจต้านอยู่

                    ข้าในนามของเอคัส  ฟามินโก้  เวล  เซราฟ  องค์ชายรัชทายาทอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรอินทีโมดาส  ผู้ควบคุมพลังเวทธาตุน้ำ  ขอจงโปรดประทานพลังให้กับข้าด้วยเถิด  สิ้นคำกล่าวของเอคัสหัวลูกแก้วบนคทาได้เปร่งแสงสีฟ้าอ่อนเจิดจ้า  จนสัตว์อสูรต้องหลับตา  พลังสีน้ำเงินครามดั่งสีน้ำทะเลต่างไหลเวียนเข้ามาในหัวลูกแก้วของชายหนุ่มทันที

     

     

                    คารีเฟียร์กำลังนอนอยู่กลางทุ่งหญ้ากว้างใหญ่อย่างอารมณ์ดีภายใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส  ด้านหน้าของเธอไกลออกไปประมาณหนึ่งกิโล  เป็นป่าผลัดใบแลดูร่มรื่นยิ่งนัก  หมู่นกต่างพากันขับขานเสียงเพลงให้เธอฟัง  แต่แล้วความเงียบก็บังเกิด  สัญชาติญาณเตือนให้เธอระวังตัว

                    ฉึก  ฉึก  ฉึก  มีดสั้นจำนวนสามเล่มก็ถูกส่งมาเป็นรางวัลสำหรับคนที่กำลังนอนอารมณ์ดีเกินเหตุ 

                    ใคร  ข้าถามว่าใคร  คารีเฟียร์ที่กำลังอารมณ์เสีย  เสียอารมณ์อย่างที่สุดตะโกนออกไป  เมื่อกระโดดหลบวิถีของอาวุธที่ส่งมายังเธอ

                    พึบ  ฉับ  ฉับ  ตึง  นอกจากจะไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกแล้ว  ยังแถมมีดสั้นอีกหนึ่งเล่มให้คารีเฟียร์อีก  ต้องบอกว่าโชคยังเข้าข้างคารีเฟียร์อยู่  เพราะเธอเห็นแสงสะท้อนใบดาบของมีดสั้นจึงทำให้หลบได้ทัน  มีดสั้นจึงไปผ่าเอาต้นไม้ด้านหลังเธอ

                    ดูจากความรุนแรงแล้วต้องร่ายเวทเพื่อเพิ่มพลังทำลายเป็นแน่  ลำพังมีดสั้นไม่สามารถตัดต้นไม้ได้แน่นอน  สาวน้อยวิเคราะห์พลังทำลายของคู่ต่อสู้  พร้อมกับการปรากฏตัวของชายชุดดำหนึ่งคน  เป็นชุดสีดำรัดรูป  ที่ข้างหลังเหน็บดาบซามูไรอยู่สองอัน

                    นายนี่ชอบเล่นทีเผลอใช่ไหม  คารีเฟียร์พูดจบก็เรียกดาบมาไว้ที่ตัว  สายลมสังหารตอนนี้ปรากฏอยู่ที่มือของคารีเฟียร์  และความโกรธของคารีเฟียร์ทำให้ลมหมุนที่ใบดาบทวีความรุนแรงมากขึ้นอีก

                    คารีเฟียร์ใช้ความเร็วของนักฆ่าฟาดฟันดาบใส่ศัตรูตรงหน้าทันทีไม่ปล่อยให้ศัตรูตรงหน้าได้ตั้งตัว  แรงโกรธทำให้พลังในการลงดาบแต่ละครั้งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น

                    ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

                    สาวน้อยเงี้ยงดาบขึ้นฟันครั้งสุดท้ายด้วยความแรงสูงสุดเท่าที่ตัวเองจะมี  และนั่นทำให้ชายชุดดำต้องใช้สองมือจับปลายด้ามและยกขึ้นกันดาบของคารีเฟียร์อย่างรวดเร็ว  การลงดาบครั้งนี้ดุดัน  และหนักแน่นมาก  ทำให้ชายชุดดำเกือบจะกันคมดาบของคารีเฟียร์ไม่อยู่  คารีเฟียร์ไม่รอช้าใช้ฝ่าเท้าน้อยๆ ของเธอกระโดดเตะก้านคอให้อีกทีหนึ่งด้วยความรักสุดซึ้ง  แล้วกระโดดออกมาตั้งหลัก  ชายชุดดำซึ่งโดนลูกเตะมหากาฬของคารีเฟียร์เข้าไปถึงกับยืนไม่อยู่  ต้องใช้ดาบปักลงพื้นแล้วใช้ยืนค้ำแทนไม้เท้า

                    เป็นไง  ตกลงจะบอกได้หรือยังว่านายเป็นใคร  แล้วมาทำร้ายฉันทำไม  คารีเฟียร์ถามคำถามต่อทันที  เพราะตอนนี้เธอยังไม่มีอารมณ์จะสู้เท่าใดนัก

                    ข้าก็เป็นคนธรรมดาไง  หรือว่าเจ้าเห็นข้าเป็นเทวดา  หรือเทพบุตรหน้าตาหล่อเหลาล่ะ  ชายชุดดำไม่ตอบคำถาม  แถมยังพูดจากวนฝ่าเท้าของคารีเฟียร์เต็มที่

                    ได้ไม่เป็นไร  แต่นายตาย...  คารีเฟียร์ที่เสียอารมณ์เต็มที่พูดจบก็ร่ายเวททันที

                   

     

                    ทางด้านคำสิงห์นั้นได้ไปโผล่กลางทะเลทรายในอียิปต์ที่อากาศแสนจะร้อนระอุ  เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มปรากฏเป็นตัวหุบเขาตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์  ฝั่งตรงข้ามกับเมืองธีบส์  ยิ่งอยู่กลางทะเลทรายอย่างนี้ด้วยแล้วคำสิงห์ยิ่งโมโหหนักเข้าไปอีก 

                    ที่นี่มันที่ไหนนะ  ดูคุ้นๆ ยังไงชอบกล นึกออกแล้วอียิปต์นี่หว่า  งั้นนี่ก็หุบผากษัตริย์นี่เอง  คำสิงห์บ่นรำพึงกับตัวเองในใจ

                    ทำไมข้าไม่มีพลังเวทธาตุน้ำบ้างนะ  ร้อนจะตายอยู่แล้ว  หิวน้ำด้วย  คำสิงห์บ่นตัดพ้อต่อว่าตัวเองที่มีพลังเวทธาตุดิน  เพราะตอนนี้ชายหนุ่มต้องการน้ำอย่างแรง

                    เฮ้ย!  นั่นแม่น้ำไนล์นี่หว่า  คำสิงห์ซึ่งเห็นแม่น้ำไนล์มาแต่ไกลก็ดีใจจนวิ่งไปไม่หยุด  จุดหมายสำคัญคือแม่น้ำสายสีน้ำเงินสดใส  แต่วิ่งไปได้หนึ่งชั่วโมงก็ยังไปไม่ถึงซะที 

                    ขนาดใช้ความเร็วของนักฆ่าแล้วนะ  ทำไมมันไกลจังว่ะ  คำสิงห์ที่ยังวิ่งไม่หยุดก็บ่นกับตัวเอง  ขณะที่วิ่งไปคำสิงห์ก็เกิดไอเดียเจ๋งแล่นขึ้นมาในสมอง

                    ตูบ  คำสิงห์ใช้เวทพลังธาตุของธาตุดินทันที  พื้นทรายตรงใต้เท้าคำสิงห์ยุบตัวลงจนตอนนี้คำสิงห์อยู่ใต้ผืนทรายไปแล้ว  และกำลังเคลื่อนตัวไปใต้พื้นทรายอย่างรวดเร็ว

                    ในเมื่อวิ่งไปมันเหนื่อย  งั้นดำทรายมันไปเลยดีกว่า  ให้มันรู้กันไปเลยว่าคนอย่างข้าพลเรือนลิงคำสิงห์ซะอย่าง  คำสิงห์ยิ้มให้กับความคิดของตัวเองในตอนนี้  แถมหน้าตาของคำสิงห์ในตอนนี้มันก็เหมือนลิงอีกต่างหาก 

                    ขณะที่กำลังเคลื่อนตัวไปใต้พื้นทรายอย่างรวดเร็ว  ไม่นานนักคำสิงห์ก็มาปรากฏอยู่ตรงริมแม่น้ำไนล์  และก้มหน้าก้มตาดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว 

                    ชื่นใจสุดๆ เลย 

     

                    คำสิงห์พูดออกมาอย่างสบายใจ  และล้างหน้าในแม่น้ำไนล์ทันที  และแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นฝูงกองทัพผีดิบกำลังเคลื่อนตัวมาหาคำสิงห์อย่างรวดเร็ว  สภาพของมันมีผ้าลินินเก่าๆ จนกลายเป็นสีชาพันอยู่รอบร่างกายของมัน  กลิ่นลมหายใจเหม็นสาบเกินคำบรรยาย ที่เห็นจะไม่มีผ้าพันไว้ก็เหลือแต่ลูกตาดีแดงกล่ำ  และปลายนิ้วที่โผล่ออกมามีสภาพเหมือนหนังแห้งกรังติดกระดูกสีดำน่าเกลียดน่ากลัว

                    เฮ้ย!  นั่นมันมัมมี่นี่หว่า  จะหนีก็ไม่ทันแล้ว  คำสิงห์พูดพร้อมกับที่กองทัพมัมมี่ค่อยๆ โผล่ขึ้นมาจากพื้นทรายจนตอนนี้มีจำนวนไม่ต่ำกว่าห้าสิบตัวแล้ว 

                    เจ้าต้องมาเป็นทาสรับใช้ของข้าไปชั่วชีวิตของเจ้า หึๆๆๆๆ  เสียงพูดของมันแหลมสูงและดูวังเวง  ทำให้ขนในกายถึงกับลุกขึ้นมาทันใด  หนึ่งในกองทัพมัมมี่พูดขึ้น  ลักษณะของมันดูแล้วเหมือนมัมมี่ปกติ  แต่ที่แปลกเห็นจะมีคทาอยู่ในมือของมัน  หัวลูกแก้วบนคทาสีเขียวมรกต 

                    สงสัยเจ้านั่นต้องเป็นหัวหน้าแน่ๆ  คำสิงห์รำพึงกับตัวเองในใจ  พร้อมทั้งใช้มือลูบปลายคางอย่างใช้ความคิด

                    พ่อจะยิงให้ไส้แตกเลย  ให้มันรู้ไปว่ามันจะไม่ตายใหม่  ตายแล้วก็ยังตายได้อีกเว้ย  ถ้าลูกกระสุนหมดก็ใส่ใหม่ได้โว้ย  คำสิงห์พูดออกมาด้วยเสียงดังเพื่อกลบเกลื่อนความกลัว

     

     

                    ทางด้านคารอสเมื่อรู้สึกว่ามีสายน้ำลอยอยู่รอบตัว  แต่อุณหภูมิของมันเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ  เปลือกตาจึงค่อยๆ เลื่อนขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีเขียวมรกต  กับน้ำสีน้ำเงินที่กำลังร้อนขึ้น  ไวกว่าความคิดมือซ้ายวาดเป็นรูปดาวห้าแฉก  แสงสีม่วงอ่อนปรากฏขึ้นเป็นรูปดาวห้าแฉกก่อนส่องแสงสว่างขึ้นเรื่อยๆ ตามที่คารอสวาด  พร้อมกับที่ไฟร์ฟินิกส์ปรากฏอยู่ในมือของคารอสทันที 

                    ข้าแต่เทพแห่งอัคคี  เจ้าแห่งไฟขอจงมอบพลังให้แก่ข้า  โปรดประทานเพลิงโลกันตร์ให้แก่ข้า  คารอสเริ่มร่ายคาถาทันที  ไฟสีน้ำเงินปนส้มปรากฏขึ้นภายในหัวลูกแก้วบนคทาของคารอสทันที

                    ไฟร์วอลล์  กำแพงไฟสีน้ำเงินปรากฏขึ้นล้อมรอบตัวคารอสทันที  เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้คารอส

                    หึๆๆๆๆ  ใช้ได้นี่เจ้า  พญาอินทรีย์พาทูคาเมนพูดขึ้นอย่างถูกใจในพลังของไฟในตัวคารอส  พญาอินทรีย์พาทูคาเมนกระพือปีกอันใหญ่โตของมันทันที  ทำให้เกิดพายุลูกไฟสีส้มพุ่งตรงมาใส่คารอสเต็มๆ

                    ซุปเปอร์ไฟร์   ลูกไฟสีน้ำเงินปนส้มพุ่งเข้าใส่พญาอินทรีย์พาทูคาเมนทันที  จากลูกไฟเล็กๆ  ขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสัตว์อสูรหลบลูกไฟไม่พ้น  มันจึงอ้าปากปรากฏเป็นแสงวงกลมเล็กๆ สีส้มและเริ่มขยายขนาดเมื่อรวบรวมพลังได้มากพอ  จึงปล่อยใส่คารอส

                    แต่ไม่ทันที่ลำแสงสีส้มจะมาถึงตัวคารอสก็ปรากฏกำแพงไฟสีน้ำเงินปนส้มของคารอสเข้ามาขวางไว้ทันที

                    กริซ  กริซ  กริซ  พญาอินทรีย์พาทูคาเมนส่งเสียงคำรามกึกก้องสนั่นหวั่นไหวอย่างไม่พอใจที่คารอสรอดพ้นจากลูกไฟของตนไปได้  เสียงคำรามนั้นทำให้ถ้ำถึงกับสั่นสะเทือนขึ้นมาโดยพลัน

                    ดาบวิญญาณแห่งเปลวเพลิง  ดาบคู่เล่มใหญ่  ใบมีดกว้างและหนา  ใบดาบสีแดงเข้ม  แต่ใบดาบนั้นใส  และเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ภายในใบดาบแลดูสวยงาม  ด้ามดาบเป็นสีเงิน  สลักลวดลายเข้มแข็ง  ปรากฏอยู่ในมือของคารอส 

     

                    ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก 

                    เสียงที่ร้องออกมาจนดังสนั่นเพื่อเรียกกำลังที่มีอยู่ทั้งหมดให้ออกมา  พร้อมกับวิ่งเข้าไปหาสัตว์อสูรตรงหน้าทันที 

                    มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก  พญาอินทรีย์พาทูคาเมนพูดจบก็กระโดดขึ้นพร้อมๆ กับอุ้งมือปรากฏเป็นจักรไฟขนาดใหญ่  มันหมุนเป็นวงกลมและเพิ่มขนาดเร็วขึ้น  จนเกิดกระแสไฟฟ้าลั่นอยู่ข้างในและพุ่งตรงเข้าใส่คารอส  ณ เวลานั้น

                    พรึบ  พรึบ  พรึบ

    คารอสยกดาบคู่ขึ้นฟันจักรไฟที่พุ่งมาใส่ตนจากทุกทิศทาง  แต่ไม่ว่าจะฟันยังไงก็ยังฟันไม่ทันความเร็วของจักรไฟ  ตามตัวปรากฏเป็นบาดแผลทั่วทั้งตัวเลือดที่ไหลออกมาสร้างความเจ็บปวดให้ไม่น้อย  อีกไม่นานบาดแผลพวกนี้จะทำให้อ่อนเพลียเพราะเสียเลือด  และสิ่งที่กัลป์มาทอริกซ์เอ่ยก็ปรากฏขึ้นในสมองของคารอส  การใช้จิต

                    นี่เจ้าถอดใจยอมแพ้แล้วหรือ  ถึงได้หลับตารอความตายอยู่ตรงนั้น  ได้ข้าจะช่วยสงเคราะห์เจ้าเอง  สัตว์อสูรที่เห็นคารอสยืนหลับตาอยู่  ก็คิดว่าเด็กหนุ่มถอดใจยอมแพ้จึงขว้างจักรไฟใส่คารอสทันที

                    ตั้งสมาธิใช้การเคลื่อนไหวโดยใช้จิต  คารอสรำพึงกับตัวเองในใจ

                    เคร้ง  เคร้ง  เคร้ง 

    บรึมมมมมมมมมมม  คราวนี้กลับกลายเป็นว่าคารอสฟันจักรไฟได้ทันทุกครั้ง  ตามมาด้วยเสียระเบิดของจักรไฟ

                    เจ้าบังอาจทำลายอาวุธของข้า  สัตว์อสูรที่กำลังโกรธจัดพูดด้วยเสียงดังกึกก้อง  พร้อมกับไอสังหารที่แผ่ออกมาอย่างรุนแรง

                    ท่านเอาจริงแล้วเหรอ  คารอสที่เห็นฝ่ายตรงข้ามเริ่มเอาจริง  จริงเริ่มเอาจริงด้วยเช่นกัน

                    ผ่าอัคคี  ดาบเล่มใหญ่พร้อมกับไฟที่ปรากฏขึ้นแทนด้ามดาบนั้นมีความร้อนแรงดังเพลิงโลกันตร์ได้ปรากฏเข้ามาในมือของสัตว์อสูร

                    ทั้งสองพุ่งเข้าหากันทันทีน้ำที่เดือดอยู่ข้างล่างไม่เป็นอุปสรรคแม้แต่น้อย  กำแพงไฟรอบตัวคารอสเป็นเกราะป้องกันชั้นดีอยู่แล้ว  ส่วนสัตว์อสูรปีกที่อยู่ที่หลังของมันทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกัน  ทั้งคู่พุ่งเข้าหากันอย่างไม่ลดละ ฝ่ายหนึ่งรุกฝ่ายหนึ่งรับ

                    เคร้ง  เคร้ง  เคร้ง  ปึก  คารอสรับดาบของพญาอินทรีย์พาทูคาเมนได้ด้วยการใช้จิตเคลื่อนที่  และใช้เท้าถีบท้องน้อยของสัตว์อสูรเต็มแรงจนกระเด็นไปจนถึงผนังถ้ำอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ขณะที่คารอสกำลังได้เปรียบนั้น

     

                    ได้มีไข่ใบใหญ่สีแดงเหมือนสีเลือดปรากฏขึ้นตรงหน้าของคารอส  ไข่ใบนั้นลอยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคารอสแบบไม่ขาดฝัน  ทันทีที่ไข่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคารอสความอบอุ่นก็แผ่ไปทั่วทั้งร่างกายของชายหนุ่ม  ความรู้สึกที่ผูกพันตั้งแต่ที่ไข่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดนั้นเป็นเสมือนสายใยบางๆ ที่ร้อยกันเป็นเส้นแสงสีทองจนพญาอินทรีย์พาทูคาเมนถึงกับตกตะลึง  ยอมยกไข่ที่เป็นของรักของหวงให้คารอสทันที  เพียงชั่วครู่สติของคารอสพลันดับวูบลง

                    เจ้าจงดูแลไข่ฟองนี้ไว้ให้ดี  วันข้างหน้ามันจะอยู่สู้เคียงข้างกับเจ้า  คำพูดนั้นดังก้องอยู่ในโสตประสาทของคารอส  พร้อมกับที่ร่างกายของคารอสปรากฏขึ้นภายในห้องนอนของหัวหน้าชั้นปีพร้อมกับไข่ฟองนั้น  คารอสนอนกอดไข่ฟองใหญ่สีแดงดั่งเลือดไว้ตลอดทั้งคืน

     

     

                    เจ้ากำแหงคิดกับข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ  เจ้ามนุษย์สามหาว  สุรเสียงที่เปล่งออกมาดังกึกก้องซ่อนความโกรธไว้ไม่มิด  สัตว์อสูรรูปร่างคล้ายเงือกโกรธแค้นเด็กหนุ่มตรงหน้ายิ่งนัก

                    คัมเดอวา  คัมฟอมู  อินฟอเรน  สัตว์อสูรร่ายเวททันที  พายุเริ่มก่อเค้าขึ้นฉับพรัน ปรากฎเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าดังกึกก้อง  จนฝูงทหารสัตว์อสูรเริ่มกลัวจนลนลาน  สายฝนกระหน่ำลงมาอย่างแรงดั่งเทพเจ้าพิโรธก็ไม่ปาน  ตามมหาสมุทรเกิดคลื่นน้อยใหญ่พัดกระหน่ำดั่งว่าจะเกิดพายุ

                    เอโดร่า  อีมาโด้  คัมฟอมวอ  คารามิน  อินวอเตอร์  แทนคำกล่าวเอคัสร่ายเวทเสียงดังกึกก้องทันที  ปรากฏเป็นสายฝนที่ตกกระหน่ำลงมาหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น  จากหยดน้ำหยุดนิ่งเริ่มการสภาพเป็นน้ำแข็งด้วยอุณภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็ว  และพุ่งตรงใส่สัตว์อสูรตรงหน้า

                    ดวงตาของสัตว์อสูรเบิกกว้างพลางยกแขนขวาข้างที่ถือหอกเล่มใหญ่ขึ้น  วาดแขนเพียงเล็กน้อยเหล่าทหารสัตว์อสูรที่โชคร้าย  ต่างลอยเข้าไปรับเคราะห์แทนเจ้าแห่งมหาสมุทรทันที  สัตว์อสูรได้แต่ลอยเข้าไปรับหยดฝนที่กลายสภาพเป็นน้ำแข็งแทนเจ้านายอย่างน่าเวทนายิ่งนัก

                    หึๆๆๆๆๆๆ  แค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอกเจ้าไม่เห็นหรอกหรือ

                    ด้วยความลำพองใจของสัตว์อสูรที่ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าเอคัสนั้นใช้จิตเคลื่อนไหวในตอนนี้ไปแล้ว  การซ่อนไอสังหารของเอคัสนั้นช่างแนบเนียนยิ่งนัก  การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วจนสายตามองไม่ทัน  กลายเป็นเอคัสยืนหลับตาอยู่เฉยๆ  นั้นยิ่งทำให้สัตว์อสูรลำพองตัวมากขึ้น

                    ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างไม่ทร...โอ๊ยยยยยยยยยยย   คำพูดที่ยังไม่จบประโยคพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนเนื่องจากเอคัสร่ายเวททำให้น้ำในมหาสมุทรบางส่วนกลายเป็นผลึกน้ำแข็งแล้วพุ่งตรงเข้าใส่สัตว์อสูรทันที  เลือดที่ไหลออกมามีสีเขียวเข้มไหลออกมาไม่ยอมหยุดเพราะเกิดจากบาดแผลเวท

     

                    เอโดร่า  อีมาโด้  คัมฟอวอลล์  คารามิน  อินวอเตอร์  โบราโด้  เอคัสร่างเวทกางเขตอาคมทันที  เสียงร่ายเวทนั้นดังสนั่นหวั่นไหว  สัตว์อสูรถูกกักขังอยู่ในเขตอาคมเรียบร้อย

                    เจ้า  พูดได้เพียงเท่านั้นร่างกายของมันก็ระเบิดโดยตรง  เพราะอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังไฟโลกันตร์ก็ไม่ปานที่ทำให้ร่างของสัตว์อสูรระเบิดออกมา  สัตว์น้ำหรือจะทนความร้อนได้  เป็นไปอย่างที่เอคัสคิดไม่มีผิด 

                    กลับไปจะขอบคุณคารอสที่ช่วยสอนเวทนี้ให้  เด็กหนุ่มรำพึงกับตัวเองเบาๆ

                    ทันทีที่สายตาเหลือบไปเห็นไข่สีฟ้าอมเขียวสดใสลอยอยู่ในเขตอาคมจึงสลายเขตอาคมทันที  ไข่ใบนั้นลอยเข้ามาอยู่อ้อมกอดของเอคัสความอบอุ่นก็แผ่ไปทั่วทั้งร่างกายของเด็กหนุ่มโดยความรู้สึกที่ผูกพันตั้งแต่ที่ไข่เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดนั้นเป็นเสมือนสายใยบางๆ ที่ร้อยกันเป็นเส้นแสงสีทอง  เพียงชั่วครู่สติของเอคัสพลันดับวูบลง

                    เจ้าจงดูแลไข่ฟองนี้ไว้ให้ดี  วันข้างหน้ามันจะจงรักภักดีกับเจ้า  คำพูดนั้นล่องลอยมาตามสายลมดังก้องอยู่ในโสตประสาทของเอคัส  พร้อมกับที่ร่างกายของเอคัสปรากฏขึ้นภายในห้องนอนของหัวหน้าชั้นปีพร้อมกับไข่ฟองนั้น  เอคัสนอนกอดไข่ฟองใหญ่สีฟ้าอมเขียวสดใสไว้ตลอดทั้งคืน

                    ข้าแต่เทพเจ้าแห่งวายุ  ข้าคารีเฟียร์  เฟอร์เทียร์  ผู้ควบคุมพลังเวทธาตุลมขอพลังจากท่าน  ขอท่านได้โปรดประทานพลังให้กับข้าด้วยเถิด  ทันทีที่คารีเฟียร์ร่ายเวทจบก็บังเกิดพายุพัดโอบล้อมรอบตัวของคารีเฟียร์ทันที

                    ชายชุดดำเริ่มตระหนักได้ถึงความโกรธของผู้หญิงขึ้นมา  ความโกรธแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยที่น่ากลัวกับเรี่ยวแรงที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้ชายชุดดำเริ่มเอาจริงขึ้นมาเช่นกัน

                    เจ้าตายแน่  แม่จะแทงให้พรุนไปทั้งตัวเลย  ให้มันรู้กันไปว่าคนอย่างคารีเฟียร์ซะอย่าง  ไม่ตายไม่เลิกเว้ย  คำพูดอวดศักดาของสาวน้อยนั้นดูหาเรื่องไม่ใช่น้อย

                    พึบ  พึบ  พึบ  ดาวกระจายอาวุธลับของนินจาถูกส่งให้สาวน้อยตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

                    เคร้ง  เคร้ง  เคร้ง  คารีเฟียร์ใช้สายลมสังหารปัดดาวกระจายออกไปอย่างง่ายด้วย

                    เคร้ง  เคร้ง  เคร้ง  ตูบ  คารีเฟียร์ใช้สายลมสังหารฟาดใส่ศัตรูอย่างไม่ลดละ  ทางชายชุดดำได้แต่ยกดาบซามูไรกันอย่างเดียว  จึงโดนลูกถีบที่ความแรงไม่สมกับตัวของคารีเฟียร์เข้าไปเต็มๆ

                    คารีเฟียร์จัดการส่งมีดสั้นใส่ชายชุดดำไปทีเดียวหกเล่มเป็นของแถมให้เล่นๆ  ที่กล้าทำให้เธอเสียอารมณ์  พร้อมกับร่ายเวทเพิ่มความเร็วของมีดสั้นทันที  ชายชุดดำยกดาบซามูไรฟันแต่ผลเป็นว่าไม่ว่าจะฟันเมื่อไหร่  มีดสั้นก็จะหันทิศมาทางตนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

                    คารีเฟียร์ที่ยืนมองดูด้วยความสนุกแบบสะใจสุดๆ  จึงหยุดการเคลื่อนไหวของมีดสั้นนั้น  พร้อมกับคทาที่ตอนนี้ลอยมาอยู่ในมือของคารีเฟียร์เรียบร้อยแล้ว

                    จะกวนตีนกัน  กวนให้มันถูกคนหน่อยพี่ชาย  สาวน้อยพูดพร้อมทั้งยักคิ้วให้เป็นการกวนกลับไป

                    มาดวลกันตัวตัว  ไม่ใช้เวทมนต์  ถ้าเจ้าชนะข้าจะให้ไข่ใบนี้กับเจ้า  ชายชุดดำพูดพร้อมทั้งชูไข่สีขาวขุ่นใบใหญ่ให้คารีเฟียร์ดูทันที

                    ตกลง  คารีเฟียร์ที่ตอบตกลงทันที  เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลามาร่ายเวทเป็น นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว

     

                      เคร้ง  เคร้ง  เคร้ง  เสียงดาบที่ฟันใส่กันทั้งรุกทั้งรับนั้นไม่ได้ทำให้คารีเฟียร์รู้สึกดีขึ้นมาเท่าไหร่นัก

                    อย่ามัวแต่เล่นอยู่เลย  สู้กันจริงๆ ซะที  ข้าขี้เกียจจะเล่นด้วยแล้วนะ  คารีเฟียร์ที่เริ่มรู้สึกเบื่อพูดขึ้นแบบไม่อ้อมแม้แต่น้อย

                    ได้...เจอนี่หน่อยเป็นไง  วิชาก้นหีบของนินจาเรา  พูดจบชายชุดดำก็กระโดดถอยห่างออกมา

                    ชายชุดดำยืนตัวตรงมือทั้งสองข้างไขว้ไว้ด้วยกัน  พร้อมกับร่างที่เริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ  จนยืนเป็นวงกลมล้อมคารีเฟียร์ไว้ทุกด้าน  โดยมีคารีเฟียร์ยืนอยู่ตรงกลาง  ปลายดาบซามูไรทุกด้ามเริ่มชี้มาทางเธอ

                    ตายแน่คารีเฟียร์เอ้ย  หญิงสาวบ่นกับตัวเองเบาๆ

                    ดาบซามูไรทั้งสิบเล่มฟันใส่คารีเฟียร์พร้อมกัน  สาวน้อยยกสายลมสังหารขึ้นกันแต่ก็กันได้ไม่หมด  แน่นอนว่าเกิดบาดแผลตามตัวของคารีเฟียร์ทันที  หญิงสาวตระหนักดีว่าไม่ทำให้ถึงตายแต่ก็ทำให้เรี่ยวแรงลดลงไปแน่นอน  ช่วงเวลานี้คารีเฟียร์คิดถึงใบหน้าของเอคัสกับผมสีเงิน  ดวงตาสีฟ้าเย็นชาคู่นั้น 

                    นายจะรู้บ้างไหมว่าฉันอยู่ตรงนี้  คารีเฟียร์คิดถึงเอคัสในใจ

                    สาวน้อยหลับตาลงพร้อมกับตั้งสมาธิเพื่อการเคลื่อนไหวด้วยจิต  และการเคลื่อนไหวชนิดนี้ต้องปกปิดไอสังหารด้วย  เพื่อเพิ่มประสิทธิการในการจู่โจม

                    ถอดใจแล้วเหรอน้องสาว  ไม่เป็นไรมาอยู่กับพี่มา  ชายชุดดำที่คิดว่าคารีเฟียร์ยอมแพ้แล้ว  เพราะสาวน้อยตรงหน้าหลับตาลง  และไอสังหารก็สลายหายไปสิ้นแต่ถ้าหากชายชุดดำล่วงรู้ว่าคารีเฟียร์กำลังจะทำอะไรละก็คงไม่พูดจายียวนกวนประสาทแบบนี้แน่

                    ฉึก  คารีเฟียร์ใช้สายลมสังหารฟันใส่แขนของชายชุดดำทันที  เรียกเลือดออกมาได้  ชายชุดดำที่เริ่มตั้งสติได้จึงลงมือใช้ดาบฟันคารีเฟียร์ต่อ

                    คราวนี้ความเร็วของคารีเฟียร์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง  ความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตา  ความรุนแรงในการลงดาบแต่ละครั้ง  กับไอสังหารที่หายไปทำให้จับการเคลื่อนไหวของคารีเฟียร์ไม่ได้

                    เป็นอะไรไปพี่ชาย  มามะมายอมแพ้ซะดีๆ  คารีเฟียร์ไม่พูดเปล่ายังยกมือขึ้นข้างหนึ่งเพื่อกวักมือเรียกชายชุดดำ

                    เคร้ง  เคร้ง  เคร้ง  เสียงการรับดาบนั้นดังอย่างต่อเนื่องจนไม่สามารถนับได้  ความเร็วนั้นทำให้ชายชุดดำเริ่มถอดใจยอมแพ้  พร้อมๆกับกำลังที่กำลังลดถอยลงเรื่อยๆ

                    และแล้วปลายดาบของสายลมสังหารก็จ่ออยู่ที่คอของชายชุดดำทันที

                    หึๆๆๆๆๆ  ข้าแพ้เจ้าแล้วรึเนี่ย

                    ไข่ใบนี้จงดูแลมันให้ดี  แล้วมันจะตอบแทนเจ้าด้วยชีวิตของมัน  ชายชุดดำพูดพร้อมทั้งยื่นไข่สีขาวขุ่นใบใหญ่ให้คารีเฟียร์  ทันทีที่รับไข่มาไว้ในอ้อมกอดสายใยเส้นสีทองบางๆ ก็ถักทอขึ้นล้อมรอบคารีเฟียร์ทันที  พร้อมกับสติที่ดับวูบลง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×