คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : M.A.N.O - 4
M.A.N.O - 4
ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องนอน... เฮ้อออ แม่งไม่มีสมาธิเลย ในหัวมีแต่ภาพเหตุการณ์ตอนโดนไอ้คุณเอ๋อนั่น เอ่อ..
อ้ากกกกกกกกกก จะบ้าตายยยยย
ตั้งแต่ที่เขากระทำบางอย่างกับริมฝีปากของผม ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับคุณเอ๋อแม้แต่คำเดียว ในขณะที่หมอนั่นพยายามจะ ซอรี่ๆ ใส่ผมตลอด หน้าเศร้าๆที่มองมานั่นก็น่าสงสารนะ
คือผมไม่ได้โกรธอะไรขนาดนั้น แต่มันทำตัวไม่ถูกเว้ยยยย นี่ยังตกใจอยู่เลย จะให้กลับไปทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไงกันเล่า TT TT
เลิกอ่านๆๆๆ นอนมันดีกว่า พรุ่งนี้ต้องไปราวน์วอร์ดตั้งแต่ 7 โมงครึ่ง
ก้อก ๆ ๆ ๆ
เสียงเคาะประตูดังเนิบๆ .. จะใครถ้าไม่ใช่คุณเอ๋อ บ้านนี้ก็มีอยู่สองคน ไอ้ล็อคน้องชายผมมันคงจำทางกลับบ้านไม่ได้แล้วล่ะ ..
ผมยังลังเลว่าจะไปเปิดดีมั้ย หรือแกล้งหลับดีวะ เข้าหน้าไม่ติดเลยยย
ก้อก ๆ ๆ ๆ
เฮ้อออ พอนึกถึงคนหน้าเอ๋อๆที่ทำหน้าเหมือนหมาหงอยนั่นละก็อดสงสารไม่ได้ โอ๊ยยทำไมกูใจดีงี้วะ --
เปิดประตูไปก็เจอหน้าหงอยๆที่ยืนอยู่ในชุดนอนเสื้อยืดกางเกงห้าส่วนของผม(จริงๆก็กางเกงขายาวนั่นแหละพอหมอนี่ใส่ละมันมาอยู่ครึ่งน่อง -- ) ในมือมีแก้วนมอยู่
“ I’m really sorry, please forgive me” (ผมขอโทษจริงๆ ยกโทษให้ผมนะ)
ประโยคภาษาอังกฤษสำเนียงเกาหลีนั่นถูกเอ่ยออกมาอีกครั้ง มือซ้ายก็ยื่นแก้วนมมาให้ผม
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ .. แล้วก็ยอมรับนมแก้วนั้นมา
“ โอเคๆๆๆ อย่าทำอีก เข้าใจมั้ยยย Don’t do it again Okay?”
“(_ _)”
“ โอเค ไปนอนได้แล้วคุณเอ๋อ กู้ดดไนทท์ บายย”
//หมับ//
ผมที่กำลังจะหมุนตัวกลับห้องก็ถูกดึงมือไว้
เฮ้ยยยยย อะไรรร
“อะ..อะไร??”
“อา...Help me please”
หะ .. ห๊ะ.. อะไร เฮ้วๆ อะไร จะให้ช่วยอะไรดึกๆแบบนี้...หรือว่า...
“อะ..ไร.. นี่ช่วยอะไร เห้ยย อย่านะเว้ยย”
ผมรีบดึงมือมากอดอกทันที (ว่าแต่ปิดทำไมวะ นมก็ไม่มี)
“ No No No”
คนตัวสูงรีบโบกมือปฏิเสธโดยไว ก่อนจะทำท่าเกาหัวยิกๆ
“เอ่อ.. the air condition เออ..”
อะไร แอร์ๆวะ
ยังไม่ทันพูดจบคุณเอ๋อ ก็คว้ามือผมแล้วเดินจ้ำไปยังห้องนอนของเขาทันที เห้ยย อย่าเพิ่งดิยังไม่พร้อมม !!ริทเดอะสตาร์ยังไม่พร้อมมม
ผมยืนเคว้งอยู่กลางห้อง
มือหนาส่งรีโมทแอร์มาให้ ..
ผมก็ลองกดดู..
“...............................”
ชัดเลย แอร์เสีย - -
ที่ง้อผมเพราะทนร้อนไม่ได้รึเปล่า ?
ด้วยเวลาที่ดึกพอควร บวกกับความสามารถในการซ่อมแอร์ของผมเท่ากับศูนย์ ถึงจะลูกชายร้านขายแอร์แต่ก็ใช่ว่าจะเคยได้ซ่อมกับเขาที่ไหน ผมเลยตัดสินใจให้คุณเอ๋อมานอนที่ห้องผม..
ฮั่นแหน่... อย่าคิดลึกดิ!!
อากาศวันนี้มันร้อนมาก จะให้คนป่วยนอนในห้องอบอ้าวๆแบบนั้นได้ไงเล่า อีกอย่างผมคิดไว้ว่าจะไปนอนห้องไอ้ล็อค สบายใจได้เลย ไม่มีฉากมหัศจรรย์แน่นอน
..
กึกๆ..
ไอ้ล็อคมันล็อกห้อง......... แสรดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ตัวก็ไม่อยู่ล็อกห้องทำพระแสงไฟนีออนอะไรฟระ!! กุญแจสำรองก็ไม่มี ถ้าห้องมึงไฟไหม้กูช่วยไม่ได้นะเว้ย ไอ้น้องเลวว T T
ผมเดินคอตกกลับไปห้องนอนของผม...ไอ้คุณเอ๋อร่างยักษ์ที่เหมือนกำลังจะนอนมองด้วยสายตาประมาณว่า ‘เมิงกลับมาทำไมฟระ’
“ห้องน้องชายผมมันล็อก เข้าใจป่ะ That room was locked” ..
หมอนั่นทำหน้าเหมือนเข้าใจก่อนจะยิ้มพลางตบเบาๆที่เตียงของผม..
นั่นไง.. ทำไมต้องทำตัวน่าขนลุกด้วยฟระ!..
“อย่า- ข้าม- มา- เด็ด-ขาด !! ”
ผมพูดเน้นเสียงพลางทำมือเหมือนขีดๆเป็นเส้นกั้นตรงเตียง หน้าเอ๋อๆนั่นยิ้มขำๆ พลางพยักหน้า เอาเป็นว่าเขาคงเข้าใจ..
ผมก็รีบเอาหมอนข้างมาวางคั่นกลางระหว่างผมกับไอ้คุณเอ๋อเหมือนที่จำมาจากละครไทย.. ถึงมันจะดูช่วยไม่ได้ก็เถอะ แต่ในละครทำแบบนี้ปลอดภัยนิ.. (?)
จากนั้นผมก็ปิดไฟตรงหัวเตียงแล้วรีบนอนหลับทันที ..
.
.
.
.
.
.
.
[ Chanyeol Part ]
คุณหมอหลับไปแล้ว…
เสียงแอร์ร้องหึ่งๆ บวกกับอากาศเย็นชวนให้นอนหลับสบาย ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกง่วงขึ้นมาเลยสักนิด ตรงกันข้ามมือของผมกลับเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ คือ… ผมไม่ค่อยกล้าขยับตัวเท่าไหร่
เพราะอิหมอนข้างบ้าๆ ที่วางอยู่จนแทบจะติดตัวผมนี่แหละ ทำให้ผมขยับตัวได้ไม่มากนัก คุณหมอตัวเล็กเป็นคนเอามาวางไว้ แล้วห้ามไม่ให้ผมข้ามไป ความจริงผมก็ไม่ได้อยากจะข้ามไปหรอกนะ ถ้าไม่ติดว่าคุณหมอวางหมอนได้โคตรยุติธรรม ตัวเองเอาไปสามส่วนสี่ของเตียง ทิ้งพื้นที่เล็กกระจึ๋งนึงเอาไว้ให้ผมซึ่งตัวใหญ่เบ่อเร่อนอน….
คุณหมอยุติธรรมกะเอ๋อมากอะ
ผมยู่ปากอยู่คนเดียวก่อนจะค่อยๆ เอามือดันหมอนข้างให้กระเถิบไปอีกฝั่งบ้าง ขืนนอนแบบนี้ทั้งคืนมีหวังผมต้องโดนตะคริวกินกลางดึกแน่ๆ
เอ้า ฮึบ…ฮึบ…
ง่ะ
ผมพยายามขยับหมอนข้างไปอีก แต่เจ้าหมอนข้างตัวดีก็ไม่ขยับไปไหน คงเป็นคุณหมอแน่ๆ ที่นอนพิงเจ้าหมอนข้างนี่อยู่ ทำให้ผมขยับมันไม่ได้ ละเอาไงต่อดีเนี่ย = = ผมลังเลใจว่าทำยังไงดีระหว่างนอนมันทั้งเมื่อยๆ กับเขยิบคุณหมอและคุณหมอนออกไป…
ทุกคนคงไม่คิดว่าผมจะนอนนิ่งๆ ได้ทั้งคืนหรอกใช่มั้ย?
ใครจะไปทนนี่ผมเจ็บแขนอยู่นะ!
ผมยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะมองคนตัวเล็กที่กำลังนอนอ้าซ่า เอ่อ ผมใช้คำไม่ผิดนะจริงๆ นะ ใบหน้าน่ารักของคุณหมอกำลังอมยิ้มนิดๆ คล้ายกับคนที่กำลังฝันดี ในขณะที่ร่างกายกลับทำตรงข้าม คุณหมอขยับตัวไปมาบ่อยเหลือเกิน ท่าทางจะนอนดิ้นเอาเสียมากๆ …. ขอเติมกอไก่ไปอีกแปดพันตัว
ฮะ…เฮ้ยยยยยยยยยย!
ผมแทบจะกระเด้งออกจากที่นอน เมื่อคุณหมอปัดแขนข้างหนึ่งมาพาดเอาไว้บนหมอนข้าง ด้วยความที่เสื้อที่คุณหมอใส่อยู่มันหลวม หรือชายเสื้อมันสั้นเกินไปนั้นก็ไม่ทราบ ทำให้เสื้อของคุณหมอมันเลิกขึ้นมา ในตอนนี้ถึงแม้ในห้องมันจะมองอะไรแทบไม่เห็น แต่ผมสาบานได้ว่าผมเห็นหน้าท้องขาวๆ ของคุณหมอเข้าเต็มๆ
เฮือกกกกกก
ขอโทษษษษ ผมไม่ได้ตั้งใจจะโชว์หื่นนะ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมก็แค่พูดไปตามที่ผมเห็น ผมไม่ได้ตั้งใจมอง ไม่ได้หื่น ไม่ได้คิดอะไรที่มันไม่ดีทั้งนั้นแหละ เชื่อผมเถอะ ทุกคนเชื่อเอ๋อนะ …
ผะ…ผมต้องคิดต่อไปว่าจะทำยังไงต่อดี
ผมกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ ก่อนที่จะค่อยๆ เอามือตัวเองไปจับแขนคุณหมอเอาไว้ ออกแรงยกเบาๆ แล้วพาแขนเรียวๆ ของคุณหมอไปวางเอาไว้ข้างลำตัวที่เดิม
“อื้อออ~~~”
ปั้ก!
ชะ…เชี่ย…
คุณหมอปัดแขนมาโดนแขนผมข้างที่ใส่เฝือก…เต็มๆ TT TT
ผมพยายามกัดปากตัวเองกลั้นเสียงกรี๊ด เอ้ย เสียงร้องที่อาจจะเล็ดลอดออกมารบกวนการนอนของคนตัวเล็ก ใช้เวลาสักพักก่อนที่อาการเจ็บมันจะทุเลาลง พอหายเจ็บผมก็กลับมาประจำตำแหน่งเดิม
เอาไงดีเอาไงดี?
ถ้าคิดนานกว่านี้ก็เกรงว่ามันจะเช้าเสียก่อน ผมมองคุณหมอที่กำลังหลับตาพริ้มแล้วก็อดไม่ได้ที่จะยกมือไปบีบจมูกของคุณหมอตัวเล็กเบาๆ อย่างหมันเขี้ยว ตอนปกติเห็นชอบทำหน้าบูดหน้าบึ้งจังเลย แต่พอนอนนิ่งๆแบบนี้แล้ว… น่ารักซะไม่มีนะคุณหมอ
“อื้ออออ….”
ผมรู้สึกว่าตัวแดงหน้าแดง เมื่อเสียงคุณหมอเล็ดลอดออกมา รีบปล่อยมือจากจมูกอีกคนทันที
มะ…ไม่ได้นะเอ๋อ… นายจะคิดอะไรไปไกลไม่ได้
ใจเย็นๆ ยุบหนอ…พองหนอ…
จนสุดท้ายแล้ว เอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องทำยังไงกับคุณหมอ และคุณหมอนที่อยู่บนเตียงด้วยกันนี้เกือบจะปลงแล้วล้มตัวลงนอนมันทั้งที่แคบๆแล้วเชียว …แต่ทว่า
“งื้อ….”
ตุ้บ!
มือเรียวของคุณหมอคว้าหมอนข้างที่ตัวเองกอดอยู่เอาไว้ และเหวี่ยงมันออกไปอีกทางเสียเอง เจ้าหมอนข้างน่าสงสารลอยละล่องจนไปนอนแอ้งแม้งอยู่ที่ปลายเตียงแบบฉับพลัน
ผมได้แต่เบิกตากว้างมอง ตามคุณหมอนไปพร้อมกับภาวนาให้มันปลอดภัยไม่เจ็บปวดกับการกระทำของคุณหมอ
ไปดีนะแก…บาย
หันกลับมาบนเตียง ไม่มีหมอนข้างมาแบ่งกั้นระหว่างผมกับคุณหมออีกแล้ว คุณหมอยังนอนหลับสนิทอยู่แต่แค่นี้ก็พอแล้วแหละ ผมแค่อยากได้ที่นอนเพิ่มขึ้นอีกนิ๊ดนึงจริงๆ
ผมเขยิบเข้าไปในเตียงให้มากกว่าเดิม ก่อนจะจัดท่านอนของคุณหมอให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุด ห่มผ้าห่มให้ด้วยเผื่อคุณหมอหนาว
ผมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของคุณหมอที่หลับสนิทกำลังยกยิ้มที่มุมปาก
คงจะฝันดีอยู่ล่ะสิ
ว่าแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบ้าง ไม่อยากจะเชื่อว่าการเพิ่มที่นอนให้ตัวเองมันจะยากเย็นอะไรขนาดนี้ เล่นเอาซะหมดแรงกันเลยทีเดียว เฮ้อออออ
และในขณะที่ผมกำลังเคลิ้มจะหลับนั่นเอง…
แขนขาวๆ ของคนที่กำลังหลับปุ๋ย ก็พาดมาที่ลำตัวของผม มันไม่ได้รุนแรงเท่ากับตอนที่ฟาดไปบนหมอนข้าง แต่มันก็ทำให้ผมสยิวไม่เบา
ยะ…อย่าต่ำไปกว่านั้นนะคุณหมอ
ผมลอบกลืนน้ำลายตัวเอง ไม่ได้ปัดมือคุณหมอออก แต่กลับรีบหลับตาปี๋ภาวนาให้ตัวเองรีบหลับให้เร็วที่สุด ก่อนที่อะไรๆ จะตื่นแล้วพากันไม่ได้นอนทั้งหมด เอ่อผมหมายถึงกลัวคุณหมอตื่นนะอย่าคิดกันไปไกล
“งืออออ”
เสียงครางของคุณหมอดังอยู่ไม่ไกล ไม่สิมันใกล้มากจนผมแทบจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจของอีกคน ผมลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เห็นคุณหมอกำลังซุกหน้าลงกับไหล่ของผมนั่นเอง
งือ….น่ารัก
ยิ่งเห็นริมฝีปากนุ่มนิ่มที่ผมเคยสัมผัสมาอยู่ใกล้ๆ ก็ยิ่งทำให้ผมอยากจะประทับริมฝีปากของตัวเองลงไปอีกสักที แต่จิตใต้สำนึกมันก็คอยย้ำเตือนนักหนาว่าทำไม่ได้…คุณหมอสั่งเอาไว้
‘Don’t do it again’
แต่ถึงจะสั่งเอาไว้ยังไง ….ผมก็ไม่อาจห้ามความต้องการของตัวเองได้อยู่ดี
ริมฝีปากของผมจึงประทับไปบนหน้าผากมนของอีกคนอย่างแผ่วเบา ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคุณหมอดิ้นขลุกขลักนิดหน่อย แต่สุดท้ายก็นิ่งไป อ่า...คงจะได้ท่านอนที่สบายแล้วสินะ
ผมเองก็คงได้เวลานอนแล้วเหมือนกัน…
“ฝันดีนะครับ..คุณหมอของผม”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
[Rit Part]
///RRRRRRRRRRRRRRRRRRR////
เสียงนาฬิกาปลุกเสียงประจำที่ผมตั้งทุกเช้าดังขึ้น
Zzz .......... นี่เช้าแล้วหรอฟระ,,
ผมเอื้อมมือซ้ายไปกดปิดนาฬิกาปลุกข้างเตียงโดยที่ยังไม่เปิดตา มันชินแล้วครับ มือขวาก็กระชับกอดหมอนข้าง
โง๊ยย ขี้เกียจตื่นมากง่ะ ยังง่วงอยู่เลย..
“อื้อ.. “
เสียงครางแผ่วใกล้ๆ พร้อมสัมผัสที่ยวบๆ บนเตียงสปริง ให้ความรู้สึกเหมือนบางอย่างกำลังขยับตัวบนเตียง...
เชี่ยละ หมอนข้างผมขยับได้...
.
.
แต่เดี๋ยวนะ..
ผมรีบลืมตา.. ใบหน้าเอ๋อๆคุ้นตานั่นกำลังหลับพริ้มหันหน้ามาทางผม ในระยะโคลสอัพซูมใกล้และชัดประหนึ่งกล้องเทพของแฟนคลับ..
และมือขวาของผมก็แหมะอยู่บนตัวของอีกคน..
.
.
.
.
ย้ากกกกกกกกกกกก นี่อะไรเนี่ย!!
ผมถีบไอ้คนตัวสูงข้างๆด้วยความตกใจ
“อ๊ากส์!!!!!เว@$%$%^*)$)@#$($%”
แรงถีบทำให้อีกคนตกเตียง เสียงอุทานแสดงความเจ็บปวดมันทำให้ผมได้สติ
ตายห่า แขนมันจะหักเพิ่มมั้ยเนี่ยย!!
ผมกระโดดไปดูคนตัวสูงที่นอนน้ำตาไหลพรากกุมแขนอยู่บนพื้นห้อง
แงงงงงงงงงงงงงงง ริทขอโต้ดดดดดดดดดด
“ซะ..ซอรี่..แอมซอรี่... อาร์ยูโอเค?..”
ค่อยๆพยุงคนเจ็บให้ลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเล ก่อนจะให้เขามานั่งอยู่ปลายเตียง ผมค่อยๆจับแขนขวาเค้าขึ้นมาดู พบว่าเฝือกยังอยู่ดี แต่น่าจะเจ็บน่าดู..
“ก็คนมันตกใจนี่.. ขอโทษนะคุณเอ๋อ..แอมซอรี่..”
ร่างสูงมองหน้าผมด้วยสายตาที่เหมือนจะงอน..?,มือซ้ายก็ยกมาเช็ดน้ำตาตัวเองป้อยๆ โคตรน่าสงสารอ่ะ
“โอ๋เอ๋...คุณเอ๋อ หายเจ็บนะ เพี้ยงๆๆๆๆ”
แล้วผมก็นึกบ้าบออะไรไม่รู้ก้มหน้าลงไปเป่าที่เฝือกเหมือนกับเป่าให้เด็กตอนหกล้ม..
เออ ผมว่าผมพลาดละ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอคุณเอ๋อที่มองผมด้วยสายตาและรอยยิ้มที่แปลกๆ ชวนขนลุก..
“เว2$^&^$(@#$”
เสียงทุ้มพ่นภาษาบ้านเกิดออกมาก่อนที่จะชี้ไปยังหน้าผากบริเวณที่มีแผลเดิมอยู่
อะไรอ่ะ?
สงสัยผมจะทำหน้างงใส่เขา เขาเลยทำท่าเพี้ยงๆ ที่ผมทำมะกี้แล้วชี้ที่แผลตรงหัวอีกครั้ง..
เออ.. จะให้ผมเพี้ยงใส่ตรงหัวอีกรอบใช่มั้ยเนี่ย....
ปัญญาอ่อนทั้งคนทำและคนถูกทำ - -
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็ใส่ชุดนักศึกษาเดินมาหยิบแซนวิชและนมที่ซื้อมาตุนไว้สำหรับมื้อเช้าอย่างละ 2 อันมายืนรอไอ้คุณเอ๋อข้างรถ
ก็ตอนที่ผมเห็นแผลแห้งตกสะเก็ดบนหน้าผากของคุณเอ๋อที่มันก็ทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าควรพาเขาไปให้พี่หมอตรวจดูซักหน่อย เพราะนี่ก็ผ่านมาสามวันแล้ว อาจจะพอให้พิจารณาถอดเฝือก..หรือไม่ก็อาจจะมีกระดูกหักเพิ่มเพราะฝีมือผมก็ได้ T T
“OK , LETS GO!”
เสียงทุ้มพร้อมตาแป๋วแหววในชุดลำลองของไอ้เขต ลงมาถึงก็รีบคว้ามือผมด้วยความลัลล้า
นี่ลืมเจ็บไปแล้วใช่มั้ยเนี่ย
เรามาถึง ร.พ. ตอนเวลา 7 โมงครึ่งผมรีบพาเขาไปหาพี่หมอ(คนเดิม)ที่ผมโทรมาเช็คก่อนแล้วว่าเข้าเวร ก่อนที่ผมจะรีบไปราวน์วอร์ด โชคดีที่คนไข้ในวอร์ดน้อยหน่อยและอาจารย์หมอของผมเลื่อนคอนเฟอร์เรนซ์ไปตอนบ่ายเพราะติดผ่าตัดทำให้ผมพอจะมีเวลามาดูไอ้คุณเอ๋อที่แผนก OPD
ผลตรวจปรากฏว่ากระดูกยังไม่ต่อกันสนิทดี (อาจเพราะผมด้วยมั้ยเนี่ย) ไอ้คุณเอ๋อยังต้องใส่เฝือกต่อ แถมได้ยามากินอีกด้วย ส่วนแผลที่หัวก็แห้งดี ไม่ต้องปิดแผลแล้ว
แล้วผมก็พาคุณเอ๋อกลับมาส่งไว้ที่บ้าน โดยไม่ลืมที่จะแวะซื้ออาหารและขนมมาไว้ให้เขากิน
“นี่.. อยู่บ้านดีๆอย่าซนรู้ป่ะ”
“ฮ่าๆ ทำหน้าเหมือนรู้เรื่องเลยนะคุณเอ๋อ”
“เดี๋ยวตอนเย็นผมกลับมานะ”
//ปุ..//
จู่ๆมือหนาก็มาวางบนศีรษะของผม
“Come back soon , I waiting for you” (รีบกลับมานะ..ผมรอคุณอยู่)
เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเบาก่อนจะโยกหัวผมไปมา..
เออ.. =/////=
“หะหะ.. รู้แล้วน่า I know .. I know”
โอเค ยอมรับว่ารู้สึกแปลกๆ ผมรีบขับรถออกมาจากตรงนั้นทันทีเพราะกลัวว่าอีกคนจะเห็นใบหน้าที่แดงซ่านของตัวเอง แต่สุดท้ายผมก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองร่างสูงที่ยืนฉีกยิ้มกว้างอยู่หน้าประตู
เอาเป็นว่าผมจะรีบกลับมาก็แล้วกัน
..
หะหะ.. อาการหนักแล้วว่าที่คุณหมอริท แค่คิดว่ามีใครบางคนกำลังรอให้เรากลับมาอยู่ที่บ้าน หัวใจก็เต้นรัวจนต้องยกมือขึ้นมากุมอกตัวเอง สงสัยคงต้องแวะให้แผนกหัวใจตรวจหน่อยแล้วมั้ง ผมว่าหัวใจผมเต้นผิดปกติ..
งื้ออออออออออออออ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากที่รถมาสด้าสีขาวของคุณหมอขับออกไปจนลับสายตา ร่างสูงก็เดินกลับเข้าบ้าน พร้อมกับปิดประตูรั้วอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
ในหัวสมองมีแต่ความคิดเกี่ยวกับคุณหมอตัวเล็กเต็มไปหมด ใจร่ำร้องอยากให้ถึงเวลาเย็นเร็วๆ อยากให้คุณหมอรีบกลับมา อยากกินข้าวด้วยกัน เล่นด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกันอีก...
เย็นนี้เขาจะอ้อนคุณหมอตัวเล็กให้หมดทุกอย่างเลย คอยดู
เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขที่ดังอยู่ในบ้าน ทำให้ร่างสูงไม่ทันได้สังเกตรถตู้สีขาวที่ขับมาจอดเทียบอยู่หน้ารั้วบ้าน ชายหนุ่มร่างท้วมที่นั่งอยู่บนนรถตู้มองลอดเข้ามาในบ้านก่อนที่จะยกยิ้มกว้างขึ้นอย่างยินดี
“เจอสักทีนะ ปาร์ค ชานยอล”
v
v
v
v
v
TBC
เยเฮ้ทททททททททททท อะไรยังไง ใครมาเจอพี่ปาร์คแล้วจะเป็นยังไงต่อไป ! จบค้างแบบนี้อย่าตบตีไรท์เตอร์นะ 555
ไรท์ S นางก็พาพี่ปาร์คชานมาให้ตามคำเรียกร้องในแท็กแล้วนะคะ ..มีบทพูดแล้วเนี่ย (5555555 ) ส่วนภาษาอังกฤษอ่ะ ถูกบ้างผิดบ้างบอกได้นะคะ ไรท์ F ไม่ค่อยสันทัดแต่พยายามมาก 555
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านฟิคแปลกๆสุดมโนเรื่องนี้นะคะ
#ฟิคชานริท ไรออ่านความคิดเห็นของคนอ่านอยู่น๊า เผื่อได้แนวในการแต่งต่อไรงี้
เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ (ถ้าแต่งเสร็จ) บัยส์ เลิฟยู
ลงชื่อ (สามติ่ง)
(ตามกระแสพิชานซักหน่อย)
>SQWEEZ
ความคิดเห็น