ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF Chanyeol & Rit ] - M . A . N .O

    ลำดับตอนที่ #8 : [SF] Mhor's err [HBD Chanyeol]

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 57


    Short fic: Mhor's err
    Paring: Chanyeol x Rit the star 6
    Rate: Autistic eiei







    Happy Birth Day na Park Chanyeol ขอให้มีความสุขมากๆ สุขสมหวังกับทุกเรื่อง การงานเจริญก้าวหน้านะ ^^


     

    ...


     

    ไม่ๆๆๆๆ


     

    ...


     

    Happy Birth Day na Park Chanyeol ขอให้มีแต่สิ่งดีดีเข้ามา สุขภาพแข็งแรง มีแต่คนรักน้า ^^



     

    หวานไปไหม?...



     

     

    ไม่ๆๆๆ

     

     


     

    HBD ปาร์ค ชานยอล ขอให้เป็นชายฉกรรณ์ที่ทุกคนเคารพนะ ขอให้เข้มแข็งและปกป้องประเทศชาติให้ได้

     


     

    เห้ย เขาไม่ได้เป็นทหารนี่หว่า

     


     

    ไม่เอา!!


     

     

    โอ๊ยยยยยยย คิดไม่ออก!


     

    ผมโยนโทรศัพท์ขึ้นเตียงก่อนที่ตัวเองจะกระโดดทับตามลงมา หัวเหอตอนนี้ฟูไม่เป็นท่า แต่ก็ไม่ได้อยากจะไปจัดทรงมันเท่าไหร่ อยู่ห้องคนเดียวนี่ ใครจะมาเห็นสภาพคุณหมอไอดอลได้ล่ะ

     

    ใช่เลย ... ผมอยู่คนเดียว

     

    แต่ก็เคยมีช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่คนเดียวอยู่พักนึง อืม...สักสามวันได้ล่ะมั้ง ตอนนั้นผมไปขับรถเฉี่ยวใครบางคนเข้าจนเขาความจำเสื่อม หลังจากนั้นผมก็รับมาดูแลที่บ้าน พักเดียวจริงๆ

     

    แต่ก็เป็นพักเดียวที่....


     

    เฮ้ออออออออออออออออออออออออออออออออออ


     

    ถึงจะโยนมันทิ้งไปเมื่อครู่ แต่ทว่าตอนนี้ผมกลับต้องมาง้อไอ้เจ้าโทรศัพท์อีกครั้ง หน้าจอที่เปิดแอพพลิเคชั่นสีเขียวอี๋ค้างเอาไว้มีแต่ข้อความจากกรุ๊ปเดอะดาวที่ยังไม่ได้เปิดอ่าน โชคดีที่แอพนี้ไม่มีฟังชั่นรีเฟรช ไม่อย่างนั้นผมคิดว่าตัวเองคงจะต้องกดรัวมันจนพังแน่ๆ

     

    แล้วผมจะรีเฟรชทำไมล่ะ

     

    รีไปผัดผักมั้ง! แหม พวกคุณก็

     

    ที่จะรีก็เพราะอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าจะเป็นวันสำคัญยังไงล่ะ!

     

    อะ...เอ่อ มันก็ไม่ค่อยสำคัญกับผมสักเท่าไหร่หรอก(มั้ง)นะ

     

    แต่มันเป็นวันสำคัญของคนบางคนที่ผมไม่ได้เจอตั้งนาน นานจนเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้อ่ะ แต่เราก็ไม่ได้ขาดการติดต่อจากกันไปเท่าไหร่นะ เรายังคงส่งข้อความคุยกันตลอด บางครั้งเขาก็พิมพ์มาหาผม หรือบางทีผมก็พิมพ์ไปหาเขา เวลาว่างของเราไม่ค่อยตรงกัน ส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นข้อความที่พิมพ์ทิ้งเอาไว้เกือบทั้งวันมากกว่า

     

    แต่ถึงจะข้ามวันยังไงเราก็ยังพิมพ์ตอบกันเสมอ

     

    แค่คิดถึงข้อความก็ทำเอาหน้าผมร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างหยุดไม่อยู่เลยอ่ะ ไม่อยากจะพูดเลยว่าคุณเอ๋อเวอร์ชั่นจำความได้นั้น มันผิดจากคุณเอ๋อเวอร์ชั่นเอ๋อที่แสนเอ๋ออย่างหาที่สุดไม่ได้ ดูตัวอย่างมั้ย เช่น ข้อความล่าสุดที่เขาพิมพ์มาหาผม

     

     

     

    เป็นไงล่ะ แค่อ่านดูก็รู้แล้วว่าโคตรเจ้าชู้!!

     

    พูดตรงๆ ว่าถ้าผมอยู่ใกล้ๆ คงได้มีศอกใส่กันบ้างแหละ คนอะไรเจ้าชู้สุดๆ หยอดใส่คนอื่นเขาไปเรื่อย แล้วดูดิ ดิสก็โคตรเหลืองอ่ะ สงสัยจะใช้มาเป็นชาติ ไม่รู้จักเปลี่ยนบ้างเลย (แล้วตัวเองล่ะคุณหมอ 5555555)

     

    แต่ผมก็นับถือในความพยายามที่จะพิมพ์ภาษาไทยของคุณเอ๋อจริงๆ ถึงแม้ผมจะรู้สึกเหมือนตัวเองกินหญ้าทุกครั้งที่อ่านก็เถอะ

     

    ป่อย!

     

    ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงข้อความจากแอพพลิเคชั่นยอดฮิตดัง รีบเปิดหาข้อความทันที แต่ก็ต้องกลับมาหน้าหงิกอีกครั้ง เมื่อข้อความที่ได้กลับเป็น

     

     

    โว๊ะ!! โคตรเซง

     

    ทีไอตอนไม่ว่างล่ะพิมพ์มาหาจังเลย แล้วพอตอนนี้อุตส่าห์เคลียร์เวลาเพื่อจะได้ว่างมาคุย ไอ้คุณเอ๋อกลับหายจ้อยไปซะได้

     

    แบบนี้มันน่างอนไหม!

     

    แล้วผมจะไปงอนในฐานะอะไรเล่า!!!

     

    ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนคิ้วตัวเองจะขมวดเข้าหาจนเป็นอันเดียวกัน ผมตัดสินใจ กลบความฟุ้งซ่านของตัวเองด้วยการคว่ำโทรศัพท์ไว้ ซ้ำอีกทีด้วยการเอาหมอนวางแล้วตัวเองก็นอนทับลงไปเลย เผื่อมีข้อความเข้าก็จะได้สั่นให้รู้ตัว

     

    ส่วนผมจะขอพักสายตาหน่อยนึงละกัน เรียนมาทั้งวันแล้ว...เหนื่อยจะตาย

     

    ZZzzz









     

    CCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRRR









     

     

    ป่อย!

     

    ป่อย!

     

    ป่อย! ป่อย!

     

    ป่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!

     

    โอ๊ยยยยย ตื่นแล้ว!!

     

    ผมควานหาโทรศัพท์ที่อยู่สักมุมบริเวณใต้หมอน ขยี้ตาเล็กน้อยเพื่อปรับแสงสว่างให้กับดวงตา ...นี่ผมหลับสนิทไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย แล้วนี่มันกี่โมงกันแล้วนะ

     

    23.30

     

    อือ ห้าทุ่มเองหรอกหรอ


    (เสียงไอเขตแว่วมา)
     

    ที่เกาหลีเวลาเร็วกว่าเราสองชั่วโมง

    เนี่ยถ้าจะอวยพรวันเกิดใคร ก็เริ่มอวยตั้งแต่สี่ทุ่มได้เลย

     

    สี่ทุ่ม .... สี่ทุ่ม

     

    ตายห่ะแล้ว นี่มันห้าทุ่ม!!

     

    ผมเริ่มคุ้นๆ กับเสียงป่อยๆ ที่เตือนอยู่ใต้หมอนขึ้นมานิดๆ อันที่จริงก็ได้ยินนะ แต่คิดว่าตัวเองคงเพลียแน่ๆ ก็เลยหลับลึกแทนที่จะหยิบมันขึ้นมาดู

     

    โอ๊ย เลยวันเกิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย

     

    ผมเปิดแชทดู

     

    Mhor’s err send stickers                                              111

     

    คุณเอ๋อมาแล้วจริงๆ ด้วย

     

    ผมอยากจะเอาหัวโขกกำแพงหลายๆ รอบ แก้อาการเฟอะฟะของตัวเองจริงๆ ยิ่งเห็นจำนวนข้อความเยอะก็ทำให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าเดิม 

     

    ในข้อความแชทของคุณเอ๋อมีแต่สติ๊กเกอร์ส่งมาเต็มไปหมด ผมสไลด์ผ่านสติ๊กเกอร์เหล่านั้น ยิ้มขำกับสติ๊กเกอร์เบาๆ

     

     

    ผมรีบพิมพ์ข้อความตอบคุณเอ๋อ นี่เห็นว่าเป็นวันเกิดหรอกนะ จะเลิกเล่นตัวสักวันนึงก็ได้

     

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR:  

     

    ผมตกใจที่เห็นว่าข้อความขึ้นคำว่าอ่านแล้วทันทีที่กดส่ง นี่คุณเอ๋อเปิดโทรศัพท์รออยู่ตลอดเลยรึป่าวเนี่ย

     

    Mhor’s err: คุนมอมาแว้ว  อ่านแล้ว 

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: ดึกแล้วนะ

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: มีอะไร

    Mhor’s err: อ่านแล้ว 

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: ...

     

    ผมขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเขาเงียบไป คือจริงๆ กะจะแกล้งลืมวันเกิดเฉยๆ นะ ไม่ได้ตั้งใจจะกวน แต่คือแบบ...

     

    เขาโกรธรึเปล่านะ


     

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: เงียบทำไมน่ะ

    Mhor’s err: คุนมอลืม  อ่านแล้ว 

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: ลืม? อะไรหรอ

    Mhor’s err: ปาวขับ ไม่มีอาไร  อ่านแล้ว 

     

    แล้วคุณเอ๋อก็เงียบไปเหมือนเดิม ผมส่ายหัวนิดๆ ให้กับท่าทีที่เหมือนจะงอน แค่นึกภาพคนตัวสูงท่าทางเอ๋อๆ ทำปากยื่นงอน ก็พาเอาคุณหมอแบบผมกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่

     

    อยากเห็นหน้าจริงๆ เลย


     

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: นี่ คุณเอ๋อ

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: แกล้งเล่นเฉยๆ หรอก จริงๆ ไม่ได้ลืม

    Mhor’s err: *O*  อ่านแล้ว 

     

     

    เราสองคนคุยอะไรกันอีกเยอะแยะ โดยปกติแล้วมันก็จะเป็นเรื่องชีวิตประจำวันที่ต่างคนต่างไปเจอมา ผมอ่านประโยคกระท่อนกระแท่นของเขาที่พิมพ์ ดูก็รู้ว่าต้องใช้ความพยายามมากแน่ๆ กับการพิมพ์ภาษาไทย ให้เดาล่ะก็ ข้างๆ ตัวเขาคงมีดิกชันนารี่วางอยู่ด้วยชัวร์ ผมปล่อยให้เขาพิมพ์เล่าเรื่องราวของตัวเองมาจนหมด ก่อนที่ตัวเองจะพิมพ์บ้าง ผมเพ้าถูกจัดให้เป็นทรงตั้งแต่รอเขาพิมพ์แล้ว ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ

     

    ก็บอกแล้วไง ว่าผมจะเลิกเล่นตัวสักวันน่ะ...

     

    อ่านแล้ว  RiTThEsTaR: นี่ คุณเอ๋อ

     


     

     

    ระหว่างรอเขารับสาย มือของผมเย็นไปหมด ทั้งตื่นเต้น ทั้งประหม่า หันไปส่องกระจกตั้งหลายที หวังว่าตอนนี้หน้าผมจะยังไม่มีสิวนะ เอ๊ะ หรือว่าผมจะหาแมสมาปิดหน้าดี

     

    ติ๊ง

     

    ไม่ทันแล้ว

     

    ปลายสายกดรับเรียบร้อย ผมวงโทรศัพท์ให้พิงกับหมอนเอาไว้ แล้วตัวเองก็นอนคว่ำลงมา ภาพที่ปรากฏหน้าจอเป็นภาพโต๊ะไม้ตัวหนึ่ง ด้านหลังเป็นกองของขวัญและเค้กก้อนหนึ่งวางอยู่ ผมได้ยินเสียงขลุกขลั่กๆ ก่อนที่ปลายสายจะปรากฏตัวออกมา

     

    อ๋า....

     

    คุณเอ๋อวิ่งมานั่งบนเก้าอี้ ก่อนจะยื่นหน้ามาเสียเกือบติดโทรศัพท์ ผมตกใจผงะไปด้านหลัง

     

    “อะไรของคุณเนี่ย!” เป็นหมอต้องสุภาพ อาจารย์สอนเอาไว้

     

    “ซอรี่ๆ เอ่อ ขอประทานอาภัยพะย่ะค่ะ คุนมอหลวง”

     

    ผมอ้าปากค้างให้กับศัพท์ปะหลาดๆ ของคุณเอ๋อ

     

    แต่ร่างสูงที่อยู่ปลายสายกลับฉีกยิ้มยิงฟันครบสี่สิบซี่มาให้แทน

     

    “ข้าพเจ้า นายคุณเออ ของคุนมอหลวง รายงานตัวแหล่วขอรับ”

     

    “พูดอะไรของคุณเนี่ย” ผมเอานิ้วจิ้มๆ ไปที่หน้าจอ “ใครสอนให้พูดห๊ะ!

     

    “โอ๊ะๆ พลีส สปีคสโลวลี่ มายด็อก” ด็อกเตอร์โว้ย “พี่คายูฝึกให้พม เขาบอกว่าเอาไว้ใช้กับคนสนิท”

     

    ผมตบหน้าผาก นับตั้งแต่คุยกันมา นี่เป็นครั้งที่นับไม่ถ้วนแล้ว ที่คุณเอ๋อโดนรุ่นพี่ในค่ายหลอกเอา

     

    เรียกได้ว่า เอ๋อตั้งแต่ความจำเสื่อมยันความจำดี

     

    “คุนมอ...เอ่อ โนวๆ” คุณเอ๋อพลิกกระดาษไปหน้าอื่น “คุนมอพะย่ะค่ะ”

     

    “พอๆๆ เลยคุณเอ๋อ คำพวกนั้นมันเอาไว้ใช้กับเชื้อพระวงศ์นู่น นายกลับมาคุยปกติแบบคนอื่นเขาเดียวนี้นะ”

     

    คุณเอ๋อทำปากขมุบขมิบ ได้ยินเขาบ่นออกมาเบาๆ ว่า สปีคสโลวลี่ๆ แต่สุดท้ายก็ยอมที่จะพูดดีๆ จนได้

     

    “คิดถึงจัง...” เอ่อ...

     

    ไอ้บ้า!

     

    ให้พูดดีๆ ดันพูดอะไรออกมาก็ไม่รู้

     

    I miss you ผมคิดทึงคุนมอจริงๆ นะคะ”

     

    ผมดึงหมอนข้างที่อยู่ไม่ไกลออกมาปิดหน้าเอาไว้เกือบหมด ปิดบังสีหน้าที่ตอนนี้มันคงจะแดงไปถึงไหนต่อไหน

     

    ผมก็อยากจะบอกเขาเหมือนกัน

     

    คิดถึงก็มาหาสิ...

     

    “คุนมอ..”

     

    คุณเอ๋อเรียกผมทั้งที่ยังยิ้มไม่หุบ นิ้วเรียวของเขายกขึ้นมาจิ้มที่หน้าจอ ก่อนจะขยับขึ้นลงไปมา

     

    เกิดความเงียบขึ้นมากะทันหัน ผม(ที่เขิน)พูดอะไรไม่ออก ถึงจะเลิกเล่นตัวแล้วก็เถอะ แต่พอได้เจอกับหน้าตาและซุ่มเสียงที่คุ้นเคย กลับทำให้หัวใจมันเต้นแรงขึ้นมาอย่างปะหลาด

     

    ผมก็คง...

     

    คิดถึงเขา ... เหมือนกันล่ะมั้ง

     

    ผมปล่อยให้คุณเอ๋อพูดภาษาไทยปนเกาปนอิ๊งต่อไปเรื่อยๆ (ผมเอาหมอนปิดหน้าไว้ให้เหลือแค่ตา) เพิ่งรู้ว่าการนอนฟังเขาพูด(ผิดๆถูกๆ สลับกับหยอด) มันทำให้รู้สึกเพลินจนไม่อยากจะลุกไปไหนเลย คุณเอ๋อก็ดี๊ดี พยายามถามให้ผมต้องตอบ(แล้วก็ต้องเอาหน้าออกมาจากหมอน) นับว่าฉลาดไม่เบา

     

    รู้ตัวอีกทีก็...ตีสองแล้ว

     

    เห้ย นี่เราคุยกันมานานเท่าไหร่แล้วเนี่ย

     

    หาว~~

     

    พูดแล้วก็หาวเลย

     

    “คุนมอ...เงี่ยนแล้วหรอขับ”

     

    พรวดดด!

     

    ผมสำลักน้ำลายตัวเอง

     

    “แค่กๆๆ...คุณพูดว่าอะไรนะ!

     

    ผมถามย้ำ เผื่อว่าตัวเองหูฝาด

     

    “ก็...คุนมอเงี่ยน”

     

    “นาย....”

     

    ผมตบหน้าผากตัวเองอย่างเพลียจิต อยากเห็นหน้าคนที่สอนภาษาไทยให้ไอคุณเอ๋อชะมัดเลย

     

    “ง่วง ฉันง่วง ไม่ได้เงี่ยน เข้าใจไหม” เห็นคุณเอ๋อพยักหน้าอยู่ปลายสาย “คำว่าเงี่ยนเป็นคำไม่ดี อย่าใช้อีกนะ”

     

    ผมเห็นเขาอ้าปากจะเถียง แต่พอเห็นสายตาดุๆ ของผมก็กลืนคำพวกนั้นลงคอไป

     

    “...ถ้าเงี่....เอ่อ ง่วงก็นอนเถอะขับ” เขาส่งยิ้มจางๆ กลับมา “เดี๋ยวค่อยคุยกันกะด่าย”

     

    บอกให้ไปนอน แต่ก็ไม่เห็นต้องทำน้ำเสียงน่าสงสารขนาดนั้นนี่นา... ใครฟังต้องใจอ่อนแน่ๆ

     

    แต่พรุ่งนี้ผมมีเรียนเช้าซะด้วย วิชาสำคัญ ถ้าไปหลับในห้องเรียน ก็คงทำข้อสอบไม่ได้แน่ๆ

     

    ยังไงก็ต้องวางล่ะนะ

     

    “เอาไว้วันหลังคุณค่อยวีดีโอคอลมาก็ได้”

     

    ผมว่าผมเห็นหูเขากระดิก ฮ่าๆๆๆ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคอลมาหรอกครับ ออกจะบ่อยด้วยซ้ำไป เพียงแต่ผมไม่เคยจะรับก็เท่านั้นเอง

     

    ไม่อยากจะเห็นหน้าบ่อยๆ หรอก

     

    กลัว...

     

    “ถ้างั้นก็...ฝันดีนะขับ คุนมอของผม”

     

    ผมยังไม่เลิกตื่นเต้นกับคำว่าคุนมอของผมที่เขามักจะใช้ ฟังทีไรหัวใจก็ยังเต้นแรงไม่เปลี่ยนเลย

     

    “เดี๋ยว...” ปลายสายทำหน้าสงสัย ผมกระแอมสองสามทีเบาๆ ก่อนจะรวบรวมคำพูดที่ตั้งใจจะพิมพ์ไปให้เขาตั้งแต่สี่ทุ่ม

     

    “คะ...คือ...”

     

    “...”

     

    “...แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะ มีความสุขมากๆ รวยแล้วอย่าลืมแวะมาหากันบ้างล่ะ”

     

    “....”

     

    “....คิดถึง...”

     

    ติ๊ด...

     

    ผมตัดสายไปพร้อมหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก

     

    อ๋า...

     

    เหมือนถูกฉีดยาชาที่หน้าเลย

     

    นอนดีกว่า

     

    บาย!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     End

     

     

     

     Happy Birth Day พิชานนะฮะ ขอให้มีความสุขมากๆ ร่างกายแข็งแรง ฟิตปั๋ง ปึ้งปั้งกับแบค(?)ได้นะ
    55555555555555555555555555555555555

    ขอบคุณทุกคนที่แวะมา

    ก่อนไปอย่าลืม #ฟิคชานริท

    กราบสวัสดีขอรับกระผม

     

    @GSM59 sam-ting

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×