ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF Chanyeol & Rit ] - M . A . N .O

    ลำดับตอนที่ #6 : M.A.N.O - 5

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 57


    M.A.N.O-5

     

     

    [ Chanyeol Part]

     

    หลังจากคุณหมอตัวเล็กกลับไปที่โรงพยาบาลผมก็ไม่มีอะไรทำ หยิบถุงขนมแล้วเดินมาเปิดทีวีดู แล้วมันมีแต่ภาษาอะไรที่ผมไม่เข้าใจเหมือนทุกครั้งที่ดู ภาษาเดียวกับที่คุณหมอและคนอื่นๆที่นี่พูด

     

    สายตาผมก็เหลือบไปเห็นหมวกไหมพรมสีแปร้ดๆสองใบที่วางไว้บนโต๊ะหน้าทีวี

    อร๊างงง นั่นหมวกคู่ของผมกับคุณหมอนี่นา

     

    ผมหยิบหมวกสีแดงมาใส่ก่อนเดินไปหน้ากระจกที่ใกล้ที่สุด

     

    “อ๊า  คนอะไรหล่อชะมัด นายมันเท่ห์สุดๆ  คิคิ”

     

    ผมก็พยายามคิดเหมือนกันนะครับว่าตัวเองเป็นใคร แต่มันจำไม่ได้ง่ะ ให้ทำไง แล้วผมก็นึกไปถึงวันที่ซื้อหมวก..ตอนได้ยินเด็กผู้หญิงที่ร้านขายหมวกพูดถึงคำว่า เอ็กโซ่ อะไรนั่น แล้วคำนี้มันก็ติดค้างในหัวผมมาตลอด ..

    ผมก็ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกคุ้นเคย..

     

    เมื่อวานตอนเย็นก่อนไปเที่ยวผมก็ได้ดูหนังที่คุณหมอเปิดให้ดู คือผมฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก น่าจะเป็นพวกหนังมาเฟียอะไรแบบเนี้ยผมเห็น ผู้ชายคนนั้นโดนไล่ตื้บ วิ่งหนีอุตลุต

     

    เอ๊ะ แล้วถ้าผมดันเป็นพวกมาเฟีย อะไรแบบนี้ล่ะ?

     

    หล่อๆ แบบผมคงไม่ได้เป็นอะไรแบบนั้นหรอกมั้ง -3-

     

    แต่ก็ช่างมันเหอะ เอาเป็นว่าตอนนี้ผมมีความสุขดีที่ได้อยู่กับคุณหมอ ><

     

     

    ผมอยู่เฉยๆ คนเดียวในบ้านอย่างเหงาหง็อย นั่งเล่นก็แล้ว นอนเล่นก็แล้ว กลิ้งไปกลิ้งมาก็แล้ว ก็ยังไม่มีอะไรทำ คือโคตรคิดถึงคุณหมอเลย เมื่อไหร่จะกลับมาอะ ผมอยากเจอออออ T^T

     

    //ติ๊งหน่อง//

     

    หือ?

     

    เสียงกริ่งนิ?

     

    // ติ๊งหน่อง  ติ๊งหน่อง  ติ๊งหน่อง //

     

    ผมตีลังกา(?)กลับมานั่งบนโซฟาในท่าปกติ

     

    หรือว่าคุณหมอจะกลับมาแล้ว?

     

    เฮ้ยยยยย ดีใจจจจจ

     

    ผมรีบกระเด้งตัวออกจากโซฟาแล้วติดเกียร์เอ๋อ(?) วิ่งไปหน้าบ้านทันที คุณหมอกลับเร็วแบบนี้แสดงว่าคิดถึงผมเหมือนกันใช่มั้ยเนี่ย คิคิ

     

    พอวิ่งมาถึงหน้าบ้านผมก็ต้องแปลกใจ เมื่อคนที่ยืนอยู่กลับไม่ใช่คุณหมออย่างที่คิดไว้ แต่กลับเป็นผู้ชายร่างท้วมคนนึงยืนอยู่ เขาอยู่ในชุดที่ค่อนข้างเป็นทางการสวมแว่นกันแดดสีดำสนิทดูเหมือนพวกมาเฟียในละครที่เพิ่งดูไปเมื่อคืนยังไงชอบกล

     

    อะอันยองผมลองทักทายดู

     

    ผู้ชายคนนั้นส่งยิ้มเบาๆ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ประตูรั้วมากกว่าเดิม

     

    ฮะ..เฮ้ย อย่าเข้ามานะเว้ย

     

    ชานยอล

     

    ..คุณมาหาใครครับ?”

     

    ผมถาม ผู้ชายคนนั้นเลิกคิ้วก่อนกดหน้าลงแล้วใช้สายตามองลอดแว่นของเขามาที่ผม

     

    นายจำฉันไม่ได้?”

     

    ผมส่ายหัวแบบไม่ต้องคิดเลยผู้ชายคนนั้นถอดแว่นออก ตาตี่ๆที่มองยังไงก็ไม่น่าจะมองเห็นโลกได้กว้างเท่าผมกำลังมองมา ผมว่าผมเพิ่งเคยเห็นหน้าเขาครั้งแรกนะ อีกอย่างผมว่าไม่เคยรู้จักคนขี้เหร่ๆแบบนี้หรอก  (หวายยยยยย)

     

    แต่เอ๊ะเขาพูดภาษาเดียวกับผมนี่?

     

    คุณ….พูดภาษานี้ได้หรอ?”

     

    ได้ดิ ฉันก็เป็นคนเกาหลีนะนายนี่ยังไง แล้วเปิดประตูให้ฉันก่อนได้มั้ย เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ

     

    เขาเกาะรั้วแล้วเขย่าเบาๆ สัญชาตญาณสั่งให้ผมถอยหลัง คนมองจึงทำท่าหงุดหงิดผิดจากเมื่อกี้นิดหน่อย

     

    ผะผมไม่เปิดให้หรอก

     

    ใครจะโง่เปิดประตูให้คนแปลกหน้าเข้าบ้านวะ

     

    กริ๊ก

     

    ร่างท้วมดึงกลอนประตูที่ล็อคอยู่ขึ้นแล้วเดินเข้ามาอย่างสบายๆ ชะชิบหายละลืมไปว่ากลอนมันกระจอก ใครจะเปิดเข้ามาก็ได้นี่ผมกำลังปล่อยให้โจรเข้าบ้านรึเปล่าเนี่ย ไม่นะเว้ย อย่าเข้ามา!

     

    หยุดนะ เจ้าโจรใจทราม!!”

     

    ผมตะโกนเสียงดัง แล้วก็ได้ผล ผู้ชายคนนั้นชะงัก เขาทำสีหน้าไม่พอใจ

     

    ย๊า นี่กล้าพูดกับฉันแบบนี้แล้วหรอเนี่ย

     

    เขาตวาดใส่ผม ทำท่าทางเหมือนคนรู้จักกันมานาน แต่ผมว่าไม่ใช่หรอก ความจริงมันต้องเป็นแผนการของเจ้าโจรร้ายคนนี้แน่ๆ

     

    ผมไม่โง่หรอกโฟร้ยยยย

     

    จู่ๆ ร่างท้วมของชายคนนั้นก็เดินดุ่มๆ มาที่ผมแบบไม่ทันตั้งตัว  เขาจับแขนข้างที่ไม่มีเฝือกของผมเอาไว้แน่น ก่อนจะออกแรงลากผมให้เดินตามไป

     

    จะไปไหนนนนน ไม่ไปปปป ปล่อยนะเว้ยยยยยยยยยยยย

     

    ผมแหกปากร้อง กะให้คุณป้าข้างบ้านที่ชอบมาด้อมๆ มองๆ หรือใครก็ได้แถวนี้ออกมาช่วยแต่ดูมันจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ เพราะคนแถวนี้คงไม่เข้าใจที่ผมพูดผู้ชายร่างท้วมคนนั้นพยายามที่จะจับผมยัดเข้าไปในรถตู้ ซึ่งบนรถตู้คันนั้นก็มีผู้ชายในชุดสูทอีกสองคน เฮ้ย โจรแน่ๆ แม่ม!

     

    ม่ายยยยยยยยยยยยยย

     

    อย่าดื้อได้ไหมเข้ามาดีดี

    ไม่เข้า ไม่เอา!”

    ไม่เอาก็ต้องเอา บอกให้เข้ามา

    ไม่!!ไม่เอา ไม่อยากเอา

     

    เอ่อ บทสนทนามันดูส่อนิดหน่อย แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องไปใส่ใจ ผมพยายามสะบัดแขนอ้วนๆ ของเจ้าโจรร้ายออก ในขณะที่เขาพยายามจับผมใส่รถตู้ ผมยื้อตัวเองจนเจ็บแขนไปหมด

     

    ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยย

     

    ปั้ก!

     

    อุ่ค!...”

     

    ผมเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างท้วมของผู้ชายคนนั้นล้มลงไปกองอยู่กับพื้น ขะคือ ผมแค่ยกขาเตะผ่าหมากผู้ชายคนนั้นเองนะ แต่ผมตกใจไปหน่อยก็เลยออกแรงมากไปนิ๊สสสส

     

    ขอโทษนะคุณโจร~~”

     

    ส่งตาหวานปิ๊งๆ

     

    มะไม่เป็นไร เอ้ย ไม่ใช่ บอดี้การ์ดอยู่ไหน จับชานยอลไว้เร็วๆ!!”

     

    และก่อนที่บอดี้การ์ดน่ากลัวจะเข้ามาได้ ผมก็ตั้งสติและรีบวิ่งหนีออกมาเสียก่อน

     

    คุณหมออยู่ไหน ….ช่วยผมด้วยย!!!

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    [Rit Part]

     

    ริท…”

    “…”

    “….ไอริท

    “….”

    “….ริทโว้ย!”

    หะห๊ะ

     

    ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงไอ้เขตดังเข้ามาในโสตประสาท หันไปมองไอเพื่อนตัวดีก็เห็นว่ามันกำลังนั่งจ้องผมอยู่

     

    อะอะไร

    เป็นบ้าอะไร เดี๋ยวก็ยิ้ม เดี๋ยวก็หน้าบึ้งอยู่คนเดียว

    ป่าวสักหน่อย

    “ก็เห็นๆอยู่  อ่ะนี่รีบๆดูชาร์ตซะ ก่อนที่ อ.หมอจะมา”

     

    ชิ ได้ทีข่มใหญ่

     

    ผมเปิดชาร์ตคนไข้ดูแต่ไม่รู้ทำไมในหัวกลับคิดถึงแต่หน้าเอ๋อๆ..

     

    แย่แน่ๆ ผมว่าผมแย่แล้วอ่ะ T T

     

    ผมก็พยายามจะปฏิเสธตัวเองว่าผมคงไม่ได้รู้สึกอะไรมากกับไอ้คุณเอ๋อ..อาจจะแค่รู้สึกดี...แค่นี้คงพอ.. เพิ่งรู้จัก(?)ได้สามวันเอง

     

    “เอ๊าๆ ให้ดูชาร์ตเหม่ออีกแล้ววว”!!

     

    “เอออ กุรู้แล้วว  !!

     

    อย่าไปบอกไอ้เขตมันนะว่าผมคิดอะไร   T///T

     

     

    ระหว่างคอนเฟอร์เรนซ์กับอ.หมอ ผมค้นพบว่าวันนี้ตัวเองไม่มีสมาธิเอาเสียเลย อยู่ๆมันก็รู้สึกกังวลใจแปลกๆ..

    ตาคอยมองแต่เข็มนาฬิกา ใจก็ร่ำๆอยากกลับบ้าน..

     

    เมื่อไหร่จะบ่ายสี่โมง  T T

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

     

    [Chanyeol Part]

     

    ผมซอยเท้าวิ่งออกจากบ้านมาไกลมากแล้ว แต่บอดี้การ์ดสองคนข้างหลังก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตามเริ่มเหนื่อยแล้วนะเว้ย แต่ผมจะหยุดวิ่งไม่ได้ เพราะถ้าหยุด นั่นหมายถึงผมจะต้องโดนจับตัวไป

     

    พวกมันอาจจะเอาผมไปปล้น ฆ่า ข่มขืน(?) อะไรแบบนี้

     

    แค่คิดขนแขนก็สแตนอัพแล้ว ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย

     

    แฮ่กๆๆๆ เหนื่อยจนรู้สึกว่าลิ้นห้อย และแขนก็ระบมไปหมดแล้วอะ ผมจะทำยังไงดี จะไปหลบตรงไหนดีวะ?

     

    แล้วสายตาอันเฉียบคมของผมก็มองเห็นถังขยะใบใหญ่อยู่ข้างหน้า

     

    เหยดดดดดถังขยะ!

     

    อ๊ะ อ๊ะ ทุกคนอย่าเพิ่งคิดกันไปไกลนะว่าผมจะเข้าไปแอบในถังขยะอะไรแบบเนี้ย เหยยยย ผมไม่สั้น เอ้ย ไม่คิดสั้นขนาดนั้นหรอกเว้ย ถังขยะมันเหม็นจะตายชัก ใครอยู่ได้ก็บ้าแล้ว!

     

    นั่นสินะคนอยู่ได้ต้องบ้าแน่เบย ครุคริ ><

     

    ผมรีบพาตัวเองให้วิ่งไปหาถังขยะใบใหญ่ที่วางอยู่ข้างทางนั้น ก่อนจะจับหูมันขึ้นมา แหยะ จะอ้วกว่ะพี่น้อง ขนาดแค่จับขอบๆ ผมยังรู้สึกได้ถึงน้ำเหม็นๆ เลยอะ

     

    นี่ไม่ต้องคิดว่าถ้ามันไปอยู่บนหัวใครสักคนนะมันก็คงจะ

     

    แหมะ!!

     

    ผมโยนถังขยะใบใหญ่ไปหาหนึ่งในบอดี้การ์ด คือจับโยนมั่วๆ นะ แต่ใครจะไปคิดว่าคุณบอดี้การ์ดของเจ้าโจรร้ายจะไม่ยอมหลบ มิหนำซ้ำยังเอาหัวเหม่งๆ ของตัวเองเข้าไปอยู่ในถังขยะอีกต่างหาก เฮือก ผมจะอ้วก!

     

    อี๋!!!

     

    และในขณะที่ผมกำลังจะวิ่งหนีไปอีกครั้ง ผมก็เจอกับฉากสวีวี่วีที่ไม่เคยพบเจอ เมื่อบอดี้การ์ดอีกคนวิ่งเข้าไปหาเพื่อน

     

    มะไม่ต้องห่วงกู ไปจับชานยอลเอาไว้

    แต่มึงกำลัง….”

    บอกให้ไปไง!!มึงไม่ต้องห่วงกู!…”

    แต่ว่า…”

    ไปสิ!!”

     

    เออ!กูไปก็ได้ จริงๆกูแค่จะบอกว่าไปล้างตัวก่อนขึ้นรถตู้ด้วยล่ะ แม่งเหม็นสาด

     

    หลังจากนั้นบอดี้การ์ดตัวขาวสะอาดอีกคนก็วิ่งตามผมมา

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    [Rit Part]

     

    15.30 .

     

    ผมนั่งมองเข็มนาฬิกาที่กำลังเดินวนเป็นวงกลมอย่างเชื่องช้า ใจอยากจะเดินไปแงะมันออก แล้วหมุนเข็มสั้นให้ไปอยู่เลข 4 โคตรๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วผมก็ได้แค่นั่งมองมันไปเรื่อยๆ เท่านั้น

     

    เบื่อ เบื่อ แล้วก็เบื่อที่สุด

     

    เบื่อทั้งเวลาแล้วก็ตัวเองที่ทำตัวเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้ม นั่งอมยิ้มมีความสุขเวลาที่คิดถึงใครบางคน และรู้สึกกังวลใจเพียงแค่คิดว่าตอนนี้เขาอยู่คนเดียว

     

    จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย

     

    จะหิวหรือเปล่า? เจ็บแผลมั้ย? หรือว่ากำลังนอนหลับอยู่ แอร์เย็นสบายนอนได้หรือเปล่า?

     

    โอ๊ยยย ผมล่ะเกลียดความคิดตัวเองชะมัด

     

    พูดแล้วก็เครียด ก่อนหน้านี้ผมโดนไอ้เขตล้อเกือบตายว่าตัวเองกำลังมีความรัก ซึ่งผมก็เถียงขาดใจ

     

    แล้วดูความคิดตัวเองตอนนี้ดิ = =

     

    น่าเพลียไหมล่ะ

     

    แต่เอาเถอะ  จะยังไงก็ช่างมันตอนนี้ผมสนใจแค่เมื่อไหร่จะสี่โมงเย็น(วะ) เมื่อไหร่จะได้เลิกงาน

     

    อยากกลับบ้านอยากเจอเขาอยากเจอมากด้วยให้ตายสิ !

     

     

     

     

     

     

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

    [Chanyeol Part]

     

    เหนื่อยใจจะขาดแล้วโว้ยยยยยยยย!

     

    คุณเอ๋ออยากจะรายงานให้ทุกคนทราบว่าไอ้คุณบอดี้การ์ดที่เหลืออยู่คนเดียวเนี่ย อึดสุดๆ วิ่งตามผมแบบระยะประชิด แทบจะคว้าตัวผมได้ก็หลายครั้ง แต่ผมก็รอดหวุดหวิดมาได้ตลอด ความเร็วจากการวิ่งตอนนี้ก็ช้าลงมาก ขาก้าวแทบไม่ออกแล้ว ร่างกายเหมือนจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

     

    ยะหยุดนะคุณชานยอล! แฮ่กๆๆ

     

    เสียงตะโกนปนหอบแฮ่กที่ดังไล่หลังทำให้ผมแน่ใจได้ว่าเขาเองก็คงเหนื่อยไม่ต่างกัน

     

    มะ..ไม่ แฮ่กๆ  คุณเลิกตามผมเลยนะ พวกโจรชั่ว

     

    ผมหันไปพูดก่อนจะฝืนสังขารวิ่งต่อ รู้สึกหนักแขนข้างที่ใส่เฝือกจนต้องยกแขนอีกข้างมาประครองไว้ โอ๊ย คุณเอ๋อจะร้องไห้แล้วนะ

     

    พะพวกเราไม่ใช่โจรนะ

     

    โจรที่ไหนมันจะมายอมรับว่าตัวเองเป็นโจรบ้าง?

     

    เชื่อก็บ้า!

     

    ผมเบ้ปากใส่ไอ้คุณโจรบอดี้การ์ด(ห่านเอ๊ย จะเป็นอะไรเลือกเอาสักอย่าง ๕๕) เอาล่ะเว้ย ผมจะขอใช้พลังลมปราณเฮือกสุดท้ายกำจัดคุณโจรบอดี้การ์ดคนนี้แล้วกันเพราะตอนนี้ผมหิวโคตรๆ และที่สำคัญ

     

    คิดถึงคุณหมอเป็นบ้า อยากเจอหน้า อยาก…… จุ๊บ

     

    อ๊ากกก แค่คิดก็ฟินไปถึงสุไหงโกลกแล้ว(รู้จักเรอะ?) เพราะฉะนั้น ตายซะเถอะแก ไอ้โจรบอดี้การ์ดตัวร้ายยยย!

     

    เหวอออออออ!!!”

     

    เสียงของชายในชุดสูทร้องอย่างดังเมื่อผมคว้ารถเข็นขนาดเล็กที่คาดว่าชาวบ้านในตลาดแถวนี้น่าจะเป็นคนเอามาวางไว้ ขอโทษนะครับคุณเจ้าของ เอาไว้ผมจะให้คุณหมอตัวเล็กมาชดใช้ให้ก็แล้วกันนะ ตอนนี้ขอยืมก่อน

     

    ตุ้บ!!

     

    โชคดีล่ะคุณโจร ก๊ากกกกก

     

    ร่างบึ้กๆ ของคุณโจรบอดี้การ์ดหล่นตุ้บลงบนรถเข็น พร้อมๆ กับที่ผมออกแรงถีบรถเข็นนั่นอย่างแรง โชคเข้าข้างมากที่ทางข้างหน้านั้นเป็นทางลาดลง รถเข็นที่ไม่น่าจะไปได้ไกล จึงไถลลงไปอย่างรวดเร็ว

     

    อ๊ากกกกกโจรบอดี้การ์ดร้องอย่างพ่ายแพ้

     

    ผมชูกำปั้นขึ้นฟ้าอย่างดีใจ

     

    เยส!! ไอแอมเดอะวินเนอร์!!

     

    เอ่อะดูปัญญาอ่อนไปรึเปล่านะ

     

    ผมรีบหุบแขนตัวเองลงก่อนที่จะหันหลังกลับเพื่อที่จะเผ่นไปไหนสักที่ รอเวลาที่คุณหมอจะกลับมาแล้วผมค่อยย่องไปเจอ แต่พอหันกลับไปก็เห็นรถตู้สีขาวคุ้นตาคันเดิมจอดอยู่ ประตูรถถูกเลื่อนออกพร้อมกับชายร่างท้วมที่พัฒนาแล้วในร่างแอดวานซ์เดินลงจากรถมา

     

    บ้าจริง ผมยังไม่หายเหนื่อยเลยนะเว้ย!!

     

    ผมติดเกียร์เอ๋อออกวิ่งทันที แต่ด้วยความที่กลัวว่าผู้ชายคนนั้นจะวิ่งตามมาทัน ผมจึงต้องหันไปมองบ่อยๆ ทำให้ตัวเองไม่ทันสังเกตุ

     

    ปั้ก!!!

     

    เสาไฟฟ้าขนาดเบ่อเร่อที่มันบังอาจมาขวางทางการวิ่งของผม

     

    หัวที่กระแทกเข้าไปอย่างแรงทำให้ผมรู้สึกมึนงง ตื้อไปทั้งหัว มันปวดจี๊ดจนถึงกับทรงตัวยืนไม่อยู่ สุดท้ายร่างของผมก็ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างหมดแรง ผมพยายามปรือตาขึ้นมา อยากจะร้องเรียกใครสักคนให้ช่วย แต่ก็ไม่มีแรงพอ

     

    แม่งเอ๊ยกูหนีมาทั้งเรื่องเพื่อชนเสาไฟฟ้าต้นเดียว

     

    คุณหมอครับคุณหมออยู่ที่ไหน

     

    ช่วยผมด้วย ….ผมอยากเจอคุณหมอ

     

    แล้วสุดท้ายสติของผมก็ดับวูบไป

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .
    .

     

    [Rit Part]

    16.10 . !!

     

    ผมสวมวิญญาณนักวิ่งระดับโลก วิ่งออกจากโรงพยาบาลแทบจะทันที ไม่ลืมที่จะแวะซื้อของสดที่โลตัส วันนี้ผมว่าจะให้คุณเอ๋อทำอาหารเกาหลีให้กินซะหน่อย พอซื้อของ(หยิบมั่วๆ)เสร็จผมก็รีบกลับบ้านไปหาใครบางคนที่บอกให้ผมรีบกลับไป..

     

    ทำไมถึงรู้สึกร้อนใจแปลกๆ

     

    กระโดดขึ้นรถมาได้ก็รีบขับออกมาอย่างเร็ว จุดมุ่งหมายคือบ้านของผมเอง

     

    เอี๊ยดดดดด!

    จำต้องแตะเบรคอย่างกะทันหันเมื่อมีรถตู้สวนออกมาในขณะที่กำลังจะเลี้ยวเข้าซอยบ้าน นึกหงุดหงิดนิดหน่อยที่รถคันนั้นขับออกมาทั้งๆที่ไม่ยอมเปิดไฟเลี้ยว แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจมาก เพราะจุดมุ่งหมายของผมตอนนี้มีแค่ที่เดียว

     

    อ่าจู่ๆก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเมื่อนึกถึงหน้าเอ๋อๆของคนบางคน

     

    ตื่นเต้นจนนึกไม่ออกว่าถ้าเจอหน้าเขาแล้วผมควรจะทักทายว่าอะไรดี

     

    สวัสดี กินข้าวหรือยัง?

     

    หรือ

     

    หิวมั้ย รอนานรึเปล่า?

     

    หะหะทั้งที่จากกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง

     

    ผมเขกหัวตัวเองเบาๆกับความคิดบ้าๆที่แวบเข้ามาในหัว พอดีกับรถที่จอดลงตรงหน้าบ้านนึกแปลกใจที่เห็นว่าประตูรั้วถูกเปิดทิ้งเอาไว้ มองเข้าไปในบ้านก็เห็นประตูบ้านกำลังเปิดอยู่เช่นเดียวกัน

     

    หืม?

     

    ผมรีบสาวเท้าเดินเข้าไปในบ้าน ทีวีถูกเปิดเอาไว้ แต่คนที่ควรจะนั่งดูตรงนั้นกลับหายไป หายไปไหน?

     

    คุณเอ๋ออยู่ไหนน่ะ คุณเอ๋อ

     

    ผมตะโกนเรียกเขาพร้อมๆกับตามหาเจ้าตัวไปรอบบ้าน แต่ก็ไม่พบ ครั้งนี้เขาไม่ได้อยู่หน้าบ้านแบบครั้งก่อน ในห้องครัวก็ไม่มี ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือแม้แต่ห้องน้ำก็ไม่มี

     

    คุณเอ๋อได้ยินผมหรือเปล่า  คุณเอ๋อ! คุณหายไปไหน

     

    …..

     

    คุณเอ๋อ..”

     

    ……

     

    คุณ

     

    ใจผมเต้นตุ่บๆราวกับจะหลุดออกมาเสียให้ได้ 

     

    มันหวิวๆข้างในนี้ในใจผมกำลังรู้สึกไม่ดี  ใช่ แบบนั้นแหละ  ผมรู้สึกใจคอไม่ดีเอามากๆ  มือและหน้าชื้นเหงื่อไปหมด 

     

    คุณอย่าเล่นแบบนี้นะ  ออกมาได้แล้ว

     

    ลางสังหรณ์ของผมมันบอกว่านี่คือบางอย่างที่ผิดปกติไปใช่แน่ๆ เขาไม่ได้อยู่ที่นี่

     

    ไม่นะต้องไม่เป็นแบบนี้สิ

     

    คุณหายไปไหนของคุณน่ะ...


    TBC




     

    เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ได้ลงซักที (มีคนรอมั้ย) 5555 ว่าแต่คุณเอ๋อหายไปแล้ว  หมอริทจะว่าไงอ่า  >< ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ไว้เจอกันใหม่เมื่อแต่งตอนต่อไปเสร็จ  บายย
    #ฟิคชานริท   


    >SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×