คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บท ๐๖ . ชัดเจน
6
ชัดเจน
วันรุ่งขึ้น
ผมตื่นขึ้นมาตอนบ่ายโมงกว่า สายมากๆ เลย ทั้งๆ ที่วันนี้ต้องไปมหาวิทยาลัย(ก็ไปช่วยงานเหมือนเดิมน่ะแหละ) ผมเลยกะว่าจะโทรไปขอโทษมิสควอนซะหน่อย แต่พอสอดส่ายสายตามองหามือถือก็นึกขึ้นมาได้ว่าผมไม่มีมือถือ..จะมีก็เป็นเครื่องที่พี่คริสให้มา ซึ่งผมคิดว่าผมควรจะเอามือถือไปคืนพี่เขาดีกว่าเลยไม่ใช้มัน และปล่อยมันตั้งไว้อยู่ข้างๆ กับถุงของลู่หานที่ผมยังไม่ได้เปิดดู
ผมต้องใช้โทรศัพท์บ้านโทรไปแทน มิสควอนบ่นผมต่างๆ นาๆ ว่าผมขาดความรับผิดชอบ แต่ผมไม่สะทกสะท้านหรอก ชินซะแล้วล่ะ พอฟังเทศนาของมิสควอนเสร็จ ผมก็เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ แต่ระหว่างที่ผมกำลังเริงร่ากับการอาบน้ำ ผมก็ได้ยินเสียงบางอย่าง มันเหมือนเสียงเพลง และมันเป็นทำนองที่คุ้นหู
ใช่แล้ว เพลงที่พี่คริสฮัมเมื่อวานไงล่ะ แล้วเสียงมันมาจากไหนกัน
ผมหยิบชุดคลุมมาสวมแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ และเงี่ยหูฟังเสียงนั่น เพื่อหาที่มา และผมก็พบว่ามันดังมาจากถุงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง ถ้าผมเดาไม่ผิดมันน่าจะเป็นเสียงโทรศัพท์ที่พี่คริสให้มาล่ะมั้ง เขาอาจจะตั้งเสียงนี้ไว้เพราะเขาชอบเพลงนี้ ..ผมรีบเปิดถุงออกแล้วหยิบกล่องมือถือออกมา เสียงเพลงดังต่อไปจนจบท่อนฮุคแล้ววนกลับมาซ้ำใหม่อีกครั้ง อาจจะเป็นพี่คริสโทรมาก็ได้ แบบว่าเขาคงซื้อซิมให้แล้วก็เมมเบอร์ไว้แล้วอะไรทำนองนั้น ผมแกะกล่องมือถือ แล้วหยิบมือถือแบบทัชสกรีนสีดำซึ่งคงราคาแพงมากขึ้นมาแล้วก็ต้องแปลกใจ
...Bruised and battered by your words. Dazed and shattered...
เสียงเพลงของนักร้องชายหญิงคู่นั่นยังคงดังอยู่ แต่มือถือในมือผมกลับมืดสนิทราวกับยังไม่เคยเปิดใช้งานใดๆ ทั้งสิ้น อะไรกันเนี่ย ผีหลอกกลางวันหรือไงกันนะ
แต่ก่อนที่ผมจะคิดเตลิดไปไกลมากกว่านี้ ผมก็ค้นพบอะไรบางอย่าง.. เสียงเพลง..มันดังมาจากถุงอีกใบที่วางอยู่ใกล้ๆ กัน..
ถุงที่ลู่หานมอบให้ผม..
ผมงงไปหมด ปะติดปะต่อเรื่องไม่ถูกแล้ว เพลงยังคงดังอยู่อย่างนั้น ผมเอื้อมไปหยิบถุงใบนั้นขึ้นมา แล้วดูของที่อยู่ข้างใน มันคือกล่องๆหนึ่ง ผมไม่รอช้ารีบเปิดกล่องนั่นดู แล้วผมก็พบว่าข้างในมันคือ มือถือ อีกแล้ว แต่มันไม่ใช่มือถือธรรมดา
มันเป็นมือถือทัชสกรีนสีขาว ที่ดูทันสมัย และที่สำคัญ ถ้าผมจำไม่ผิด รุ่นนี้เป็นรุ่น limited edition ที่ทำมาแค่ไม่กี่คู่ ต้องเรียกเป็นคู่ด้วยนะ เพราะรุ่นนี้เป็นมือถือที่ขายเป็นคู่สำหรับคู่รัก..และลู่หานเคยสั่งจองมันไว้เมื่อไม่นานมานี้ แต่ผมยังไม่เห็นเขาเอาออกมาใช้เลย
ผมกดรับโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด โดยไม่ได้ดูชื่อบนหน้าจอ เพราะคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก..ลู่หาน
“รับได้ซักทีนะ นานจัง” เสียงเขาจริงๆ
“…”
“นายเห็นข้างหลังหรือยัง”
“...ข้างหลังอะไร” ผมถามนิ่งๆ
“มันคือสิ่งที่ฉันอยากบอกนายมาตลอด แต่ฉัน..ไม่กล้าพอ”
“...”
“ไม่ว่าคำตอบหรือผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบไหน แต่แค่นายรับรู้มันไว้ฉันก็พอใจแล้ว”
“มะ..หมายความว่ายังไง”
“..ฉันจะไม่รั้งนายไว้ในตอนนี้ แต่ต่อไปก็ไม่แน่ ฉันขอเวลาซักพัก เพราะงั้นถ้าถึงตอนที่ฉันพร้อม ฉันจะทำให้ผลลัพธ์ของนายนั่น คือฉันให้ได้”
“...ลู่หาน”
ตู้ดๆๆ....
เขาวางไปแล้ว เขาพูดถึงอะไรกัน ต้องการจะบอกอะไรกันแน่ เขาไม่รู้หรือไงว่าผมโง่น่ะ ผมนึกย้อนไปถึงตอนที่เขาเอารูปมือถือนี่มาให้ดู
‘มินซอก มือถือนี่สวยมั้ยว่ะ ดูดิมีสองเครื่องอ่ะ สีขาวกับสีดำ ฉันกะจะสั่งมาใช้’
‘นายจะเอาไปทำไมตั้งสองเครื่อง เหมือนกันซะด้วย’
‘limited edition couple phone เว้ย สำหรับคู่รัก แพงมากนะเนี่ย คิดแล้วก็แอบเสียดายตังค์’
‘แพงแล้วซื้อทำไม แล้วอีกเครื่องจะเอาไปไหน นายไม่มีแฟนนี่หว่า’
‘ก็ซื้อไว้ก่อนไง มันมีแค่ไม่กี่คู่นะ หมดแล้วหมดเลย และฉันจะเอาไว้ให้สุดที่รักในอนาคตของฉันใช้ว่ะ’
‘อ้อ งั้นหรอ ขอให้เจอเร็วๆ ละกันพ่อคนโรแมนติก’
‘อาห๊ะ คนที่จะได้มือถือเครื่องนี้ไปครอบครอง จะต้องเป็นคนที่ฉันรักมาก นายรู้ไหม ด้านหลังน่ะ สั่งสลักชื่อได้ด้วยนะ ฉันสั่งสลักไปแล้วด้วย แต่ผมไม่บอกหรอกว่าสลักว่าอะไร’
‘ไม่บอกก็เรื่องของนายดิ ไม่ได้อยากรู้ซะหน่อย’
‘โห่ มันสำคัญนะ สำคัญมากๆ และฉันสัญญาว่าซักวันนายจะรู้เอง’
ข้างหลัง ใช่ ข้างหลังที่ลู่หานถามเมื่อกี้ และมันสำคัญ ..ผมพลิกมือถือสีขาวในมือเพื่อดูด้านหลัง ก่อนจะยกมือตัวเองขึ้นมาปิดปาก ด้วยความรู้สึกบางอย่างที่แน่นๆ อยู่ในใจ
ชัดเจนแล้ว ความรู้สึกนี้ ชัดเจนจริงๆ
สองอาทิตย์แล้วที่ผมเอาแต่ทำงานอยู่ที่มหาวิทยาลัย ไม่เที่ยว ไม่สุงสิง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร มิสควอนบ่นผมวันละหลายรอบ ด้วยสาเหตุที่ผมพิมพ์งานผิดซ้ำซาก จะให้ทำยังไงล่ะ จิตใจผมในตอนนี้มันไม่อยู่กับตัวแล้ว ตั้งแต่วันนั้นที่ลู่หานให้มือถือผม และโทรมา นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้คุยกับเขา หลังจากนั้น เขาก็ไม่ติดต่อมาอีกเลย และผมก็ไม่กล้าติดต่อเขาด้วย เพราะผมเป็นคนผลักไสเขาออกไปเอง ตอนนี้ผมเองก็ยังคิดไม่ตกว่าควรจะเอามือถือไปคืนเขาดีมั้ย
ส่วนพี่คริส ผมโทรหาแบคฮยอน แล้วบอกให้นัดพี่คริสออกมาเจอ ตั้งใจว่าจะเอามือถือของพี่เขามาคืน เพราะผมไม่อยากรับของราคาแพงจากคนที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันหรอกนะ ถึงจะเป็นพี่ชายของเพื่อนก็เถอะ จริงๆ แล้วผมฝากแบคฮยอนไปคืนก็ได้ แต่มันดูเสียมารยาท ผมเลยคิดว่าควรคืนมันให้พี่เขาด้วยตัวเองมากกว่า
“มินซอก”
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก พี่คริสนั่นเอง เขากำลังเดินมาทางผมที่กำลังนั่งรออยู่ที่ลานน้ำพุ วันนี้พี่คริสแต่งตัวเรียบๆ แต่ดูดีสุดๆ ผมยิ้มทักทายเขาที่ทำหน้างงๆ เขาคงสงสัย แปลกใจว่าทำไมผมถึงนัดเขาออกมาล่ะมั้ง
“ว่าไง นัดมามีอะไร”
ผมหยิบถุงที่วางอยู่ข้างๆ ตัวยื่นให้พี่คริส ซึ่งยังคงทำหน้างง
“ผมเอานี่มาคืนครับ”
“นี่อะไร”
“ของที่พี่ให้ผมไง ผมไม่ควรรับมันไว้หรอก”
สีหน้าของพี่คริสเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม เหมือนเขาจะเข้าใจแล้วและตอนนี้เขากลับทำสีหน้าเฉยเมย แล้วหันไปมองทางอื่น
“ทำไมถึงคิดว่านายไม่ควรรับมันไว้ล่ะ ในเมื่อฉันให้นายแล้ว นายก็แค่เอามันไปใช้ จะต้องคิดอะไรมาก”
“ก็มันใช่ของราคาบาทสองบาทซะที่ไหน ถึงพี่จะรวยแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าพี่จะต้องมาซื้อของแบบนี้ให้ผม แล้วอีกอย่างพี่ไม่ได้ทำมือถือผมพังซะหน่อย ถึงจะต้องซื้อมาให้”
“งั้นตอนนี้นายเอามือถือที่ไหนใช้”
“ผม..”
“ว่ายังไงล่ะ ไม่มีใช่มั้ย งั้นก็ใช่เครื่องนี้ไปก่อน มีเมื่อไหร่ ค่อยคืนแล้วกัน”
“ผมมีแล้ว ผมเพิ่งได้เครื่องใหม่มาน่ะ”
“เครื่องใหม่? ไหนล่ะ”
พี่คริสถามขึ้นอย่างไม่เชื่อ ผมที่โกหกไปเลยถึงคราวซวย มีซะที่ไหนกัน แล้วจะทำไงล่ะที่นี้ โอ้ย ไม่น่าโกหกเลยผม
พี่คริสมองผมอย่างเอาเรื่อง ขณะที่ผมกำลังคิดว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี มือที่อยู่ไม่สุขของผมก็ดันไปแตะโดนอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกงเข้า มันคือ..มือถือของลู่หาน เฮ้ย มาได้ไงวะ ผมลืมตัวหยิบมาหรอ อะไรเนี่ย ชักงงกับชีวิตตัวเองแล้ว แต่ก็ดี เอามือถือนี่ให้พี่คริสดูแก้หน้าไปก่อนแล้วกัน
“นะ..นี่ไงมือถือของผม”
ผมยื่นมือถือสีขาวให้พี่คริสดู จะได้แน่ใจว่าผมไม่โกหก แล้วก็ยอมรับมือถือของเขาคืนไปซะที พี่คริสเลิกคิ้วมองผม ก่อนหยิบมือถือไปดู
“สวยดีนี่ น่าจะแพงน่าดู”
“คงงั้นมั้งครับ”
“แล้วนี่..เค้าให้มาหรอ”
“เอ๊ะ ครับ?”
ผมมองพี่คริสที่กำลังจ้องไปที่ด้านหลังมือถือสีขาวเครื่องนั้น ที่ๆ มีข้อความนั้นอยู่..
‘Luhan ♥ Minseok
I wanna be your lover’
“นายไม่รับของๆ ฉันเพราะอย่างงี้ใช่มั้ย ดูจะรักกันดีนี่ แล้วที่ทำไปตอนแรก ที่ให้ฉันช่วยทำเป็นแฟนนาย มันเพื่ออะไร”
ผมตาฝาด หรือเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า สีหน้าเขาเปลี่ยนไป น้ำเสียงก็ฟังดูประชดประชันยังไงอยู่ เหมือนว่าเขากำลังโกรธ แล้วเขาโกรธผมเรื่องไร
“ว่าไงล่ะ ตอบมาสิ ทั้งหมดนั่น เพื่ออะไร”
“คือ..ผม”
“นายเองก็ชอบมันใช่มั้ยล่ะ ไม่ได้คิดแค่เพื่อนจริงๆ ใช่มั้ย”
พี่คริสถามขึ้น พร้อมกับจับแขนผม อึ้งไปเลยผม เขารู้ พี่คริสรู้ ได้ยังไงกัน ผมแสดงมันออกมาหรอ ความรู้สึกนั้น
“ผมเปล่า ผมคิดกับเขาแค่เพื่อน..จริงๆ นะ”
“งั้นทำไมนายถึงรับของจากมัน แต่ปฏิเสธที่จะรับจากฉันล่ะ”
เขาบีบแขนแรงมากจนผมเจ็บ เขาเป็นอะไรไปเนี่ย ผมเริ่มทนไม่ไหว เลยตะโกนออกไป
“เจ็บ ปล่อยผมนะ พี่จะเซ้าซี้อะไรผมนักหนาครับ มันเรื่องของผม ผมจะรับหรือไม่รับของๆ ใครมันก็สิทธิ์ของผม”
“ใช่ สิทธิ์ของนาย ฉันรู้..”
“รู้ พี่รู้แล้วทำไมถึงทำแบบนี้กับผมล่ะ ปล่อยผมซะที”
พี่คริสค่อยๆปล่อยแขนผมออก สีหน้าเขาดูอ่อนโยนขึ้น
“เรื่องนั้นฉันรู้ แต่ที่ฉันไม่รู้คือ..ทำไมฉันถึงเป็นแบบนี้”
“นั่นสิ พี่เป็นแบบนี้ได้ยังไง”
“มันเหมือนว่าฉันกำลังเจ็บปวด ที่เห็นนายสนใจของๆ มันมากกว่าฉัน ฉันเป็นอะไร ฉันต้องทำยังไง บอกฉันหน่อยสิ มินซอก”
“พี่คริส...”
“...”
เราทั้งคู่ต่างเงียบ ผมไม่รู้ว่าตัวเองควรพูด หรือต้องพูดอะไร ส่วนพี่คริสเหมือนมีอะไรในใจที่ไม่กล้าที่จะพูดมันออกมา ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เราได้แต่เงียบอยู่อย่างนี้ แต่ในที่สุดพี่คริสก็เป็นคนทำลายความเงียบนี้
“ตอนนั้น ฉันพูดเพราะแค่อยากช่วยนาย แต่ตอนนี้..ฉันอยากให้มันเป็นแบบนั้นจริงๆ”
“ครับ?”
“ที่ฉันบอกว่า ให้นายมาเป็นคนของฉัน ตอนนี้ฉันต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ”
“หมายความว่ายังไงกัน”
พี่คริสมองหน้าผม ไม่สิ ต้องบอกว่ามองตา เขาจ้องเข้ามาในตาผม เหมือนต้องการสื่ออะไรบางอย่าง รู้สึกแปลกๆแฮะ
“ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ และมันเร็วเกินไปมั้ย ที่ฉันรู้สึกแบบนี้กับนาย แต่ฉันไม่อยากเป็นแค่คนรู้จัก พี่ชายของเพื่อน หรือพี่ชายของนาย”
“พี่..”
พี่คริสละสายตาจากผมแล้วหันหลังกลับไป ก่อนพูด
“เพราะมันหมือนว่า..ฉันจะชอบนายซะแล้ว”
ถึงมันจะเป็นประโยคที่เบา ราวกับไม่อยากให้ใครได้ยิน แต่วินาทีนั้น เหมือนรอบตัวว่างเปล่า ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจของคนรอบข้าง และทำให้ผมได้ยินประโยคนั้นได้อย่างชัดเจน
TBC.
ทวงฟิค @salynnxan #พี่หมินใจแข็ง
ความคิดเห็น