คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บท ๐๓ . พาเขาคนเดิมกลับมาที
3
พาเขาคนเดิมกลับมาที
ลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนดึก ผมคงเผลอหลับไประหว่างที่คิดเรื่องวุ่นวายเหล่านั้น แต่แม้จะหลับไปแล้วตื่นมาใหม่ สิ่งแรกที่ผมนึกถึงก็ยังคงเป็นเรื่องเดิมๆ ผู้ชายคนเดิม..
ลู่หาน..
ยันตัวขึ้นนั่ง รู้สึกเหนียวตัวไปหมดเพราะผมยังไม่อาบน้ำเลย หลับเข้าไปได้ยังไงกันก็ไม่รู้ ผมลุกขึ้นไปเปิดไฟและเตรียมตัวอาบน้ำ แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำอะไรมากไปกว่านี้ สายตาผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างนอกหน้าต่างที่ทำให้ผมแทบทรุด
รถยนต์สีดำ..ที่ผมจำได้ในทันที
รถของลู่หาน..
ผมรีบวิ่งออกไปหน้าบ้าน และทันทีที่เปิดประตูบ้านออกไป หัวใจผมก็เหมือนจะหลุดลอยไป
ลู่หาน..เขายังอยู่ ยังอยู่ตรงที่ๆ เดิม ที่เราทะเลาะกัน เพียงแต่ตอนนี้เขาไม่ได้ยืนอยู่ แต่เขา..นอนอยู่
ผมพยายามเรียกลู่หาน แต่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะรู้สึกตัวเลย เขายังคงนอนฟุบอยู่เช่นเดิม ผมจึงตัดสินใจดึงตัวเขาที่ฟุบอยู่ขึ้นมา ภาพที่ผมเห็นทำใจผมที่เหมือนจะหลุดลอยไปในตอนแรกนั่นได้หลุดลลอยไปแล้วจริงๆ
เลือด!!!
หน้าลู่หานมีเลือดออกบริเวณหางคิ้ว ผมตั้งสติแล้วพยายามปะติดปะต่อเรื่อง หรือว่าเพราะกุญแจที่ผมเขวี้ยงใส่เขา ผมยื่นมือออกไปเช็ดเลือดบนหน้าเขา แล้วผมก็เห็น..เลือดอีกแล้ว แต่คราวนี้มันติดอยู่บนหลังมือของผม เป็นเลือดที่แห้งกรังแล้วด้วย
เฮอะ อยากจะบ้า หมายความว่าตอนนั้นผมชกหน้าเขาไปทั้งๆ ที่เขาเลือดออกเนี่ยนะ แถมยังปล่อยให้เขานอนสลบอยู่หน้าบ้านตั้งหลายชั่วโมง ในขณะที่ตัวเองนอนหลับอยู่บนเตียง ผมทำอะไรลงไปเนี่ย
บ้าจริง!!
ผมขับรถพาลู่หานมาที่โรงพยาบาล แต่กว่าจะลากร่างที่หนักอึ้งเพราะเจ้าตัวชอบเล่นกีฬาขึ้นรถมาได้ก็แทบตาย แล้วทำไมผมไม่เรียกรถพยาบาลวะเนี่ย ไอ้โง่มินซอก!!
หลังจากนั่งรออยู่ซักพักหมอก็ออกมา บอกว่าลู่หานแค่คิ้วแตกนิดหน่อยไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เหมือนจะช็อกกับอะไรซักอย่างเลยหมดสติไป ผมว่าผมพอเดาออกว่าคงเป็นเลือด ชัวร์
ก็ลู่หานกลัวเลือดยิ่งกว่าอะไรนี่หว่า
คนเจ็บยังคงไม่รู้สึกตัว ตอนนี้เขานอนอยู่เตียงพักฟื้น ผมดึงม่านมากั้นไว้ก่อนจะลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง มองคนตรงหน้าที่นอนนิ่งแล้วยิ่งทำให้ผมอยากจะโยนตัวเองลงจากดาดฟ้าตึกเหลือเกิน
ความเมื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจเริ่มจู่โจมผมอีกครั้งทำให้เพลียจนอยากจะนอนหลับสักพักทั้งๆ ที่ตัวเองก็เพิ่งตื่นมาได้ไม่นาน ผมฟุบศีรษะลงกับขอบเตียงของลู่หาน หลับตาลงปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่นิทราบ้าง แต่ก่อนที่ผมจะหลับไปจริงๆ ผมก็ได้ยินบางอย่างที่แม้ไม่ชัดเจนนัก แต่ผมเชื่อว่าผมได้ยินไม่ผิด
“มินซอก ฉัน..นาย ฉัน..รักนาย”
หลังจากที่ตื่นขึ้นมาพบว่าคนเจ็บรู้สึกตัวแล้วผมก็รีบพาเขากลับ ระหว่างทางที่ขับรถกลับมามีเพียงแค่ความเงียบ แม้จะมีบางครั้งที่ลู่หานพยายามจะพูดอะไรซักอย่างออกมาแต่สุดท้ายเขาก็กลืนคำพูดลงคอไปจนได้ กระทั่งมาถึงคอนโดฯ ของลู่หาน ผมขับรถขึ้นมาจอดในลานจอดรถของชั้น 17 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับห้องที่ลู่หานอยู่ ก่อนจะเปิดประตูรถออกมา ชั่วครู่ลู่หานก็ตามออกมาจากรถเช่นกัน
ผมส่งกุญแจรถคืนให้เขาแล้วเดินมุ่งหน้าไปยังลิฟท์ เพื่อที่จะกลับบ้าน แต่ไม่ทันที่กดปุ่มลิฟท์ อีกคนก็เดินตามมาคว้าแขนผมเอาไว้เสียก่อน และตอนนี้เราสองคนกำลังยืนเถียงกันอยู่หน้าลิฟท์
“นายเอารถฉันกลับไปแล้วกัน ไม่ต้องเดินกลับหรอก ช่วงนี้ฉันคงไม่ได้ใช้รถซักพัก ไม่อยากออกไปไหน”
เขายื่นกุญแจมาตรงหน้าผม แต่ผมก็เบือนหน้าหนี
“ไม่ล่ะ ฉันเดินกลับได้”
“เอาไปเถอะน่า”
“ไม่ ฉันไปล่ะ บาย” ผมยื่นมือไปกดปุ่มลิฟท์ในจังหวะเดียวกับที่ลู่หานเริ่มขึ้นเสียงใส่ผม
“มินซอก!! นายเป็นอะไร จะเย็นชาแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน ฉันอึดอัดนะ”
“แล้วนายไม่คิดว่าฉันจะอึดอัดกับสิ่งที่นายทำไปบ้างหรอ ฮะ!!”
“ถ้านายยังคิดมาก ยังโกรธฉันเรื่องเมื่อเย็นล่ะก็ ฉันขอโทษ”
“ลู่หาน ถึงนายจะขอโทษ แต่ความรู้สึกที่เสียไป ใช่ว่าจะเรียกกลับคืนมาได้ง่ายๆ นะ”
“แล้วจะให้ฉันทำยังไง ทำยังไงนายถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ดวงตากลมโตของเขาจ้องมองเข้ามาในตาผม แต่ผมก็หลุบตาลงเพื่อหนีสายตาคาดคั้นนั้น
“ถามตัวนายเองเถอะ คำขอโทษของนายฉันรับรู้แล้ว แต่ฉันยังไม่แน่ใจว่าผู้ชายที่ฉันยืนคุยอยู่ด้วยในตอนนี้คือใคร ฉันจะได้ลู่หานคนเดิมกลับมารึเปล่า ลู่หานคนเดิมแบบเมื่อปีก่อน ตอนที่เรายังไม่ได้เริ่มทำเรื่องบ้าๆ นั่น”
ถึงผมจะพูดไปแบบนั้น แต่ผมไม่แน่ใจจริงๆ ว่าผมเองจะสามารถกลับไปเป็นเหมือนก่อนหน้านั้นได้จริงๆ ไหม เป็นเพื่อนรักที่ดีต่อกัน.. เข้าใจกันทุกเรื่อง.. เป็นเพื่อนที่ซื่อตรงต่อกันจริงๆ ไม่ใช่คนที่คิดไม่ซื่อแบบนี้
... ว่าเขา แต่ก็เข้าตัวเองทั้งนั้น ในเมื่อคนที่คิดไม่ซื่อ มันก็คิมมินซอกคนนี้ด้วยเหมือนกัน
“..มินซอก ฉันไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะ แต่..”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นแหละ ฉันขอแค่ลู่หานคนเดิม ถ้านายเรียกเขากลับมาได้เมื่อไหร่ เราค่อยมาคุยกันใหม่นะ”
“มินซอก อย่าทำอย่างนี้น่า”
ช่างเหมาะเจาะเหลือเกินเมื่อลิฟท์ที่ผมกดรอเลื่อนมาถึงและเปิดประตูรออยู่ ผมเบี่ยงตัวเดินเข้ารีบแล้วรีบกดปิดอย่างไว ในจังหวะที่ประตูลิฟท์กำลังปิดลง ผมเห็นสีหน้าเจบปวดของเขา
นายจะรู้มั้ย ว่าฉันก็เจ็บไม่น้อยไปกว่านายเลย ลู่หาน
ผมเดินกลับมาถึงบ้าน ทรุดตัวลงนั่งควานหากุญแจในอ่างปลาหางนกยูง ภาพเดิมๆ ของเมื่อเย็นสะท้อนขึ้นมาในหัวของผม ตอนที่ลู่หานจูบผม ตอนที่ผมตะคอกเขาแล้วเขวี้ยงกุญแจใส่ ภาพที่ผมชกเขา มันวนเวียนทับซอนกันไปมาอยู่ในหัวของผม
แต่เรื่องที่เกิดทำให้ผมแน่ใจในความรู้สึกหนึ่ง และความรู้สึกของลู่หานกับผมคงไม่แตกต่างกัน ผมแน่ใจว่าคำๆ นั้นที่ผมได้ยินก่อนที่จะหลับไป
‘มินซอก ฉัน..นาย ฉัน..รักนาย’
เสียงละเมอของลู่หานมันคือความจริง คนเราเวลาละเมอมักจะมาจากจิตใต้สำนึกของตัวเองใช่มั้ยล่ะ นั่นล่ะที่ทำให้ผมแน่ใจ
ความรู้สึกแรกที่ผุดขึ้นมาตอนได้รับรู้คำๆ นั้นคือ ดีใจ.. ดีใจที่เราคิดเหมือนกัน
ดีใจที่เราต่างก็ ‘รักกัน’
แต่ความรู้สึกรักในรูปแบบนั้นมันอาจจะไม่ยืนยาว ผมกลัวเหลือเกินว่าสักวันนึงความรักของเราอาจลดน้อยลง หรือใครคนใดคนนึงหมดรักกันไป แล้ววันนั้นเราอาจจะไม่มีวันได้อยู่ด้วยกันได้ใกล้ชิดกันเหมือนอย่างที่เป็นอยู่
ผมจึงเลือกที่จะให้คำว่า ‘มิตรภาพ’ เข้ามาแทนที่บดบังความรู้สึกนั้นไปซะให้หมด แม้จะรู้ดีว่ายาก แต่ผมก็ต้องทำเพราะผมไม่อยากทำลายมิตรภาพของเรา มิตรภาพคือสิ่งที่จะคงอยู่นิรันดร์ ผมเชื่อเช่นนั้นมาตลอด
แต่ผมควรจบเรื่องนี้ด้วยวิธีไหนดี ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆ
TBC.
ทวงฟิค @salynnxan #พี่หมินใจแข็ง
ความคิดเห็น