คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ติ่งที่ 4 - 15%
ติ่งที่ 4
“มึงก็เลยเอาคุกกี้มรณะให้น้องเขาไปหรอวะ”
“เราอยากรู้จริงๆ จิตใจมินซอกทำด้วยอะไร”
นี่คือฟีดแบ็ค หลังจากที่มินซอกจำใจเล่าเรื่องคุกกี้ขอบคุณให้เพื่อนร่วมแก๊งทั้งสองที่ดันเข้ามาหาที่ห้องก่อนเวลานัดหมายและได้เห็นสภาพครัวที่เละตุ้มเป๊ะประหนึ่งสมรภูมิรบสมัยบางระจันที่เจ้าของห้องยังไม่มีเวลาเก็บกวาด แบคฮยอนทำหน้าตาเห็นอกเห็นใจเด็กเหี่ยวอย่างสุดซึ้งจากทรวงใน ในขณะที่คยองซูเหลือกตามองมินซอกที่นั่งหน้าบูดเป็นตูดลิงอยู่บนพื้นหน้าโซฟา
“พวกมึงอย่าๆ นี่กูตั้งใจทำที่สุดแล้วนะ มึงเห็นความจริงใจของกูเป็นอะไร” ว่าพลางนอนกระทืบขาไปมาเหมือนเด็กอ้วนในโฆษณาจะเอาปลาโลมา
กว่าจะทำออกมาได้นี่ยากลำบากแค่ไหน ไม่รู้กันบ้างหรือไงนะ?
“โถ มึงจะจริงใจไม่จริงใจก็ช่วยเช็คสกิลมึงนิดนึงก่อนมั้ย มึงไม่กลัวน้องเขากินเข้าไปแล้วตายห่าคาห้อง วิญญาณตามมาหลอกหลอนมึงหรอวะ”
“น้อยๆ หน่อย กูไม่ได้ใส่ยาฆ่าแมลงลงไปซะหน่อย”
“ไม่ใส่นี่สิแปลก มึงเกลียดขี้หน้าน้องเขาไม่ใช่หรือไง”
“ถึงมินซอกไม่ใส่ แต่รสชาติก็คงสุนัขไม่รับประทานอยู่ดีแหละ”
มินซอกรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบเหลือแค่เขายืนอยู่คนเดียวกลางทุ่งหญ้าสะวันนาที่พระอาทิตย์สาดแดดร้อนเหี้ยๆ ลงมายังไงก็ไม่รู้ ทำไมมีเพื่อนกับเขาทั้งทีมันยังหนีไปห่วงใยใส่ใจเข้าข้างคนอื่นด้วย หรือมินซอกควรไปทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาล้างซวยบ้างเผื่อชีวิตจะดีขึ้น
หรือไม่ก็ทำบาปหนักไปเลยสักที ด้วยการฆ่าหั่นศพตัวซวยห้องตรงข้ามให้มันสิ้นซากไปซะ...
อืมเป็นความคิดที่ดี...
“กูแย่ขนาดนั้นเลยหรอวะ” มินซอกเบ้ปากกึ่งน้อยใจเพื่อนที่ยังเอาแต่จ้องเหมือนเขาเป็นคนโหดร้ายทารุณ
โอเค ยอมรับก็ได้ว่าฝีมือการทำอาหารของเขาอยู่ในระดับที่แย่ยิ่งกว่าเด็กอนุบาล จึงไม่แปลกที่จะเห็นอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งเต็มตู้เย็นไปหมด หรือถ้าเบื่อก็สั่งข้าวจากร้านใต้ตึกมากินแทน แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าคุกกี้ที่เขาตั้งใจทำจะแย่ขนาดที่แบคฮยอนกับคยองซูดูถูกเสียหน่อย นี่เขาทำตามตำราเป๊ะๆ เลยนะ มันไม่มีทางที่จะห่วยแตกขนาดนั้นได้หรอกน่า
มินซอกยกขาขึ้นถีบสีข้างแบคฮยอนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนโซฟาด้วยความหมั่นไส้ จนเจ้าตัวหันมาแยกเขี้ยวโวยวายอยู่ยกใหญ่ คยองซูที่นั่งกินคุกกี้(ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่คุกี้มรณะของมินซอก)อยู่ส่ายหัวอย่างระอากับนิสัยชอบกัดกันเหมือนหมาของเพื่อนแล้วจึงหันกลับไปสนใจโทรทัศน์ตรงหน้าต่อ
วันนี้แบคฮยอนและคยองซูนัดกันมาที่ห้องของมินซอกเพราะตั้งใจว่าจะมาดูถ่ายทอดสดคอนเสิร์ตที่นิวยอร์คซึ่งเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่รวมศิลปินมากหน้าหลายตาจากทั่วโลกเอาไว้ แน่นอนว่ารวมถึงวง Exorcist ด้วย ในฐานะที่เป็นแฟนคลับยุคบุกเบิก มินซอกบอกได้เลยว่าฟินมากและปลาบปลื้มแทนลู่หานสุดๆ ที่ได้ขึ้นไปแสดงบนเวทีระดับโลกขนาดนั้น
น่าเสียดายที่เขาไม่ได้ไปยืนโบกแท่งไฟพร้อมแหกปากเรียกหานางฟ้าลู่หานในคอนเสิร์ต เพราะถึงแม้จะเป็นติ่งที่ไม่ขัดสนแต่ยังอดเสียดายเงินที่พอนึกถึงตอนทำงานงกๆ แล้วก็รู้สึกเสียดายขึ้นมาไม่ได้ ค่าเครื่องบินไปกลับก็ใช่น้อยๆ ไหนจะค่าโรงแรม ค่ากินอยู่อีกตั้งบานตะไท
มินซอกน่ะติ่งมีความคิดครับ... คิดว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
จะด่าใครว่าขี้เหนียวก็ด่าว่า ‘มึงนี่มันมินซอกจริงๆ’ ได้เลย รับรองว่าบาดเจ็บล้มตายแน่ๆ!
“มาแล้วๆ” เสียงคยองซูโพล่งขึ้นมาหลังจากนั่งดูรายการตลกที่เอาแต่เล่นมุกแป้กฆ่าเวลาอยู่นานสองนานจนเกือบจะคล้อยหลับไป
หน้าจอโทรทัศน์ปรากฏรูปโลโก้รายการพร้อมเพลงประกอบ ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงรายการ พิธีกรหนุ่มสาวตาน้ำข้าวยืนอยู่บนเวที กำลังพูดเปิดรายการนั่นนี่ไปตามเรื่องตามราวซึ่งก็ฟังกันไม่ออกหรอก เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ เอาจริงๆ รู้เรื่องอยู่ประโยคเดียวคือ ‘ฮัลโหล เลดี้แอนด์เจนเทิลแมน’ นั่นแหละ
มินซอกลุกขึ้นจัดท่าทางการนั่งให้เข้าที่เข้าทางในแบบที่คิดว่าสบายและพร้อมรบที่สุด มือข้างขวาถือแท่งไฟออฟฟิเชียลของวง Exorcist ที่แบกหน้าฝ่าดงติ่งทั้งหลายไปซื้อมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย ส่วนมือข้างซ้ายถือแท่งไฟรูปแฟนอาร์ตลู่หานติดปีกนางฟ้าอันใหญ่โบกไปมาเข้าจังหวะกับเสียงแบ็คกราวด์รายการ พอหันไปมองเพื่อนอีกสองคนก็พบว่าสภาพไม่ต่างกัน หนักหน่อยตรงที่คยองซูมีผ้าคาดหน้าผากเหมือนคนจะไปก่อม็อบประท้วง
15%
_____________________________
@salynnxan #ฟิคแมวติ่ง
ความคิดเห็น