คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : บท ๐๔ . คนของฉัน
4
คนของฉัน
ผมต้องมาช่วยงานที่มหาวิทยาลัยอีกแล้ว แย่จริง เกิดเรื่องวุ่นๆ มากมาย แต่ผมยังต้องมาทำอะไรแบบนี้อีก แค่เรื่องลู่หานเรื่องเดียว วันๆ ผมก็ไม่ต้องเอาสมองไปคิดเรื่องอื่นแล้ว แต่ก็จำเป็น เพื่อทุน เพื่อเงิน สู้ต่อไป ส่วนเรื่องลู่หาน ผมก็พยายามจะเลิกคิด ถึงมันจะยากก็เถอะ
ตั้งแต่วันนั้นก็ผ่นมาอาทิตย์นึงแล้ว ลู่หานเงียบหายไปเลย ไม่ติดต่ออะไรมาทั้งนั้น
ที่ผมพูดกับเขาแบบนั้นไปเมื่อวันก่อน ก็เพราะผมก็แค่อยากกลับมาเป็นแบบเดิม อยากให้ลู่หานกลับมาหาผมในฐานะเพื่อน...เหมือนเดิม แต่การที่เขาหายไปเลยแบบนี้ มันหมายความว่ายังไงกัน เขาไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมจริงๆ ใช่มั้ย
แต่ก็ดีนะ หายไปเลย ผมจะไม่สนใจ จะได้ลืมๆ ไปซะ...
วันนี้ มิสควอนจะให้ผมทำอะไรอีกล่ะเนี่ย อ๊อ มิสควอนก็คืออาจารย์ที่ปรึกษาฝ่ายทุนน่ะแหละ ตามปกติเธอชอบให้เรียกว่าอาจารย์ยูริ แต่ลับหลังผมเรียกมิสควอน ก็ชื่อยูริมันดูดีไปสำหรับอาจารย์แก่ใส่แว่นหนาคร่ำครึแบบนั้น่ะสิ ขอเรียกแค่นามสสกุลแล้วกัน อย่าไปบอกใครล่ะ ว่าผมแอบนินทาน่ะ
สรุปแล้ว มิสควอนก็ให้ผมนั่งพิมพ์งานประมาณหกเจ็ดแผ่น แล้วก็ให้กลับบ้านได้เลย ผมเพิ่งทำมาสามช่วโมงเองนะวันนี้ แล้วอย่างงี้เมื่อไหร่จะครบหกสิบชั่วโมงล่ะ เออ ไว้ค่อยคิดดีกว่า แต่ตอนนี้มันก็เที่ยงครึ่งแล้วนะ หิวข้าวแล้วด้วย หาอะไรกินก่อนดีกว่า แล้วค่อยกลับบ้าน ไม่งั้นกว่าจะนั่งรถเมล์กลับไปถึงบ้าน คงหิวตายพอดี เฮ้อ น่าเศร้า ไม่มีใครมารับแบบแต่ก่อนแล้วด้วย
..แต่จะนั่งกินคนเดียวก็ยังไงอยู่ โทรหาแบคฮยอนดีกว่า ไหนๆ ก็ไม่ได้เอจกันมาหลายวันแล้ว
และแล้วผมก็นัดแบคฮยอนมาเจอจนได้ แต่ตอนนี้หมอนั่นกำลังจะไปซื้อของที่ห้าง เราเลยนัดเจอกันที่นั่นแทน และทันทีที่ลงจากรถเมล์ผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนรัก แต่ยังไม่ทันที่ผมจะยกมันขึ้นแนบหู มือถือผมมันก็กระเด็นไปตกอยู่ในบ่อน้ำพุหน้ากลางลานในห้างซะแล้ว แล้วมันกระเด็นไปได้ยังไงน่ะเหรอ..
ก็ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ มันเดินมาชนหลังผมอย่างแรงเลยน่ะสิ!!!
ซวยจริงๆ
“เอ่อ ขอโทษ เป็นอะไรมั้ย”
ผมยังคงมองมือถือที่นอนเอ้งเม้งอยู่ก้นบ่อด้วยความอาลัยอาวรณ์ อื้อหือ ไอ้บ้านี่ ไม่เห็นรึไงว่ามือถือผมมันกระเด็นไปแล้วน่ะ
“นี่คุณ เป็นอะไรมั้ยงั้นหรอ? ถามมาได้ มือถือผมกระเด็นไปว่ายน้ำเล่นอยู่ในบ่อแล้ว ไปเก็...”
ผมพูดขึ้นอย่างโมโหและหันกลับมามองไอ้บ้านั่น แต่ผมยังไม่ทันพูดจบประโยคก็ต้องอึ้ง และกลืนคำพูทั้งหมดลงคอไปทันที เพราะคนๆ นั้นคือ...
ลู่หาน
“...”
“...”
เงียบ
ทำไมต้องเงียบตลอด บรรยากาศแบบนี้ ไม่ชอบเลย
“มาทำอะไรที่นี่เหรอ”
ในที่สุดลู่หานก็เป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน
“แล้วทำไมจะมาไม่ได้ ห้างนายรึไง”
“มินซอก พูดกันดีๆได้มั้ย”
หนอย หาว่าผมกวนโมโหรึไงกัน ก็มันเสียอารมณ์นี่หว่า อ่ะฮ้า คิดอะไรดีๆออกแล้ว วิธีนี้จะได้ผลมั้ยนะ
“เออๆ ก็ได้ ฉันมาเดท”
ได้ผลด้วยเว้ย สีหน้าของลู่หานจากที่นิ่งๆ เรียบเฉย ตอนนี้คิ้วแทบจะผูกกันอยู่แล้ว แต่ว่าดูน่ากลัวนิดๆนะ ลู่หานยื่นมือมาคว้าข้อมือผมไว้ อย่าบีบแรงได้มั้ย เจ็บ
“เดทหรอ กับใคร เพิ่งเลิกกับฉันไปไม่กี่วัน หาใหม่ได้แล้วหรอ”
“นายกับฉัน เราเป็นอะไรกันหรอ อย่ามาทึกทักเอาเองได้มั้ย ฉันไม่ได้เลิกกับนาย อย่าเอาคำว่าแฟนหลอกๆ มาใช้กับฉัน เพราะฉันไม่ได้เป็นแฟนนายตั้งแต่แรกแล้ว และก็นะ ฉันจะเดทกับใคร นายไม่ต้องรู้หรอก มันไม่ใช่เรื่องของนาย”
“ก็ได้ ไม่ใช่แฟนแต่ยังไงฉันก็เป็นเพื่..”
“ถ้าจะพูดคำว่าเพื่อนออกมาล่ะก็ หยุดเลย เพราะตอนนี้แม้แต่ความเป็นเพื่อน ฉันก็ยังมองไม่เห็นในตัวนาย ฉันสงสัยว่าลู่หานเพื่อนฉันคงตายไปแล้วล่ะมั้ง”
ผมพยายามที่จะสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดจากการจับกุม แต่ยิ่งทำมันก็ยิ่งเจ็บ ลู่หานบีบมันแรงขึ้นด้วยซ้ำ สีหน้าของเขาในตอนนี้น่ากลัวมาก ผมยังไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองควรทำยังไงแล้ว มินซอก บอกฉันทีว่าฉันควรทำยังไง”
“ฉันบอกนายแล้วว่าพาเขากลับมา พาลู่หานคนเก่ากลับมาก็พอ”
“...”
“ฟังนะ เราไม่ใช่คนรักกัน และนายในตอนนี้ก็ไม่ใช่เพื่อนของฉันด้วย”
ผมกลั้นใจพูดออกไปอย่างเย็น ลู่หานทำหน้าอย่างกับจะฆ่าผมจริงๆ แล้ว ตายละหว่า ไอ้มินซอกเอ้ย
“อ๊อ งั้นเหรอ งั้นไหนล่ะแฟน ไม่แนะนำให้เพื่อนเก่าคนนี้รู้จักบ้างหรอ”
โอ้ว จอร์จ ให้แนะนำ! จะแนะนำยังไง คนๆ นั้นมันมีจริงๆ ซะเมื่อไหร่กัน ซวยแล้ว เอาไงล่ะทีนี้ ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย ผมก้มหลบหน้าลู่หาน ในสมองก็พยายามคิดว่าจะทำไงกับคำโกหกคำโตนี่ดี
“มินซอก!!”
ใครเรียกวะ คนกำลังใช้สมาธิ
เฮ้ย เสียงนี้แบคฮยอนนี่หว่า ตัวช่วยมาแล้ว ผมหันควับไปหาแบคฮยอน สะบัดข้อมือให้หลุดจากลู่หาน แล้วกระโจนเข้าใส่เพื่อนตัวเล็กทันที ก่อนจะหันกลับไปยิ้มแหยๆ ให้ลู่หาน
“ขอตัวแปปนะ”
จากนั้นผมก็ลากไอ้แบคฮยอนที่กำลังยืนเอ๋อมาคุยที่อีกด้านของน้ำพุ
“แบคฮยอน นายช่วยฉันที ขอความช่วยเหลือ ด่วนๆๆๆ”
“เอ๋ อะไรหรอ”
มาอ๋ง มาเอ๋อะไรวะ
“เลิกเอียงคอ แล้วทำหน้าสงสัยเหมือนหมางงได้มั้ย”
“หมางงหรอ??”
“เออ ช่างมัน แบคฮยอนช่วยอะไรหน่อยดิ”
“ช่วย?? ได้ดิ ช่วยอะไรล่ะ”
“หาแฟนให้ฉัน ด่วน ตอนนี้เลย”
“แฟน นายก็มีแล้วนี่ ลู่หานไง ยืนหล่ออยู่โน่นอ่ะ”
“อ้าก เลิกพูดเลยนะ ไม่รู้ล่ะ หาด่วน”
“ทำบ้าอะไรอ่ะมินซอก งงนะ”
“เออ เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง ตอนนี้ help me please!!”
“แล้วฉันหาจากไหนให้ล่ะเนี่ย.. โอ๊ะ รู้แล้วๆ”
ไอ้คนตรงหน้าโพล่งขึ้นมา หลังจากทำหน้าเอ๋ออยู่พักใหญ่ๆ ว้าวๆ ดีใจจัง ผมจะรอดแล้วใช่มั้ยเนี่ย เพื่อนผมคนนี้น่ารักซะจริงๆ
แบคฮยอนหยิบมือถือขึ้นกดจึ้กๆๆ แล้วยกแนบหู เออ พูดถึงมือถือ ผมลืมไปเลย มือถือผมว่ายน้ำอยู่ในบ่อนี่หว่า อยู่ตรงไหนแล้วเนี่ย
“มินซอก เรียบร้อยแล้ว รอแปป เดี๋ยวแฟนนายก็มาตามคำขอแล้ว ฮิๆ ว่าแต่เรื่องอะไรเนี่ย เล่าได้รึยัง”
“ยังไม่ใช่ตอนนี้ ว่าแต่มาชัวร์ใช่มั้ย เร็วดีนะ กดมือถือจึ้กสองจึ้กก็มา เฮ้ยหวังว่าหน้าคงไม่เห่ยใช่มั้ย” ขืนหน้าเห่ยมีหวังอับอายขายขี้หน้าลู่หานตาย
“โอ้ว ไม่แน่นอน นายคิดว่าคนหน้าตาอย่างฉัน จะมีพี่ชายหน้าเห่ยรึไงกัน”
“เออ ใช่สิ นายมันน่ารักนี่ ฮะ! เดี๋ยวนะ เมื่อกี๊นายบอกว่าพี่ชายนายหรอ พี่คริสที่อยูแคนาดาอ่ะนะ”
“อ่ะฮะ”
“จริงดิ กลับมาแล้วหรอ ฉันยังไม่เคยเห็นเล...”
“นี่ จะคุยกันอีกนานมั้ยเนี่ย มินซอกมาเคลียร์ให้รู้เรื่องก่อน”
อ๊ะ เสียงลู่หานนี่หว่า ลู่หานตะโกนข้ามน้ำพุมาอ่ะ ผมลืมเขาไปเลยทั้งๆ ที่เมื่อกี๊แทบบ้ากับเรื่องเขา แล้วตอนนี้เขาก็กำลังเดินอ้อมบ่อน้ำพุมาแล้ว
“ว่าไง ไหนล่ะ แฟนที่จะมาเดทด้วยวันนี้ คงไม่ใช่แบคฮยอนหรอกมั้ง”
“นี่ จะบ้ารึไง อย่างแบคฮยอนจ้างให้ก็ไม่เอาหรอก”
ไอ้บ้านี่ เดี๋ยวนี่ทำไมมันกวนโอ๊ยวะ เมื่อก่อนไม่เห็นกวนแบบนี้เลย หรือว่าใจคนเปลี่ยน นิสัยก็เปลี่ยนตามไปด้วย บ้าแล้ว แต่น่านับถือนะ พูดจากวนโอ๊ยได้โดยที่คิ้วยังผูกกันอยู่ สุดยอดเลย
ส่วนแบฮยอนก็หันมาแยกเขี้ยวใส่ผมอยู่นั่นแหละ
“มินซอกๆ แฟนนายมาโน้นแล้ว แฟนนายหล่ออ่ะ”
แบคฮยอนสะกิดผม ให้ตายเหอะ หมอนี่ชมพี่ตัวเองด้วย
ผมหันไปมองตามที่แบคฮยอนกำลังมอง ผู้ชายคนนั้นน่ะนะพี่คริส หล่อว่ะ ตัวสูง ผมสีน้ำตาลทอง หน้าดุๆ นิดๆ แต่ดูดี ทำไมมันต่างกับไอ้แบคฮยอนได้ถึงเพียงนี้ ถึงหมอนี่จะน่ารักก็เหอะ แต่ดูบ๊องๆ ต๊องๆ เอ๋อๆ ยังไงก็ไม่รู้ พี่เขาเดินมาแล้ว เดินมาทางผม และ...
“ไง มินซอก รอพี่นานมั้ย ขอโทษทีนะ พอดีหาที่จอดรถไม่ได้น่ะ”
พี่คริสพูดพลางเอามือมาวางเท้าที่ไหล่ผม พร้อมกับเอียงคอมามองหน้าผมอย่าง..เอ่อ น่ารัก กรรม ผู้ชายหน้าดุหายไปแล้ว เขาทำอย่างกับสนิทกันมาแปดชาติ ทั้งที่จริงๆแล้วเราเพิ่งจะเคยเจอกันนี่แหละ เยี่ยม เตี๊ยมมาดีมากเลยแบคฮยอนเพื่อนรัก
ผมแหล่ไปมองลู่หานนิดๆ เพื่อสังเกตุสีหน้าของเขา ลู่หานที่คิ้วผูกกันอยู่ในตอนแรกนั้นหายไปแล้ว เหลือแต่ใบหน้าที่เรียบเฉยและกำลังมองมาทางผมด้วยแววตาที่ว่างเปล่า เห็นแบบนี้แล้วแอบปวดใจนิดๆนะ แต่ผมต้องทนเพราะยังไงผมกับเขา เราก็เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ต้องรีบจัดการให้จบซะ
“แล้วนี่ใครกันหรอ”
พี่คริสมองหน้าลู่หาน แล้วถามผม
“อ้อ เพื่อนมินซอกเองอ่ะ แต่พี่ไม่ต้องรู้จักหรอก เราไปกันดีกว่าเนาะ”
“นี่นาย เป็นเพื่อนมินซอก?? งั้นคงต้องแนะนำตัวซะหน่อย ผมชื่อคริสและนี่ก็เป็นคนของผม”
โอ้ว ไม่ได้ฟังกันเลยใช่มั้ยเนี่ย แต่พี่เขาว่าไงนะ คนของผมงั้นเหรอ เฮ้ รู้สึกดีแฮะ เวลามีคนหน้าตาดีมาพูดแบบนี้ แต่บรรยากาศตอนนี้มันไม่ดีซักเท่าไหร่ อยากไปจากตรงนี้จัง
ลู่หานยังคงมองหน้าพี่คริสด้วยสีหน้า เรียบเฉย ว่างเปล่า ดูไม่ออกเลยนะว่าเขาคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ ฝ่ายพี่คริสก็ไม่ยอมแพ้ จ้องตากันไม่กระพริบเลย แต่ผมแอบเห็นนะว่าพี่เขายิ้มน้อยๆ ที่มุมปากด้วยอ่ะ
“โอเค ฉันยอมแพ้ ไปกันให้ตลอดรอดฝั่งแล้วกัน แต่ฉันไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆหรอกนะ มินซอก”
“อะ..อะไรของนาย”
“เดี๋ยวก็รู้เอง ฉันไปล่ะ เชิญเดทกันให้สบายก่อนที่จะไม่มีโอกาส”
ไปแล้ว ลู่หานจากไปแล้วแต่ก็ไม่วายทิ้งอะไรบางอย่างไว้ข้างหลัง ให้ตาย คงไม่มีอะไรบ้าๆ เกิดขึ้นมาอีกหรอกนะ แค่นี้ผมก็เหนื่อยใจจะแย่แล้วนะ
เราสามคนกำลังนั่งกินพิซซ่ากันอยู่ แบคฮยอนพยายามคาดคั้นเอาคำตอบของเรื่องวุ่นวายที่แสนปวดหัว และปวดใจของผม ตอนแรกผมก็ไม่อยากเล่าหรอกนะ เพราะพี่คริสอยู่ด้วย ผมไม่อยากให้คนที่ผมเพิ่งจะรู้จักเมื่อไม่กี่นาทีนี้รู้น่ะ ยังไงมันก็เรื่องส่วนตัว แต่สุดท้ายผมก็ยอมเล่าเพราะพี่คริสเขาเป็นคนช่วยผม เขาก็สมควรที่จะรับรู้
ผมเล่าไปจนหมดเปลือก อ้อ มีเรื่องหนึ่งที่ผมไม่ได้เล่า ก็เรื่องที่เราจูบกัน ไม่ใช่สิ ที่ลู่หานจูบผมต่างหาก มันดูแปลกๆ ที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ให้ใครฟัง
“ฉันว่าลู่หานคงจะชอบนายจริงๆ ล่ะมั้ง”
แบคฮยอนออกความเห็นทันทีที่ผมเล่าจบ ส่วนพี่คริสยังคงนั่งทำหน้าดุพลางดูดเป็ปซี่ไปด้วย และดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะมอง เอ่อ...ก้นผู้หญิงที่เดินอยู่นอกร้าน จริงๆ นะ ผมดูไม่ผิดใช่มั้ย ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่
“นายคิดงั้นหรอ อาจจะไม่ใช่ก็ได้นะ”
“ฉันว่า ชัวร์เลย นายไม่เห็นสายตาของลู่หานตอนที่พี่คริสบอกว่านายเป็นคนของพี่เหรอ มันดูว่างเปล่าชะมัด”
“ยังไงอ่ะ ว่างเปล่าแล้วทำไม”
“นั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ดีเลยนะ มันหมายถึงเขากำลังเจ็บปวดอยู่ในใจ ทำนองนั้น แล้วถ้าเขาไม่คิดอะไร เขาก็น่าจะยินดีที่เพื่อนมีแฟนที่หล่อขนาดนี้นะ ว่าแต่พี่กล้าพูดเนอะ ‘นี่เป็นคนของผม’ เท่สุดๆ ไปเลยพี่ชาย”
แบคฮยอนหันไปชมพี่ตัวเองที่กำลังมองโน่นนี่นั่น ไม่ได้สนใจกันเลยใช่มั้ยเนี่ย
ถึงแม้ว่าผมจะมั่นใจเรื่องความรู้สึกของลู่หานอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่อยากเชื่อ ไม่อยากยอมรับมันเลยจริงๆ
“แล้วทีนี้จะเอาไงต่ออ่ะ มินซอก”
“ฉันยังไม่รู้เลยว่าควรทำอะไรต่อไปดี กลัวว่ะ นายได้ยินที่ลู่หานพูดมั้ย เขาพูดเหมือนเขากำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง”
“ฉันว่าเขาต้องพยายามทำให้นายกลับไปหาเขาน่ะแหละ ในกรณีที่เขาชอบนายจริงๆ น่ะนะ”
“แล้วฉันต้องทำไงอ่ะ ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนนะ”
ผมโกหก!! ผมชอบเขา แต่อย่างที่เคยบอก ผมไม่อยากทำลายความเป็นเพื่อน และผมจะต้องหาทางออกสำหรับเรื่องนี้
“งั้นนายก็ต้องทำอะไรซักอย่าง ให้ลู่หานตัดใจจากนายไปซะ ฉันคิดออกแค่นี้แหละ”
“แล้วมันต้องทำไงล่ะ”
“ฉันไม่รู้ นายคิดดิ ตอนนี้ฉันคิดไม่ออก”
เฮ้ ตกลงไอ้บ้านี่มันพึ่งได้หรือไม่ได้เนี่ย ตอนแรกก็ช่วยคิดดีอยู่หรอก แต่ทำไมตอนนี้มันเอาแต่ยัดพิซซ่าเข้าปากวะ
ผมนั่งมองแบคฮยอนและกำลังใช้ความคิดเพื่อหาทางออก แต่ยังไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอันก็มีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมา เสียงของบุคคลที่เงียบมาตลอด และประโยคที่เขาพูดนั้น ทำให้ทั้งผมและยัยแบคฮยอนรีบหันควับไปมองด้วยความอึ้ง ทึ่ง และ งง!!
“นายก็มาเป็นคนของฉันจริงๆ ซะเลยสิ”
TBC.
ทวงฟิค @salynnxan #พี่หมินใจแข็ง
ความคิดเห็น