ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : คู่หูต่างภพ
นับ แต่นั้นเป็นต้นมา ก็ผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว แทบจะตลอดเวลา สิรินมีซานย่ะฮ์ฺเป็นเหมือนเงา ไม่เว้นแม้แต่ตอนฝัน บางครั้งพ่อเพื่อนซี้ต่างภพก็โผล่เข้ามาในฝันเสียอีกแน่ะ
มีครั้งหนึ่ง สิรินฝันว่าเดินไปในสถานที่แห่งนึง เคลิ้มๆ เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวสมัยนิยมกางเกงยีนส์สีดำเท่ สวมแว่นกันแดด แจคเกตหนังสีดำ หุ่นนายแบบยืนพิงกำแพงเต๊ะพร้อมส่งสายตายียวนกวนประสาทมายังเธอ ... เมื่อเห็นดังนั้น สิรินเอ่ยออกมาเบาๆ ด้วยอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน...
"ไอ้ ท่านซานย่ะฮ์ฺ" ... แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันตาค้างอยู่ตรงนั้น... ไม่รู้จะขำดี หรือว่าจะโกธรดี สรรพนามเรียกฝ่ายตรงข้ามเริ่มแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แรกๆ อาจจะเรียกด้วยความเกรงอกเกรงใจว่าอีกฝ่ายเป็นเทวะ หาใช่มนุษย์เดินดินคนธรรมดาเช่นเธอไม่ แต่การกระทำหลายๆ อย่างที่เขาแสดงต่อเธอเหมือนเป็นเช่นเพื่อนเล่นหัวที่คุ้นเคยกันมานานแสนนาน บางครั้งสิรินก็แอบเห็นนัยตาหงอยเหงาที่แฝงอยู่ในความอ่อนโยนนั้นได้อย่าง ไม่อาจปิดบังได้นัก
"ท่านมาตามข้าอยู่แบบนี้ ไม่เบื่อหรอไง ไม่มีอะไรจะทำหรือ?
ท่าทางจะว่างงานเนอะ" สิรินเคยเอ่ยถามออกไปแบบกวนๆ
หากคำตอบที่ได้กลับทำให้หัวใจแอบหวั่นไหว...
'เจ้ารู้ไหม เวลาที่ไม่มีเจ้ามันช่างเนิ่นนานเพียงใด??'
ได้ยินคำตอบแบบนี้ สิรินคิดไปเองว่าเขาคงจะเหงามากสินะ สิ่งเดียวที่จะปลอบประโลมจิตใจเหี่ยวเฉาของเทวะธรรพ์หนุ่มตรงหน้าได้ คงจะเป็นเรา อดีตเพื่อนรักเก่าของเขา ถึงแม้จะจำอะไรไม่ได้เท่าไหร่นัก แต่ก็เหมือนเห็นภาพลางๆ ว่าเธอกับเขาเคยเป็นดั่งเงาตามตัวกันและกัน ณ.ดินแดนกันไกลโพ้นห่างไกลจากคำว่าโลกมนุษย์มากนัก
มีอยู่ครั้งนึงที่สิรินออกจะแปลกใจ เพราะความประมาทจึงเดินไปจิ้มโทรศัพท์ไปแบบที่คนส่วนใหญ่ก็เป็นกันโดยไม่ได้ มองทาง อยู่ๆ หัวก็ก้มค้อมลงต่ำโดยไม่ได้สั่งการ พลันภาพก็เข้ามาในจิตว่า ซานย่ะฮ์ฺกำลังใช้มือของเขากดศีรษะของเธอเพื่อหลบบางอย่าง สิรินจึงหันหลังกลับไปมอง เห็นเสาไม้ท่อนใหญ่วางพาดอยู่ตรงระดับหน้าผากเธอพอดี ถ้าเธอไม่หลบมันคาดว่าอาจจะเห็นดาวตอนกลางวันแสกๆ แน่ๆ ..
"ท่านสัมผัสข้าได้ด้วยหรือ??" สิรินถามไปอย่างสงสัย และไม่อยากจะเชื่อ ด้วยความซาบซึ้ง นี่ขนาดเธอเองยังไม่ค่อยสนใจตัวเองซักเท่าไหร่ ซานย่ะฮ์ฺจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลาเลยอย่างนั้นหรือ??
'ก็ทำได้ไม่บ่อยนัก เนื่องด้วยมันมีกฏของเราและโลกมนุษย์อยู่ไม่ให้ข้องแวะกันหากไม่มีกิจจำเป็น' เขาตอบเรียบๆ พอเข้าใจ
ซานย่ะฮ์ฺเปรียบเหมือนเพื่อน เหมือนพี่เลี้ยงเด็ก เขาจะคอยดูแลสอดส่องชีวิตสิรินในทุกๆ เรื่อง แม้แต่ อาหารการกิน หรือการแต่งตัว
"แหม่ ถ้าเป็นคนจริงๆ เอาใจใส่กันขนาดนี้ไม่แคล้วคงต้องตกหลุมรักวันละหลายๆ รอบ"
ทุกๆ วันเขาจะส่ังให้เธอ หุงข้าวสำหรับอาหารเช้า เพราะสิรินมักจะละเลยอาหารเสมอๆ ก่อนหยิบจับจานชาม จะกำชับให้ล้างจานชามที่ใช้ใส่อาหารให้สะอาด เวพอาหารให้อุ่นๆ เพื่อสุขภาพที่ดี
"จุกจิกเป็นที่สุด" ... สิริน บ่นอุบ
"ทำไม ไม่มาเข้าสิงแล้วทำเองซะเลยล่ะ"
'ทำไม่ได้ มันผิดกฏ' เป็นคำตอบที่ได้ยินเสมอๆ จากเขา
"แล้วพวกที่มีข่าวว่ามารักกับมนุษย์ แบบ พญานาค หรือ พวกผีต่างๆ ล่ะ ที่แอบมาเข้าฝันมนุษย์ในยามหลับ" สิรินถาม
'พวกนั้นก็ผิดกฏ แต่ถ้าเขาไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันมา ก็คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้'
สิรินพยักหน้าอย่างพยายามจะเข้าใจ แม้ไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ถามต่อเพราะคิดว่า ถามไปก็คงไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหละ
มีครั้งหนึ่ง สิรินฝันว่าเดินไปในสถานที่แห่งนึง เคลิ้มๆ เหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่งตัวสมัยนิยมกางเกงยีนส์สีดำเท่ สวมแว่นกันแดด แจคเกตหนังสีดำ หุ่นนายแบบยืนพิงกำแพงเต๊ะพร้อมส่งสายตายียวนกวนประสาทมายังเธอ ... เมื่อเห็นดังนั้น สิรินเอ่ยออกมาเบาๆ ด้วยอาการขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน...
"ไอ้ ท่านซานย่ะฮ์ฺ" ... แล้วก็สะดุ้งตื่นขึ้นจากความฝันตาค้างอยู่ตรงนั้น... ไม่รู้จะขำดี หรือว่าจะโกธรดี สรรพนามเรียกฝ่ายตรงข้ามเริ่มแปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แรกๆ อาจจะเรียกด้วยความเกรงอกเกรงใจว่าอีกฝ่ายเป็นเทวะ หาใช่มนุษย์เดินดินคนธรรมดาเช่นเธอไม่ แต่การกระทำหลายๆ อย่างที่เขาแสดงต่อเธอเหมือนเป็นเช่นเพื่อนเล่นหัวที่คุ้นเคยกันมานานแสนนาน บางครั้งสิรินก็แอบเห็นนัยตาหงอยเหงาที่แฝงอยู่ในความอ่อนโยนนั้นได้อย่าง ไม่อาจปิดบังได้นัก
"ท่านมาตามข้าอยู่แบบนี้ ไม่เบื่อหรอไง ไม่มีอะไรจะทำหรือ?
ท่าทางจะว่างงานเนอะ" สิรินเคยเอ่ยถามออกไปแบบกวนๆ
หากคำตอบที่ได้กลับทำให้หัวใจแอบหวั่นไหว...
'เจ้ารู้ไหม เวลาที่ไม่มีเจ้ามันช่างเนิ่นนานเพียงใด??'
ได้ยินคำตอบแบบนี้ สิรินคิดไปเองว่าเขาคงจะเหงามากสินะ สิ่งเดียวที่จะปลอบประโลมจิตใจเหี่ยวเฉาของเทวะธรรพ์หนุ่มตรงหน้าได้ คงจะเป็นเรา อดีตเพื่อนรักเก่าของเขา ถึงแม้จะจำอะไรไม่ได้เท่าไหร่นัก แต่ก็เหมือนเห็นภาพลางๆ ว่าเธอกับเขาเคยเป็นดั่งเงาตามตัวกันและกัน ณ.ดินแดนกันไกลโพ้นห่างไกลจากคำว่าโลกมนุษย์มากนัก
มีอยู่ครั้งนึงที่สิรินออกจะแปลกใจ เพราะความประมาทจึงเดินไปจิ้มโทรศัพท์ไปแบบที่คนส่วนใหญ่ก็เป็นกันโดยไม่ได้ มองทาง อยู่ๆ หัวก็ก้มค้อมลงต่ำโดยไม่ได้สั่งการ พลันภาพก็เข้ามาในจิตว่า ซานย่ะฮ์ฺกำลังใช้มือของเขากดศีรษะของเธอเพื่อหลบบางอย่าง สิรินจึงหันหลังกลับไปมอง เห็นเสาไม้ท่อนใหญ่วางพาดอยู่ตรงระดับหน้าผากเธอพอดี ถ้าเธอไม่หลบมันคาดว่าอาจจะเห็นดาวตอนกลางวันแสกๆ แน่ๆ ..
"ท่านสัมผัสข้าได้ด้วยหรือ??" สิรินถามไปอย่างสงสัย และไม่อยากจะเชื่อ ด้วยความซาบซึ้ง นี่ขนาดเธอเองยังไม่ค่อยสนใจตัวเองซักเท่าไหร่ ซานย่ะฮ์ฺจ้องมองเธออยู่ตลอดเวลาเลยอย่างนั้นหรือ??
'ก็ทำได้ไม่บ่อยนัก เนื่องด้วยมันมีกฏของเราและโลกมนุษย์อยู่ไม่ให้ข้องแวะกันหากไม่มีกิจจำเป็น' เขาตอบเรียบๆ พอเข้าใจ
ซานย่ะฮ์ฺเปรียบเหมือนเพื่อน เหมือนพี่เลี้ยงเด็ก เขาจะคอยดูแลสอดส่องชีวิตสิรินในทุกๆ เรื่อง แม้แต่ อาหารการกิน หรือการแต่งตัว
"แหม่ ถ้าเป็นคนจริงๆ เอาใจใส่กันขนาดนี้ไม่แคล้วคงต้องตกหลุมรักวันละหลายๆ รอบ"
ทุกๆ วันเขาจะส่ังให้เธอ หุงข้าวสำหรับอาหารเช้า เพราะสิรินมักจะละเลยอาหารเสมอๆ ก่อนหยิบจับจานชาม จะกำชับให้ล้างจานชามที่ใช้ใส่อาหารให้สะอาด เวพอาหารให้อุ่นๆ เพื่อสุขภาพที่ดี
"จุกจิกเป็นที่สุด" ... สิริน บ่นอุบ
"ทำไม ไม่มาเข้าสิงแล้วทำเองซะเลยล่ะ"
'ทำไม่ได้ มันผิดกฏ' เป็นคำตอบที่ได้ยินเสมอๆ จากเขา
"แล้วพวกที่มีข่าวว่ามารักกับมนุษย์ แบบ พญานาค หรือ พวกผีต่างๆ ล่ะ ที่แอบมาเข้าฝันมนุษย์ในยามหลับ" สิรินถาม
'พวกนั้นก็ผิดกฏ แต่ถ้าเขาไม่เป็นเจ้ากรรมนายเวรต่อกันมา ก็คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้'
สิรินพยักหน้าอย่างพยายามจะเข้าใจ แม้ไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ถามต่อเพราะคิดว่า ถามไปก็คงไม่เข้าใจอยู่ดีนั่นแหละ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น