คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : การสอบสวนของพญายมราช
กาล..ภพ
ตอนที่ 26: การสอบสวนของพญายมราช
‘แซ่ก แซ่ก’ เสียงไม้กวาดทางมะพร้าวกระทบพื้นปูนบริเวณลานหน้าศาลาปฏิธรรมดังไปตามจังหวะลากไม้กวาดเพื่อกวาดเศษใบไม้แห้งที่ร่วงกราดเกลื่อนเต็มไปทั่วลาน ช่วงนี้ยังเป็นช่วงฤดูหนาวอากาศค่อนข้างแห้ง ใบไม้จึงร่วงลงมาทำให้สถานปฏิบัติธรรมดูไม่สวยงามเท่าไหร่นัก ฉันว่างจากทานอาหารเพลยังพอมีเวลาไม่มาก จะไปนอนก็คงไม่เต็มที่เดี๋ยวก็ต้องเข้าศาลาปฏิบัติธรรมจึงตัดสินใจเดินมากวาดลานวัดแก้เซ็ง (ก็ไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอกนะ คือเวลามันไม่พอจะนอน)
จู่ๆ ก็รู้สึกขนคอขนแขนลุกกรูขึ้นมาเฉยๆ อาการขนลุกเป็นอาการอย่างหยาบที่ใครๆ ก็สามารถเป็นได้เมื่อสัมผัสกับพลังงานลี้ลับ ต่อให้มองไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียง อาการขนแขนสแตนอัพนี่จะมาก่อนเลยล่ะ ถ้าจู่ๆ รู้สึกขนลุก หรือเย็นโดยไม่ทราบสาเหตุ ให้สันนิษฐานได้เลยว่าแถวที่ท่านอยู่นั้นมีพลังงานบางอย่างอยู่อย่างหนาแน่น
“เด็กน้อย….” เสียงเบาๆ หวิวๆ เกิดขึ้นบริเวณหลังคอ ฉันไม่ได้หันไปมอง นานเท่าไหร่แล้วที่ฉันไม่ได้ติดต่อกับหนุ่ม ๆในสังกัดของฉัน ตอนนี้ใครจะมาจะไป ฉันไม่รู้เลย จะว่าไปก็ตั้งแต่ตอนที่ฉันเผลอไปถามพระอาจารย์ว่า ถ้าเราเห็นผีควรทำอย่างไร ท่านตอบกำปั้นทุบดินมาว่า อย่าพูดคุยให้เสียเวลา แค่อุทิศส่วนกุศลให้แล้วก็จบ อย่าไปตามดู อย่าไปตามรู้ เรื่องผีๆ ของฉันมันก็เลยลดลงฮวบฮาบ ซึ่งมันก็ดีนะ พอฉันเลิกสอดส่องหาผี ฉันรู้สึกสงบขึ้นมาก ถึงแม้บางทีพวกมันจะสอดส่องมาหาฉันเองก็เถอะ บางครั้งก็ต้องยอมรับว่า ขนาดไม่มองมันแล้ว มันก็ยังมาให้เห็นจนได้
“พี่เวย์??”ฉันย้อนถามกลับไปคล้ายไม่แน่ใจ พี่เวย์ เวตาล สุดล่ำ ผิวกายสีแดงเพลิง มีปีกอยู่เบื้องหลัง หุ่นแน่นปึ๊กน่าเจี๊ยะมาก ภาพลักษณ์พี่เวย์ที่เห็นตอนนั้นมันฉีกตำรา นิทานเวตาลที่เคยฟังตอนเด็กๆ ทิ้งกระจุย
พี่เวย์จะไม่ค่อยสุงสิงกับฉันเท่าไหร่ แต่เขาก็จะคอยดีดพวกวิญญาณสัมภเวสีที่เกะกะรอบๆ ตัวฉันให้ออกห่าง ฉันแทบไม่มีอาการปวดหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวหรืออยากจะอาเจียนอีกเลย ตั้งแต่ได้บ่วงนาคบาศ จากปู่นาค กับมีพวกเฮียๆ เหล่านี้คอยดูแล ผิดกับเบญจา รายนั้นเวียนหัว นอนเป็นผักแทบลุกจากเตียงไม่ได้ อย่างน้อยๆ 3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ เพราะถูกผีตามเกาะขอส่วนบุญ
มันอยู่ที่ความเชื่อของคนด้วยนะ ถ้าคนๆ นั้นจิตเข็มแข็ง ที่เขาเรียกกันว่าไม่เชื่อเรื่องผี พลังงานพวกนี้ก็จะแฝงยากมาก พวกมันจึงมักจะตามเบียดเบียนคนที่เชื่อในเรื่องนี้มากกว่า ที่โบราณเขาเรียกกันว่าพวกจิตอ่อน
หากเปรียบแล้วตัวฉันตอนนี้ก็เหมือนคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีนั่นแหละ เมื่อฉันปฏิเสธการพูดคุยกับพวกเขาโดยสิ้นเชิง พวกมันก็โจมตีฉันไม่ได้ กลายเป็นพวกหัวดื้อหัวแข็งขึ้นมา พวกมันจะเสียเวลากับฉันทำไมถ้าไม่มีมูลเหตุให้จำเพาะเจาะจง มันก็จะไปเกาะคนอื่นๆ รอบๆ ตัวฉันดีกว่า
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ฉันโดนผีตะขาบทั้งฝูงไต่ยุ่บยั่บตามขา ขนลุกขนชัน คือถึงไม่มอง ร่างกายมันก็ตอบสนองขึ้นโดยอัติโนมัติ แล้วมันก็เป็นได้หลายวันแล้วเสียด้วยสิ สงสัยจะตื๊อเก่ง
“พิม ฉันมีของฝาก” ข้อความที่ฉันส่งไปทางไลน์ เด้งโผล่ขึ้นในห้องรวมที่เราสร้างขึ้นมาสำหรับปรึกษากันเรื่องผีๆ ห้องนี้จะมีเพื่อนๆ ที่คล้ายๆ กัน บางคนเป็นร่างทรง บางคนมีสัมผัสพิเศษ เบญจาก็อยู่ในห้องนี้ด้วย เวลาพวกเราคนใดคนหนึ่งเห็นอะไรผิดปกติ พวกเรามักจะอุบกันไว้แล้วค่อยๆ เผยออกทีละน้อย ว่าเห็นเหมือนกันหรือไม่ เรียกว่าเชค ระยะสายตา เพราะบางที พวกเราก็เห็นไปคนละเรื่องก็มี เรียกว่า เห็นจริง แต่เรื่องที่เห็นไม่ใช่เรื่องจริง จิตเรานั้นปรุงแต่งได้สารพัด ดังนั้นเราจะต่างคนต่างเห็นก่อน แล้วมาบอกว่าเห็นอะไรกัน ถ้ามันตรงกันแปลว่าเชื่อถือได้
ทุกครั้งที่ฉันทักไปเช่นนี้ เป็นอันรู้กันว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ แน่ๆ ทั้งพิมพา ทั้ง เบญจาต่างใช้จิตสแกนตามตัวฉันจนวูบวาบไปหมด ฉันเป็นคนขี้โกง พอพระอาจารย์บอกว่าห้ามคุย ห้ามพูดกับผี ห้ามมอง ฉันก็ใช้เพื่อนๆ ของฉันนี่แหละ คุยแทน พูดแทน และมองแทน (ขี้โกงไหมละ) มันจะขนลุกขนพองก็ให้มันลุกมันพองไป พอมันทนไม่ไหวมันก็ไปกันเองแหละ แต่คราวนี้มันขนลุกมาได้หลายวันแล้ว ฉันเลยสะกิดพิมพาให้จัดการที คนนี้เขาเจ้าแม่ปราบผีอยู่แล้ว
“ปีศาจตะขาบ เพียบเลยแก ทั้งหญิงทั้งชาย หน้าตาแบบพวกโลโก้กะทิชาวเกาะ ที่เพิ่งหลุดมาจากป่าแบบนั้นอ่ะ”
ฉันก็ว่างั้นอ่ะ รู้สึกว่า มีอะไรไม่รู้มีขายุ่บยั่บไต่อยู่ตรงน่อง จั๊กจี๋ดีแท้
“ฉันยกให้ พวกเขาคงรอเธออยู่นะพิม เอาไปเหอะ เอาไปทั้งฝูงเลยนะ” ฉันตอบกลับไปโดยไม่คิดเสียดาย
“พวกเขามารอเจอฉันนี่แหละ เพราะแกไม่ยอมส่งพวกเขาไป ฉันเลยต้องส่งไปแทน” พิมพาบอกเหตุผลของการมาของพวกเขาให้ฉันได้รับรู้
‘ส่ง? ส่งอะไรว่ะ’
ส่งไปปฏิบัติ ปรับภพภูมิน่ะหรอ … ตั้งแต่ฉันเลิกคุยกับผี ฉันก็ทางใครทางมัน แล้วแต่เวรแต่กรรมกันไป ใครจะขวนขวายหาทางไปยังไงก็แล้วแต่ท่านเลย มันมีจริงๆ นะ เมื่อก่อนที่ฉันเขียนเรื่องของตัวเองแรกๆ ผีจากผู้อ่านตามฉันก็มี พวกเขาจะตามดูผ่านคนที่เขาแฝงอยู่ เมื่อคนๆ นั้นอ่าน หรือรับรู้สิ่งใด พวกเขาก็รับรู้ได้ตามคนผู้นั้น มันเหมือนเครือข่ายที่มองไม่เห็นบางอย่างที่โยงคนแต่ละคนให้มาเจอกัน
พูดถึงผีพวกนี้แล้วฉันยังแค้นมันไม่หาย วันนั้นก่อนหวยออกเสมียนที่บ้านมาเล่าให้ฟังว่า ฝันเห็นผีผู้ชายมาตามฆ่าถึง 3 คืนติดๆ กัน มันบอกว่า ‘มึงหนีกูไม่พ้นหรอก’ พวกเราเลยช่วยกันกล่อม แล้วชักชวนให้เลิกจองเวร แถมยังแซวผีตนนั้นด้วยว่า ว่างๆ อย่ามาตามจองเวรมนุษย์เลยนะ เนี่ยหิวก็หิว เหนื่อยก็เหนื่อย จองเวรแล้วไม่เห็นได้อะไรเลยนอกจากความสะใจ เอางี้ มาเปิดสำนักใบ้หวยกันไหม ท่านไปหา 3 ตัว ตรงๆ เลยนะถ้าถูกเดี๋ยวไปบวชให้เลย
“3 ตัวตรงคืออะไร?” ดู๊ ดู ไอ่ผีตนนี้ ช่างไร้เดียงสายิ่งนัก ตามจองเวรเขามาตั้งแต่สมัยยังไม่มีลอตเตอรี่หรือยังไงกัน
ฉันยังตอบไปแบบกวนๆ เลยนะ ว่า 3 ตัวตรงนี่ เป็นเลขวิเศษของมนุษย์นะ ท่านนี่คงจะจองเวรมาหลายร้อยปีจนไม่รู้แล้วสิว่า โลกมนุษย์เขาล้ำไปถึงไหนแล้ว 3 ตัวตรงนี่นะ บันดาลเงินได้ แล้วเงินก็ บันดาลเสื้อผ้าอาภรณ์ กระเป๋าแบรนเนม อาหารอร่อยๆ ได้ ถ้าท่านเป็นผี ท่านก็ใช้ 3 ตัวตรงนี่หลอกล่อให้มนุษย์ทำบุญให้ท่านได้สารพัด เพียงแต่ท่านหาเจ้า 3 ตัวตรงนี่มาให้ได้เท่านั้นแหละ
“ใช่เลข 429 พวกนี้หรือไม่?” ผีจองเวรถามกลับซื่อๆ
เวลานั้น ทั้งฉัน เบญจา และพิมพานี่ ตาโตกันหมดเลย ความโลภนี่สิงกันเต็มๆ ตอนแรกก็แค่แซวผีเล่นๆ มันดันหาเลขมาให้เราจริงๆ ไม่คิดว่า ผีตนนี้จะหัวไว เมื่อกี้ยังไม่รู้จัก 3 ตัวตรงอยู่เลย ตอนนี้กลับบอกได้ว่ามันคือ ตัวเลข จัดว่ามีพัฒนาการมาก 'ค่อยน่าคบหาหน่อย'
ไม่ต้องเดาเลย งวดนั้นพวกเราโดนผีหลอกกันทั้งกลุ่มเลย เพราะเลขไม่ได้ออกตามนั้น คิดแล้วอยากจะตามไปลากผีตัวนั้นมา ตบๆ ให้สาสม ถ้าไม่ติดว่าส่งเขาไปปฏิบัติธรรมแล้วไม่อยากจะไปรบกวนเวลาของเขา ต่อไปนี้ฉันจะไม่เชื่อคำพวกมันง่ายๆ อีกแล้ว ดีนะเล่นแค่ใบเดียว ชริ!!!
กลับมาเรื่องพี่เวย์ดีกว่า เดี๋ยวจะออกอ่าวไปไกล
ความรู้สึกของฉันบอกว่า นี่ คือพี่เวย์ แต่รูปลักษณ์ที่เห็นออกจะแปลกตาไปซักหน่อย ตอนแรกพี่เวย์มาแบบซาตาน แต่คราวนี้พี่เวย์ดูขาวสะอาดตา ปีกด้านหลังสีขาว ตอนแรกที่แลดูคล้ายปีกค้างคาวตอนนี้กับดูนุ่มแบบปีกนก มีออร่าเรืองรองราวเทพบุตร
“ข้ามาลา” พี่เวย์พูดสั้นๆ ก่อนจะหันหลังจากไป
ช่างมีมารยาทอะไรเช่นนี้ มาก็บอก ลาก็บอก แต่การลาครั้งนี้ของพี่เวย์ไม่ใช่การลาขาด บางครั้งหากคิดถึงเขาก็มาเยี่ยมเยียน หรือว่านึกถึงเมื่อไหร่เขาก็มาหา เขาเพียงแต่ไม่ตามดูฉันอีกต่อไปแล้ว สภาพที่เห็นคือ เขาน่าจะได้รับการปรับสภาวะของเขาในระดับที่สูงขึ้น มองจากออร่าเรืองแสงรอบตัวที่เปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีขาว ฉันคิดว่าเขาคงค้นพบวิธีที่จะนำไปประยุกต์ในแบบของตนได้แล้วเขาจึงกลับไปยังถิ่นเดิมของเขา
เวตาลนี่ไม่จัดว่าเป็นผีนะ ตอนที่เขามาใหม่ ๆ เขาบอกว่า เขาเป็นสิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์อายุตั้งแต่ไดโนเสาร์ละมั้ง เก่าแก่มาก ประมาณพวก ยูนิคอร์น ยักษ์ตาเดียว (ไซครอบ) เนสซี
พลังบุญนี่ปรับภูมิได้ทุกอย่างจริงๆ นะ ไม่ว่าจะ ผี หรือ เทวดา มีสหายท่านหนึ่ง มาเล่าประสพการณ์พูดคุยกับพญายมด้วยการฝึกแนวมโยยิทธิของวัดท่าซุง แนวของสายนั้นออกจะแตกต่างกับแนวทางปฏิบัติของฉันซักหน่อย เพราะแนวมโนยิทธิเน้นในเรื่อง ท่อง นรก สวรรค์ เทวดา แต่แนวทางปฏิบัติสาย 'สติปัฐฐานสี่' ที่ฉันศึกษา จะเน้นในเรื่องกฏแห่งกรรมที่ต้องชดใช้โดยไม่ต้องรอชีวิตหลังความตาย จะว่าไปแนวไหนถ้าใช้ให้ดีให้ถูก มันก็ช่วยให้คนเป็นคนดีทั้งนั้นแหละ
เขาเล่าว่าได้ ขอทราบวิธีการสอบสวนวิญญาณของท่านยมราช หรือที่ฉันเรียกว่า 'ปู่ยม' จริงๆ พวกท่านมีเมตตามากนะ ท่านไม่ได้ใจยักษ์ใจมารแบบในหนังหรอก เพียงแต่ท่านเคร่งครัดเท่านั้น เราคิดว่านำมาบอกต่อๆ กันน่าจะเป็นประโยชน์และท่านก็อนุญาตให้นำมาบอกต่อ วิธีพิจารณาของท่าน มีตามนี้
ถ้าผู้ที่หมดอายุลงกำลังสิ้นใจ แล้วจิตคิดถึงบุญกุศลที่ทำไว้หรือภาวนาพุทโธ หรืออรหัง อย่างนี้ไม่ต้องสอบสวน เพราะจิตเขาเกาะอยู่กับบุญ ก็ไปรับผลบุญที่ภพสวรรค์ตามกำลังบุญได้เลย คือไปสู่สุขคติ ส่วนผลบาปของเขาจะยังรออยู่
ถ้าผู้ที่หมดอายุลงกำลังจะสิ้นใจ แล้วจิตคิดถึงบาปกรรมที่เขาเคยได้กระทำไว้ ถึงแม้เขาเคยสร้างบุญกุศลไว้มากน้อยก็ตาม แต่ขณะจะสิ้นใจจิตเขาระลึกถึงบาปที่เคยกระทำ เท่ากับเขาเลือกรับผลของบาปที่นรกก่อน คือไปนรกสู่ทุกข์คติ ส่วนผลบุญจะยังรอเขาอยู่ เมื่อได้รับการลงโทษจากนรกแล้ว จึงจะรับผลบุญนั้น ตกลงไม่ได้สอบสวน เพราะเขาเลือกลงนรกแล้ว
ดังนั้นคนเราเมื่อใกล้ตาย เราต้องตั้งใจคิดแต่ทางบุญกุศลที่เคยทำไว้ ห้ามคิดเรื่องบาปเด็ดขาด แล้วผลบุญจะสนองท่าน โดยไม่ต้องไปสอบสวนที่สำนักพญายม
ขอบอกถึงญาติพี่น้องลูกหลานของผู้กำลังสิ้นใจ ถ้าพวกท่านเอาแต่ร้องไห้หรือแสดงอาการอาลัยอาวรณ์ทางร่างกาย วาจา จนทำให้จิตผู้กำลังจะสิ้นใจเกิดทุกข์ ระวังผลงานของท่านอาจทำให้ผู้ตายสู่ทุกข์คติ
ถ้าผู้ที่หมดอายุ กำลังจะสิ้นใจ จิตมิได้คิดถึงเรื่องบุญบาปเลย เพราะความทรมานของสังขาร ผู้นั้นต้องลงไปรับการสอบสวนที่สำนักพญายม ท่านพญายมจะสอบสวนวิญญาณเหล่านั้น ดังนี้
ก. เจ้าเคยทำความดีอะไรมาบ้าง ตอบ…………..
ข. เจ้าเคยทำความชั่วอะไรมาบ้าง ตอบ…………..
1. เจ้าต้องการรับผลของความดีหรือความชั่วก่อน ตอบ…………..
ถ้าวิญญาณตอบผลของความดีไม่ได้ นึกไม่ออก ท่านจะถามถึง 3 ครั้ง ให้พยายามนึก แต่นึกไม่ออก ท่านก็ต้องปล่อยให้ผลของความชั่วตอบสนองคือลงนรก ท่านเองก็ไม่อยากให้ใครตกนรก แต่ถ้าความดีของเขามีน้อยนิดจนนึกไม่ออก และความชั่วมันมากมายเหลือเกิน ท่านก็จนใจ สหายท่านนั้นเองก็ช่างสงสัย ก็กราบเรียนถามท่านว่า ท่านมีบัญชีบุญ บัญชีบาปอยู่มิใช่หรือ เหตุใดไม่บอกเขาในส่วนของบุญที่บันทึกไว้ ท่านตอบว่าเมื่อความชั่วมันมากล้นเหลือ นายเวรก็รออยู่มีมาก ก็สุดที่จะเอาความดีอันน้อยนิดมาตอบสนองได้ ก็ต้องให้เขาได้รับผลของกรรมก่อน ค่อยไปรับผลของบุญทีหลัง
ท่านผู้อ่านทุกท่าน ท่านต้องตายแน่นอน 100% ถ้าท่านถูกองค์พญายมราชถาม ท่านลองคิดคำตอบไว้นะ รับรองว่าโกหกไม่ได้แน่นอน
พระท่านสอนว่าคนทำดีได้ไปสวรรค์ คนทำชั่วต้องตกนรก แล้วใครบ้างล่ะ ไม่เคยทำชั่วทำบาปมาเลย ไม่มีสักคน ทุกคนมีทั้งบาปและบุญที่กระทำไว้ทุกคน ดังนั้น ขอบอกให้ว่าทุกคนช่วยตัวเองให้พ้นนรกได้ โดยประกอบกรรมดีไว้ให้เป็นประจำ ฝังไว้ในดวงจิต เช่น ใส่บาตรประจำ, นั่งสมาธิ ถือศีลเป็นประจำ หรือสร้างวิหารทาน เช่น ส้วม ศาลา โบสถ์ เจดีย์ (ร่วมกันบริจาคสร้างไม่ใช่ต้องทั้งหมดคนเดียวก็ได้) ฝังความจำความอิ่มใจไว้ในดวงจิตว่าเราได้สร้างวิหารทานไว้ คอยดูแลบำรุงรักษาให้เป็นประจำรับรองตอบคำถามข้อที่ ๑ ของท่านพญายมได้แน่ เมื่อเราเลือกขอรับผลของบุญก่อน ผลบุญทุกอย่างที่ท่านทำไว้จะส่งให้กายของท่านกลายเป็นเทวดาชั้นใดชั้นหนึ่งตามกำลังบุญที่ทำไว้ แล้วผลบาปล่ะ อ๋อ! ยังรอสนองท่านอยู่ ถ้าท่านเพลิดเพลินในการมีความสุขในภพสวรรค์จนหมดบุญ หล่นวูบลงมารับผลของบาปได้เช่นกัน
ดังนั้น เทวดาทั้งหลายต่างก็กลัวหมดบุญ จึงมุ่งปฏิบัติธรรมสร้างบุญจากการปฏิบัติ เพื่อเลื่อนไปในภพภูมิที่สูงขึ้นไป ณ แดนดาวดึงส์สวรรค์ชั้น๒ มีท้าวสักกะเทวราช หรือพระอินทร์ปกครองอยู่ เป็นที่ตั้งของพระจุฬามณี เจดีย์บนแดนสวรรค์ในวันพระ พระพุทธเจ้าจะมาเทศน์โปรดเหล่าเทวดาทั้งหลายที่มาฟังธรรม ให้ปฏิบัติธรรมให้พ้นจากวัฎสงสารนี้ เรียกว่าสร้างบุญจนผลของบาปตามสนองไม่ทัน เราคงเคยได้ยินคำว่า ทาน ศีล ภาวนา
บุญชั้นทาน เช่น ทำบุญใส่บาตร ทอดกฐิน ผ้าป่า บริจาคทาน เป็นอามิสบูชา ด้วยกำลังทรัพย์ กำลังกายนี้ ผลบุญจะปรากฏที่สวรรค์ชั้น ๑ จาตุมหาราชิกาเท่านั้น เวลาสวรรค์ชั้นนี้ ๑ วัน เท่ากับ ๕๐ ปีมนุษย์
บุญชั้นศีล มีพลังบุญสูงกว่าบุญชั้นทาน เพราะเป็นบุญปฏิบัติความบริสุทธิ์ของดวงจิตสะอาดกว่าบุญชั้นทาน ผลบุญศีลนี้ส่งถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์คือสวรรค์ชั้น ๒ ถ้าความบริสุทธิ์ของศีลสะอาดบริสุทธิ์มากขึ้นและมีการสวดมนต์ภาวนาก็สามารถไปอยู่สวรรค์ชั้น ๓,๕,๖ได้ ส่วนสวรรค์ชั้น ๔ คือชั้นดุสิต เป็นที่เฉพาะพระโพธิสัตว์ท่านสถิตย์อยู่ เช่น หลวงปู่ทวด หลวงพ่อปาน เจ้าแม่กวนอิม ส่วนหลวงพ่อวัดท่าซุงพบท่านที่ชั้นนิพพาน
มีเรื่องเล่าว่า เถ้าแก่คนหนึ่งมีจิตเป็นกุศลมาก แกสร้างโบสถ์คนเดียวทั้งหลังหมดเงินเป็นล้าน แต่ตัวแกไม่ได้ถือศีลภาวนา ปรากฏว่าผลบุญแกได้ปรากฏที่สวรรค์ชั้น ๑ เท่านั้น แต่มียายคนหนึ่งยากจน แกมาถือศีลอยู่ที่วัด ใส่บาตรทำบุญตามสถานะ ปรากฏว่าผลบุญศีลของแกไปปรากฏที่สวรรค์ชั้น ๒ โดยไม่ได้ใช้เงินสักบาท
เพื่อนของฉันยังเล่าต่อว่า เรื่องบุญนี่ เป็นเทวดาก็ปรับภพได้ เพราะเขามียายอยู่คนหนึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ชื่อยายรำพึง เดิมแกมีอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเรือ พายเรือขายอยู่คลองบางขาม อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี พอแกเสียชีวิตไป เพื่อนของฉันลองติดตามดูว่าแกอยู่ไหนถ้าลำบากจะได้ช่วยเหลือ ปรากฏว่าแกเลือกรับผลบุญมาเป็นนางฟ้าอยู่ชั้นจาตุมหาราชิกา ก็เป็นอันหมดห่วง หลังจากนั้นอีกประมาณ ๗-๘ เดือน เพื่อนของฉันได้ลองติดต่อแกดูอีกครั้ง ปรากฏว่าแกไปเป็นนางฟ้าอยู่ชั้นดาวดึงส์ เขาสงสัย เลยถามยายดูว่า 'ยาย ผมจำได้ว่ายายอยู่จมตุมหาราชิกา แล้วทำไมตอนนี้ยายมาอยู่ดาวดึงส์' ยายตอบว่า เพราะบุญปฏิบัติตอนเป็นนางฟ้า ยายเร่งปฏิบัติพอพลังบุญมากเพียงพอก็เลยได้เลื่อนชั้น เป็นไงล่ะ บนสวรรค์ก็มีการปฏิบัติเพื่อเลื่อนภพภูมิให้สูงขึ้นโดยไม่ต้องรอบุญจากใคร
'แก๊ง แก๊ง แก๊ง แก๊ง'
เสียงระฆังดังขึ้นทำลายความคิดของฉัน เป็นสัญญาณเรียกผู้ปฏิบัติธรรมให้กลับเข้าสู่ศาลา ฉันถอนหายใจมองกองใบไม้ที่สูงท่วมหลายเซน เมื่อสักครู่ฉันเพิ่งโกยมันไปหมด ตอนนี้มันหล่นร่วงลงมากองกันเต็มลานอีกแล้ว อย่างไรเสียก็คงจะกวาดไม่มีทางหมดแน่ๆ ฉันโกยเก็บเท่าที่มันรกสายตาไปทิ้งในถังขยะที่ทางสำนักปฏิบัติจัดไว้ให้แล้วนำไม้กวาดกับที่โกยผงไปเก็บตรงชั้นเก็บของ หลังจากนั้นก็เดินกลับขึ้นไปศาลาปฏิบัติธรรม
สุดท้าย.. ฉันอยากจะถามผู้อ่านว่า
วันนี้ คุณเตรียมคำตอบไว้คอย ยมบาลแล้วหรือยัง??
cr. บางส่วนจากเรื่องเล่าทางของสหายธรรมที่ใช้ชื่อว่า 'คนธรรมดา'
บอกเลย -__-' เขียนไป งง ไป ..
วันนี้ เขียน งง จริงๆ นั่นแหละ เอาน่า ไหนๆ ก็ หลงเข้ามากันแล้ว
เรากลับไปอ่านตอนแรกๆ แต่ละตอนมันช่างสั้น จุดจู๋จริงๆ นั่นแหละ
(เรากลับไปย้อนอ่านดู ว่าเราบอกหรือยังว่า พี่เวย์ไปแล้ว)
ตอนนั้นเราเขียนแบบ อยากจะเขียนก็เขียน ไม่ได้ กลั่นกรองอะไรมาก จำอะไรได้ก็เขียน
ไม่อยากจะเสริมเติมแต่งให้มันผิดแผกไปจากเค้าเรื่องเดิม
แต่ตอนนี้เราว่า เราก็พัฒนาขึ้น (นิดนึงนะ)
ต่อไปก็จะพยายามเขียนให้ลื่นไหลยิ่งๆ ขึ้นไปนะ
บางครั้งการเขียนโดยไม่มีคอมเม้นท์
ก็เหมือนถูกทิ้งเอาไว้ให้โดดเดี่ยวท่ามกลางฝูงผี
คืนนี้ ฝันดี ผีรอบเตียงนะ
ความคิดเห็น