คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : แม่ผัว ตัวแสบ
แม่ผัว ตัวแสบ
ตอน 21 : แม่ผัวตัวแสบ
“โอยยย”
เสียงคนตรงหน้าฉัน นั่งบิดซ้ายที ขวาที ลุกลี้ลุกลนร้องโอดโอย
“เป็นอะไรของแกว่ะ เบญจา?? นั่งบิดไปบิดมาอยู่นั่นแหละ เห็นแล้วรำคาญแทน” ฉันเริ่มทนไม่ค่อยไหว กับอาการตรงหน้าของเพื่อนซี้ เลยถามไปตรงๆ
ปกติพวกเราจะนัดเจอกัน เดือนละหน กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง หรืออัพเดทข่าวคราวซึ่งกันและกัน วันนี้พวกเรานัดกันว่าจะไปดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่จากต่างดาวที่เพิ่งเข้าใหม่ด้วยกัน ก็แหม่ พระเอกในดวงใจทั้งหล่อ ทั้งล่ำ แอนด์ น่าซั่ม เอ้ยยย แฮนซั่มเสียขนาดนั้น แถมเอฟเฟคของหนังก็อลังการงานช้าง เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ นานๆ ที ก็ขอเปิดหูเปิดตาเสียบ้างเถอะ แต่วันนี้ เบญจามันกลับนั่งหลุกหลิกลุกลี้ลุกลนแทบจะตลอดเวลาที่ดูหนังด้วยกันกว่า 2 ชม. จนออกมานั่งกินข้าวกันนอกโรงหนังแล้วก็ยังบิดไม่เลิก
“ริดสีดวงแตกหรือไงแก??” ฉันยังคงถามต่อ
“แสบตูดว่ะแก” เบญจาตอบ เป็นอะไรไม่รู้ แสบๆ ปวดๆ
“แก ก็ลองถามคนข้างหลังแกดูสิ” ฉันพูดพลางเอาส้อมจิ้มแตงกวาบนจานตรงหน้าใส่ปาก เคี้ยว กรุบกริบ เหมือนกินขนมทับทิมกรอบยังไงยังงั้น
อันที่ฉันเห็นหญิงชราคนที่ว่าคอยตามเบญจาซักพักแล้วตั้งแต่เห็นเบญจานั่งยุกยิกยุกยิกไม่ติดที่ในโรงหนังแต่ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าไหร่นัก เพราะคิดว่าไม่มีอันตรายอะไร
‘แค่สั่งสอน’ นั่นคือคำที่ฉันสัมผัสได้จากหญิงแก่คนตรงหน้านี้ พวกเราทุกคนล้วนแต่มีเจ้ากรรมนายเวรติดตามเป็นสมบัติติดตัวบางคนมีมาก บางคนมีน้อย พวกเราเกิดกันมาไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ ไม่มีใครหรอกที่ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร บางคนแค้นมากอยากให้ตายตกไปตามกัน บางคนแค่อยากให้เขารู้ถึงการมีตัวตนของตนเพราะว่ายังไม่ได้ไปผุดไปเกิด ยังมีเวลาล่องลอยอยู่ก็แวะเวียนไปตามคนนั้นทีคนนี้ที
“น่าเบื่ออ่ะ” เบญจาบ่นแบบเซ็งๆ จริงอยู่เราเข้าใจว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นเราต้องรับ แต่กรณีนี้เบญจาบ่นอุบ
“ทำไม?” ฉันถามสั้นๆ ไม่ได้เงยหน้ามองคนตรงหน้า เพราะยังสนใจกับจานสลัดตรงหน้า ใช้ส้อมเขี่ยหาปูอัดในจาน ‘สงสัยจะเหลือแค่ผักแล้วกระมัง’ ฉันคิดแต่จะหาปูอัดกับแซลมอลในจาน คิดไปเขี่ยไป ‘ทำไมมันหมดเร็วจังฟร่ะ เคี้ยวเพลินๆ แปปเดียว’
เบญจาฟังฉัน แล้วเงียบไปฟังนึงก่อนจะค่อยๆ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“ฉันเห็นหญิงแก่ผมสีดอกเลา...” เว้นไปครู่นึงเหมือนกับพยายามปรับโฟกัสภาพตรงหน้า
“นอนบนเตียงทำหน้าสลด มีผู้หญิงอายุคราวลูกคอยพยุงพลิกซ้าย พลิกขวา ผู้หญิงคนนั้นบ่นตลอดเวลาที่ทำความสะอาดให้หญิงชราคนนั้น” เบญจาบอก แล้วถอนหายใจ
“หลายครั้งที่หญิงแก่คนนั้นนอนน้ำตาซึมเสียใจ อยากจะตายให้พ้นๆ ก็ทำไม่ได้ ได้แต่นอนเจ็บใจนิ่งๆ ฟังคำพูดที่คอยทิ่มแทงใจของหญิงสาวคราวลูกตรงหน้า”
“แล้วยังไง?”
ฉันเริ่มให้กลับมาสนใจเบญจา เพราะเขี่ยหาแซลมอลกับปูอัดไม่เจอแล้ว เลยละความสนใจในจานสลัดจานนั้นเสีย
“เขาว่าเขาเป็นแม่สามีในอดีตชาติ เป็นอัมพาต แล้วฉันที่เป็นลูกสะใภ้ก็พูดจาทำให้เขาเสียใจ”
‘ไม่ลองมาเป็นข้าดูมั่ง’ เขาว่าแบบนี้
“มิน่าเล่า 2-3 วันมานี่ ฉันถึงปวดหลัง ปวดก้น ยังกับคนป่วยที่ลุกไม่ได้ กว่าจะลุกจากเตียงแต่ละที แกเอ๊ยยย น้ำตาแทบล่วง เวลานอนก็ปวดแสบไปหมดเลย คล้ายๆ กับคนเป็นแผลกดทับ ฉันนี่คิดเลยสงสัยพวกที่เป็นแผลกดทับคงจะปวดแบบนี้แหงๆ” เบญจาพุดอย่างเซ็งๆ
“แก เข้าใจปะ เขาไม่สบายใจ ฉันก็ดูแลเอาใจใส่แล้ว จะไม่ให้บ่นบ้างเลยเรอะไง นี่มันข้ามภพข้ามชาติมาแล้ว ยังมาตามจองเวรฉันทำไม ฉันไม่ได้ทำเขาตายเสียที่ไหน ตัวเองเป็นภาระให้คนอื่นๆ แท้ๆ ฉันทำดีด้วยแล้ว ถึงจะดีไม่เต็มขั้นแต่กลับโดนจองเวร” เบญจาบ่นอย่างเซ็งๆ ยังกับเป็นปัจจุบันชาติยังไงอย่างงั้น ดูแล้วท่าทางคงจะอินไม่น้อย
ฉันเอาส้อมชี้หน้าเบญจาอย่างเห็นด้วย “เออว่ะ อันนี้ก็น่าเห็นใจ ถ้าเราไปฆ่าเขาตายจะไม่ว่าเลย นี่มันทำดีด้วยแล้วนะ ขอแค่บ่นนิดบ่นหน่อย ทำไมต้องมาตามจองเวรกันด้วยฟร่ะ”
ฉันมันประเภทเกลือจิ้มเกลืออยู่แล้วด้วย ดีมาดีตอบ ร้ายมาก็ร้ายตอบ ไอ่แบบนี้ถึงจะไม่ดีด้วยเท่าไหร่ ก็จัดว่าเป็นบุญคุณทำไมดันมาตามจองเวรกันแบบนี้
“มันน่าจะตามจองเวรกลับ ให้ชาติหน้าต้องเจอเอาคืนซักสามเท่า” ฉันพูดขำๆ แกมขู่ๆ เพราะออกจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับการกระทำของอดีตแม่สามีเพื่อนในคราวนี้
“แค่คิดว่า ตายไปแล้วแทนที่จะได้รับผลบุญก็ต้องมานั่งตามจองเวรกันก็เซ็งแล้วล่ะ ฉันคงไม่เอาด้วย” สิรินพูดทำสีหน้าเหนื่อยๆ
ถึงตรงนี้ สิรินกับเบญจา พยักหน้า เห็นด้วยพร้อมกัน
“แต่ดูแล้วเดี๋ยวแม่สามีแกก็คงไปแล้วนะ เขาไม่ได้โกธรแค้นอะไรแกมาก เขาแค่น้อยใจเท่านั้นแหละ” สิรินพูดพร้อมกวักมือเรียกพนักงานในงานมารับ ออเดอร์ น้ำแข็งใสราดนมมาทานต่อ
“ขออโหสิกรรมกันและกันซะเถอะ ให้มันจบกันแค่ชาตินี้” ฉันพูด พร้อมเอาช้อนตักน้ำแข็งใสที่พนักงานนำมาวางตรงหน้า น้ำแดงราดทับด้วยนมข้นหวานบนน้ำแข็งใสโปะโมจิไว้ด้านบนดูน่าอร่อย
ฉันตัดแบ่งโมจิออกเป็น 2 ส่วนจะได้กินได้หลายครั้ง โมจิให้ความรู้สึกที่นุ่มหนืดขณะเคี้ยว
‘อืมมมมม’ ฉันครางเบาๆ ในลำคอ อาหย่อยอ่ะ
“พักนี้ แกชักจะเจริญอาหารใหญ่แล้วนะ นี่อ้วนขึ้นเปล่าเนี่ย” เบญจาทักฉันที่กำลังเคี้ยวตุ้ยๆ อย่างไม่ค่อยสนใจเรื่องของเธอเท่าไหร่นัก
‘อ้วน’ คำนี้ทำฉันชะงักเลยเชียวล่ะ
แต่อย่าได้แคร์ ฉันตักน้ำแข็งใสตรงหน้าคำใหม่ใส่ปากแล้วเคี้ยวอย่างกวนๆ พร้อมหลิ่วตาให้เบญจา
“อ้วนแต่อร่อยอ่ะ”
“คงไม่มีปีศาจ ตือโป๊ยก่ายมาเข้าสิงฉันหรอกน่า ฉันยังจำได้ดี ตอนนั้นที่แกโดนสัมภเวสีอดอยากแฝง ช่วงนั้นแกกินยังกะปอปลง ฉันคิดว่าฉันยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ”
สิรินแซวเบญจากลับ เพราะจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เบญจาไปทำบุญต่างจังหวัด ไม่รู้เพราะเบญจามีน้ำมีนวลดูมีอันจะกินหรือว่ายังไงถึงได้ดึงดูดผีหิวโหยเข้าให้ตนหนึ่ง หลังจากวันนั้นเบญจาก็กินทุกสิ่งที่ขวางหน้า ถึงขนาดว่าเห็นแมลงสาปไต่อยู่บนกำแพงแล้วยังอยากกินเลยเชียวล่ะ
ฉันคิดว่านี่มันผิดปกติมากๆ แล้ว อะไรมันจะหิวโหยขนาดนั้นทั้งๆ ที่ปากก็ยังกินไม่หยุด เบญจาถึงกับบอกว่าแน่นท้องไปหมดแล้วแต่ก็ยังหิวอยู่
ปกติถ้าไม่มีอะไรผิดปกติมากจนผิดสังเกตุ พวกเราก็จะไม่ส่องกันเองหรอก เพราะคิดว่ามันไม่จำเป็นเท่าไหร่ ทนได้ก็ทนไป แต่ถ้ามันถึงกับจะจับแมลงสาปกินนี่ คงไม่ไหวแล้วกระมัง
พวกเราเรียกพนักงานคิดเงินแล้วเดินออกนอกร้าน เบญจาเดินตรงไปที่ร้านพวงมาลัยข้างทางที่อยู่ริมถนน พลางเลือกพวงมาลัยมะลิหอมกรุ่นขึ้นมา 1 พวง
“ฉันว่าจะเอาพวงมาลัยพวงนี้ไปขอขมาเขา” เบญจาพูด ฉันแอบเหลือบมองหญิงชราผมสีดอกเลาเบื้องหลังเบญจา ยืนน้ำตาซึมอยู่จางๆ
“ก็ดีนะ หลังจากนี้จะได้ทางใครทางมัน แล้วแต่เวรแต่กรรมกันไป” คราวนี้ฉันกล่าวเห็นด้วย เพราะมองแล้วเจ้ากรรมของเขาก็ไม่ได้แค้นเคืองมากเท่าไหร่
ฉันเดินเอื่อยๆ คิดไปเรื่อยเปื่อย ... นี่ขนาดการกระทำเพียงเล็กๆ น้อยๆ ยังทำให้คนบางคนถึงขนาดผูกใจเจ็บจนข้ามภพข้ามชาติมาได้ขนาดนี้
แล้วไอ่ประเภทที่มันไปฆ่ากันมา ไม่ผูกใจเจ็บกันยัน 3 ชาติ 10 ชาติเลยหรือยังไงกันนะ ....
PS. เม้นท์ได้ แซวได้ ไม่กัดจ้า ที่รัก
ความคิดเห็น