คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : เวไนย์ นาคา และของเล่นใหม่จากท่านปู่
“เจ้าหนู” ฉันหันไปตามเสียงเรียกอย่างสงสัย พลางยิ้มเข้าไปโอบกอด ชายตรงหน้าอย่างคิดถึง
“ปู่นาค หายไปไหนมาจ้ะ คิดถึ๊งงง คิดถึง” ตอนนี้ฉันเหมือนเป็นเด็กตัวเล็กๆ วิ่งไปโอบเอวชายในชุดขาวตรงหน้าเอาไว้แน่น ไม่เข้าใจเหมือนกันแต่ว่าจิตของฉันจะแสดงออกแตกต่างกันออกไปในกับแต่ละคน กับปู่นาคตัวฉันจะเหมือนเด็กเล็กๆ แต่กับซานย่ะฮฺ์ตัวฉันจะเป็นผู้ใหญ่ที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน (กัดกันพอฟัดพอเหวี่ยง)
“ออกมา” ซานย่ะฮฺ์ เดินตามมาห่างๆ ทำหน้าหงิกนิดๆ อย่างไม่พอใจ .. ถ้าจะถามว่าพวกเราคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง ทั้งภาพทั้งเสียงทุกอย่างมันเหมือนเกิดแล้วดับ ภายในจิตอย่างรวดเร็ว
ฉันทำหน้าออกจะ งง และสงสัยมือยังโอบเอวชายตรงหน้าอยู่หลวมๆ ซานย่ะฮฺ์เดินเข้ามากระชากฉันออกมา แล้วพูดเสียงดัง.. ใส่ฉัน พร้อมบ้องกระโหลกฉันอีกหนึ่งทีตามระเบียบ (ถ้าไม่ตบหัวฉันซักวัน คาดว่าคงจะลงแดงตาย เหมือนคนไม่ได้กินข้าวยังไงอย่างนั้นละมัง)
“เจ้านี่มันทั้งเซ่อ ทั้งโง่เลยนะ” มาอีกชุดแล้ว เทพบุตรปากปีจอของฉัน มันสรรเสริญฉันด้วยคำเดิมๆ อีกแล้ว นี่มันไม่มีคำอื่นแล้วหรือยังไงกันนะ
“ยังไงอีกล่ะ โง่อะไรอีกเนี่ย” เอามือลูบหัวป้อยๆ ไม่เจ็บหรอก ก็แค่สำออยน่ะ แต่ทำว่าเจ็บเผื่อคนตรงหน้าจะช่วยลงโทษให้
“ก็โง่ที่ให้ไอ้นาคเฒ่านี่มันหลอกเจ้าได้นี่สิ” ซานย่ะฮฺ์ตอบ
‘ไอ้นาคเฒ่า’ ฉันนี่ แทบจะปล่อยก๊ากก เลยทีเดียวกับคำนี้ ถ้าไม่ใช่พ่อเทพบุตรปากปีจอคนนี้ จะมีใครกล้าพูดคำเช่นนี้กับท่าน พญานาคราชที่เป็นถึงบัลลังแห่งองค์นารายณ์เช่นนี้รึ
“หลอกยังไงล่ะ”
“เจ้าดูดีๆ สิ นี่ใช่ท่านนฤบดีที่ไหนกัน” ซานย่ะฮฺ์พูดเสียงดัง
“โห่ยยย จะให้ดูยังไงล่ะ มองยังไงก็เหมือนๆ กันไปหมดนั่นแหละ จะแยกออกได้ยังไง ตาฉันนี่มันตาคนนะ แถมยังฝ้าฟางซะด้วย พวกนี้ฉันก็เห็นหน้าตาเหมือนๆ กันนั่นแหละ คือหล่อเหมือนๆ กันหมด”
“โง่ๆ อย่างฉันจะรู้อะไรล่ะ ใครเขาว่ายังไงก็เชื่อแบบนั้นแหละ” ฉันยิ่งซื่อๆ อยู่ด้วย ฉํนตอบไปตรงๆ
“ก็ยังดีนะ ที่เจ้ารู้ตัวว่าโง่ ถ้าเจ้าคิดว่าฉลาด เจ้าคงไม่สามารถพัฒนาตนขึ้นอีกได้”
ปู่นาคพูดพร้อมเดินออกมาอีกมุมนึง ครั้งแรกนั้นท่านมาด้วยรูปลักษณ์ของชายหนุ่มหน้ามนสไตล์เกาหลี ขาวตี๋ มีออร่า เรียกว่าถ้าเป็นคนนี่เรียกเสียงกรี๊ดดถล่มทลายยิ่งกว่าเนตไอดอลเลยทีเดียวเชียวล่ะ แต่วันนี้ท่านมาในลักษณ์ของชายแก่เครายาว ชุดยาว ผมยาวขาวถึงกลางหลังหยักโศกน้อยๆ นัยว่าคงอยากให้ฉันสามารถแยกความแตกต่างได้อย่างชัดกับเกาหลีหน้ามนคนใหม่ตรงหน้า
ถ้านั่นคือปู่นาค แล้ว ตาคนที่ฉันกอดเมื่อกี้กอดมันใครกันล่ะ?? ฉันมองตรงหน้าอย่างเริ่มสงสัย ..
ใคร ใคร ใครอีกล่ะ นี่ฉันมีชายหนุ่มที่ไหนหนีตามฉันมาอีกแล้วเรอะ โอ้สวรรค์ นี่มันสวรรค์ชัดๆ ชายหนุ่มรูปงามล้อมหน้าล้อมหลัง สร้างฮาเร็มได้เลยสินี่ .. ฉันกำลังทำหน้าเคลิ้ม พลางสายตามองไปเห็นซานย่ะฮฺ์จ้องมาเขม็ง ก็ต้องรีบปาดน้ำลายที่เกือบจะไหลแทบไม่ทัน … อ่ะ อ่ะ เดี๋ยวๆ ขอเก็บอาการแปปนึง..
“แล้วท่านเป็นใครล่ะ?” ฉันเริ่มถามอย่างที่คิด
“ข้าชื่อ เวไนย์นาคา เป็นน้องของท่านนฤบดี อายุน้อยกว่าประมาณ 2 ล้านปีมนุษย์ เกิดมาในวงศ์ตระกูลพญานาคเดียวกัน ตามท่านพี่ของข้ามา เห็นว่าท่านมีของเล่นใหม่น่าสนุก ข้าก็เลยอยากเห็น” ท่านเดินมาตรงหน้าแต่ว่าย่อตัวนั่งยองๆ ลงกับพื้น ยิ้มกว้างเห็นฟันจนตาหยี เหลือบมองขึ้นมาทางฉันที่ยืนดู มองแล้วเหมือนเด็กๆ ดูใสซื่อแต่ดูขัดกับอายุที่ได้ยินมายิ่งนัก
ใจฉันงี้เต้นเลยตอนที่เห็นรอยยิ้มนั่นครั้งแรก .. ให้ตายเถอะทำไมยิ้มกว้างได้ดูแบบจริงใจขนาดนี้ถ้าจะให้เปรียบคงกว้างพอๆ กับปีเตอร์ คอร์ปไดเรลดัลละมั้ง
นั่นคือความประทับใจแรกที่ฉันได้จากพญานาคหนุ่มท่านนี้ ท่านมักจะยิ้มกว้างเห็นฟันแทบทุกซี่จนตาหยี ในขณะที่ท่านปู่นฤบดีท่านจะยิ้มน้อยๆแค่มุมปากดูเยือกเย็นน่าค้นหา
“อายุ ล้านกว่าปีงั้นรึ? แก่กว่าซานย่ะฮฺ์ โขอยู่เนอะ” ฉันพูดพลางคิด เหมือนซานย่ะฮฺ์จะบอกว่าเขาอายุแค่ประมาณ แปดแสนปีมนุษย์เท่านั้นแหละ
‘ก็ไม่แปลกที่เขาจะเรียกว่า ไอ้นาคเฒ่า’ ฉันแอบขำ
“หลานข้า เจ้าน่ะไม่ควรคุยกับใครสุ่มสี่สุ่มห้ารู้บ้างไหม” (เมื่อก่อนนั้นฉันคุยมั่วคุยซั้วไปหมดจริงๆ นั่นแหละ แต่ตอนนี้ฉันปิดหมดแล้วนะ เพราะท่านอาจารย์สั่งห้าม)
ปู่นฤบดีเดินเข้ามาพร้อมเอื้อมมือมาคว้าข้อมือฉันเอาไว้ พลางสวมบางอย่างให้ มองคล้ายเพียงสัมผัสแผ่วเบาก็มีอะไรมาล้อมรอบข้อมือฉันเอาไว้ รูปร่างมองคล้ายๆ กำไลรูปงูเล็ก หรือพญานาชตัวเล็ก สีทองล้อมรอบข้อมือ ฉันยกมันขึ้นมามองอย่างตาโต … โอ้ ลาภลอยแล้วสินี่ หรือว่านี่จะคือ นาคบาศก์ที่เขาร่ำลือกันว่ามีฤทธิ์ในการจับนักหนาแม้แต่พญาครุฑก็ยังต้องสยบให้กับอาวุธชนิดนี้
“ข้าให้เอาไว้คุ้มครองเจ้า มันจะช่วยคุ้มครองเจ้าจากจิตชั่วร้ายในเวลาที่ข้าไม่อยู่ เวลานี้เป็นช่วงเข้าพรรษา ข้าอาจจะไม่ได้อยู่ดูแลเจ้าเท่าไหร่นัก เพราะเหล่าพญานาคจะมีช่วงที่ต้องจำศีลบำเพ็ญภาวนา”
ฉันมองอย่างเข้าใจ .. เหตุนี้ท่านปู่ถึงได้ให้ปู่เวไนย์น้องชายมาช่วยดูแลด้วยอีกทางสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านนฤบดีท่านนี้เหตุใดถึงติดใจอะไรฉันนัก จำได้ว่าตอนนั้นผ่านไปแถวย่านรัชฏาห้วยขวางกลับมาก็ไข้ขึ้น ปวดหัวอย่างหนัก แล้วเจ้าพิมพาเพื่อนซี้ก็บอกว่าท่านปู่แสดงฤทธิ์ให้รู้ว่ามีท่านอยู่ ท่านตามมาอยู่ด้วย โดยไปสื่อผ่านเธอว่าตอนนี้ท่านมาอยู่ด้วยแล้วนะ พิมพาจึงได้ทำการเบิกเนตรอัญเชิญท่านลงหุ่นพญานาคที่บังเอิญตั้งอยู่ที่บ้านแต่ไม่ได้ทำการเบิกเนตรไว้ให้ท่านสิงสถิต (รู้อีกแน่ะว่าฉันมี จะไม่เชื่อก็กระไรอยู่) ไม่ต้องรอขออนุญาตเพราะว่าเป็นความตั้งใจจะมาอยู่ด้วย สมัยนั้นฉันยังไม่รู้เรื่องอะไรหรอกนะ ใครจะมาจะไปก็ไม่ว่าอะไร หลังๆ ถึงได้รู้ว่าอันตรายมาก เกิดเป็นผีเป็นสางจำแลงกายมาหลอกว่าเป็นเทวดาแล้วแอบแฝงสังขารมาล่ะแย่เลย พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา (ซะละมั้ง) จะไปมีปัญญาแยกแยะอะไร กับผีดี ผีเลว เพราะฉะนั้นอย่าพูด อย่าคุย อย่าสนใจ จะเป็นการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่ท่านอาจารย์สอนไว้ เราอยู่ส่วนเรา เขาอยู่ส่วนเขา เพราะเหตุนี้ ฮาเร็มฉันที่กำลังขยายสมาชิก ล่ำๆ หล่อๆ อย่างต่อเนื่องก็มีสมาชิกใหม่เข้ามาอีกเพียง 2-3 ตน หลังจากนั้นฉันก็งดรับแขก ตามที่ท่านอาจารย์สั่ง (ใครที่มาหลังจากนี้คงต้องบอกว่าสมน้ำหน้า มาช้าอด ฮ่าๆๆๆๆ)
ฉันหันกลับมาสนใจกับของเล่นใหม่ตรงหน้าหลังจากคิดอะไรเพลินๆ ของชิ้นนี้มันดูจะทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองกลายเป็น ยอดมนุษย์เรนเจอร์ ได้ในพริบตา นี่ฉันกำลังจะมีอาวุธจับผี ฉันทำแววตาแวววาวแบบไม่คิดว่าตัวเองจะมีวันนี้ได้ กรรมฐานมา 4-5 ปี วันนี้ฉันหลุดโลกไปไกลโขแล้วสินะ
มีคนบอกว่าฉันมีพรสวรรค์ ขอให้ตั้งใจทำเข้าไว้ บางคนทำทั้งปีทั้งชาติไม่ได้อะไรซักอย่าง แต่บางคนไม่ได้ทำก็มีซะงั้น ฉันเป็นประเภททำจิ้มๆ จ้ำๆ อยู่ๆ ก็คลำเจอผีแบบไม่ตั้งใจ จำได้ว่าตอนที่เห้นจิตตัวเองออกไปวิ่งคุยกับผีครั้งแรกฉัน งง เป็นไก่ตาแตก ก็ตัวเรานั่งอยู่นี่แล้วสิ่งที่ออกไปนั่นคืออะไร?? ภายหลังถึงได้รู้ว่านั่นคือสิ่งที่เรียกว่า มโนยิทธิหรือกำลังจากจิตที่ส่งออกไป บอกตรงๆ ว่าตอนนั้นไม่เข้าใจอะไรซักอย่างเลยควบคุมอะไรก็ไม่ได้ จิตนี่หลุดไปตรงนั้นทีตรงนี้ที ..
ฉันยังจำคำพระอาจารย์ท่านพูดกับฉันได้
"ขอให้โยมตั้งใจทำเช่นนี้ไปทุกๆ วัน ค่อยๆ ละไปทีละอย่าง แล้วโยมจะละได้ทุกอย่าง"
ตอนนั้นฉันก็ไม่เข้าใจหรอกนะ ว่าละอะไร ตอนนี้ก็ยังไม่อาจจะเข้าใจเช่นกันว่า มันมีอะไรให้ละบ้าง คือทำไปแบบโง่ๆ นั่นแหละดีที่สุด อย่าไปทำแบบอยากรู้ หรือรู้ล่วงหน้า แบบนั้นมันก็ไม่สนุกสิ
ฉันคิดพลางเอามือลูบเบาๆ กำไลที่ดูเป็นวงแข็งก็คลายออกกลายเป็นเส้นตรง ใช้ยังไงอ่ะเนี่ย น่าสนใจยิ่งนัก
ฉันลองปามันเข้าใส่ซานย่ะฮฺ์ดู (ไม่รู้จะไปลองกับใครนี่นา) งูตัวเล็กเท่าไม้จิ้มฟันตัวนั้น กลายร่างเป็นพญางูยักษ์ตัวใหญ่ประมาณตึก 2 ชั้นรัดร่างซานย่ะฮฺ์ที่ดูเล็กลงไปถนัดตาจนแทบมิดทันที แต่มันไม่รัดเปล่า หัวของงูมันอ้าปากโชว์เขี้ยวภายในกว้าง .. ฉันมองตาค้างอย่างไม่คิดถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ เพราะก็ไม่ได้คิดไว้จริงๆ นั้นแหละ
มันกำลังงาบซานย่ะฮฺ์ของช้านเข้าไปทั้งหัวแล้วนั่น ด้วยความตกใจ แววตาวาบแดงเหมือนเลือดช่วงที่หัวของซานย่ะฮฺ์กำลังเกือบจะผ่านเข้าไป
ยอมรับว่าตอนนั้นตกใจนิดนึง ไม่คิดว่ามันจะรวดเร็วและฉับพลันขนาดนั้น ฉันรีบคิดอยากให้มันกลับคืนร่าง เพียงเท่านั้นมันก็กลับหดคืนเป็นกำไลอยู่บนข้อมือฉันเหมือนเดิม
“ว้าวว เจ๋งสุดๆ ไปเลย” ฉันร้องแบบทึ่ง แบบนี้ฉันก็มีข้อต่อรองกับพ่อเทพบุตรปากปีจอของฉันแล้วสินี่ ถ้ามันพูดไม่ดี ฉันก็จัดการให้พี่งูเขมือบลงท้องไปเลย ฮ่าๆๆๆ
‘พลั่ก’
ซานย่ะฮฺ์เดินเข้ามา ฟาดเข้ากระโหลกฉันด้านหลังอย่างที่ใจคิด… ตรูว่าแล้ว…
“ไม่ต้องคิดจะใช้มันกับข้าอีกเลย ห้ามแม้แต่จะคิด” ซานย่ะฮฺ์พูดหน้าบึ้งๆ ถึงแม้จะบึ้งแต่ฉันก็รู้แหละว่าไม่ได้จริงจังนักเพียงแค่รู้สึกเสียหน้านิดๆ เท่านั้น ที่โดนฉันใช้เป็นหนูทดลองเยี่ยงนี้ ฉันหัวเราะ หึหึหึ … อย่างเป็นต่อ
“รู้วิธีใช้แล้วสินะ” ปู่พญานาคทั้งสองหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ
“หลานข้ามันหัวไวนะ ไม่ต้องสอน”
มารู้ทีหลังว่า นาคบาสก์นี้ เป็นอาวุธที่เกิดจากการบำเพ็ญตบะของพญานาค ระดับ “พญานาคราชเท่านั้น” ไม่ใช่ว่านาคธรรมดาจะมีกันได้ และกว่าจะมีได้แต่ละอันนั้นใช้เวลานานหลายปี หรืออาจจะหลายชั่วอายุ แม้แต่นาคบางตนที่เกิดแล้วตาย ก็ยังไม่อาจจะมีได้
ฉันลูบคลำเล่นอย่างพอใจ กิเลสฉันนี่ก็ไม่ได้บางเบาไปกว่าคนอื่นเท่าไหร่หรอกนะ ได้ของเล่นใหม่ก็พึงใจเป็นธรรมดาเหมือนกัน ถึงไม่รู้ว่าจะเอาไว้ใช้ทำอะไรเพราะเห็นว่ามันก็อันตรายไม่ใช่น้อย มองแล้วว่ามันอาจจะเกินอำนาจควบคุมฉันไปซักหน่อย
“แค่ติดตัวเอาไว้เท่านั้น มันจะช่วยคุ้มครองเจ้า” ปู่นฤบดีพูดเช่นนี้
ถึงอย่างไรเสียมันก็ไม่ใช่ของๆ ฉัน ท่านจะเรียกคืนตอนไหนก็ได้ ถึงจะเรียกว่ามอบให้แต่มันก็ไม่ใช่สิทธิ์ขาด เพราะมันยังคงเป็นสมบัติของพญานาคเท่านั้นไม่ใช่ของมนุษย์ ฉันคิดพร้อมมองของเล่นในมืออย่างดีใจ เหมือนเด็กๆ ทั่วไปที่ได้ของเล่นใหม่นั่นแหละ .... มันสนุกเช่นนี้เล่า มิน่าท่านอาจารย์ถึงย้ำหนักย้ำหนาว่าระวังติด.. ติดทั้งนิมิตร ติดทั้งฤทธิ์เดช .. ฉันอาจจะกำลังคิดว่าฉันควบคุมได้ แต่จริงๆ อาจจะกำลังหลงอยู่ก็เป็นได้ .. ต้องมีสติให้มั่นแล้วสินะ
แต่ก็ยังไม่วายก้มลงมองตรงข้อมือ
“แหม่ …. ถูกใจของเล่นชิ้นนี้จังเลย”
ความคิดเห็น