ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กาล..ภพ

    ลำดับตอนที่ #2 : ลมเพ ลมพัด

    • อัปเดตล่าสุด 24 ธ.ค. 57


    พระอาทิตย์ค่อยๆ เคลื่อนพ้นขอบฟ้า สิรินลุกออกจากที่นอนอย่างอ่อนล้าทั้งๆ ที่นอนไปกว่า 8 ชม. แต่เหมือนกับว่าเธอไม่ได้นอนเลยทั้งคืนอย่างงั้น

    'ปวดหัวชิบ' หญิงสาวรำพึงเบาๆ อาการปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัวของเธอมักจะเกิดขึ้นประจำคืนวันพระจันทร์เต็มดวงและเดือน ดับที่เราชาวพุทธทราบดีว่าตรงกับวันพระ วันโกน...

    ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยสงสัยอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเองแต่กลับคิดว่า เป็นเรื่องปกติที่อาจจะเพราะอากาศเปลี่ยนแปลงแต่พอเริ่มสังเกตุก็รู้สึกว่า อาการปวดหัว วิงเวียนมักจะเกิดขึ้นเป็นประจำ.. เธอหรี่ตาเล็กน้อยพยายามครองสติไม่สนใจกับอาการปวดหัวให้มากนัก แต่พลันหางตาก็สัมผัสกับไอแดงๆ ขมุกขมัวตรงหน้าห่างไปไม่ไกลนัก

    'อะไรน่ะ?' กลุ่มคน 3-5 คน แอบอยู่ด้านนอกบ้านของเธอแต่บรรยากาศรอบๆ บุคคลเหล่านั้นดูแตกต่าง?? สิรินรับรู้ได้ทันทีว่าแขกตรงหน้าเป็นพลังงานบางอย่างที่ไม่ใช่คน.. เธอกำหนดจิตถามออกไปเบาๆ เนื่องด้วยยังปวดหัวไม่หาย

    "มาทำไม?"
    "พวกเรามาขอบคุณ"
    "เรื่องอะไร?" สิรินถามกลับไปแม้ปากไม่ได้เอ่ยเสียงอะไร"
    'ขอบคุณที่ท่านคอยอุทิศกุศลให้อยู่ตลอด วันนี้เป็นวันพระ ทางผู้คุมนรกงดลงโทษและปล่อยให้พวกเราขึ้นเยี่ยมญาติหรือขอส่วนบุญบนโลกได้ พวกเราจึงมาขอบคุณท่านที่เมตตาส่งกุศลมาให้'

    พวกวิญญาณจากนรกนั่นเอง.. ในที่สุดเธอก็รู้สาเหตุของอาการปวดหัวของเธอ เพราะสังขารของเธอสัมผัสกับพลังงานด้านลบทำให้เกิดการต่อต้านและแสดงออกด้วย อาการเจ็บป่วยไม่สบาย ดั่งเช่นบางคนอาจจะเจอดั่งคำโบราณว่า ลมเพ ลมพัด มิน่าเล่าถึงได้ปวดหัวทุกวันพระเช่นนี้ ..

    เธอจำได้ว่าทุกวันหลังจากกำหนดจิตภาวนา เธอจะอุทิศบุญกุศลออกไปโดยไม่ระบุให้แก่สรรพสัตว์ตามที่ท่านอาจารย์เจโรที่ เธอเคารพได้สั่งสอนมา แต่ไม่วายกำหนดจิตอุทิศบุญส่วนนี่น้อมลงสู่นรกภูมิด้วยใจที่ระลึกได้ว่า สัตว์นรกทั้งหลายไม่มีสิทธิ์ทำกุศลใดๆ ได้อีกแล้ว มีแต่การชดใช้กรรมอันน่าสยดสยองและทรมาณหากกุศลที่เธอทำนี้จะบังเกิดเป็น ความสุขเพียงเสี้ยวดั่งน้ำทิพย์ชโลมลงไฟนรกบังเกิดเป็นสุขเล็กๆ แก่พวกเขาได้ก็ยินดีเป็นนักหนา.. แต่สภาวะร่างกายของเธอคงไม่เข้มแข็งพอที่จะรับพลังงานด้านลบมากมายเช่นนี้ ต่อไปนี้เธอคงต้องเปลี่ยนคำแผ่เมตตาเสียใหม่...
    พร้อมคำแนบท้ายรายการว่า...
    "บุญกุศลใดๆ ข้าพเจ้าให้แล้วถือว่าให้ขาด ไม่จักถือเป็นบุญคุณให้ต้องตอบแทนหากท่านใดได้รับไม่จำเป็นต้องกลับมาขอบคุณ หรือรู้สึกซาบซึ้งประการใด เพราะสังขารแห่งกายมนุษย์นี้ยังไม่พร้อมที่จะสื่อสารกับพวกท่าน ขอพวกท่านจงรับแลทำไม่รู้ไม่เห็นกับการนี้เสียเถิด"

    ไม่อย่างนั้น มันคงจะแห่กันมาทั้งนรกทุกวันโกนวันพระเป็นแน่แท้...

    ดูเอาเสีย แม้แต่สัตว์นรกผู้ที่ใครต่อใครก็โจษจันว่าชั่วร้าย บัดนี้กลับสำนึกด้วยซึ้งในบุญกุศลที่แผ่อุทิศให้โดยไม่ตั้งใจเพียงน้อยนิด เท่านี้จนต้องเจียดเวลาว่างวันพระอันน้อยนิดที่จะออกไปหาขอส่วนบุญส่วนกุศล จากเหล่าผู้มีบุญมากล่าวคำขอบคุณกับเธอ...

    เฮ้ออ ทำไมถึงได้รอจนไม่มีหนทางแก้ไขแล้วถึงเพิ่งสำนึกได้กันนะ...

    หลังเหตุการณ์ครั้งนั้น สิรินพยายามไม่สงสัย ไม่สนใจสิ่งแปลกปลอมรอบกายเพราะเธอเองก็ไม่อาจแน่ใจว่าสิ่งที่เธอเห็นนั้น เป็นจริงซักแค่ไหน เพราะไม่มีใครเห็นกับเธอด้วยเสียเมื่อไหร่เล่า.. จะปรึกษาใครไป เขาจะหาว่าบ้าก็เท่านั้น
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×