ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : มันยังไงกัน???
....
"เจ้าไม่รู้หรือว่า เวลาที่ไม่มีเจ้ามันยาวนานซักเพียงไหน" เสียงรำพึงแผ่วๆ ด้วยเสียงเศร้าจนคาดไม่ได้ว่าผู้พูด พูดด้วยความรู้สึกเช่นไร
อ้อมแขนใหญ่ด้วยมัดกล้ามสีน้ำผึ้งคล้ำนวล มีกำไลแขนสีดำแลคล้ายหนังรัดไว้ที่ต้นแขน อ้อมแขนแกร่งกอดรัดร่างนั้นไว้ในอ้อมแขนอย่างสุดรัก... (ร่างบางนั้นมันเราหรือเปล่านะ? ยังไม่วายสงสัยนิดๆ )
ด้วยแรงกอดรัดที่รุนแรงจนทำให้คนในอ้อมแขนรู้สึกอึดอัดถึงกับสำลัก
"เฮือกก!!!!??" ... สิริน สะดุ้งเมื่อรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจขัดๆ พิจารณาภาพซักครู่คล้ายไม่แน่ใจ เอามือทาบหน้าอกตรงหัวใจสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่ยังเต้นเร็วผิดปกติ รำพึงเบาๆ..
"ฝัน??!!" ทำไมมันช่างเป็นฝันที่เหมือนจริงขนาดนี้..
เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือ บอกเวลา 22.35 น. ก็พลางขมวดคิ้ว งุนงง .. ชั่วเวลาแค่เพียงหลับตาพักผ่อนขณะเอนหลังเพียงแค่ 10 นาที ทำให้เราฝันอะไรไปได้ขนาดนี้เลยรึนี่ หรือเราจะเหนื่อยมากไป?? คิดได้ดังนั้นจึงจัดแจงเก็บเอกสารงานต่างๆ แล้วปิดไฟเตรียมตัวพักผ่อน
สิริน นักธุรกิจส่งออก ด้วยอาชีพแม่ค้าถึงไม่รำ่รวยแต่ก็สามารถเลี้ยงชีพเธอได้อย่างสบายๆ และทำให้เธอมีเงินเก็บและเวลาพอที่จะท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ได้อย่างตามใจ สถานที่ๆ สิรินมักจะเลือกไปเมื่อมีเวลาว่างมักจะเป็น วัดตามถิ่นธุรกันดารมากกว่าจะเป็นโรงแรมไฮโซตามแบบที่คนมีเงินทั่วไปนิยมไป กัน เธอมีเหตุผลที่ว่า.. ไปเที่ยวป่าเขา หรือสถานที่ใดๆ อาจจะทำให้ใจสงบได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ศึกษาใจตนเองอาจจะพบหนทางสงบได้อย่างถาวร หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่สิรินจึงแพคกระเป๋าด้วยเสื้อผ้าเรียบร้อยบ่ายหน้าออก จากเมืองหลวงไปอาศัยกินอยู่หลับนอนตามสถานที่ที่มีกลิ่นไอของความเชื่อมั่น และความศรัทธาของแนวพุทธอยู่ร่ำไป ทำให้สิรินมักมีประสพการณ์แปลกๆ แนวจิตวิญญาณเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้ไม่แน่ใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากนัก เนื่องด้วยยังไม่อยากให้คนรอบข้างต้องเป็นกังวลว่าเธอจะเกิดอาการวิปลาสฟั่น เฟือนหรืออย่างไร หลายๆ ครั้งที่เธอยังสับสนและโหยหาชีวิตคู่เหมือนที่เพื่อนๆ ของเธอต่างสละโสดจากเธอไปคนแล้วคนเล่า ด้วยวัยสามสิบต้นๆ อย่างเธอและหน้าที่การงานที่มั่นคงพร้อมด้วยหน้าตาที่ถึงแม้จะไม่สวยงามตรา ตรึงแต่ก็จัดว่าไม่ได้ขี้เหร่เท่าไหร่นักควรจะมีใครซักคนมาเคียงข้างเธอได้ แล้ว แต่สิรินก็ยังไม่คิดจะมีใครถึงแม้บางครั้งก็ยังหวาดหวั่นว่าเธอจะครองตัว เป็นโสดไปได้อีกนานแค่ไหน.. แต่จิตใต้สำนึกบางอย่างกลับสั่งย้ำเธอว่า.. ไม่ควรเสียเวลากับเรื่องเช่นนี้ให้มากนัก เพราะเวลามนุษย์เราช่างสั้นนักควรใฝ่หาทิพยสมบัติสะสมไว้เพื่อกาลข้างหน้าจะ ดีกว่า
หญิงสาวสวดมนต์แผ่เมตตาซึ่งเธอทำเป็นประจำตามปกติ ก่อนจะหลับตาเอนกายบนที่นอนหนานุ่มอย่างอ่อนล้า...
'ใครกัน??' สภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น สิรินเห็นเงาชายหนุ่มรางเลือนเบื้องหน้า 'ท่านคือผู้ใด??' สิรินขมวดคิ้วพยายามเพ่งมองร่างบางลางเลือนเสมือนอยู่คนละมิติของเธอ มือหนาใหญ่เอื้อมมาสัมผัสแก้มเธออย่างแผ่วเบา
"ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว รอวันที่เจ้าจะรู้ถึงการมีตัวตนของข้า..."
เสียงกระซิบด้วยความลิงโลดเหมือนจะแผ่วเบาแต่กลับเด่นชัดเหมือนรู้อยู่แก่ จิตเกิดขึ้นก่อนที่เธอจะหลับเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์โดยที่ไม่รับรู้อะไรอีก
------
เปิดเพลงนี้ไปด้วยระหว่างอ่านแล้วจะฟิน
"เจ้าไม่รู้หรือว่า เวลาที่ไม่มีเจ้ามันยาวนานซักเพียงไหน" เสียงรำพึงแผ่วๆ ด้วยเสียงเศร้าจนคาดไม่ได้ว่าผู้พูด พูดด้วยความรู้สึกเช่นไร
อ้อมแขนใหญ่ด้วยมัดกล้ามสีน้ำผึ้งคล้ำนวล มีกำไลแขนสีดำแลคล้ายหนังรัดไว้ที่ต้นแขน อ้อมแขนแกร่งกอดรัดร่างนั้นไว้ในอ้อมแขนอย่างสุดรัก... (ร่างบางนั้นมันเราหรือเปล่านะ? ยังไม่วายสงสัยนิดๆ )
ด้วยแรงกอดรัดที่รุนแรงจนทำให้คนในอ้อมแขนรู้สึกอึดอัดถึงกับสำลัก
"เฮือกก!!!!??" ... สิริน สะดุ้งเมื่อรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจขัดๆ พิจารณาภาพซักครู่คล้ายไม่แน่ใจ เอามือทาบหน้าอกตรงหัวใจสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจที่ยังเต้นเร็วผิดปกติ รำพึงเบาๆ..
"ฝัน??!!" ทำไมมันช่างเป็นฝันที่เหมือนจริงขนาดนี้..
เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือ บอกเวลา 22.35 น. ก็พลางขมวดคิ้ว งุนงง .. ชั่วเวลาแค่เพียงหลับตาพักผ่อนขณะเอนหลังเพียงแค่ 10 นาที ทำให้เราฝันอะไรไปได้ขนาดนี้เลยรึนี่ หรือเราจะเหนื่อยมากไป?? คิดได้ดังนั้นจึงจัดแจงเก็บเอกสารงานต่างๆ แล้วปิดไฟเตรียมตัวพักผ่อน
สิริน นักธุรกิจส่งออก ด้วยอาชีพแม่ค้าถึงไม่รำ่รวยแต่ก็สามารถเลี้ยงชีพเธอได้อย่างสบายๆ และทำให้เธอมีเงินเก็บและเวลาพอที่จะท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ได้อย่างตามใจ สถานที่ๆ สิรินมักจะเลือกไปเมื่อมีเวลาว่างมักจะเป็น วัดตามถิ่นธุรกันดารมากกว่าจะเป็นโรงแรมไฮโซตามแบบที่คนมีเงินทั่วไปนิยมไป กัน เธอมีเหตุผลที่ว่า.. ไปเที่ยวป่าเขา หรือสถานที่ใดๆ อาจจะทำให้ใจสงบได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ศึกษาใจตนเองอาจจะพบหนทางสงบได้อย่างถาวร หากมีเวลาว่างเมื่อไหร่สิรินจึงแพคกระเป๋าด้วยเสื้อผ้าเรียบร้อยบ่ายหน้าออก จากเมืองหลวงไปอาศัยกินอยู่หลับนอนตามสถานที่ที่มีกลิ่นไอของความเชื่อมั่น และความศรัทธาของแนวพุทธอยู่ร่ำไป ทำให้สิรินมักมีประสพการณ์แปลกๆ แนวจิตวิญญาณเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้ไม่แน่ใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปมากนัก เนื่องด้วยยังไม่อยากให้คนรอบข้างต้องเป็นกังวลว่าเธอจะเกิดอาการวิปลาสฟั่น เฟือนหรืออย่างไร หลายๆ ครั้งที่เธอยังสับสนและโหยหาชีวิตคู่เหมือนที่เพื่อนๆ ของเธอต่างสละโสดจากเธอไปคนแล้วคนเล่า ด้วยวัยสามสิบต้นๆ อย่างเธอและหน้าที่การงานที่มั่นคงพร้อมด้วยหน้าตาที่ถึงแม้จะไม่สวยงามตรา ตรึงแต่ก็จัดว่าไม่ได้ขี้เหร่เท่าไหร่นักควรจะมีใครซักคนมาเคียงข้างเธอได้ แล้ว แต่สิรินก็ยังไม่คิดจะมีใครถึงแม้บางครั้งก็ยังหวาดหวั่นว่าเธอจะครองตัว เป็นโสดไปได้อีกนานแค่ไหน.. แต่จิตใต้สำนึกบางอย่างกลับสั่งย้ำเธอว่า.. ไม่ควรเสียเวลากับเรื่องเช่นนี้ให้มากนัก เพราะเวลามนุษย์เราช่างสั้นนักควรใฝ่หาทิพยสมบัติสะสมไว้เพื่อกาลข้างหน้าจะ ดีกว่า
หญิงสาวสวดมนต์แผ่เมตตาซึ่งเธอทำเป็นประจำตามปกติ ก่อนจะหลับตาเอนกายบนที่นอนหนานุ่มอย่างอ่อนล้า...
'ใครกัน??' สภาวะกึ่งหลับกึ่งตื่น สิรินเห็นเงาชายหนุ่มรางเลือนเบื้องหน้า 'ท่านคือผู้ใด??' สิรินขมวดคิ้วพยายามเพ่งมองร่างบางลางเลือนเสมือนอยู่คนละมิติของเธอ มือหนาใหญ่เอื้อมมาสัมผัสแก้มเธออย่างแผ่วเบา
"ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว รอวันที่เจ้าจะรู้ถึงการมีตัวตนของข้า..."
เสียงกระซิบด้วยความลิงโลดเหมือนจะแผ่วเบาแต่กลับเด่นชัดเหมือนรู้อยู่แก่ จิตเกิดขึ้นก่อนที่เธอจะหลับเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์โดยที่ไม่รับรู้อะไรอีก
------
เปิดเพลงนี้ไปด้วยระหว่างอ่านแล้วจะฟิน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น