ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The war of the knight

    ลำดับตอนที่ #10 : The Demon Ring (อีก 35% คับ)

    • อัปเดตล่าสุด 31 ธ.ค. 48


         เมื่อสงครามแห่งวาทะสิ้นสุดลงทหารของทั้งสองฝ่ายก็เปิดฉากการโจมตีทันที   การปะทะที่รุนแรงเป็นเหมือนใบมีดคมกริบที่พร้อมจะปลิด



    วิญญาณได้ทุกเมื่อ  แต่ทหารทุกคนยอมรับกับความตายได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างลงบนผืนดินแห่งสมรภูมิ  ท่ามกลางสายฝนแห่งคมธนู



    อาบยาพิษ  สายลมแห่งคมดาบพายุแห่งความอาฆาตแค้นและสายหมอกแห่งเวทมนตร์ดำ  ความหวังในการรอดชีวิตดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้



    เอาซะเลย   แต่ความกล้าหาญนั้นจะผงาดขึ้นอย่างโดดเด่นในสถานการณ์เช่นนี้  เพราะคติที่ทหารทุกคนต้องจดจำคือ  



         ความกลัวเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของศัตรู



          เมื่อใดก็ตามที่ความกลัวเข้าครอบคลุมจิตใจ  เมื่อนั้นความพ่ายแพ้จะคืบคลานเข้ามาเร็วขึ้นเป็นสิบเท่า  



          อริศัตรูผู้ใดก็ตามที่สร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายตรงข้ามได้  คนผู้นั้นไม่ต้องใช้อาวุธอื่นใดเลยในการเอาชนะ



         และในทางตรงกันข้าม  ความกล้าหาญก็เป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเราเช่นกัน



         ความกล้าหาญไม่ใช่การไม่กลัว   แต่ความกล้าหาญคือการกล้าเผชิญหน้าแม้ว่าจะกลัวก็ตาม



         แล้วผู้นำกองทัพคนใดเล่าที่จะทำเช่นนั้นได้



         ระหว่างวอร์ลอร์ดอริงกาซัส  โรเซอัส  และจอมปีศาจคัสมาร์



         คัสมาร์เป็นผู้ลงมือก่อน  จอมปีศาจพึมพำภาษาแปลก  ๆ ออกมาก่อนที่ลำแสงสีดำเส้นหนึ่งจะพุ่งเข้าหาพ่อมดด้วยความเร็วสูง  



    วอร์ลอร์ดสร้างกำแพงเวทย์ขึ้นทันที  ปกติแล้วกำแพงเวทย์เป็นศาสตร์ขั้นสูง  ผู้ที่จะสร้างมันขึ้นมาในเวลาเสี้ยววินาทีต้องเป็นผู้ที่มีพลังเวทย์



    อยู่ในขั้นสูงมากจึงจะทำได้  นอกจากนี้จอมปีศาจยังได้รู้ว่ากำแพงเวทย์นั้นหาใช่กำแพงเวทย์ธรรมดาไม่  เมื่อมันสะท้อนพลังกลับมาอย่าง



    รุนแรง  ลำแสงที่เคยเป็นสีดำเปลี่ยนเป็นสีขาวสว่างจ้าบาดตา  แสงอันทรงพลังปะทะเข้าที่หน้าอกคัสมาร์อย่างแรงจนมันกระอักเลือด



         อะไรกัน?



         กำแพงเวทย์ปกติแค่ดูดกลืนพลังได้เท่านั้น  และถึงแม้ว่ามันจะมีพลังแค่ไหนก็น่าจะเพียงสะท้อนพลังอื่น ได้เท่านั้น  พลังอื่นที่ไม่ใช่



    ศาสตร์มืด  และสิ่งสุดท้ายที่น่าฉงนสนเท่ห์มากที่สุด  ทำไมเวทย์มนต์ดำจึงทำร้ายปีศาจ  ในเมื่อไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดจากความชั่วร้ายทั้งปวง



    จะรวมทั้งยาพิษจะถูกกลืนกินไว้ในร่างกายของพวกปีศาจโดยไม่มีอันตราย  อย่างมากก็ทำให้เจ็บปวดเท่านั้น  ไม่สามารถทำให้ตายได้  แต่



    คราวนี้....มันเกือบจะทำให้คัสมาร์ลุกไม่ขึ้นเอาทีเดียว



         ทำไม......ทำไมพลังนั้นถึงย้อนมาทำร้ายข้าได้



         หรือว่า ..................นั่นจะเป็น



         “กำแพงเวทย์จากสายน้ำ  ช่วยชะล้างเวทย์ดำให้เป็นพลังที่บริสุทธิ์ก่อนที่จะสะท้อนกลับ  หรือถ้าเจ้าพอใจจะเรียกว่า.....”  



         “ปราการวารี”   คัสมาร์พึมพำ



         ปราการวารี  เป็นปราการที่มีชื่อเสียงว่าแข็งแกร่งและงดงามที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันล้อมรอบเมืองนีเซอร์เกรตเอาไว้  ราชินีออร์กีซ



    ต้องใช้เวลานานมากจึงจะสร้างมันขึ้นมาได้ทั้งหมด  แต่วอร์ลอร์ดอริงกาซัสใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น  เขาคาดว่าการสร้างปราการวารี



    รอบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดพ่อมดคงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที



         แต่ช่างเถอะ.....



         เมื่อ The  Demon  Ring  เกิดขึ้นอย่างครบสมบูรณ์แล้ว  ถึงจะเป็นปราการวารีที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่สามารถต้านทานพลังแห่ง



    แหวนปีศาจได้



         ข้ากำลังจะทำให้วงแหวนนั้นครบสมบูรณ์อย่างไม่มีที่ติทีเดียว



         จอมปีศาจคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายแม้ร่างกายจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม



         แต่เมื่อมองมาข้างหน้า   เขาเห็นเพียงหลังม้าที่ว่างเปล่า



         อริงกาซัสไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว



         การปรากฏตัวของพ่อมดด้านหลังของคัสมาร์นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับที่ดาบสีเงินคมกริบถูกชักออกมาและตวัดอย่างว่องไว



    แต่ถึงแม้จะเร็วแค่ไหน  คัสมาร์ก็ยังเอากริชคู่รับไว้ได้



         “อย่าลืมล่ะ  ว่ากริชมันมีสองคม”  วอร์ลอร์ดพูดเสียงเย็น  แล้วออกแรงผลักจนคมกริชด้านหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของจอมปีศาจ



         “ดาบก็มีสองคมเหมือนกันนะท่านวอร์ลอร์ด”  



         “แต่โชคดีที่คมดาบข้ามิได้อาบยาพิษ”  พ่อมดพูดพร้อมกับมองคมกริชของคัสมาร์อย่างรู้ทัน



         “ยาพิษของข้า  ย่อมไม่ทำร้ายข้า”  ปีศาจตอบ



         “ความชั่วย่อมกัดกินและทำลายทุกสิ่ง……... แม้แต่ตัวเจ้าเอง”  อริงกาซัสบอกพร้อมกับผลักอย่างรุนแรง  และคัสมาร์ก็ทำอย่างนั้นเช่น



    กัน  ทั้งคู่กระเด็นออกไปคนละทาง  จอมปีศาจกระอักเลือดอีกครั้ง  ส่วนวอร์ลอร์ดอริงกาซัสเพียงแค่มีเลือดไหลออกจากมุมปากเล็กน้อย



    หลายพันปีแล้วที่ไม่เคยมีใครทำให้เขาเสียเลือดได้



        จอมปีศาจตนนี้ร้ายกาจมากทีเดียว



         จอมปีศาจตนสุดท้ายที่จะทำให้วัฏจักรครบสมบูรณ์



         คัสมาร์ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ  ทั้งคู่เปลี่ยนจากการต่อสู้บนหลังม้ามาเป็นบนฟ้าแทน  วอร์ลอร์ดตวัดดาบอย่างชำนาญ  ท่วงท่าการรับและ



    รุกของเขาเหมือนกับกำลังฝึกรำดาบมากกว่ากำลังรบอยู่กับปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด  



    แต่การต่อสู้ที่ยาวนานทำให้จอมปีศาจทรมานมากขึ้น  การสะท้อนกลับที่ทำให้เขาถึงกับกระอักเลือดทั้งสองครั้งนั้นยังคงสร้างความเจ็บปวดให้



    เขาอย่างต่อเนื่อง



         “อ๊ากกกกกกกกก” เสียงร้องดังขึ้นทันทีที่ปลายดาบสีเงินตวัดไปโดนบาดแผลที่เอเลสซิลเคยสร้างไว้ให้มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาอีกครั้ง



      โดยไม่ทันตั้งตัวปลายดาบนั้นก็สร้างบาดแผลที่หน้าท้องอีกแผลหนึ่งซึ่งเรียกเลือดได้ไม่น้อยทีเดียว  พลังที่ทำให้คัสมาร์ลอยตัวอยู่กลาง



    อากาศได้สลายไปทันที  จอมปีศาจทรุดฮวบลงกับพื้น  มันพยายามยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก  แต่สายไปแล้ว  



    เมื่ออริงกาซัสขึ้นสายธนูเรียบร้อย  ไนท์เกรย์เซอร์ส่องประกายสีเทางดงามอยู่บนคันธนูที่สลักเสลาอย่างประณีต



         แต่เขายังไม่ยิง



         เพราะเมื่อใดที่คัสมาร์สูญสลาย



         เมื่อนั้นวงแหวนปีศาจจะครบสมบูรณ์และรอเวลาแสดงอำนาจ









    *************************************************************

    เย้ๆๆ



    สอบเสร็จแล้ว  ซาบายจายเจงๆ



    ขอให้เต็มวิทย์  ซ้าทุ (ไม่ค่อยเลย)



    โทดหมูโบ๊ะด้วยที่ไม่ได้บอก



    ตอนนี้คงกลับมาแล้ว



    ฮุๆๆๆ  เรารู้ว่าคุณยังไม่ได้สอบ



    คณิตเสริมยากมาก



    เราเตือนท่านแล้ว



    สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ





























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×