ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : The Demon Ring (อีก 35% คับ)
    เมื่อสงครามแห่งวาทะสิ้นสุดลงทหารของทั้งสองฝ่ายก็เปิดฉากการโจมตีทันที  การปะทะที่รุนแรงเป็นเหมือนใบมีดคมกริบที่พร้อมจะปลิด
วิญญาณได้ทุกเมื่อ  แต่ทหารทุกคนยอมรับกับความตายได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างลงบนผืนดินแห่งสมรภูมิ  ท่ามกลางสายฝนแห่งคมธนู
อาบยาพิษ  สายลมแห่งคมดาบพายุแห่งความอาฆาตแค้นและสายหมอกแห่งเวทมนตร์ดำ  ความหวังในการรอดชีวิตดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
เอาซะเลย  แต่ความกล้าหาญนั้นจะผงาดขึ้นอย่างโดดเด่นในสถานการณ์เช่นนี้  เพราะคติที่ทหารทุกคนต้องจดจำคือ 
    ความกลัวเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของศัตรู
      เมื่อใดก็ตามที่ความกลัวเข้าครอบคลุมจิตใจ  เมื่อนั้นความพ่ายแพ้จะคืบคลานเข้ามาเร็วขึ้นเป็นสิบเท่า 
      อริศัตรูผู้ใดก็ตามที่สร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายตรงข้ามได้  คนผู้นั้นไม่ต้องใช้อาวุธอื่นใดเลยในการเอาชนะ
    และในทางตรงกันข้าม  ความกล้าหาญก็เป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเราเช่นกัน
    ความกล้าหาญไม่ใช่การไม่กลัว  แต่ความกล้าหาญคือการกล้าเผชิญหน้าแม้ว่าจะกลัวก็ตาม
    แล้วผู้นำกองทัพคนใดเล่าที่จะทำเช่นนั้นได้
    ระหว่างวอร์ลอร์ดอริงกาซัส  โรเซอัส  และจอมปีศาจคัสมาร์
    คัสมาร์เป็นผู้ลงมือก่อน  จอมปีศาจพึมพำภาษาแปลก  ๆ ออกมาก่อนที่ลำแสงสีดำเส้นหนึ่งจะพุ่งเข้าหาพ่อมดด้วยความเร็วสูง 
วอร์ลอร์ดสร้างกำแพงเวทย์ขึ้นทันที  ปกติแล้วกำแพงเวทย์เป็นศาสตร์ขั้นสูง  ผู้ที่จะสร้างมันขึ้นมาในเวลาเสี้ยววินาทีต้องเป็นผู้ที่มีพลังเวทย์
อยู่ในขั้นสูงมากจึงจะทำได้  นอกจากนี้จอมปีศาจยังได้รู้ว่ากำแพงเวทย์นั้นหาใช่กำแพงเวทย์ธรรมดาไม่  เมื่อมันสะท้อนพลังกลับมาอย่าง
รุนแรง  ลำแสงที่เคยเป็นสีดำเปลี่ยนเป็นสีขาวสว่างจ้าบาดตา  แสงอันทรงพลังปะทะเข้าที่หน้าอกคัสมาร์อย่างแรงจนมันกระอักเลือด
    อะไรกัน?
    กำแพงเวทย์ปกติแค่ดูดกลืนพลังได้เท่านั้น  และถึงแม้ว่ามันจะมีพลังแค่ไหนก็น่าจะเพียงสะท้อนพลังอื่น ได้เท่านั้น  พลังอื่นที่ไม่ใช่
ศาสตร์มืด  และสิ่งสุดท้ายที่น่าฉงนสนเท่ห์มากที่สุด  ทำไมเวทย์มนต์ดำจึงทำร้ายปีศาจ  ในเมื่อไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดจากความชั่วร้ายทั้งปวง
จะรวมทั้งยาพิษจะถูกกลืนกินไว้ในร่างกายของพวกปีศาจโดยไม่มีอันตราย  อย่างมากก็ทำให้เจ็บปวดเท่านั้น  ไม่สามารถทำให้ตายได้  แต่
คราวนี้....มันเกือบจะทำให้คัสมาร์ลุกไม่ขึ้นเอาทีเดียว
    ทำไม......ทำไมพลังนั้นถึงย้อนมาทำร้ายข้าได้
    หรือว่า ..................นั่นจะเป็น
    “กำแพงเวทย์จากสายน้ำ  ช่วยชะล้างเวทย์ดำให้เป็นพลังที่บริสุทธิ์ก่อนที่จะสะท้อนกลับ  หรือถ้าเจ้าพอใจจะเรียกว่า.....” 
    “ปราการวารี”  คัสมาร์พึมพำ
    ปราการวารี  เป็นปราการที่มีชื่อเสียงว่าแข็งแกร่งและงดงามที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันล้อมรอบเมืองนีเซอร์เกรตเอาไว้  ราชินีออร์กีซ
ต้องใช้เวลานานมากจึงจะสร้างมันขึ้นมาได้ทั้งหมด  แต่วอร์ลอร์ดอริงกาซัสใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น  เขาคาดว่าการสร้างปราการวารี
รอบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดพ่อมดคงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
    แต่ช่างเถอะ.....
    เมื่อ The  Demon  Ring  เกิดขึ้นอย่างครบสมบูรณ์แล้ว  ถึงจะเป็นปราการวารีที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่สามารถต้านทานพลังแห่ง
แหวนปีศาจได้
    ข้ากำลังจะทำให้วงแหวนนั้นครบสมบูรณ์อย่างไม่มีที่ติทีเดียว
    จอมปีศาจคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายแม้ร่างกายจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
    แต่เมื่อมองมาข้างหน้า  เขาเห็นเพียงหลังม้าที่ว่างเปล่า
    อริงกาซัสไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
    การปรากฏตัวของพ่อมดด้านหลังของคัสมาร์นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับที่ดาบสีเงินคมกริบถูกชักออกมาและตวัดอย่างว่องไว
แต่ถึงแม้จะเร็วแค่ไหน  คัสมาร์ก็ยังเอากริชคู่รับไว้ได้
    “อย่าลืมล่ะ  ว่ากริชมันมีสองคม”  วอร์ลอร์ดพูดเสียงเย็น  แล้วออกแรงผลักจนคมกริชด้านหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของจอมปีศาจ
    “ดาบก็มีสองคมเหมือนกันนะท่านวอร์ลอร์ด” 
    “แต่โชคดีที่คมดาบข้ามิได้อาบยาพิษ”  พ่อมดพูดพร้อมกับมองคมกริชของคัสมาร์อย่างรู้ทัน
    “ยาพิษของข้า  ย่อมไม่ทำร้ายข้า”  ปีศาจตอบ
    “ความชั่วย่อมกัดกินและทำลายทุกสิ่ง ... แม้แต่ตัวเจ้าเอง”  อริงกาซัสบอกพร้อมกับผลักอย่างรุนแรง  และคัสมาร์ก็ทำอย่างนั้นเช่น
กัน  ทั้งคู่กระเด็นออกไปคนละทาง  จอมปีศาจกระอักเลือดอีกครั้ง  ส่วนวอร์ลอร์ดอริงกาซัสเพียงแค่มีเลือดไหลออกจากมุมปากเล็กน้อย
หลายพันปีแล้วที่ไม่เคยมีใครทำให้เขาเสียเลือดได้
    จอมปีศาจตนนี้ร้ายกาจมากทีเดียว
    จอมปีศาจตนสุดท้ายที่จะทำให้วัฏจักรครบสมบูรณ์
    คัสมาร์ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ  ทั้งคู่เปลี่ยนจากการต่อสู้บนหลังม้ามาเป็นบนฟ้าแทน  วอร์ลอร์ดตวัดดาบอย่างชำนาญ  ท่วงท่าการรับและ
รุกของเขาเหมือนกับกำลังฝึกรำดาบมากกว่ากำลังรบอยู่กับปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 
แต่การต่อสู้ที่ยาวนานทำให้จอมปีศาจทรมานมากขึ้น  การสะท้อนกลับที่ทำให้เขาถึงกับกระอักเลือดทั้งสองครั้งนั้นยังคงสร้างความเจ็บปวดให้
เขาอย่างต่อเนื่อง
    “อ๊ากกกกกกกกก” เสียงร้องดังขึ้นทันทีที่ปลายดาบสีเงินตวัดไปโดนบาดแผลที่เอเลสซิลเคยสร้างไว้ให้มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาอีกครั้ง
  โดยไม่ทันตั้งตัวปลายดาบนั้นก็สร้างบาดแผลที่หน้าท้องอีกแผลหนึ่งซึ่งเรียกเลือดได้ไม่น้อยทีเดียว  พลังที่ทำให้คัสมาร์ลอยตัวอยู่กลาง
อากาศได้สลายไปทันที  จอมปีศาจทรุดฮวบลงกับพื้น  มันพยายามยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก  แต่สายไปแล้ว 
เมื่ออริงกาซัสขึ้นสายธนูเรียบร้อย  ไนท์เกรย์เซอร์ส่องประกายสีเทางดงามอยู่บนคันธนูที่สลักเสลาอย่างประณีต
    แต่เขายังไม่ยิง
    เพราะเมื่อใดที่คัสมาร์สูญสลาย
    เมื่อนั้นวงแหวนปีศาจจะครบสมบูรณ์และรอเวลาแสดงอำนาจ
*************************************************************
เย้ๆๆ
สอบเสร็จแล้ว  ซาบายจายเจงๆ
ขอให้เต็มวิทย์  ซ้าทุ (ไม่ค่อยเลย)
โทดหมูโบ๊ะด้วยที่ไม่ได้บอก
ตอนนี้คงกลับมาแล้ว
ฮุๆๆๆ  เรารู้ว่าคุณยังไม่ได้สอบ
คณิตเสริมยากมาก
เราเตือนท่านแล้ว
สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ
วิญญาณได้ทุกเมื่อ  แต่ทหารทุกคนยอมรับกับความตายได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่เหยียบย่างลงบนผืนดินแห่งสมรภูมิ  ท่ามกลางสายฝนแห่งคมธนู
อาบยาพิษ  สายลมแห่งคมดาบพายุแห่งความอาฆาตแค้นและสายหมอกแห่งเวทมนตร์ดำ  ความหวังในการรอดชีวิตดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
เอาซะเลย  แต่ความกล้าหาญนั้นจะผงาดขึ้นอย่างโดดเด่นในสถานการณ์เช่นนี้  เพราะคติที่ทหารทุกคนต้องจดจำคือ 
    ความกลัวเป็นอาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของศัตรู
      เมื่อใดก็ตามที่ความกลัวเข้าครอบคลุมจิตใจ  เมื่อนั้นความพ่ายแพ้จะคืบคลานเข้ามาเร็วขึ้นเป็นสิบเท่า 
      อริศัตรูผู้ใดก็ตามที่สร้างความหวาดกลัวให้กับฝ่ายตรงข้ามได้  คนผู้นั้นไม่ต้องใช้อาวุธอื่นใดเลยในการเอาชนะ
    และในทางตรงกันข้าม  ความกล้าหาญก็เป็นอาวุธที่ดีที่สุดของเราเช่นกัน
    ความกล้าหาญไม่ใช่การไม่กลัว  แต่ความกล้าหาญคือการกล้าเผชิญหน้าแม้ว่าจะกลัวก็ตาม
    แล้วผู้นำกองทัพคนใดเล่าที่จะทำเช่นนั้นได้
    ระหว่างวอร์ลอร์ดอริงกาซัส  โรเซอัส  และจอมปีศาจคัสมาร์
    คัสมาร์เป็นผู้ลงมือก่อน  จอมปีศาจพึมพำภาษาแปลก  ๆ ออกมาก่อนที่ลำแสงสีดำเส้นหนึ่งจะพุ่งเข้าหาพ่อมดด้วยความเร็วสูง 
วอร์ลอร์ดสร้างกำแพงเวทย์ขึ้นทันที  ปกติแล้วกำแพงเวทย์เป็นศาสตร์ขั้นสูง  ผู้ที่จะสร้างมันขึ้นมาในเวลาเสี้ยววินาทีต้องเป็นผู้ที่มีพลังเวทย์
อยู่ในขั้นสูงมากจึงจะทำได้  นอกจากนี้จอมปีศาจยังได้รู้ว่ากำแพงเวทย์นั้นหาใช่กำแพงเวทย์ธรรมดาไม่  เมื่อมันสะท้อนพลังกลับมาอย่าง
รุนแรง  ลำแสงที่เคยเป็นสีดำเปลี่ยนเป็นสีขาวสว่างจ้าบาดตา  แสงอันทรงพลังปะทะเข้าที่หน้าอกคัสมาร์อย่างแรงจนมันกระอักเลือด
    อะไรกัน?
    กำแพงเวทย์ปกติแค่ดูดกลืนพลังได้เท่านั้น  และถึงแม้ว่ามันจะมีพลังแค่ไหนก็น่าจะเพียงสะท้อนพลังอื่น ได้เท่านั้น  พลังอื่นที่ไม่ใช่
ศาสตร์มืด  และสิ่งสุดท้ายที่น่าฉงนสนเท่ห์มากที่สุด  ทำไมเวทย์มนต์ดำจึงทำร้ายปีศาจ  ในเมื่อไม่ว่าอะไรก็ตามที่เกิดจากความชั่วร้ายทั้งปวง
จะรวมทั้งยาพิษจะถูกกลืนกินไว้ในร่างกายของพวกปีศาจโดยไม่มีอันตราย  อย่างมากก็ทำให้เจ็บปวดเท่านั้น  ไม่สามารถทำให้ตายได้  แต่
คราวนี้....มันเกือบจะทำให้คัสมาร์ลุกไม่ขึ้นเอาทีเดียว
    ทำไม......ทำไมพลังนั้นถึงย้อนมาทำร้ายข้าได้
    หรือว่า ..................นั่นจะเป็น
    “กำแพงเวทย์จากสายน้ำ  ช่วยชะล้างเวทย์ดำให้เป็นพลังที่บริสุทธิ์ก่อนที่จะสะท้อนกลับ  หรือถ้าเจ้าพอใจจะเรียกว่า.....” 
    “ปราการวารี”  คัสมาร์พึมพำ
    ปราการวารี  เป็นปราการที่มีชื่อเสียงว่าแข็งแกร่งและงดงามที่สุดในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันล้อมรอบเมืองนีเซอร์เกรตเอาไว้  ราชินีออร์กีซ
ต้องใช้เวลานานมากจึงจะสร้างมันขึ้นมาได้ทั้งหมด  แต่วอร์ลอร์ดอริงกาซัสใช้เวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น  เขาคาดว่าการสร้างปราการวารี
รอบดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดพ่อมดคงใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
    แต่ช่างเถอะ.....
    เมื่อ The  Demon  Ring  เกิดขึ้นอย่างครบสมบูรณ์แล้ว  ถึงจะเป็นปราการวารีที่แข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่สามารถต้านทานพลังแห่ง
แหวนปีศาจได้
    ข้ากำลังจะทำให้วงแหวนนั้นครบสมบูรณ์อย่างไม่มีที่ติทีเดียว
    จอมปีศาจคิดแล้วยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายแม้ร่างกายจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม
    แต่เมื่อมองมาข้างหน้า  เขาเห็นเพียงหลังม้าที่ว่างเปล่า
    อริงกาซัสไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว
    การปรากฏตัวของพ่อมดด้านหลังของคัสมาร์นั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับที่ดาบสีเงินคมกริบถูกชักออกมาและตวัดอย่างว่องไว
แต่ถึงแม้จะเร็วแค่ไหน  คัสมาร์ก็ยังเอากริชคู่รับไว้ได้
    “อย่าลืมล่ะ  ว่ากริชมันมีสองคม”  วอร์ลอร์ดพูดเสียงเย็น  แล้วออกแรงผลักจนคมกริชด้านหนึ่งจ่ออยู่ที่คอของจอมปีศาจ
    “ดาบก็มีสองคมเหมือนกันนะท่านวอร์ลอร์ด” 
    “แต่โชคดีที่คมดาบข้ามิได้อาบยาพิษ”  พ่อมดพูดพร้อมกับมองคมกริชของคัสมาร์อย่างรู้ทัน
    “ยาพิษของข้า  ย่อมไม่ทำร้ายข้า”  ปีศาจตอบ
    “ความชั่วย่อมกัดกินและทำลายทุกสิ่ง ... แม้แต่ตัวเจ้าเอง”  อริงกาซัสบอกพร้อมกับผลักอย่างรุนแรง  และคัสมาร์ก็ทำอย่างนั้นเช่น
กัน  ทั้งคู่กระเด็นออกไปคนละทาง  จอมปีศาจกระอักเลือดอีกครั้ง  ส่วนวอร์ลอร์ดอริงกาซัสเพียงแค่มีเลือดไหลออกจากมุมปากเล็กน้อย
หลายพันปีแล้วที่ไม่เคยมีใครทำให้เขาเสียเลือดได้
    จอมปีศาจตนนี้ร้ายกาจมากทีเดียว
    จอมปีศาจตนสุดท้ายที่จะทำให้วัฏจักรครบสมบูรณ์
    คัสมาร์ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ  ทั้งคู่เปลี่ยนจากการต่อสู้บนหลังม้ามาเป็นบนฟ้าแทน  วอร์ลอร์ดตวัดดาบอย่างชำนาญ  ท่วงท่าการรับและ
รุกของเขาเหมือนกับกำลังฝึกรำดาบมากกว่ากำลังรบอยู่กับปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด 
แต่การต่อสู้ที่ยาวนานทำให้จอมปีศาจทรมานมากขึ้น  การสะท้อนกลับที่ทำให้เขาถึงกับกระอักเลือดทั้งสองครั้งนั้นยังคงสร้างความเจ็บปวดให้
เขาอย่างต่อเนื่อง
    “อ๊ากกกกกกกกก” เสียงร้องดังขึ้นทันทีที่ปลายดาบสีเงินตวัดไปโดนบาดแผลที่เอเลสซิลเคยสร้างไว้ให้มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมาอีกครั้ง
  โดยไม่ทันตั้งตัวปลายดาบนั้นก็สร้างบาดแผลที่หน้าท้องอีกแผลหนึ่งซึ่งเรียกเลือดได้ไม่น้อยทีเดียว  พลังที่ทำให้คัสมาร์ลอยตัวอยู่กลาง
อากาศได้สลายไปทันที  จอมปีศาจทรุดฮวบลงกับพื้น  มันพยายามยันกายลุกขึ้นอย่างยากลำบาก  แต่สายไปแล้ว 
เมื่ออริงกาซัสขึ้นสายธนูเรียบร้อย  ไนท์เกรย์เซอร์ส่องประกายสีเทางดงามอยู่บนคันธนูที่สลักเสลาอย่างประณีต
    แต่เขายังไม่ยิง
    เพราะเมื่อใดที่คัสมาร์สูญสลาย
    เมื่อนั้นวงแหวนปีศาจจะครบสมบูรณ์และรอเวลาแสดงอำนาจ
*************************************************************
เย้ๆๆ
สอบเสร็จแล้ว  ซาบายจายเจงๆ
ขอให้เต็มวิทย์  ซ้าทุ (ไม่ค่อยเลย)
โทดหมูโบ๊ะด้วยที่ไม่ได้บอก
ตอนนี้คงกลับมาแล้ว
ฮุๆๆๆ  เรารู้ว่าคุณยังไม่ได้สอบ
คณิตเสริมยากมาก
เราเตือนท่านแล้ว
สวัสดีปีใหม่ทุกคนครับ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น