ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic:Ryohei&Eping

    ลำดับตอนที่ #1 : At first sight

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ค. 55


    ปี ค.ศ. 20XX

     

     

        ณ ทางเดินในอาคารมีนักเรียนชายคนหนึ่งเดินอย่างเร่งร้อนไปตามความยาวของทางเดิน เงาของนักเรียนชายที่สะท้อนจากหน้าต่าง ทำให้เห็นว่าเขามีผมสีเงินจางอมขาว เนื้อตัวมีแต่แผลและรอยฟกช้ำ ร่างกายกำยำแข็งแรง ชื่อของเขา 'ซาซางาวะ เรียวเฮ' กัปตันทีมชมรมมวยของโรงเรียนนามิโมริ เจ้าของฉายาชายผู้เบรกแตก 24 ชม.เพราะเหตุใดถึงได้ฉายานี้นะเหรอ ? เพราะชายคนนี้ต่อยมวยเก่ง ? ไม่ใช่แค่นั้นหรอกมันอยู่ที่นิสัยประจำตัวของเขามากกว่า

         ในที่สุดเรียวเฮก็ถึง ห้อง 1-A ที่หมายของเขา

         “ซาวะดะ อยู่ไหมครับ” เรียวเฮถามอาจารย์ที่กำลังสอนอยู่ในห้องด้วยความอดทนอดกลั้นสุดขีด การพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆแบบนี้ไม่ใช่สไตล์ของเขาเลย มันน่าอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง

         เด็กในห้อง 1-A เองก็รู้สึกว่าการมาของเรียวเฮนั้นแปลกไปกว่าทุกที   แปลก... ? แปลกไปอย่างไร ? แปลกตรงที่เรียบร้อยผิดปกตินะสิ

         “ซะ...ซาซางาวะ ของชมรมมวยไม่ใช่รึ” อาจารย์ที่กำลังสอนนั้นรู้สึกร้อนๆหนาวๆกับการมาของเรียวเฮ ความบ้าดีเดือดจนน่าหวาดผวาของเรียวเฮ ตัวเขาเองก็เคยได้ยิน ได้เห็นมาบ้างเหมือนกัน

         “มีธุระอะไรระหว่างเรียนรึ ?” อาจารย์ถามเรียวเฮด้วยใจเต้นตุ้มๆต่อมๆ

         “ครับ ย้อนกลับไปเมื่อวานซืน...เมื่อวานซืน ? เอ๊ะ! หรือว่ามะรืน ?” เรียวเฮพยายามที่จะอธิบายให้เข้าใจถึงสถานการณที่เร่งด่วน แต่เขาก็จำรายละเอียดเนื้อเรื่องของปํญหาไม่ได้แล้ว และตัวเขาเองก็ไม่มีพรสวรรค์ในด้านการอธิบายเรื่องราวให้คนเข้าใจ การที่จะมาให้เรียวเฮอธิบายอะไรนั้นมันทำให้เขาหงุดหงิดมากกกก

         “ อึ๋ย!!! ยุ่งยากน่ารำคาญ! ส่งตัวซาวะดะมาเดี๋ยวนี้ !!!!!! ” ความอดทนในการพูดเรียบๆแบบปกติแบบคนทั่วไปของเขาได้หมดลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

         ‘ อีหรอบเดิมจนได้ คนในห้องคิด

         “อะ...เอ่อ มีอันหยังฮับนักเรียนชายหน้าตาซื่อๆ(จนเกือบเซ่อ)ที่ชื่อ ซาวะดะ สึนะโยชิ ถามอย่าหวาดๆเพราะตัวสึนะก็รู้ซึ้งความเลือดเดือดของเรียวเฮดี

         “โอ้...ซาวะดะมีเรื่องให้ช่วยน่ะ” เรียวเฮตอบ เขามีเรื่องให้สึนะช่วย

         “ โอ๊ย!!! ขี้เกียจเล่า!! ไว้อธิบายทีหลัง! ” เรียวเฮพยายามที่จะอธิบายให้สึนะเข้าใจในสถานการณ์ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มอธิบายอย่างไรดี แล้วก็หมดอารมณ์ที่จะอธิบายไปซะดื้อๆ

         แล้วนี้ท่านมาทำอาหร้ายยสึนะคิด

        

    เรียวเฮพาสึนะมาพบกับครูที่โรงฝึก(คาดว่าน่าจะเป็นโรงฝึก เทควันโด หรือ คาราเต้)

         “ถล่มโรงฝึก ?” สึนะถามด้วยเสียงสงสัย

         “ครับ อยู่ๆก็ออกมาอาละวาดในช่วงนี้ โรงฝึกที่อยู่ในเมืองนี้ 3 แห่งก็ถูกเอาป้ายสำนักไปแล้ว ตัวจริงของโรงฝึกเราตอนนี้ไปเข้าค่ายอยู่ ก็เลยกำลังหาคนคุ้มกัน แล้วชมรมมวยของพวกเธอที่นำโดย ซาซางาวะคุงก็เลยเสนอตัวมาช่วย” ครูฝึกช่วยแถลงปัญหานี้ที่เรียวเฮไม่ได้อธิบายให้สึนะฟัง

         “พวกเธอที่ว่า...แต่...ผม...” สึนะถามเสียงขาดๆ

         “ผม...ป๋มก็เป็นสมาชิกชมรมมวย!!!” เรียวเฮพูดอย่างมัดมือชก

         “ไม่ใช่ครับ!!!” สึนะตอบเสียงหลง

         “คิดให้ดีๆนะซาวะดะนี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องชมรมมวยแล้ว การรักษาความสงบเรียบร้อยของท้องที่เป็นหน้าที่ของลูกผู้ชายทุกคน” เรียวเฮบอกเหตุที่เขารู้สึกว่าเหมาะเหม็งให้สึนะฟัง

         “และยามที่นายเหวี่ยงหมัดเพื่อความยุติธรรม! นายก็จะซาบซึ้งในเสน่ห์ของมวย!!! เรียวเฮยังไม่ลืมว่าเขาอยากได้ตัวสึนะเข้ารวมชมรมมวย แม้ว่าสึนะไม่อยากเข้า เห็นได้จากหน้าสึนะในตอนนี้
    แต่เรียวเฮก็ไม่สนอยู่ดี

         “ท่าทางน่าสนุกดีออก” ชายร่างเล็กสวมหมวกหัวช้างที่อยู่ๆไม่รู้มาจากไหนพูดขึ้น(เขาคือ
    รีบอร์นคะ ถ้ายังจำกันได้เขาชอบเป็นนู้นเป็นนี่ นี่ก็อีกตัวละครหนึ่งที่เขาชอบแปลง)

         “พระอาจารย์แปร๋นๆ!!!” เรียวเฮพูดในที่สุดก็มีแนวร่วมที่เห็นด้วยกับเขา

         “การรักษาความปลอดภัยให้กับผู้คนที่อยู่อาศัยอยู่ก็เป็นหน้าที่ของมาเฟีย” รีบอร์นพูด บังคับมัดมือชกให้สึนะต้องไปโรงฝึกกับเรียวเฮ


    ณ โรงฝึก

         เรียวเฮกับคนในชมรมมวยอีกห้าคนรวมทั้งสึนะมาเตรียมพร้อมสู้ภายในโรงฝึก

         “เอ้า!!! มาได้ทุกเมื่อไอ้พวกถล่มโรงฝึก!!” เรียวเฮพูดเสียงดังปลุกใจคนในชมรม เตรียมพร้อมที่จะจัดการกับพวกถล่มโรงฝึกเต็มที่

         เรียวเฮได้ยินสึนะคุยกับครูฝึกอย่างสงสัยว่ามีพวกถล่มโรงฝึกจริงหรือเปล่า เรียวเฮไม่ค่อยได้สนใจฟังนัก เขาต้องมีสมาธิเพื่อรับมือกับพวกถล่มโรงฝึก

         “มาแล้ว” เรียวเฮพูด เขาเห็นประตูโรงฝึกถูกเปิดออก ร่างที่ปรากฏตรงระหว่างธรณีประตูโรงฝึกทำให้เรียวเฮแปลกใจ เขาได้ยินสึนะพูดออกมาอย่างแปลกใจเหมือนกัน

         “อี้ผิง!!!” สึนะพูดชื่อของเด็กสาวตัวเล็กอายุ 6 ขวบ(น่าจะอายุประมาณนี้นะคะ) ตาตี่ ผิวขาวซีด ไว้ผมจุกเปียที่กลางหัว แต่งตัวแบบคนจีน

         “เจ้าหนูหัวเถิกบ้านซาวะดะนี่นา” เขาพอจำได้ลางๆว่าเคยเห็นเจ้าหนูนี่ตอนแข่งปาหิมะกัน

         “ก็บอกว่าชื่ออี้ผิงไงครับ!!” สึนะแก้ชื่อพิสดารที่เรียวเฮคิด

         “มาทำอะไรที่นี่นะ มีอะไรที่บ้านเหรอ ?” สึนะถามอี้ผิง

         “$@%&*&(!#%!!)_=#*@%&$”อี้ผิงหรือเจ้าหนูหัวเถิกตอบสึนะเป็นภาษาจีนซึ่งทั้งเรียวเฮและสึนะก็ไม่เข้าใจ แต่โชคดีที่มีคนช่วยแปล

         “มาเอาป้ายสำนัก...บอกว่างั้น” รีบอร์นหรือในคราบของพระอาจารย์แปร๋นๆ ช่วยไขข้อข้องใจให้เรียวเฮและสึนะ

         “ว่าไงนะ!!! งั้นก็หมายความว่า!!” เรียวเฮรู้สึกแปลกใจมาก

         “อี้ผิงเป็นคนถล่มสำนักเองรึ ??!!!” สึนะก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน

         “ไม่ล่ะม้างจะเป็นเด็กไปได้ยังไงล่ะ แต่งตัวประหลาดดีแฮะ คิกๆ”คนในชมรมมวย
    คนหนึ่งพูดขึ้น

         “ทรงผมก็ตลกพอกันเลย 5555”คนในชมรมมวยอีกคนพูดพร้อมทั้งขำไปด้วย

         “ ฮึ่ม!” อี้ผิงน้อยแสดงสีหน้าไม่พอใจ          

         “อย่าทำให้เขาเขิลล์สิครับ!! เดี๋ยวระเบิดตูมตามจริงๆด้วนนะ จะบอกให้!
    สึนะพูดเสียงดัง 
     

          “อย่างที่ซาวะดะพูดนั้นแหละ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาหัวเราะ!!! ถึงเป็นเด็กแต่ก็เป็นพวกถล่มโรงฝึก! ใช้พลังสุดหูรูดรวบตัวเอาไว้ให้จงได้!!! ” เรียวเฮพูดพร้อมส่งสัญญาณให้ทุกคนเข้าลุยกับอี้ผิงที่เรียวเฮเชื่อว่าเป็นคนถล่มโรงฝึก นี่เป็นศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายที่จะปกป้องเมืองอันสงบสุขของตัวเขาเองเอาไว้

          คนในชมรมยกเว้นสึนะวิ่งบุกดาหน้าเข้าไปหวังจะจับตัวอี้ผิง แต่อี้ผิงกระโดดขึ้นเหนือหัวคนที่วิ่งเข้ามาหาแล้วก็ถีบเข้าที่ท้ายทอยของคนที่นำหน้าสุด จากนั้นก็ใช้หมัดเกี๊ยวซ่าซัดใส่คนที่สองที่บุกเข้ามา แล้วก็ตีลังกาถีบใส่คนที่สาม ขณะที่อี้ผิงกำลังจะสู้กับคนที่สี่ เรียวเฮก็เข้ามาข้างหลังจับเสื้อด้านหลังของอี้ผิงไว้ได้


        “อยู่นิ่งๆ! รู้ผลกันแล้ว!!” ในที่สุดเรียวเฮก็คิดว่าเขาปราบคนถล่มโรงฝึกแล้ว
        “เห็นรึยังมวยนี่แหละ!! เป็นเพลงหมัดที่เจ๋งที่สุด!!! ” เรียวเฮพูด แม้หมัดพิสดารเหม็นฉ่าของเจ้าหนูจะเจ๋งจริง แต่เขาก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามวยของเขาเนี่ยแหละเจ๋งสุด
        ขณะที่เรียวเฮคิดหาวิธีจัดการเรื่องนี้ให้จบ แต่จู่ๆก็มีระเบิดจรวดยิงโดนเจ้าหนูโป๊งเหน่งในมือเขา แล้วก็เกิดควันฟุ้งกระจาย บดบังการมองเห็นของเรียวเฮเขามองไม่เห็นแม้กระทั้งเจ้าหนู เมื่อควันเริ่มจาง ร่างที่ปรากฏตรงที่ที่ควรเป็นเจ้าหนูกลับปรากฏเป็นหญิงสาววัยสิบห้าสิบหกนั่งอยู่ สาวน้อยคนนี้มีสีผิวขาว ผมดำถักเปียสองข้างท่าทางกำลังสับสน เหมือนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
        “ใครน่ะเธอ?! เจ้าเด็กนั้นหายไปไหนแล้ว” เรียวเฮถาม เขาไม่พอใจเขาต้องลงโทษคนทำผิดก่อน
        “คุณพี่ซาซางาวะมาอยู่ที่บ้านเราได้ยังไง? ตาเป็นอะไรไปแล้วหรือไง” สาวสวยผิวขาวจั๊วะ ที่เป็นร่างอีกสิบปีของอี้ผิงในอนาคต ไม่รู้ว่าตัวเองในตอนเด็กถูกบาซูก้าทศวรรษยิ่งใส่ทำให้สลับร่างกลับมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว
        “หนีแบบนี้ขี้โกงนี้!!! ออกมาเดี๋ยวนี้นะเจ้าหนูหัวเถิก!!!!” เรียวเฮพูดกับอี้ผิงตอนโตอย่างไม่เข้าใจสถานการณ์
     
        “โอ้พวกสวะอยู่กันตรึมเลย” อยู่ๆก็มีเสียงปริศนาดังขึ้นมาจากประตูโรงฝึก
        “สวัสดีเรามาถล่มโรงฝึกคร้าบ” ผู้ชายแปลกหน้าตัวใหญ่บึกทั้งหมดสามคนพูดขึ้น
        “หา!!” เรียวเฮร้องออกมาอย่างแปลกใจ
        “คนถล่มไม่ใช่อี้ผิงเหรอ” สึนะพูด
        “พวกแกด้วยงั้นเหรอ?” เรียวเฮถามพวกชายตัวลำบึกที่อยู่ตรงหน้า
        “พวกเราน่ะขนาดลงแข่งระดับประเทศยังได้อันดับต้นๆเลย จะว่าเรี่ยวแรงมันมีเหลือเฟือรึไงดีล่ะ?” หนึ่งในพวกอันธพาลที่ผมไถข้างตอบเรียวเฮ
        “ว่าง่ายๆก็คือมาถล่มเป็นงานอดิเรกน่ะ” อีกคนที่มาด้วยกันในสามคนที่ผมเป็นทรงกะลาครอบช่วยเสริม
        “เอาหลังที่ 4 มันเลยล่ะกัน” คนสุดท้ายในกลุ่มพูดสรุป
        “หลังที่ 4 งั้นที่ถล่มโรงฝึกก็ไม่ใช่อี้ผิง แต่เป็นคนพวกนี้น่ะสิ?” สึนะพูด
        “พวกแกมันไม่คู่ควรจะเป็นนักสู้ !!! ซาซวงาวะ เรียวเฮคนนี้จะกำราบแกเอง!!!!” เรียวเฮวิ่งเข้าไปซัดกับพวกถล่มโรงฝึก
        “หมัดสุดหูรูด!!!!” เรียวเฮปล่อยหมัดอย่างรวดเร็วใส่พวกถล่มโรงฝึกสองคน แต่พวกถล่มโรงฝึกสองคนนั้นหลบได้อย่างหวุดหวิด
        “เจ้านี่เก่งว่ะ!” คนผมกะลาครอบพูดหลังจากหลบหมัดสุดหูรูดของเรียวเฮ
        “ยังมีอีกคนนะเฟ้ย!” คนที่ผมไถข้างเข้ามาข้างหลังเรียวเฮแล้วใช้ไม้เคนโด้ฟาดเข้าที่หลังเรียวเฮจนเรียวเฮล้มลง
        “คุณซาวะดะนี่เค้ามาชุมนุมทำอะไรกันเหรอคะ? พอรู้สึกตัวฉันก็มาอยู่ที่นี่แล้ว” อี้ผิงถามสึนะ เธอยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นนัก
        “อี้ผิง!!! โผล่ออกมาตอนนี้ก็แย่นะสิ!” สึนะพูดกับอี้ผิงอย่างลนลาน
        “สาวของโรงฝึกนี้เรอะ?” คนในพวกถล่มโรงฝึกคนหนึ่งหันมาเจออี้ผิง
        “น่ารักไม่ใช่เล่นเลยแฮะ” ชายผมกะลาครอบแซว
        “ฉันขอล่ะ!” คนผมไถข้างพูดอย่างหื่นกาม
        อี้ผิงได้ยินเสียงพูดของคนผมไถข้าง เธอหันหน้าไปตามเสียงนั้นโดยอัตโนมัติ และมันก็เหมือนมีใครไปเปิดสวิสต์สัญชาติญาณในการต่อสู้ของเธอขึ้นมา เธอกระโดดตีลังกาจับศรีษะของชายผมไถข้างด้วยความเร็วสูงจนไม่มีใครได้ทันขยับเขยื้อนอะไรเลย แล้วเธอก็บิดศรีษะของชายคนนั้นดังกรอบ จนชายคนนั้นลงไปนอนกับพื้น
        “ขอโทษค่ะ!! มือมันไปเอง!” อี้ผิงพูดขอโทษชายที่ลงไปนอนกับพื้น เธอทำโดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ
        “นังนี่!!! อย่าดูถูกกันนะเว้ย!!” อีกสองคนที่เหลือเป็นเดือดเป็นแค้นที่พวกตัวเองโดยเล่นงานจนลงไปนอนกับพื้น ทั้งสองคนที่เป็นพวกถล่มโรงฝึกวิ่งเข้าไปหวังจะซัดอี้ผิงให้หายแค้น
        แต่เหมือนเมื่อครู่เมื่ออี้ผิงเห็นว่ามีชายสองคนจะเข้ามาทำร้ายตน ก็เหมือนมีคนสับสวิสต์ความเป็นคนใจเย็น อ่อนโยน บริสุทธิ์ ไร้เดียงสาของเธอลง
        เธอแทงศอกเข้าไปที่คอหอยของคนแรกที่วิ่งเข้ามา แล้วใช้ขาเตะอีกคนกระเด็นไปไกล
        “อี้ผิงเก่งสุดๆเลย!!!” สึนะพูดอย่างทึ่งๆ
        “ทำใจดีๆไว้นะคะ! อ๊ายทำยังไงดีล่ะ ต้องถูกหัวหน้าที่ร้านราคุราคุเคนดุอีกแน่เลย” อี้ผิงพูดกับร่างที่สลบเหมือดที่กองอยู่บนพื้น เธอทำไปโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว
        เรียวเฮนั้นแม้จะลงไปนอนกับพื้น แต่เขายังได้ยินได้เห็นลีลาอันสวยงามของอี้ผิง
        “แม่สาวเถิกไปไหนแล้ว!! หล่อนนี่แหละควรจะมาเป็นนักมวยที่สุด!!!” เรียวเฮพร้อมมองหาร่างของสาวหมวยคนนั้น
        แต่อี้ผิงตอนโตได้สลับร่างกับอี้ผิงตอนเด็กแล้วจึงมีแต่อี้ผิงตอนเด็กหัวโป๊งเหน่ง
        “แต่ทำไมอี้ผิงมาถล่มโรงฝึกล่ะ?” สึนะถามอี้ผิงหลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย
        “%#!@!%^#*%&฿#&*^!@%” อี้ผิงตอบสึนะ
        “ก็ว่าอย่างนี้ ‘จะขอเรียนทำอาหารกับเบี้ยงกี้ เบียงกี้ก็บอกว่าไปเตรียมมีดกับเขียงมา’” รีบอร์นช่วยแปลให้
        “$%^!@” อี้ผิงพูดพร้อมชี้ไปที่ป้ายสำนักของโรงฝึก
        “เขียง” รีบอร์นใจบุญช่วยแปลให้อีกรอบ
        เรื่องที่เกิดขึ้นวุ่นวายปั่นป่วนมากมายก็เกิดจากสายตาสั้นสุดกู่ของอี้ผิงนี่เอง
        End ‘At First Sight’

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×