ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic All anime สหายหลุดโลก

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 3 in LSK :: หาข้อมูล (1)

    • อัปเดตล่าสุด 28 มี.ค. 57


     

    Chapter 3  in LSK :: หาข้อมูล (1)

     

                “เห็นบ้านแล้วละ อเล็กซิท” เสียงออกสูงของเด็กหนุ่มผมสีทองสว่างดังขึ้นพร้อมกับเสียงแหวกพุ่มไม้นั่นทำให้ภูติหนังสือหนุ่มที่เดินตามหลังเพื่อระวังให้ยิ้มออกมา “จริงหรือขอรับ ดีจังเลยนะขอรับ”

    ทว่าในขณะที่รองเท้าส้นหนาห้าเซนฯจะได้ก้าวออกจากเขตป่าก็ตั้งชักกลับก่อนคว้าตัวอเล็กซิทให้เข้าไปหลบในพุ่มไม้ด้วยกัน ทำเอาภูติหนังสืองุนงงเอ่ยเรียกเจ้านายของตัวเอง “นายท่าน?

                “ชู่” นิ้วชี้มือขวาถูกยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของภูติหนะงสือโดยที่ดวงตาสีเลือดยังคงจ้องออกไปนอกพุ่มไม้อย่างใช้สมาธิ ซึ่งตรงนั้นมีร่างของชายสามคนยืนอยู่ หนึ่งเป็นชายชราที่เหมือนเป็นเจ้าถิ่น อีกหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันเพียงแต่มีเรือนผมที่เป็นคนละโทนกัน อีกฝ่ายมีผมสีเขียวคุ้นตาส่วนอีกหนึ่งคนเขามั่นใจว่าไม่มีทางจำผิดแน่ว่านั่นคือซารุโทบิ ซาสึเกะจากการ์ตูนเรื่องSengoku Basara การ์ตูนเรื่องโปรดของเขา แน่นอนว่าเป็นเรื่องเดียวกับร่างของอเล็กซิท

     

                            หมายความว่าเจ้านั่นก็ภูติหนังสือ?

     

     

                ขมวดคิ้วมองเหตุการณ์ตการพูดคุยอยู่อย่างนั้นด้วยความหงุดหงิดใจ ไม่ได้ยินเลยโว้ยยยย

    อเล็กซิทมองอาการหงุดหงิดของอีกฝ่ายด้วยความงุนงงก่อนจะต้องอ่านใจเจ้านายถึงจะได้ความว่าเจ้าตัวหงุดหงิดอะไรนักหนา

                “ข้าคิดว่าท่านต้องการเครื่องดักฟังนะขอรับ?

                “ใช่เลยแต่มันจะไปมีได้ไงละฟะ” ทำหน้าเบื่อหน่ายใส่อเล็กซิทที่ยิ้มออกมาก่อนชี้ไปที่ต่างหูรูปกางเขนของเขา “นั่นไงขอรับ ข้าเตรียมไว้ให้ท่านแล้ว”

                “เนี่ยนะ?” ชี้ไปที่เครื่องประดับบนหูของตัวเองก่อนถอดออกมาดูแล้วก็เห็นว่าไอ้กลมๆ แดงๆ ตรงกลางมันไม่ใช่ลายแต่เป็นปุ่มกด

                “ขอรับ หูซ้ายเป็นตัวรับเสียงส่วนหูขวาไว้ฟังขอรับ” อธิบายวิธีใช้ให้เจ้านายตัวเองที่ฟังไปพลิกต่างหูในมือไปมาอย่างอยากรู้อยากเห็น “เห็นแบบนี้แต่แข็งแรงมากขอรับ ช้างเหยียบก็ไม่มีปัญหา”

                “เยี่ยมไปเลยแฮะ” ว่าจบก็เขวี้ยงต่างหูซ้ายออกไปในแนวราบ เข้าไปใกล้บริเวณที่คนทั้งสามคุยกันอย่างแนบเนียนแล้วกดดักฟังที่ต่างหูขวา

                ‘-บอกไม่ได้จริงๆ ขอรับว่าใครซื้อไป-’ เสียงที่คาดว่าเป็นของชายชราดังให้เข้าขมวดคิ้วมุ่น ซื้อ? ซื้ออะไร?

                ‘-ช่วยไม่ได้นะ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมบอกว่าใครเป็นคนซื้อไป…-’ เสียงของเด็กหนุ่มผมสีเขียวดังให้รีเซ็ทขมวดคิ้วมุ่น มันเป็นเสียงที่เขาคุ้นมาก แต่เป็นใครกันละ?

                ในขณะที่สมองขบคิดสิ่งที่ข้องใจอยู่ร่างที่ใช้ร่างของนินจาหนุ่มซารุโทบิ ซาสึเกะก็สลายกลายเป็นดาบคมคมกริบจ่อที่คอของชายชราทันที!

                ‘-บอกมา ใครเป็นคนซื้อศพที่โดนพระราชาทรมานจนตายเป็นใคร!-’ ศพที่ถูกพระราชาทรมานจนตายหากความทรงจำของเขาไม่ผิดแล้วละก็ นี่เป็นเนื้อเรื่องของนิยายเล่มหนึ่งก็หมายความว่าศพนั่นเป็นตัวละครตัวโปรดของเขา ลอเรนไม่ผิดแน่

     

                            ถ้าเป็นลอเรนก็ต้องถูกพิงกี้ซื้อไป

     

                หากแต่คำตอบจากชายชราที่สั่นอย่างหวาดกลัวกลับแตกต่างจากความคิดของเขาโดยสิ้นเชิงยิ่งทำให้คนได้ยินงุนงง

                ‘-เป็น เป็นเด็กหนุ่มผมสีครามเหมือนกับเทพอัศวินเทมเพสขอรับ และมากับชายที่ปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่งด้วยแผ่นเหล็กขอรับ-’

                            เด็กหนุ่มผมครามกับชายปิดหน้า?

     

                ร่างทั้งสองนิ่งไปครู่นึงก่อนที่คนผมเขียวจะถอยดาบออก น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยออกมาอีกครั้ง ‘-เจ้านั่นเองงั้นรึ-’

    เจ้านั่น? หรือว่าเจ้านี่เป็นผู้พิทักษ์เหมือนกัน?

                ‘-หากใครมาถามคำถามเดียวกับข้า เจ้าก็ไม่ต้องตอบหากไม่อยากตาย-’ ร่างสีเขียวนั้นว่าจบกระโดขึ้นหลังม้าที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนควบออกไป

               

                รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของรีเซ็ทพร้อมกับดวงเนตรสีเลือดที่ทอแววประหลาดชวนสะพรึงกลัว เขาก้าวออกไปจากพุ่มไม้ก่อนที่จะก้มลงไปเก็บต่างหูขึ้นมาเช็ดฝุ่นแล้วใส่กลับไปเหมือนเดิม

                “ว่าไงขอรับ ท่านลุง ข้ามีเรื่องถามท่าน”

                “เหอะ! อย่าคิดว่าข้าจะยอมพูดอะไรง่ายๆ นะ! ต่อให้ตายข้าก็” จากน้ำเสียงกรรโชกแปรเปลี่ยนเป็นหวั่นวิตกและกลายเป็นหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อมองเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคู่สนทนา

                รอยยิ้มที่วิปริตเสียยิ่งกว่าฆาตกรโรคจิตเสียอีก!

     

    “รบกวนสักเดี๋ยวไม่ได้เหรอ ท่านลุง”

     

     

                เป็นครั้งแรกในชีวิตของภูติแห่งการลงทัณฑ์ที่ได้เห็นอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงที่สุดในชีวิตเลยทีเดียวเจ้านายของเขาสุดยอดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

                “เนื้อเรื่องมันแปลกๆ แล้วนะอเล็กซิท”

                “ขอรับ?” ภูติหนังสือหนุ่มหันไปทำหน้างุนงงใส่เจ้านายที่สวมผ้าคลุมปกปิดกายเอาไว้เช่นเดียวกับเขา แน่นอนว่าผ้าคลุมนั้นเอามาจากบ้านของผู้เฒ่าคนนั้น

                “ก็จริงๆ คนที่ต้องไปถามตาแก่จะต้องเป็นอัศวินของพระราชานี่นา ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ซื้อศพลอเรนไปก็ต้องเป็นพิงกี้ไม่ใช่ไอ้หัวครามนั่นหรอก” ว่าจบก็ทำท่าครุ่นคิด “แล้วจากที่เราถามมาพิงกี้ก็ไม่ได้ไปที่นั่นเลยสักครั้งด้วยสิ”

                “นั่นเป็นสัญญาณไม่ดีรึเปล่าขอรับ?

                “นั้นสินะ ฉันว่านะทางที่ดีพวกเราควรไปสืบหาข่าวอะไรก่อนดีไหม?” หันไปหาภูติหนังสือของตนเองอีกครั้งก่อนพูดทั้งที่คิ้วไม่ได้แยกออกจากกันแม้แต่น้อยแต่นั่นก็ทำให้อเล็กซิทเห็นด้วย การที่หาข้อมูลได้อย่างชัดเจนดูจะเป็นทางที่ดีและปลอดภัยมากที่สุด

                “แล้วท่านจะไปสืบจากที่ไหนขอรับ?

                เจ้าของเรือนผมสีทองภายใต้ผ้าคลุมขมวดคิ้วเข้าหากันอีกเล็กน้อย เรียกได้ว่าขยับหากันอีกนิดละก็ผูกกันเป็นปมแน่ เขาชูนิ้วขึ้นมาสี่นิ้ว “สำหรับเนื้อเรื่องในช่วงนี้จะมีสถานที่เกี่ยวข้องเพียงไม่กี่ที่ ซึ่งถ้าเราตัดที่ๆ ไม่สามารถหาข้อมูลอย่างการสอบถามใครได้ออกจะเหลือแค่สี่ที่เท่านั้น”

                “สี่หรือขอรับ?

                “ใช่ ที่แรกคือตำหนักเทพอัศวิน สองคือลานลงทัณฑ์ สามคือบ้านของพิงกี้และสี่คือพระราชวัง” ว่าจบเขาก็ลดนิ้วลงหนึ่งนิ้วเหลือเพียงสามนิ้วเท่านั้น “ซึ่งที่ๆ พวกเราไปมาเมื่อกี้คือลานลงทัณฑ์”

                “หมายความว่าเราเหลืออีกสามที่หรือขอรับ?

                “แต่เราเองก็เพิ่งออกมาจากตำหนักเทพอัศวินด้วยสิที่นั่นก็ดูจะไม่รู้เรื่องอะไรมากมายแสดงว่าครีอุสยังไม่พบกับลอเรนแน่นอน” อธิบายไปเดินหลบชาวบ้านที่เข้ามามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ “บ้านพิงกี้เองก็ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่มาซื้อศพแทนพิงกี้เป็นใคร นอกจากนั้นไอ้หัวสาหร่ายที่เราเจอก็ดูจะเป็นคนของพระราชวังด้วยสิ”

                “แบบนี้ก็อันตรายทุกที่เลยสิขอรับ!

                “แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยสักหน่อย ฉันว่าเริ่มแรกเราควรดูว่าเรื่องราวมันเปลี่ยนไปตรงไหน เกิดอะไรขึ้นบ้าง และตอนนี้ที่เรารู้ก็มีแค่มีผู้พิทักษ์อยู่คนหนึ่งหรือเจ้าหัวเขียว และตัวละครแปลกๆ อย่างชายผมครามที่ไปซื้อศพ” มือเรียวกดปากกาหมึกซึมลงบนสมุดจดบันทึกที่หยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง ถ้าบอกว่าสมเป็นโหมดไรเตอร์ก็ไม่แปลกเท่าไหร่

                “ตอนนี้จุดที่แปลกไปมีสองจุด ฉันว่าเราควรไปหาข้อมูลจากแหล่งตรงที่ก่อเรื่องนี้ดีกว่านะ” เก็บของสองสิ่งเข้าที่เดิมของมันแล้วกันไปฉีกยิ้มให้ภูติหนังสือที่เอ่ยอย่างงุนงง “ที่ก่อเรื่อง?


    “พระราชวังไงละ”

     

     

    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×