คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 3 in LSK :: หาข้อมูล (1)
Chapter 3 in LSK :: หาข้อมูล (1)
“เห็นบ้านแล้วละ อเล็กซิท” เสียงออกสูงของเด็กหนุ่มผมสีทองสว่างดังขึ้นพร้อมกับเสียงแหวกพุ่มไม้นั่นทำให้ภูติหนังสือหนุ่มที่เดินตามหลังเพื่อระวังให้ยิ้มออกมา “จริงหรือขอรับ ดีจังเลยนะขอรับ”
ทว่าในขณะที่รองเท้าส้นหนาห้าเซนฯจะได้ก้าวออกจากเขตป่าก็ตั้งชักกลับก่อนคว้าตัวอเล็กซิทให้เข้าไปหลบในพุ่มไม้ด้วยกัน ทำเอาภูติหนังสืองุนงงเอ่ยเรียกเจ้านายของตัวเอง “นายท่าน?”
“ชู่…” นิ้วชี้มือขวาถูกยกขึ้นมาแตะที่ริมฝีปากของภูติหนะงสือโดยที่ดวงตาสีเลือดยังคงจ้องออกไปนอกพุ่มไม้อย่างใช้สมาธิ … ซึ่งตรงนั้นมีร่างของชายสามคนยืนอยู่… หนึ่งเป็นชายชราที่เหมือนเป็นเจ้าถิ่น อีกหนึ่งเป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันเพียงแต่มีเรือนผมที่เป็นคนละโทนกัน อีกฝ่ายมีผมสีเขียวคุ้นตา… ส่วนอีกหนึ่งคนเขามั่นใจว่าไม่มีทางจำผิดแน่…ว่านั่นคือซารุโทบิ ซาสึเกะจากการ์ตูนเรื่องSengoku Basara การ์ตูนเรื่องโปรดของเขา แน่นอนว่าเป็นเรื่องเดียวกับร่างของอเล็กซิท
…หมายความว่าเจ้านั่นก็ภูติหนังสือ?
ขมวดคิ้วมองเหตุการณ์ตการพูดคุยอยู่อย่างนั้นด้วยความหงุดหงิดใจ … ไม่ได้ยินเลยโว้ยยยย
อเล็กซิทมองอาการหงุดหงิดของอีกฝ่ายด้วยความงุนงงก่อนจะต้องอ่านใจเจ้านายถึงจะได้ความว่าเจ้าตัวหงุดหงิดอะไรนักหนา
“ข้าคิดว่าท่านต้องการเครื่องดักฟังนะขอรับ?”
“ใช่เลย… แต่มันจะไปมีได้ไงละฟะ” ทำหน้าเบื่อหน่ายใส่อเล็กซิทที่ยิ้มออกมาก่อนชี้ไปที่ต่างหูรูปกางเขนของเขา “นั่นไงขอรับ ข้าเตรียมไว้ให้ท่านแล้ว”
“เนี่ยนะ?” ชี้ไปที่เครื่องประดับบนหูของตัวเองก่อนถอดออกมาดูแล้วก็เห็นว่าไอ้กลมๆ แดงๆ ตรงกลางมันไม่ใช่ลายแต่เป็นปุ่มกด
“ขอรับ หูซ้ายเป็นตัวรับเสียงส่วนหูขวาไว้ฟังขอรับ” อธิบายวิธีใช้ให้เจ้านายตัวเองที่ฟังไปพลิกต่างหูในมือไปมาอย่างอยากรู้อยากเห็น “เห็นแบบนี้แต่แข็งแรงมากขอรับ ช้างเหยียบก็ไม่มีปัญหา”
“เยี่ยมไปเลยแฮะ” ว่าจบก็เขวี้ยงต่างหูซ้ายออกไปในแนวราบ เข้าไปใกล้บริเวณที่คนทั้งสามคุยกันอย่างแนบเนียนแล้วกดดักฟังที่ต่างหูขวา
‘-บอกไม่ได้จริงๆ ขอรับว่าใครซื้อไป-’ เสียงที่คาดว่าเป็นของชายชราดังให้เข้าขมวดคิ้วมุ่น …ซื้อ? …ซื้ออะไร?
‘-ช่วยไม่ได้นะ … ในเมื่อเจ้าไม่ยอมบอกว่าใครเป็นคนซื้อไป…-’ เสียงของเด็กหนุ่มผมสีเขียวดังให้รีเซ็ทขมวดคิ้วมุ่น … มันเป็นเสียงที่เขาคุ้นมาก แต่เป็นใครกันละ?
ในขณะที่สมองขบคิดสิ่งที่ข้องใจอยู่ร่างที่ใช้ร่างของนินจาหนุ่มซารุโทบิ ซาสึเกะก็สลายกลายเป็นดาบคมคมกริบจ่อที่คอของชายชราทันที!
‘-บอกมา ใครเป็นคนซื้อศพที่โดนพระราชาทรมานจนตายเป็นใคร!-’ ศพที่ถูกพระราชาทรมานจนตาย…หากความทรงจำของเขาไม่ผิดแล้วละก็ นี่เป็นเนื้อเรื่องของนิยายเล่มหนึ่งก็หมายความว่าศพนั่นเป็นตัวละครตัวโปรดของเขา ลอเรนไม่ผิดแน่
…ถ้าเป็นลอเรนก็ต้องถูกพิงกี้ซื้อไป
หากแต่คำตอบจากชายชราที่สั่นอย่างหวาดกลัวกลับแตกต่างจากความคิดของเขาโดยสิ้นเชิงยิ่งทำให้คนได้ยินงุนงง
‘-เป็น เป็นเด็กหนุ่มผมสีครามเหมือนกับเทพอัศวินเทมเพสขอรับ และมากับชายที่ปิดหน้าไว้ครึ่งหนึ่งด้วยแผ่นเหล็กขอรับ-’
…เด็กหนุ่มผมครามกับชายปิดหน้า?
ร่างทั้งสองนิ่งไปครู่นึงก่อนที่คนผมเขียวจะถอยดาบออก น้ำเสียงคุ้นเคยเอ่ยออกมาอีกครั้ง ‘-เจ้านั่นเองงั้นรึ-’
เจ้านั่น? หรือว่าเจ้านี่เป็นผู้พิทักษ์เหมือนกัน?
‘-หากใครมาถามคำถามเดียวกับข้า เจ้าก็ไม่ต้องตอบหากไม่อยากตาย-’ ร่างสีเขียวนั้นว่าจบกระโดขึ้นหลังม้าที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนควบออกไป
รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของรีเซ็ทพร้อมกับดวงเนตรสีเลือดที่ทอแววประหลาดชวนสะพรึงกลัว เขาก้าวออกไปจากพุ่มไม้ก่อนที่จะก้มลงไปเก็บต่างหูขึ้นมาเช็ดฝุ่นแล้วใส่กลับไปเหมือนเดิม
“ว่าไงขอรับ ท่านลุง … ข้ามีเรื่องถามท่าน”
“เหอะ! อย่าคิดว่าข้าจะยอมพูดอะไรง่ายๆ นะ! ต่อให้ตายข้าก็…” จากน้ำเสียงกรรโชกแปรเปลี่ยนเป็นหวั่นวิตกและกลายเป็นหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด …เมื่อมองเห็นใบหน้าของเด็กหนุ่มคู่สนทนา
รอยยิ้มที่วิปริตเสียยิ่งกว่าฆาตกรโรคจิตเสียอีก!
“รบกวนสักเดี๋ยวไม่ได้เหรอ ท่านลุง”
เป็นครั้งแรกในชีวิตของภูติแห่งการลงทัณฑ์ที่ได้เห็นอะไรบางอย่างที่น่าสะพรึงที่สุดในชีวิตเลยทีเดียว…เจ้านายของเขาสุดยอดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
“เนื้อเรื่องมันแปลกๆ แล้วนะอเล็กซิท”
“ขอรับ?” ภูติหนังสือหนุ่มหันไปทำหน้างุนงงใส่เจ้านายที่สวมผ้าคลุมปกปิดกายเอาไว้เช่นเดียวกับเขา แน่นอนว่าผ้าคลุมนั้นเอามาจากบ้านของผู้เฒ่าคนนั้น
“ก็จริงๆ คนที่ต้องไปถามตาแก่จะต้องเป็นอัศวินของพระราชานี่นา …ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ซื้อศพลอเรนไปก็ต้องเป็นพิงกี้ไม่ใช่ไอ้หัวครามนั่นหรอก” ว่าจบก็ทำท่าครุ่นคิด “แล้วจากที่เราถามมาพิงกี้ก็ไม่ได้ไปที่นั่นเลยสักครั้งด้วยสิ”
“นั่นเป็นสัญญาณไม่ดีรึเปล่าขอรับ?”
“นั้นสินะ ฉันว่านะทางที่ดีพวกเราควรไปสืบหาข่าวอะไรก่อนดีไหม?” หันไปหาภูติหนังสือของตนเองอีกครั้งก่อนพูดทั้งที่คิ้วไม่ได้แยกออกจากกันแม้แต่น้อยแต่นั่นก็ทำให้อเล็กซิทเห็นด้วย การที่หาข้อมูลได้อย่างชัดเจนดูจะเป็นทางที่ดีและปลอดภัยมากที่สุด
“แล้วท่านจะไปสืบจากที่ไหนขอรับ?”
เจ้าของเรือนผมสีทองภายใต้ผ้าคลุมขมวดคิ้วเข้าหากันอีกเล็กน้อย เรียกได้ว่าขยับหากันอีกนิดละก็ผูกกันเป็นปมแน่ เขาชูนิ้วขึ้นมาสี่นิ้ว “สำหรับเนื้อเรื่องในช่วงนี้จะมีสถานที่เกี่ยวข้องเพียงไม่กี่ที่ ซึ่งถ้าเราตัดที่ๆ ไม่สามารถหาข้อมูลอย่างการสอบถามใครได้ออกจะเหลือแค่สี่ที่เท่านั้น”
“สี่หรือขอรับ?”
“ใช่ ที่แรกคือตำหนักเทพอัศวิน สองคือลานลงทัณฑ์ สามคือบ้านของพิงกี้และสี่คือพระราชวัง” ว่าจบเขาก็ลดนิ้วลงหนึ่งนิ้วเหลือเพียงสามนิ้วเท่านั้น “ซึ่งที่ๆ พวกเราไปมาเมื่อกี้คือลานลงทัณฑ์”
“หมายความว่าเราเหลืออีกสามที่หรือขอรับ?”
“แต่เราเองก็เพิ่งออกมาจากตำหนักเทพอัศวินด้วยสิที่นั่นก็ดูจะไม่รู้เรื่องอะไรมากมายแสดงว่าครีอุสยังไม่พบกับลอเรนแน่นอน” อธิบายไปเดินหลบชาวบ้านที่เข้ามามองเขาอย่างไม่ไว้ใจ “บ้านพิงกี้เองก็ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่มาซื้อศพแทนพิงกี้เป็นใคร นอกจากนั้นไอ้หัวสาหร่ายที่เราเจอก็ดูจะเป็นคนของพระราชวังด้วยสิ”
“แบบนี้ก็อันตรายทุกที่เลยสิขอรับ!”
“แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยสักหน่อย ฉันว่าเริ่มแรกเราควรดูว่าเรื่องราวมันเปลี่ยนไปตรงไหน เกิดอะไรขึ้นบ้าง … และตอนนี้ที่เรารู้ก็มีแค่มีผู้พิทักษ์อยู่คนหนึ่งหรือเจ้าหัวเขียว และตัวละครแปลกๆ อย่างชายผมครามที่ไปซื้อศพ” มือเรียวกดปากกาหมึกซึมลงบนสมุดจดบันทึกที่หยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกง ถ้าบอกว่าสมเป็นโหมดไรเตอร์ก็ไม่แปลกเท่าไหร่
“ตอนนี้จุดที่แปลกไปมีสองจุด ฉันว่าเราควรไปหาข้อมูลจากแหล่งตรงที่ก่อเรื่องนี้ดีกว่านะ” เก็บของสองสิ่งเข้าที่เดิมของมันแล้วกันไปฉีกยิ้มให้ภูติหนังสือที่เอ่ยอย่างงุนงง “ที่ก่อเรื่อง?”
“พระราชวังไงละ”
TBC.
ความคิดเห็น