ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Punica Fanfiction [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #5 : บันทึก ณ ดินแดนสยามบทที่ 2 ของอสรพิษและแวมไพร์รัตติกาล :: อาจารย์

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 55


     

    เรื่องวุ่นคุณพ่อบ้าน Devil Version เรื่อง วุ่นนอกสำรับ :: อาถรรพ์ [ปีศาจผู้บันทึก Vs Punica Fanfic]

    บันทึก ณ ดินแดนสยามบทที่ 2 ของอสรพิษและแวมไพร์รัตติกาล :: อาจารย์

     

     

                :: Punica Fan fiction

     

                :: PG-13

     

                :: SainT, ReseT.

     

     

    Migeal Side

     

                ข้ากลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัวเท่าที่เคยเจอมาไม่มาอะไรน่ากลัวเท่านี้มาก่อนอีกแล้ว ขาแข็งจนก้าวจะไม่ออกอยู่แล้วอะ T__T แลนด์~ ช่วยข้าด้วย~

                “เอาละนักเรียนใหม่เข้ามาแนะนำตัวได้แล้ว”  นั้นไงมันมาแล้ว~~ ข้าค่อยๆก้าวเข้าไปแล้วตวัดตามองไอ้เด็กบ้าที่หัวเราะหึหึอย่างสะใจที่ได้แกล้งข้า เจ้ามียัยแม่มดอะไรนั้นให้แกล้งแล้วไม่ใช่รึไงเล่า TT___TT

                ขะ ข้าเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนลูกครึ่งอิตาลีชื่อ เทพนรัตน์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ เหมือนเมื่อกี้ข้าจะกัดลิ้นตัวเองไปนะเนี่ย? เอาเถอะไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้วอยู่ๆเสียงกริ่งก็ดังขึ้นเป็นเสียงที่เรียกให้บุคคลด้านนอกห้องเข้ามาเปลี่ยนเวรสอนเมื่อคนๆนั้นเดินเข้ามาทำเอาข้ากัดลิ้นตัวเองจริงๆ เขาเป็นเด็กหนุ่มที่อายุพอๆกับข้าและมีเรือนผมสีทองยาวสลวย

                                                    ชาโดว์ แลนด์ มิซเซเลี่ยน!!?

                เทพนรัตน์เธอไปนั่งข้างๆการินนะ และแนะนำอาจารย์สอนภาษาอังกฤษคนใหม่เป็นลูกครึ่ง ครูสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเจ้าของผมสีทองโค้งให้อย่างมีมารยาทก่อนเดินไปที่หน้ากระดาน

                ครูเป็นลูกครึ่งอังกฤษ ชื่อ ธนากร ยินดีที่ได้มาสอนทุกคนนะ เขาทำหน้าเก๊กแมนจนข้ารู้สึกอยากอ้วกสุดๆ เขาติดตามเชียรใช่มั้ย? ข้ารู้สึกว่ามันต้องมีลางร้ายเกิดขึ้นแน่ๆ แต่แล้วเมื่อครูสาวเดินออกไปก็ได้ยินเสียงวิ่งมาแต่ไกล

                ครูธนากร ผมมาขอเปลี่ยนคาบกับคุณ!” นั้นไง! ลางร้ายมาเยือนแล้ว ข้าจำเสียงนี้ได้ดี ชาโดว์ขมวดคิ้วก่อนเก็บของเดินออกไป ผู้ที่วิ่งเข้ามาใหม่มีสีหน้าเหนื่อยหอบและสวมใส่เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยราวกับอยู่ในสนามรบ เขามีเรือนผมสีแดงสดราวกับชะเอมที่ลุกไหม้ การินลุกขึ้นจากเก้าอี้อย่างแรงจนข้าสะดุ้งเฮือก

                กะ   แก!!!?”

     

     

     

    Shadow Side

     

                แผนการเข้าใกล้ชิดกับเด็กซึนก็ได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ข้านี้มีสมองด้านนี้จริงๆ แต่ว่าเจ้าหนูนั้นคงไม่ท้าสู้จนทำโรงเรียนระเบิดหรอกนะ ข้าเปิดสมุดบันทึกจดบันทึกเรื่องราวที่พึ่งเกิดขึ้นลงไปและแอบคิดเล็กๆว่าใครที่อ่านบันทึกนี้ต้องคิดแน่ๆว่าข้าเป็นพวกจิตป่วน แต่ข้าเปล่าจิตป่วนน้า(ขึ้นเสียงสูง)

     

     

                ปึง!!!!!!!!!!!!

     

                ไอ้-ชา-โดว์!!”

     

                ว้าว! เจ้าอัพเกรดเรียกชื่อจริงของข้าแล้วหรือ? เกล

                อย่ามาเปลี่ยนเรื่องนะ!!”

                ข้าปล๊าว~”

                ไอ้-ชา-โดว์!!”

                พอๆ เจ้ามีอะไรก็ว่ามาข้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ เขาคนนี้คงไม่เห็นด้วยกับแผนการของข้าเป็นแน่ เอาเถอะข้ามันDon’t Care (ดัดจริตใช้ภาษาอังกฤษอีกนะแก = =) อยู่แล้วละน่า แต่มันกลับมองหน้าข้าราวกับจะควักไส้ข้าออกไปกิน

                มีอะไรว่ามาเหรอเฮอะ! ข้าจะบอกเจ้าแน่ถ้าเจ้าหยุดไอ้สองตัวนั้นได้ละก็นะ!!!” เขาชี้ไปที่ร่างของชายสองคนที่เป็นเหยื่อของพวกเราซึ่งกำลังฟัดกันอย่างแรงราวกับจะเอาให้ตายกันไปข้าง!

                นั้นพวกแกกำลังทำอะไรกาน!!!!!!~” ข้าพุ่งเขาไปขวางคัตเตอร์ที่อยู่ในมือของเจ้าหนูการินอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะเฉียดใบหน้าของข้าจนเลือดซิบ อย่างน้อยๆมันก็ไม่โดนหน้าอกเชียรให้ความแตกว่าหมอนี้น่ะมันอัตตรานิรันดร์!

                เล่นของมีคมกับครูบาอาจารย์มันไม่ดีนะ การิน ข้าเอ่ยด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่ใส่ใจรอยแผลที่แก้มแต่อย่างใด แย่งคัตเตอร์ออกมาจากมือของเขาแม้ว่าจะมีหมัดลอยมาก็ตาม! ข้าเอี้ยวหลบอย่างรวดเร็วเป็นความเร็วระดับที่มนุษย์ธรรมดามองไม่เห็นและทำไม่ได้

                ตึง! ร่างบางๆของเจ้าเด็กซึนการินกระแทกกับพื้นอย่างแรงจนเขาเบิกตากว้างด้วยความเจ็บแต่ก็ไม่มีทีท่ายอมแพ้ตะกายขึ้นมาเตะข้าถึงสองครั้งแต่ข้าก็สามารถหลบได้ และด้วยสันชาตะญาณของปีศาจละมั่ง ทำให้ข้าพุ่งเข้าใกล้เขาเล็บคมกริบของข้าจ่ออยู่ที่ดวงตาของเขาเพียงสองเซนต์ฯเท่านั้น

                พอได้แล้ว ครูธนากร!/ธนากร!” เสียงอันคุ้นเคยทั้งสองเรียกข้าให้หันไปมองซึ่งเมือเห็นหน้าข้าพวกเขาก็สะอึก มันทำให้ข้ารู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น รีบปล่อยมือของเจ้าหนูการินแล้ววิ่งออกมาจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว เลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำครูก่อนล๊อคประตูห้องน้ำ แล้วเดินไปที่กระจกบานใหญ่ในห้องน้ำนั้น เป็นไปอย่างที่คิดจริงๆ มันเป็นแบบนี้อีกแล้วข้าเกลียดจริงๆ! ข้าเงยหน้ามองในกระจก จ้องมองดวงเนตรของตัวเองผ่านกระจกดวงเนตรสีเป็นสีแดงสดราวกับเลือด

                ข้าไม่อยากกลับไปเป็นแบบนั้นอีกแล้ว…”

     

     

    ---TBC----

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×