ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Punica Fanfiction [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #9 : เรื่องวุ่นคุณพ่อบ้าน เรื่องวุ่นนอกสำรับตอนพิเศษ สุขสันต์วันคริสต์มาส บทแรก

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 55


    เรื่องวุ่นคุณพ่อบ้าน เรื่องวุ่นนอกสำรับตอนพิเศษ สุขสันต์วันคริสต์มาส Punica Fan Fiction

    บทแรก

     

              :: Punica Fan Fiction

              :: Devil Version

              :: เชียร-การิน

              :: ฟิครีเควสให้ คุณTMP

              :: SainT.

     

    Migeal Side

             

              ชื่อของข้าคือ ไมกาโนะ มิเกล อสรพิษแห่งซากุระซากิ ชื่อที่ใช้ในแดนสยามแห่งนี้คือ เทพนรัตน์ในช่วงนี้คือช่วงที่เหล่ามนุษย์เริ่มสุขสันต์กันอย่างมาก เพราะมันเป็นกาลเวลาแห่งความสุข ช่วงเวลาแห่ง วันคริสต์มาส

              “เจ้าหนูการิน เจ้าไม่คิดจะไปเที่ยวเล่นแบบคนอื่นๆเลยรึอย่างไร?” ข้าหันไปถามเด็กหนุ่มชาวสยามผู้มีเรือนผมสีดำขลับ เขายังคงนั่งอ่านหนังสือคุณไสยในแบบของเขาโดยไม่สนใจข้าแต่อย่างใด ชั่งเป็นเด็กมีปัญหาที่น่าตีจริงๆ ข้ามองไปรอบๆห้องของเขาอย่างจนใจเทียนที่หมดไปแล้วยังคงนอนอยู่ที่เดิมอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหายไปจากตรงนั้นดูแล้วอยากจะเอาอะไรไปแงะมันออกจริงๆ

     

     

              “นั้นแกกำลังทำอะไร...” หะ? ข้า? ข้ากำลังทำสิ่งใดงั้นหรือ??? ข้าก้มมองสิ่งของในมือซึ่งก็คือไม้บรรทัดเหล็กและที่โกยขยะแบบเล็ก ตรงหน้าข้าคือ...น้ำตาเทียนวงใหญ่ที่ถูกขูดไปแล้วครึ่งหนึ่ง....!!?

              “นี้ข้ากำลังทำอะไรอยู่เนี่ย!!!?” ข้าต้องบ้าไปแล้วแน่ๆถึงได้ลดตัวเองไปนั่งขูดน้ำตาเทียนแบบนั้น การินถอนหายใจเฮือกประมาณว่า ไอ้งูประสาทหลอน  นี้ข้าประสาทหลอนจริงๆใช่ไหม??? เพื่อภาพพจน์ที่ยังเหลืออยู่น้อยนิดข้าจึงรีบเก็บไอ้สิ่งอยู่ในมือข้าโดยไม่ลืมขูดน้ำตาเทียนที่โดนขูดไปแล้วครึ่งหนึ่ง...ก็แหมมันขูดแล้วมันส์นี้นา -3-

     

     

     

              กาลเวลาค่อยๆเดินไปเรื่อยๆจนทำให้ข้าที่นั่งมองเด็กหนุ่มผู้คลั่งศาสตร์มืดหยิบสมุดจดบันทึกของตนเองออกมาก่อนพลิกอ่านสิ่งที่เคยบันทึกมาด้วยถ้อยคำที่สละสลวยและดูสมจริงจนเกินไปจนดูแล้วไม่รู้เลยว่าข้าเป็นคนเขียนมันจริงๆหรือ? ราวกับเป็นเรื่องบังเอิญเพราะบันทึกเล่มที่ข้ากำลังอ่านเกี่ยวกับเทศกาลวันคริสต์โดยทั้งสิ้น มันทำให้ข้ามองออกไปนอกหน้าต่างอย่างช่วยไม่ได้ รอยยิ้ม คือสิ่งที่ปีศาจอย่างพวกข้าจะมีไม่ได้ แม้จะมีรอยยิ้มแต่มันก็เป็นเพียงรอยยิ้มจอมปลอมที่ถูกทำให้เกิดขึ้นเท่านั้น ข้าคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปสักพักใหญ่ๆก็ได้ตัดสินใจเดินไปที่หน้าต่างห้องที่เปิดอยู่ทำให้เจ้าเด็กโรคจิตหันมามองอย่างสงสัย ใบหน้าของเขาเองก็ไร้ซึ่งรอยยิ้มที่ออกมาจากจิตใจเช่นเดียวกัน เราเหมือนกันงั้นหรือ?

              “นั้นแกจะไปไหน?”

              “ข้าเองก็มีงานต้องทำมากมายคงไม่มีเวลามาหมกตัวอยู่ในห้องกับเจ้าอย่างเดียวหรอก เจ้าหนู” ข้าหันไปส่งรอยยิ้มจอมปลอมให้แก่เขาซึ่งเขาก็ทำหน้าเหม็นบูดก่อนโบกมือไล่ส่งข้า “อยากไปไหนก็ไป แต่จำใส่กะโหลกไว้ แกเป็นของเล่นของฉันเข้าใจ?”

              “คิก เหงาก็บอกมาเถอะเจ้าเด็กซึน...”

     

     

     

              “เกล!” เสียงที่มาจากด้านหลังข้าคือฟินิกส์รัตติกาล เวนเซล ซาฟี นั้นเอง ข้าหันไปหาเขาที่วิ่งมาอย่างเหนื่อยหอบ เขาดูอ่อนแอลงรึเปล่านะ?

              “มีอะไรเหรอ ฟี” ข้าหันไปหาเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม เขาแตะไหล่ข้าก่อนทรุดฮวบลงไปเลย ดูท่าว่าคงโดนตรรกะชวนปวดตับทำลายระบบประสาทไปแล้วแน่ๆ

              เจ้าแลนด์น่ะสิ!” แลนด์? ไอ้หมอนั้นมันทำเรื่องปวดหัวอะไรอีกละ? เจ้านั้น! เจ้านั้นพาเชียรเขาไปในแดนปีศาจ!”

              “!!?”

              หมายความว่ายังไง ฟี เจ้านั้นคิดจะเข้าไปฆ่าตัวตายรึไง!”

              ข้า ข้าไม่รู้ ข้าแค่สัมผัสได้ว่าเจ้านั้นเขาไปในแดนปีศาจพร้อมๆกับเชียร!” ไอ้เจ้านั้น! ข้ารีบวิ่งสวนฟีไปจนเขาวิ่งตามมาไม่ทัน การที่ปีศาจผู้บันทึกกลับเข้าโลกปีศาจก่อนภารกิจเสร็จถือว่ามีความผิดใหญ่ เจ้าเข้าไปในนั้นเพื่ออะไรกันแลนด์!?

     

     

              บานหน้าต่างห้องของเจ้าหนูการินปิดสินทแบบที่เรียกว่าเจ้าเด็กนี้มันจะปิดตายตัวเอง แต่ข้าไม่สนใจมันอีกแล้วข้ากระโจนเข้าไปในห้องนั้นอย่างแรงจนหน้าต่างแตกกระจายบาดใบหน้าของข้า เมื่อเข้ามาในห้องได้ข้าก็มองไปรอบห้องก่อนจะเจอกับร่างของเจ้าหนูการินที่นอนหมดสติอยู่อย่างที่คิด!

              การิน!” ข้าเข้าไปพยุงร่างบางๆของเจ้าหนูการินซึ่งเจ้าเด็กนั้นก็ลืมตาขึ้นมาด้วยใบหน้าเลื่อนลาง สัมผัสวิญญาณของเขาหลุดลอยออกไปทุกที งั้นก็หมายความว่า! ข้าดึงปากกาขนนกนางแอ่นออกมาจากกระเป๋าเสื้อก่อนจรดมันบนอากาศวาดอักขระแห่งโลกปีศาจลงไป ซึ่งอักษรสีเทานั้นก็ลอยอยู่กลางอากาศ

              ด้วยนามแห่งข้าอสรพิษต้องสาป จงเปิดประตูกาลแห่งอสูรกายออกมาให้แกข้า!” แม้ว่าการที่ข้าได้ทำแบบนี้อาจจะไม่ดีสักเท่าไรแต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ความผิดของข้าลดน้อยลงละนะ เพราะการเปิดประตูแบบนี้เป็นประตูส่งสาร แม้ว่าจะมีเวลาจำกัดก็ตาม อักขระสีเทานั้นร่วงลงพื้นก่อเกิดหลุมขนาดใหญ่สีดำ

              ส่งข้ากลับไป แก่ที่ควรหวนกลับ!” ร่างของข้าทั้งสองถูกดูดเข้าไปในหลุมดำนั้น

     

     

     

              เซน! เจ้าเจอแลนด์รึยัง!” ข้าอุ้มร่างของเจ้าหนูการินด้วยแขนสองข้างทางด้านหน้า (อุ้มท่าเจ้าหญิงนั้นละ) พุ่งเข้าไปหาเด็กสาวผมสีนิลยาว ดวงเนตรสีแดงทับทิมของเธอจ้องมองมาที่ข้า (อิจิโจจิ เซน (เซน) พญาอินทรีรัตติกาล หัวหน้าหน่วยซากุระซากิ)

              ยังไม่เจอหรอกนะ เจ้านั้นมันป่วนอะไรอีกละ? เธอถามข้าด้วยใบหน้าเบื่อๆกับเรื่องราวแสบๆของแวมไพร์นั้น แต่ตอนนี้เจ้านั้นกำลังทำอะไรที่ร้ายแรงกว่าคำว่า ป่วน

              คาถาสะกดวิญญาณ…”

              เจ้าหมายความว่ายังไง!!” เซนทุบโต๊ะอย่างแรงทำให้ข้าต้องวางร่างของการินลงบนเตียงนอนประจำตัวของข้า ใบหน้าของเขาขาวซีดจนหน้าหวาดกลัว

              ข้าเชื่อว่าเจ้านั้น ต้องคิดอะไรบางอย่างแน่นอน ข้าเอ่ยบอกเซน ซึ่งเธอก็พยักหน้าก่อนเขียนอักขระประตูย้ายที่ออกไป ซึ่งข้าก็มองหน้าเจ้าหนูการินสักพักก่อนตัดสินใจได้

     

              ข้าจะช่วยเจ้าให้ได้แน่ เจ้าหนูการิน!”

     

     

     

    ---TBC.---

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×