คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Fic วาเลนไทน์ Punica Fan Fiction. บทกลาง[2/4]
Fic วาเลนไทน์ Punica Fan Fiction.
: Y4 and Winter
:: เชียร – การิน
บทกลาง[2/4]
:RakaT. [SenteI,ReseT.]
“;เชียร!;’
…เสียงนี้…
“;เชียร!!;”
…ชั่งคุ้นเคย…
“;ถ้าเจ้าไม่ตื่นข้าจะไปข่มขืนเจ้าหนูการินแล้วนะเว้ย ไอ้เชียรเวรเอ๊ยยยย!!!!!~;”
…ชาโดว์!!?...
พรวด!! ร่างของชายผมสีแดงสดกระเด้งพรวดขึ้นอย่างแตกตื่น ก่อนตั้งสติมองไปรอบๆ ที่นี้เป็นที่ๆเขาเคยมา…ห้องโถงคฤหาสน์ของชินะ…
“รู้สึกตัวแล้วเหรอ เชียร” เด็กหนุ่มผมสีดำเงินเอ่ยด้วยใบหน้าติดกังวล นึกกลัวเหมือนกันว่าหากตนเองไปช่วยไม่ทันแล้วละก็ ชายคนนี้จะมาอยู่ตรงหน้าหรือเปล่า นอกจากนั้น…
“อย่ามัวนั่งมึน เจ้าหนูเชียร!” อิซากิตะโกนดังสนั่นกระแทกปฏิทินตั้งโต๊ะลงบนโต๊ะกระจกด้านหน้าเชียร ก่อนชี้นิ้วไปที่วันที่บนปฏิทินอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วแสง “เจ้าดูสิ! เจ้าใช้เวลาในการสลบไป หนึ่งวัน!! ‘หนึ่งวันเต็มๆ’!!เจ้าทำให้เวลามันเสียเปล่าทั้งหมดเลย!!!”
“ใจเย็นๆก่อนสิ อิซากิ ใช่ว่าเราเสียเวลาไปวันนึงแล้วจะไม่มีเวลานี้นา เราก็รีบทำมันวันนี้เลยสิ” ซาฟีเอ่ยด้วยน้ำเสียงใจเย็นจนไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาเป็นฟินิกส์จ้าวแห่งเปลวเพลิง
“ใช่! มันทำวันนี้ได้! แต่ขอประทานอภัยนะขอรับไอ้คุณๆทั้งหลาย วันนี้มันวันที่เท่าไหร่!!” ก่อนกระแทกนิ้วชี้ไปที่วันปัจจุบัน…
‘13 February’
“เฮ้ยยยย!!!!!~”
“อ่า เราต้องเอาไปส่งจริงๆหรือ?=___=” เชียรเอ่ยถามคนข้างตัวด้วยใบหน้าไม่เข้าใจ เป็นครั้งแรกที่เขาแสดงอารมณ์ออกมาได้มากขนาดนี้ ซาฟีซึ่งใส่เสื้อคลุมสีดำสนิทปิดบังเสื้อรัดรูปแบบเปิดหลังสีดำที่อยู่ด้านในมองตามอย่างขบขัน
“อืม เราต้องเอามันไปส่งให้ถึงมือของมิเกล แล้วเขาจะจัดการต่อเอง”
“กับแค่วันเกิดต้องทำหรูหราขนาดนี้เลยเหรอครับ?” เชียรหันถามอีกครั้ง ทั้งชีวิตเขาไม่เคยอวยพรวันเกิดให้ใครเลยสักครั้ง
“ไม่หรอก ความจริงแล้ววันเกิดน่ะ ไม่จำเป็นต้องจัดหรูหราอะไรมากหรอกแค่จัดตามฐานะ เลี้ยงกันเฉพาะคนสนิทจริงๆและครอบครัวเท่านั้นเพียงแต่หากเป็นพวกคนใหญ่คนโตละก็พวกเขาจะจัดงานใหญ่เพื่อให้สมศักดิ์ศรี หากให้ข้าเดาแล้วละก็อิซากิคงจะคิดว่าการจัดงานวันเกิดให้แก่การินให้ใหญ่โตจะสื่อความหมายว่า ‘ตัวเขามิได้ต่ำต้อยไร้ค่า’ ละมั้ง” เอ่ยพร้อมรอยยิ้มหวาน มือเรียวซึ่งสวมถุงมือหนังแบบไม่มีนิ้วถูกยกขึ้นมาแตะไหล่เชียร
“แต่เห็นแบบนี้มันก็ยิ่งทำให้ข้ารู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยและไร้ค่ามากกว่าเดิม” ดวงเนตรสีนิลหมองลงอย่างเห็นได้ชัด เชียรมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่เข้าใจ อยู่ๆอีกฝ่ายก็ฉีกยิ้มออกมา…รอยยิ้มที่ฝืนออกมาจากจิตใจที่มัวหมองจนไม่อาจชำระล้าง…
“เราช้ามากแล้ว มีเวลาหนึ่งวันกับอีกไม่ถึงหกชั่วโมง ข้าว่าเราบินไปดีกว่าไหม?” เอ่ยพร้อมรอยยิ้มก่อนดึงแขนคนสูงกว่าเข้าไปในซอยมืดซึ่งไม่มีทางมีคนผ่าน ซาฟีถอดเสื้อคลุมออกเผยให้เห็นเผยหลังขาวที่มีรอยแผลเป็นคล่ำสองแผลซึ่งมีขนาดที่เท่ากับ ‘ปีก’
‘ปีกสีเพลิง’ สยายออกมาจากรอยแผลนั้นซาฟียิ้มก่อนยื่นมือมาให้เชียรบงบอกว่าให้ไปกันได้แล้ว เมื่อเชียรจับมือของฟินิกส์เพลิงกาฬเขาออกบินทันที
…ดวงตาสีเลือดทอดมองร่างของคนทั้งสองที่บินขึ้นฟ้า…ด้วยแววตาว่างเปล่า…วันเวลาค่อยๆไหลผ่านไปเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง…ห้วนนึกถึงสิ่งที่ใครคนนั้นเคยพูดเอาไว้…
-เพราะวันเวลาที่ไม่รอคอย เราจึงต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อสานต่อ ‘วันพรุ่งนี้’-
…เรือนผมสีเงินของเจ้ายังติดตาข้าจนถึงตอนนี้…ดวงตาสองสีอันแปลกแยกของเจ้ายังคงตราตรึงถึงบัดนี้…สัมผัสของมือที่เจ้ายื่นมาให้ข้าพร้อมรอยยิ้มยังฝังลึกอยู่ในกายนี้…แต่ทำไมกันละ…
“แต่ทำไมละ…วันพรุ่งที่เจ้าคะนึงหาถึงได้ทำร้ายกายและใจของข้าจนมันแตกสลาย…” เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขมขื่น ยามที่ห้วนนึกถึงใบหน้าของเจ้าข้าก็รู้สึกปวดร้าวพอแล้ว…แล้วการที่เห็นใบหน้าของเจ้าที่ชโลมไปด้วยเลือดละมันไม่ปวดร้าวกว่าหรือ…?
“ทำไมกัน…ทำไมวันนั้นเจ้าถึงได้ยื่นมือมาให้คนอย่างข้า…” หยาดน้ำตาร่วงหล่นลงมาอย่างไม่รู้ตัว และไม่คิดจะเช็ดมันราวกับจะให้นำพาความเศร้าไปด้วย…
-ข้าอยากเห็นรอยยิ้มของเจ้าในวันพรุ่ง-
…ข้าไม่อาจยิ้มออกมาได้อีกแล้ว…
…เพราะเจ้าได้ปล่อยมือของข้าให้ร่วงหล่นลงสู่ความมืดอีกครั้ง…
…เจ้ามันเป็นเพียงคนโกหก…
“เจ้ามันเป็นเพียงคนโกหกเท่านั้น”
“อาสึกะ”
ร่างของคนทั้งสองบินลงบนพื้นดินหน้าบ้านของงการินซึ่งซาฟีก็สวมเสื้อกลับไปแบบเดิมเชียรจึงรับหน้าที่กดออดหน้าบ้านเอง
“ใครหรือ? เชียรกับฟี...?” คนที่ออกมาเปิดประตูก็คือมิเกลนั้นเอง ซาฟีคลี่ยิ้มให้แก่อสรพิษหนุ่มที่เห็นรอยยิ้มแล้วสะดุ้งเฮือกเบนหน้าหนีราวกับเขินอะไรบางอย่าง
“ข-เข้ามาก่อนสิ เดี๋ยวข้าจะเตรียมน้ำชาให้” เชิญทั้งสองเข้าบ้านอย่างเป็นมารยาทซึ่งความจริงมันควรเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านตัวจริงต่างหาก
“อืม ขอบใจนะ”
“อะ-อะไรกันเล่า!”
…ขอโทษครับ ผมเป็นตัวประกอบฉากสินะครับ =___=…
“อ๊ะ! คุณชายเมฆากับครูวิเชียร สวัสดีครับ” นรินทร์ จินตเมธรเห็นคนทั้งสองก็ยกมือไหว้สวัสดีอย่างมีมารยาทซึ่งทั้งสองก็ไหว้กลับ
“สวัสดีครับ ท่านผอ.” เชียรคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรซึ่งนรินทร์ยิ้มตอบก่อนเอ่ยถาม “วันนี้ทั้งสองคนมีธุระอะไรเหรอครับ?”
“เรามาอวยพรวันเกิดการินกันครับ อาจารย์วิเชียรเห็นว่าคงดีที่ อ. จะสร้างสัมพันธ์กับนักเรียน ซึ่งผมเป็นตัวแทนคุณชายชินะมาครับ” ซาฟีเอ่ยอย่างเป็นธรรมชาติเพราะเรื่องราวของพวกเขามีไม่กี่คนรู้ซึ่งนรินทร์ยังไม่รู้
“งั้นเหรอครับ แต่เจ้าการินทำอะไรไม่รู้อยู่ในห้องครัวมาตั้งแต่เช้าแล้วละครับ ไม่ยอมให้ใครเข้าไปด้วย” นรินทร์เอ่ยติดหงุดหงิดและงุนงง ร้อยวันพันปีการินจะทำอะไรแบบคนธรรมดาเป็นนั้นทำให้คุณพ่อทูนหัวปวดเฮดเป็นที่สุด
“เดี๋ยวข้าไปตามให้นะขอรับ คุณชายใหญ่” มิเกลเสนอตัวขึ้น
“อืม ฝากด้วยนะ เทพ”
“ครับ”
มิเกลเดินไปที่ห้องครัวที่อยู่ไม่ไกลจากตรงที่พวกซาฟียืนอยู่มากนักทำให้สามารถได้ยินเสียงที่พูดได้ซึ่งประตูก็ยังคงปิดอยู่เขาค่อยๆแง้มประตู “การิน อาจารย์วิเชียรมาหา…แว้กกกกกกกก!!!~”
ฟิ้ววววววว!!!~ อีโต้ลอยออกมาจากช่องว่างของประตูที่มิเกลแง้ม อสรพิษหนุ่มกระโดดหนีทันทำให้มีดนั้นพุ่งเข้าหาเชียร!!?
“เชียร!!!!?”
เคร้ง!! มีดอีโต้หล่นกระแทกพื้นด้วยฝีมือของซาฟีชั่วพริบตาที่มีดพุ่งหาเชียรเข้าใช้สันมือปัดมันลงพื้นเพราะหากของมีคมนี้พุ่งต่อไปมันจะทะลุหัวใจของผู้ถูกยึดอัตตานิรันดร์… เลือดสีข้นหยดลงพื้นกระเบื้องขาวของบ้าน มันไหลออกมาจากฝ่ามือบางของซาฟี
“คุณชายเมฆาเป็นอะไรไหมครับ??!!!” นรินทร์รีบพุ่งเข้ามาดูแต่ช้าไปเมื่อเจ้าคนที่อยู่หน้าประตูครัววิ่งมาฉุดมือบางๆดูอย่างเว่อร์เกิน
“เจ้าไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย!!!? มีแผลที่อื่นอีกรึเปล่า!!!??? ไม่ได้แล้วข้าต้องรีบไปหากล่องยา!!!!!!” ว่าแล้วก็ทำตัวเองเป็นสปริงกระเด้งไปหากล่องยาทันที
=____=”””” <<สีหน้าเชียรกับนรินทร์
OxO <<สีหน้าซาฟี
“บ้าเอ๊ย! น่ารำคาญชะมัด!!!!” เสียงของการินดังสนั่นซึ่งนั้นเป็นการใช้เดซิเบลเกือบสูงสุดที่ชาวบ้านเขาเรียกว่าตะโกนนั้นละ ซึ่งภาพของการินที่ปรากฏในสายตาทุกคนทำเอาค้าง แม้กระทั้งมิเกลที่วิ่งลงบันไดมายังสไลด์ตัวเองลงมาแทบพื้นอย่างอนาถ เชียรสะดุ้งโหยงก่อนเลือดกำเดาจะหลั่งริน ซาฟีเบิกตากว้างอย่างตกใจสุดขีด ในขณะที่นรินทร์บิดาที่เคารพอ้าปากกว้างทิ้งคางตัวเองลงพื้นไปเลย…
…ภาพตรงหน้าทุกคนในตอนนี้คือร่างบอบบางของเด็กหนุ่มวัย 14 ปีที่สวมเสื้อลำลองเป็นกางเกงขาสั้นแบบสุดๆและเสื้อยืดคอวีสีขาวใบหน้าเปื้อนด้วยอะไรบางอย่างสีน้ำตาลเข้ม…รวมถึงมุมปากด้วย มือเรียวของเขาถือมีดกับทัพพี…แต่สิ่งที่ติดตาทุกคนจนค้างแบบนี้น่ะ…คือผ้ากันเปื้อนสีชมพูลายฮิเบิร์ดที่ร่างนั้นใส่อยู่ต่างหาก!!!!
“ก-การิน นี้ลูก…” นรินทร์พยายามเก็บคางตนเองขึ้นก่อนพูด
“หืม?” ก้มดูสภาพตนเองก่อนเบิกตากว้าง
“แว้กกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
ปัง!!!!!!! บานประตูครัวปิดอย่างแรงก่อนประตูจะล็อค นำพาร่างการินเข้าไปซ่อน ซึ่งการกระทำของคนทั้งหมดถูกจับจ้องอยู่…
ดวงเนตรสีแซปไฟร์มองภาพอย่างขบขัน ริมฝีปากยกยิ้มอย่างสนุกสนาน นิ้วเรียวขมวดเล่นเส้นผมสีนิลของเด็กสาวซึ่งสวมชุดกิโมโนสีน้ำตาลอ่อนข้างกาย เขาหันไปยิ้มให้แก่เธอ
“ท่านกำลังจะทำอะไรหรือค่ะ มาสเตอร์” เด็กสาวเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้านายของเธอคิดจะทำ เขามักทำอะไร ‘แปลกๆ’ ที่สร้างผลงาน ‘แสบๆ’ ให้หัวหน้าใหญ่แห่งหน่วยซากุระซากิโมโหอยู่บ่อยครั้ง เจ้าของผมสีทองประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากมนอย่างอ่อนโยน
“เจ้าอยากรู้หรือ? เซเรน…” เอ่ยอย่างมีเหล่นัยแต่ดวงตานั้นมีแววตำหนิเล็กน้อย เด็กสาวขมวดคิ้วนี้เธอเผลออีกแล้ว “อ่า…ข้าแล้วแต่พี่นะคะ… ‘มาสเตอร์’ …”
“ไม่ได้นะเซเรน เอาคำว่า ‘พี่’ ใช้ร่วมกับ ‘มาสเตอร์’ ไม่ได้” นั้นไม่ใช่คำดุด่าว่าหรือตำหนิ ชายคนนี้รักเธอราวกับเป็นน้องสาวมากกว่าจะเป็นข้ารับใช้
“รับทราบคะ มาสเตอร์”
“อ้า~~~ สอนเจ้าเรียกข้าว่า ‘พี่’ มันยากกว่าป่วนประสาทอิซากิอีกนะเนี่ย” เจ้าของผมสีทองส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ เด็กสาวเอียงคออย่างงุนงงและรู้สึกผิด
“ข้าขออภัยคะ มาสเตอร์”
“เจ้าไม่ผิดนะเซเรน! เจ้าอย่าทำหน้าแบบนั้นสิ อ๊า!! อย่าร้องไห้นะ ข้าจะร้องตามจริงๆด้วย TT^TT” มองแล้วนึกขำ ทำไมเจ้านายของเธอถึงทำตัวปัญญาอ่อนกว่าคนอื่นเขานัก เด็กสาวหัวเราะคิกใช่ว่าเธอจะไร้ความรู้สึกเสียหน่อย
“เจ้าค่า ‘ท่านพี่’ น้องขอโทษ อย่าร้องเลยนะคะ” ว่าแล้วก็แย้มยิ้มออกมาทำให้เด็กหนุ่มผมทองยิ้มตาม “อืม ข้าไม่ร้องแล้วละ คราวหน้าเจ้าเรียกข้าแบบนี้อีกได้ไหม?”
“คะ มาสเตอร์”
“กลับมาคำเดิมอีกแล้วง่า TT^TT”
“คะ ว่าแต่มาสเตอร์ยังมิได้ตอบข้าเลยนะคะ ว่าท่านต้องการอะไร” เด็กสาวเอ่ยถาม ซึ่งแวมไพร์หนุ่มกระตุกยิ้ม
“อีกไม่นานหรอกนะที่ความตั้งใจจริงจะเปิดเผย…เซเรนเจ้าจะรู้เป็นคนแรกเลยละ”
…อีก 1 วันจากนี้ไป…
---TBC.---
ความคิดเห็น