คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Fic วาเลนไทน์ Punica Fan Fiction. บทแรก
ว่าด้วยชื่อของปีศาจผู้บันทึก
ชาโดว์ แลนด์ มิซเซเลี่ยน (แลนด์) – ธนากร จันท์สิทธิ์ (ธนา)
อิดะ อิซากิ (ซากิ) – รชตะ อารีรักษ์ (รัช)
ไมกาโนะ มิเกล (เกล) – เทพนรัตน์ ณรงค์ภพ (เทพ)
โคโมชียะ ซาฟี (ฟี) – เมฆาเนตร ชนะชัยบุตร (เมฆา)
คาโต้ ยูฮิ (เฮน) – ภัทรศักดิ์ ทิพยโลกา (ศักดิ์)
คาโต้ ยูกิ (ยู) – ภัทรกร ทิพยโลกา (กรณ์)
ว่าด้วยเรื่องตัวละครใน Punica
วิเชียร ทระนงสนิท (เชียร)
การิน จินตเมธร (ริน)
เรวิน สมิธ (เร)
ชินะ กุนต์กลทีป์ (ชิน)
ว่าตัวสัญลักษณ์ในการพูด
“ประโยคพูด”
‘เน้นคำ’
“;คุยผ่านจิต;”
-คำพูดที่ย้อนจากอดีต-
…ความคิด…
(ชื่อ): (คำพูดที่สื่อทางจิตของพวกปีศาจผู้บันทึก)
สัญลักษณ์ของซากุระซากิคือ เนเจอร์รัล(หนึ่งในสัญลักษณ์แปลงเสียงของดนตรีสากลเป็นลักษณะของตัวLหันหัวชนกัน)
Fic วาเลนไทน์ Punica Fan Fiction.
: Y4 and Winter
:: เชียร – การิน
บทแรก
:ReseT.
กลิ่นน้ำชาหอมกรุ่นลอยไปตามสายลมชวนให้เหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมาหันมอง ร่างของหนึ่งชายหนุ่มหนึ่งเด็กหนุ่มนั่งอยู่ตรงโต๊ะกลมในคฤหาสน์อันหรูหรา โต๊ะสีขาวแกะสลักอย่างประณีตเข้ากับชุดน้ำชาแบบยุโรปสีอ่อนมันถูกตกแต่งด้วยลายหงส์สยายปีกบิน ของว่างส่งกลิ่นหอมชวนลิ้มลอง เรือนผมสีแดงสดของชายหนุ่มดูเข้ากับรูปหน้าหล่อเหลา เสื้อสูทสีดำสนิทรับกับบุคลิกที่เรียบร้อยจากการดูวิธีจิบชา ริมฝีปากของเขาคลี่ยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ทุกคนที่เขาสังเกตเห็นว่ามองตนอยู่ รวมถึงดวงเนตรสีอำพันอันทรงเสน่ห์และเป็นกันเอง แตกต่างจากอีกคนเด็กหนุ่มผมสีทองสว่างยาวสลวยมัดหางม้า เขาพิงหลังกับพนักเก้าอี้หรูอย่างสบายๆคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทำให้ดูเหมือนกับเขาเป็นเพล์บอย ยิ่งเสื้อผ้าที่เขาใส่เป็นเสื้อยืดสีดำคลุมทับด้วยเสื้อเชิ้ตคอสูงสีน้ำเงินแถบทองรับกับกางเกงขายาวแบบเดียวกับเสื้อคลุม ต่างหูอัญมณีสี อเมทริสต์ทำให้ทรงเสน่ห์ขึ้น สร้อยวงแบบรัดเกล้าสีเงินประดับอยู่ที่คอ ทุกครั้งที่เขารู้ว่ามีคนมองดวงเนตรสีแซปไฟร์คู่นั้นจะมองมาอย่างขุ่นเคืองแนวรำคาญ ทั้งสองเอ่ยพูดกันด้วยเสียงไม่เบาไปและดังไปทำให้คนนอกไม่อาจรู้ได้ว่าสองหนุ่มหล่อคุยอะไรกัน…แต่ขอโทษเถอะถ้าพวกคุณๆทั้งหลายรู้ว่าความจริงแล้วไอ้สองหนุ่มหล่อของพวกคุณๆมันเป็นใครแล้วละก็…เชื่อเลยว่าต้องรีบใส่เกียร์หมาวิ่งออกมาจากตรงนั้นแบบไม่คิดชีวิตเลย…
“เจ้าไม่คิดจะออกไปทำเรื่องที่มีค่าจะจดบันทึกหน่อยหรือ?”
“มันไม่จำเป็นนี้ครับ?”
ปึง!!!
“อะไรของเจ้ากัน!”
ชาโดว์ทุบโต๊ะเสียงดังลั่นทำเอาคนรอบๆรีบจลรีโกยกันไปทางใครทางมันอย่างหวาดกลัวว่าไอ้หนุ่มหมาดเพล์บอยคนนี้จะยกโต๊ะหรูๆนั้นขึ้นมายกออกกำลังเล่น ซึ่งเชียรก็ยังคงยิ้มสบายๆเช่นเดิมหางตามองไปยังกลุ่มคนที่หายไปหมด ซึ่งเจ้าของผมสีทองก็รู้ถึงเรื่องนั้นเช่นกัน
“อะไรเหรอครับ? มันก็เป็นน้ำชายามบ่ายไงละ คิกคิกคิก”
“ข้าไม่ตลกกับเจ้าหรอกนะ เจ้าหนูเชียร!!” ปีกค้างคาวขนาดใหญ่สยายออกมาจากหลังของชาโดว์ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยังคงยิ้มสบายๆตามเดิม
“แล้วยังไงครับ? ผมก็ไม่ได้เล่นตลกให้คุณดูเสียหน่อย”
“พอกันที! ข้าอดทนกับเจ้ามามากพอแล้ว! เจ้าไม่คู่ควรที่จะได้รับการบันทึกเลยแม้แต่น้อย!!” วาจาที่เอ่ยออกมาทำเอาเชียรสะอึก แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่จีระ “แล้วคุณจะทำยังไงไม่ทราบครับ?”
“ข้าก็จะยึดพลังที่เจ้ามีอยู่ แล้วไปหาผู้ที่มีค่าควรจดบันทึกยังไงละ!!” กล่าวจบหนังสือปกหนังสีดำซึ่งเป็นหนังสือเวทย์ของแดนปีศาจก็ถูกเรียกออกมาอย่างรวดเร็วถึงขนาดทำได้แค่ลุกจากเก้าอี้เท่านั้น
‘กาลเวลาที่ผิดแผก จงห้วนกลับสู่กาลเดิม ขอยึดครองความเป็นนิรันดร์กลับคืน จากนี้ไปเป็นเวลาสามวัน เจ้าจะเป็นเพียงคนธรรมดา หากเจ้าไม่อาจทำให้ข้าพอใจได้หลังจากสามวันนั้นพิษแห่งคำสาปจะกระจายไปรอบตัวเจ้า และเจ้าจะพบกับจุดจบที่ใครๆต่างไม่ต้องการ ‘ความตาย’ จะห้วนคืนสู่ตัวเจ้า!’
วงเวทย์สีดำสนิทปรากฏขึ้นใต้เท้าของผู้ที่ถูกยึดความเป็นนิรันดร์ ดวงเนตรสีอำพันเบิกกว้างอย่างตกตะลึงด้วยไม่คิดว่าชายตรงหน้าจะโกรธจนถึงขนาดทำเรื่องแบบนี้ เลือดถูกกระอักออกมาเป็นจำนวนมากโชคยังดีที่แผลจากการตายครั้งก่อนๆไม่ปรากฏไม่เช่นนั้นเข้าต้องตายเพราะกระสุนที่เขาใช้ยิงหัวตัวเองในตอนที่ต้องการตายเป็นครั้งแรกแน่ ดวงเนตรสีแซปไฟร์ของชาโดว์วาวโรจน์อย่างโกรธแบบเห็นได้ชัด ร่างของเชียรทรุดลงกับพื้นเขายังคงกระอักเลือดออกมาอย่างไม่จบสิ้นจนใบหน้าซีดเซียว
“วางใจเถอะแค่กระอักเลือดแค่นี้เจ้าไม่มีทางตายหรอก…แต่หากเจ้าไปเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตแล้วละก็…ถึงเป็นข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้หรอก” วาจาเย็นเยียบอย่างน่าหวาดกลัวราวกับว่าคนตรงหน้าไร้จิตใจไปเสียแล้ว
“…เดี๋ยว…” พยายามเอ่ยออกมาอย่างสุดชีวิด แต่อีกฝ่ายก็ได้แค่ปลายตามองเท้านั้น
“สามวันเท่านั้น…เจ้าอย่าลืมข้อนี้เสียละ ‘เชียร ผู้ถูกยึดความเป็นนิรันดร์’” ปีกคู่นั้นพาร่างของเด็กหนุ่มผมสีทองบินขึ้นสู่ฟากฟ้าที่ยังคงสว่างอยู่โดยไม่หันกลับมามองร่างของชายหนุ่มผมสีแดงที่ล้มลงกับพื้น
“…เดี๋ยว…ก่อน…..” ก่อนที่สติจะดับวูบลง…
---TBC.---
ความคิดเห็น