คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Forever
เขาว่ากันว่าความเจ็บปวดน่ะ ถ้าไม่ลิ้มรสด้วยตัวเองมันก็ไม่มีทางรู้สึกหรอก เหมือนกันเขาที่ตอนนี้เริ่มจะเข้าใจความรู้สึกของพี่ๆแล้ว...
ว่าการที่ได้เห็นคนที่เรารักที่สุด กลายเป็นเจ้าสาวของคนอื่น น่ะมันเจ็บแค่ไหน..
เพราะตอนนี้เขายืนอยู่หน้างานแต่งไงล่ะ..
งานแต่งเล็กๆที่ถูกจัดขึ้นริมชายหาดตามใจคนเป็นเจ้าสาว ไม่หวือหวาและไม่หรูหราเกินไป แขกในงานมีแค่ญาติผู้ใหญ่ของคู่บ่าวสาว กับกลุ่มเพื่อนเพียงไม่กี่คนอันได้แก่ อุ้ม ปอจู เซน สามีของพวกพี่สาว แล้วก็ตัวตนอีกด้านของพี่ๆเขาเท่านั้น..
“เนลจังจะลงจากคานแล้วสินะ อ๊ะ ขนมล่ะ” อุ้มพูดขึ้นขณะที่ตากำลังมองไปที่ของหวานที่วางอยู่ในงาน จนทำให้คูลต้องใช้สายตาปรามเบาๆ
“ไม่ได้นะครับอุ้ม ยังไม่ถึงเวลากินเลี้ยงสักหน่อย”
“รู้หรอกน่าคูล อ๊ะ ไปก่อนนะ” เธอพูดก่อนจะเดินไปยืนข้างๆคนเป็นสามีและหันมาแลบลิ้นให้คูลก่อนจะเดินเข้างานไป โดยที่อีกคนยืนส่งยิ้มให้จนคู่นั้นเขาลับตาไป
“เลน มายืนอะไรตรงนี้ เข้างานดีกว่านะ” ยูพูดพร้อมกับผลักหัวน้องชายเบาๆ ก่อนที่พี่ชายหัวทองจะเดินเข้างานไป โดยมีคูลเดินตามเข้าไปเพื่อ(คุม)ดูแลอุ้ม
ส่วนตัวเขาเองยังยืนทื่ออยู่ตรงหน้างาน..
พี่คูลเนี่ย.. น่าอิจฉาชะมัด..
แป๊บเดียวก็ทำใจได้แล้ว..
“ไม่เข้างานหรือไง? เลน..” เสียงทุ้มของอีกคนดังขึ้นเบื้องหลังทำให้เขาหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง อา...พี่ชายหน้าตายของเขานั่นเอง
“กำลังจะเข้าไปครับ เราเข้าไปกันเลยแล้วกันนะครับพี่ซัน” เลนพูดก่อนจะเดินเข้าไปในงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมกับซัน
ภายในงาน..
“ว้าว น้องสาวพี่นี่สวยจังเลยนะ ขอโทษที่มาช้าจ้ะ พี่ติดงานนิดหน่อย นี่รีบบึ่งมาเลยนะ” ปอจูว่าก่อนจะยิ้มและลูบหัวคนเป็นน้องสาวเบาๆ
“นั่นสินะ บรรยากาศดีใช้ได้เลย คุณอนิรุทธิ์เนี่ยสุนทรีย์จังเลยนะคะ” เซนพูดเสริมพลางมองไปรอบๆสถานที่จัดงาน ศาลาริมทะเลหลังขนาดกลางถูกตกแต่งด้วยม่านแพรสีขาวกับโมบายที่ทำจากเปลือกหอยสวยงาม และยังมีแจกันใส่ดอกลิลลี่สีสวยวางอยู่รอบๆงานด้วย
“ฮ่ะๆ ไม่หรอกครับ ความคิดเนลน่ะ เธอบอกว่าอยากได้งานแต่งเรียบๆ ไม่หวือหวาน่ะ” คนเป็นเจ้าบ่าวยิ้มก่อนจะเดินมาโอบเอวเนลแล้วตอบคำถาม “ใช่ไหมครับ เนล?”
“อ่า.. ค่ะพี่เซน ความคิดเนลเอง แต่ไม่คิดว่ารุทธิ์เขาจะทำสวยขนาดนี้” เนลพูดพลางก้มหน้างุดเพราะความเขิน ซึ่งนั่นเรียกเสียงหัวเราะจากบุคคลรอบๆได้เป็นอย่างดี..
และทั้งหมดนั่นมันก็อยู่ในสายตาของเลนตลอด..
เป็นธรรมดาที่เขาชอบเลี่ยงจากผู้คนมากมายมานั่งปลีกวิเวกคนเดียว ตอนนี้ก็เหมือนกัน ร่างสูงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้อัดสีขาวแถวสุดท้ายของงาน นัยน์ตาสีไพลินกำลังจับจ้องภาพตรงหน้าพลางบ่นเบาๆกับตัวเอง
“เฮ้อ.. เพิ่งจะเข้าใจความรู้สึกของพวกพี่ๆก็ตอนนี้ล่ะนะ”
“ไม่ลิ้มรสเองไม่รู้สึกหรอกไอ้น้อง” น้ำเสียงกวนบาทาของยูลอยมากระทบโสตประสาททำให้เขาต้องหันไปมอง
“พี่ยู? ไม่ได้อยู่กับพวกพี่เขาหรอกเหรอครับ?”
“ฉันก็หลบภาพบาดตาเหมือนคนแถวๆนี้แหละนะ” เขาพูดเหมือนรู้ทัน ทำเอาเลนลนลานใหญ่
“อะไรกันครับ ภาพบาดตาอะไร ผมไม่—”
ก่อนที่เลนจะพูดจบยูก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“ล้อเล่นหรอก”
“ห๊ะ?”
“ฉันเห็นคนไม่เข้าสังคม เลยกะจะมาลากไปต่างหาก เจ้าสาวเขาถามหาแน่ะ”
“อา...ครับ แต่..” สีหน้าของเลนสลดลงจนยูเห็นได้ชัด มือหนาตบบ่าน้องชายแปะๆก่อนจะเริ่มพูดอะไรบางอย่าง
“ยากที่จะทำใจ.. ใช่ไหม?”
“...?”
“การที่เห็นคนรัก ไม่สิ คนที่ตัวเองรักไปแต่งงานกับคนอื่นน่ะ มันเจ็บ ฉันรู้” ยูพูดไปเรื่อยๆโดยมีเลนฟังอย่างไม่เข้าใจความหมายที่จะสื่อ
“...”
“แล้วมันทำใจยาก อันนั้นฉันก็รู้..”
“แล้ว?”
“แต่มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ” ดีแล้ว? อะไรดีแล้ว? เขาไม่เข้าใจที่พี่ชายคนนี้ตั้งใจจะสื่อสักนิด “เพราะการที่เห็นคนที่เรารักมีความสุขน่ะ ถึงจะเจ็บมากและตัดใจยากไปหน่อย แต่มันก็ดีกว่าที่เห็นเขาร้องไห้เสียใจไม่ใช่หรือไง?”
“อา ครับ...” นั่นสิ.. เขาลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปเลย..
“เข้าใจแล้วก็เลิกทำหน้ายุ่งได้แล้ว เจ้าสาวเขาถามหาน่ะ เห็นว่าคนสำคัญหายไปเลยเริ่มพิธีแต่งไม่ได้”
“ครับ” เขาพูดก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนจะปั้นหน้ายิ้มและเดินเข้าไปในงาน และพิธีแต่งงานในแบบฉบับของเนลก็ได้เริ่มขึ้น..
พวกเขาสาบานตนต่อหน้าสิ่งศักสิทธิ์ว่าจะรักกันและอยู่ด้วยกันไปตลอด ก่อนจะแลกแหวนแต่งงานพร้อมกับจูบสาบาน และการโยนช่อดอกไม้
ตุบ!
ดอกไม้ตกลงบนตักของเลนพอดี
“โอ๊ะโอ เห็นทีจะมีหนุ่มน้อยแถวนี้จะสละโสดแล้วสินะ ฮ่าๆ” คนเป็นเจ้าสาวพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย
เลนขยับยิ้ม “คงงั้นมั้ง?”
เขาวางดอกไม้ลงบนเก้าอี้ข้างตัวก่อนจะมองคู่บ่าวสาวตรงหน้าที่กำลังมีความสุขด้วยกัน มุมปากของเขาถูกยกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
อา.. นั่นสินะ..
การที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขน่ะ มันดีกว่าตอนเห็นเขาเสียใจล่ะนะ..
“ต่อไปเชิญเพื่อนเจ้าสาวขึ้นมากล่าวความรู้สึกและร่วมอวยพรค่ะ” สิ้นเสียงพิธีกร เลนถึงกับเอ๋อรับประทาน ยัยหอยทากใส่แว่น(?)ไม่เคยบอกสักหน่อยว่าเพื่อนเจ้าสาวอย่างเขาต้องไปอวยพรด้วย
“เอ้า เหม่ออะไร ลุกไปสิ” ซัน
“อ่า.. ครับ” เลนพูดก่อนจะเดินไปที่แท่นพิธีที่มีเจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนยิ้มให้ เขาปรับไมค์เล็กหน้อยให้พอดีกับระดับปากและพูดความรู้สึกและอวยพรออกไป
“ตลอดเวลา.. ผมกับเนลอยู่ด้วยกันมาตลอดครับ เราเหมือนเพื่อน เหมือนพี่น้อง เนลเองก็เหมือนน้องสาวของผมคนหนึ่ง ผมดีใจครับที่เธอสามารถหาคนมาดูแลหัวใจของเธอได้แล้ว เพราะผมคงไม่ได้อยู่กับเธอไปตลอดแน่ๆ” เขาพูดพร้อมกับกระพริบตาถี่ๆเพราะเริ่มร้อนผ่าวๆที่ขอบตา และพยายามคุมน้ำเสียงให้ปกติ
“...”
“เนล เธอสละโสดตัดหน้ากันแบบนี้ฉันก็เหงาแย่สิ ไม่มีใครมาทะเลาะด้วยเบื่อแย่เลย” เขาพูดต่อไปเรื่อยๆจนมาถึงประโยคสุดท้ายที่เขาพูดเหมือนติดตลก “คุณอนิรุทธิ์ ตอนนี้ผมตอนทนเหงาไปก่อนนะครับ ดูแลเธอให้ดีๆ ถ้าวันไหนเนลร้องไห้ผมจะมารับเธอคืนนะครับ”
“ฮ่าๆๆ งานเข้าแล้วไงรุทธิ์เอ๊ยย” แขกในงาน
“ไม่หรอกครับคุณเลน แหม..พูดทีผมสะดุ้งเลยนะครับเนี่ย”
“ครับ.. ฮ่ะๆ ผมขอจบเพียงเท่านี้นะครับ”
แปะๆๆ
เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมๆกันกับที่เนลลุกขึ้นยืนและวิ่งมาสวมกอดเขาไว้หลวมๆ แม้จะงงกับการกระทำนิดหน่อยแต่เขาก็กอดตอบไปแล้วลูบหลังเบาๆเมื่อเห็นว่าคนตัวบางมีน้ำใสๆปริ่มๆขอบตาด้วยความซาบซึ้ง
“ขอบใจนะเลน นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเลย”
“อืม.. มีความสุขมากๆนะเนล ฉันรักเธอนะ” เขาว่าขณะที่กอดเนลไว้หลวมๆและบอกรักในฐานะของเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
“อื้ม ฉันก็รักนายนะ”
“แหม บอกรักกันแบบนี้ผมหึงนะครับ” อนิรุทธิ์พูดแบบติดตลกแล้วเดินเข้ามาโอบเอวเนลก่อนจะขอตัวเจ้าสาวไปก่อนเพื่อส่งแขก
โดยมีเพื่อนเจ้าสาวคนนี้คอยยืนส่งจนทั้งคู่ลับตาด้วยรอยยิ้มที่ไม่จางหายไปจากใบหน้า..
“ฉันน่ะ.. ยอมทนเหงาที่ไม่เห็นหน้าเธอแบบนี้ ดีกว่าเห็นเธอเสียใจนะ..”
รักนะ...
ตลอดไป..
ความคิดเห็น