คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : วันที่29มีนาคม
วันนี้วันที่29 มีนาคม
ใช่ มันผ่านวันเกิดของเธอมาได้ตั้ง8วันแล้วล่ะ
และมันก็คงผ่านไปอีกครั้งเป็นจำนวนวันที่9ถ้าคนตรงหน้าไม่ยอมทำอะไรเสียที…
“วันเกิดฉัน…” เซนพยายามเปล่งเสียงพูดออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด เด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่ในห้องละสายตาจากเกมกดมามองแวบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับของในมือต่อ
“หือ?” ซันส่งเสียงถาม และไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพราะเด็กหนุ่มกำลังรวบรวมเพ่งสมาธิให้กับเกมตรงหน้า
“วันเกิดฉัน…” เซนย้ำอีกครั้ง และใช้น้ำเสียงที่กดต่ำแสดงถึงอารมณ์หงุดหงิดที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อกี้ และคงเพิ่มมากกว่านี้ถ้าซันไม่ตอบโต้อะไรสักอย่าง ซันทำท่าครุ่นคิดและตอบรับในลำคอ
“อ่าใช่…วันเกิดเธอ…ผ่านมา8วันแล้ว…” เขาตอบตามความจริง…และปราศจากความรู้สึกผิดใดใด จนเด็กสาวชักเกิดอาการปรี๊ดแตก เธอขว้างหมอนใบหนึ่งที่อยู่ใกล้มือใส่เด็กหนุ่มผู้จดจ่ออยู่ในโลกเกมซะเกือบลืมโลก
พลั่ก! “เออ และจะเป็นวันที่9ถ้าวันนี้ผ่านไปโดยนายไม่ทำอะไรสักอย่าง”
“ฉัน? ฉันทำอะไร”
คนถูกโจมตีโดยหมอนใบเล็กถามทันควัน เขาทำอะไรผิดล่ะเนี่ย ทำไมถึงได้ดูโมโหเสียขนาดนั้น
“หรือว่า…”
เด็กสาวชะงักเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีปฏิกิริยาตอบโต้ ‘นึกออกแล้วสินะ’
“เธอ…วันนั้นของเดือนใช่มะ”
พลั่ก!!!
หมอนอีกใบตามมาระรานใบหน้า ด้วยแรงกระแทกจนทำให้เด็กหนุ่มหงายลงไปนอนกองกับพื้น คนขว้างมองผลงานตัวเองอย่างสะใจและโมโหในเวลาเดียวกัน เซนลุกขึ้นยืนบนเตียงและเตรียมจะหยิบหมอนข้าง และทุกสิ่งที่อยู่รอบกายมาขว้างอีก สัญญาณขอเวลานอก(?)ก็โผล่มาให้เห็น “เฮ้ย ดะ…เดี๋ยว หยุด…หยุด อะไรของเธอเนี่ย”
“โทษฐานที่แกปากมากพูดจาไม่เข้าหู” เซนกล่าว “และนี่…โทษฐานที่แกล้ง! ทำ! เป็น! ลืม!!!”
เซนแทบจะยกหมอนข้างขึ้นมาไล่ตีถ้าไม่ติดว่ามันใหญ่แล้วก็ทั้งหนัก…แต่ก็ใช่ว่าผู้โชคร้ายจะหลุดพ้นจากการโจมตีได้ หมอนข้างหนักถูกขว้างมาทับจนปัดป้องกับไม่ทัน ซันลุกขึ้นแล้วถามกลับหาเหตุผลอย่างตื่นตกใจ
“ลืม! อะ! ไร! เฮ้ย อย่านะยายบ้า” เขารับท้วงเมื่อเห็นว่าผู้ประทุษร้ายจะหาของมาโจมตีอีก เขายกมือสองข้างขึ้นเป็นสัญญาณว่ายอมแพ้แล้ว “ยอมแล้วๆ เจรจาดีกว่าสู้รบ…นะ เล่าเรื่องให้เข้าใจก่อนซิ”
“ต้องเล่าอะไรอีกล่ะ? ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”
เซนฉุนเฉียว กระแทกตัวนั่งลงบนเตียงจนมันสั่นไหว เธอคว้าหมอนที่ตกไปมาใบหนึ่งมากอดเอาไว้และเริ่มเล่า
“วันเกิดฉัน…ผ่านมาแล้ว…”
“8วัน”
“ใช่…”
“แล้วไงต่อ?”
ซันสะดุ้งเมื่อเจอสายตาอาฆาตเพ่งมองเชิงว่า ‘นี่ไม่รู้จริงงั้นเหรอ’
เขาลอบกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง…หวังว่าที่ถามไปเมื่อกี้คงจะไม่ได้ไปสะกิดต่อมอะไรเข้านะ
“นายยังไม่ได้อวยพรวันเกิดให้ฉัน…”
.
.
.
.
.
.
“ห้ะ???”
ใบหน้าของเด็กสาวขึ้นสีเรื่อโดยพลัน “อะไรเล่า!! ทำเสียงแบบนั้นหมายความว่ายังไง”
ก็ไม่ยังไงหรอก แค่…
ซันแอบจิกนิ้วตัวเองอยู่หลายทีและพยายามทบทวนคำพูดเมื่อครู่อย่างมีสติเพื่อทดสอบว่าเขาไม่ได้ฟังอะไรพลาดหรือผิดเพี้ยนไป… “โอเค ไหนพูดใหม่ซิ ฉันว่าหูฉันคงมีปัญหาเรื่องการรับฟังนิดหน่อยเมื่อกี้เลยได้ยินเธอบอกว่า…”
“นายลืมอวยพรวันเกิดให้ฉัน”
โอเค…ชัดล่ะ
คราวนี้เขามั่นใจแล้วว่าประสาทการรับฟังเขายังดีเยี่ยม
เขามั่นใจแล้วว่าตัวเองมีสติครบถ้วนไม่ลืมประโยคสำคัญอะไรทั้งสิ้น
เขามั่นใจว่า…ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยากจะเข้าถึงและเข้าใจอย่างที่สุด
“เธอ…” เขาพยายามเรียบเรียงคำพูด “เธอ…อาละวาดใส่ฉัน ปาหมอนใส่อีกสองครั้ง หมอนข้างอีกหนึ่ง จ้องประทุษร้าย เกือบกระทำการฆาตกรรมฉันโดยเจตนา…เพราะเรื่องแค่นี้?”
ฆาตกรรมโดยเจตนาบ้านแกสิ!!
เอ๊ะ แต่ก็ชักเข้าข่าย
“เรื่องแค่นี้อะไร! วันเกิดฉันนะเว้ย!! แล้วก็ไม่ต้องมาทำเป็นร่ายโยนความผิดให้ฉันเป็นผู้เสียหายในคดีเลย”
เซนโวยวาย ให้ตายเถอะ ทีแรกหมอนั่นเป็นคนผิดนะ ที่ ‘ลืม’ เรื่องของเธอก่อน แล้วตอนนี้มันจะมาทำเป็นว่าเธอผิดซะงั้น เรื่องอะไร! ปาหมอนสองสามครั้งยังน้อยไปสำหรับมันด้วยซ้ำ ไอ้บ้า!
“ก็ฉันเป็นผู้เสียหายจริงๆน่ะเซ่!” เด็กหนุ่มโวยบ้าง “จู่ๆก็มาอาละวาดใส่ พูดอะไรนิดหน่อยก็โกรธ! แล้วแค่ลืมอวยพรนี่มันจะเป็นอะไรมากไหม! ห้ะ!?”
“เป็นโว้ยไอ้บ้า!!” เด็กสาวเถียงกลับ “คนอื่นเขาแฮปปี้เบิร์ธเดย์ฉันกันตั้งมากมาย ขนาดเพิ่งรู้จักกันเขายังอวยพรให้ในไอดีเลย แล้วแกเป็นใครถึงกล้าลืมวันเกิดฉันฮะ!?!”
“ไม่ได้ลืม! ถ้าถามว่าเป็นใครก็เป็นคนคนเดียวกับเธอนั่นแหล่ะ ยายบ้า!!”
“ไม่ได้ลืมบ้านแกสิ!!”
“ทำอย่างกับว่าบ้านฉันกับบ้านเธออยู่คนละที่กัน เหอะ”
“อย่ามาเถียง แกมันคือกาฝากส่วนเกินสัมภเวสีขออยู่อาศัย!!! บ้านนี้มันบ้านฉัน ห้องนี้ก็ห้องฉันโว้ย!!”
“โว้ย แม่คุณ!! จะแหกปากหาอะไรวะครับ!!”
โดยปกติแล้วซันจะเป็นเด็กหนุ่มที่รักสันโดษ จะเงียบและไม่ค่อยพูดค่อยจา แต่เพราะยายตัวป่วนแถวนี้เนี่ยแหล่ะที่ชอบทำให้เขาต้องใช้เสียงดังอยู่เสมอ ซันคงไม่รู้หรอกว่า ‘ยายตัวป่วน’ หมั่นไส้บุคลิกมาดเก๊กขรึมของเขาแค่ไหน
ไม่อยากจะพูดถึงมันเพราะยิ่งนึกแล้วยิ่งน่าหมั่นไส้!!!
“แกกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเรอะไอ้ประสาท!!!”
“เออ!!! แล้วจะทำไม”
ซันยื่นหน้าเข้าไปใกล้เพื่อเค้นคำตอบและต้อนให้อีกฝ่ายจนมุม(?) เด็กสาวผงะก่อนจะรวบรวมแรงที่มีถีบอีกฝ่ายออกไปอย่างแรงที่ท้องจนร่างสูงกลิ้งไปไกล “ไอ้บ้า! ไอ้ประสาท! ไอ้โรคจิต! ถ้าแกยังทำแบบนี้กับฉันอีกนะ…!”
“โอ้ยยยย…ถีบมาได้นะหล่อน คนนะไม่ใช่กระสอบทราย…”
เสียงครวญครางดังมาจากพื้นด้านล่างทำให้เซนก้มมองศพ ผู้บาดเจ็บจากการกระทำของเธอ จะว่าสมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า แต่ก็สงสารมันนิดหน่อยๆแฮะ ย้ำว่านิดหน่อย! กลัวว่าถ้ามันตายไปตอนนี้เธอคงต้องเดือดร้อนแน่ก็แค่นั้นแหล่ะ ไหนจะบรรดาผู้ที่หลงผิดคิดว่าหมอนี่เป็นคนดีพร้อมตัวพร้อมใจกันสมัครมาเป็นแฟนคลับอีก คงชลมุนวุ่นวายจนปวดหัว
“เออๆ ‘โทษ” ยอมขอโทษอย่างไม่เต็มใจขณะมองผู้ที่นอนแผ่ราบบนพื้นและโอดครวญอย่างเจ็บปวด
“เจ็บมากเลยรู้เปล่าเนี่ย”
“เออ ขอโทษแล้วไง”
“ถ้าฉันตายฉันจะมาพรากวิญญาณเธอไปอยู่ด้วย”
มันน่ากระทืบซ้ำอีกทีไหมล่ะ…
“เจ็บ…ลุกไม่ขึ้น…” ซันส่งเสียงเบา “ช่วยหน่อย…”
“ห้ะ? ว่าอะไรนะฉันได้ยินไม่ถนัด”
“ช่วยหน่อย…”
“ช่วยอะไรนะ?”
“มาช่วยดึงฉันไปหน่อย ยายบ้า!”
“นี่คือวิธีร้องขอความช่วยเหลือของแกใช่มั้ย” เซนยิ้มเหี้ยม บ่งบอกให้เด็กหนุ่มรู้ว่าโอกาสที่ได้รับการช่วยเหลือนั้น…เป็นศูนย์ “เออ นอนเงียบๆอยู่ตรงนั้นไปละกัน อย่ามาร้องครวญครางให้ฉันได้ยินนะจะอ่านหนังสือ”
ใครบอกผู้หญิงเป็นเพศที่ใจดีและมีเมตตา…
นั่นน่ะ คือท่าทางของผู้มีกรุณามากเลยเนอะ!!!
“เซน…”
เขาพยายามเรียกชื่ออีกฝ่าย แต่เจ้าหล่อนก็หาได้สนใจไม่เพราะได้เข้าสู่โลกส่วนตัวไปแล้ว “เซนนนนน”
ได้ยินเสียงฮัมเพลงเหมือนแกล้งทำเป็นหูทวนลมจากเด็กสาวร่างบาง ถ้าไม่ติดว่าเจ็บอยู่(และคงต้องเจ็บหนัก)เขาก็คงจะ(ถ้าเผลอ)สถบอะไรขึ้นมา(ให้เซนได้ยิน)บ้างแล้วล่ะ ซันจึงได้แต่นอนนิ่งรอว่าเมื่อไหร่ยายตัวเล็กจะลุกขึ้นมาช่วยเขาเสียที ไม่ทันขาดคำ! เซนวางหนังสือการ์ตูนในมือลงเมื่ออ่านจบแล้ว แต่ก็หาใช่ความหวังของซันไม่เมื่อเธอเลือกหยิบโทรศัพท์มือถือส่วนตัวขึ้นมาเล่นและเข้าสู่โลกไซเบอร์อย่างสมบูรณ์
โถ ซัน ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร
เจ้าของแผนการ ‘ทำเมิน’ แอบหัวเราะสะใจอยู่ในใจ เซนเหลือบมองคนที่นอนเจ็บอยู่บนพื้นเพราะลุกขึ้นมาเองไม่ได้ เอ ท่าทางมันจะเจ็บจริง แต่ก็สมน้ำหน้ามันแล้วล่ะ เซนให้ความสนใจทั้งหมดไปที่โทรศัพท์ของตัวเอง เธอเลือกเข้าอินเตอร์เน็ตและเข้าเว็บไซต์ที่เธอมักไปสิงสถิตอยู่ประจำ…เมื่อมองสิ่งที่ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอเธอก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง
“HBD ค่า ><' ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ >w<”
“สุขสันต์วันเกิดนะคะ แก่ขึ้นอีกปีแล้วเนอะ (ฮา)”
“HBDค่า”
“Hamingju með afmælið สุขสันต์วันเกิดอีกรอบนะฮะเซนซัง นี่เป็นของขวัญฮะ อาจทำไม่สวย แต่ผมตั้งใจทำให้เซนซังเลยนะTAT”
“สุขสันต์วันเกิดล่วงหน้าค่าพี่สาวXD”
“สุขสันต์วันเกิดจ้า”
(ขออนุญาตทั้งพี่เซนแล้วก็เจ้าของข้อความด้วยนะคะ เนลไปเอามาจากในเด็กดีกับเฟซ แต่บางข้อความหายไปไหนไม่รู้ ;w; ขออภัยค่ะ)
ข้อความอวยพรวันเกิดที่ถึงจะผ่านมานานแล้วแต่เธอก็ยิ้มแป้นทุกครั้งที่ได้อ่านมัน
วันเกิดเนี่ยมันดีอย่างนี้นี่เอง?
มีตั้งหลายคนที่อวยพรวันเกิดให้เธอทั้งล่วงหน้า ทั้งย้อนหลัง แต่ไอ้คนที่อวดครวญอยู่ตรงนั้นไม่เห็นจะปริปากพูดถึงสักนิด? เซนคิดพลางระบายอารมณ์หงุดหงิดด้วยการเล่นในเกมในมือถือ ทว่าเสียงหนึ่งก็ร้องขัด
“เซนนนนน” คนบาดเจ็บร้องขึ้นมาอย่างน่าสงสาร(?) “ฉันเจ็บมากเลยนะ ลุกไม่ขึ้นจริงๆด้วย…”
“……” เงียบ แปลว่าไม่สนใจ…
“เหมือนซี่โครงจะหัก”
หือ?
“ปวดหัวสงสัยหัวกระแทก”
อ้อเหรอ?
“กระดูกขาหักแน่ะยืนไม่ได้”
แหม?
“อวัยวภายในเหมือนจะหายไปด้วย”
บ๊ะ?
“เซน ฉัน…”
“โอเค ฉันจะโทรเรียกปอเต็กตึ๊งเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“เซ๊นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
“ไหนล่ะคำอวยพรวันเกิดฉัน”
“น้อยๆหน่อยแม่คุณ สิ่งที่หล่อนทำมันช่วยชีวิตฉันไว้ไม่ถึง1/4”
“พูดมากจริง เดี๋ยวกระทืบซ้ำเลย”
“โหดร้ายว่ะ!”
สุดท้ายเธอก็ทนกับเสียงกรีดร้อง(?)ของเด็กหนุ่มไม่ไหวจนต้องยอมแบกกึ่งลากมันขึ้นมาบนเตียงนอนของเธอแทน ซึ่งพอมันได้พักไม่ถึง3นาที มันก็หันหน้ามาพูดกับเธอว่า ‘สำนึกผิดแล้วสินะ ยายฆาตกร’
ก็อุตส่าห์คิดว่าถ้าหลับหูหลับตาช่วยๆมันหน่อยมันก็คงยอมทำตามคำที่เธอขอร้อง…เปล่าเลย ดูมันสิ!
ซันนอนแผ่อยู่บนเตียงกว้างอย่างสบายใจและอยู่ในช่วงพักฟื้นอาการเจ็บที่ช่วงท้องซึ่งที่จริงก็ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก(เซนคิดนะ) ในขณะที่เจ้าของเตียงได้แต่เท้าสะเอวมองอยู่ข้างเตียงด้วยความหมั่นไส้
‘อยากจะยันมันตกเตียงจริง ให้ตาย~’
“ฉันรู้นะว่าเธอคิดอะไรอยู่ อย่าได้คิดจะยันฉันตกเตียงเชียว” ซันท้วงขึ้นมาอย่างรู้ทัน ทั้งที่หลับตาอยู่แท้ๆ…กรอด เซนกัดฟันด้วยความแค้นใจและหมั่นไส้ และยิ่งอยากระบายความปรี๊ดเมื่อเจอคำพูดต่อมา “ฉันจะนอนแล้วนะ อย่าส่งเสียงดังรบกวนคนป่วยล่ะ เข้าใจไหม ยายคนก่อเรื่อง”
“เดี๋ยวสิ แล้วไหนคำอวยพรฉันล่ะ!!”
ซันปรือตาขึ้นมาข้างหนึ่ง เขาถอนหายใจก่อนจะเริ่มถามอย่างจริงจัง “เธอจะอยากได้คำอวยพรวันเกิดอะไรจากฉันนักหนาน่ะฮะเซน ถ้าฉันลืมบอกไปในวันเกิดเธอก็ขอโทษด้วย แต่วันเกิดเธอไม่ได้มีแค่ปีเดียวนะ ปีหน้า สองปีหน้า หรืออีกสิบปีข้างหน้าก็ยังมี ทำไมจะต้องให้ฉันรีบบอกเสียขนาดนั้น อีกอย่าง…ไม่คิดเหรอว่ามาบอกแฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังหลายวันแบบนี้มันดูแปลกๆน่ะ”
“ฉันก็แค่อยากให้นายอวยพรวันเกิดฉัน แล้วถ้าเป็นอย่างงั้นนายจะปล่อยให้วันมันผ่านไปอีกใช่มั้ย ฉันไม่คิดว่ามันจะแปลกอะไรเลยในเมื่อฉันแค่ต้องการให้นายพูดอะไรซักอย่าง”
ต่างคนต่างอธิบายเหตุผลของตัวเอง ซันเริ่มเหนื่อยและเพลียจึงรีบตัดบท “ช่างเถอะ”
“นายก็พูดมาก่อนสิ”
“ไม่พูด…ฉันบอกแล้วไงว่าแฮปปี้เบิร์ธเดย์ย้อนหลังหลายวันแบบนี้มันดูแปลกๆน่ะ”
“ก็แล้วมันแปลกยังไง”
“มัน…” ซันเงียบไป เด็กหนุ่มทำหน้าลังเลตัดสินใจอยู่ว่าควรจะพูดออกไปดีไหม และเป็นคำพูดที่อธิบายเหตุผลของเขาไม่ได้หมดเสียทีเดียว แต่เมื่อเจอสายตาคะยั้นคะยอจากอีกฝ่ายจึงต้องยอมพูดออกไป “มัน…มันดู…ไม่ค่อยโรแมนติก ไม่ใช่เหรอ…”
“ว่าไงนะ” เซนรีบถาม เมื่อกี้เธอได้ยินไม่ผิดใช่มั้ยเหตุผลไอ้หมอนั่น? “นายว่าไงนะ? โรแมน…ยี๋ ฉันไม่กล้าพูดว่ะ”
ไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนเธอไหม แต่เวลาพูดคำอะไรแนวๆนี้ มันรู้สึกกระดากปากยังไงไม่รู้
“ฉันนึกว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบความโรแมนติก ความสมบูรณ์แบบ ความเพอร์เฟก แล้วก็การตรงเวลา เลยคิดว่ามาบอกกันย้อนหลังกันแบบนี้มันจะทำให้ผู้หญิงโกรธเพราะเราลืมวันสำคัญเขา” ซันเบ้ปากอธิบาย “แต่ฉันคงจะคิดผิดสินะ…ไม่สิ ไม่ผิดหรอก ผู้หญิงอย่างเธอหาใครเหมือนในโลกไม่ได้แล้วล่ะ ยายติ๊งต๊อง”
เซนกะว่าจะหัวเราะหลังที่อีกฝ่ายอธิบายเหตุผลสุดเน่าให้เธอฟังแต่ก็หยุดยั้งไปและแยกเขี้ยวใส่เมื่อใจประโยคหลัง “ถ้าฉันติ๊งต๊องแกก็ต้องติ๊งต๊องเหมือนกัน เพราะยังไงฉันกับนายก็คนเดียวกัน!”
“แม่คุณ อย่ามาอ้างความเหมือนกันตอนนี้เลย ทีเมื่อก่อนล่ะทำเชิดไม่ยอมรับว่าเราเหมือนกัน”
“ไอ้…!”
“พอ จะนอน…เธอคงได้ฟังเหตุผลฉันไปแล้วและคงไม่ทวงคำอวยพรอีกนะ บาย”
ซันล้มตัวลงนอนและปิดตาหลับอย่างไว เซนมองอย่างโมโหและเครียดแค้นเพราะตนยังเคลียร์บัญชีกับเจ้านี่ไม่จบ แล้วใครบอกเธอจะไม่ทวง! กะอีแค่คำอวยพรพูดออกมาให้หน่อยไม่ได้หรือไง ย้อนหลังแล้วยังไงถึงเธอจะอารมณ์เสียนิดหน่อยตรงที่มันไม่ยอมพูดเลยจนผ่านมาตั้งหลายวันแล้ว แล้วไอ้เหตุผลกลัวผู้หญิงไม่ชอบ กลัวผู้หญิงโกรธนั่นอีก
หมอนี่ไอ้เรื่องที่จะเข้าใจมันก็เข้าใจง่ายๆ แต่บางเรื่องก็ไม่ยอมเข้าใจแถมยังกลายเป็นโง่ไปเลย
ดูท่าแล้วคนเจ็บท่าทางจะหลับลึกลองใช้นิ้วจิ้มจึกที่แก้มก็ไม่ยักสะดุ้ง แถมยังหลับสบาย…บนเตียงเธออีก
เรื่องอะไรตูข้าจะยอมให้มันยึดเตียง!!!
เด็กสาวยิ้มเหี้ยม ‘แผนการร้าย’ ดำเนินการอย่างเงียบๆและเพราะคนถูกปองร้ายหลับอยู่ด้วย เธอก้าวถอยหลังให้ห่างจากเตียงสามสี่ก้าว สูดหายใจเข้าลึกๆและนับหนึ่งสองสามในใจ ก่อนจะให้สัญญาณกับตัวเองแลเริ่มวิ่ง! กระโดดขึ้นไปบนเตียงทับพ่อคนป่วยที่กำลังพักผ่อนอยู่พอดี
“อ๊ากกกกกกกกก!!!”
ไม่รู้ว่าเสียงหัวเราะของเธอกับเสียงร้องของซันใครจะดังกว่า หน้าขำชะมัดหน้าพ่อคนป่วยตอนนี้เนี่ย หมอนั่นบิดไปบิดมาเพราะเธอไปซ้ำแผลที่ท้อง(ที่เริ่มจะปวดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อโดนทับ)ทั้งยังพยายามผลักเธอออกอีกต่างหาก กลายเป็นว่าเธอล็อคคอหมอนี่เอาไว้ไม่ให้ดิ้น ช่างเป็นวินาทีลุ้นระทึกของฉากฆาตกรรมจริงๆ!
“ยายบ้าาาาาา ออกไปโว้ยอย่ามาทับท้องฉันนะ! เธอรู้ใช่มั้ยฉันเจ็บตรงนั้น!”
“แบร่” เซนแลบลิ้นกวนให้
“ตัวแสบเอ้ย ลงไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่ต้องมาล็อคคอฉันด้วย”
“ก็ถ้าไม่แล้วจะทำไม ว้าย!!”
เมื่อคาดการณ์ไว้ก่อนอยู่แล้วว่าคำตอบจะต้องออกมาเป็นปฏิเสธ ซันรวบรวมแรงที่เหลือผลักให้ร่างเล็กลงไปนอนแทนตนแล้วนอนทับ ก็หวังว่าจะหยุดไอ้การแกล้งของอีกฝ่ายได้บ้าง ก็นะ จะว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลดีเนี่ย
“เข้าใจความรู้สึกคนโดนทับบ้างหรือยังว่าเป็นยังไง” เขาถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป คิดว่าอาจะรู้สึกจุกเหมือนที่ตนโดนเลยถามออกไป แต่ไม่ทันขาดคำ แม่คนนิ่งเงียบเมื่อครู่ก็กลับมาอาละวาดอีกครั้ง
“ว้ากกกกกกกกก!!! ปล่อยฉันนะโว้ยไอ้บ้า!!!” เซนทั้งถีบทั้งดิ้น ซ้ำแผลเก่าที่ตนสร้างไว้ให้อีกฝ่ายจนฝ่ายนั้นต้องยอมปล่อยและนั่งกุมท้อง เมื่อได้อิสระเธอก็รีบถอยห่างทันที โดยไม่ลืมคว้าหมอน อาวุธที่พึ่งพาได้(?)มาด้วย
“เจ็บๆๆๆ โอ้ย แรงคนหรือแรง…”
“ลองด่าฉันดูสิแล้วแกจะได้รู้ว่าฉันแรงอะไรกันแน่” เงื้อหมอนในมือขึ้นสูงทำท่าจะโจมตี
“เธอทำฉันก่อนนะ อูย…ทับมาได้ ก็รู้ว่าคนเขาเจ็บตรงท้องก็ยังมาทับให้เจ็บซ้ำอีก พอฉันเอาคืนมั่งก็อาละวาดหนักกว่าเก่า นี่ต้องการให้ได้เลยใช่ไหมไอ้อวยพรวันเกิดเนี่ย?”
ไม่ใช่ ไอ้ที่ทำเมื่อกี้เพราะหมั่นไส้
“เอาคืนเรอะ? นี่นายทำอย่างนั้นกับผู้หญิงได้ยังไง ไม่ให้เกียรติ”
“ไม่ใช่ไม่ให้เกียรติ ฉันน่ะให้เกียรติเธออยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ผิวหนังมือแขนอะไรไม่เคยจับไม่เคยล่วงเกิน เธอลองนึกดูซิว่าที่ผ่านมาฉันเคยจับมือเธอบ้างไหม”
“มันไม่เหมือนกัน ทำแบบนี้ฉันตกใจนะ!”
“ฉันก็ตกใจเหมือนกันที่รู้สึกเหมือนมีหมีมาทับตัวเองตอนกำลังนอนอยู่”
อ้าว ตกลงเธอผิดเรอะ?
“เมื่อกี้นายใกล้เกินไป…ฉันไม่ชอบ” อันที่จริงผู้หญิงทุกคนก็ไม่ชอบที่ผู้ชายเข้าใกล้มากๆหรอก
“แล้วระยะไหนถึงจะชอบ”
“ฉันไม่ได้อยากชอบนักหรอกย่ะ”
เซนขว้างหมอนใส่…เบาๆ และไม่แรงมากอีกฝ่ายจึงรับได้ ทั้งคู่ต่างเงียบจนในที่สุดก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของใครคนหนึ่งเข้า...ซึ่งแน่นอนว่านั่นก็คือซัน
“โอเค ขอโทษที่ทำให้ตกใจ”
พยักหน้ารับฟังอยู่เงียบๆ
“ขอโทษที่ลืมวันเกิดด้วย”
ตกลงมันลืมจริงๆสินะ?
“อยากได้อะไรก็ว่ามาเลยเดี๋ยวฉันรับผิดชอบหาให้ทุกอย่าง แต่ยกเว้น…”
“งั้นก็อวยพรให้ฉันซะ!” เซนยิ้มร่าเมื่ออีกฝ่ายปล่อยช่องว่าง
“ยังพูดไม่จบเว้ย! ฉันจะบอกว่ายกเว้นไอ้อวยพรวันเกิดเธอนั่น ขออย่างอื่นซะเถอะอย่าตื๊อให้ยาก”
“ไหนบอกว่าให้ได้ทุกอย่างไง”
“ขออันอื่น!”
“โอ๊ย! ขอล่ะพ่อคุณ เลิกยึดอุดมการณ์โรแมนๆอะไรนั่นเถอะ จะมาโรแมนติกกับฉันทำไมในเมื่อแกไม่ได้ชอบฉันเสียหน่อย บ้า!!”
“ใครว่าฉันไม่ชอบเธอ”
“ห้ะ”
“เปล่า…ให้เวลาสามสิบวิขออย่างอื่นแทน ไม่งั้นก็โมฆะ”
“ซัน…ซัน เดี๋ยวสิเมื่อกี้นายบอกว่าไงนะ เฮ้ย จับเวลาแล้วเหรอ ไม่ๆ ยังไงฉันก็จะเอา! อวยพรให้ฉันหน่อยสิซัน! ซัน! เฮ้ย ครบสามสิบวิยังวะ ซานนนน ฉันอยากให้นายอวยพรให้ฉันจริงๆนะ!”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก…
เซนมั่นใจว่าถ้าถือคตินี้แล้ว ทุกอย่างจะสำเร็จเสียยิ่งกว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ เสียอีก
“หมดสามสิบวิไปตั้งนานแล้วยายบ้า เลิกตื๊อซะที”
“ไม่ๆ ยังไม่หมด นั่นมันสำหรับขอใหม่นี่ใช่ไหม ก็ในเมื่อฉันขออย่างเก่าก็ไม่นับสิ”
ขณะนี้เธอกำลังเดินไล่ตามซันให้ทั่วห้อง ทั้งตามหลังทั้งดักหน้า ห้องเธอก็ใช่ว่าจะกว้างขนาดมาวิ่งเล่นไล่จับได้หรอก แต่ถ้าออกไปข้างนอกแล้วโหวกเหวกโวยวายมีหวังโดนเฉ่งออกจากบ้านกันพอดี ซันก็อาศัยขายาวๆนั่นเดินหนีเธอทั่วห้องพร้อมยังเอามือปิดหูส่ายหน้าไม่รับฟังคำตื๊อ เอ้ย คำขอเธออีก
“นะน้า ซันน้า แล้วฉันสัญญาว่าจะไม่แกล้งทำร้ายนายอีกต่อไป”
“แสดงว่ายอมรับแล้วสินะว่าแกล้งฉัน”
“เอ่อ…ว่าแต่หายเจ็บท้องแล้วเหรอ แหะๆ…”
“ถ้าหายแล้วป่านนี้ฉันคงจะสปีดวิ่งหนีเธอออกหน้าต่างไปแล้วล่ะ” ซันตอบ ทั้งที่เขายังเจ็บไม่หายแท้ๆ ทำไมถึงได้ตื๊อเสียขนาดนี้นะ
“ซันจ๋าซัน ฉันขอแค่อวยพร อวยพรเท่านั้นเอ๊งงงง”
“เสียงสูงแสดงว่ามีลับลมคมใน”
“เปล่านะ! มันช่วยให้สามารถลากเสียงได้ยาวนานขึ้นเท่านั้นเอง!”
“เออๆ เลิกตามฉันแบบนี้เถอะ มึนหัวจะแย่แล้ว”
“ฉันจะไม่หยุดจนกว่านายจะพูด”
บอกแล้วว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก!
“น้าซันน้า~ นะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะนะ”
“ซันจ๋า~ เค้าขอแค่นี้เอง~”
“เฮ้ ได้โปรด…หวา สนใจกันหน่อยสิ”
“ซันซั่นซั้นซั๊นซั๋น~”
“โถซัน แค่นี้เองทำเพื่อฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”
“เถอะน้า~ ซัน ฉันขอแค่อวยพรวันเกิดเองนา”
“สัญญา! ว่าถ้านายอวยพรให้ฉันแล้ว ต่อจากนี้ฉันจะทำตัวเป็นเด็กดี ไม่ดื้อไม่ซน ไม่อาละวาด ไม่ด่าไม่แกล้งนายอีกต่อไป อ้อ ไม่หมั่นไส้นายจนเผลอถีบตกลงมาจากเตียงด้วย จะไม่แย่งเล่นเกมกด แล้วก็จะคุยดีด้วยบ่อยๆ มีโปรโมชั่นเสริมแบ่งของกินให้ด้วยนะ? คราวหน้าฉันพาไปเที่ยวข้างนอกก็ได้เดี๋ยวเลี้ยงเอง งั้นไปวันไหนดีล่ะ เอ๊ะ นายต้องอวยพรให้ฉันก่อนสิถึงจะไปได้ น้าซันน้า แค่นายพูดออกมา แล้วฉันจะ…”
“โว้ย!! พอ!!! เออๆอยากให้พูดนักใช่ไหม สุขสันต์วันเกิด!!!”
ซันปล่อยมือที่ปิดหูลงข้างตัวและหันมาเผชิญหน้ากับร่างเล็กบางซึ่งยังไม่ทันสาธยายโปรโมชั่นเสริมเสร็จ ก็ต้องต้องตาค้างเมื่อได้รับคำตอบจากเด็กหนุ่มร่างสูงแบบนี้ สักพักก็เปลี่ยนไปเป็นยิ้มอย่างเริงร่า
เยส!!!
บอกแล้วว่าตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก!!!
“ขอบใจน้า!!! แหม ถ้านายพูดให้ฉันฟังตั้งแต่ทีแรกหรือวันแรกก็คงไม่ต้องเจอเรื่องแบบนี้หรอก”
“ฉันคงไม่เจอแน่ถ้าเธอไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับฉัน”
“อย่าโทษกันงั้นสิ~”
ไม่น่าเชื่อ…แค่ยอมทำตามคำขอ(ที่ฟังดูแปลกๆในความคิดเขา)กลับทำให้ยิ้มรื่นขนาดนี้เชียวเหรอ
ถึงได้บอกไงว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนเหมือนเธอคนนี้ในโลกใบนี้อีกแล้ว
มือเล็กๆยื่นมาข้างหน้า เด็กหนุ่มมองอย่างงุนงงพร้อมกับลางสังหรณ์แปลกๆ “อะไร”
“ของขวัญไง”
“???”
“อะไร วันเกิดก็ต้องมีของขวัญด้วยสิ อย่าทำเป็นเฉไฉแกล้งลืมอีกเลยน่า” เซนย้ำและโบกมือหน้าคนตัวสูงไปมา “เฮ้ ของขวัญไงซัน ของขวัญวันเกิดฉัน…นายคงไม่ได้คิดจะอวยพรเฉยๆใช่มั้ย”
“ไม่รู้!!!” โพล่งเสร็จก็รีบตัดปัญหาอาศัยขายาวๆของตัวเองก้าวออกนอกห้องไปทันที ทว่ามือเล็กๆคู่หนึ่งก็มารั้งเอาไว้และทำหน้าอ้อนวอน(แต่แววตาบังคับ)สุดชีวิต
“ซัน~ ก่อนหน้านี้นายยังบอกฉันอยู่เลยว่าถ้าอยากได้อะไรก็ขอมาแล้วนายจะรับผิดชอบหาให้น่ะ”
“นั่นมันโมฆะไปนานแล้ว ยายบ้า”
“ได้ไงอ่ะ!!”
“ก็เธอตื๊ออยากขอให้ฉันแฮปปี้เบิร์ธเดย์เอง…ช่วยไม่ได้ บอกให้ขอใหม่ก็ไม่ขอ”
“ไอ้นั่นไม่นับโว้ย!”
“ฉันนับ!”
“ซัน! ฉันขอแค่อย่างเดียวทำไมนายใจร้ายใจดำกับฉันขนาดนี้ ไม่คิดจะตามใจฉันเหมือนคนอื่นเขาบ้างเหรอ!!”
“ไม่รู้ไม่ชี้โว้ย!!!” ซันเดินหนีออกไปนอกห้องและปิดประตูดังปัง เสียงตึงตังกึกกักเหมือนว่าเขากำลังลงไปข้างล่าง และนั่น เธอได้ยินเสียงเปิดประตู เซนปรี่เดินไปมองที่หน้าต่างก็พบร่างสูงที่คุ้นเคยกำลังเดินออกจากบ้านไป
เซนเปิดหน้าแล้วตะโกนสุดเสียง “ไอ้ซันบ้า!!! กลับมานะโว้ย!!! สัญญาเป็นสัญญาสิวะ แล้วนั่นจะไปไหน ไม่ชวนฉันไปได้ยังไง!!! หนีเที่ยวเหรอ! กลับมานะโว้ยไอ้ซัน กลับม๊า!! เอาของขวัญมาให้ฉันก๊อนนนนน”
ตะโกนจนสุดเสียงไอ้หมอนั่นก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหันกลับมา ไม่เจ็บท้องแล้วหรือไงวะหรือที่ผ่านมามันแกล้งสำออย? หนอย ไอ้ตัวแสบ กลับมาเมื่อไหร่แม่จะทั้งทับทั้งซัดทั้งอัดให้น่วมไปข้างเลยคอยดู!!!
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แอ๊ด…
ประตูห้องเปิดขึ้นโดยพยายามเปิดอย่างเงียบเชียบที่สุด เพื่อไม่ให้ไปรบกวนคนในห้อง ร่างสูงโปร่งแทรกตัวเข้ามาในห้องมืด และก้าวเดินอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียง
มือข้างหนึ่งถือกล่องใบเล็กเอาไว้ข้างกาย ดวงตาจับทิศทางไปยังเตียงนอนกว้างที่มีร่างหนึ่งหลับใหลอยู่อย่างสบายใจ ร่างสูงยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆเตียง
ซันกลับมาถึงบ้านก็ตอนที่ฟ้ากลายเป็นสีมืดไปแล้ว ทั้งนี้ก็เพราะว่าทั้งเซนและเขาต่างก็ไล่จับกันไปอยู่หลายชั่วโมงจนถึงเย็น และตอนที่เขาออกจากบ้านก็เย็นมากแล้วด้วย จะกลับถึงบ้านดึกก็ไม่น่าแปลกอะไร เขาคาดไว้อยู่แล้วล่ะว่าคงกลับมาไม่ทัน
เด็กหนุ่มยิ้มเมื่อเพ่งมองร่างที่หลับสนิทอยู่บนเตียง ใครกันนะที่บอกว่าจะซัดเขาให้น่วมพอกลับมาถึง แอบเสียวอยู่เหมือนกันแต่พอกลับมาแล้วเห็นว่าหลับอยู่ก็สบายใจ นึกถึงคำพูดของร่างบางก่อนหน้านี้ก่อนจะยิ้มออกมา…เป็นยิ้มที่มอบให้กับคนที่หลับปุ๋ยไปแล้วอย่างสบายใจ
‘ของขวัญไง’
‘???’
‘อะไร วันเกิดก็ต้องมีของขวัญด้วยสิ อย่าทำเป็นเฉไฉแกล้งลืมอีกเลยน่า’
‘เฮ้ ของขวัญไงซัน ของขวัญวันเกิดฉัน…นายคงไม่ได้คิดจะอวยพรเฉยๆใช่มั้ย’
วันเกิดปีนี้เจ้าของวันเกิดเรียกร้องอะไรมากกว่าที่คิด…ยิ้มพลางหัวเราะเบาๆ
ทั้งขอคำอวยพรย้อนหลัง ที่เขาคิดว่าแบบนั้นไม่เห็นจะดีตรงไหน ก็ผ่านมาตั้งหลายวันแล้วก็ยังน่าแปลกใจที่ยังอุตส่าห์ทวงมาได้ถึงวันนี้ ทั้งของขวัญวันเกิด ทั้งที่ตอนแรกเขากะว่าจะให้อีกฝ่ายเป็นคนเลือกเองแท้ๆ ช่วยไม่ได้…
เขาโยนรับกล่องใบเล็กในมือสองสามที
ตอนที่แว้บออกไปจากบ้านตอนนั้นก็เพื่อจะออกไปซื้อเจ้านี่…แต่อย่าได้คิดเชียวว่ามันเป็นของขวัญวันเกิดสุดน้ำเน่าอะไรแบบนั้น เขาไม่มีทางกลั้นขำตอนซื้อมันได้หรอกน่า
อันที่จริงมันไม่ใช่ของที่คิดว่าจะเอามาให้แม่ตัวแสบนี่เลยด้วยซ้ำ
‘ขอล่ะพ่อคุณ เลิกยึดอุดมการณ์โรแมนๆอะไรนั่นเถอะ จะมาโรแมนติกกับฉันทำไมในเมื่อแกไม่ได้ชอบฉันเสียหน่อย บ้า!!’
‘ใครว่าฉันไม่ชอบเธอ’
‘ห้ะ’
เขาไม่ได้เกลียดเซนเสียหน่อย…หรือเจ้าตัวคืออย่างนั้นมาตลอดนะ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจหาเรื่องทะเลาะแต่ก็โต้เถียงกันบางทีอย่างไม่มีเหตุผล แต่ก็ทำให้สนิทกันมากขึ้น บางทีก็ทำให้โกรธมากแต่ก็ไม่ได้เกลียด หมั่นไส้เป็นครั้งแต่ก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา อยู่กับเด็กผู้หญิงแบบนี้แล้วใครเล่ามันจะไม่รู้สึกอะไร
ไม่รู้ทำไมถึงอยากได้คำอวยพรแล้วก็ของขวัญวันเกิดจากเขานัก หรือเพราะเขาเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้ให้? นั่นสินะ มิน่าเลยจ้องเล่นงานเสียขนาดนั้น แถมยังทั้งด่า ทั้งทุบ ทั้งแกล้งตัดพ้ออีกต่างหาก
เอ้อ อยากได้ของขวัญวันเกิดนักใช่ไหม
ริมฝีปากได้รูปจุมพิตที่หน้าผากคนในห้วงนิทราอย่างแผ่วเบา และเจือไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง ฝากทั้งคำอวยพร ถ้อยคำเอ็นดูและเป็นห่วง และถ้อยคำที่ไม่สามารถสื่อออกมาเป็นคำพูดได้ มือหนาลูบเส้นผมยาวสวยนั้นอย่างนุ่มนวล และส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้ “ราตรีสวัสดิ์…หวังว่าคงถูกใจกับของขวัญวันเกิดนะ”
ซันลุกขึ้นยืน เหลือบมองเจ้ากล่องใบเล็กที่ใส่ของบางอย่างเอาไว้ข้างใน ก็ในเมื่อของขวัญวันเกิดให้เจ้าตัวเขาไปแล้ว แต่คิดว่าคงไม่รู้ตัวแน่ตอนเช้าก็คงจะต้องตื่นมาโวยวาย มือหนาวางกล่องใบนั้นเอาไว้ข้างๆเตียง กล่องนั้นผูกด้วยโบสีคราม ราวกับว่ามันเป็นกล่องของขวัญ…วันเกิด คงจะพอให้ร่างบางหยุดโวยวายใส่เขาได้บ้าง
“ฝันดีนะ…”
ความคิดเห็น