คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ไวท์เดย์
สามวันก่อนวันไวท์เดย์...
ร่างสูงนั่งฟุบกับโต๊ะอ่านหนังสือพร้อมกับเอาปากกาเคาะปฏิทินป๊อกๆ ที่จริงเขาไม่เคยจะสนใจวันที่สิบสี่มีนาคมเท่านี้มาก่อนเลย ถ้ายัยตัวเล็กของเขาไม่พูดถึงมันด้วยท่าทางตื่นเต้นนั่น
‘นี่ๆ คูล อีกสามวันจะวันไวท์เดย์ล่ะ คิกๆ’
‘แล้วมันพิเศษยังไงล่ะครับ?’ เขาเลิกคิ้วขึ้น ทุกๆทีจะถึงวันไวท์เดย์ทีไรอุ้มก็ไม่ค่อยจะสนใจอะไรมันมากนี่นา แต่ทำไมปีนี้ถึงดูจะจดจ่อกับมันเป็นพิเศษ
‘พิเศษสิ! ตัวเล็กจะคอยดูนะว่าคูลจะซื้ออะไรให้ใครอ่ะ!’ ว่าพลางหัวเราะคิกคัก คูลมองด้วยความไม่เข้าใจก่อนจะถามออกไป
‘ทำไมล่ะครับ?’
คนตัวเล็กมุ่ยหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงร่าเริง
‘เพราะคนคนนั้นคงสำคัญมากถึงขนาดเจ้าชายน้ำแข็งที่ติดลบด้านความรักซื้อของมาตอบแทนเลยไงล่ะ!’
อา.. เจ้าชายน้ำแข็งเหรอ?
เขาไม่ได้เย็นชาหรือความสามาถติดลบด้านความรักสักหน่อย เพียงแค่ไม่ได้ใส่ใจกับมัน เหล่าช็อกโกแลตที่สาวน้อยสาวใหญ่ที่ถูกนำมาให้เขาเพื่อหวังว่าจะได้ของตอบแทนในวันไวท์เดย์(ตามความคิดเขานะ) ลงท้ายก็ถูกนำไปหมกไว้ที่ไหนสักที่หรือไม่คนที่กินมันก็ไม่พ้นอุ้มอยู่ดี
แล้วแบบนี้จะให้เขาซื้ออะไรไปให้ใครได้ล่ะ เพราะแบบนั้นก็ถือว่าไม่ได้รับมาสักหน่อย
“คูลล คิดได้หรือยังว่าจะซื้ออะไรอ่า~” คิดได้ไม่เท่าไรเสียงใสของอีกคนก็ดังมากระทบโสตประสาทตามมาด้วยเสียงโครม! แล้วก็เสียงโอดครวญของอีกคน “โอ๊ยย เจ็บชะมัด”
“เป็นอะไรไหมครับ ผมบอกอุ้มหลายครั้งแล้วนะว่าอย่าวิ่ง เดี๋ยวจะลื่นล้มเอา นี่ไม่ฟังกันเลยเหรอครับ” บ่นยาวตามประสาคนขี้ห่วงพลางพยุงร่างเล็กให้ลุกขึ้น ทำเอาคนโดนบ่นทำหน้ายุ่งจนคิ้วขมวดเป็นโบว์พลางบุ่ยปากไม่พอใจอย่างออกนอกหน้า
“บู่ๆ คูลอย่ามาบ่นตัวเล็กนะ ตัวเล็กไม่ผิดสักหน่อย” ว่าพลางพองลมในแก้มแบบไม่พอใจ ทำเอาคนบ่นเกือบจะใจอ่อน
“ไม่ให้บ่นได้ยังไงครับ นี่มันหลายครั้งแล้ว เกิดได้แผลเพิ่มจะว่ายังไงล่ะครับ”
“งื้อออ คูลใจร้าย ไม่เอาแล้ว ตัวเล็กไม่ฟังคูลบ่นแล้ว” ว่าพลางเอาสองมือปิดหูแล้วโยกหัวไปมาแบบเด็กโดนขัดใจก่อนจะเงียบไปเพราะงอนจัด
“อุ้ม..”
เงียบ..
“อุ้มครับ..”
เงียบ..
“ตัวเล็ก..”
เงียบบบ..
“โอเคครับ ผมยอมแพ้แล้ว ต่อไปจะไม่บ่นแล้วครับ” ว่าพลางยกมือขึ้นเป็นสัญญานว่ายอมแพ้ เขาไม่เคยชนะอุ้มได้สักครั้ง แม้จะเก็กหน้าทำใจแข็งสักแค่ไหน แค่คนตัวเล็กพูดว่าไม่พอใจหรืองอนเขาก็เผลอใจอ่อนทุกที
“จริงนะ!” อุ้มพูดพร้อมกับยิ้มแฉ่ง สีหน้าเปลี่ยนไปจากเมื่อสักครู่ลิบลับ คูลมองยิ้มๆก่อนจะถอนหายใจแล้วเอื้อมมือไปลูบกลุ่มผมนิ้มเบาๆ
“ครับ แต่อุ้มต้องสัญญาก่อนว่าจะไม่วิ่งอีกถ้าไม่จำเป็น” พูดไปด้วยแล้วขยี้ผมเบาๆก่อนจะส่งยิ้มน้อยๆไปให้และต่อประโยคตัวเองให้จบ “แล้วนี่เข้ามาในห้องผม มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“อื้อ! อ๊ะ อ๋อ ตัวเล็กจะมาถามเรื่องไวท์เดย์อ่ะ คูลไม่ไปเลือกของขวัญเหรอ ช่วงนี้ร้านค้าลดราคาก่อนไวท์เดย์สามวันล่ะ!”
“ห๊ะ? อ๋อ.. กำลังจะไปพอดีครับ ไปด้วยกันไหม” แน่นอนว่าเขาแถ.. จะไปที่ไหนล่ะ เมื่อกี้ยังนั่งเคาะปฏิทินป๊อกๆอยู่เลย
“เอาสิ! อย่างคูลคงไม่มีเซนต์เรื่องการเรื่องของให้ผู้หญิงสินะ ไม่เป็นไร ตัวเล็กจะช่วยเอง!” ว่าพลางวิ่งไปเปลี่ยนชุดทันทีที่จะได้ออกไปข้างนอก คูลมองตามแผ่นหลังเล็กๆนั่นพลางยกยิ้มก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกไปนะครับว่าอย่าวิ่ง..”
ย่านการค้า..
เมื่อมาถึง ร้านแรกที่อุ้มวิ่งเข้าไปก็คือร้านเบเกอรี่ขนาดใหญ่ คนตัวเล็กสั่งนู่นสั่งนี่มากินจนหนำใจโดยมีคูลเป็นคนเลี้ยง หลังจากนั้นก็ลากร่างสูงเข้าไปในร้านขายตุ๊กตาเพราะอ้างว่าผู้หญิงส่วนมากชอบตุ๊กตา
“นี่ๆ คูล ตัวเล็กว่าตุ๊กตาตัวนั้นน่ารักดีนะ อืม.. แต่ว่าตัวนั้นคงตัวใหญ่ไป ไม่ไหวๆ ตัวนี้ดีกว่านะ” ว่าพลางหยิบตุ๊กตาตัวเล็กบ้างใหญ่บ้างมาให้ร่างสูงดู
“อุ้มว่ายังไงก็อย่างนั้นแหละครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนั้นหรอก” คูลว่าพลางเดินไปเรื่อยๆภายในร้านขายตุ๊กตา ก่อนจะเหลือบไปเจอตุ๊กตาหมีขนสีขาวปุกปุยใส่ชุดกระโปรงลายสก็อตสีชมพูขลิบลูกไม้สีขาวถือรูปหัวใจอยู่ ที่หูมีโบสีเดียวกับเสื้อติดไว้อย่างน่ารักทีเดียว
มือหนาหยิบตุ๊กตาขึ้นมาก่อนจะยื่นไปให้ร่างเล็กดู
“ตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับอุ้ม น่ารักไหม”
“โอ๊ะ! น่ารักใช้ได้เลยล่ะ! คูลเซนต์ใช้ได้เลยนะ! ฉันเห็นแล้วยังชอบเลย!”
“งั้นซื้อตัวนี้แล้วกัน” เขาว่าพลางทำท่าจะเดินไปจ่ายเงิน แต่ก็โดนอีกคนดึงแขนเป็นเชิงถามว่าไม่เลือกต่อเหรอ? เขาส่ายหน้าอย่างรู้ทัน “ไม่เป็นไรครับ เอาตัวนี้แหละ ฮ่ะๆ”
พูดจบก็เดินไปจ่ายเงินเสร็จสรรพก่อนจะโดนอีกคนลากไปนู่นมานี่ไม่หยุดหลังจากเสร็จธุระ
แล้ววันนี้ก็จบลงไปอย่างเรียบง่าย (โดยมีสมาชิกใหม่เป็นตุ๊กตาหมีสีขาวมานอนแอ้งแม้งอยู่บนเตียงของเขาเป็นการชั่วคราว..)
หนึ่งก่อนวันไวท์เดย์..
วันนี้คูลตื่นสายกว่าปกติ ขณะนี้สิบโมงกว่าแล้วแต่เขายังไม่ลุกจากเตียง อาจจะเพราะนอนดึกบวกกับน่วมจากเมื่อวานที่โดนลากไปนู่นมานี่แล้วโดนใช้ให้ถือถุงขนมกับของกินที่ทั้งซื้อมาแล้วก็ได้ฟรีซึ่งยัยตัวเล็กหอบกลับมากินต่อที่บ้าน แถมลงท้ายกินแล้วก็เผลอหลับไปหน้าทีวีทำให้เขาต้องปลุกอีกคนไปแปรงฟันก่อนจะทำความสะอาด แล้วก็ต้องมาทำแผลให้อุ้มที่ซุ่มซ่ามล้มในห้องน้ำจนได้แผลมาอีก
แล้วกว่าอุ้มจะยอมเข้านอนแต่โดยดีมันก็ดึกมากแล้ว ทำให้เขาพลอยนอนดึกตามไปด้วย
“อ๊ายยยย!!!” เสียงใสที่ดังเกินแปดล้านเดซิเบล(เวอร์?)ดังขึ้นส่งผลให้คนตัวสูงสะดุ้งตื่นแล้วรีบผุดลุกจากเตียงทันที
“อุ้ม เป็นอะไรเหรอครับ?” เขาพูดทั้งที่อยู่ในสภาพงัวเงีย คนตัวเล็กกว่ามุ่ยหน้าพลางลูบท้องตัวเองน้อยๆ
“หิวข้าวอ่ะ หิวข้าวว!!” อุ้มพูดพลางทำท่าเหมือนเด็กน้อยร้องขออาหารจากผู้ปกครอง คูลยกยิ้มขึ้นให้เล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าครัวไป อุ้มมุ่ยหน้าอกครั้งก่อนจะกระตุกชายเสื้อคูลจึกๆให้หยุดก่อน “โทษฐานที่ตื่นสาย เลี้ยงข้าวตัวเล็กเลยนะ! ไปกินข้าวข้างนอกกัน!”
แล้วเขาก็โดนลากออกไปข้างนอกอีกจนได้..
ร้านอาหาร..
ตอนนี้เขาทานอาหารของเขาเสร็จแล้ว แต่คนตรงหน้าท่าทางจะอิ่มยาก เพราะเมื่ออาหารจานหลักหมดลง ของหวานมากมายที่คนตัวเล็กสั่งมาก็เต็มโต๊ะ ไอศกรีมถ้วยใหญ่แถมด้วยท็อปปิงเยอะ พุดดิ้งสีสวย ชีสเค้กอีกจานใหญ่ กับอีกมากมายดูจะหมดลงยากพอสมควร
“สั่งเยอะแบบนี้จะทานหมดเหรอครับ?” เขาพูดพลางมองของบนโต๊ะที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงไปเลยสลับกับหน้าของอุ้ม
“หมดสิ! ถ้าคูลกลัวตัวเล็กกินเหลือจะกินด้วยกันก็ได้นะ!”
“ไม่ล่ะครับ อุ้มทานเถอะ” เขาว่าพลางส่งยิ้มให้คนตรงหน้า
หลังจากนั้นก็นั่งเฝ้าคนตัวเล็กกิน(ยัด)ของหวานลงท้องจนหมดแล้ว จ่ายเงินสำหรับค่าอาหารเรียบร้อยแล้ว เขาก็โดนอุ้มลากเข้าไปในร้านกิ๊ฟชอปเพื่อซื้อการ์ด โดยคนตัวเล็กอ้างว่า ‘มีของขวัญ ก็ต้องมีการ์ดแทนใจ!’
หลังจากนั้นเขาก็ต้องทำตามประสงค์ของคนตัวเล็ก แล้ววันนี้มันก็หมดไปอีกวัน..
ไวท์เดย์..
วันนี้เขาตื่นเช้ากว่าปกติ เขาตื่นขึ้นมาและเดินเข้าครัวไปเพื่อทำอาหารและของหวานสำหรับคนตัวเล็ก ขนมสำหรับคนพิเศษในไวท์เดย์ด้วย
มือหนาหยิบนู่นจับมือมาใส่ในชามผสมก่อนจะคนให้เข้ากัน ก่อนจะนำช็อคโกแลตที่ละลายไว้เทลงแม่พิมพ์ก่อนจะนำไปแช่เย็นจนช็อกโกแลตแข็งตัว หลังจากนั้นจึงเอาออกมาและตกแต่งจนสวยงาม ก่อนจะนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น
หลังจากนั้นในช่วงสายคนตัวเล็กก็ลงมาทานอาหารและของหวานที่เขาเตรียมไว้ให้โดยไม่สังเกต ก่อนจะเดินตัวปลิวกลับไปที่ห้องของตัวเองและนั่งจุมปุ๊กอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เหมือนเดิม
ติ๊งต่อง!
เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ร่างสูงละมือจากการล้างจานก่อนจะเดินไปรับแขกที่หน้าบ้าน
“สวัสดีค่ะ/ครับพี่คูล” น้องชายและน้องสาวของเขากับอุ้มนั่นเอง
“สวัสดีครับ” เขาทักทายตามมารยาทก่อนจะเชิญแขกขึ้นบ้าน จากนั้นก็เรียกให้อุ้มออกมารับแขกด้วยกัน และสักพักก็ขอตัวไปข้างนอกกับเนล
“ฉันกับเนลจังจะไปหาอะไรกินหน่อย! เดี๋ยวกลับมานะ!” เธอพูดด้วยท่าทีร่าเริงก่อนจะใส่รองเท้าและลากรุ่นน้องออกไปข้างนอกทันที
แล้วทั้งบ้านก็เหลือแค่หนุ่มโสดสองคนที่มองตามหลังตัวตนอีกด้านของตัวเองไปจนลับตา..
“เรื่องนั้นจะเอายังไงต่อครับพี่คูล” เลนพูดขึ้นหลังจากแน่ใจว่าสองสาวจะไม่ย้อนกลับมาเอาของ ที่จริงมันมีเหตุผลบางอย่างที่เขามาที่นี่ โดยคนที่เชิญมาก็พี่ชายตัวสูงของเขานั่นแหละ
“ก็คงต้องจัดการต่อให้เรียบร้อยครับ ผมเตรียมของไว้หมดแล้วล่ะ” คูลพูดพลางบุ่ยใบ้ไปทางของที่ซื้อมาไว้ตั้งแต่เมื่อวันก่อน
“ครับ งั้นผมช่วยเองนะครับพี่คูล” หลังจากนั้นก็เดินไปจัดการกับของที่คูลเตรียมไว้ หยิบนั่นมาวาง หยิบนี่มาแขวน อีกคนก็ทำความสะอาดแล้วก็จัดการเคลียร์พื้นที่รอบๆจนเวลาล่วงเลยไปหลายชั่วโมง
18.00 น.
“กลับมาแล้ววว” อุ้มเดินเข้ามาในบ้าน หลังจากที่แยกกับเนลตรงปากซอยเพราะเจ้าตัวนึกได้ว่าต้องไปทำธุระ ก่อนจะพบว่าบ้านมืดมิด คนที่ควรเจ้าเฝ้าบ้านอยู่กับไม่มีเงาของคนคนนั้น “คูล อยู่ไหนน่ะ?” เธอร้องถาม แต่ไม่มีเสียงตอบ
มือบางคลำไปรอบๆผนังเพื่อหาสวิตช์ไฟ แต่ก็พบว่ามันเปิดไม่ติด กดปิดกดเปิดใหม่อยู่หลายครั้งเจ้าหลอดนีออนนั่นก็ไม่ยอมติดเลย เธอจึงใช้ไฟจากหน้าจอมือถือส่องทางเพื่อไปดูคัตเอาท์ที่อยู่ในห้องครัวแทน
พรึบ!
แสงไฟสีนวลสว่างขึ้นรอบตัวอุ้ม ตรงหน้าของเธอคือโต๊ะกินข้าวซึ่งถูกปูด้วยผ้าปูโต๊ะสีโปรดของเธอ บนโต๊ะมีตุ๊กตาหมีถือหัวใจกับการ์ดที่เลือกมาวันนั้น และกล่องช็อคโกแลตหนึ่งกล่องวางอยู่
อุ้มเดินไปเปิดการ์ดอ่าน
‘Happy White Day นะครับอุ้ม
จากคูล’
หลังจากนั้นอุ้มก็ได้ยินเสียงฝีเท้า พร้อมๆกับช่อดอกไม้ขนาดจิ๋วที่ถูกยื่นมาให้จากด้านหลัง เมื่อหันไปก็พบกับร่างสูงที่คุ้นเคยยืนยิ้มให้อยู่
“สุขสันต์วันไวท์เดย์นะครับอุ้ม”
“อะ อืม.. แต่ว่าฉันไม่ได้ให้อะไรคูลวันวาเลนไทน์นะ คูลน่าจะเอาไปให้คนที่ให้คูลวันนั้นสิ”
“ไม่หรอกครับ สำหรับผม ผมก็แค่ให้คนที่อยากให้เท่านั้นเอง”
“เห?”
“Happy White Day นะครับ J”
-Fin-
ตัดฉับ! ไปต่อไม่เป็นแล้วว ;w;
ความคิดเห็น