คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : พรุ่งนี้
พรุ่งนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของปอจู..
แล้วเขาก็สัญญาว่าจะมาแสดงความยินดีในงานเลี้ยงครบรอบของเธอ...
“พรุ่งนี้เอาอะไรไปให้ยัยนั่นดีนะ” เขาพูดพึมพำก่อนจะเหลือบมองนาฬิกาข้อมือที่บ่งบอกเวลาที่เขาควรจะกลับบ้านได้แล้ว ก่อนเดินข้ามทางม้าลายที่ขึ้นสัญญานให้คนข้ามได้ไป
ครืด.. ครืด..
แรงสั่นครืดภายในกระเป๋ากางเกงทำให้ยูต้องหยิบขึ้นมาดู บนหน้าจอปรากฏข้อความจากหญิงสาวที่เขาเพิ่งพูดถึงเมื่อสักครู่ทำให้เขาเผลอยิ้มออกมา
‘พรุ่งนี้อย่าลืมล่ะ มางานเลี้ยงด้วยนะ!’
‘อืม พรุ่งนี้เจอกัน’
เขาพิมพ์ตอบกลับไปก่อนจะเร่งความเร็วในการเดิน เพราะมัวอ้อยอิ่งอยู่นานจนเกือบจะหยุดยืนอยู่กลางถนนยามดึกที่ไร้รถยนต์เสียแล้ว เขายังไม่อยากมาทำเอ็มวีตอนนี้หรอกนะ..
ตึก ตึก ตึก..
“เฮ้ย!! หลบไป!! / พ่อหนุ่มระวัง!!!!” เสียงที่น่าจะมาจากที่ไหนสักแห่งร้องขึ้นก่อนยูจะหันกลับไปพบกับความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เจ็บมาก.. เจ็บจนจุก..
“ตายมั้ยวะ... / หนีสิโว้ย! / เฮ้ย พวกชนแล้วหนีนี่!!!” เสียงโดยรอบดังอื้ออึงไปหมด ยูที่อยู่ในสภาพมึนเกินกว่าจะรับรู้อะไรได้แต่กลอกตาไปมา สูดเอาอากาศสุดท้ายเข้าปอดตามสัญชาตญานมนุษย์ก่อนที่สติจะดับวูบไป
วี้หว่อ วี้หว่อ วี้หว่อ
เพล้ง!!!
อยู่ๆแก้วที่มือเรียวถืออยู่ก็ลื่นหลุดมือพร้อมๆกับที่ปอจูรู้สึกใจหายวายไปสักครู่ก่อนจะก้มลงไปเก็บกวาดเศษแก้ว
“เป็นอะไรน่ะคุณ อยู่ๆทำไมปล่อยแก้วแบบนั้นล่ะ” คนเป็นสามีที่เพิ่งลงจากวอร์ดฉุกเฉินเมื่อสักครู่ถามด้วยความเป็นห่วง
“พักผ่อนน้อยมั้ง ไม่รู้สิ” เธอตอบห้วนๆตามนิสัยก่อนที่เสียงโทรศัพท์บ้านจะดังขึ้น ซึ่งปลายสายขอคุยกับเฟอร์
“ครับ? มีอะไรเหรอครับอาจารย์หมอ” เขารับสายก่อนจะรีบสาวเท้าไปหยิบเสื้อกาวน์ของตัวเองมาใส่ ก่อนจะใส่รองเท้าและรีบบึ่งรถไปที่โรงพยาบาลทันทีที่อาจารย์หมอโทรมาบอกว่ามีคนไข้ฉุกเฉินที่อาการเข้าขั้นโคม่ารอให้เขาไปช่วยชีวิตอยู่
หลังจากที่เฟอร์ออกไปสักพัก โทรศัพท์ของปอจูก็ดังขึ้น ปลายสายที่พูดเหมือนวิ่งอยู่ทำให้อีกคนใจหล่นวูบก่อนที่แข้งขาจะหมดแรงและทรุดลงนั่งอยู่ที่เดิม
น้ำใสๆไหลอาบแก้มเนียนของร่างโปร่งไม่หยุด รู้สึกใจเสียมากๆเหมือนมีลางร้ายสักอย่างมาเยือน หลังจากที่ได้รับฟังคำของสามี..
[“คุณคาโงะโดนรถชนเข้าอย่างจัง ตอนนี้อาการโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล รีบมานะครับ...”]
ตึก ตึก ตึก
“ย-.. ยู...!!” ร่างโปร่งของใครคนหนึ่งวิ่งอยู่ข้างๆกับเตียงที่บุรุษพยาบาลร่างใหญ่กำลังเข็นร่างหนึ่งที่กำลังหลับตาสงบ ร่างทั้งร่างของยูโชกไปด้วยเลือด ใบหน้าที่มักจะชอบยักคิ้วกวนประสาทอยู่เสมอกลับสงบนิ่งและเต็มไปด้วยรอยแผล มุมปากที่มีคราบเลือดติดอยู่จากการกระตุกเมื่อสักครู่ทำให้ปอจูใจหาย
“ญาติคนไข้รอข้างนอกด้วยครับ!” บุรุษพยาบาลคนเดิมว่าก่อนจะเข็นเตียงนั้นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ก่อนจะปิดประตูลงพร้อมๆกับร่างโปร่งที่สะอื้นจนตัวโยน ใบหน้าเธอชุ่มไปด้วยน้ำตาโดยมีคนตัวเล็กคอยกอดปลอบอยู่ข้างๆ
“ไม่เป็นไรนะจ๊ะ ปอจัง ยูน่ะถึกจะตาย ยังไงก็ต้องรอดจ้ะ!” อุ้มว่าพลางลูบหัวลูบหลังเพื่อนสาวยกใหญ่ แถมยังไม่ลืมชงพี่เขยตัวเองซะด้วย “พี่เฟอร์น่ะเก่งจะตาย! รอดแน่ๆจ้ะ!”
“นั่นไม่ใช่วิธีปลอบที่ดีเท่าไรนะครับ พี่อุ้ม” เลนพูดพลางส่งยิ้มแหยๆให้เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่หน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
“พี่คะ ใจเย็นๆนะคะ พี่ยูต้องปลอดภัยแน่ๆค่ะ” เนลพูดพลางกุมมือเรียวที่สั่นระริกของปอจูไว้ ก่อนจะส่งผ้าเช็ดหน้าให้
ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ...
ภายในห้องผ่าตัด...
เฟอร์ในชุดหมอผ่าตัดสีเขียวสวมถุงมือสีขาวเตรียมพร้อมพลางถามไถ่อาการจากนางพยาบาลที่กำลังควบคุมเครื่องวัดความดันและชีพจรอยู่ เขาเงยหน้ามองชีพจรที่น้อยจนน่าเป็นห่วงก่อนจะแทบลมจับเพราะอาการของร่างที่นอนอยู่บนเตียงอาการหนักกว่าที่คิด
“คนไข้มีอาการปอดและม้ามฉีกจากการโดนกระดูกซี่โครงที่หักแทง ตกเลือดในช่องท้องและมีอาการเสียเลือดมากค่ะคุณหมอ!!”
เฟอร์รีบลงมือผ่าตัดทันทีโดยมีแพทย์จากหลายแผนกยืนดูและเป็นลูกมือให้เขาในการช่วยยื้อชีวิตของยู
“มีด”
คุณหมอพูดผ่านหน้ากากที่ปิดปากกับจมูกอยู่ พยาบาลผู้ช่วยส่งมีดให้ บรรยากาศในห้องผ่าตัดกำลังตึงเครียด สำลีชุบแอลกฮอลล์คอยซับเลือดที่ไหลไม่หยุดและยังคั่งค้างอยู่ในท้องของคนเจ็บหมดไปชิ้นแล้วชิ้นเล่า พอๆกับที่ชีพจรของอีกคนไม่ได้ดีขึ้นเลย
แถมดูเหมือนจะค่อยๆอ่อนลงด้วยซ้ำ..
“ฉงซานเพิ่มเลือดอีก” เขาพูดพลางเหลือบมองชีพจรของยูแล้วหันมาเย็บม้ามที่ฉีกต่อ การผ่าตัดที่ดูเหมือนจะไปได้ดีกลับมาตึงเครียดอีกครั้งเมื่อพยาบาลที่ดูแลเครื่องวัดชีพจรกับความดันร้องขึ้นมา
“ความดันลดอีกแล้วค่ะหมอ!”
“เฟอร์...” ฉงซานที่เป็นลูกมือทำหน้าหนักใจเมื่อเห็นเลือดมากมายออกที่ปอดของยู บ่งบอกว่าคนคนนี้ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง มิหนำซ้ำเพราะอาการแทรกซ้อนอย่างภาวะปอดช้ำแถมด้วยกระดูกซี่โครงที่หักทำให้การผ่าตัดยุ่งยากไปอีกระดับหนึ่ง
“ความดันลดลงอีกแล้วค่ะคุณหมอ!” ความกดดันถูกส่งมาที่เฟอร์อีกครั้ง เขาปาดเหงื่อเล็กน้อยก่อนจะจรดมีดลงไปที่ข้างปอดเพื่อหยุดเลือดที่ระดับอกในระดับลึกและเพื่อลดปัญหาเลือดที่คั่งค้างภายใน
แพทย์ตัวสูงในชุดสีเขียวเปรอะเลือดปาดเหงื่ออีกครั้งก่อนจะตั้งสติแล้วเย็บแผลที่ปอดของคนเจ็บอีกครั้งอย่างใจเย็น และนั่นก็สร้างความเบาใจให้เขาจุดนึงว่าคนสำคัญของภรรยาจะไม่เป็นไร..
“อาการทรุดอีกแล้วค่ะหมอ!!!!”
ถ้าไม่มีเหตุการณ์ต่อมา... ที่นางพยาบาลร้องลั่นหลังจากที่เห็นยูชักและกระตุกขึ้นมาเหมือนขาดอากาศ ชีพจรในเครื่องวัดค่อยๆเต้นเบาลง เบาลง จนแทบจะเหยียดเป็นเส้นตรง..
“ปั๊มหัวใจเร็ว!”
เมื่อได้รับคำสั่ง พยาบาลที่อยู่ใกล้ที่สุดก็รีบช่วยชีวิตทันที สองมือของเธอประสานกันไว้แล้วกดลงไปที่หน้าอกของยูเป็นจังหวะ เพราะการที่ยูเจ็บแบบนี้การใช้เครื่องปั๊มดูจะอันตรายเกินไป ทำให้ต้องใช้มือแทน
ทว่าชีพจรของยูกลับเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ.. จนเหยียดเป็นเส้นตรง...
ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หน้าห้องฉุกเฉิน..
“เฮือก!” อยู่ๆก็รู้สึกใจหายขึ้นมาอย่างประหลาด ปอจูระบายลมหายใจออกมาอีกครั้งอย่างเป็นห่วงคนในห้อง
“เป็นอะไรเหรอปอจูซัง” เซนถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะลูบหลังอีกคนเบาๆ
“เปล่า.. แค่รู้สึกโหวงๆนิดหน่อย”
“คิดมากน่า.. ยูซังต้อ-..”
ครืด..
ไม่ทันขาดคำบานประตูถูกเลื่อนออกโดยแพทย์เจ้าของไข้ของยูช้าๆ ช้ามากจนเธอใจเสีย ปอจูมองหน้าเฟอร์อย่างมีความหวัง
“คุณ?.. ยูล่ะ หมอนั่นเป็นยังไงบ้าง?”
“...” เฟอร์เงียบ ลำบากใจที่จะบอก
“คุณ.. อย่าเงียบได้ไหม? ฉันใจไม่ดีเลยนะ”
“ปอจู คุณใจเย็นๆก่อนนะครับ..” คนเป็นสามีพูดพลางทำท่าทางอึกอักก่อนจะเดินมาโอบภรรยาไว้ กอดเธอหลวมๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณคาโงะน่ะ.. ไปแล้วครับ..”
“...” ปอจูอึ้ง เงียบไปทันทีที่ได้ยิน ม่านน้ำตาเริ่มบดบังภาพตรงหน้าแล้วไหลลงมาอาบแก้มช้าๆ มือเรียวถูกยกขึ้นมากลั้นเสียงสะอื้น “ฮึก..”
แต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ยังคงได้ยิน เขาพูดกับภรรยาช้าๆก่อนจะคลายกอดแล้วเปลี่ยนมากุมมือของอีกฝ่ายไว้
“ผมช่วยเขาไม่ได้.. ผมขอโทษ..”
“อึก.. ฮึก.. ฮึก...” ร่างโปร่งสะอื้นจนตัวโยน ทำให้คนที่อยู่ด้วยกรูกันเข้ามาปลอบแทบไม่ทัน ปอจูสะอื้นหนักมากและน้ำตาก็ไหลอาบแก้มไม่หยุด
“ขอโทษครับ.. ขอโทษ.. คุณอย่าร้องไห้เลยนะครับ” อีกคนก็ยังคงพร่ำคำขอโทษไม่หยุด
ปอจูส่ายหน้าเบาๆ “ไม่หรอก.. คุณไม่ผิด..”
มือหนาถูกยกขึ้นมาเกลี่ยน้ำตาให้ภรรยาช้าๆ ก่อนที่เตียงเหล็กจะถูกเข็นออกมาโดยบุรุษพยาบาลคนเดิม เตียงที่มีร่างหนึ่งนอนสงบหนึ่งอยู่ภายใต้ผ้าสีขาวผืนบางนอนสงบนิ่งอยู่..
เตียงนั้นค่อยๆถูกเข็นออกไปช้าๆ...
โดยมีอีกคนที่สะอื้นไห้จนตัวโยน.. กระทั่งเตียงนั้นถูกเข็นจนลับตาไป..
‘พรุ่งนี้เจอกัน’ ฉันจำได้ว่านั่นเป็นคำสุดท้ายที่ฉันได้ยิน...
แต่ไม่นึกเลยว่านั่นจะเป็น.. คำบอกลาของนาย..
หลับให้สบายนะ.. ยู..
.....................
บทจะแช่งตัวตนอีกด้านของตัวเองก็เอาซะอิ่มมาม่า
ฮาาา ไรท์ไม่ได้ตั้งใจจ มันเป็นฟีลลิ่ง(?) #โดนโบก
ความคิดเห็น